เปิดตัวยิ่งใหญ่ “บางระจัน” ละครฟอร์มยักษ์ช่อง 3
สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 จัดงานเปิดตัวละครอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี 2558 เรื่อง “บางระจัน” จากเค้าโครงเรื่องของ “ไม้ เมืองเดิม” ผลิตโดย “บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น” กำกับการแสดงโดย “ภวัต พนังคศิริ”
นักแสดงกว่า 50 ชีวิต ทยอยเดินพรมแดงเข้าสู่โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย เพื่อแนะนำละครและฉายตัวอย่างที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับภาพยนตร์ แต่นำเสนอผ่านจอทีวี บรรยากาศเข้าสู่อดีตทันทีเมื่อนักแสดงปรากฏตัว นำโดย “เต้ย พงศกร, วาววา ณิชารีย์, อาร์ต พศุตม์, นุ่น ศิรพันธ์, เพชร ฐกฤต, ปราง กัญญ์ณรัณ, ปั้นจั่น ปรมะ, โบ สาวิตรี, รอน ภัทรภณ, เต้ ปิติศักดิ์, ก๊อต จิรายุ, ปวีณา ชารีฟสกุล, อำภา ภูษิต, ธีระพงศ์ เหลียวรักวงศ์, ปนัดดา โกมารทัต, เต๋า สมชาย เข็มกลัด, ศรุต วิจิตรานนท์, เอ พศิน เรืองวุฒิ, ภูริ หิรัญพฤกษ์, ชาติชาย งามสรรพ์ ฯลฯ
“ประสาร มาลีนนท์” รองประธานกรรมการบริหาร รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์
“ละครประวัติศาสตร์ ละครยักษ์แห่งปี เรื่องบางระจัน ช่อง 3 มีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอความยิ่งใหญ่ของนักแสดงและ ทีมงานคุณภาพที่สร้างสรรค์ผลงาน ให้ทุกคนได้ประจักษ์ถึงความรักชาติ ความเสียสละของคนในชาติ ที่สำคัญ หัวใจของละครเรื่องนี้คือ พลังแห่งความสามัคคี รวมเลือดเนื้อจิตวิญญาณหาญกล้าของเหล่าวีระชน
การสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพถ่ายทอดผ่านจอช่อง 3 เป็นบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ช่อง 3 ภาคภูมิใจ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของความสามัคคี ที่จะนำชาติบ้านเมืองให้พ้นวิกฤติต่างๆ ขอฝากละครเรื่องบางระจัน ไว้ด้วยครับ ออกอากาศวันแรกอังคารที่ 6 มกราคมนี้ จากนี้เป็นต้นไป กระแสความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความสามัคคี จะเพิ่มพูนขึ้นในหัวใจคนไทยทุกคน”
“อรุโณชา ภาณุพันธ์” กรรมการ ผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น
“บางระจัน เป็นบทประพันธ์ของไม้เมืองเดิม ตัวละครมีจริงในประวัติศาสตร์ มีศาลท่านจริงๆ อยู่ที่บางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
กราบขอบพระคุณไทยทีวีสีช่อง 3 ที่ให้ บริษัท บอร์ดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ได้สร้างเรื่องบางระจัน ละครอิงประวัติศาสตร์เป็นละครที่ยิ่งใหญ่และยากที่สุดตั้งแต่เคยทำมา
