ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 11
บ้านยายแลในเวลาเดียวกัน ลำยองใส่เสื้อผ้าสีสดจัด ประกาศก้อง พร้อมๆกับซดเหล้า
"กูไม่ไป จ้างเป็นพันเป็นหมื่น กูก็ไม่ไปให้จัญไรไอ้แก่นั่นมันมาติดตัวกูหรอก"
ยายแล, ลำยง, ลำดวน แต่งสีมอๆเท่าที่หาได้จะไปฟังสวดศพ
"ที่ชวนเนี่ย ชวนให้ไป ขอให้ศพลุงสินแกยกอโหสิกรรมให้พี่นะ"
"พวกมันต่างหากโว้ยที่ต้องมากราบขออโหสิกรรมกู ถ้าไม่มีพวกมัน ป่านนี้กูเป็นคุณนายนายทหารเรือไปแล้ว"
"เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย อีคุณนายลำยอง" ลำดวนบอก
"ช่างหัวมัน มันเมาจนเลอะไปหมดแล้ว"
"แม่นั่นแหละเลอะ คอยดูเหอะเหยียบขึ้นไปบนศาลา อีปั้นมันจะถีบหัวลงมา"
"ไปเหอะแม่ ต่อความยาวสาวความยืดเปล่า ๆ พ่อเฝ้าบ้านนะ"
"พวกมึงจะไปเที่ยวไหนกัน แต่งตัวซะสวยเลย ใจดำนะ พวกมึงไม่พากูไปด้วย...อีแลกูไปด้วยคน"
ทุกคนออกไป ปิดประตู
"ดีใจจริงโว้ย ไอ้แก่ตายแล้ว เหลือแต่อีแก่หนังเหนียว"
ลำยง, ลำดวนปักธูปหลังจากไหว้ศพแล้ว รีรอให้ยายแลไหว้ศพเสร็จ จะได้ออกไปพร้อมๆกัน ยายแลจะออกไปทางหนึ่ง แต่ลำยงดึงเอาไว้
"แม่...ไปไหว้ป้าปั้นเขาหน่อยสิ"
"กูมาไหว้ศพตาสินไม่ได้มาไหว้อีปั้น"
"น่าเกลียดน่ะแม่"
"กูไหว้มันแล้วเกิดมันไม่รับไหว้กูล่ะ"
"แม่เองน่ะแหละ ลดๆลงมั่งอ ย่าดีแต่ด่าพี่ลำยองมันเลย"
ลำยงคว้าแขนแลกึ่งบังคับพามาถึงที่นั่งมุมนึงที่ปั้นนั่งอยู่
"ป้าปั้น..ฉันเสียใจด้วยนะจ๊ะ"
"ขอบใจที่อุตส่าห์มา"
ลำยง, ลำดวน ไหว้ปั้นแล้วส่งสายตามาทางแม่ แลไม่รู้จะพูดอะไร ยกมือไหว้ปั้นอย่างเสียไม่ได้ไม่สบตา ปั้นก็ไม่สบตายกมือรับไหว้แค่พอเป็นพิธีเหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างยังคงมึนตึงใส่กัน
มุมหนึ่งในศาลา วันเฉลิมบอก
"ผมบวชไม่ได้หรอกครับ ถ้าผมบวชแล้วใครจะดูแลน้อง ๆ"
"บวชให้ปู่เอ็งไม่กี่วันเท่านั้นเอง ไอ้วัน"
วันเฉลิมหน้านิ่ง
"วันจะได้อยู่กับหลวงตาไงล่ะ ลูกสงบสุขดี วันชอบอยู่กับหลวงตาไม่ใช่เหรอ ...น้อง ๆ น่ะไม่ต้องห่วงหรอก ฝากน้าลำยง น้าลำดวนเลี้ยงให้ซักพัก คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก"
วันเฉลิมยังคงนิ่ง
"ปู่เอ็งเขาสั่งเอาไว้ ถ้าเอ็งบวชเขาจะได้ตายตาหลับ ไม่ต้องตามห่วงเอ็ง ทองที่เอ็งรื้อเจอในกองไฟนั้นน่ะ ปู่เอ็งเขาตั้งใจเก็บไว้เป็นทุนให้เอ็งได้บวชเรียน" ปั้นบอก
วันเฉลิมนิ่ง
"วัน...ทำเพื่อปู่เป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะจ๊ะ" เทวีบอก
"แม่คงไม่ย่อมให้ผมบวชหรอกครับ"
สันต์, ปั้นนิ่งอึ้ง
"ทำไมวันคิดว่าแม่เขาจะไม่ยอมล่ะจ๊ะ" เทวีถาม
"ถ้าผมบวชแล้วใครจะเลี้ยงน้อง"
"เอาเป็นว่า ถ้าจัดการเรื่องน้อง ๆ ได้ วันจะบวชใช่ไหมจ๊ะ"
"ถ้าแม่ยอม ผมก็จะบวชครับ"
ในศาลาตั้งศพ ลำยงบอก
"บวชได้ก็ดี ลุงสินแกอุตส่าห์สั่งเสียเอาไว้ แกจะได้ตายตาหลับ"
"พ่อแกตั้งใจว่า ถึงไม่ได้เรียนโรงเรียนธรรมดา ก็เรียนนักธรรมแทน ชีวิตจะได้สุขสงบบ้าง ไม่ใช่ต้องคอยเลี้ยงแม่เลี้ยงน้องอย่างนี้"
"เผลอๆนางลำยองมันเห็นผ้าเหลือง มันอาจจะกลับตัวกลับใจได้มั่ง ก็ดีนี่หว่าไอ้สันต์ บวชเลย" แลว่า
"เจ้าวันเขาไม่ยอมบวชน้าแล เขาว่า เขาบวชไม่ได้ ถ้าแม่ไม่อนุญาต"
"อ้าว... ไหงยังงั้นวะ อะไรๆก็ต้องแม่มันทุกอย่างเลยรึไง"
"ไอ้วันนี่มันกตัญญูผิดเวล่ำเวลาอีกแล้วอีกแล้ว" ลำดวนบอก
"เอาเหอะพี่สันต์ เดี๋ยวฉันจะช่วยพูดกับพี่ลำยองมันให้ มันอาจจะยอมก็ได้" ลำยงบอก
เสือไหว้ศพเสร็จ ปักธูปแล้วขยับออกมาตรงที่ปั้นกับสันต์และเทวีนั่งอยู่
"ขอบใจนะกำนัน อุตส่าห์มา"
"ฉันเสียใจด้วยนะแม่ปั้น ตาสินแกเป็นคนดี น่าจะอยู่กันไป เห็นกันไปนานๆ จะได้เป็นที่พึ่งของลูกหลาน"
"จะเอาอะไรแน่นอนกับชีวิตล่ะกำนัน"
"นั่นสิ แม่ปั้น สุดท้ายมันก็เท่านี้ อยู่ที่เราเลือกจะให้คนข้างหลังเขาจดจำเรายังไงต่างหาก"
วันเฉลิมนั่งอยู่กับกลุ่ม ยายแล,ลำยง,ลำดวน เสือเดินเข้ามาหา
"ไงวะไอ้วัน"
ทุกคนยกมือไหว้เสือ
"ข้าได้ยินมาว่า เอ็งจะไม่ยอมเรียนหนังสือต่อ มันอะไรกันนักหนาวะ แม่เอ็งมันบังคับไม่ให้เอ็งเรียนรึไง"
"ผมต้องอยู่บ้านคอยเลี้ยงน้องครับ"
"แม่เอ็งมันไม่มีปัญญาเลี้ยงรึไง เอ็งตัวแค่นี้ถึงต้องอ้าขาผวาปีกจะรับผิดชอบน้องนุ่งตั้งโขยง"
วันเฉลิมนิ่ง
"ยายเอ็ง น้าๆเอ็งมันไม่มีน้ำใจจะช่วยดูแลรึไง"
"ฉันก็ช่วยเท่าที่จะช่วยได้แหละกำนัน แต่ละคนมันก็ต้องดิ้นรนทำมาหากินกันทั้งนั้น" แลว่า
"เอ็งได้ยินไหม คนที่มันต้องรับผิดชอบจริงๆน่ะ...แม่เอ็ง ไม่ใช่เอ็ง"
"แต่ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงแม่ได้นี่ครับ แล้วน้องๆผมจะเป็นยังไง ถ้าไม่มีใครคอยดูแล"
"เอ็งกำลังทำให้ข้า รู้สึกว่าข้ามันบาปหนัก ที่ทำลายอนาคตเอ็ง ยึดเอาบ้านแม่เอ็งมา เอ็งคิดว่าข้าใจยักษ์ใจมารใช่ไหม"
"ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยครับ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของกรรม ทุกคนหนีกรรมของตัวเองไปไม่พ้นหรอกครับ"
เวลากลางคืน วันเฉลิมวิ่งกลับบ้านยายแลมาด้วยความดีใจ พบลำยองนั่งกินเหล้าอยู่
"แม่ครับ แม่ ลุงกำนันคืนบ้านให้เราแล้วครับ"
"มึงพูดอะไรของมึงวะ ไอ้วัน"
"ลุงกำนันบอกว่าให้เราย้ายกลับไปอยู่บ้านเราได้แล้วครับ"
"มึงอย่ามาล้อกูเล่นนะ กูไม่ขำ"
ยายแล,ลำยง,ลำดวนตามมาถึงพอดี
"มึงไม่ต้องขำ แต่มึงต้องไปกราบกำนันเสือเขา เขาเวทนามึงกับลูกๆมึง กลัวจะไม่มีที่ซุกหัวนอน ถือว่าทำบุญ"
ลำยองค่อยๆหัวเราะออกมา
"ทำบุญเหรอ ยังหลงเสน่ห์อยากได้กูทำเมียมากกว่า ไอ้แก่เอ๊ย"
ลำยองหัวเราะด้วยความสะใจ แล,ลำยง,ลำดวน ทั้งโมโหทั้งเวทนาในความคิดของลำยอง วันเฉลิมเสียความรู้สึกต่อทัศนคติของแม่ แม่ไม่มีท่าทีจะซาบซึ้งหรือคิดได้เลย
ผ่านเวลามา ที่ศาลาวัด เมื่อพระสวดเสร็จแล้ว
"ความจริงข้าตั้งใจว่า จะรื้อบ้านเอาไม้ไปปลูกใหม่ในสวนข้า ที่ตรงนั้นใครสนใจซื้อข้าก็จะขาย แต่หน้าไอ้วันมันตามไปหลอนข้าทุกคืน ข้าคืนบ้านหลังนั้นให้นังลำยองมัน ก็เพราะเห็นแก่ไอ้วัน ไอ้เด็กคนนี้มันดีเกินไป"
"สาธุ...กำนันได้บุญทำทานครั้งใหญ่แล้วล่ะ" ปั้นบอก
"ได้บ้านคืนมายังงี้ ก็คงไม่ต้องลำบากกันนัก เจ้าวันคงได้เรียนหนังสือต่อแน่...ขอบคุณลุงกำนันมากครับ" สันต์ยกมือไหว้
เทวีรู้สึกได้ถึงความสบายใจของผัว
"ข้าคิดไปเยอะกว่าเอ็งอีกไอ้สันต์... ไอ้วันมันไม่มีทางมีสมาธิจะร่ำเรียนอะไรได้หรอก ถ้ามันยังขลุกขลักนัวเนียอยู่กับน้องกับแม่มันยังงี้ ต้องหาทางแยกไอ้วันมันออกมาจากนังลำยองให้ได้"
ภายในบ้านแล ลำยองถาม
"บวช...บวชอะไร"
"ก็บวชหน้าไฟให้ปู่มันไง" แลว่า
"ลูกกับเมียใหม่มันก็มี ก็ให้มันบวชไปสิ ทำไมต้องมาเอาไอ้วัน"
"ลุงสินแกสั่งเสียเอาไว้ก่อนตาย" ลำยงบอก
"เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวกะกู"
"อีลำยอง มึงนี่มันไม่ได้ตาบอดอย่างเดียว ใจมึงยังบอดด้วย เขาตายไปแล้ว มึงไม่ไปขออโหสิกรรมเขาไม่เท่าไหร่ แต่ลูกมึงจะทำบุญทำกุศลให้เขา มึงยังขัดขวาง กูไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว" แลว่า
