เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 13
ชานนท์เดินครุ่นคิดเข้ามาในบ้านพัก เจอปรียานั่งรออยู่ ปรียารีบยืน
“พี่นนท์เจอหลักฐานหรือเปล่าคะ”
“พี่มีพยานแล้วปรียา” ชานนท์บอกอย่างดีใจ
“พยาน ใครกันคะ”
“นายยม คนขับรถของพี่ วันที่เกิดเรื่องเขาเป็นคนขับรถพาพี่กับคุณนมมาที่รีสอร์ท เขาอาจเห็นเหตุการณ์ตอนพี่ถูกประชาไล่ยิงก็ได้”
“แล้วพี่นนท์รู้หรือคะว่าเขาอยู่ที่ไหน”
ชานนท์คิดๆ แล้วได้ยินเสียงร้องแว่วๆ
“โอ๊ย”
ชานนท์กับปรียารีบออกไปดูเห็นที่ตากผ้าล้มอยู่ ผ้าเช็ดตัวและเสื้อยืดของชานนท์ตกที่พื้น
“ตายจริง เลอะหมดเลยค่ะ” ปรียาก้มเก็บผ้า ข้างนอกก็ไม่มีลม “วันนี้ลมก็ไม่แรง ทำไมถึงล้มลงมาได้นะ”
ชานนท์สงสัยว่าต้องเป็นเขมิกาเพราะเคยมาแอบดูแล้วครั้งหนึ่ง
ปิ้งส่งกุญแจรถกระบะให้ชานนท์ ชานนท์รับไป
“แก เอ๊ย คุณจะไปต่างจังหวัดทำไมหรือ”
“ฉันจะไปเยี่ยมเพื่อนหน่อย ขอบใจนะที่ให้ยืมรถ”
ปิ้งเผลอโอบไหล่ชานนท์
“เฮ้ย ไม่เป็นไรหรอกน่าคนกันเอง” ชานนท์มองมือปิ้ง ปิ้งรู้ตัวยิ้มแหยรีบเอามือออก “ลืมตัวไปคิดว่าเพื่อนกัน”
ชานนท์ยิ้มแล้วโอบไหล่ปิ้งแทน
“ฝากลางานให้ด้วยนะ”
ปิ้งยิ้มดีใจที่ชานนท์ไม่ถือตัว
“ได้เลย เดี๋ยวลูกพี่กลับมาจากลองชุดเจ้าสาว ฉันจะบอกให้”
ชานนท์รู้สึกเจ็บที่ได้ยินว่าเขมิกาลองชุดแต่งงาน
“นายคงดีใจสินะที่ลูกพี่จะได้แต่งงานแล้ว”
ปิ้งชั่งใจก่อนตอบ
“แล้วไอ้คุณนนท์ล่ะ คิดยังไง” ชานนท์นิ่งไป
“ฉันก็ต้องดีใจสิ” ชานนท์บอกแล้วเปิดประตูรถ ขับออกไป
“คนดีใจเขาทำหน้าเศร้าอย่างนี้หรือวะ”
ร้านชุดวิวาห์ โยธินนั่งรอเขมิกา พนักงานเดินออกมาโชว์ชุดเจ้าสาวสีชมพูให้โยธินดู
“ชุดนี้เป็นยังไงคะ สีอ่อนหวานดีนะคะ” โยธินลุกยืน
“เข็มไม่ชอบแน่ รายนี้เขาออกห้าวๆ หน่อย สีนี้ผมว่าหวานไป ขอเป็นสีขาวเรียบๆ ดีกว่า ไม่ต้องระบายอะไรมากมาย”
“ได้ค่ะ แต่เอ๊ะเจ้าสาวยังไม่มาอีกหรือคะ พอดีว่าเรามีลูกค้าจองนัดไว้ประมาณ 11โมงนะคะ”
“ครับๆ ผมจะรีบโทรตามเดี๋ยวนี้”
โยธินหยิบมือถือออกมากดหาเขมิกา
ชานนท์ขับรถเพลินๆ เสียงมือถือของเขมิกาดังขึ้น
“เจ้าสาวจ๋า รับสายเจ้าบ่าวสุดเฟี้ยวด้วยจ้า / เจ้าสาวจ๋า รับสายเจ้าบ่าวสุดเฟี้ยวด้วยจ้า”
ชานนท์ตกใจมองเลิ่กลั่ก เขมิกาขลุกขลักอยู่ที่พื้นด้านหลังพยายามกดปิดโทรศัพท์
“เฮ้ยๆ มาดังอะไรตอนนี้เล่า”
เขมิกาปิดมือถือ ชานนท์เห็นเขมิกาก็ตกใจ
“เธอตามมาได้ยังไงเนี่ย” เขมิกาปีนมานั่งด้านหน้าข้างชานนท์ “ว่าไง ฉันถามว่าตามมาได้ยังไง”
“ใครอยากตามคุณไม่ทราบ ฉันนอนเล่นอยู่ในรถ แล้วคุณก็ขับรถพาฉันมาเอง ยังจะมาใส่ร้ายกันอีก”
“อ้าว เธอก็รีบบอกฉันสิว่าติดอยู่ในรถ”
“คนมันหลับอยู่ จะบอกได้ไง”
ชานนท์แกล้งจะเลี้ยวรถ
“งั้นฉันจะกลับไปส่งเธอ”
“เฮ้ย ฉันไม่กลับนะ” เขมิกาโวยวาย
“ยอมรับแล้วสิว่าตั้งใจตามฉันมาเอง”
“ฉันห่วงรถของฉันต่างหาก ไอ้รถคันนี้ถึงมันจะดูคร่ำครึเป็นตาแก่ไปนิด แต่มันก็เป็นของรักของหวงของปู่ ฉันก็เลยต้องตามมาคุมกันหน่อย” เขมิกาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ชานนท์แกล้งขู่อีก
“โอเค ฉันจะขับรถกลับไปคืนที่แพปลาเดี๋ยวนี้เลยก็ได้”
เขมิการ้องลั่นรีบจับพวงมาลัยไม่ให้เลี้ยว
“อย่านะอย่ากลับ ก็ได้ๆ บอกความจริงก็ได้ เมื่อวานฉันได้ยินคุณคุยกับคุณปรียาว่าจะไปตามหาพยาน ฉันก็เลยอยากมีส่วนร่วมด้วย” ชานนท์นึกออก
“คนที่ทำราวตากผ้าล้ม คือเธอนี่เอง”
“มันโดนลมพัดล้มเองต่างหาก ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย” เขมิกาพูดมั่วๆ
“แล้วทำไมต้องหนี”
“ฉันไม่ได้หนี ยุงมันเยอะฉันก็เลยเดินกลับชิวๆ หนีตรงไหน”
“พอแล้วฉันขี้เกียจถามต่อ ไหลไปได้มั่วๆ ตลอด”
ชานนท์มองตรงไปข้างหน้าไม่ยอมพูดต่อ เขมิกาอมยิ้มขำชานนท์
ประชาย่องมาหน้าห้องแววนิล มองซ้ายมองขวาเห็นว่าปลอดคน ภายในห้องแววนิลนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง มองรูปชานนท์ที่ตั้งอยู่
“พี่นนท์ นิลกลัว พี่รีบมาช่วยนิลเร็วๆ นะ” เสียงประตูเปิด แววนิลสะดุ้งรีบหันขวับไปเห็นประชาเดินเข้ามา ยิ้มกริ่ม แววนิลลุกพรวด “แกเข้ามาทำไม ออกไปนะ นม!” แววนิลตะโกน ประชาจู่โจมเข้าถึงตัว ปิดปากแววนิลไว้ “ปล่อยฉัน ไอ้บ้า” แววนิลด่าเสียงอู้อี้
“อย่าดีดดิ้นนักสิจ๊ะ ผมไม่ได้คิดรุนแรงกับคุณเลยนะ เรามาร่วมมือกันดีๆ ดีกว่า จะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บตัวดีมั้ยจ๊ะ”
แววนิลกัดมือประชา ประชาร้องลั่นปล่อยแววนิล แววนิลวิ่งหนีแต่ประชากระชากแขนไว้ได้ทันต่อยท้องแววนิล แววนิลจุกตัวงอ ประชาอุ้มแววนิลไปที่เตียง แววนิลหมดแรงต่อสู้ ประชาปลดกระดุมเสื้อแววนิล กำลังจะก้มจูบตรงหน้าอกแววนิลออกแรงดันหน้าประชาออก
“เรามามีความสุขกันดีกว่าน่า ฉันรับรองว่าจะรับผิดชอบแต่งงานกับเธอแน่”
“ไม่ ฉันไม่แต่งกับแก แกมันน่าสะอิดสะเอียน ไม่เป็นลูกผู้ชาย”
“สมัยนี้ยังมีลูกผู้ชายหลงเหลืออยู่อีกหรือจ๊ะ เขาก็ฟันผู้หญิงตอนที่คบหากันทั้งนั้นแหละ ทำเป็นไร้เดียงสาไปได้”
แววนิลตบหน้าประชา ประชาโมโหปลุกปล้ำแววนิล แววนิลสู้สุดฤทธิ์ มณฑาผลักประตูเข้ามาพอดี
“คุณหนู ไอ้ประชา”
มณฑาวิ่งเข้าไปกระชากประชา ประชาสะบัดมณฑาเซไป แล้วลุกออกจากเตียงเอง แววนิลร้องไห้รีบลงจากเตียงวิ่งไปหามณฑา มณฑากอดแววนิล
“ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะกล้าทำแบบนี้กับคุณหนู”
ประชาทำเป็นหน้าตาย
“ไม่เห็นจะแปลกนี่ครับ อีกไม่ช้าผมกับคุณนิลก็จะได้แต่งงานกันแล้ว นอนด้วยกันก่อนแต่งใครๆ เขาก็ทำ จริงมั้ยจ้ะ”
“ออกไปจากห้องฉัน ออกไป” แววนิลตวาด
“ได้เลยจ้ะที่รัก แล้วสามีจะแวะมาเยี่ยมใหม่นะ”
ประชายิ้มกวนประสาทเดินออกจากห้องไป มณฑายิ่งแค้นประชาหนักขึ้น
“คนอย่างมันต้องไม่ตายดี”
แววนิลมองหน้ามณฑา นึกถึงคำพูดชานนท์
“คุณนมร่วมมือกับประชาล่อพี่ไปฆ่า”
แววนิลโกรธขึ้นมา ผลักมณฑาออก
“นมก็ไม่ต้องมาทำเป็นเล่นละครกับนิลหรอก” มณฑางง
“คุณหนูพูดอะไรอย่างนั้น นมหรือคะเล่นละคร”