เป็นวรรณกรรมอมตะของไม้เมืองเดิมที่หยิบเอาเหตุการณ์สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 มาเขียน เป็นการรบของชาวบ้านที่มีเพียงเครื่องมือทำมาหากินต่อสู้กับข้าศึกที่มีทุกอย่างเหนือกว่าเท่าตัว ทั้งจำนวนคนและอาวุธ แต่ก็สามารถต้านทานการตีของข้าศึกได้ถึง 7 ครั้ง จนมีกิตติศัพท์เลื่องลือในความกล้าหาญเป็นที่ครั่นคร้ามของข้าศึก
วัตถุประสงค์ของการผลิตละครเรื่องนี้ เพื่อเชิดชูวีรกรรมความกล้าหาญ การเสียสละของบรรพชน ที่ยอมพลีชีพรักษาแผ่นดินไทยไว้ จนได้รับการบันทึกในพงศาวดาร เหตุการณ์ดังกล่าวควรค่าแก่การเผยแพร่ สู่การรับรู้ เป็นแบบอย่างกับชนรุ่นหลัง บางระจันจึงไม่ได้เป็นแค่ละคร แต่เป็นการถ่ายทอดจิตวิญญาณ ความรักชาติ ให้ซึมซับอยู่ในเลือดเนื้อของคนไทยทุกคน
ในด้านการผลิต ไม่ว่าผู้กำกับ นักแสดง ทีมเบื้องหลังทุกท่าน ล้วนตั้งใจ ทุ่มเทเต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมามีคุณภาพมากที่สุด ตั้งแต่ค้นคว้าข้อมูลประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องอ้างอิงได้ การคัดเลือกนักแสดงที่เหมาะสมกว่า 50 ชีวิต ก่อนถ่ายทำทุกคนต้องฝึกฝนการฟันดาบ มวยไทย ขี่ควาย ขี่ม้า บังคับม้าจนเชี่ยวชาญ มีเกร็ดความรู้ วัฒนธรรม ประเพณีไทยซึ่งหาชมได้ยาก เช่น พิธีแต่งงานแบบโบราณ พิธีทำขวัญข้าวของชาวนา ซึ่งได้ครูเพลงตัวจริงจากจ.สิงห์บุรีมาร่วมแสดงด้วย
ตอนนี้ก็พร้อมแล้วที่จะนำเรื่องราวของชาวบ้านบางระจันมาให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจ ในความกล้าหาญ ความรัก ความหวงแหนแผ่นดินเกิด หวังว่าละครเรื่องนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดความรัก ความกตัญญูที่มีต่อผืนแผ่นดินแก่คนไทยดังเช่นที่บูรพกษัตริย์และบรรพชนของเราได้ทำไว้ เป็นละครเรื่องยิ่งใหญ่ที่อยากจะฝากให้คนไทยทุกคนรักแผ่นดินไทย ตอบแทนคุณแผ่นดิน บางระจัน ค่ะ”
“เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์”
“ตื่นเต้นครับ ตื่นเต้น วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้ดู หวังว่าจะถูกอกถูกใจกับทุกคน ผมรับบทเป็นทัพ อดีตทหารกรุงศรีอยุธยา ที่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นขบถหนีทัพ มีคนรักคือเฟื่องแต่ถูกเพื่อนรักพรากไป ได้ไปใกล้ชิดกับแฟงจนเกิดเป็นความรัก เรื่องนี้ให้อะไรคนดูมากมายครับ ทำให้เราภูมิใจในความเป็นไทย ภูมิใจในประวัติศาสตร์ของเรา สอนเรื่องสถาบัน เรื่องความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงสถาบันครอบครัว
พวกเราเป็นนักแสดง ก็ทำหน้าที่ถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้ว่า กว่าจะได้แผ่นดินนี้ มันต้องเสียอะไรมากมายแค่ไหน ฝากละครเรื่องบางระจันด้วยครับ ให้คุณรักในความเป็นไทยมากขึ้น รักประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย แล้วก็ไม่มีวันลืมคุณแผ่นดินเลยครับ
