xs
xsm
sm
md
lg

"ซันนี่" อวดธุรกิจใหม่ "ค่ายมวยพยัคฆินทร์ มวยไทย" บุกบ้านใหม่ "เปาวลี" ย้ายมาเป็นชาวกรุงเต็มตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ข่าวรายการ "ที่นี่หมอชิต"
 

"ซันนี่" อวดธุรกิจใหม่ "ค่ายมวยพยัคฆินทร์ มวยไทย"
บุกบ้านใหม่ "เปาวลี" ย้ายมาเป็นชาวกรุงเต็มตัว

รายการที่นี่หมอชิตวันอาทิตย์นี้ พิธีกรแบ่งสายกันเยี่ยมเยียนแขกรับเชิญ โดยพิธีกรดู๋-สัญญา พาไปเยี่ยมชม“ค่ายมวยพยัคฆินทร์ มวยไทย” ซ.อุดมสุข 58 กิจการใหม่ของพระเอกหนุ่ม “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และงานนี้พิธีกรมาพร้อมกับเพื่อนๆ นักแสดงของซันนี่จากภาพยนตร์ “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” (GTH) กรภพ จันทร์เจริญ (โจ๊ก โซคูล) , พุทธชาด พงศ์สุชาติ (ตุ๊ยตุ่ย)และ โซระ อาโออิ นักแสดงชาวญี่ปุ่นที่มารับบทแฟนของซันนี่

งานนี้เพื่อนๆ ที่ตามมาเยี่ยมเยี่ยนนี่เน้นๆ ที่มาโปรโมทและคุยเรื่องเบื้องหลังและความสนุกสนานในการถ่ายทำภาพยนตร์ “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” และไม่ใช่แค่มาคุยเรื่องหนังอย่างเดียว ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว ซันนี่ไม่มีการปล่อยไปง่าย จัดการพาทุกคนไปเข้าคอร์สต่อยมวยฉบับรวบรัดมัดตึงแบบฮาๆ มาให้ทุกคนฝึก พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของการเข้าจับธุรกิจนี้

ซันนี่เริ่มทำค่ายมวยได้อย่างไร ?
ซันนี่ : "จริงๆ ก็เป็นค่ายมวยที่ทำกับเพื่อนครับ เริ่มจากเพื่อนของเพื่อนชอบมวยตั้งใจจะเปิดค่าย เราสนใจก็เลยมาทำด้วยจากเมื่อก่อนไม่ค่อยชอบเข้ายิม ตอนนี้เลยได้มาต่อยมวยแทน แบบว่างก็จะเข้ามา ... เพิ่งเปิดเมื่อเดือนมิถุนายน เพื่อนผมชื่อ จิ เค้าเป็นตัวตั้งตัวตีทำค่ายมวยก็คิดว่าอยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์หน่อย แล้วค่ายมันก็สร้างประโยชน์ ไม่ทำร้ายใครเป็นการส่งเสริมคนที่อยากออกกำลังกาย มันก็น่าจะดี ไม่เป็นงานที่เอาเปรียบหรือหลอกลวงใครที่นี่เราทั้งต่อยมวย และมี Conditioning Set เน้นออกกำลังกายลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่ ก็เป็น เด็ก และผู้หญิง ส่วนถ้าผู้ชายก็จะเป็นคนที่ตั้งใจมาเรียนมวยไทยเลย ถ้าใครสนใจก็มาลองฝึกกันดูครับ มวยไทย เป็นได้ทั้งการออกกำลังกาย ป้องกันตัว หรือจะฝึกเป็นนักมวยอาชีพ ก็ได้ครับ”

จากค่ายมวยของซันนี่ อีกสองพิธีกร ลิง และ นุ่น ก็บุกไปที่บ้านใหม่ย่านสายไหมของน้องสาวคนสวย เปาวลี พรพิมล ที่ตอนนี้พาครอบครัวที่เคยอยู่สุพรรณ และมาเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่เพื่อการทำงาน ตอนนี้เธอพาครอบครัวมาซื้อบ้านย่านสายไหม ย้ายมาเป็นชาวกรุงเทพฯ แบบเต็มตัว เพื่อความสะดวกในการทำงานของสาวเปา เพราะครอบครัวของเธอทำงานเป็นทีมเวิร์ค มีคุณพ่อเป็นแผนกขับรถพาลูกๆ ไปทำงานทุกที่ มีพี่ชายเป็นคนดูแลเรื่องเครื่องเสียง และมีคุณแม่เป็นแม่บ้านดูแลทุกคนในครอบครัว