“นมเป็นพวกเดียวกับไอ้ประชา มิน่าถึงบอกให้นิลยอมมันทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องวันนี้นมก็ตั้งใจเปิดทางให้มันเข้ามาปล้ำนิล” มณฑาจับมือแววนิล
“คุณหนู! ไม่จริงนะคะ”
แววนิลสะบัดมือมณฑา
“นมก็เหมือนมันนั่นแหละ ต้องการมรดกของนิล”
“ไม่จริง ไม่มีวันที่นมจะคิดชั่วๆ แบบนี้กับคุณหนู นมสาบานได้”
“งั้นก็สาบานมาเลยว่านมไม่มีส่วนรู้เห็นกับการตายของพี่นนท์” มณฑาช็อก ยืนตะลึงไม่กล้าสาบาน “ต่อไปนิลจะไม่ยอมเชื่ออะไรนมอีก ออกไปจากห้องนิล”
มณฑาเดินตัวแข็งออกไปด้วยความรู้สึกเสียใจ ประตูปิด แววนิลเสียใจหายใจหอบแรงขึ้นมา รีบควานหายาที่หัวเตียงกินเข้าไป แววนิลค่อยๆ ดีขึ้น ประคองตัวนั่งที่เตียง
ประชาเดินฉุนเฉียวออกมา เห็นโย่งยืนอยู่ ประชาปรี่เข้าหาโย่ง
“ฉันให้นายยื้อคุณนมให้อยู่จ่ายตลาดนานๆ ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงพากลับมาเร็วนัก”
โย่งแกล้งกลัวหงอ
“ผมก็ทำตามที่ผอ.จ้าง เอ๊ยสั่งแล้วนะครับ แต่คุณนมแกลืมให้ยาคุณแววนิล บังคับให้ผมรีบพากลับ แล้วทำไมต้องให้ผมพาคุณนมกลับบ้านช้าๆ ด้วยละครับ”
“นายไม่ต้องรู้ ถ้าอยากได้เงินพิเศษจากฉันเรื่อยๆ ก็สงบปากสงบคำแล้วทำตามที่สั่งก็พอ”
โย่งบีบนวดแขนประชาอย่างประจบสอพลอ
“โอ๊ย ถ้าเงินถึง ผมยอมเป็นพวกเดียวกับผอ.อยู่แล้วครับ”
“ไปได้แล้ว” โย่งเดินไป
โย่งเดินผิวปาก แป้นโผล่มากระชากแขนโย่ง
“ไอ้จิ้งจกเปลี่ยนสี เดี๋ยวนี้แกยอมเป็นพวกเดียวกับไอ้ประชาแล้วหรือ”
โย่งสะบัดแขนออก พูดโกหกแป้น
“มันจำเป็นโว้ย แกไม่ได้ยินข่าวที่ไอ้ผอ.กำลังจะแต่งงานกับคุณแววนิลหรือ ถ้าแกไม่อยากโดนเฉดหัวออกจากที่นี่ ก็รีบเปลี่ยนข้างแบบฉันซะ”
“ไหนแกว่าจะรอคุณผู้ชายกลับมา”
“คุณผู้ชายตายไปแล้ว ฉันต้องอยู่กับความจริงโว้ย”
“แกเห็นแก่เงินที่มันโยนให้มากกว่า”
“แกก็รับเงินพิเศษจากไอ้ผอ.เหมือนกันไม่ใช่หรือ มันก็พอกันแหละ”
โย่งเชิดเดินไป แป้นหมั่นไส้ตะโกนตามหลัง
“เงินนะยะ ใครจะโง่ไม่เอา”
บ้านพ่อแม่ยมที่ต่างจังหวัด ฉลามนั่งรออยู่ในรถ เห็นแม่ของยมเดินออกมาให้อาหารไก่ ฉลามรีบเดินไปหา
“ป้า จำฉันได้มั้ย”
แม่ของยมมองหน้าฉลาดพยายามนึก
“อ๋อ เพื่อนที่กรุงเทพฯของไอ้ยม”
“ไอ้ยมมันกลับมาบ้านหรือยังจ๊ะ ฉันมีงานให้มันทำ”
“มันเพิ่งมาเมื่อคืนเอง ป้าก็ลืมบอกไปว่าคุณมาหา”
“แล้วตอนนี้มันอยู่ในบ้านหรือเปล่า”
“ไม่อยู่หรอก มันถ่ายท้องไปนอนให้น้ำเกลืออยู่โรงพยาบาลในเมืองตั้งแต่เช้ามืดแล้ว” ฉลามยิ้ม
ฉลามขับรถเลี้ยวไปอีกทาง รถของชานนท์ขับเลี้ยวเข้ามาอีกทาง ทำให้ไม่เห็นกัน
ชานนท์ขับรถมาบ้านยม แม่ของยมคุยกับชานนท์
“โอ๊ยวันนี้มันเป็นยังไงมีแต่คนมาถามหาไอ้ยม”
เขมิกากับชานนท์มองหน้ากันแปลกใจ
โรงพยาบาลเล็กๆ ที่แผนกจ่ายเงิน ยมยืนจ่ายเงินค่ายาเสร็จ เดินไปทางออก ยมเดินผ่านหลังฉลาม ได้ยินฉลามกำลังคุยกับประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล
“เพื่อนผมชื่อยม ศรีสุข ครับ”
“รอสักครู่นะคะ จะเช็คห้องให้ค่ะ”
ยมรีบเร่งฝีเท้าหนีออกจากโรงพยาบาล ฉลามมองนั่นนี่ หันมาเห็นยม ฉลามรีบดึงรูปยมขึ้นมาดูอีกครั้งใช่ยมแน่ รีบตามไป
ชานนท์กับเขมิกาขับรถมาถึงถนนด้านหน้าโรงพยาบาลเห็นยมขึ้นรถมอเตอร์ไซด์วินไปอย่างเร็ว
“นั่นไงนายยม”
เขมิกามองตามเห็นฉลามวิ่งออกมา ฉลามกำลังเล็งปืน แต่ไม่กล้ายิง รีบโบกมือเรียกมอเตอร์ไซด์วินอีกคัน ตามไป
“ไอ้หมอนั่น เราเห็นมันที่สปานี่นา” เขมิกาบอก
“ประชาส่งมันมาเก็บนายยมแน่”
ชานนท์รีบขับรถตาม แต่มีรถอีกคันขับออกมาจากโรงพยาบาลรอให้ถนนว่างเพื่อขับข้ามไปอีกฝั่งทำให้ชานนท์ต้องหยุดรอ
มอเตอร์ไซด์วินจอดหน้าตลาดสดในชุมชน ยมรีบวิ่งเข้าตลาด มอเตอร์ไซด์วินของฉลามเลี้ยวเข้ามา ฉลามเห็นหลังยมไวๆ
“จอดๆ จอดตรงนี้” ฉลามลงจากรถวิ่งไปเลย
“เฮ้ย เงินล่ะ”
ฉลามวิ่งหายไปในตลาด
ในตลาดสด ยมวิ่งหลบฉลามไปตามร้านรวงต่างๆ ฉลามเดินหาเห็นคนเยอะเลยเก็บปืนเปลี่ยนมาเป็นชักมีดออกมาแทน
ชานนท์ขับรถเลี้ยวเข้ามา เขมิกาเห็นมอเตอร์ไซด์วินคันของฉลามพยายามติดเครื่องอยู่
“นั่นมันมอเตอร์ไซด์ที่คนของประชานั่งมา หาที่จอดเร็ว”
ชานนท์มองหาที่จอด
เขมิกาเข้ามาในตลาดเดินมองหายม อีกมุม ชานนท์เดินตามหายม เห็นยมเดินหลบๆ อยู่แถวเขียงหมูข้างหน้าตัวเอง ชานนท์กำลังจะวิ่งไปหา แต่เห็นฉลามโผล่มาอีกทางเกือบจะเห็นชานนท์ ชานนท์ต้องรีบก้มหลบหลังเข่งผัก
ฉลามเดินผ่านเข่งผักไปแบบเฉียดฉิวหวาดเสียว ชานนท์ชะโงกหน้าออกมาอีกที มองไปทางเขียงหมูไม่เห็นยมแล้ว
เขมิกาวิ่งมาหาชานนท์
“เจอตัวมั้ย”
ยมกระหืดกระหอบวิ่งออกมาหลังตลาด หันไปข้างหลังไม่มีใครตามมาเลย ยมโล่งอก หันกลับมา ฉลามเดินมาขวางหน้า ยมตะลึง ฉลามตะปบบ่ายม เงื้อมีดไปข้างหลังตั้งใจแทงท้อง ยมปัดมือข้างที่จับบ่าอยู่ แล้วเบี่ยงหลบมีดได้ทัน ลนลานถอยหนีจนล้มลงไป ฉลามย่างเท้าเข้าหาดูน่ากลัว ยมถดหนีแล้วคว้าปี๊บเปล่าเหวี่ยงใส่ ฉลามยกมือป้องตัว
ยมรีบตะกายลุกวิ่งหนี ฉลามชักปืนออกมาเล็งไปด้านหลังยมอยู่ในวิถีกระสุนที่ต้องโดนแน่ๆ ชานนท์เข้ามาเตะปืนกระเด็น พอฉลามจะหันมาดูว่าเป็นใครเขมิกาก็สาดน้ำผักกาดดองใส่ตาฉลาม ฉลามแสบตาหลับตาปี๋ มีผักดองบางส่วนติดบนหน้าฉลาม
“โอ๊ย ตาฉัน แสบ”
ชานนท์อัดกระทุ้งท้องฉลามจนล้มหงายนอนบนพื้น ฉลามพยายามจะลืมตา โดนเขมิกาเทแป้งมันจากถุงโป๊ะใส่ตาใส่หน้าฉลามอีก ฉลามหลับตา แป้งเต็มหน้า เข้าปาก
“แก แกต้องตาย”
ฉลามไอเพราะแป้งติดคอ เขมิกาปิดปากหัวเราะไม่ให้มีเสียง ฉลามพยายามจะลุก ชานนท์เตะเสยคางนอนหงายลงไปอีก เขมิกาหมั่นไส้กระแทกเท้าใส่ท้องฉลามจนจุกลุกไม่ขึ้น เขมิกาจะกระทืบซ้ำ ชานนท์รีบคว้าข้อมือเขมิกาวิ่งไปทางที่ยมวิ่งหนีไป
ชานนท์กับเขมิกาวิ่งออกมามองหายม แต่ไม่เห็นแม้แต่เงา
“หายไปอีกแล้ว”
ชานนท์ผิดหวัง
ประชาเดินมาถึงรถ กำลังจะเปิดประตู เสียงเม่นดังขึ้น
“คุณผู้จัดการ”
ประชาหันไปเจอเม่น เม่นโยนกิ่งใบไม้ที่มีมดใส่ประชา ประชาโดนมดกัด รีบปัดมด
“โอ๊ย ไอ้ปัญญานิ่ม แก”
เม่นหัวเราะรีบวิ่งหนีไปอย่างเร็ว ประชายังปัดมดไม่หยุดทั้งคันทั้งเจ็บ
อ่านต่อเวลา 17.00น.
