“เกย์นที” บุกช่อง 8 ทนไม่ได้เรียกร้องระงับ “ผัวชั่วคราว”
ด้วยความแซบของละครสไตล์ช่อง 8 ทำให้ “เกย์นที” รับไม่ได้ กับละครแม่กับลูกสาวแย่งสามีคนเดียวกัน จึงเดินทางมาเรียกร้องกับช่อง 8 ถามหาเหตุผล ที่มาที่ไป ถึงความไม่เหมาะสมของละคร “ผัวชั่วคราว” และอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ออกมาอธิบาย ชี้แจง แถลงไขว่าคิดอย่างไร ถึงทำละครแนวนี้ออกมา เพราะว่าตนเองเป็นห่วงสังคมอย่างมาก
ก่อนหน้า วันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา “นที ธีระโรจน์พงษ์” ได้ออกมาเคลื่อนไหวที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งหนึ่งแล้ว เพื่อขอให้ช่อง 8 ระงับการออกอากาศละครเรื่อง “ผัวชั่วคราว” ละครที่มีบทพูดและฉากที่รุนแรง แม่กับลูกทะเลาะกัน แม่ตบหน้าลูกสาวแย่งผู้ชายคนเดียวกัน มีการใช้อาวุธปืนตัดสินปัญหารักสามเส้า จึงขอเรียกร้องให้ทางช่อง 8 ระงับการออกอากาศภายใน 3 วัน ช่อง 8 จึงได้นัดหมายให้มาพูดคุยทำความเข้าใจในวันนี้ (10 กรกฎาคม 2557)ในรายการ “ปากโป้ง” ซึ่งเมื่อบันทึกเทปรายการเสร็จสิ้น ทั้งสองก็ออกมาให้สัมภาษณ์ โดย นที พูดขึ้นมาก่อนว่า
“ในนามกลุ่มเชียงใหม่อารยะและที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรามีความกังวลแล้วก็เป็นห่วงมากว่า ละครปัจจุบันสร้างกระแสหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งละครที่นำมาซึ่งความรุนแรง หรือการทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ มันมากมาย เมื่อเราได้ดูทีเซอร์เรื่องนี้ กลายเป็นว่าแม่ลูกแย่งสามีกัน มันเป็นเรื่องที่พวกเราอึดอัดมากเลยออกมาเรียกร้องอยากให้ทางผู้จัดแถลง ชี้แจง หรือแก้ไขบ้าง บางส่วนถ้าจะทำได้ หรือถ้าเรื่องมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็อาจจะต้องถอดละครทิ้งเลย”
เอ๊ะ อิศริยา สายสนั่น ผู้จัดละครเรื่อง "ผัวชั่วคราว"
“ในมุมของตัวแทนละครเรื่อง “ผัวชั่วคราว” เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของ ”นันทนา วีระชน” มีมาสิบกว่าปีแล้ว ที่คุณนทีติดใจคือทีเซอร์ เราไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้จนกว่าเราจะได้รู้จริงๆ ทีเซอร์ของละครทุกเรื่องต้องตัดจุดที่พีค ต้องให้คนดูรู้สึกว่ามันน่าดู “อุ้ย ไอ้คนนั้นมันเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า” ต้องไปดูในละคร
