“เอ๊ะ” แฮปปี้งานผู้จัด
ยันไม่ทิ้งงานแสดง
ห่างหายจากจอแก้วไปพักใหญ่ เพราะนักแสดงมากความสามารถ “เอ๊ะ-อิศริยา สายสนั่น” ผันตัวมาเป็นผู้จัดละครให้กับทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ละครเรื่องล่าสุด ผัวชั่วคราว เอ๊ะยอมรับว่าแฮปปี้กับการเป็นผู้จัด และยังยืนยันไม่ทิ้งงานแสดงแน่นอน แต่บทที่กลับไปเล่นต้องเป็นดราม่า
“ยอมรับว่าฟีดแบ็กค่อนข้างแรง เพราะว่าก่อนที่ละครออนแอร์ด้วยภาพที่โปรโมทออกไปและชื่อเรื่องก็อาจจะทำให้หลายๆ คนเขาใจผิดว่าอาจจะแรงไปมั้ย เราก็มาพูดในฐานะการเป็นผู้จัดซึ่งละครออกประมาณ 3 ตอนคนที่ได้ดูจะเข้าใจว่ามันไม่ได้หวือหวาเหมือนในภาพโปรโมท ก็เป็นละครที่มีเนื้อเรื่องที่เป็นบทประพันธ์ยอมรับว่าสนุกสนานแซบจริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าเกินเลยศีลธรรมต่างๆ”
กระแสการผันตัวมาเป็นผู้จัดละคร
“ช่วงนี้มีคนเริ่มรู้ว่าเอ๊ะเป็นผู้จัด หลายๆ คนก็ให้กำลังใจ หลายๆ คนถามว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเล่นละครก็ขอบคุณหลายๆ คนที่นึกถึง ช่วงนี้เอ๊ะยังไม่ได้เล่นละครก็ขอฝากผลงานละครของเอ๊ะนะคะ ถึงเอ๊ะไม่ได้เล่นแต่อันนี้มันคือตัวตนของเอ๊ะเลย เอ๊ะดูทุกอย่างทั้งเลือกบทประพันธ์ เลือกนักแสดง ทีมงาน ขั้นตอนการตัดต่อทุกอย่างเอ๊ะก็ดูเต็มที่ ถ้าใครคิดถึงก็ดูละครผัวชั่วคราวของเอ๊ะไปก่อนนะคะ จะได้เห็นเอ๊ะกลับมาเล่นละครอีกมั้ย สำหรับละครก็ไมได้ทิ้งนะคะ บางคนคิดว่ามาเป็นผู้จัดว่าจะไม่เล่นละคร ยังยืนยันว่าเล่นละครแต่ว่าขอรอจังหวะและโอกาสได้เจอเอ๊ะแน่นอนค่ะ”
เด็กรุ่นใหม่เยอะ คิดว่าหมดยุคของเราหรือยัง
“อันนี้ต้องเข้าใจว่าเป็นธรรมชาติของวงการบันเทิง ตอนที่เราเป็นเด็กอาจจะรับละคร 2 เรื่องปีนึง 3 เรื่องปีนึง แต่พอเราโตขึ้นมาทุกบทเราก็เล่นไปหมดแล้ว จะให้เราไปเล่นบทกุ๊กกิ๊กมันก็ไม่ใช่วัยแล้ว เพราะฉะนั้นเราถือว่าเราเป็นนักแสดงต้องเล่นอะไรที่ทำให้คนดูตื่นเต้นกับเราที่เราจะกลับมาเล่น และก็ไม่ได้เล่นเป็นอาชีพเหมือนสมัยเด็กๆ ปีนึง 3 เรื่อง เราก็มีโอกาสที่จะตัดสินใจเองมากขึ้น ก็ขอเลือกในสิ่งที่เรารู้สึกว่าเล่นแล้วคนดูน่าจะชื่นชอบ”
บทที่เราอยากจะเล่น
“ถ้าเป็นมุมของเอ๊ะก็ยังยืนยันว่าเป็นมุมดราม่า ถึงเลือกทำละครที่เป็นดราม่า อาจจะเป็นเพราะว่าเราเกิดจากละครดราม่า เราน่าสื่อสารบทดราม่าได้ดีกว่าบทอื่นๆ ถ้ากลับมาเล่นก็อยากจะเล่นบทที่เป็นดราม่าเป็นบทที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นทุกวันที่เราออกกอง”