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 13 (ต่อ)
มณฑานั่งร้องไห้เสียใจ คับแค้นใจอยู่ที่ซุ้มศาลา เม่นวิ่งหนีประชามา ชะงักหยุดวิ่งเมื่อเห็นแม่ร้องไห้ เม่นเดินเข้าไปหา มณฑายังไม่รู้ตัว เม่นค่อยๆ เอื้อมมือช้าๆ ลูบหลังมณฑา
“แม่อย่าร้องไห้นะ”
มณฑาสะดุ้งหันขวับมาตวาดใส่
“แกทำอะไร”
เม่นตกใจรีบชักมือกลับ
“เม่นๆ อยากปลอบแม่”
“ไม่ต้อง ไปให้พ้นหน้าฉัน”
“ไปไม่ได้ แม่กำลังร้องไห้ ลูกที่ดีต้องห่วงแม่”
ประชาไล่ตามเม่นมาชะงักได้ยินรีบหลบฟัง มณฑาลุกยืน
“แกไม่ใช่ลูกฉัน ฉันมีลูกแค่คนเดียว แต่ แต่เขากลับด่าทอฉัน ไม่เชื่อใจฉัน เขาเกลียดแม่ตัวเอง” มณฑาร้องไห้
ทิ้งตัวลงนั่ง “แม่ผิดเอง นิลลูกแม่ แม่ไม่เคยปกป้องลูกได้เลย”
มณฑานึกถึงอดีต ในอดีตตอนที่มณฑายังสาว มณฑานอนอยู่บนเตียงยื้อเด็กทารกกับแวววรรณ แม่ของชานนท์
“อย่าค่ะคุณผู้หญิง อย่าเอาลูกสาวฉันไป ฉันกราบขอร้อง”
“คิดว่าฉันจะสงสารแกหรือ แกแย่งสามีฉัน ทำให้ฉันต้องเสียใจจนแท้งลูก แกรู้มั้ยว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหน นังอกตัญญู”
“ฉันไม่เคยคิดทำอย่างนั้น แต่คุณท่าน คุณท่านข่มเหงฉัน”
“โกหก แกนั่นแหละที่ยั่วยวนคุณเชาว์ก่อน แกต้องชดใช้ฉันจะให้แกรู้รสชาติของการสูญเสียลูก เหมือนที่ฉันรู้สึก”
แวววรรณกระชากเด็กมาได้
“ลูกแม่”
“ลูกแกฉันจะเลี้ยงมันเอง ส่วนแกอย่ามาเสนอหน้าเป็นแม่มันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นยายของแกที่เจ็บหนักอยู่ที่โรงพยาบาลฉันจะไม่ให้เงินค่ารักษาแม้แต่แดงเดียว”
มณฑาคลานลงจากเตียงไปกอดขาแวววรรณ
“คุณผู้หญิงได้โปรดคืนลูกให้ฉันเถอะ” แวววรรณเดินไปที่ประตู “ไม่นะ อย่าเอาลูกฉันไป ลูกแม่”
ที่ประตู จอกคนสวนยืนรอคำสั่งอยู่
“ฉันยกนังมณฑาให้แก” แวววรรณบอกจอกแล้วหันไปมองมณฑา “มันจะได้ไม่มาเสนอตัวกับสามีฉันอีก”
แวววรรณอุ้มแววนิลออกไป จอกมองมณฑาแบบหื่นกระหาย มณฑาหวาดกลัวถดหนี
ประชาตกใจกับสิ่งที่มณฑาพูดกับเม่น มณฑาร้องไห้มองหน้าเม่น
“แกมันคือตราบาปของฉัน ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก”
“แม่เล่านิทานให้เม่นฟังหรือ เม่นฟังไม่เห็นรู้เรื่องเลย” มณฑายิ่งช้ำใจ
“ดีแล้วที่แกเป็นแบบนี้แกจะได้ไม่ต้องรับรู้อะไร คุณหนูจะได้ไม่ต้องมีน้องอย่างแก ไม่ต้องมีแม่อย่างฉัน เพราะคุณหนูเธอสูงส่งเกินไป เรามันไม่คู่ควร” มณฑาลุกขึ้นผลักเม่น “กลับไปซะไปอยู่ในที่ของแก อย่าให้คุณหนูต้องอับอายคนอื่นไป”
เม่นหวาดกลัว รีบวิ่งหนีกลับสวน ประชายังยืนตะลึง
ประชาเดินครุ่นคิดเข้ามาในห้องทำงาน
“ไม่อยากจะเชื่อเลย”
ฉลามโทรเข้ามา ประชารับสาย
“นาย ผมเจอตัวคนขับรถแล้ว แต่มันหนีรอดไปได้”
ประชากระแทกหูด้วยความโกรธ
วันต่อมาที่บ้านโยธิน สมคิดรับตะกร้าผลไม้จากปรียา
“หนูปรียาแวะมาเยี่ยมเฉยๆ อาก็ดีใจแล้ว”
“หนูอยากมาขอบคุณด้วยค่ะ ที่คุณอาเคยให้หนูได้พักอยู่ที่นี่”
“อย่าไปพูดถึงมันเลย นึกถึงแล้วมันน่าขายขี้หน้า แต่หนูยังไม่มีแฟนใช่มั้ยจ๊ะ”
“มีแล้วค่ะ”
“โอ๊ย น่าเสียดาย ยังเด็กอยู่มีไปทำไมเร็วๆ”
“คุณโยสบายใจแล้วหรือยังคะคุณอา”
“คนอย่างเจ้าโยมีเรื่องไม่สบายใจด้วยหรือ”
ปรียาตั้งใจยุสมคิด
“คุณโยไม่ได้เล่าให้คุณอาฟังหรือคะ งั้นหนูก็ไม่ควรพูด”
สมคิดยิ่งอยากรู้
“พูดมาเถอะน่า อาจะไม่บอกมันหรอกว่าหนูบอก”
“คือคุณโยลำบากใจค่ะที่คุณเข็มไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการเตรียมงานแต่ง อย่างเมื่อวานก็ไม่ยอมไปลองชุดเจ้าสาวค่ะ แต่หนูคิดว่าเธอคงติดธุระสำคัญ”
“ธุระอะไรมันจะสำคัญไปกว่างานแต่งตัวเอง”
ปรียาแอบพอใจ
ปิ้งขับรถเก๋งมาจอดหน้าโรงพยาบาลแล้วรีบลงจากรถ จุมพลดูใจร้อนเดินออกมาหาปิ้ง
“เถ้าแก่รีบร้อนตามผมมาทำไมเนี่ย”
“พาข้ากลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย”
“มันยังไม่ถึงกำหนดมารับกลับนี่ครับ”
“ข้ามีเรื่องจะต้องคุยกับไอ้หลานตัวดี”
ปิ้งตกใจเพราะเขมิกายังไม่กลับมา
“เถ้าแก่อย่าเพิ่งกลับเลย เดี๋ยวผมบอกให้พี่เข็มมาหาเองดีกว่า”
จุมพลจับพิรุธได้
“ไอ้ตัวดีมันไม่อยู่ใช่มั้ย มันไปไหน”
“ใคร” ปิ้งแกล้งมองหา “ใครไปไหนหรือเถ้าแก่”
“ไอ้ปิ้ง อย่าคิดว่าข้านอนอยู่ที่นี่แล้วไม่รู้ไม่เห็นอะไร เอ็งรู้อะไรบ้างเรื่องไอ้เข็มกับนายชานนท์ บอกมาให้หมด”
ปิ้งรีบพูดเพราะคันปาก
“โอ๊ย ถ้าเป็นเรื่องนี้ ผมรู้แค่นิดหน่อย คืองี้เถ้าแก่”
ปิ้งเล่าให้จุมพลฟัง ออกท่าทางเต็มที่
ชานนท์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านจุมพล เขมิกาลงจากรถบอกชานนท์
“คุณช่วยขับไปจอดที่แพปลาทีนะฮะ”
“ไอ้เข็ม”
เขมิกาสะดุ้งหันไป เห็นจุมพลเดินออกมาจากในบ้านพร้อมปิ้ง
“ปู่” เขมิการีบยิ้มแย้มกลบเกลื่อน “ทำไมปู่รีบออกจากโรงพยาบาลล่ะ ไหนอาหมอบอกว่าปู่ต้องอยู่เป็นอาทิตย์”
ชานนท์รีบลงจากรถ ยกมือไหว้จุมพล จุมพลรับไหว้มองชานนท์แบบไม่ค่อยพอใจนัก จุมพลหันมาทางเขมิกา
“พ่อของเจ้าโยมาฟ้องปู่ว่าเอ็งไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการแต่งงาน จนป่านนี้แล้วยังไม่ได้ลองชุดเจ้าสาวเลย จริงหรือ”
“เข็มก็นัดกับเฮียโยแล้วนะ แต่พอดีว่าเข็มต้องรีบไปตามหาพยานที่รู้เห็นการทำผิดของไอ้ประชา คือมันช้าไม่ได้อ่ะปู่”
ชานนท์รีบขอโทษ
“ต้นเหตุมันเกิดจากผมเองครับ ผมต้องกราบขอโทษเถ้าแก่ด้วย”
จุมพลมองชานนท์
“คุณอยู่ด้วยก็ดีแล้ว เราน่าจะคุยกันหน่อยนะ”
จุมพลเดินเข้าด้านใน ชานนท์เดินตาม ปิ้งยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขมิกา
“ไอ้ปิ้ง” เขมิกาเรียกเสียงดัง ปิ้งรีบพูดก่อนทันที
“เปล่านะ ไม่เกี่ยวกับฉัน ป๋าคิดแกมาฟ้องเถ้าแก่เอง” เขมิกาถกแขนเสื้อเอาเรื่อง ปิ้งยกมือห้าม “ก็ได้ๆ แต่ถ้าฉันบอกความจริงแล้วพี่ต้องยกโทษให้ฉันนะ”
“ได้”
“ฉันพูดไปติ๊ดเดียวเอง ว่าลูกพี่กับไอ้คุณนนท์อินเลิฟกัน”
เขมิกาตกใจร้องลั่น
“ว่าไงนะ ไอ้ปิ้ง”
เขมิกาเงื้อหมัดชักใส่ลูกตาปิ้งสุดแรง ปิ้งยืนงงตาหมุนติ้วๆ ล้มตึง
จุมพลพาชานนท์มาคุยที่ห้อง ชานนท์ตอบคำถามจุมพลเรื่องเขมิกา
“ไม่เป็นความจริงนะครับ คงเป็นเรื่องที่ปิ้งเข้าใจผิดไปเอง ผมกับเข็ม เราเป็นแค่เพื่อนกัน เถ้าแก่น่าจะรู้จักนิสัยของหลานสาวดีกว่าผม เข็มเป็นคนมีน้ำใจ เห็นใครมีเรื่องทุกข์ร้อนไม่ได้ เป็นต้องอยากช่วยเหลือเขาไปหมด”
จุมพลรู้ว่าชานนท์โกหก แต่ทำเป็นเชื่อ
“ฉันได้ยินคุณยืนยันแบบนี้ฉันก็สบายใจ คุณคงเข้าใจนะฉันไม่อยากให้ใครมาถอนหงอกตอนแก่ ส่วนปัญหาของคุณ ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ฉันก็มีลูกน้องอยู่หลายคน”
ชานนท์เข้าใจความหมายจุมพลรีบพูดตัดบท
“ขอบคุณครับเถ้าแก่ ผมคงไม่กล้ารบกวน”
จุมพลมองหน้าชานนท์ ชานนท์มีสีหน้าเฉยเมย
ชานนท์เปิดประตูออกมาแล้วเดินไป ประตูห้องตรงข้ามจุมพลเปิดออก เขมิกาเดินออกมาหน้าตาเศร้าสร้อย
“เพื่อนหรือ แน่ล่ะ ฉันก็คิดกับคุณแค่เพื่อนเหมือนกัน” เขมิกาน้ำตาดันไหล รีบปาดทิ้ง “ผู้ชายอย่างนายมีอะไรดีนักหรือ ชอบทำหน้าแข็งเป็นกระดานแถมปากจัดอย่างกับตะไกร ยิ่งนิสัยไม่มีดีสักข้อ คนที่จะรักนายได้ต้องตาบอด หูหนวก แล้วก็เป็นใบ้”
เขมิกาปากแข็งแต่กลับร้องไห้สะอื้นเป็นเด็กๆ
วันใหม่ที่ห้องครัวบ้านนนท์ จานตกแตกดังเพล้ง! มณฑามือสั่นตกใจขณะที่ประชายืนยิ้ม
“ผมแค่ถามว่า คุณหญิงแม่ของคุณชานนท์ใช่แม่ที่แท้จริงของคุณแววนิลหรือเปล่า ทำไมคุณนมต้องตกใจจนมือไม้สั่นขนาดนี้ด้วยละครับ”
มือมณฑายังสั่นอยู่ มณฑารีบใช้อีกมือจับไว้ พยายามคุมอารมณ์เต็มที่
“เพราะฉันไม่คิดว่าจะมีใครถามคำถามโง่ๆ แบบนี้”
“ผมก็แค่ได้ยินมาแว่วๆ เลยคิดว่าคุณนมน่าจะรู้ดีที่สุดเพราะเป็นถึงแม่นมคุณแววนิล”
“คุณหนูเป็นลูกสาวของคุณท่านทั้งสอง เรื่องที่แกได้ยินมาเหลวไหลทั้งเพ” มณฑารีบเดินหนี ประชาจับแขนไว้ “เอามือโสโครกของแกออกไป” ประชาจิกผมมณฑาจนหน้าหงาย มณฑาสู้พยายามดันประชาออก “ไอ้บ้า แกจะทำอะไรฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
ประชากดหัวมณฑาลงบนโต๊ะ ดึงผมหลุดหลายเส้นแบบไม่ปราณี แล้วปล่อยมณฑา มณฑารีบถอยหนีแค้นมากคว้ามีดบนเคาน์เตอร์ครัวตั้งใจสู้ตาย ประชายิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ถ้าผมเอาเส้นผมคุณนมกับ...” ประชาหยิบถุงพลาสติกใส่แปรงสีฟันออกมา “แปรงสีฟันของคุณแววนิลไปตรวจดีเอ็นเอ คุณนมคิดว่าผลตรวจจะออกมาเป็นยังไงครับ”
มณฑาตกใจที่ประชารู้ความลับ
“แก แกพูดอะไรของแก”
ประชาหยิบกระจุกผมใส่รวมในถุงใส่แปรงสีฟันอย่างใจเย็น ประชาเก็บถุงใส่เสื้อสูท
“ผมอาจจะเปลี่ยนใจไม่ส่งไอ้นี่ไปโรงพยาบาล ถ้าคุณนมทำให้ผมได้จดทะเบียนแต่งงานกับคุณนิล แต่ถ้าไม่...
