เรือนกาหลง ตอนที่ 6
ในป่าช้า สัปเหร่อขาวเอาสายสิญจน์พันดอกบัวในมือปองแล้วบริกรรมคาถา แล้วหันไปสั่งลูกน้องช่วงที่ยืนอยู่
“พวกเอ็งยกลงหลุมฝังได้เลย”
ลูกน้องจะเข้าไปยกร่างปอง เพชรเข้ามาห้ามไว้
“อย่าเพิ่งจ้ะ”
สัปเหร่อขาวมองหน้าเพชร แปลกใจไม่เคยเจอเขามาก่อน
“เอ็งเป็นใครวะ”
“ฉันเป็นผู้ชายจ้ะ” เพชรตอบซื่อๆ
“บ๊ะได้นี่...ข้ารู้แล้ว เอ็งเป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากไหน”
กาเหว่าวิ่งเข้ามาบอก
“เขาชื่อพี่เพชร เป็นพ่อค้าขายเครื่องยา มาจากลพบุรี”
เพชรแย้ง
“จันทบูร”
สัปเหร่อขาวงง
“ตกลงมาจากไหน”
ชบายืนแอบฟังที่มุมหนึ่ง
“ฉันเป็นพ่อค้าเร่ก็ล่องเรือไปทั่วล่ะจ้ะ” เพชรเปลี่ยนเรื่อง “แล้วพี่เขาเป็นอะไรตาย”
“มันไม่หายใจ ฮา...” สัปเหร่อขาวหัวเราะ
เพชรอึ้งไม่หัวเราะด้วย
“สัปเหร่อคงอยู่กับศพจนชาชิน ไม่เศร้าเสียใจก็น่าจะให้เกียรติคนตายบ้าง”
สัปเหร่อขาวหัวเราะค้างทันที กาเหว่ายิ้มแอบสะใจที่เพชรต่อว่าสัปเหร่อขาว...เพชรมองศพของปองที่นอนแข็ง พิจารณาอย่างถี่ถ้วน สัปเหรอขาวบอกเรื่องราว
“มันถูกเสือหวาดจับมัดเท้าแขวนไว้ใต้ต้นไทร เลือดตกหัวตาย น่าอนาทนัก ไอ้เสือหวาดจังไรช่างโหดเหี้ยมนักแล”
“ถูกเชือกรัดคอตาย” เพชรพูดขึ้น
ชบาฟังด้วยความแปลกใจ ขาวและกาเหว่าสงสัย เข้าไปดูรอยที่คอ เพชรชี้ให้ดู
“ดูนี่สิ คอมีรอยรัดเลือดคลั่ง”
สัปเหร่อขาวมองพิจารณา
“เออจริงของเอ็ง”
“พี่เขาถูกรัดคอแล้วเอาไปแขวนไว้”
“บ๊ะ...เอ็งคิดได้คิดดี ยังกะเป็นตำรวจหัวเมือง”
สัปเหร่อขาวและกาเหว่าหันไปมองเพชรด้วยความสงสัย เพชรยิ้มแล้วก็เปลี่ยนเรื่อง
“ฉันก็พูดตามประสา เคยล่องเรือขายของในเมือง ได้ยินตำรวจคุยโวอยู่บ้าง”
เพชรยิ้มให้
“ไปเหอะพี่ จะค่ำมืดแล้ว ฉันกลัว”
กาเหว่าดึงมือเพชรเดินออกไป สัปเหร่อขาวเรียกลูกน้องช่วงให้หามศพลงหลุม
“พวกเอ็งยกลงหลุมได้แล้ว”
ชบาที่ซุ่มอยู่ มองเพชรด้วยความสงสัย
เพชรเดินมากับกาเหว่า ชบาเดินเข้ามาขวาง
“บอกมานะ นายเป็นใครกัน”
กาเหว่าชิงตอบแทน
“พ่อค้าไง”
“เอ็งไม่เกี่ยว” ชบาดึงตัวกาเหว่ามาด้านหลัง “บอกมาสิเออ เอ็งเป็นใครถึงได้รู้โน่นรู้นี่”
เพชรอึกอัก
“ฉันเป็น...”