“วาววา ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด”
“วารับบทเป็นแฟงค่ะ เวอร์ชั่นนี้ไม่ได้นำเสนอว่าวีรบุรุษต้องมียศถาบรรดาศักดิ์ถึงมาปกป้องประเทศได้ ถึงจะต้องรักแผ่นดินนี้ เวอร์ชั่นนี้จะเล่าถึงชาวบ้านที่ทำนา แต่พอถึงเวลาต้องทำให้แผ่นดินนี้ยังคงอยู่ เป็นของลูกหลาน เขาไม่เกี่ยงว่าจะต้องเป็นหน้าที่ใคร ทุกคนลุกขึ้นมาจับดาบ จับขวาน ทำหน้าที่ของตัวเอง ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย ชาวบางระจันทุกคนสู้จนลมหายใจสุดท้ายเพื่อปกป้องแผ่นดิน ขณะที่เรามีชีวิตอยู่ทำอย่างไรให้เรามีคุณค่า ต้องขอบคุณช่อง 3 ขอบคุณบรอดคาซท์ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เราได้มีคุณค่าฐานะนักแสดงเรื่องนี้ บางระจัน ค่ะ”
“อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม”
"รับบทเป็นอองนายหรือไอ้ใจ นายทหารอังวะที่ลอบเข้ามาอยู่กับชาวบ้านเพื่อสืบข่าว สอดแนม เป็นพรานป่า ที่มาหลงรักสไบผู้หญิงไทย ตั้งแต่เล่นละครมาเรื่องนี้ผมภาคภูมิใจมาก แล้วก็ดีใจที่ตัดสินใจเดินเข้าไปขอพี่หน่อง รู้ทั้งรู้ว่ามันเหนื่อยมากแน่ๆ แต่อยากเป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้ เรื่องนี้จะผ่านไปไม่ได้เลยนะครับถ้าไม่ได้บัดดี้(นุ่นศิรพันธ์)ดีขนาดนี้"
“นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา”
“รับบทเป็นสไบค่ะ สาวพลัดถิ่น มาอยู่บางระจันแล้วหลงรักกับพี่ใจ ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน ทั้งดำ แต่มีความสุข ทั้งๆ ที่ตื่นมาทำงาน ตั้งแต่เล่นละครมา เรื่องนี้ดราม่ามาก ชีวิตเขาไม่ค่อยแฮปปี้ ต้องห่างจากคนรัก ห่างจากบ้าน ห่างจากครอบครัว ร้องไห้เยอะมาก ไม่อยากเล่นแค่ดราม่า ร้องไห้ มันมีความลึกของตัวละคร
นุ่นว่าเกินกว่าความภาคภูมิใจ ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณมากๆ ที่ให้นุ่นแล้วก็ทุกชีวิตที่อยู่บนเวทีแห่งนี้ได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตอบแทนบุญคุณของเหล่าวีรชนผู้กล้า การตอบแทนมีหลายวิธีค่ะ แต่นี่คือสิ่งที่พวกเราทำได้ดีที่สุด พวกเราใช้หัวใจในการแสดงค่ะ ชาติจะเจริญต่อไปไม่ได้ ถ้ารากมันไม่แข็งแรง ละครเรื่องนี้ไม่ใช่ละครที่ดูแล้วจบไป จะอยู่ในหัวใจผู้ชมไปอีกนานแสนนาน”
“เพชร ฐกฤต ตะวันพงศ์”
“เล่นเป็นขาบ เป็นเกลอของไอ้ทัพ ไอ้สังข์ แอบรักเฟื่อง คิดว่าตัวเองไม่เก่ง เดินตามสังข์ทุกอย่าง ทุกครั้งที่เราเข้าฉาก มันเสมือนจริงทุกฉากเลยครับ ระเบิด ปืนใหญ่ สมจริงหมด การรบต่างๆ นานา ทุกครั้งที่เราเข้าฉากเราจะร้องไห้ตลอด อย่างเช่นตอนที่โดนระเบิดค่าย ถล่มค่าย ทุกคนตายกันหมด เราก็ตายด้วย มันอินด้วย แล้วอีกฉากหนึ่งขนลุกมากคือฉากก่อนลา”
“ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล”