คุณนิลจะได้รับข่าวดีที่สุดในชีวิต จนอาจเป็นบ้าไปเลยก็ได้”
ประชายิ้มแย้มเดินออก มณฑาช็อก! ปล่อยมีดหลุดจากมือ ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้เพราะกดดันไม่รู้จะทำอย่างไรดี สุดท้ายมณฑาเงยหน้า คิดฆ่าประชา
ชานนท์ปิดท้ายรถกระบะเตรียมไปส่งปลา ชานนท์ขึ้นไปนั่งที่คนขับ เขมิกาเปิดประตูเข้ามานั่งชานนท์งง
“ปิ้งไม่ได้บอกว่าเธอจะไปด้วย”
“ปกติฉันก็ไปกับไอ้ปิ้งมันประจำ ทำไมมันไม่ไปเองวันนี้”
“เธอใช้เขาไปธนาคารไม่ใช่หรือ”
“ไอ้นี่ บอกว่าไม่ต้องบอก อุ๊บ” เขมิกาเผลอหลุกปาก รีบปิดปากแล้วพูดไหลไปเรื่องอื่น “อ๋อ ฉันก็ลืมไป ก็คนมันงานท่วมหัวท่วมหูสั่งงานไปก็มีลืมบ้างอะไรบ้าง”
“เป็นหัวหน้าคนขี้ลืมได้ยังไง” ชานนท์ตำหนิ
“ฉันไม่ใช่สุดยอดนักบริหารอย่างคุณนี่ถึงต้องเก่งเวอร์ไปซะทุกเรื่อง”
“เธอไม่เคยยอมฟังคำแนะนำจากใครเลยหรือไง”
“ฉันไม่ได้มีหูไว้แค่ได้ยินอย่างเดียวหรอกน่า แต่งานใครก็งานคนนั้น มันเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ คุณอาจจะเก่งในธุรกิจสปา ฉันก็แน่ในงานของฉันเหมือนกัน หรือคุณจะบอกว่าคุณเก่งกว่าฉันในธุรกิจแพปลา”
ชานนท์น้อยใจ
“ฉันถูกลูกน้องยึดกิจการไป ไม่กล้าคิดว่าตัวเองเก่งกว่าใครได้หรอก”
ชานนท์ขับรถออกไป เขมิกาใจแป้วที่ไปสะกิดแผลชานนท์เข้า
เขมิกาอึดอัดที่ชานนท์ไม่พูดไม่จาจึงพูดเปรยๆ ขึ้น
“เราเขียนที่อยู่ให้แม่นายยมไว้ ไม่รู้นายยมจะได้หรือยัง” ชานนท์เฉยไม่ตอบ เขมิกาจึงตอบเอง “ท่าจะยัง เพราะถ้าได้ก็คงติดต่อมาแล้ว” ชานนท์นิ่งอีก เขมิกาพูดเอาใจ “งั้นฉันจะให้ไอ้ปิ้งไปสืบความคืบหน้าเรื่องงานแต่งงานที่
บ้านคุณดีมั้ย”
“ฉันจัดการเองได้ ต่อไปนี้เธอไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้อีก”
“เพราะปู่ใช่มั้ย เขาคงห้ามให้ฉันมาช่วยคุณซิท่า”
“ไม่เกี่ยวกับเถ้าแก่ แต่ฉันมีมารยาทพอที่จะเกรงใจเจ้าบ่าวของเธอ เธอเองก็เหมือนกันต้องนึกถึงใจเขามากๆ”
เขมิกาฉุน น้อยใจ
“ไม่ต้องห่วง ฉันแคร์เฮียมากกว่าใครอยู่แล้ว” ชานนท์จ๋อย
ที่ร้านอาหารทะเลแห่งหนึ่ง เจ๊ไข่เดินนำ เขมิกากับชานนท์แบกตะกร้าปลาคนละตะกร้าตาม เจ๊ไข่ชี้ที่หน้าทางเข้าครัว
“วางไว้ตรงนี้เลย” เขมิกากับชานนท์วางตะกร้า เจ๊ไข่ได้กลิ่นแก๊ส “ว้าย ทำไมเหม็นกลิ่นแก๊สอย่างนี้”
เจ๊ไข่จะเปิดสวิตซ์ไฟที่ข้างประตูชานนท์รีบห้าม
“อย่าเปิดไฟนะครับ ประกายไฟจะทำให้ไฟลุก”
ไฟที่ถังแก๊สลุกพรึ่บ
“มีที่ดับเพลิงหรือเปล่าฮะ”
เขมิกาถามเจ๊ไข่ เจ๊ไข่ตื่นตระหนกตกใจส่ายหน้า ชานนท์ไม่รอช้ารีบเข้าไปปิดวาล์วแก๊ส ไฟที่ลุกค่อยๆ ดับ เขมิการีบไปเปิดหน้าต่างเพื่อระบายกลิ่นแก๊ส เจ๊ไข่โล่งอก
เจ๊ไข่จับมือชานนท์ประทับใจมาก
“ขอบใจมากนะจ๊ะ ถ้าไม่ได้เธอช่วย ร้านเจ๊คงวอดวายไปแล้ว”
“ถ้าซื้อถังดับเพลิงติดร้านไว้ก็จะดีนะครับ”
“คราวนี้ซื้อแน่ เออ พ่อนนท์มีแฟนหรือยังจ๊ะ หน้าตาหล่อเหลาอย่างนี้ไม่น่ามาเป็นคนส่งปลา น่าจะเป็นดารามากกว่า”
ชานนท์รีบดึงหมวกปิดหน้า
“เราไปก่อนนะเจ๊ไข่ ยังต้องไปส่งอีกหลายเจ้า” เขมิกาบอก
“อุ๊ยๆ เดี๋ยวจ้ะ ต่อไปนี้เอามาส่งให้เจ๊ทุกวันเลยนะ เจ๊จะเลิกสั่งที่อื่นแล้วมาสั่งกับเข็มเจ้าเดียวไปเลยดีกว่า”
เขมิกาดีใจ
“ขอบคุณฮะ” เจ๊ไข่เดินเข้าร้านไป เขมิกาแกล้งหันมาเล่นงานชานนท์ “บ้าระห่ำไปหรือเปล่า แก๊สมันระเบิดใส่หน้าจะทำยังไง”
“ฉันรู้วิธีถึงกล้าทำ ไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้าทำไปมั่วๆ หรือจะให้ยืนดูเฉยๆ ปล่อยให้เจ้าของร้านเขาจัดการไปเอง”
“ถ้าคุณยืนเฉยๆ ฉันด่าคุณแน่ กล้าๆ แบบนี้ถึงจะสมกับเป็นลูกผู้ชายหน่อย ถ้าเป็นปู่ๆ จะพูดว่า ไอ้ชาติเสือ” เขมิกายกนิ้วโป้งให้ “สุดสุดไปเลย”
เขมิกาเดินไปขึ้นรถ ชานนท์รู้ว่าเขมิกาชม อมยิ้ม
เฮียเม้งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานถึงกับลุกพรวดเมื่อรู้เรื่องจากสอน
“แพปลาของไอ้จุมพลมันแย่งลูกค้าเราหรือ”
“ครับลูกพี่ เจ๊ไข่แกซื้อทั้งของมันกับของเราสลับกันมาตลอด แต่วันนี้อยู่ๆ ก็โทรมายกเลิกกับเรา แล้วสั่งกับมันที่เดียว”
เฮียเม้งทุบโต๊ะอย่างแรง
“ไอ้เข็ม” เฮียเม้งเจ็บมือมากเพราะมือยังไม่หาย “โอ๊ย!”
“ใจเย็นลูกพี่ แผลที่โดนมันยิงคราวก่อนยังพรุนอยู่นะครับ”
“ไม่ต้องมาย้ำ แผลแค่นี้ไม่ตายโว้ย แต่มันเจ็บใจ เจ็บตรงนี้ มันต้องเอาคืนถึงจะหายขาด”
เฮียเม้งคิดแผนเล่นงานแพปลาจุมพลอีก
เช้าวันใหม่ที่บ้านพักเม่น เม่นดีอกดีใจเหมือนเด็กๆ หยิบถุงขนมขบเคี้ยวออกมาหลายถุง
“แม่ซื้อให้เม่นหมดนี่เลยหรือ แม่ถูกหวยหรือ”
“ไม่ต้องถามเซ้าซี้ได้มั้ย” มณฑาส่งถุงให้อีกใบ “เอานี่ไปลองใส่ดู”
เม่นรับมา หยิบชุดสูทออกมาจากถุง
“เม่นจำได้ นี่มันเสื้อผ้าของคุณผู้ชาย”
“คุณผู้ชายตายไปแล้ว ชุดนี้ฉันยกให้แก ลองใส่ดูสิ” เม่นตกใจ
“ตาย ไม่จริง คุณผู้ชายตายไม่ได้นะแม่ คนดีต้องไม่ตาย”
“ถ้าแกไม่อยากให้คุณผู้ชายตาย แกก็ต้องใส่เสื้อผ้าชุดนี้ แล้วทำตามที่ฉันสั่ง”
เม่นมองชุดในมือมณฑา
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 13 (ต่อ)
คืนนั้นประชาเดินมาที่หน้าห้องนอนชานนท์เพื่อเข้านอน ขณะที่ประชากำลังจะเปิดประตูได้ยินเสียงประตูจากห้องอื่นปิดดังปัง ประชามองไปเห็นหลังเม่นที่ใส่สูทของชานนท์ดูเหมือนชานนท์มาก หลบวูบเลี้ยวมุมหายไป ประชาขยี้ตา
“ชานนท์ เป็นไปไม่ได้”
ประชารีบร้อนตามไปทันที
ประชาวิ่งเข้ามาในสวน เห็นหลังเม่นที่เหมือนชานนท์วูบวาบหายไปแถวต้นไม้ใหญ่ ประชาไล่ตามไปถึงต้นไม้ใหญ่ เห็นหลังเม่นยืนนิ่งอยู่ ประชาคว้าบ่าหันมาเห็นเป็นเม่น
“ไอ้เม่น!” เม่นหวาดกลัว รีบยกสเปรย์พริกไทยฉีดใส่ตาประชา ประชาแสบตา “โอ๊ย”
ประชาปิดตา มณฑาเดินออกมายิ้มร้าย
“ทำได้ดีมากเจ้าเม่น”
ประชาจำเสียงได้
“แก นังมณฑา แกให้ไอ้เม่นล่อฉันมาหรือ”
“แกรู้ก็สายไปแล้ว”
มณฑาเงื้อขวานขึ้น เม่นร้องโวยวายจับมือมณฑา
“อย่าแม่ อย่าฆ่าคน มันบาป ตายไปต้องตกนรก”
มณฑาพยายามสะบัดเม่นออก
“ปล่อย! ไอ้เม่น”
ประชายังแสบตามองไม่เห็น แต่ก็วิ่งหนีไปแบบไม่รู้ทิศทาง มณฑาผลักเม่นล้ม รีบตามประชาไป
ประชาวิ่งมั่วๆ ล้มลุกคลุกคลานมาจนถึงคลอง มณฑาวิ่งตามมาถึงใช้ขวานจะฟันประชา ประชาหลบไปมาจนกลิ้งตกคลอง จมน้ำมิดหัวไป มณฑาพยายามมองหา ประชาหายแสบตาโผล่ขึ้นมาจับขามณฑาจะลากลงน้ำ มณฑาสะบัดหลุด แต่ตัวเองล้มไปหลังกระแทกหินเจ็บ นอนนิ่งลุกไม่ขึ้น ประชาปีนขึ้นมา เดินไปหยิบขวานที่พื้น เดินช้าๆ ไปหามณฑา
“แกคิดว่าจะฆ่าฉันได้ง่ายๆ หรือนังปีศาจ”
มณฑาถดหนี
“ช่วยด้วย”
เม่นวิ่งมาถึง
“แม่”
ประชาเงื้อขวานจะฟันมณฑา เม่นถลาเอาตัวบังมณฑารับขวานแทน ขวานจามลงไปที่บ่าเม่น มณฑาตะลึงคาดไม่ถึง เม่นจับบ่าเลือดไหล ลุกไม่ขึ้น มณฑาลุกหนีแต่สะดุดรากไม้ล้ม หันมาหาประชา
“ไว้ชีวิตฉันเถอะ ฉันยังตายไม่ได้ ฉันต้องอยู่เพื่อดูแลคุณหนู” มณฑาคลานไปกอดขาประชา “ฉันยอมเป็นทาสคุณ คุณจะให้ฉันทำอะไรฉันยอมทุกอย่าง”