ชบาและกาเหว่ารอฟัง เพชรโพล่งออกมา
“หมอดู”
ชบาอึ้ง
“หมอดู”
“ฉันถึงรู้ไปซะทุกเรื่อง รู้ด้วยว่าเมื่อตะกี้มีใครบางคนแอบฟังฉัน”
ชบาตกใจ
“เอ็งรู้ได้ยังไง กาเหว่า เอ็งบอกรึ”
“ฉันจะบอกได้ไง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ชบาแอบฟังยังกะโจร”
ชบาหันไปซักเพชร
“บอกมา เอ็งรู้เห็นได้ยังไง”
“ไม่รู้ก็แปลกสิเออ ยืนโผล่มาเต็มตัว มื้อหน้าจะแอบฟังก็ซ่อนตัวเสียให้มิด”
เพชรหัวเราะเยาะ ชบาเสียหน้าลากกาเหว่ากลับ
“กาเหว่ากลับเรือน”
ชบาจับมือกาเหว่าจะเดินออกไป เพชรเข้ามาจับมือชบาอีกข้าง ชบาสะบัด
“ปล่อยมือฉัน”
“ฉันไปส่ง มืดค่ำ...ผีออกมาหลอก แฮ่”
เพชรทำหน้าผีเสียงผี ชบาต่อยหน้าเพชร แล้วจูงมือกาเหว่าวิ่งออกไป
“โอย...โดนอีกแล้ว”
เพชรเอามือกุมหน้า พอเห็นว่าทั้งสองออกไปแล้วก็วางตัวสุขุมขึ้นแปลกใจในการตายของปอง
“เสือหวาดฆ่าอย่างนั้นรึ”
เป้าหมายในการมาของเพชรคือตามจับเสือหวาด และสืบถึงปัญหาของบ้านบัวสี
มั่นหอบผ้าจะหนีออกไปขาบเข้าไปขวาง
“เอ็งจะไปไหน”
“ข้าไม่อยู่แล้ว ข้าไม่อยากตายอย่างไอ้ปอง นังจำปาต้องฆ่ามัน”
“พ่อผู้ใหญ่บอกว่าไอ้เสือหวาด”
“จะผีหรือคน ข้าไม่สน ข้ากลัวตาย”
มั่นจะออกไป เจอกับโชติและสิงที่เดินเข้ามา
“พวกเอ็งต้องอยู่นี่” โชติสั่งเสียงเข้ม
มั่นหวาดๆ
“ฉัน...กลัว”
“ช่วยจับไอ้เสือหวาดให้ได้ ข้าจะเอาความดีความชอบให้เอ็งพ้นผิดเรื่องกาหลง เอ็งจะได้อยู่อย่างสบายตัว ไม่ต้องหลบซ่อน ไอ้ไม้ก็ทำอะไรเอ็งไม่ได้อีก”
มั่นและขาบคลายกังวล
“พี่จะให้ฉันทำอะไร สั่งการมาได้เลย”
โชติยิ้มพอใจ หวังจะพิสูจน์ฝีมือให้ช่วงประทับใจ โชติพูดกับตัวเอง
“พ่อต้องมั่นใจในตัวข้าเสียที”
ดึกคืนนั้นเสือหวาดนำลูกน้องมาที่มุมหนึ่งของเรือนช่วง หวังจะเข้าไปปล้น พวกมั่น สิง ขาบและลูกน้องช่วงจุดคบไฟ ระแวดระวังอยู่หน้าเรือน
“เสียท่านัก”
เสือหวาดผิดหวังที่ไม่สามารถบุกเข้าไปปล้นเรือนช่วงได้ ให้สัญญาณลูกน้องถอยออกไป
เสือหวาดเดินกลับมาที่ผูกม้าไว้ ลูกน้องที่เดินไปดูลาดเลาอีกด้านกลับมาบอก