"ใครจะทำบุญทำทาน อโหสิกรรมอะไรก็เชิญ คนอย่างอีลำยองมันเจ็บแล้วจำโว้ย ดีเท่าไหร่แล้วไม่เผาพริกเผาเกลือสาปส่งให้มันลงนรกไม่ได้ผุดได้เกิดน่ะ"
ยายแลเหลือทนจนตัวสั่น
"มันเมาแม่ ปล่อยมันไปก่อนอย่าเพิ่งไปคุยกะมัน เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันอีกที" ลำยงว่า
"วันนี้ พรุ่งนี้ วันไหนกูก็ไม่ยอมโว้ย กูไม่ให้มันบวชซะอย่างใครจะทำไม"
ยายแลอยากจะตบปากลำยองซักฉาด แต่ลำยงก็ดึงแม่ออกไปซะก่อน
"กูเป็นแม่มันโว้ย กูสั่งอะไรไอ้วันมันก็ต้องทำ ไอ้นี่มันลูกกตัญญูของกูคนเดียวโว้ย มันต้องหาเลี้ยงกูหาเลี้ยงน้องมัน หนอย ตะอ้อนตะออกก็จะมาพรากลูกไปจากอกกู ตายโหงตายห่าแล้วยังไม่เลิกคิดจัญไรอีกไอ้เฒ่า"
ลำยองพร่ำด้วยความเมาพร่ำไปหัวเราะไป อย่างสะใจตัวเอง วันเฉลิมที่ยืนแอบฟังอยู่มุมหนึ่งหลังประตูนานแล้ว โผล่หน้ามาให้เห็นเพียงแค่เสี้ยวเดียว อารมณ์บนหน้าทั้งละอาย ผิดหวัง เจ็บปวด แต่แม่ก็คือแม่
กลางวันวันใหม่หน้าบ้านสมฤดี
"นี่ข่าวดีจริง ๆ นะพ่อวัน ดีแล้ว ดีแล้ว กลับมาอยู่ใกล้ ๆ กัน พ่อวันย้ายไปอยู่บ้านยายแค่ไม่กี่วันหนูสมบ่นคิดถึงพี่วัน" วิมลบอก
วันเฉลิมยิ้มปลื้ม
"ก็หนูสมคิดถึงจริง ๆ นี่ค่ะคุณยาย กินขนมคนเดียวไม่อร่อยเท่าแบ่งกันกินกับพี่วันหรอกค่ะ"
"พี่วันขอบใจนะครับหนูสม"
"แล้วจะสอบเข้าเรียนต่อโรงเรียนไหนละลูกพ่อวัน"
"พ่อบอกว่าอยากให้เข้าโรงเรียนวัดปากน้ำครับ เพราะใกล้บ้านกว่าที่อื่น"
"เก่ง ๆ อย่างพ่อวันต้องสอบได้อยู่แล้วลูก ยายเป็นกำลังใจให้นะลูก"
"หนูสมด้วย หนูสมเป็นกำลังใจให้พี่วันนะค่ะ"
วันเฉลิมรอยยิ้มค่อย ๆ เหือดแห้งไป
"แต่ผมยังไม่รู้เลยครับว่า แม่จะอนุญาตให้เรียนต่อรึเปล่า"
ภายในบ้าน ลำยองถาม
"มึงจะเรียนไปทำไม จบปอสี่ตามเกณฑ์ อ่านหนังสือได้ เขียนหนังสือเป็น บวกเลขลบเลขเป็นก็พอแล้ว อีกหน่อยมึงก็ต้องทำงานทำโรงงานที่ไหน มันไม่ได้สนใจหรอกโว้ย ว่ามึงเรียนสูงขนาดไหน"
"มึงจ้องแต่จะให้ลูกทำงานโรงงาน มึงไม่คิดบ้างเรอะว่า ไอ้วันมันเก่งกว่านั้น" แลว่า
"เรียนสูง ๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคนน่ะเหรอ ฝันไปเหอะแม่ ไอ้นี่มันต้องเลี้ยงแม่เลี้ยงน้อง" ลำยองพูดพลางหัวเราะเยาะ
"บวชก็ไม่ให้บวช เรียนก็ไม่ให้เรียน มึงนี่มันมารชัด ๆ"
"กูเป็นมารมึงไหม ไอ้วัน"
วันเฉลิมนิ่งก้มหน้า
ลำยองตะคอก
"กูถามว่า กูเป็นมารมึงรึเปล่า ไม่ได้ยินรึไง"
"เปล่าครับ ไม่ได้เป็นครับ"
ลำยองหัวเราะร่วนถูกอกถูกใจ
"เห็นไหมแม่ ลูกฉันมันดีขนาดไหน ไอ้นี่มันกตัญญูยังกะอะไรดี"
ลำยองเดินหัวเราะอย่างผู้ชนะ
"อีบ้าเอ๊ย"
ศาลาตั้งศพ เวลากลางวัน สันต์ฟังยายแลเล่าทุกอย่างให้ฟัง
"ข้าเองก็จนปัญญา พูดดี ๆ กับมันก็แล้ว ด่าหยาบ ๆ คาย ๆ ก็แล้ว มันไม่ยอมท่าเดียว"
"ไม่เป็นไรน้าแล ผมจะลองหาวิธีอื่นดู"
"ข้ารู้...ไอ้วันน่ะมันอยากบวชอยากเรียนใจจะขาด แต่มันติดที่อีลำยองคนเดียว"
"เขาคงคิดว่าทำอย่างนี้แล้ว แปลว่าเขาจะชนะทุกคน"
"ชนะบ้าบออะไรของมัน คนจะบวชมันขวางไม่ให้บวชยังงี้ นรกถามหาแหง ๆ อีลำยองเอ๊ย"
ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านลำยอง
"มึงอย่าโกหกกูนะ"
"วันไม่ได้โกหกครับ"
"กูไม่เชื่อ มึงเจอพ่อมึงที่ไรเขาก็ต้องให้เงินมึงไว้ซื้อขนมบ้างแหละ เอาออกมาให้กูเดี๋ยวนี้นะมึง น้องนุ่งมึงจะอดตายอยู่แล้ว มึงไม่เห็นรึไง"
"วันไม่มีตังค์จริง ๆ ครับ"
"งั้นก็ไสหัวไปไกล ๆ ตีนกูเลย"
วันเฉลิมขยับออก
ลำยองกรีดร้องระบายอารมณ์เพราะความอยากเหล้า มือไม้สั่นระริก
"จะลงแดงตายแล้วรึไงวะ"
ลำยองหันมาเห็นเสือ
"พี่เสือของลำยอง"
ลำยองจะโผเข้ามากอดประจบ
"เอ็งอย่ามาใกล้ข้า ห่างแค่นี้ยังเหม็นเหล้าจนจะอ้วก"
"พี่เสือยังโกรธลำยองอยู่อีกเหรอจ๊ะ"
"เอ็งนี่ถามโง่ ๆ นะ...คนอย่างเอ็งมันมีค่าพอจะให้ข้าโกรธด้วยเรอะ"
"พี่เสือคืนบ้านให้ฉันมา ไม่ใช่เพราะพี่อยากให้โอกาสฉันแก้ตัวกับพี่เหรอ"
เสือโยนซองกระดาษสีน้ำตาลที่ใส่โฉนดที่ดินลงบนโต๊ะ
"ข้าคืนบ้านหลังนี้ให้เอ็ง ก็เพราะเห็นแก่ไอ้วันเฉลิมลูกเอ็ง เอ็งควรจะสำนึกเอาไว้ให้มาก ๆ ว่าถ้าไม่มีไอ้วันเอ็งมันก็ไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนข้างถนนหรอกโว้ย นังลำยอง"
เสือเดินออกไป
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 11 (ต่อ)
สันต์นั่งนิ่งอยู่ใกล้ที่ตั้งศพ เทวีเดินเข้ามาหาปั้นที่กำลังจัดดอกไม้กำเตรียมถวายพระที่จะมาสวด 4 รูปคืนนี้
"แม่คะ กินข้าวเถอะค่ะ อีกซักพักแขกก็จะมากันแล้ว"
"แม่ไม่หิวหรอก ตามเจ้าสันต์มันไปกินเถอะ"
"เขาบอกว่าไม่หิวเหมือนกันค่ะ"
"มันก็คงเครียดเรื่องไอ้วัน....ดูแลมันหน่อยนะเทวี"
เทวีหันไปมองทางสันต์ที่อยู่ไกล ๆ ออกไป
เวลากลางคืน วันเฉลิมสวมชุดนักเรียน หิ้วร้องเท้ามาเตรียมจะสวม ลำยองนอนเอกเขนกครางอยู่มุมหนึ่ง
"ไอ้วัน...มึงจะไปไหน"
"ไปช่วยงานศพปู่ครับ"
"มึงคุ้ยหายาแก้ปวดมาให้แม่ทีซิ"
วันเฉลิมรีบมาบอกลำยอง
"ยาแก้ปวดหมดแล้ว แม่ปวดตรงไหนครับ"
"ปวดไปทั้งตัวแหละ ปวดตามข้อเนี่ย มึงนวดให้แม่หน่อยซิ"
"ครับ"
วันเฉลิมนวดข้อเท้าไล่ขึ้นมาถึงหัวเข่าให้ลำยอง
"มึงเสนอหน้าไปทำไมทุกวันงานศพเนี่ย มึงอยากได้สมบัติมันเหรอ"
"วันแค่ไปเอาของกินมาเผื่อน้อง ๆ ครับ ของกินเลี้ยงแขกเหลือทุกคืน"
"แม่มึงไม่สบายยังงี้ มึงจะมีแก่ใจทิ้งแม่ไปวัดอีกเหรอ"
"คืนนี้วันไม่ไปก็ได้ครับ"
วันเฉลิมตั้งอกตั้งใจนวดบรรเทาปวดให้ลำยอง
"แม่ดีขึ้นไหมครับ"
"อือ...กูว่าที่ปวดเนี่ย เพราะกูไม่ได้กินเหล้าแหง ๆ เลย"
วันเฉลิมสงสาร เห็นใจแม่
เวลาค่ำ พระสวดเสร็จ แขกกลับกันไปหมดแล้ว ปั้นเคาะโลงบอกผัว
"ตาสิน...ฉันกลับบ้านก่อนนะ พรุ่งนี้จะมาแต่เช้า"
ปั้นจะขยับออกมาหยิบตะกร้าข้าวของ เทวีขยับมาช่วยหิ้วตะกร้า
"แม่ค่ะ หนูนึกออกแล้ว ว่าจะช่วยวันเฉลิมได้ยังไง"
เช้าวันใหม่ บ้านลำยอง
"มึงว่าอะไรนะ...มึงจะเปิดห้องให้เช่าอีก" แลว่า
"แล้วทำไมฉันจะเปิดไม่ได้"
"กำนันเสือเขาขอเอาไว้ไม่ใช่เหรอ"
"บ้านนี้มันบ้านฉัน"
"เขาเห็นแก่ไอ้วันมันถึงคืนบ้านให้มึง เขาไม่อยากให้ลูก ๆ มึงยังกะอยู่ในสลัม"
"สลัมแล้วไง ไม่มีจะกินมันก็สลัมเหมือนกันละโว้ย ไอ้เฒ่าเฮงซวยบอกว่า จะหาเลี้ยงก็เลี้ยงให้ตลอดสิโว้ย"
"มึงทำตัวมึงเองนะ อีลำยอง มึงทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า บุญขนาดไหนแล้วที่ยังมีที่ซุกหัวนอนเนี่ย อีบ้า มึงเคยมองเข้าไปในลูกกะตาลูก ๆ มึงบ้างไหม ตามึงบอด ใจมึงบอดใช่ไหม มึงถึงไม่เห็นอะไรในนั้นเลย"
ลำยองสะบัดหน้าหนี กัดฟันแน่น น้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน ยายแลเห็นมือลำยองสั่น ยกมือขึ้นป้ายน้ำตา
"มึงเป็นอะไร สั่นยังกะสันนิบาต"
ลำยองหันกลับมา
"เอาเงินมายืมหน่อยแม่ จะเอาไปจ่ายค่าข้าวสาร เชื่อมันมาสองเดือนแล้ว ยังไม่ได้จ่ายมันเลย"
"มึงนะมึง... ไอ้วัน ไอ้วัน"
วันเฉลิมเข้ามา
"ครับยาย"
"เอาตังค์นี่ไปจ่ายค่าข้าวสารเขาซะ"
ยายแลควักเงินออกมาจากเสื้อชั้นใน ยังไม่ทันจะยื่นให้วันเฉลิมลำยองก็คว้าหมับไปเอง
แล้วเดินลิ่วขึ้นข้างบนไป ยายแลทั้งเซ็งทั้งโกรธ ตะโกนตาม
"ให้มันถึงร้านข้าวสารจริง ๆ เหอะอีลำยอง"
อ่านต่อเวลา 17.00น.