“ไว้ชีวิตให้แกมาฆ่าฉันอีกครั้งหนึ่งหรือ ไม่มีวัน”
ประชาเงื้อขวานจามลงไป
“อย่า”
มณฑาร้องเสียงหลง
ที่บ้านเยาว์ ชิ้นเมามายเพราะใกล้ถึงวันศาลตัดสิน ชิ้นยกขวดเหล้าเปล่ากรอกปากแต่เหล้าหมด
“เยาว์อยู่ไหนวะ ไปซื้อมาอีกสิ เร็วๆ” เยาว์เดินเข้ามา
“ใกล้จะถึงวันที่ศาลตัดสินอยู่แล้ว พี่จะกินไปถึงไหน”
“ยังไงฉันก็ต้องติดคุกอยู่แล้ว กินให้มันตายไปเลยดีกว่า”
เยาว์โมโหเข้าไปตีๆ ชิ้น
“ไอ้ผัวบ้า หัวสมองแกคิดได้แค่นี้หรือ แกไม่นึกถึงใจฉัน ที่ทุกข์ใจเพราะกลัวแกจะติดคุกบ้างเลยหรือ ไอ้คนเห็นแก่ตัว”
ชิ้นร้องไห้จับมือให้เยาว์ตี
“ตีเลย ตีฉันให้ตายไปเลย ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมฉันต้องติดคุก โลกนี้มันไม่ยุติธรรมอยู่แล้ว มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรอีก” เยาว์ตีไม่ลงยิ่งสงสารชิ้น เยาว์ร้องไห้ ชิ้นมองมีดที่ตะกร้าผลไม้ วิ่งไปหยิบขึ้นมา “พวกมันบีบฉัน อยากให้ฉันตาย ฉันจะตายให้ดู”
ชิ้นเมาจะแทงตัวเองเยาว์ร้องลั่น
“อย่านะพี่ชิ้น”
เยาว์เข้าไปจับมือชิ้นไว้ อึ่งเข้ามาเห็นรีบวิ่งเข้าไปแย่งมีดมาได้
“พ่อจะบ้าหรือไง แค่นี้ยังทำให้ฉันกลุ้มใจไม่พออีกหรือ”
เยาว์ยังโมโหเรื่องประชา ตวาดอึ่ง
“หุบปากของแกซะ ลูกอย่างแกเคยคิดถึงหัวอกพ่อแม่ด้วยหรือ”
เยาว์ประคองชิ้นที่ร้องไห้เข้าห้อง อึ่งหงุดหงิด
“โอ๊ย ฉันทำอะไรไม่เคยดีในสายตาแม่เลยใช่มั้ย”
ที่ร้านเช่าชุดวิวาห์ เขมิกากำลังเลือกชุดวิวาห์
“ชุดนี้ก็สวยนะคะ สีหวานดี”
พนักงานบอก เขมิกายิ้มแหยๆ ส่ายหน้า มือถือเขมิกาดัง
“ว่าไงปิ้ง ฉันอยู่ที่ร้านเช่าชุดเจ้าสาว อะไรนะพายุเข้าหรือ” เขมิการีบหันมาบอกพนักงาน “ถ้าแฟนฉันออกมาจากห้องน้ำแล้วช่วยบอกเขาด้วยนะฮะว่าฉันต้องรีบไปที่แพปลาด่วน”
“ค่ะๆ”
เขมิการีบวิ่งออกมาหน้าร้าน ฝนตกหนัก เขมิการีบขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ขับฝ่าสายฝนไป
พายุพัดแรงจนข้าวของปลิวว่อน ฝนตกหนัก เขมิกาจอดรถมอเตอร์ไซด์ มองไปที่ข้างเรือแล้วตกใจเมื่อเห็นชานนท์ ปิ้ง คนงานอีกหลายคนช่วยกันดึงเชือกที่ผูกกับเรือไว้ ไม่ให้เรือหลุดไป
“พยายามมัดกับเสาไว้ให้ได้ เร็วเข้าโว้ย”
เขมิกาวิ่งมา
“เกิดอะไรขึ้น”
“ลมมันแรงมากเชือกที่ผูกเสาไว้มันเลยขาด”
เขมิกาเข้าไปช่วยอีกแรงยื้อเรือกันไว้ โดยเขมิกาจับเชือกต่อจากชานนท์ สองคนมองหน้ากันแล้วช่วยกันออกแรงเต็มที่
“ออกแรงอีก ดึงไว้”
“จะไม่ไหวเอานะลูกพี่ ลมมันแรงเหลือเกิน”
ปิ้งบอก เขมิกาตะโกนแข่งกับพายุ
“ไม่ได้นะ จะปล่อยให้เรือลอยออกไปไม่ได้ ทุกคนดึงไว้สุดชีวิต ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด ต้องผูกเชือกกับเสาให้ได้”
เขมิกาเซจะล้ม มือข้างหนึ่งหลุดจากเชือก ชานนท์คว้าข้อมือเขมิกาให้เกาะเชือกไว้ได้อีกครั้ง เขมิกามองหน้าชานนท์แล้วฮึดสู้ ทั้งหมดพยายามช่วยกันมัดเรือกับเสาก็ยังมัดไม่ได้เพราะลมแรงมาก
เสากระโดงเรือเริ่มเอียงเหมือนจะหัก เขมิกาที่กำลังดึงเชือกอยู่เงยหน้าเห็น
“ดึงไว้ก่อน ฉันจะขึ้นไปบนเรือ”
“ระวังนะลูกพี่”
เขมิการีบวิ่งขึ้นเรือ ชานนท์เงยหน้าเห็นเสาเอียงลงมา ห่วงเขมิกา
บนเรือ เขมิกาดึงเชือกที่โยงกับเสาให้ตึง แต่คลื่นกระแทกเข้ามา เสากระโดงหักเกือบหล่นใส่เขมิกา ชานนท์วิ่งเข้ามาดึงเขมิกาหลบได้ทัน ล้มไปข้างเรือทั้งคู่ เสากระโดงเรือแทงเข้าใต้ท้องเรือ เรือเป็นรู น้ำทะลักเข้าเรือทันที เขมิกาตกใจ
“แย่แล้ว เรือรั่ว” ชานนท์มองตกใจ คนงานวิ่งเข้ามาเห็น “น้ำกำลังทะลักเข้าเรือ ไปเอาเครื่องสูบน้ำมาเร็วเข้า แล้วเกณฑ์คนมาให้หมด มาช่วยกันสูบน้ำออก”
เขมิการับสั่ง คนงานรีบร้อนวิ่งออกจากเรือ ชานนท์วิ่งไปคว้าถังที่ถูกผ่าครึ่งไว้ วิดน้ำออกจากเรือ เขมิกาเข้าไปช่วยอีกแรง
ฝนยังตกกระหน่ำไม่หยุด เครื่องสูบน้ำกำลังทำการสูบน้ำออกจากเรือ คนงานช่วยกันวิดน้ำออกอีกแรง เขมิกากับนนท์ช่วยกันตอกไม้อุดรอยรั่วชั่วคราวจนสำเร็จ
“คงจะอุดได้ชั่วคราวไปก่อน”
คนงานหันมารายงานเขมิกา
“วิดน้ำออกหมดแล้วครับ”
ปิ้งตะโกนขึ้นไปบนเรือ
“ทางนี้เรียบร้อยแล้วลูกพี่”
เขมิกาโล่งอก แต่เผือกวิ่งหน้าตั้งมาที่เรือตะโกนบอกเขมิกา
“ลูกพี่ ไอ้สลาตัน 3 ลำที่ผูกไว้มันหายไป”
เขมิกา ปิ้ง ชานนท์ เผือกรีบวิ่งไปที่ชายหาดห่างออกไป
ทั้งหมดวิ่งมาถึงชายหาด เขมิกามองหาเรือ
“มันคงถูกพายุซัดออกทะเลไปแล้ว”
“แต่ก่อนพายุจะมา ฉันมาตรวจดูแล้วนะ มันมัดไว้แน่นหนา ทำไมเชือกมันถึงได้หลุดได้”
ชานนท์มองหมุดที่พื้นทราย ก้มลงดูเชือกเห็นเป็นรอยโดนตัดชานนท์หันมาบอกเขมิกา
“เชือกไม่ได้หลุด แต่มีคนตัดมันขาด”
เขมิกาเดินมาดูเชือก
“ไอ้เสี่ยเม้ง ต้องเป็นพวกมันอีกแน่ๆ”
เขมิกาโมโหจนลืมตัวจะไปเอาเรื่องเฮียเม้ง ชานนท์ปรี่เข้าไปดึงแขนไว้
“เธอจะไปไหน”
“จะไปขอบคุณไอ้หมาลอบกัดด้วยกำปั้นนี่ไง”
“พายุยังไม่หยุดถ้าเธอไปตอนนี้ใครจะคอยดูแลเรือจุมพลเจ้าสมุทร เกิดน้ำทะลักเข้ามาอีกจะทำยังไง คุ้มกันมั้ยกับการไปแลกกับคนพาลตอนนี้” เขมิกาคิดตามนิ่งไป ชานนท์รีบหันไปสั่งปิ้ง “ปิ้ง นายพาลูกพี่แกกลับไปนอนเอาแรงที่บ้านก่อน คืนนี้ฉันจะอยู่เฝ้าเรือเอง”
“ฉันไม่กลับ หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้จะให้ลูกน้องลำบากคนเดียวได้ยังไง”
“ฉันอยู่ด้วย” ปิ้งบอก
“ไม่ต้อง แม่แกอยู่บ้านคนเดียวไม่ใช่หรือ แกรีบกลับไปอยู่เป็นเพื่อนน้าสุขดีกว่า แล้วสั่งให้คนงานกลับบ้านไปดูแลลูกเมีย มีอะไรฉุกเฉินจะได้ช่วยกันได้ทัน”
ปิ้งหันไปบอกชานนท์
“ฝากลูกพี่ เอ๊ย ฝากเรือจุมพลเจ้าสมุทรด้วยนะไอ้คุณนนท์”
ชานนท์ตบบ่าปิ้งแทนคำตอบ ปิ้งเลยกล้าตบบ่าชานนท์ตอบ เขมิกาเดินนำไปก่อน ชานนท์ตาม ปิ้งแยกไปกับเผือก
ชานนท์กับเขมิกาอยู่ในห้องขับเรือ เขมิกายื่นเสื้อเชิ้ตที่อยู่ในห้องขับเรือให้ชานนท์
“เปลี่ยนเสื้อก่อน” ชานนท์รับไป ถอดเสื้อตัวที่เปียกออกทันที เขมิกามองชานนท์ตาโต “นี่ รอให้ฉันหันไปทางอื่นก่อนไม่ได้หรือไง อยากโชว์จังเนอะ”
เขมิการีบหันไปทางอื่น
“โทษที ฉันนึกว่าเป็นผู้ชายเหมือนกัน”
ชานนท์รีบใส่เสื้อติดกระดุม เขมิกาฉุนบ่นพึมพำมองตัวเอง
“เหมือนผู้ชายตรงไหนวะ คนตาถั่ว”
ชานนท์มองเสื้อเชิ้ตในมือเขมิกาอีกตัว
“รีบเปลี่ยนเสื้อสิ ฉันจะหันหลังให้” ชานนท์หันหลังให้เขมิกา เขมิกายังอึกอักอายชานนท์ “ฉันไม่หันไปดูหรอกน่า หุ่นเธอด้านหน้าก็เหมือนด้านหลัง มีอะไรน่ามอง”
“ก็ยังดีกว่าหุ่นจิ้งจกตากแห้งของคุณแล้วกัน”
เขมิกาถอดเสื้อตัวที่เปียกออกเหลือแต่เสื้อกล้ามบางๆ รีบใส่เสื้อเชิ้ต ด้านนอกคลื่นกระแทกเรือจนโคลง เขมิกายังไม่ได้ติดกระดุมเสื้อ เซไปทางชานนท์
“เฮ้ยๆ”
ชานนท์ก็เซแต่ช่วยจับสองแขนเขมิกาไว้ ชานนท์ก้มมองเห็นเขมิกาโป๊ยังไม่ได้ติดกระดุมเสื้อ ชานนท์มองตาค้าง เขมิกามองตัวเองแล้วตกใจ
“อยากตายหรือไง มองทำไม” เขมิกาจิ้มตาชานนท์