ระหว่างนักแสดงกับผู้จัดชอบแบบไหนมากกว่ากัน
“ในมุมมองเอ๊ะมองว่าการเป็นนักแสดงของเอ๊ะต่อยอดการเป็นผู้จัดของเอ๊ะ เอ๊ะโชคดีในความอยากรู้ของความเป็นเด็ก เพราะว่าสมัยเด็กๆ เอ๊ะเป็นคนที่อยากรู้อะไรแล้วต้องรู้ให้ได้ เหมือนเราชอบในวงการตรงนี้ ชอบในขั้นตอนต่างๆ เหมือนง่ายๆ เลยตอนเด็กถ่ายละครเสร็จบางทีก็ไม่กลับบ้าน แต่อยู่ในห้องตัดต่อกันตนาถึงตี 1-3 หรือแม้กระทั่งตากล้องเค้าถ่ายเราก็ไปถามเค้าว่าใช้กล้องรุ่นไหน นั่งในรถโอบีก็เห็นการสวิชชิ่ง เป็นเด็กที่ค่อนข้างจะชอบและอยากรู้ เพราะฉะนั้นการทำงานตรงนี้เลยซึมซับโดยไม่รู้ตัว พอเราเป็นผู้จัดออกกองแล้วมีปัญหา เราก็จะจำได้ว่าเวลาที่เราถ่ายละครก็จะมีปัญหาแบบนี้ แล้วทีมงานเค้าแก้กันยังไงก็จะแก้แบบนั้น คือมองทุกอย่างว่ามันก็คล้ายๆ กันแต่ยอมรับอาชีพผู้จัดมันต้องคุม ถ้าเราเป็นนักแสดงเราต้องคุมตัวเอง แต่เป็นผู้จัดคุมคนประมาณ 50 กว่าคน แต่ว่าโชคดีที่ได้ทีมงานที่มืออาชีพมาก ทีมงานชุดนี้เป็นทีมงานทำละครตั้งแต่ที่เอ๊ะเล่น เพราะฉะนั้นเค้าเก่งมากอยู่แล้ว เราแค่วางแผนว่าเราต้องการให้รูปละครออกมาประมาณนี้ เค้าก็ทำได้อย่างที่เราต้องการค่ะ”
ความยากง่ายของงานผู้จัด
“ยอมรับว่ายากค่ะ ยิ่งปัจจุบันเป็นทีวีดิจิตอล บทประพันธ์ยอมรับว่ายากมากๆ แต่โชคดีอย่าง อาป๊อก-นันทนา วีระชน ก็เป็นเพื่อนกับคุณป้าก็เลยโชคดีที่เราได้เข้าใกล้กับนักเขียนดังๆ ยากตั้งแต่การเลือกบทประพันธ์ เพราะหลายๆ ช่องเค้าซื้อตุน การเลือกนักแสดงก็ยากมาก แต่ถ้าเป็นแบบนี้เราก็ต้องปรับตัวเข้าให้ได้ อย่างนักแสดงถ้าหายาก ช่องก็ต้องปั้นเด็กใหม่เพื่อใช้ ก็เหมือนเป็นการให้โอกาสเหมือนตอนเราเด็กๆ ที่มีช่องให้โอกาสปั้นเราขึ้นมา เราก็แก้ไปเป็นเปาะๆ ทุกอย่างเอ๊ะทำด้วยความสนุกเอ๊ะเลยไม่ได้มองว่ามันยากอะไรมากมาย”
ใครเป็นที่ปรึกษาให้บ้าง
“เยอะมากเลยต้องขอบคุณ พี่โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง ผู้บริหารช่อง 8 รู้จักกันมานานแล้ว ซึ่งเป็นผู้กำกับอาร์เอสแต่ไม่เคยกำกับละครเอ๊ะ ด้วยความที่เอ๊ะชอบเข้าไปดูเทปตัดต่อที่อาร์เอสเลยรู้จักกัน พี่โด่งเป็นที่ปรึกษาที่ดีมากและให้โอกาสเอ๊ะ ขอบคุณ เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ที่ให้โอกาสเอ๊ะ รวมถึงผู้จัดหลายๆ คน หลายคนไมได้สอนตรงๆ แต่เราจำวิธีแก้ปัญหา