“เล่นเป็นเฟื่องค่ะ เป็นพี่สาวของวาววาคือแฟง เป็นคนรักของทัพ แต่ถูกขาบลักพาตัวไป เล่นเรื่องนี้ ไม่ต้องบิวด์เลยค่ะ 5 4 3 2 ดูเหมือนเล่นเก่ง แต่จริงๆ แล้วมันอินค่ะ เรากำลังอยู่ในช่วงสงคราม เรามองไปเราเห็นพ่อแม่พี่น้องเราที่เป็นคนบ้านเดียวกันกำลังล้มเจ็บ กำลังโดนคนเข้ามาทำร้าย ต้องยกให้ทีมเสื้อผ้าเลยเอาเสื้อผ้าใหม่มาทำให้เก่าได้เหมือนจริงๆ ค่ะ”
“ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย”
“เล่นเป็นสังข์ เพื่อนร่วมสาบาน กับไอทัพ ไอขาบ เป็นคนอยากได้อยากดี ทะเยอทะยาน จนใส่ร้ายเพื่อนเอาความดีความชอบ จนเมื่อเพื่อช่วยชีวิตก็เลยคิดได้ เล่นเรื่องนี้มีทั้งม้า วัว ควาย ค่อนข้างเสี่ยงตลอดเวลา ตกไปรอบหนึ่ง ผมไม่เป็นอะไรแต่ม้ากระดูกร้าว ขาหัก สัตว์ทุกตัวที่เล่นเรื่องนี้ต้องขอบคุณเขาด้วย พวกเราทุกคนต้องขอบคุณครูแอ๊นท์ที่ช่วยเทรนพวกเราให้เก่งได้ขนาดนี้ครับ ตลอดระยะเวลาถ่ายทำปีกว่า เราฝึกกันมาตลอด เพราะสามารถเกิดเหตุอันตรายได้ตลอดเวลา เราก็ต้องเตรียมตัว มีเรียนฟันดาบ ชกมวยด้วย”
“โบ สาวิตรี สุทธิชานนท์”
“เล่นเป็นจวงค่ะ ไม่ยากเกินความสามารถแต่แปลกตรงที่เราต้องเรียนประวัติศาสตร์บางระจัน และศึกษาแผนที่ด้วย สาวๆ ต้องไปเรียนขี่ควาย จะขึ้นควายยังไง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวายังไง โบต้องไปเรียนบังคับเกวียน เพราะในเรื่องจะขับเกวียนตลอดค่ะ อยู่กับวัวเยอะ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของคนในสมัยก่อน การทำนา การหว่านข้าว ฝัดข้าว ในชีวิตนี้ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ต้องขอบคุณบางระจันที่ให้พวกเราได้เรียนรู้ชีวิตและศิลปวัฒนธรรมของคนไทยสมัยก่อนด้วยค่ะ”
“เต๋า สมชาย เข็มกลัด”
“เล่นเป็นนายทองเหม็น เป็นผู้ใหญ่บ้าน มีควายประจำตัวชื่อนังเผือก เป็นคนโผงผาง เป็นหนึ่งในโลกเหมือนกันครับ ที่นักรบขี่ควาย วันแรกก็ตก วันที่สองก็ตก การตกไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้ไม่ตกยากกว่า คือมันต้องแอคชั่นบนหลังควายด้วย เชื่อว่าคนดูต้องตื่นเต้นตาม ผมเป็นคนเล่นยังตื่นเต้นเลย ผมเชื่อนะครับว่า ละครเรื่องบางระจัน เป็นละครแห่งความรักชาติยิ่งชีพอันยิ่งใหญ่”
“ภูริ หิรัญพฤกษ์”
“เล่นเป็นนายแท่น ชาวบ้านศรีบัวทอง เป็นคนกล้าหาญ มีฝีมือในการวางแผนการรบ แต่ถูกยิงที่เข่าต้องนอนรักษาตัว ผมในฐานะตัวแทนนักแสดงเรื่องบางระจัน พวกผมรู้สึกเป็นเกียรติ และภูมิใจที่สุดในชีวิต ที่ได้รับบทเป็นวีรชนแห่งบ้านบางระจัน ผมอยากจะขอให้ทุกคนได้ดูละครเรื่องนี้ ดูว่าวีรชนของเราเขาได้ทำอะไรเพื่อรักษาผืนแผ่นดินที่เขารักไว้ ถ้าพวกคุณได้ดู ผมเชื่อว่าคุณจะรักและหวงแหนผืนแผ่นดินนี้มากยิ่งขึ้นครับ”
ละครยิ่งใหญ่แห่งปี นักแสดงและทีมงานทุ่มเทกันขนาดนี้ ไม่ดูไม่ได้แล้ว เจอกันวันแรก อังคารที่ 6 มกราคม 2558 ทางช่อง 3 เวลา 20.15 น.