“มันเหมือนรู้แกว...ล้อมเรือนป้องกันเสียแล้ว”
“พลาดบุกเรือนมัน ก็ไปลวงบุกเรือนอื่น...ลูกบ้านเสียทรัพย์ ตัวมันเป็นผู้ใหญ่บ้านก็เหมือนถูกลบหน้า”
“พี่หวาดจะบุกเรือนใด” ลูกน้องถามอย่างพร้อมลุย
ไม้ล้างหน้าอยู่ที่หน้าเรือน ได้ยินเสียงควบม้า เขาแปลกใจหลบมุม พวกเสือหวาดควบม้าผ่านไป
“ไอ้เสือหวาด” ไม้ตกใจ
เสือหวาดควบม้ามาหยุดที่หน้าเรือนแม่บุญอิ่ม ตะโกนบอกลูกน้อง
“ขนเงินทองมาให้สิ้น”
ลูกน้องเอาผ้าปิดหน้า ต่างวิ่งกรูถือดาบขึ้นเรือน เสือหวาดกระโดดลงจากหลังม้า เอาผ้าคลุมปิดหน้าแล้วมองตรงไปยังเรือน พวกลูกน้องวิ่งตรงมาบนเรือน แม่บุญอิ่มเปิดประตูออกมา
“พวกเอ็งเป็นใครกัน”
ลูกน้องชักดาบขู่แม่บุญอิ่ม
“ไม่อยากตาย นิ่งเสีย”
แม่บุญอิ่มตกใจ บ่าวคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ลูกน้องเข้าไปในห้อง เข้าไปรื้อหาเงินหาสมบัติ แม่บุญอิ่มตกใจเป็นห่วงพุดจีบตะโกนบอก
“พุดจีบลูกหนีไป”
แม่บุญอิ่มจะวิ่งไปบอกที่ห้องของพุดจีบ ลูกน้องเข้ามาดึงตัวแล้วผลักลง
“ข้าสั่งให้อยู่นิ่งๆ จับมัดไว้”
ลูกน้องอีกคนเข้าไปเพื่อมัดแม่บุญอิ่มและบ่าว นวลเปิดประตูออกมาเจอลูกน้องเสือหวาด
“ว้าย...ไอ้มหาโจร”
นวลจะปิดประตู ลูกน้องเสือหวาดจับประตูไว้ แล้วกระชากร่างนวลล้มลงไปกองกับพื้น พุดจีบออกมาจากห้องด้วยความเป็นห่วง
“พี่นวล”
พุดจีบจะเข้าไปหานวล แต่เสือหวาดเข้ามาจับตัวไว้
“ปล่อยฉันนะ”
พุดจีบดิ้น เสือหวาดมองหน้าพุดจีบ
“งามแท้แม่เอ๊ย เห็นท่าจะได้เมียเสียแล้ว” เสือหวาดสั่งลูกน้อง “พวกเอ็งเร่งขนเงินขนทองไปให้สิ้น”
ลูกน้องบุกเข้าห้องพุดจีบ ไปรื้อหาสมบัติ พุดจีบดิ้นหนี
“ปล่อยฉัน”
นวลลุกขึ้นมาคว้าไม้จะเข้าไปช่วยพุดจีบ
“ปล่อยนายข้า”
นวลฟาดไม้ เสือหวาดไหวตัวจับไม้ไว้ แล้วกระชากไม้มาใช้ไม้ฟาดนวลทรุดลงกองกับพื้น พุดจีบตกใจ
“พี่นวล”
เสือหวาดลากตัวพุดจีบออกไป พุดจีบดิ้นหนี เสือหวาดจึงตบพุดจีบสลบแล้วเข้าไปรวบตัวแบกออกไปจากเรือน นวลซึ่งแสร้งสลบลืมตามองฉวยจังหวะที่ลูกน้องเสือหวาดรื้อค้นเอาของในห้อง รีบย่องหนีไปจากเรือนอีกด้านหนึ่ง