เรื่องแม่ลูกแย่งสามีคนเดียวกัน ต้องชี้แจงว่าตรงนี้เขาไม่ได้รู้ว่าเป็นแม่ลูกกัน มันเกิดจากความบังเอิญ พอได้รู้ปุ๊บว่าเป็นแม่ลูกกันต้องดูว่าตัวละครเขาทำยังไง แล้วจะรู้ว่าละครเรื่องนี้สอนอะไรบ้าง แล้วที่พระเอกเป็นผู้ชายขายบริการ ถ้าใครได้ดูจะรู้ว่าพระเอกเป็นเด็กเสิร์ฟที่ทำงานอยู่ในบาร์โฮสต์ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พระเอกมีแม่ติดการพนัน ติดเหล้า ติดผู้ชาย เขายังเรียนไม่จบ จำเป็นต้องทำงาน
ตัวพระเอกจะนำเสนอความเป็นคนใฝ่ดี ถึงจะอยู่ในสังคมที่ไขว้เขวได้ง่าย พระเอกก็ยืนยังที่จะไม่ขายตัวจนกว่าจะจบเรื่อง สะท้อนให้เห็นว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน ถ้าคุณมีความรักดี คุณก็สามารถกลับไปเรียนหนังสือ กลับไปทำงานอาชีพอื่นๆ ได้ ตัวละครเรื่องนี้เป็นสีเทา ไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเลวร้ายร้อยเปอร์เซ็นต์
ตัวละครที่เป็นแม่กับลูกฉากที่ทะเลาะกัน ต้องดูว่าปมที่เขาทะเลาะกันไม่ใช่เรื่องผู้ชาย แต่ทะเลาะเพราะว่าเขามีปัญหาระหว่างแม่ลูกกันอยู่แล้ว เรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็นว่าถ้าเรามีปัญหาครอบครัว เราไม่น่าจะเก็บกันไว้ เพราะจะไม่มีใครเข้าใจใคร ซึ่งความจริงมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้
ถ้าดูแล้วจะเห็นว่าคนแต่งสอดแทรกอะไรไว้ในเรื่องนี้เยอะมาก เราเป็นตัวแทนก็พยายามจะถ่ายทอดให้ดีที่สุด นักแสดงก็เต็มที่ทุกคน ยืนยันว่านักแสดงเรื่องนี้ไม่เปลืองตัว เลิฟซีนไม่ได้เน้น ไม่ได้มีดูดดื่มอะไรกัน รวมถึงฉากอื่นๆ ถ้าติดใจอะไรเอ๊ะยินดีที่จะชี้แจงในฐานะตัวแทนจากละคร
เรื่องแรกเอ๊ะทำ "ข้าวนอกนา" ละครสะท้อนสังคม มาเรื่องนี้ "ผัวชั่วคราว" ก็สะท้อนสังคมอีกแง่มุมหนึ่งซึ่งมีอยู่จริงในสังคมแต่คนไม่กล้าพูด เรานำเสนอในการสอน คนที่ได้ประโยชน์คือคนดู ถ้าดูแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่เราต้องการนำเสนอคืออะไร”
นที พูดต่อทันทีว่า
"เราเข้าใจที่เอ๊ะพูด แต่บังเอิญเราไม่นิยม ไปดูช่อง 8 เพราะอยากดูบอล ทีนี้คนที่ไม่ได้ดูละครจนครบ อาจทำให้เข้าใจผิด โดยตัวอย่างที่ออกมาเต็มไปด้วยความรุนแรง ตัวละครบอกว่า”ให้หลอกเลยไม่ต้องมาจริงใจหรอก” แบบนี้ มันดูเหมือนว่าภาพทั้งหมดทั้งปวงมันอาจจะต้องกลับไปดูว่าทีเซอร์มัน ได้ประโยชน์กับสังคมโดยที่เนื้อหาไม่ได้บิดเบือนไป ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดก็น่าจะทำได้ อันนี้มันก็ดีน่าตื่นเต้น