ยายแลเดินหัวเสียกลับมาถึงเพิงก๋วยเตี๋ยวแล้วชะงัก ปั้นแต่งตัวไว้ทุกข์นั่งอยู่ในร้าน
"นังลำดวน"
"มาแล้วเหรอแม่ ป้าปั้นเขามานั่งคอยแม่พักใหญ่แล้ว"
"มันมาทำไม"
"แกบอกมีธุระสำคัญจะคุยกะแม่"
"ธุระอะไร...กูไม่คุย"
ลำยงนั่งอยู่กับปั้นหันมาเห็นแล
"เอ้า...แม่มาแล้ว"
ปั้นหันมามองแล
ยายแลสะบัดหน้าพรืด เดินไปทางหลังร้าน
"แม่...ป้าปั้นแกอยากคุยกะแม่แน่ะ"
"กูไม่มีอะไรจะคุย"
ปั้นบอกกับลำยง
"บอกแม่เอ็งไป...แก่ ๆ จนจะลงโลงกันแล้ว อย่ามาทำตัวเป็นเด็กเล่นขายของ"
"นังลำดวน บอกมันไปว่าคนอย่างกูเกลียดใครแล้วเกลียดเลยโว้ย กูยังจำได้ทุกคำว่า มันด่ากูว่ายังไง"
"บอกแม่เอ็งไป...นั่นมันชาตินึงแล้วโว้ย"
"บอกมันไป..."
ยายแลยังพูดไม่จบ ลำดวนรำคาญบอก
"โอ้ย...มันจะอะไรนักหนา แม่ ไอ้ที่แล้วมาก็ให้มันแล้วไปไม่ได้รึไง มีอะไรก็คุยกันดี ๆ เหอะ ป้าปั้นแกอุตส่าห์มา"
ลำดวนดึงลากแม่ที่ดิ้นขัดขืนเอามาเผชิญหน้า
"กูไม่คุย...กูไม่คุย"
ปั้นลุกมาเผชิญหน้าแล
"เรื่องไอ้วัน เอ็งไม่อยากคุยรึไง นังแล"
แลชะงักกึกเผชิญหน้าปั้นอย่างเต็มตา
ร้านโชห่วยกลางซอย ลำยองรับเหล้ากั๊กมามือไม้สั่นจนเหล้าในจอกแทบหกกระฉอก พยายามประคองสองมือ ยิ่งกระฉอก เหล้าจะเข้าปากอยู่แล้ว แต่ดันกระฉอกหกลงเปื้อนกระเป๋าถือ
ลำยองรีบซดเหล้าในจอก แล้วเลียเหล้าที่หกอย่างเสียดายจับจิต คนขายของมองอย่าเอนจอนาถใจ ทุเรศจัง
"มองอะไร"
คนขายเก็บจอกเหล้าคืนไป
"เอามาขวดนึงเลยละกัน"
เพิงก๋วยเตี๋ยว แลบอก
"เออ...ข้าจะลองดูแล้วกัน แต่ไม่รับปากนะโว้ยว่าจะสำเร็จ"
"มันต้องสำเร็จ นังแล...นี่เป็นโอกาสเดียวที่เอ็งกับข้าจะช่วยไอ้วันมันได้ ไม่งั้นไอ้วันมันก็ไม่ต่างไปจากตกนรกทั้งเป็นหรอกโว้ย"
ปั้นจะเดินออกมา
"เดี๋ยวนังปั้น..เอ็งบอกมาซิไอ้เรื่องเนี้ย ใครมันเป็นคนออกความคิด อย่าบอกนะว่าผีตาสินมันมาเข้าฝันเอ็ง"
"เอ็งว่าความมันดีเข้าท่าใช่ไหมล่ะ"
"เข้าท่าสิวะ คนฉลาดๆอย่างข้า ยังคิดไม่ถึงเลย"
"เอาเหอะ เอาไว้ให้สำเร็จซะก่อน แล้วข้าจะบอกเอ็ง"
ปั้นเดินออกไปทางหนึ่ง
ลำยองเดินออกมาจากทางหนึ่ง ก้มๆเงยๆเก็บขวดเหล้าในกระเป๋า เห็นด้านหลังของปั้นเดินไกลๆ อออกไปจากเพิงก๋วยเตี๋ยว
"อีปั้น"
ลำยองรีบเข้ามาที่เพิง
"แม่...อีปั้นมันมาทำไม"
ยายแล, ลำยง, ลำดวน หน้าตื่น...ความแตกแน่แล้ว
"ไหน อีปั้น ไหน"
"ก็กี้ฉันเห็นมันเดินออกไป อีปั้นแน่ๆ ฉันเห็นกับตา"
"ตาฝาดแล้วมึงน่ะ ขืนอีปั้นมันกล้ามาเหยียบถึงถิ่นกู ได้แหลกกันไปข้างนึงแน่"
"ไม่ตาฝาดก็เมาแต่หัววันแล้วละ กลิ่นเหล้าหึ่งเลย" ลำดวนบอก
"กูให้เงินไปเฉ่งค่าข้าวสารมึงเอาไปซื้อเหล้าเรอะ"
ยายแลเล่นบทโวยวายใส่ลำยองเพื่อหันเหประเด็นทันที
ควันจากการเผาศพลอยออกมาจากปล่องเมรุ วันเฉลิมยืนอยู่มุมหนึ่ง สันต์เดินเข้ามาหา
"วัน พรุ่งนี้ไปสอบ ตั้งใจทำให้เต็มที่นะลูก ถ้าสอบเข้าโรงเรียนวัดปากน้ำได้ พ่อจะดีใจที่สุด"
วันเฉลิมน้ำเสียงไม่เต็มปาก
"ครับ"
"ถึงไม่ได้บวชให้ปู่ก็ไม่เป็นไร ปู่คงดีใจเหมือนกัน ถ้าวันตั้งใจเรียนต่อให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะไปได้"
เสือยืนสงบมองเมรุอยู่มุมหนึ่ง ยายแลเดินเข้ามาหา
"กำนัน ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษา"
"เรื่องลูกสาวเอ็ง ข้าไม่ฟังแล้วโว้ย นังแล จบกันไปแล้ว ข้าอโหสิกรรมให้ไปแล้ว"
"กำนันอุตส่าห์คืนบ้านให้มัน บุญคุณกำนันครั้งนี้ชาตินี้ชาติหน้า ก็ใช้ไม่หมด"
"ไม่ต้องมาสรรเสริญเยินยอข้า ข้าไม่ได้ทำบุญทำทานให้ลูกสาวเอ็ง ข้าเห็นแก่หลานเอ็งคนเดียว"
"ฉันรู้...แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว กำนันสงเคราะห์มันให้ถึงฝั่งอีกหน่อยได้ไหม"
"เอ็งพูดอะไรของเอ็งวะ นังแล"
วันเฉลิมกลับเข้าบ้านมา ภายในบ้านมืดสนิท เพราะลำยองออกไปตั้งแต่กลางวันแล้ว
"แม่ครับ...แม่"
วันเฉลิมเปิดไฟแล้วได้ยินเสียงน้อง ๆ ร้องไห้กันกระจองอแง วันเฉลิมรีบวิ่งไปที่ห้อง สายยูถูกคล้องไว้ด้วยตะปูงอ วันเฉลิมรีบปลดตะปู เปิดประตูเข้าไป น้อง ๆ ถูกขังเอาไว้รวมกันในห้อง ทั้งมืด ทั้งหิว ทั้งกลัว เด็ก ๆ กำลังจะฉีกเนื้อกันกินเป็นอาหารค่ำกันอยู่รอมร่อ
"น้องอ้อย น้องเหน่ง พี่วันมาแล้วครับ อย่าร้องน่ะ โอ๋ ๆ จิตรา ไม่ต้องกลัว หิวข้าวใช่ไหม เดี๋ยวเราไปหุงข้าวกินกันนะ"
วันเฉลิมอุ้มน้องขึ้นมาปลอบเป็นคน ๆ ไป สร้างรู้สึกทิ้งน้องไปไม่ได้ให้วันเฉลิมหนักหน่วงขึ้น
ยายแลโวยวาย
"มันขังไอ้สามตัวนี้ไว้ แล้วตัวมันไปไหน"
"ผมไม่รู้ครับ แม่คงออกไปนานแล้ว"
วันเฉลิมป้อนข้าวน้องคนละคำ
"เวรแท้ ๆ เกิดฝืนไฟไหม้ขึ้นมาจะทำยังไง เกิดอีอ้อยมันซนเอานิ้วแหย่เข้าไปในรูไฟ จะเป็นยังไง แม่เอ็งนี่มันไม่มีหัวคิด"
"ผมผิดเองครับยาย ถ้าผมไม่ไปเผาศพปู่ ก็คงมีคนอยู่กับน้อง ๆ"
"เอ็งไม่ต้องมาออกรับแทนมัน ผีเหล้าผีพนันคงเข้าสิงมันจนไม่เหลือความเป็นคนแล้ว"
"ยายอย่าว่าแม่เลยครับ"
"ทำไมข้าจะว่ามันไม่ได้ สารพัดความเลวความชั่วอยู่ในตัวแม่เอ็งขนาดนี้ ไอ้วัน"