เสือหวาดแบกพุดจีบลงมาแล้วเอาขึ้นพาดไว้บนม้า ลูกน้องหิ้วถุงใส่เงินแบกหีบใส่สมบัติลงมาจากเรือน
“ไปกันได้แล้ว”
พวกเสือหวาดจะหนีออกไป ไม้ถือดาบเข้ามาขวาง
“ไอ้เสือหวาด กล้านักเทียว วางเงินทองลง แล้วคืนพุดจีบมา”
ลูกน้องหยุดชะงัก เสือหวาดให้สัญญาณจัดการไม้ ลูกน้องวางของแล้วกรูเข้าไปเล่นงาน ไม้ต่อสู้เต็มกำลัง
พวกสิงถืบคบไฟ ยืนระแวดระวังภัยหน้าเรือน นวลวิ่งหน้าตาตื่น ร้องเรียกช่วง
“พ่อผู้ใหญ่ช่วยด้วยจ้ะ...ช่วยด้วย”
โชติเดินเข้ามาขวางนวล ก่อนที่นวลจะขึ้นไปบนเรือน
“เอ็งมีอะไรรึ”
“พ่อโชติช่วยที เสือหวาดบุกปล้นเรือน มันจับคุณพุดจีบไปด้วย”
โชติตกใจ
“พุดจีบ”
นวลร้อนใจ
“พ่อเร่งไปแจ้งผู้ใหญ่เถอะ”
“ไม่ต้อง...ข้าจัดการเอง” โชติหันไปสั่งสิง มั่น ขาบ “พวกเอ็งตามข้ามา”
โชติและพวกรีบวิ่งออกไป นวลเป็นห่วงทุกคนที่เรือน รีบวิ่งตามพวกโชติไป ช่วงเดินเข้ามายืนอยู่บนเรือน รับรู้เรื่องราวไม่พอใจที่โชติออกไปโดยไม่บอก
ไม้ต่อสู้กับเสือหวาดและลูกน้อง กำลังเสียท่า พวกโชติวิ่งกรูเข้ามา
“หยุดนะไอ้มหาโจร”
พวกเสือหวาดหันไปทางโชติ ไม้มองเห็นพวกมั่นและขาบซึ่งหายตัวไปจากหมู่บ้านก็มองอย่างเจ็บแค้น
“ไอ้มั่น ไอ้ขาบ”
มั่นและขาบตกใจกลัวที่เจอไม้ โชติตวาดชึ้น
“ปล่อยตัวคนรักของข้า”
ไม้แปลกใจที่โชติพูดถึงพุดจีบ
“อยากได้ก็ต้องแลกด้วยหัวเอ็ง”
เสือหวาดเข้าไปเล่นงานโชติ ลูกน้องเสือหวาดต่อสู้กับพวกสิง มั่น ขาบ..ไม้ก็ต่อสู้กับลูกน้องเสือหวาด
กาหลงนอนอยู่พลิกตัวมาไม่เจอไม้ เธอแปลกใจลุกขึ้นนั่ง จิตรับรู้ว่าไม้กำลังต่อสู้กับเสือหวาด
“พี่ไม้”
ไม้ต่อสู้กับลูกน้องมันเสียท่า ไม้ตรงเข้าไปเล่นงานเสือหวาดที่รู้ว่าสู้ไม่ได้ตะโกนบอกลูกน้อง
“พวกเอ็งถอย”
เสือหวาดกระโดดขึ้นม้า แล้วควบพาร่างพุดจีบวิ่งออกไป ไม้ตกใจและเป็นห่วง
“พุดจีบ”
ไม้รีบวิ่งตามออกไป ลูกน้องเสือหวาดจะหิ้วหีบไป พวกโชติเข้ามาต่อสู้ พวกลูกน้องต้องทิ้งหีบและของกระโดดขึ้นม้าวิ่งออกไปคนละทาง พวกสิงจะตามไป โชติเรียกไว้
“พวกเอ็งไม่ต้องตาม”