แต่บังเอิญประเด็นที่รับไม่ได้เลยคือ แม่ลูกที่เข้าใจผิดกันไปแล้วมาแย่งสามีที่เป็นผัวชั่วคราวคนเดียวกัน แล้วสามีก็ไม่รู้หลอกไม่หลอกเพราะเพื่อนที่แสดงโดยแท็คภรัณยูบอกว่า”เชื่อเขาเถอะเป็นอย่างนี้หลอกเอาเงินอย่างเดียวเลยไม่มีอย่างอื่น” ซึ่งอย่างนี้มันเต็มไปด้วยความรุนแรง ทั้งในเรื่องการหลอกลวง ในเรื่องของแม่ลูก ที่มีผู้ชายคนเดียว ถึงขั้นจะต้องตบกันเลย สุดท้ายทีเซอร์ตอนจบเหมือนผู้ชายจะลุกขึ้นมาแบบตายเป็นตาย จะแต่งงานกับลูกสาวเธอให้ได้ แล้วผู้หญิงก็ชักปืนออกมา ก็ไม่เข้าใจว่าจะยิงตัวตายหรือยิงเขาก่อน คือสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความกังวลสูงมากตอนนี้
วันนี้ที่ได้มาคุยกันถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีนะ ตัวพี่นทีเองเวลาออกมาวิจารณ์สังคมทีไรจะถูกกระแสสังคมสวนกลับทันทีเลยทุกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกในการทำงานเกือบ๒๐ปีที่มีผู้จัดออกมาแสดงไมตรี นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในยุคของคสช.ก็คือปรองดอง แม้ความเห็นจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็คุยกัน มีแนวโน้มว่ามันน่าจะจูนไปสู่บรรยากาศที่ดี
แต่อยากจะฝากนิดหนึ่งว่า หน้าที่ของพี่นทีแล้วก็กลุ่มของเราก็คงต้องดำเนินเรื่องต่อไป เดินหน้าต่อไป ก็อย่าโกรธกัน แต่ละคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติของเรา
แม่ลูกเอาผัวคนเดียวกันเราไม่รับ อาจจะมีหนึ่งในล้าน หรือว่าใครมีเราก็ไม่รู้นะ แต่เราคิดว่าบางเรื่องที่มันมีในโลกก็ไม่จำต้องนำเสนอมาตีแผ่ เพราะสื่อไปได้กว้าง แล้ว "นุสบา" ก็แม่เหล็กดีๆ นี่เอง ถ้าดีก็ดีไป ถ้าไม่ดีนี่โอ้โห มันโน้มน้าวใจคนเยอะเลย"
ถ้ามีการปรับเปลี่ยนทีเซอร์ใหม่ ยังจะยื่นเรื่องต่อไปอีกไหม
“เรายื่นเรื่องเพื่อให้ คสช. ติดตามพิจารณาอย่างใกล้ชิด ถ้าละครน้องเอ๊ะดีอย่างที่น้องเอ๊ะพูด น้องเอ๊ะก็ได้ประโยชน์ไป ได้แสดงตัวตน และความมีกึ๋นที่ตัวเองได้เห็นสิ่งดีๆ แล้วนำมาเสนอ ส่วนถ้าเกิดทำไปทำมา โอละพ่อ แม่กับลูกมาแย่งผัวคนเดียวกัน อันนี้ก็ต้องยอมรับนะครับ”
ถ้าคุณนทียังยื่นเรื่องต่อ เอ๊ะจะทำอย่างไร
“เอ๊ะเชื่อว่ามันเป็นข้อๆ ซึ่งเอ๊ะชี้แจงแล้ว ข้อไหนไม่เป็นไปตามที่ยื่นเขาก็ตีกลับ เอ๊ะว่าตอนนี้สังคมจะตัดสินได้ว่า สิ่งที่เอ๊ะพูด แล้วก็สิ่งที่คุณนทียื่นไป เป็นยังไง สังคมตัดสินได้อยู่แล้ว แต่ในฐานะที่เป็นผู้จัดเอ๊ะต้องรับผิดชอบ ถ้าอะไรที่มันผิดเอ๊ะต้องออกมาชี้แจง ถ้าคนดูเข้าใจผิด ทั้งเอ๊ะ ทั้งช่อง ทั้งพี่นุส นักแสดงทุกคนเล่นเต็มที่ เป็นบทที่ไม่ได้มีความเสียหายอะไร เพราะฉะนั้นอยากให้ดูกัน