วันเฉลิมน้ำตาร่วงเผาะ
ในบ่อน ใกล้บ้าน ยายแลเข้ามากลางบ่อน ผู้คนคึกคักเงินสะพัด
"เฮ้ย...นังลำยองมันมานี่รึเปล่า" แลถาม
"มา...มันมาเล่นอยู่พักนึง หมดตูดแล้วมันก็ไป"
ยายแลเซ็ง หันกลับมาจะกลับออกไป วันเฉลิมตามเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
"ข้าบอกให้รออยู่ข้างนอก เอ็งตามเข้ามาทำไม ไอ้วัน"
"ยายไม่เจอแม่เหรอครับ"
"มันออกไปแล้ว...ไป ๆ ๆ เป็นเด็กเป็นเล็ก เอ็งอย่าเห็นมันเป็นดี ไอ้เรื่องอุบาทว์พรรค์นี้"
ยายแลลุนหลังต้อนวันเฉลิมให้รีบอออกไป
ยายแลเดินมากับวันเฉลิม
"เอ็งกลับบ้านไปเหอะ ไม่ต้องไปสนใจมันแล้ว ช่างหัวมัน จะไปเมาหัวราน้ำที่ไหน ก็ปล่อยมัน"
"แต่วันก่อนแม่บ่นว่าปวดไปทั้งตัวเลยนะครับยาย"
"ไม่ปวดได้ยังไง ก็มันอยากเหล้า ไป เอ็งกลับไปเหอะไม่ต้องไปห่วงมันหรอก พรุ่งนี้เอ็งไปสอบแต่เช้านะ"
ยายแลเดินแยกออกไป วันเฉลิมละล้าละลังแต่ตัดใจจะเดินกลับบ้าน แล้วชะงัก
ข้างถนนวันเฉลิมเห็นร้องเท้าลำยองตกอยู่ข้างหนึ่ง เก็บรองเท้าขึ้นมาดูให้แน่ใจ แล้วมองหา..จนเห็น
"ยาย ยาย"
ยายแลรีบกลับมา วันเฉลิมรีบลุยเข้าไปในพงหญ้าเพราะเห็นขาลำยองโผล่ออกมา
"แม่ แม่"
สภาพลำยองเหมือนถูกฆ่าหมกป่า แต่ปรากฏว่านางกอดขวดเหล้าเปล่าแน่นไว้กับอก
วันเฉลิม, ยายแลช่วยกันดึงแขนคนละข้าง ลากลำยองเข้ามาในบ้านจนหมดเรี่ยวแรง
"ทำไมมันถึงได้ทุเรศทุรังยังงี้โว้ย"
"แม่ครับ แม่"
"ช่างหัวมันเหอะไอ้วัน มันไม่รักตัวเองไม่ดูแลตัวเองแล้วเราจะไปสนใจมัน ทำไม ปล่อยมันอยู่นี่แหละ เอ็งไปเข้านอนซะ ดึกแล้ว พรุ่งนี้จะตื่นไม่ทัน"
วันเฉลิมวิ่งออกไปหลังบ้าน ยายแลพักเหนื่อย ได้แต่นั่งมองสภาพลำยองอย่างอเนจอนาถใจ วันเฉลิมกลับมาพร้อมผ้าชุบน้ำและเช็ดเนื้อตัวให้แม่ ยายแลถอนใจและตัดสินใจแน่วแน่ที่จะทำตามแผนโดยเร็วที่สุด
วันเฉลิมเช็ดตัวให้ลำยองอย่างตั้งอกตั้งใจ
เช้าตรู่ บนเมรุวัด กองกระดูกที่ยังเหลือจากการเผาในถาดรองเผาศพ ถูกรวบรวมเป็นกองเหลือนิดเดียว ดอกไม้และน้ำอบถูกพรมลง เสียงพระสวดดัง
ปั้น, สันต์, เทวี ช่วยกันเก็บกระดูก
"หมดห่วงเถอะตาสิน ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว"
วันเฉลิมแต่งชุดนักเรียนจะไปสอบ รีบลงมาจากข้างบน ลำยองยังนอนแบะอยู่ที่เดิม
"แม่ครับ วันต้องไปสอบแล้วนะครับ น้อง ๆ อยู่ในห้องข้างบน วันหุงข้าวไม่ทัน แม่หาข้าวให้น้อง ๆ กินด้วยนะครับ"
วันเฉลิมรีบมาหยิบรองเท้าผ้าใบขาด ๆ จะสวม
ลำยองครางอวด
"ไอ้วัน"
"ครับแม่"
"กูปวดหัว"
"แม่นอนพักก่อนนะครับ วันสอบแค่สองวิชา วันจะรีบกลับมา"
วันเฉลิมผละออกไปแล้ว
"ปวดจนจะระเบิดอยู่แล้ว กูจะตายอยู่แล้ว มีแต่คนใจดำ"
วันเฉลิมชะงัก หันกลับมามองแม่ที่ครวญคราง
สันต์อุ้มห่อกระดูกสิน, เทวีหิ้วตะกร้าให้ปั้นมาถึงกลางซอย สันต์ชะงักเพราะเห็น วันเฉลิมกึ่งเดินกึ่งวิ่งรีบเร่งมาแต่ไกล
"วัน...ไปไหนลูก พ่อนึกว่าวันไปถึงโรงเรียนแล้วนะ"
"ผมจะไปหายายครับ แม่ไม่สบาย ผมต้องไปขอตังค์ยายไปซื้อยาให้แม่ก่อน"
"แล้วจะไม่ไปสอบรึไง"
"เรื่องเรียนต่อของผมไม่สำคัญเท่าเรื่องของแม่หรอกครับ"
ปั้น, เทวีพูดไม่ออก
ยายแลหิ้วถุงกระดาษใส่ไก่ย่าง ข้าวต้มมัดเข้ามา ลำยองนั่งโทรม หน้าป่วยอยู่กลางกองที่นอน-ผ้าห่ม อ้อย, เหน่ง, จิตรา ยั้วเยี้ยอยู่ไม่ไกล
"ไงล่ะมึง รู้งี้ กูกะไอ้วันไม่ลากมึงกลับมาจากพงหญ้าซะก็ดี"
"แล้วลากมาทำไมล่ะ"
"มึงรู้ไหมว่า ไอ้วันมันไม่ยอมไปสอบเรียนต่อก็เพราะมึง"
"ไม่ได้เรียนต่อแล้วมันจะตายเหรอ ยังไงมันก็ต้องไปทำงานโรงงานหาเงินมาเลี้ยงแม่ เลี้ยงน้องมัน"
"เจริญละ คิดอย่างมึงเนี่ย เอ้าเฮ้ย พวกเอ็ง มาเอาข้าวต้มมัดไปกิน"
ยายแลหยิบข้าวต้มมัดออกมา ปอกเปลือกใบตองออก แจกจ่ายหลานทุกคน
"ไก่ย่างนี่เดี๋ยวเอาไว้กินกับข้าว"
"ไปรวยอะไรมา ซื้อไก่ย่างมาฝากเนี่ย"
ยายแลเร้าตามสนใจ อมพะนำเอาไว้ก่อน
"รวยอะไรก็ช่างข้าเหอะ"
"ถูกหวยเหรอ...ได้เลขเด็ดทำไมไม่บอกกันมั่ง"
"เออ...ถูกนิดๆ หน่อย ๆ เท่านั้นแหละ"
ยายแลพูดพลางตะโกนเรียกหลานชาย
"ไอ้วัน...ไอ้วัน ทำอะไรอยู่วะ มากินข้าวต้มมัดก่อนโว้ย"
ลำยองสนใจเรื่องแลถูกหวย
ภายในครัว วันเฉลิมคนหม้อข้าวที่กำลังเดือด
"ไอ้วัน...ไอ้วัน"
"ครับยาย"
วันเฉลิมปิดฝาหม้อ ยกหม้อข้าวลงจากเตา แล้วยกกาน้ำขึ้นตั้งไฟแทน
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 11 (ต่อ)
อ้อย, เหน่ง จิกหัวกบาลกันแย่งข้าวต้มมัดกระจองอแง วันเฉลิมเข้ามาจากหลังบ้าน
"ข้าวต้มมัด เอ็งกินซะ"
"ยายให้น้องเถอะครับ"
"มันกินกันแล้ว...เนี่ย ของเอ็ง ตัวเองเอาให้รอดก่อนไอ้วัน"
วันเฉลิมจำใจรับข้าวต้มมัดมาค่อยๆแกะใบตองออก
"แม่ยังไม่บอกฉันเลย ได้เลขเด็ดที่ไหนมา"
"เขาไม่ให้บอก"
วันเฉลิมกินข้าวต้มมัด
"ใจคอจะรวยคนเดียวรึไง"
ยายแลทำเป็นกวาดสายตาไปมองวันเฉลิม แล้วตะลึงตาค้าง
"ขนาดซื้อไก่ย่างมาฝากได้นี่ ต้องถูกเป็นร้อยเป็นพันน่ะ"
"เฮ้ย..."