“โอ๊ย”
เรือโดนคลื่นกระแทกอีก เรือโคลงไปโคลงมาแรงกว่าเดิม เขมิกาเซออกจากชานนท์ ชานนท์จะคว้าเขมิกาไว้ แต่ดึงได้แค่เสื้อ เสียงดังแคว่กกกก เสื้อเขมิกาขาดหลุดติดคามือชานนท์ ชานนท์โดนคลื่นกระแทกเซล้มลงไปนั่ง เขมิกาเซไปกระแทกผนัง กลิ้งลงไปนั่งมึนที่พื้น เรือหยุดโคลง เขมิกามองเสื้อตัวเองในมือชานนท์แล้วมองตัวเองเห็นเสื้อขาดออกไปจากตัวแล้ว ท่อนบนมีแต่เสื้อกล้ามบางจิ๋ว เขมิการ้องลั่นเรือแบบผู้หญิง
“อ๊ายยยย”
ชานนท์ตกใจมองเสื้อเขมิกาในมือ รีบทิ้ง
“ฉันเปล่านะ ฉันจะช่วยดึงเธอ แต่มันขาดติดมือมาเอง”
เขมิกาอาย รีบเอามือปิดอก โวยวาย
“ใครใช้ให้คุณมาช่วยฉัน คุณต้องตั้งใจแน่ๆ คุณมันคิดวิตถาร คิดอะไรไม่ดีอยู่ในใจ”
“เพ้อเจ้อ”
ชานนท์ถอดเสื้อตัวเอง ชานนท์เลยโป๊แทน
“เฮ้ยๆๆ เห็นมั้ยๆๆ คุณคิดไม่ดีจริงๆ” เขมิกายกสองหมัด “มาเลยกล้าเข้ามา ฉันอัดไม่เลี้ยง”
ชานนท์มองเขมิกาที่ยกหมัดขึ้น ทำให้โป๊
“ไม่อายฉันแล้วหรือ หรือว่าแกล้งเปิดทางให้”
เขมิการู้ตัวรีบปล่อยหมัดปิดหน้าอกทันที
“คนผีทะเล”
“ด่าอย่างผู้หญิงก็เป็นด้วยหรือ”
“ฉันเป็นผู้หญิง”
ชานนท์แกล้งเขยิบเข้าไปหา
“จริงหรือ”
เขมิการีบเขยิบหนี
“เออสิวะ” ชานนท์หัวเราะ
“นี่หรือผู้หญิง ผู้หญิงจริงๆ น่ะเขาพูดคะขา ไม่พูดวะโว้ย อย่างที่เธอพูดหรอก ใส่เสื้อซะ ฉันไม่อยากมองมันเสียสายตา มองไปก็เหมือนมองตัวเอง”
เขมิกาฉุนที่โดนดูถูกผลักชานนท์ล้ม
“คุณก็เหมือนกัน” เขมิกามองอกชานนท์ที่เปลือยเปล่า “เห็นแล้วเสียสายตานึกว่าป็อปอายมายืนโชว์หุ่น”
“แล้วเธอล่ะยัยโอลีฟ” เขมิกาคว้ากล่องเปล่าข้างตัวปาใส่ชานนท์ ชานนท์รับไว้ได้ หัวเราะชอบใจ “ไม่หนาวหรือไง รีบๆ ใส่เสื้อได้แล้ว”
“ฉันไม่ไว้คุณแล้ว” เขมิกายังเอาเสื้อชานนท์ปิดอกไว้ รีบดึงกล่องจากมือชานนท์จะคลอบหัวชานนท์ “ต้องคลอบไว้ก่อน”
“เฮ้ย หลับตาก็พอแล้วมั้ง”
“ไม่ได้ คลอบไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย”
ชานนท์ยอม เขมิการีบใส่เสื้ออย่างเร่งรีบ
“เสร็จหรือยัง”
“ยัง อย่าเพิ่งนะ” เขมิกาใส่เสร็จ มองชานนท์แล้วหัวเราะ “คุณนี่ตลกชะมัด ให้ทำอะไรบ้าๆ ก็ทำ”
ชานนท์ยกกล่องออกจากหัว
“บางทีเราก็ยอมทำทุกอย่างกับบางคนเท่านั้น”
เขมิกาอึ้ง ชานนท์มองเขมิกาด้วยสายตาของคนมีความรัก เขมิกาเคลิ้มมองตอบ เสียงมือถือเขมิกาดัง เขมิกาสะดุ้งเห็นชื่อโยธิน
“ฮัลโหลเฮีย”
เขมิการับสาย ชานนท์มองบึ้งๆ
ฝนสาดเข้ามาในบ้านจุมพล ปรียาวิ่งปิดหน้าต่างหลายบานไฟที่เพดานกระพริบๆ แล้วดับพรึ่บ ปรียาตกใจ
ประตูเปิดปิดกระแทกแรงๆ ปรียาวิ่งไปจะปิดประตูแต่มีมือโยธินยื่นเข้ามาเพื่อไม่ให้ปิด ปรียาตกใจร้องกรี๊ด โยธินโผล่หน้าเข้ามา
“ผมเอง”
ปรียาโล่งใจ
“โอ๊ย ตกใจหมดเลยค่ะนึกว่าขโมยเข้าบ้าน รีบเข้ามาก่อนสิคะ”
โยธินเข้ามาด้านใน
“ทำไมมืดแบบนี้ ไฟดับหรือ”
“ค่ะ คุณโยทำไมมาที่นี่ละคะ”
“เข็มให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนคุณปรียาครับ”
“แล้วคุณเข็มอยู่กับพี่นนท์หรือคะ”
“คืนนี้เขาคงนอนเฝ้าเรือด้วยกันครับ เพราะไม่รู้ว่าจะมีพายุเข้ามาอีกหรือเปล่า” ปรียาจะรีบออกไป โยธินดึงไว้ “คุณจะไปไหน”
ปรียาหลุดโมโหออกมา
“คุณปล่อยให้เขาสองคนอยู่ด้วยกันสองต่อสองได้ยังไงคะยอมได้ยังไง” โยธินงง
“ทำไม ทำไมไม่ได้ละ ผมไม่เข้าใจ”
“ก็เพราะว่า...” ปรียาจะบอก แต่รู้สึกตัวจึงชะงักคำพูดไว้ “เออ คือ ฉันก็แค่ห่วงพวกเขาน่ะค่ะ เราไปอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาดีมั้ยคะ”
“ไม่ต้องห่วงพวกเขาหรอกครับ เข็มเอาอยู่ ถ้าเราไปจะกลายเป็นภาระเปล่าๆ” ปรียาไม่กล้าแย้ง “ผมจะหาเทียนมาจุดให้นะครับ”
โยธินคลำทางเดินเข้าด้านใน ปรียาร้อนใจอยากไปหาชานนท์
เขมิกายืนมองสายฝนที่ยังตกอยู่
“ท่าทางจะตกทั้งคืน”
“แล้วเรือจุมพลเจ้าสมุทร2ที่ยังไม่กลับมาจะเป็นอะไรหรือเปล่า”
“หลบพายุไปขึ้นฝั่งที่อื่นแล้ว เรือกลับมาเมื่อไหร่ เราก็มีปลาส่งลูกค้า ส่วนเรือลำนี้ก็ต้องใช้เวลาซ่อมสักระยะ คุณยังไม่ง่วงหรือ”
เขมิกาหันไปเห็นชานนท์นั่งหลับตาหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เขมิกานั่งลงข้างชานนท์ แล้วมองชานนท์แบบเศร้าๆ เพราะต่อไปตัวเองต้องแต่งงาน เขมิกาหลับตาหัวพิงผนัง ชานนท์แกล้งเอียงคอมาพิงไหล่เขมิกา หลับตานิ่ง เขมิกาจะยกมือดันออกแต่ไม่กล้าจึงปล่อยเลยตามเลยแล้วเอียงหน้าซบหัวชานนท์หลับไป ชานนท์ลืมตาขึ้นมารู้สึกเศร้าใจที่เขมิกากำลังจะแต่งงาน
คลื่นลมสงบ ท้องฟ้าสดใส ปิ้งอยู่บนเรือมองกระดาษในมือที่จดไว้ รายงานสภาพความเสียหายของเรือให้เขมิกาฟัง
“ฉันคำนวณดูคร่าวๆแล้วนะลูกพี่ นอกจากเสากระโดงหักแล้วยังมีเครื่อง GPS วิทยุสื่อสารมดดำ เครื่องยนต์11 แรงม้าพังหมด มูลค่าความเสียหายทั้งตัวเรือทั้งอุปกรณ์ไม่ต่ำกว่า 3 แสน”
เขมิกายังควบคุมอาการ
“ไม่เป็นไรของเสียหายก็ซ่อมใหม่ได้ ปิ้ง แกไม่ต้องไปรายงานปู่นะ ถ้าปู่ถามก็บอกไปว่าไม่มีอะไรเสียหาย”
“ฉันไม่เล่าหรอก ขืนเถ้าแก่รู้ก็วิ่งโล่มาที่นี่แน่”
ชานนท์เดินเข้ามาสีหน้าไม่ค่อยดี
“เมื่อกี้มีตำรวจมาที่นี่”
เขมิกาใจคอไม่ดี
“มีเรื่องอะไร”
“เมื่อวานเรือจุมพลเจ้าสมุทร2 เข้าฝั่งไม่ทัน เรือเจอพายุอับปาง”
เขมิกาตกใจห่วงคนงานก่อน
“แล้วพวกคนงานบนเรือล่ะ”
“ตำรวจบอกว่าปลอดภัยทุกคน ตอนนี้เช็คร่างกายอยู่ที่โรงพยาบาล”
เขมิกาเครียด ชานนท์สงสารเขมิกาที่เจอแต่เรื่องหนักๆ
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 13 (ต่อ)
ปิ้งเดินไปเดินมาในโกดังอย่างงุ่นง่าน
“เราจะทำยังไงดี เจ้าสมุทร1 ก็รอซ่อม เจ้าสมุทร2 ก็ดันล่มแล้วเราจะเอาเรือที่ไหนไปลากอวน ปลาไม่มี ลูกค้าด่าเละแน่”
“ใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด”
“เย็นไม่ไหวแล้วไอ้คุณนนท์ เจอพายุไปลูกเดียวเล่นซะแทบไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว”
“เหลือสิ เรายังเหลือสมองกับสองมือไว้แก้ปัญหา มันต้องผ่านไปได้”
“ใช่ ฉันจะไม่ยอมให้แพปลามาเจ๊งในมือฉันเด็ดขาด”
สอนกับลูกน้อง5คน เดินเข้ามา
“โห ถึงขนาดเจ๊งกันเลยทีเดียว ขายกิจการให้เสี่ยซะก็สิ้นเรื่อง เสี่ยเขายินดีช่วยซื้อเพื่อเอาบุญ”
เขมิกาโกรธ ปรี่เข้าไปหา
“ไอ้สอน แกเอาสลาตันฉันไปไว้ที่ไหน”
“ลองไปงมหาก้นทะเลสิจ๊ะ อาจจะเจอ” สอนหัวเราะ ลูกน้องพากันหัวเราะตาม เขมิกาจะเข้าไปชก ชานนท์เข้ามาขวาง
“ใช้กำลังไปมันไม่ช่วยอะไรหรอก”
สอนมองชานนท์
“ฉันพยายามนึกว่าเคยเห็นหน้าแกที่ไหนมาก่อน ก็นึกไม่ออกสักที”
“ฉันเป็นลูกจ้างเถ้าแก่ แกก็เคยปะมือกับฉันมาแล้ว คงจะเห็นฉันตอนนั้นนั่นแหละ คุยเรื่องของแกมาดีกว่า ต้องการอะไร”
“แกแย่งลูกค้าเสี่ย ยังมีหน้ามาถามว่าเสี่ยต้องการอะไร”
“แพปลาไม่ใช่ธุรกิจผูกขาดมันก็ต้องมีการแข่งขันกันเป็นเรื่องธรรมดา จะครองใจลูกค้าได้หรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ทางการตลาด ไม่ใช่แพ้ก็พาลกันด้วยวิธีสกปรก สุภาพชนเขาไม่ทำกัน”