ที่น้องเปาซื้อบ้านก็เพราะครอบครัว อยากให้ครอบครัวได้อยู่สบาย ?
เปา : "ก่อนที่จะหาบ้านเราก็พักกันที่รัชดาซอย 3 เป็นอพาร์ตเมนต์ ตอนแรกมาอยู่กับแม่สองคนแล้วพอมีงานเยอะขึ้นก็จำเป็นให้พ่อมาขับรถ พี่มาเปิดเครื่องเสียงแล้วตอนนี้ก็เข้ามาอยู่ 4 คน เขาก็เลยเพิ่มห้องที่ใหญ่ขึ้นจาก 5 พันเป็น 7 พัน ห้องก็เพิ่มมาแค่กระเบื้อง 4 แผ่น แล้วก็มีเตียงที่เขาให้มา พี่กับหนูนอนบนเตียง แม่กับพ่อนอนข้างล่าง ตอนนั้นก็พึ่งจะมาอยู่ยังไม่คิดจะซื้อบ้าน ที่เลือกที่นั่นเพราะการดูแลเขาดี เปาอยู่ที่นั่นก็ปีกว่าๆ เราก็อยู่นานแล้วก็คิดว่าจะจ่ายไปทำไมเดือนละหมื่นกว่าทำไมเราไม่ไปหาบ้านที่เป็นของเราเองที่พอจะมีพื้นที่ให้กับทุกคนในครอบครัว"

ถ้าเปาเป็นตัวแทนของคนที่เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ อะไรคือความสำคัญที่จะต่อสู้กับเมืองใหญ่นี้ ? แล้วจะหาบ้านสักหลังมีคำแนะนำอย่างไร ?
เปา : "น่าจะเป็นความจำเป็นที่จะต้องมาหาที่พัก ที่ทำให้เราผ่อนคลายบางครั้งก็ไม่ต้องรีบร้อน เพราะหนูมาอยู่ก็หลายปีนะกว่าจะหาได้ แล้วก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ตอนแรกเรายังมีเงินไม่มากก็อยู่ที่เล็กๆ ไปเราก็ไม่ได้อัดอั้นไม่ได้ลำบากขนาดนั้น พอเรามีเงินเราก็ไม่จำเป็นซื้อบ้านให้ใหญ่เพราะเราอยู่ไม่ได้ตลอดชีพ บางครั้งถ้าเกิดโตไปพ่อแม่อยากไปอยู่ที่สุพรรณก็ค่อยว่ากัน ผู้คน แล้วแต่ที่จะเจอในกรุงเทพฯ มีทั้งดีและไม่ดี แล้วก็ต้องระวังตัวเพราะว่ามาในที่แปลกถิ่น ไม่เหมือนกับที่สุพรรณญาติเราจะเยอะ ถ้าเกิดอยู่สุพรรณไม่ต้องกลัวไปทางไหนก็ญาติเรา อยู่ที่นี่บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าเขามาด้วยประสงค์อะไร มาอยู่บ้านนี้ตอนแรกๆ ยังไม่ค่อยมีอะไรใช่ป่ะคะ ก็ยังไม่รู้จักใคร ยามก็ยังไม่ค่อยรู้จักหนู มีผู้หญิงขับรถเขาก็บอกว่าจะถ่ายรูปด้วย พี่ก็บอกว่าเปายังไม่ตื่น เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรงั้นไปรอในบ้านก็ได้ คือเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาตั้งใจถ่ายรูปเราจริงๆ หรือเปล่า มันก็ต้องระแวงไว้แต่ไม่ได้กลัวจนเกินไป เพราะว่าต้องระวังสมัยนี้มีหลายรูปแบบ”

ติดตามชมสองเรื่องราวของสองแขกรับเชิญกันได้ในรายการ “ที่นี่หมอชิต” คืนวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคมนี้ ทางช่อง 7











กำลังโหลดความคิดเห็น