ลำยองชะงักตกใจ วันเฉลิมก็ตกใจ ข้าวต้มมัดคาปากคำโต
"อะไรแม่"
"อีลำยอง...มึงดูอะไรบนหัวไอ้วันมันสิ"
"อะไร...ไม่เห็นมีอะไรเลย"
วันเฉลิมงง แหงนมองขึ้นไปบนหัวตัวเอง
ยายแลทำขยี้ตา
"มึงดูดีๆสิอีโง่ มึงไม่เห็นได้ยังไง"
ลำยองรีบคลานมาอยู่ข้างๆแม่
"แม่เห็นอะไร"
"กูไม่รู้...แต่เป็นเงาๆ ทองๆสุกอร่ามไปหมดเลย มึงดูสิ มึงดู"
วันเฉลิมยิ่งงง
"ทำไมฉันไม่เห็นเลย"
ยายแลยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว
"กูขนลุกไปหมดแล้ว พระพุทธรูป อีลำยอง พระพุทธรูปประทับบนดอกบัว สีทองสุกปลั่งไปหมดเลย.. ไอ้วันเอ๊ยไอ้วัน"
ยายแลก้มลงกราบวันเฉลิมสามที อย่างกราบพระ
วันเฉลิมตกใจ
"ยาย อย่า"
"อีลำยอง อีบ้า มึงยังนั่งเฉยอยู่อีก พระผ่านมาโปรดถึงนี่แล้วนะมึง"
ลำยองได้สติยกมือขึ้นไหว้ แล้วกราบวันเฉลิมทันที
"แม่ อย่าครับ"
วันเฉลิมกระถดถอยหนี เพราะลำยองเข้ามากราบจนเกือบจะถึงตัว
อ้อย, เหน่ง, จิตรา กินไก่ยางอย่างเอร็ดอร่อย ตายยอดตายอยาก เลอะเทอะกันทั้งสองมือ เปื้อนขึ้นไปถึงหน้า วันเฉลิมจัดสรรปั่นส่วนไก่ย่างให้น้อง ๆ กันไม่ให้เกิดสงครามขึ้น
"เจ้าประคุณเอ๋ย..มิน่าล่ะ หมอชดแกถึงว่า ข้ามีลูกหลานมีบุญวาสนา คนจะกราบไหว้ทั่วบ้านทั่วเมือง มันเป็นยังงี้นี่เอง"
"ยังงี้น่ะ มันยังไงแม่"
"ก็ไอ้วันน่ะมันต้องเป็นพระมาเกิดแหงๆ มันถึงได้เป็นเด็กดีมีกตัญญู มีน้ำใจผิดคนอื่นเขายังงี้ มันยอมเสียสละทุกอย่าง แม้แต่ความสุขสบาย แม้แต่อนาคตของมันเอง เพื่อแม่เพื่อน้อง โอ๊ย พูดแล้วขนลุก"
วันเฉลิมรู้สึกแปลกใจและอึดอัด
"ฉันว่าแม่ตาฝาด"
"ไม่ฝาดโว้ย กูเห็นกะตา หมอชดนี่แกดูแม่นจริงๆ แม่นอะไรยังงี้"
"ใครแม่ หมอชด หมอดูเหรอ ให้หวยให้เลขด้วยรึเปล่า"
"อีบ้า หมอชดแกเป็นหมอยาไทยโว้ย ยากวาดคอเด็กของแกน่ะ เลื่องชื่อยังกะอะไรดี"
"โธ่เอ๊ย หมอเดา"
"ปากดีไปนะมึง อีลำยอง หมอชดแกเป็นคนถือศีลเคร่งครัดนะโว้ย แกมีวิชาแต่ไม่เคยอวดใคร ปกติแกไม่รับดูหมอให้ใครหรอก แต่เผอิญวันนั้นข้าไปขอเจียดยามาให้พ่อเอ็ง แกนึกยังไงก็ไม่รู้ ดูดวงให้ข้าขึ้นมา"
"แม่พาฉันไปมั่งสิ เผื่อจะได้เลขเด็ดมาแทงใต้ดินกัน"
"โอ้ย.. แกไม่ดูให้ใครง่ายๆ หรอกโว้ย"
"งั้นก็เอานังจิตรามันไปกวาดคอ แล้วฉันจะปะเหลาะให้แกดูดวงให้เอง ไอ้วัน เอ็งอุ้มนังจิตราไปกะข้า"
"มึงจะไปเดี๋ยวนี้เลยเรอะ"
"ก็จะรออะไรล่ะแม่ โรควาสนามันคอยใครที่ไหนกัน"
บ้านหมอชด ภาชนะผสมยากวาดคออยู่ในมือหมดชด หมอชดใช้นิ้วชี้ผสมยาไปมาในภาชนะ จนนิ้วเปื้อนดำๆเขียวๆ จิตราในตักยายแล
"เอ้า อ้าปากดูหน่อยซิ คนเก่ง"
ระหว่างกวาดยาใส่คอ จิตราแหกปากร้อง
"แหม...คองี้สากจริงๆเลย เป็นเม็ดเต็มไปหมด ต้องเอามากวาดซ้ำอีกนะ แม่แล ให้แม่เขาพามาก็ได้ กวาดเสียสักสามหนก็หาย ทีนี้จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้"
ลำยองรอจังหวะจะให้ชดดูดวง
"จ้ะ คราวหน้าเอ็งพามันมาเองนะนังลำยอง"
วันเฉลิมชะเง้อมองเข้าไปในห้องด้านใน
"คราวนี้เลยไม่ได้เหรอ"
"ก็หมอแกบอกต้องกวาดสามหนมึงไม่ได้ยินรึไง"
วันเฉลิมเห็นในห้องนั้นตั้งโต๊ะหมู่บูชาชุดใหญ่ มีพระพุทธรูปปางต่างๆตั้งไว้มากมาย
วันเฉลิมมองอย่างสนใจจริงๆ
"ไอ้หนู...มองอะไร หือ"
ชดถามพลางเช็ดมือกับผ้าขาวม้า
"พระพุทธรูปน่ะครับ..งามๆทั้งนั้นเลย"
วันเฉลิมยกมือไหว้พระ
"สนใจก็เข้าไปดูสิ ไม่ห้ามไม่หวงหรอกมาสิ"
ชดลุกขึ้นเดินนำ วันเฉลิมตาม ลำยองทะลึ่งลุกพรวด
"ในนั้นต้องมีอะไรเด็ดๆแน่เลยแม่ แกคงจะบอกใบ้ให้แล้วละ"
ลำยองรีบตามเข้าไปทันที ยายแลเงอะงะเพราะต้องอุ้มจิตรา
วันเฉลิมคลานเข่าเข้ามาชมพระพุทธรูปบนโต๊ะหมู่บูชา
"องค์นี้พระปางอะไรรู้ไหม" ชดถาม
"ปางห้ามญาติครับ"
"รู้ไหมว่า ทำไมพระพุทธองค์ต้องห้ามญาติห้ามเรื่องอะไร"
"ท่านห้ามพระญาติสองตระกูลที่แย่งน้ำทำนากัน ทะเลาะวิวาทฆ่าฟันกันครับ เป็นการระงับสงครามระหว่างเครือญาติ"
ลำยองสอดส่ายสายตาไปทั่วทุกมุมบนโต๊ะหมู่บูชาหาเลขเด็ด
"ปางนี้เป็นปางที่พระพุทธองค์ทรงเอาชนะพระยามารวัสวดีได้ครับ พระองค์ประทับขัดสมาธิมือซ้ายวางหงายบนตัก มือขาววางบนเข่า นิ้วชี้ที่ดินพระยามารจะมาชิงบัลลังก์ที่ประทับตอน จะตรัสรู้ของพระองค์ พระองค์ทรงอ้างแม่พระธรณีเป็นพยานว่า บัลลังก์แก้วนั้นเป็นของพระองค์ หลังจากนั้นพระองค์ก็ตรัสรู้ครับ"
ลำยองสะกิดแลให้ดูในอ่างน้ำมนต์ น้ำตาเทียนเรียงตัวกันเป็นเลขที่สารพัดจะเดา
"อืม...ใครสอนเจ้า"
"หลวงตาปิ่นครับ"
"เจ้าเป็นอะไรกับหลวงตาปิ่น"
ลำยองสะกิดแม่ดู ขี้ธูปที่ค้างอยู่กับก้านธูปเป็นเลขอะไรสักอย่าง
"หลานครับ ผมชื่อวันเฉลิมพ่อผมชื่อสันต์ หลวงตาปิ่นเป็นพี่ชายตาผมครับ"
"อืม...ไหนเจ้าบอกหมอว่ากรรมคืออะไร"
"กรรมคือการกระทำครับ ผู้ใดทำกรรมใดก็ต้องชดใช้กรรมนั้นครับ ไม่อาจทดแทนกันด้วยกรรมอื่นได้ ใครทำบาปก็ต้องรับบาป ไม่ใช่ว่าทำบุญ แล้วจะแก้กันไปได้ครับ"
ชดมองวันเฉลิมอย่างพอใจก่อนจะเบนสายตาตาไปมองลำยองที่สาละวนมองทำเลขเด็ด
กล่องใส่พระเครื่อง ถูกหยิบออกมาจากบนตั่ง ลำยองหูตาพองสะกิดแม่ยิกๆ
"แกแจกของดีแล้วแม่ แจกของดีแล้ว"
ลำยองกระถดริกๆเข้ามาเตรียมแบมือ ชดหยิมพระโลหะองค์หนึ่งออกมา ผูกเข้ากับด้ายสายสิญจน์แล้วคล้องใส่คอวันเฉลิม
"ห้อยคอไว้ พระจะได้คุ้มครอง ถ้าได้บวชก็ถอดบูชาไว้บนหิ้งพระนะลูกนะ คิดว่าเจ้าคงได้สืบพระศาสนา ถ้าเจ้าได้บวชจะช่วยไถ่บาปให้พ่อแม่ ช่วยให้แม่พ้นเคราะห์ ประสบแต่ความสุขความเจริญหวังว่าจะไม่มีใครขัดไม่ให้เจ้าเข้าสู่พระศาสนา"
วันเฉลิมนิ่งตะลึง ยายแลลุ้นแทบลืมหายใจ
"ให้เขาบวชเหรอจ๊ะหมอ"
"ถ้าได้บวชจะเจริญยิ่งนักละ เขาเป็นพระมาในชาติก่อน ชาตินี้ยังไงก็ต้องบวช กุศลถึงจะยืดยาวติดต่อกัน"
"แต่..."
"แม่ก็จะโชคดี พ้นทุกข์พ้นเคราะห์ พ้นโศก ได้ลาภ ยศสรรเสริญ กรรมอันใดที่พ่อ
ก่อไว้ก็จะสูญไป คนที่จะได้บุญมากที่สุด คือคนที่อุ้มท้องเขามาให้เขาได้มาอาศัยเกิด...ลูกไม่ใช่ของเรานะแม่คุณ ถ้าแม่กักไว้ไม่ให้บวชจะบาปหนัก ทำอะไรก็ไม่เจริญ" ชดบอก
ลำยองพูดกับแล
"ถึงว่า ฉันเสียไพ่เสียไฮโลหมดตัว ก็เพราะยังงี้นี่เองนะแม่"
"เออ ก็ข้าบอกแล้ว เขาเป็นพระมาเกิด"
"ขนลุกไปหมดเลย"
ลำยองบอกชด
"แต่ฉันไม่มีเงินบวชให้เขาหรอกนะจ๊ะหมอ"
"จะบวชจริงๆ เงินทองมันไม่ต้องใช้ซักบาท"
"แต่ผมไม่อยากบวช"