“ฟังไม่รู้เรื่องโว้ยสุภาพชนอะไรวะอยากจะอ้วก เสี่ยให้ฉันมาบอก ให้พวกแกรีบปิดกิจการไปซะ”
“เสี่ยแกเป็นพ่อฉันหรือไงถึงต้องทำตาม”
ชานนท์โกรธขยุ้มคอเสื้อสอน
“ถ้าต้องการจะมาหาเรื่องกันแบบนี้ก็กลับไปซะ”
“อู๊ย กลัวจุงเบย ฮ่าๆๆ” ลูกน้องสอนหัวเราะตาม “ทำไมวะ แค้นแทนลูกพี่หรือ ที่เจออยู่นี่แค่เบาะๆ โว้ย เสี่ยยังมีทีเด็ดอีก รับรองจุกอก แพปลาของพวกแก เจ๊งแน่ ไปโว้ย”
สอนกระชามือชานนท์ออก เดินกวนๆ นำลูกน้องกลับไป
“ไอ้นี่มันกวนส้นจริงๆ”
มือถือเขมิกาดัง เขมิกามองหน้าจอแล้วบอกชานนท์
“คุณปรียาโทรมา” เขมิการับสายแล้วตกใจ รีบบอกชานนท์กับปิ้ง “ฉันต้องรีบกลับบ้านแล้ว”
เขมิการีบออกไป ชานนท์ตามไปคนเดียว
บ้านเสี่ยเม้ง สอนกำลังรายงานเสี่ยเม้ง
“ผมไปปล่อยข่าวว่าแพปลาไอ้เถ้าแก่จุมพลใกล้เจ๊งตามที่เสี่ยสั่งแล้วนะครับ”
“ดีมาก แผนขั้นต่อไปก็เตรียมฮุบลูกค้าของมันทุกรายมาเป็นของเราให้หมด”
“แต่เราไม่รู้ว่าลูกค้ามันมีใครบ้าง ที่เห็นๆ ก็มีแต่รายใหญ่ที่โคราช โรงแรมในเมือง แล้วก็ร้านอาหารอีกไม่กี่ร้านเท่านั้น”
“ก็ไปถามจากคนที่มันรู้สิวะไอ้โง่”
“ถามใครละเสี่ย”
“คนที่มันรู้ตื้นลึกหนาบางของแพปลาจุมพลมากที่สุดไง” สอนคิดตาม
ที่หน้าบ้านจุมพล บรรดาเจ้าของขายน้ำมันเครื่องยนต์ เจ้าหนี้ร้านน้ำแข็งและอื่นๆ กำลังจะบุกเข้าบ้าน
ปรียาพยายามกันบรรดาเจ้าหนี้
“เข้าไปไม่ได้นะคะ ฟังกันบ้างสิคะคุณเข็มไม่อยู่ในบ้านจริงๆ”
รถกระบะวิ่งมาจอด เขมิกา ชานนท์ รีบลงจากรถ พวกเจ้าหนี้เห็นเขมิการีบกรูกันไปหา ชานนท์ห่วงเขมิการีบกันพวกเจ้าหนี้ไว้ไม่ให้ถึงตัวเขมิกา
“ค่อยๆ คุยกันดีๆ นะครับ อย่าเพิ่งใจร้อน”
“แพปลาจะเจ๊งอยู่แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าน้ำมันเครื่องอั๊ว”
“ใช่ ค่าน้ำแข็งเดือนนี้ฉันอีก จ่ายมาก่อนเลยดีกว่า”
“ของฉันด้วยๆๆๆ”
เขมิกาก้าวมายืนข้างชานนท์
“ทุกคนจะได้เงินแน่”
“เมื่อไหร่ล่ะ ไม่มีเรือออกหาปลาแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาให้”
“แพปลาเรายังไม่เจ๊งที่ได้ยินน่ะมันข่าวลือ เรือของเราแค่รอซ่อมเท่านั้น อีกไม่กี่วันก็ออกทะเลได้”
“ถ้าไม่เจ๊งก็ต้องเอาเงินมาจ่ายวันนี้ได้สิ จริงมั้ย”
พวกเจ้าหนี้พากันร้อง “ใช่ๆ”
“ปู่ฉันเป็นลูกค้าที่ดีของพวกคุณมากี่ปี เราเคยโกงมั้ย ตอนนี้เราแค่เจอปัญหานิดหน่อยทำให้หมุนเงินไม่ทัน แต่สิ้นเดือนฉันมีจ่ายแน่ ถ้าฉันไม่ทำตามที่พูดก็มายึดของมีค่าในบ้านนี้ไปได้เลย”
ทั้งหมดมองหน้ากันยอมอ่อนให้เขมิกา ชานนท์มองเขมิกาอย่างห่วงใย
ปิ้งกำลังซ่อมอวนอยู่ที่โกดัง สอนเดินเข้ามายืนเขี่ยอวนตรงหน้าปิ้ง ปิ้งเงยหน้ามองเห็นสอน ปิ้งลุกยืนทันที
“ไอ้กากเอ๊ย เจ็บตัวไปคราวก่อนยังไม่เข็ดหรือวะ”
“ใจเย็นเพื่อน ฉันมาดี เสี่ยอยากพบแก” ปิ้งงง
เฮียเม้งกำลังเล่นสนุกเกอร์อยู่ สอนพาปิ้งเข้ามา เฮียเม้งรีบหยุดเล่น ยิ้มแย้มเข้าไปประคองปิ้ง
“มาแล้วหรือนายปิ้ง มาๆ มานั่งคุยกันก่อน นั่งๆ”
เฮียเม้งประคองปิ้งนั่ง ปิ้งงง
“เสี่ยต้องการอะไรก็ว่ามาเลยดีกว่าฉันจะรีบกลับ”
“เสี่ยอุตส่าห์ลดตัวมาคุยด้วย พูดให้มันดีหน่อย” สอนบอก เฮียเม้งตวาด
“แกออกไปรอข้างนอก” สอนมองปิ้งอย่างไม่พอใจก่อนออกไป เฮียเม้งหยิบเช็ควางตรงหน้าปิ้ง “น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากเสี่ย”
ปิ้งหยิบดูตัวเลขตาโต
“ให้ผมหรือ เป็นค่าอะไร”
เฮียเม้งพูดจาเอาใจปิ้ง
“เสี่ยชื่นชมคนเก่ง แพปลาของเถ้าแก่จุมพลไปไม่รอดแล้ว แกจะทนอยู่ต่อไปทำไม มาอยู่กับเสี่ยดีกว่า เสี่ยจะ
ยกตำแหน่งผู้จัดการสนุกเกอร์คลับแห่งนี้ให้แก แถมยังเพิ่มเงินเดือนให้อีกสามเท่า น่าสนมั้ยละ”
ปิ้งตื่นเต้นเหมือนอยากได้
“ให้ผมเป็นผู้จัดการที่นี่หรือ เสี่ยพะพูดจะจะจริงหรือ”
เฮียเม้งยิ้มพยักหน้า
วันต่อมาที่บ้านชานนท์ แววนิลนั่งหัวโต๊ะ แป้นกับโย่งยืนรับใช้อยู่
“แป้น แกเห็นคุณนมบ้างหรือเปล่า”
“ไม่เห็นเลยค่ะ แกล่ะเห็นมั้ย” แป้นถามโย่ง
“เอ ผมไม่เห็นมาสองสามวันแล้วนะครับ”
ประชาเดินมาที่โต๊ะอาหาร
“คุณนมลาไปเยี่ยมญาติ เขาไม่ได้บอกคุณนิลหรือครับ”
ประชานั่งลง แป้นรีบตักข้าวให้
“แต่คุณนมไม่มี...เออ” แววนิลเกือบหลุดปาก ตะกุกตะกัก “เขาก็เคยพูดเปรยๆ เหมือนกัน แต่ฉันจำไม่ได้”
ประชาเอื้อมมือไปแตะมือแววนิล แววนิลรีบชักหนี
“พรุ่งนี้เตรียมตัวไว้นะ ผมจะพาคุณไปลองชุดเจ้าสาว” ประชาบอกยิ้มๆ
“ฉันเคยบอกไปแล้วว่าไม่แต่ง อย่ามาบังอาจคาดคั้นฉัน”
ประชายังใจเย็นยิ้มแย้ม
“งั้นถ้าคุณไม่สะดวกไป ผมจะให้ทางร้านเอาชุดมาให้คุณลองที่บ้านก็ได้”
แววนิลโกรธลุกยืน คว้าชามต้มจืดสาดใส่หน้าประชา ประชาชะงัก แป้น โย่งหวาดเสียวห่วงแววนิล
“ถ้าแกแกล้งฟังภาษาไทยไม่ออก ฉันจะพูดชัดๆ อีกครั้ง ฉันไม่คิดจะเอาตระกูลของฉันไปแปดเปื้อนกับนามสกุลสั่วๆ ของแก”
ประชาหยิบผ้าเช็ดปากมาเช็ดหน้า
“คิดว่าตัวเองสูงเลิศเลอนักหรือ คอยดูฉันจะสอยเธอให้ร่วงลงมาเอง นังแป้น ไอ้โย่ง คอยตามเฝ้าคุณหนูเทวดาของพวกแกไว้ ห้ามให้ออกจากบ้านนี้แม้แต่ก้าวเดียว ถ้าฉันไม่อนุญาต”
ประชาเข้าไปค้นตัวแววนิล แววนิลตกใจ
“แกจะทำอะไรเอามือของแกออกไป” ประชาเจอมือถือในกระเป๋ากระโปรง แววนิลจะคว้าคืน “เอาคืนมานะ”
“ทำตัวดีๆ แล้วฉันจะคืนให้”
ประชาเดินหนีไป แววนิลอาละวาดปาจานชามแตก โย่งกับแป้นต้องคอยหลบกลัวโดนลูกหลง
เขมิกานั่งดูสมุดบัญชีเงินฝาก โยธินยื่นเช็คมาตรงหน้า เขมิกาเงยหน้า
“ป๋าฝากมาให้”
“เอาไปคืนป๋าเถอะ เข็มรับไม่ได้หรอก”
โยธินรีบนั่งลงข้างๆ วางเช็คบนมือเขมิกา
“ป๋าว่าถ้าเข็มไม่รับ ก็ให้เป็นการกู้ยืม มีเมื่อไหร่ค่อยเอามาใช้ป๋า เข็มจะได้มีเงินไปหมุนใช้หนี้”
เขมิกาคืนเช็คกลับไปเพราะถือศักดิ์ศรี
“เข็มยังไม่จนตรอกขนาดนั้นหรอกน่า เข็มมีมรดกที่ทั้งปู่ทั้งพ่อยกให้ แล้วยังเงินเก็บส่วนตัวอีก โอ๊ย เข็มนะเศรษฐีนีคนหนึ่งเลยล่ะ เฮียไม่ต้องห่วง”
“อาฑิตนอนรักษาตัวมานาน เงินสดทั้งหมดของปู่หมดไปกับการรักษา เรื่องนี้ป๋ารู้ดี เข็มอย่ามาแต่งเรื่องหลอกเฮียเลย” เขมิกาอึ้งไป
“ถึงเฮียจะรู้ก็ไม่ต้องพูดได้มั้ย แกล้งทำเป็นเชื่อเข็มไม่ได้หรือไงอย่างน้อยก็ให้เข็มได้เหลือศักดิ์ศรีบ้าง”
“จะให้เฮียทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้ไง เข็มเป็นแฟนเฮีย ไม่ใช่คนอื่น แล้วกับเฮียเข็มไม่ต้องหยิ่ง ไม่ต้องอาย เฮียอยากให้เข็มนึกถึงเฮียเป็นคนแรก”
เขมิกาซึ้งใจโยธินแต่ไม่อยากให้โยธินลำบาก จึงยิ้มแย้มทำเป็นร่าเริงปกปิดโยธิน
“เข็มยังไหวน่าเฮีย เอางี้นะถ้าเข็มขาดเงินจริงๆ เข็มจะรีบขอเฮียเลย เฮียกลับไปก่อนนะ”
เขมิกาดันโยธินไปทางประตู ปิ้งเดินเข้ามา เขมิกากับโยธินชะงักมองปิ้ง ปิ้งอึกอัก
“ลูกพี่ คือฉัน ขอคุยด้วยหน่อย”
เขมิกาออกมาคุยกับปิ้งที่ระเบียงบ้าน
“ลาออก!”