เชื่อว่าระดับนักแสดงหลายๆ คนในเรื่องนี้ ถ้าบทหวือหวา จูบ เลิฟซีนกันเยอะแยะไม่ให้อะไรกับสังคมเขาจะไม่เล่น เพราะเอ๊ะเป็นนักแสดงมาเหมือนกัน คนที่เป็นนักแสดง เวลาจะรับงาน ดูงาน พี่นุสอยู่มาหลายสิบปีมาก ต้องเลือก ในเมื่อเขาเชื่อใจเอ๊ะ เอ๊ะจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง เหมือนกัน เราอยู่ในที่กว้าง เราพูดอะไรเราต้องทำให้ได้ ทุกอย่างอย่างที่ชี้แจง เรื่องราวให้แง่คิดกับคนดู ยอมรับว่าทีเซอร์อาจจะดูแล้ว” อู้หู จริงหรือเปล่า” ทีเซอร์ทุกเรื่องก็คงจะตัดแบบนี้นะคะ ต้องตัดจุดพีคให้คนดูดูแล้วคิดว่าใช่หรือเปล่า ใช่ไม่ใช่ จะได้ตามไปดู
ส่วนชื่อเรื่องเป็นบทประพันธ์ เราต้องเคารพตรงนี้ ทุกคนน่าจะเข้าใจ มีตอนหนึ่งพี่นุสไปเข้าใกล้พระเอกๆ ก็จะบอกว่า “ผมทำให้คุณได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเดียวคือขายตัว” แล้วพี่นุสตอบมาดีมากว่า “เธอไม่ควรจะดูถูกใคร ถ้าเธอไม่อยากให้ใครดูถูกเธอ” และที่สำคัญจะตัดสินอะไรใครต้องดูให้แน่นอน แล้วจะพูดได้ว่ามันดีหรือไม่ดีค่ะ”
นที รีบพูดต่อทันที
“ไอ้ประโยคที่ว่า “เราไม่ควรไปดูถูกใคร...” ทีเซอร์ไอ้อย่างนี้ทำไม่ตัดออกมา ไม่เข้าใจเลย ไปตัดเอาที่...”
เอ๊ะ อิศริยา
“ทีเซอร์ดีๆ ก็มีนะคะ เพียงแต่ว่าอะไรที่ไม่ดี คนจะให้น้ำหนักมากกว่า ในทีเซอร์มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี มีทั้งคำสอนต่างๆ แต่เรามักไปให้ความสำคัญกับอะไร เหมือนฉากๆ หนึ่งทั้งตอนมี 25 ซีน มีฉากพูดกันสอนกัน แต่ถ้ามีฉากทะเลาะกันคนจะมาพูดกันเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์แบบนี้ ในสังคมเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็เป็น เราไปว่าคนอื่นเขาไม่ได้ แต่เอ๊ะเชื่อว่าสิ่งที่พี่นทีบอกว่าอันนี้ไม่ดีนะ คนดูก็รู้มันไม่ดี”
ตกลงเอ๊ะจะเปลี่ยนทีเซอร์ไหม
“จริงๆ เราเคารพนะคะ เข้าใจว่าพี่นทีก็ทำงาน เอ๊ะก็ทำงาน ถ้ามีอะไรที่ทำให้เข้าใจผิดกันไปบ้าง เอ๊ะก็ยินดีเปลี่ยน นิสัยเอ๊ะ ถ้าอะไรไม่ชอบเราก็เคลียร์กัน อะไรที่เข้าใจผิดเราสามารถทำได้เราก็ทำ”
คุณนที ถ้ายื่นเรื่องไปแล้วเขาไม่ถอด จะทำอย่างไร
“ไม่ติดใจเลย วันนี้สบายใจที่เราได้ทำหน้าที่เรา แล้วอย่างน้อยน้องเอ๊ะได้เปลี่ยนทีเซอร์ ถือว่าเป็นกุศลมาก เป็นรูปแบบใหม่ของสังคมไทยเลย ที่ว่าเราได้มีการคุยกันแล้ว น้องเอ๊ะก็เห็นว่าพวกเรากังวล น้องเอ๊ะก็ปรับให้เรา ตรงนี้ก็จะเป็นจุดหนึ่งที่เราพอใจ ส่วนเรื่องที่ไปถึงตรงไหน ขั้นอื่นๆ จะได้แค่ไหนนี่เราเต็มที่แล้วเราก็พอใจแค่นั้นครับ”
สังคมจะดีได้ ถ้าทุกคนช่วยกัน คิดดี ทำดี แล้วทุกสิ่งก็จะดีเอง