ชดอึ้ง ยายแลตาค้าง
"ถ้าผมบวชแล้วใครจะดูน้อง"
"เออ...จริงๆน่ะแหละ" ลำยองว่า
"ยังงั้นก็เท่ากับไม่อยากให้แม่เจริญนะสิ"
"เออ...จริงๆด้วย เอ็งไม่อยากให้แม่เจริญรึไงวะไอ้วัน" แลถาม
"ก็แม่เอาแต่กินเหล้าเล่นไพ่ แล้วใครจะดูบ้านเลี้ยงน้องละครับ"
"เอาวะ ข้าจะกินเหล้าให้น้อยลงก็ได้ เอ็งคอยดู ข้าจะกินให้น้อยลงๆ จนอดได้ซักวัน ข้าสัญญา"
"นังลำยอง...เอ็งพูดต่อหน้าพระนะโว้ย"
"ก็ต่อหน้าพระน่ะสิแม่ ดี จะได้ขลังไงล่ะ ไอ้วัน แม่จะอยู่บ้าน จะพยายามหยุดเหล้า หยุดเล่นไพ่"
วันเฉลิมได้แต่ตาปริบๆ
"เอ้า ... สัญญาต่อหน้าพระนี่แหละ"
"แน่นะโว้ย นังลำยอง เอ็งกลับคำไม่ได้นา พระลงโทษไปไม่รู้กี่ชาติเชียวละมึง"
ลำยองลังเลเหมือนกันแต่บอก
"เหอะน่า.. ฉันสัญญา"
"แม่"
"ดีละ พ่อคุณ ขอให้จำเริญๆ ทั้งแม่ทั้งลูก" ชดบอก
ลำยอง วันเฉลิมยกมือไหว้รับพร ชดมองสบตายายแลแว่บนึง ยายแลซาบชึ้งหลังจากลุ้นตัวโก่งน้ำตาคลอที่แผนสำเร็จ ปากได้แต่ขอบคุณหมอชดเงียบๆ
วันเฉลิมอุ้มจิตรา ตามลำยองและยายแลลงมา
"ฉันไม่มีเงินเลยนะแม่ จะบวชมันยังไง"
"เออน่า... เดียวกูจัดการเอง"
"ค่าหนังกลางแปลง ค่าวงคนตรี ค่ายี่เก ค่าโต๊ะจีนอีก จะไปเอาที่ไหนมาจ่าย"
"อีบ้า บวชเพื่อเรียนพระศาสนาโว้ย ไม่ใช่บวชเพื่ออวดใครว่ารวย"
"แม่ครับ..." วันเฉลิมอยากจะพูดต่อว่า เอาให้อดเหล้าได้จริงๆก่อนดีไหม
"มึงไม่ต้องมาทำอิดออดเลยนะ ไอ้วันพรุ่งนี้ยังไงมึงก็ต้องบวช แหม ความจริงบวชวันนี้เลยได้ก็ดีสินะแม่ ฉันจะได้เฮงๆๆเร็วๆ"
ชดไหว้พระหน้าโต๊ะหมู่บูชา
"ลูกขอขมาลาโทษ วันนี้ลูกจำใจต้องทำผิดศีลข้อมุสา ลูกรู้ว่ามันเป็นบาปแต่เพื่อช่วยเด็กคนหนึ่งให้พ้นขึ้นมาจากที่ต่ำ บาปครั้งนี้ลูกขอน้อมรับเอาไว้ด้วยตัวลูกเอง"
ชดกราบเบญจางคประดิษฐ์หน้าพระบนโต๊ะหมู่บูชา พระพักตร์เต็มไปด้วยความเมตตา
ที่เรือนแพ ปั้นถามแลอย่างไม่แน่ใจ
"จริงๆนะ นังแล เอ็งไม่ได้มาตอแหลให้ข้าฟังนะ"
"คนอย่างอีแลตอแหลเป็นมื้อเป็นคราวไปโว้ย ไม่ได้ตอแหลพร่ำเพื่อ มันเหนื่อยโว้ย
ยิ่งแก่ยิ่งเหนื่อย"
"พรุ่งนี้เลยใช่ไหม น้าแล" สันต์ว่า
"เออ ทีแรกนังลำยองมันใจร้อน จะให้บวชวันนี้เลยด้วยซ้ำ"
"มันไม่ได้สงสัยอะไรใช่ไหม" ปั้นถาม
"ยี่เกเก่าอย่างข้า ลุกขึ้นมาเล่นทั้งทีมันต้องตีบทให้แตกกระจุยสิวะ"
ปั้นจับมือยายแลอย่างจริงใจ
"ขอบใจเอ็งนะ ขอบใจมาก ความจริงเอ็งมันก็เป็นคนดีมีน้ำใจ"
ยายแลมองมือที่ถูกปั้นจับพยายามแกะออกทำสะบัดสะบิ้ง
"มาขอบอกขอบใจทำไม ไอ้วันมันก็หลานข้า ข้าทำเพื่อหลานข้าโว้ย ไม่ได้ทำเพื่อเอ็งซะหน่อย"
"ยังไงก็ได้บุญด้วยกันทั้งนั้นแหละ น้าแล" สันต์บอก
ยายแลค้อนปะลักปะเหลือกจนหันมาเจอเทวีที่ยิ้มเงียบอยู่
"เราควรจะรีบเตรียมอะไรต่ออะไรให้พร้อมนะคะสันต์ พรุ่งนี้จะฉุกละหุก"
บนกุฏิหลวงตาปิ่น
"ดีแล้ว... ดีจริงๆ คราวนี้ก็คงหมดห่วง หมดกังวลกันได้ซะที ถึงจะเอาดีทางโลกไม่ได้ ก็เอาดีทางธรรมไปก็แล้วกัน ยังไงก็ช่วยเพื่อนมนุษย์ได้เหมือนกัน"
"จะบวชพรุ่งนี้เลยนะครับหลวงลุง ไม่เร็วไปใช่ไหมครับ" สันต์ถาม
"ไม่มีฤกษ์อะไรดีเท่าฤกษ์สะดวก ขอจิตใจพร้อมที่จะบวชอย่างเดียว"
"ครับ"
"เอ็งไปกราบนิมนต์ท่านสมภารท่านชะ ให้ท่านมาเป็นพระอุปปัชฌาย์มาให้"
"ครับหลวงลุง"
"นี่ดีใจกันทั้งบ้าน เลยละสิ"
"ครับ...ผมหมดห่วงเรื่องเจ้าวันแล้ว ผมคงนอนหลับได้เต็มตาเสียทีครับ หลวงลุง"
ปั้นเอามือลูบรูปถ่ายสินในกรอบ
"พรุ่งนี้ไอ้วันมันจะบวชแล้วนะตาสิน สมใจแกแล้วละสิ"
เทวียิ้มสบายใจอยู่มุมหนึ่ง ก่อนจะหันไปเห็นยายแลเดินเข้ามาอีกครั้ง
"แม่คะ...ยัยแลแกมา"
"มันมาทำไมของมันอีก สงสัยจะมาขอเงินค่าเหนื่อย"
ปั้นเดินออกมารับหน้ายายแล
"อะไรนังแล"
"เอ็งบอกข้าได้รึยังว่า ได้คนเจ้าความคิดให้ข้าเล่นละครตบตานังลำยองมันน่ะ ใคร"
"เอาเหอะน่า ไม่ต้องมาสนใจหรอก"
"เอ็งบอกว่า แผนสำเร็จแล้วเอ็งจะบอกข้านะโว้ย"
"แต่ตอนนี้มันยังไม่ได้สำเร็จ รอให้ไอ้วันมันได้ห่มผ้าเหลือง เป็นเณรจริงๆซะก่อนเหอะ"
"มึงจะอมพะนำไว้ทำไมวะอีปั้น บอกมาเหอะ ใครวะ หรือว่า"
แลมองไปเห็นรูปสินบนฝาผนัง
"หรือว่า ผีตาสินมันมาบอก"
"จะบ้าเรอะ ผีสางมีที่ไหน"
"งั้นก็ความคิดไอ้สันต์...แต่ก็ไม่น่าใช่ มันมะลื่อทื่อยังกะอะไรดี"
"เอ็งจะเดาไปทำไมวะ"
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 11 (ต่อ)
แลเห็นเทวีเดินไปมาไกลๆ ก็ถึงบางอ้อ... อ้าปากค้าง ตาโต
"นังปั้น...ข้ารู้แล้ว"
ปั้นมองตามสายตายายแล, เห็นเทวีหันกลับมา
"รู้แล้วก็หุบปากเอาไว้ให้ดี"
"กูนึกไม่ถึงเล๊ย แม่เลี้ยงไอ้วันมันนี่เจ้าเล่ห์เพทุบายนัก มันร้ายกาจใช่เล่น"
"เขาไม่ได้ร้ายโว้ย เขารักไอ้วันมันเหมือนกะลูก ที่ต้องทำยังงี้ เพราะหวังดีกะไอ้วันมันต่างหาก"
"เราคงแก่ๆ กันแล้วนะ ยัยปั้น เราถึงนึกแผนดีๆยังงี้ไม่ออก"
ปั้นยิ้ม ขำความคิดยายแล
บ้านลำยอง เวลากลางคืน อ้อย,เหน่ง,จิตรา นอนหลับเรียงกันเป็นตับในมุ้ง วันเฉลิมนั่งมองน้องๆด้วยความรู้สึกกังวล กันขอบมุ้งเข้าใต้ที่นอนกันยุงเข้า แล้วขยับออก
วันเฉลิมเข้ามาหาแม่ ลำยองกำลังยกเหล้าขึ้นกรอกปากพอดี
"แม่ครับ"
ลำยองสำลักเหล้าพรวด
"กูแค่จิบๆ แก้คอแห้งเท่านั้นแหละ"
"แม่รับปากต่อหน้าพระเอาไว้แล้วนะครับ วันไม่อยากให้แม่ผิดคำสัญญา"
"มึงยังไม่ทันบวชซะหน่อย รอให้ผ่านพรุ่งนี้ มึงนุ่งผ้าเหลืองซะก่อนสิวะ ถึงจะเริ่มสัญญา"
"น้องอ้อยปีนโต๊ะได้แล้ว แม่ต้องคอยระวังนะครับ น้องเหน่งกินจุแม่ต้องป้อนข้าวเยอะๆหน่อย ส่วนน้องจิตรา น้องไม่ค่อยชอบให้ตะคอกเสียงดัง"
"มึงมาบอกกูทำไม อีกหน่อยนังลำดวนมันก็คงมาช่วยเลี้ยง"
"น้าลำดวนเขาก็ต้องทำงานเขานี่ครับแม่"
"กูเป็นพี่มัน กูสั่งอะไรมันก็ทำทั้งนั้นแหละ มึงจะยึกยักอะไรเนี่ย ไอ้วัน อย่าบอกนะว่า มึงจะเปลี่ยนใจไม่บวช ไม่ได้นะโว้ย มึงไม่อยากเห็นแม่มึงเฮงๆๆรึไง ไปๆๆไปนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า"
วันเฉลิมมองลำยองเดินออกไป
เช้าวันใหม่ ที่ต้นไม้ใหย๋ ข้างโบสถ์ ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ยกเว้นลำยองที่ยังไม่โผล่มา วันเฉลิมนั่งเก้าอี้เตรียมขลิบผมโกนผม
"แม่เอ็งล่ะ ป่านนี้ยังไม่มา" หลวงตาปิ่นถาม
"ตอนผมออกมา แม่ยังไม่ตื่นเลยครับ"
"เวร... แล้วทำไมเอ็งไม่ปลุกมัน" แลว่า
"ผมปลุกแล้วครับ แต่แม่ไม่ยอมตื่น"