เขมิกาตกใจ ปิ้งพยักหน้าจ๋อยๆ
“ฉันก็ไม่อยากออกหรอกพี่ แต่ไม่มีเรือ แล้วพวกฉันจะทำอะไรได้ ฉันเองก็มีแม่ต้องเลี้ยงนะลูกพี่” เขมิกาโบกมือ
“พอ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าต้องลงเอยแบบนี้ งานไม่มีลูกน้องจะเอาเงินที่ไหนกิน” เขมิกาพูดเสียงดังขึ้นมาเพราะเสียใจ “แต่ฉันไม่คิดว่าแกจะมาบอกฉันเป็นคนแรก ทำไมแกไม่เชื่อมั่นในตัวฉัน ว่าฉันไม่มีวันปล่อยให้ลูกน้องอดตาย”
“ฉันขอโทษ พี่อยากด่าก็ด่าฉันมาได้เลย”
“อยากไปก็ไปเลย แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
เขมิกาเดินหนีเข้าบ้าน ปิ้งจะร้องเรียกแต่ห้ามตัวเองไว้ไม่ให้สงสารเขมิกา
ที่หน้าโกดัง พนักงานบัญชีนั่งจ่ายเงินเดือน พวกปิ้งกับคนงานนับสิบยืนต่อแถวรอรับเงินเดือน ชานนท์เดินเข้ามาเห็นเกิดความสงสัย เดินตรงไปหาปิ้งที่กำลังรับเงินเดือน ชานนท์กระชากแขนปิ้งดึงไป
“เฮ้ย จะดึงไปไหน”
สอนแอบซุ่มอยู่มองตาม
อีกมุมของโกดังชานนท์กำลังต่อว่าปิ้ง
“ไหนว่ารักลูกพี่นายนักหนา แต่กลับทิ้งไปได้ลงคอ”
“คนจนอย่างพวกฉัน จะอีกกี่ชาติถึงจะได้เป็นถึงผู้จัดการได้จับเงินเดือนเป็นหมื่นๆ นี่เป็นโอกาสเดียวในชีวิตฉัน”
“ไม่คิดหรือว่าลูกพี่นายเขาจะเสียใจ ไม่ห่วงความรู้สึกเขาเลยหรือ”
“ลูกพี่เป็นคนเก่ง ยังไงก็เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ถึงแพปลาจะเจ๊งก็ยังมีบ้านมีที่ดินของเถ้าแก่อีกหลายแห่ง แต่พวกฉันสิมีอะไร ฉันยังต้องเลี้ยงแม่อีกคน ถ้าฉันตกงานก็ต้องกินแกลบกันทั้งบ้าน คนรวยอย่างคุณนึกไม่ออกหรอกว่าจะอดตายเป็นไง”
ปิ้งเดินไป ชานนท์เครียดไม่สบายใจ สอนแอบดูอยู่เชื่อทั้งหมด
ที่บ้านเสี่ยเม้ง เสี่ยเม้งดูรายชื่อลูกค้าในสมุดแล้วหัวเราะชอบใจ
“ลูกค้ามันเยอะจริงๆ มิน่าไอ้แก่จุมพลมันถึงรวยเอารวยเอา” ปิ้งยิ้ม
“รายชื่อลูกค้าพวกนี้ผมลอกมากับมือ รับรองครบถ้วนไม่ตกหล่น”
“ทำได้ดีมาก ฉันมองไม่ผิดว่าแกฉลาดน่าคบ”
“เราจะมีปลาพอส่งหรือเสี่ย ไหนจะลูกค้าเรา ลูกค้ามันที่เพิ่มขึ้นมาอีกเพียบ”
“จะไปยากอะไร ก็ไปคว้านซื้อมาจากพวกชาวเลรายยิบย่อยสิ ถ้ามันไม่ขายก็บังคับซื้อมาให้ได้ แกไปคุยกับ
พวกมัน ส่วนแกไอ้สอนไปล็อบบี้ลูกค้าตามรายชื่อนี้ เริ่มจากรายยักษ์ๆ ก่อนเลย” เฮียเม้งส่งรายชื่อให้สอน
“ครับเสี่ย” สอนออกไป
“ผมจะเริ่มงานผู้จัดการได้เมื่อไหร่ครับเสี่ย”
“วันนี้เลย” เฮียเม้งตบบ่าปิ้ง หัวเราะ “ถ้ามีอะไรที่ฉันอยากรู้แล้วจะเรียกใช้แกอีก แกมันเจ๋งวะทำงานได้ทันใจดี ฉันชอบว่ะ ฮ่าๆๆ” ปิ้งหัวเราะชอบใจไปด้วย
เขมิกาพยายามจะเข้าไปด้านในล็อบบี้ของโรงแรม แต่พนักงานชายดันไว้
“เข้าพบผู้จัดการไม่ได้ครับ ผู้จัดการมีแขกอยู่”
“ขอเวลาฉันนิดเดียว”
“ผู้จัดการสั่งมาแล้วครับว่าโรงแรมไม่สามารถรอปลาจากคุณได้ เราจะเปลี่ยนไปสั่งซื้อปลาจากแพปลาอื่นแทน”
“แต่ฉันสามารถหาปลามาส่งได้ ขอเวลาแค่2-3วันเท่านั้น”
“ถ้าคุณไม่ยอมไป ผมคงต้องเรียก รปภ.นะครับ”
เขมิกาชี้ไปข้างหลังพนักงาน
“ดูนั่น คนเป็นลม”
พนักงานตกใจหันหลังไปดู เขมิการีบวิ่งจะเข้าข้างใน พนักงานรู้ว่าโดนหลอก รีบตะโกนเรียก รปภ.
“รปภ.จับตัวไว้”
รปภ.ที่อยู่แถวนั้นวิ่งมาขวางหน้า จับแขนเขมิกาทั้งสองข้าง ชานนท์เดินเข้ามา
“ปล่อยผู้หญิง ไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งตำรวจข้อหาทำร้ายร่างกาย โรงแรมของคุณได้เสียชื่อแน่”
ผู้จัดการโรงแรมกับสอนและลูกน้องสอน 1 คน เดินออกมาจากด้านใน ผู้จัดการมองไปเห็นหน้าชานนท์ เพ่งมองแบบจำได้
รปภ.รีบปล่อยแขนเขมิกา ชานนท์จับข้อมือเขมิกาพาเดินออกไปทันที
“คุณชานนท์”
สอนได้ยินแปลกใจรีบถาม
“ผู้จัดการรู้จักด้วยหรือครับ”
“รู้จักสิคะ ท่านเป็นเจ้าของจวงจันทร์สปา เป็นลูกค้าวีไอพีของโรงแรม”
“โอ๊ย ไม่ใช่หรอกครับผู้จัดการจำคนผิดแล้ว ไอ้นี่มันเป็นเด็กแพปลาลูกน้องของเถ้าแก่จุมพล”
“หรือคะ แต่ทำไมหน้าตาเหมือนกันจัง”
สอนมองตามชานนท์ที่ออกจากประตูโรงแรมไป
ด้านหลังโรงแรมที่เป็นที่จอดรถ เขมิกาสะบัดมือชานนท์ออก
“คุณอยากเดือดร้อนหรือไง ผู้จัดการที่นี่เขารู้จักคุณนะ ถ้าเกิดเขามาเห็นคุณเข้า คุณได้เดือดร้อนแน่”
“คิดจะห่วงคนอื่น ก็หัดห่วงตัวเองก่อนเถอะ เรื่องที่จะส่งปลาให้ลูกค้า เธอลองคิดดูดีๆ ถ้าหาปลาเองไม่ได้ จะหาซื้อปลาได้จากที่ไหนได้บ้าง”
เขมิกาตั้งใจพูดให้ชานนท์ไป
“นี่มันปัญหาของฉันไม่ใช่ของคุณ คุณต้องมีชีวิตกลับไปหาน้องไม่ใช่มาเป็นภาระเกาะติดกับฉัน พูดตามตรงนะฉันคนเดียวเอาตัวรอดได้สบายๆ คุณอย่าอยู่เป็นตัวถ่วงให้ฉันต้องลำบากไปกว่านี้เลย”
“ฉันเป็นตัวถ่วงหรือ”
“คุณคิดว่าฉันไม่มีแพปลาแล้วฉันจะอดตายหรือ เฮียโยเป็นลูกนักธุรกิจที่รวยที่สุดในจังหวัดนี้ เขาเลี้ยงฉันได้สบายๆ”
ชานนท์น้อยใจ
“ฉันลืมไปว่าเธอมีคุณโยธินอยู่ทั้งคน”
ชานนท์งอนเดินหนีออกจากโรงแรม เขมิกาถอนใจเดินขึ้นรถ นั่งเครียดเรื่องชานนท์เรื่องงาน สุดท้ายซบหน้ากับพวงมาลัย
สอนเปิดประตูด้านคนขับ ลูกน้องยังติดใจเรื่องชานนท์จึงถามขึ้นมา
“ถ้าไอ้หมอนั่นมันเกิดเป็นเจ้าของสปาขึ้นมาจริงๆ ล่ะพี่ เหมือนในหนังไทยไง ที่พระเอกทำตัวตกยากเพื่อหนี
การตามฆ่าของผู้ร้าย” สอนคิดตาม
“ที่แกพูดมามันก็น่าคิด ไอ้ประสาท คิดเป็นตุเป็นตะไร้สาระ ถ้าหน้าอย่างมันเป็นเศรษฐีได้ ฉันก็เป็นอภิมหาเศรษฐีของโลกแล้วโว้ย ไป ขึ้นรถ ทำงานต่อ”
สอนไม่เชื่อขึ้นนั่งบนรถ
ที่ร้านอาหารติดชาดหาด เจ้าของร้านคุยกับชานนท์
“แพปลาของเถ้าแก่จุมพลปิดกิจการไปแล้วไม่ใช่หรือ”
“ยังครับแต่มีคนแกล้งปล่อยข่าวเพื่อทำลายเรา”
“อ้าว แล้วทำไมถึงไม่มีปลามาส่งเลยล่ะ”
“มันมีเรื่องติดขัดเล็กน้อย แต่ผมยืนยันได้ว่าพรุ่งนี้เรามีปลามาส่งตามปกติแน่”
“แต่ฉันสั่งปลากับทางเสี่ยเม้งไปแล้ว เสียใจด้วยนะคะ”
ชานนท์ผิดหวัง เสียงคนทะเลาะกันดังเข้ามา
“ไปๆ ให้พ้น อีบ้า”
เจ้าของร้านได้ยินรีบวิ่งออกไปหน้าชายหาด ชานนท์สงสัยรีบตามไปดู
จบตอนที่ 13