จำในมุมที่เค้าเคยพูดให้เราฟัง รวมถึงการปั้นเด็กใหม่อย่าง น้องฟ้า-อริสรา บัวปรางค์ นางเอกใหม่ เอ๊ะก็จะจำได้เลยว่าสมัยเด็กๆ พี่ตุ๊กตา-จิตรลดา ดิษยนันท์ เคยพาเอ๊ะไปห้างเพื่อไปซื้อของ พี่ตุ๊กตาบอกว่าเอ๊ะชูนิ้วให้ขึ้นดูหน่อย เล็บต้องไว้ขึ้นอีกนิดนึงนะ เราจำได้ว่าตอนสมัยเด็กๆ เคยมีคนให้คำแนะนำเราแบบนี้ พอเรามีโอกาสก็ต้องแนะนำเด็กใหม่แบบนี้ ประสบการณ์เก่าๆ มันทำให้เราทำงานง่ายขึ้นค่ะ”
พอใจกับละครเรื่องนี้แค่ไหน
“ตอนนี้มีฟีดแบ็กเข้ามาเรื่อยๆ ก็แฮปปี้ ก่อนที่จะออนแอร์ยอมรับว่ามันก็แรง เพราะชื่อละคร ภาพการโปรโมท อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาภาพเราไม่ใช่คนหวือหวา แต่พอละครฉายปุ๊บเอ๊ะก็แฮปปี้ เพราะมันก็คือละคร แต่ภาพโปรโมทอาจจะแซบนิดนึง พอใจมากมั้ยเหมือนมันได้ดั่งใจ ตั้งแต่อ่านบทประพันธ์เราก็หลับตาจินตนาการ พอวันที่ได้ดูตัดต่อมันใช่จริงๆ กลับบ้านไปได้ดูตัดต่อ ฟิตติ้งแฮปปี้มาก นอนหลับสบายเพราะได้ดั่งใจเราต้องการ”
สิ่งที่ได้จากการเป็นผู้จัด
“ทำให้เอ๊ะโตขึ้น มุมมองของคำว่านักธุรกิจมากขึ้น แต่ก่อนเป็นนักแสดงเราก็ทำหน้าที่ของเราไป พอเป็นผู้จัดไม่ใช่แค่คุมบทคุมกองเลือกเรื่อง มันต้องมีความเป็นนักธุรกิจกล้าได้กล้าเสีย กล้าที่จะเปิดความคิดของใครหลายๆ คน เอ๊ะแจจะเริ่มต้นอาชีพผู้จัดเร็วมากอายุยังไม่ถึง 30 ผ่ามาก็ 2 ปี มันก็รู้สึกว่าทำให้เราโตขึ้น ใช้ชีวิตแฮปปี้ขึ้น”
ผู้จัดละครเรื่องต่อไปจะได้เห็นเมื่อไร่
“จริงๆ ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ละครเรื่องที่ 3 ก็กำลังจะใกล้เปิดกล้องแล้ว คือต้องอยู่ที่คนดูด้วยว่าเค้าเปิดรับเรามากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส แต่ถ้าถามว่าจากละครข้าวนอกนา แล้วมาผัวชั่วคราวเอ๊ะพอใจมากๆ กับฟีดแบ็กและผู้ใหญ่ให้โอกาสขอบคุณมากๆ รวมถึงแฟนละครด้วยค่ะ”
อนาคตจะเห็นเอ๊ะเป็นผู้จัดช่องอื่นๆ มั้ย
“ณ ตอนนี้ต้องบอกว่าอาร์เอสเป็นค่ายแรกที่ให้โอกาสเอ๊ะเป็นผู้จัด เราต้องเคารพตรงนี้ ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาสเราก็ทำตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ ยังไงก็ขอฝากละครผัวชั่วคราว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองแล้วที่เอ๊ะเป็นผู้จัด รับรองว่าแซบมากๆ ถ้าคนดูดูจะได้ประโยชน์จากละครเรื่องนี้มากว่าสังคมมันไปถึงไหนแล้วเราจะปรบตัวกับสังคมยังไงให้อยู่รอดและมีความสุข”