"เอายังไงดีล่ะหลวงลุง" ลำยงถาม
ภายในบ้าน ลำยองยังหลับขี้เซาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
"พี่ลำยอง พี่ลำยอง"
ลำดวนเขย่าตัวก็แล้ว ดึงผ้าออกจากตัวก็แล้ว ลำยองเตะถีบ ปัดป้องอุตลุด ลำดวนต้องฉุดดึงให้ลุกขึ้นนั่ง
"กูจะนอน ยุ่งกะกูจริงโว้ย"
"ทุกคนเขารออยู่ ไม่รู้รึไง"
"รอทำไม"
"ไอ้วันมันบวชวันนี้จำไม่ได้รึไง"
"ก็บวชไปสิวะ เกี่ยวอะไรกะกู"
"ไม่เอาใช่ไหมบุญน่ะ โชคลาภน่ะไม่อยากได้ใช่ไหม"
ลำยองลืมตาตื่นขึ้นได้ทันที
ทุกคนนั่งคอยลำยองอย่างอดทนไม่ปริปากบ่น เพราะต้องการให้การบวชผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นที่สุด
"แม่มาแล้วครับ"
ทุกคนหันไปมอง ลำดวนรีบจ้ำนำมาก่อน ลำยออุ้ยอ้ายเพราะท้อง เดินตามมาหน้าหงิก
"สมภารท่านคอยอยู่ในโบสถ์ตั้งนานแล้ว นังลำยอง" หลวงตาปิ่นบอก
"แล้วใครจ้างให้คอยล่ะ"
ทุกคนอ้าปากค้าง
"ท่านเป็นอุปัชฌาย์ให้ ลูกเอ็งยังไม่ได้โกนหัวเสียที แล้วท่านจะทำพิธีให้ได้ยังไง"
"ก็โกนเข้าสิ หลวงลุง"
"แม่ครับ"
"อีลำยอง มึงเป็นแม่ เขาอุตส่าห์ให้เกียรติมึงได้ขลิบผมลูกชายก่อนใคร ไม่งั้นเขาไม่ เสียเวลารอมึงหรอก"
"ใครจะไปรู้ล่ะ...เอ้า...มา ๆ ๆ จะได้เสร็จ ๆ ซักที"
ลำยองปราดเข้ามา จนหลวงตาปิ่นแทบหลบไม่ทัน
ชุดส่งกรรไกรตัดผมให้ลำยอง
"เอ้า...ไอ้วัน ตั้งอกตั้งใจ บุญกุศลครั้งนี้ขอให้ตกแต่พ่อแม่บุพการีทุกคนนะ"
ลำยองขลิบผมบนกระหม่อมวันเฉลิม โยนผมลงไปบนใบบัวในมือวันเฉลิม แล้วตะโกนลั่น
"เฮง ๆ ๆ รวย ๆ ๆ โว้ย"
ทุกคนอึ้ง อีนี่ผิดที่ผิดทาง ผิดเวล่ำเวลาได้ทุกครั้ง ชุดรับกรรไกรคืนมาแล้ว ส่งให้สันต์
"ผมนี่ของข้านะ ข้าจะเอาไปบูชา ใครมาแย่งจะด่าให้เข็ดเลย"
ลำยองสะบัดหน้าเดินออกไปมุมหนึ่ง สันต์ขลิบผมให้วันเฉลิมอย่างสงบ
ในอุโบสถ์ วันเฉลิมกล่าวคำขอบวชเณรอย่างฉะฉาน
พระอุปัชฌาย์มอบยูนิฟอร์มเณรให้วันเฉลิม ลำยองหาวนอนเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร
"ไส้พุงมึงเน่าหมดแหง ๆ อีลำยองเหม็นฉิบเป๋งเลย" แลว่า
"อย่ามาทำกระแดะเป็นผู้ดีตัวหอมหน่อยเลยแม่ หมั่นไส้เปล่า ๆ"
ลำยองพูดเสียงดังแขวะไปทางเทวี ทุกคนไม่มีใครสนใจ
"เมื่อไหร่จะเสร็จซักทีโว้ยจะได้กลับไปนอน"
เณรวันเฉลิมเดินออกมาจากโบสถ์ หลวงตาปิ่นเดินตาม ลำยองถึงกับชะงัก เมื่อเห็นลูก เพราะราศีจับเต็มที่ เณรวันเฉลิมเดินลงมาหาย่ากับสันต์และเทวี ปั้นยิ้มปลื้มใจจนน้ำตาไหล ปั้นพูดอะไรไม่ออกทั้งที่มีสิ่งอยากพูดมากมาย
"ดีแล้วนะเณร ดีแล้ว สาธุ"
เทวียิ้มปลื้มใจ ไหว้เณร
"หมดห่วงหมดกังวลซะทีนะเณร ถึงไม่ได้เรียนทางโลก เณรก็มุ่งหน้าทางธรรมนะ ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เณรจะไปได้นะลูก"
เณรวันเฉลิมสบตาสันต์เต็มตาแล้วเดินออกมา
ลำดวน, ลำยง, ชุด, ยายแล ยิ้มปลื้มใจ เณรเดินตรงเข้าหาโยมแม่ ลำยองยกมือขึ้นประนมแต้
"โยมแม่อย่าลืมรักษาสัญญาที่ให้ไว้นะครับ"
"จ้ะ...จ้ะ เสด็จแม่ไม่ลืมหรอกจ้ะ แต่นี่เณร เผื่อฝันดีเห็นเลขอะไรสวย ๆ เด็ด ๆ เณรก็ไปบอกเสด็จแม่บ้างนะจ๊ะ อย่าลืมล่ะ"
เณรไม่ตอบอะไร ลำยองก็ยังเหมือนเดิม หลวงตาปิ่นพาเณรออกไปเดินห่างออกมาจากญาติโยม ทิ้งญาติโยมไว้ข้างหลังไกลออกมาเรื่อย ๆ
ภายในบ้าน ลำยองหมกมุ่นอยู่กับการจดโพยหวย
"ฉันว่าสองเจ็ดก็น่าจะมานะแม่ ตรง ๆ ตัวเลย วันนี้วันที่ยี่สิบเจ็ด เอ... ปีนี้ไอ้วันมันอายุเท่าไหร่แล้วแม่ สิบสองหรือสิบสาม"
"มึงเป็นแม่ มึงยังไม่รู้เลยแล้วกูจะรู้ไหม" แลถาม
"เอ หรือมันจะเพิ่งสิบเอ็ดหว่า"
"อีลำยองมึงสัญญาต่อหน้าพระไว้ว่ายังไง"
"นี่มันหวยนะ แม่ไม่ใช่เหล้ากะบ่อนซะหน่อย"
"มึงนี่มันหน้าด้าน หวยมันก็การพนันเหมือนกัน"
"แต่หมอชดแกบอกว่า ถ้าไอวันมันบวชฉันจะเฮงๆๆ"
"กูขี้เกียจคุยกะมึงแล้ว อีคนไม่มีหัวคิด"
"งวดนี้ฉันรวยขึ้นมา แม่อย่ามาขอแบ่งก็แล้วกัน"
แลเดินออกมา
กุฏิหลวงตา เวลากลางคืน เณรนั่งที่ตั่งเรียนหนังสือ มีหนังสือทำวัตรอยู่ตรงหน้า แต่เณรกลับเหม่อออกไปข้างนอก หลวงตาปิ่นเดินเข้ามา
"คิดถึงบ้านรึไงเณร"
"ผมคิดถึงน้อง ๆ ครับหลวงตา ไม่รู้ป่านนี้จะกินข้าวกันรึยัง"
"จะไปห่วงทำไมเณร มันเป็นหน้าที่โยมแม่ของเณร"
"ค่ำ ๆ อย่างนี้ บางทีโยมแม่ก็ยังไม่กลับถึงบ้านครับ"
"เณร..เณรควรจะมั่นใจในตัวโยมแม่เขานะ ยังไงเขาก็สัญญาไว้แล้ว เขาน่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อยู่หรอกน่า ทำใจให้สบาย สวดมนต์ซะก็จะได้สงบไม่ต้องฟุ้งซ่าน"
"ครับหลวงตา"
เณรกลับมาสนใจหนังสือตรงหน้า
ในเวลาเดียวกัน ลำยองมือสั่นระริกพยายามเอื้อมไปหยิบช้อนแต่หยิบไม่ได้ โรคติดเหล้ากำเริบหนักทั้งหงุดหงิดและปวดเนื้อตัว ลำยองหัวเสีย ปัดจานข้าวทิ้งแล้วคลานสี่ขาไปหยิบขวดเหล้า แต่แล้วชะงักเพราะนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้ เธอร้องไห้เกิดการต่อสู้ระหว่างสำนึกฝ่ายดีกับความทรมานจากโรคพิษสุราเรื้อรัง ลำยองยกมือสั่นระริกขึ้นประนม เหมือนจะตั้งใจสวดมนต์ แต่กลับงึมงำน้ำเสียงสั่น ๆต่อรองคำสัญญา แล้วคว้าขวดเหล้ามาเปิดดื่มอั้ก ๆ
ในโบสถ์ เวลาเช้ามืด พระทั้งวัดทำวัตรเช้ากันพร้อมหน้า เณรวันเฉลิมในแถวหลังสุด สวดมนต์ไปกับพระอย่างคล่องปากในทุกบทสวด
เพิงก๋วยเตี๋ยวลำยง เวลาเช้าตรู่ ลำดวนเสียงดังตื่นเต้น
"มาแล้วแม่...มาแล้ว เณรมาแล้ว"
ยายแลกุลีกุจอยกถาดของใส่บาตรออกมา มีข้าวสุกใส่ถ้วยกับไข่ต้มฟองนึง. ปลาทูทอด. กล้วยน้ำหว้า เณรอุ้มบาตรเดินมาแต่ไกล ทุกคนพากันหมดมาร่วมใส่บาตร
เณรมาถึงหน้าร้าน เปิดฝาบาตร ยายแลใส่บาตรแล้วประนมมือแต้ พูดอะไรไม่ออกมัวแต่ตื้นตันใจ
"นอนหลับสบายดีไหมเณร" ลำยงถาม
"ครับโยมน้า"
ตาปอมุดเข้ามา
"พระที่ไหนมาโปรดวะอีแล"
"เณรหลานไง ไอ้ปอ"
"หลานใคร กูไม่มีหลานเป็นเณรซะหน่อย"
"ดูดี ๆ สิพ่อ พ่อจำไม่ได้เหรอ"
ตาปอจ้องหน้าเณรอยู่อึดใจ
"ไอ้วัน...ไอ้วันนี่หว่า"
เณรยิ้มเพราะอย่างน้อยตาก็จำได้
"ไอ้ปอไอ้บ้า ท่านเป็นเณรแล้ว เรียกท่านให้ดี ๆ โว้ย" แลบอก
"ไม่เป็นไรหรอกครับ โยมยาย"
"ใส่บาตร ใส่บาตร กูจะใส่บาตรหลานกู"
ตาปอกุลีกุจอออกไป
"หลวงตาท่านฉันเอกา(ฉันมื้อเดียว) แต่เณรยังเด็กฉันสองมื้อเถอะนะ" ลำยงว่า
"ครับโยมน้า"
ตาปอรีบกลับมา กอบถั่วงอกสดในมือ
"กูจะใส่บาตรหลานกู"
ยายแลตกใจที่เห็น
"ไอ้ปอ ไอ้..."
แลจะห้าม เณรกลับนิ่ง เปิดฝาบาตร ตาปอโยนถั่วงอกลงไปในบาตรแล้วประนมมือแต้เหมือนอิ่มบุญ เณรยิ้ม ปิดฝาบาตรแล้วเริ่มให้พร
สันต์, เทวี, ปั้น ใส่บาตรเสร็จแล้ว รับพร
"เรื่องเรียนต่อ ปรึกษาหลวงตารึยังครับเณร" สันต์ถาม
"พรุ่งนี้จะไปสมัครครับ"
"เรียนให้จบเปรียญเก้าตั้งแต่ยังเป็นเณรให้ได้เลยนะคะเณร" เทวีบอก
"ปู่เณรคงจะปลื้มใจที่สุดละ ถ้าได้เปรียญเก้า" ปั้นบอก
เณรยิ้มน้อย ๆ
หน้าบ้านวิมล สมฤดีวิ่งพรวดออกมาจากประตูรั้ว เหมือนจะโผเข้าจับตัวเณรอย่างคุ้นเคย เณรตั้งตัวแทบไม่ทัน
"พี่วัน...พี่วันมาแล้ว"
วิมลรีบวิ่งตามออกมา ถือถาดของใส่บาตร
"หนูสม หนูสม ไม่ได้ลูก อย่าไปถูกตัวท่าน"
"ทำไมคะคุณยาย"
"ก็ท่านบวชแล้ว หนูเป็นผู้หญิง หนูจะถูกตัวท่านไม่ได้นะลูก เข้าใจไหม"
สมฤดีจ๋อย
"ค่ะ"
"มาใส่บาตรให้ท่านเร็ว"
เณรเปิดฝาบาตร สมฤดีหยิบของใส่บาตร มองหน้าเณรตาแป๋ว เณรหลุบตามองพื้นอย่างสำรวมไว้
"พี่เณรไม่มีคิ้ว...คิ้วพี่เณรหายไปไหนค่ะ"
วันเฉลิมจะขำแต่ต้องทำสำรวมไว้
"เวลาบวช ท่านต้องปลงทุกอย่างทิ้งไงล่ะลูก"
"ปลงแปลว่าอะไรคะ"
"เดี๋ยวยายจะอธิบายให้ฟังทีหลัง"
วิมลดึงสมฤดีให้ยองลง รับพร เณรให้พรสั้น ๆ จนจบ
"นิมนต์มารับบาตรที่นี่ประจำนะคะเณร"
"มาทุกวันเลยนะคะพี่เณร"
"ครับ"
เณรเดินจากไป
เณรอุ้มบาตรมาจนถึงหน้าบ้าน แต่ว่างเปล่า แม่ไม่ได้มาคอยใส่บาตร เณรหยุดยืนคอย ชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน ใจคออยากจะตะโกนเรียกแต่คิดว่าไม่ควร แม่คงยังไม่ตื่น เณรยืนคอยชั่วขณะหนึ่ง แล้วเปลี่ยนใจจะเดินต่อไป
"เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งเสด็จไปเพคะ โยมลูก"
เณรชะงักเมื่อได้ยินเสียงแม่ หยุด และหันกลับมา แววตาเต็มไปด้วยความปิติ ลำยองเดินอุ้ยอ้ายรีบวิ่งประคองถ้วยใส่ข้าวเข้ามา
"มาแล้วจ้ะ มาแล้ว"
เณรเปิดฝาบาตร ลำยองลังเลอิดออด
"แม่หุงข้าวก้นไหม้ ข้างบนก็ไม่ค่อยสุก ใส่บาตรแล้วแม่จะบาปไหมจ๊ะเณร"
เณรวันเฉลิมมีความสุขที่สุดที่จะได้กินข้าวที่แม่หุงกับมือ
"ไม่หรอกครับโยมแม่ แค่โยมแม่มีเจตนาดี มีจิตเป็นกุศล โยมแม่ก็ได้รับบุญแล้วครับ โยมแม่ตั้งใจรับพรนะครับ"
ลำยองคว่ำเทข้าวใส่บาตรมือสั่น เณรให้พรลำยอง
ลำยองประนมมือแต้จนเณรให้พรจบ ลำยองลูบหัวสามครั้งเรียกโชคลาภ
"สาธุ....เฮง ๆ ๆ รวย ๆ ๆ"
"น้อง ๆ สบายดีเหรอครับ โยมแม่"
"จ้ะ สบายดีจ้ะ"
เณรเห็นมือลำยองสั่นระริก
"โยมแม่อย่าดื่มเหล้าอีกเลยนะครับ"
"จ้ะ ๆ ๆ ลด ๆ ลงแล้วจ้ะ เดี๋ยวก็คงเลิกได้"
เณรเดินออกไป
"เฮง ๆ ๆ รวย ๆ ๆ"
บริเวณมุมสวยสงบใด ภายในวัด เณรนั่งอ่านบทเรียนภาษาอังกฤษ อ่านออกเสียงฝึก pronunciation เรื่องสั้น ๆ หลวงตาปิ่นนั่งอยู่กับหลวงพี่ยรรยงค์ ครูพี่เลี้ยงถัดไกลออกมา
"ช่วงเช้าเรียนวิชาการสามัญ ช่วงบ่ายข้ามเรือไปเรียนวัดมหาธาตุ คงไม่หนักเกินไปหรอกนะท่าน"
"ไม่หรอกครับหลวงลุง เณรเขามีสมาธิดี คงไม่ต้องกังวลเรื่องที่บ้านแล้ว สติปัญญาดีเลิศทีเดียวล่ะครับ"
"ยังงี้ อีกไม่นานวัดเราอาจจะได้สามเณรเก้าประโยคกะเขามั่งละนะท่าน"
หลวงตาปิ่น หลวงพี่ยรรยงค์หัวเราะอารมณ์ดี
เณรอ่านภาษาอังกฤษแอคเซ่นดี คล่องแคล่ว
บ้านลำยอง เวลากลางวัน เสียงออกรางวัลหวยจากวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องโทรมดังขึ้น
"รางวัลที่หนึ่ง งวดประจำวันที่สิบมิถุนายน เลขที่ออก.....ศูนย์ ศูนย์ แปด หนึ่ง ศูนย์ เก้า
ลำยองนั่งลุ้นหวยเทียบกับโพยเบอร์ที่ซื้อไว้จนเลขสุดท้ายด้วยความเซ็ง
" หมดตูด แดกหมดตัวเลย....แดกกูหมดตัวเลย"
ลำยองขยำโพยเขวี้ยงทิ้ง
"ไม่เห็นกูจะได้ลาภได้โชคตรงไหนเลย...ไอ้บ้า"
ลำยองคว้าวิทยุทรานซิสเตอร์เขวี้ยงทุ่มลงพื้นจนแตกกระจาย ถ่านไฟฉายตรากบกลิ้งกันหลุน ๆ
อ้อย, เหน่ง, จิตรา เกาะกันกลม ร้องไห้กระจองอแง
ที่เพิงก๋วยเตี๋ยวลำยง
"มึงจะมาโทษพระโทษเจ้าได้ยังไงอีลำยอง" แลบอก
"ก็หมอชดบอกเองว่าลูกบวชแล้วฉันจะเฮง...ถูกหวยกินหมดตูดยังงี้ มันโกหกตอแหลกันชัด ๆ"
ลำยงถาม
"พี่แอบกินเหล้าใช่ไหม"
"กูกินนิดเดียวแก้มือสั่น"
"นั่นไง..พี่ผิดคำสัญญาหน้าพระมันถึงเป็นยังงี้ไงล่ะ"
"แล้วจะให้กูทำยังไง กูจะลงแดงตายอยู่แล้ว"
ลำดวนบอก
"มันต้องอดทนสิวะ"
"มึงไม่มาเป็นกูมึงไม่รู้หรอก ว่ามันทรมานขนาดไหน"
"กูว่ามึงไปหาหมอซะเหอะ ให้หมอเขาช่วยรักษา" แลบอก
"ไม่ไป ไม่ไปไหนทั้งนั้น"
"พี่อย่ามาพาลหน่อยเลย แค่ถูกหวยกินงวดเดียว ทำไมพี่ไม่คิดว่าเลิกเล่นเลิกเหล้า เหลือเงินเก็บมันก็เท่ากับได้โชคได้ลาภนะแหละ" ลำยงบอก
"กูไม่เอา กูไม่เชื่อไอ้อีหน้าไหนอีกแล้ว"
ลำยองปึงปังออกไป ทุกคนได้แต่เซ็ง
"เณรรู้คงไม่สบายใจแหง ๆ" แลบอก
ข้างหอฉัน เณรล้างบาตรทั้งของตัวเองและของหลวงตาขึ้นคว่ำตาก เณรชะงักเพราะมองไปเห็น
เด็กวัดเทเศษอาหาร ข้าวที่เหลือมากมายให้หมาวัดฝูงใหญ่ เณรยืนมองสะท้อนใจ
"เณร...ไปเตรียมตัวได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปเข้าเรียนไม่ทัน"
"หลวงตาครับ อาหารที่ญาติโยมถวายทำบุญมา ถ้าเราเอาไปให้คนอื่นต่อจะผิดไหมครับ"
"ไม่ผิดหรอก ก็ถือว่าทำทานต่อไป ดีซะอีก แทนที่จะทิ้งเปล่า ๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร เณรถามทำไม"
"ถ้าผมจะเอาข้าวเอาขนมที่เหลือ ๆ ไปฝากน้อง ๆ ที่บ้านบ้าง"
"ไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอกเณร"
เณรยิ้มออก
"ขอบคุณครับหลวงตา"
ยายแลเข้ามาในบ้านเงียบ ๆ เห็นลำยองนั่งหันหลังสาละวนนับบางสิ่งบางอย่างอย่างตั้งอกตั้งใจ
"ทำอะไรวะนังลำยอง"
ลำยองตกใจกอบรวบเงินตรงหน้า เงินแตกกระจุยกระจาย
"ตกใจหมดเลยแม่นี่ มาไม่ให้สุ้มให้เสียง"
"เงินทั้งนั้นเลย มึงไปรวยอะไรมา"
"เรื่องของฉัน"
ลำยองรีบยัดเงินเก็บใส่กระเป๋า
"กูไม่อยากได้ของมึงหรอก แต่กูอยากรู้บอกมาอีลำยอง"
"มีคนเขาให้ยืมมา"
"กูไม่เชื่อ"
"ไม่เชื่อแม่ก็ไปถามเสี่ยเล้งดูสิ"
"เล้งไหน เล้งเจ้าของบ่อนนะเรอะ"
"ฉันเอาที่เอาบ้านนี่ไปขายฝากเขา เอาไว้เงินนี่ฉันจะมาลงทุน"
แลนิ่งอึ้งไปอึดใจ
"อีลำยอง...คนอื่นเขาไปถึงไหนกันแล้ว มึงนี่มันยังวนเวียนอยู่แต่ที่เดิมของมึงนี่แหละนะ กูไม่รู้จะช่วยมึงยังไงแล้ว"
แลไม่ได้เกรี้ยวกราด แต่เต็มไปด้วยความปลงตกและเวทนาค่อยๆลุกเดินออกไป ลำยองกอดกระเป๋าใส่เงินไว้แน่น
หน้าบ้านลำยอง เณรเดินมาถึงหน้า มีย่ามสะพายเพื่อไปเรียนหนังสือวัดมหาธาตุอุ้มถุงปูนใส่อาหารมาเผื่อน้อง ๆ บ้านปิดเงียบเณรชะเง้อชะแง้
"โยมแม่ครับ โยมแม่"
เณรแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่บ้าน...ขยับถอยออก
เพิงก๋วยเตี๋ยวลำยง อ้อยแจ๋นเข้ามาหาเณรจะคว้าผ้าจีวร ลำดวนฉวยคว้าตัวอ้อยเอาไว้ได้ทัน รีบอุ้มเอาไว้
"โอ๊ย...อีนังคนนี้"
เณรวางถุงใส่อาหารลงบนโต๊ะ
"ผมแวะไปที่บ้านมา แต่ไม่มีใครอยู่เลย"
ลำยงพยายามเหประเด็น
"นี่เณรกำลังจะข้ามไปฝั่งโน้นใช่ไหม เข้าเรียนกี่โมง บ่ายโมงเหรอ ระวังจะไม่ทันนะ"
ลำดวนชะโงกดูในถุง
"โอ้โห ขนมนมเนยทั้งนั้นเลยนี่เณร"
"ฝากแบ่งให้น้อง ๆ ด้วยครับ โยมน้า"
"ไม่ต้องห่วงหรอกเณรรีบไปเหอะ" ลำยงบอก
"แล้วนี่โยมแม่ไปไหนครับไม่อยู่บ้าน"
"เออ..."
ลำดวนหลุดปากพรวดออกมา
"จะไปไหนก็บ่อนนะสิเณร สองสามวันกลับบ้านที ต้องเอาไอ้พวกนี้มาเลี้ยงที่นี่"
ลำยงปราม
"นังลำดวน"
"เหล้ายามันก็ไม่ยอมเลิกเผลอๆจะกินหนักกว่าเดิมเสียอีก" ลำดวนบอก
"โยมแม่เอาเงินมาจากไหนครับ"
"เณรอย่าไปสนใจเลย รีบไปเรียนหนังสือเถอะ"
"โยมแม่เอาเงินมาจากไหนครับ โยมน้า"
"เอาบ้านเอาที่ขายฝากเขาไว้ที่บ่อนนะสิเณร"
เณรมึนตึบ เสียใจ
"ผมไปนะครับ"
เณรเดินอื้ออึงออกไป แลสวนเข้ามาพอดีเห็นเณรไกลๆ
"เณรมาเรอะนังลำยง"
ลำยงท้าวสะเอวจ้องลำดวนเขม็ง
"ปากเองเนี่ยนะ ไม่พูดน้ำลายมันจะบูดรึไงวะ นังลำดวน"
"อะไรกันวะ"
"นังนี่มันปากสว่า งบอกเณรไปหมดเลยเรื่องพี่ลำยองน่ะ"
"แล้วพี่คิดว่าจะปิดเณรไปได้ซักกี่น้ำ ยังไงก็ต้องรู้อยู่ดี ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้"
"มึงนะมึงอีลำดวน.... เณรน่ะไปอยู่สบายแล้ว มึงทำให้ผ้าเหลืองร้อนทำไม"
พระสวดมนต์ทำวัตรเย็น เสียงสวดในโบสถ์เนิบเย็น แต่ในแถวหลังสุดเณรสวดมนต์ไปกับพระทุกรูปหลับตาตั้งใจอย่างมีสมาธิ แต่เณรน้ำตาไหลอาบแก้ม
จบตอนที่ 11
อ่านต่อตอนที่ 12 เวลา 17.00น.