เสือหวาดควบม้าจะพาพุดจีบหนีไป แต่แล้วเพชรมายืนดักทางไว้
“พี่จะไปไหนกัน ดึกดื่นค่ำมืด”
เสือหวาดตวาด
“เอ็งหลบไป”
เพชรมองเห็นพุดจีบ
“แล้วนั่นพี่ชายแบกใคร”
“เมียข้าเจ็บหนัก ข้าจะพาไปรักษา”
พุดจีบรู้สึกตัว ตะโกนบอกเพชร
“ช่วยด้วย เสือหวาดลักพาตัวฉันมา”
เพชรตกใจเมื่อรู้ว่าเป็นเสือหวาด
“เสือหวาด ปล่อยผู้หญิงแล้วลงมาให้ข้าจับเสีย”
พุดจีบฟังเพชรบอกเสือหวาดก็แปลกใจเล็กน้อยในคำพูดของเขา แต่ยังไม่ติดใจ เพชรถือดาบขวางทางไว้ เสือหวาดไม่พอใจกระโดดลงจากม้าแล้วเข้ามาต่อสู้ พุดจีบหาจังหวะลงจากม้า แล้ววิ่งหนีไป เสือหวาดเห็นพุดจีบหนีจะตามไป เพชรเข้าไปดักทางต่อสู้ขวางไว้
พุดจีบวิ่งหนีด้วยความกลัว วิ่งหนีมาชนกับใครคนหนึ่ง พุดจีบตกใจกลัว แต่พอเห็นหน้าก็อุทานดีใจ
“พี่ไม้”
พุดจีบร้องไห้โฮโผเข้ากอดไว้แน่น ดีใจที่ได้เจอไม้
“พี่มาช่วย เอ็งปลอดภัยเดี๋ยวนี้แล้ว”
ไม้โอบกอดพุดจีบปลอบใจ กาหลงเห็นภาพไม้โอบกอดพุดจีบก็ไม่พอใจ วิ่งเข้ามา
“พุดจีบ”
“กาหลงพาพุดจีบกลับเรือน พี่จะตามไปจับตัวไอ้เสือหวาด”
“จ้ะ”
พูดจบไม้ก็วิ่งออกไป พุดจีบตะโกนบอก
“พี่ระวังตัวด้วยนะจ๊ะ”
กาหลงมองพุดจีบที่สั่งเสียไม้ ก็ยิ่งหวั่นใจ...
โชติแก้เชือกให้แม่บุญอิ่ม
“น้าไม่ต้องกลัว ฉันไล่ฟันพวกมันหนีไปแล้ว”
มั่นแก้เชือกให้บ่าวของแม่บุญอิ่ม นวลวิ่งเข้ามาเห็นก็ดีใจ
“คุณบุญอิ่มรอดตายมื้อนี้ พ่อโชติช่วยไว้แท้เทียว”
“ฉันเอาเงินทองของน้าคืนมาได้ครบจ้ะ”
สิงและขาบถือหีบและของที่พวกเสือหวาดจะขโมยไป แม่บุญอิ่มซึ้งใจโชติ
“ฉันขอบน้ำใจพ่อโชติมาก พ่อโชติ แล้วพุดจีบล่ะ”
นวลชิงตอบแทน
“เสือหวาดจับตัวคุณพุดจีบไป”
“พ่อโชติช่วยลูกสาวน้าทีเถิด พาพุดจีบกลับมา พ่อโชติอยากได้อะไร ให้น้าทำอะไร น้ายอมพ่อทุกสิ่งเทียว”
โชติยิ้มรับ
“น้าเลิกคับใจได้เลย ฉันไม่ให้พุดจีบตกเป็นเมียโจร ฉันจะพาพุดจีบกลับมา”
โชติบอกแม่บุญอิ่มแล้วออกไป พวกสิงตามออกไป แม่บุญอิ่ม นวล และพวกบ่าวมองตามอย่างเป็นห่วงพุดจีบ
เพชรต่อสู้กับเสือหวาดเพชรเสียท่า เสือหวาดจะฟัน ไม้เข้ามาช่วยไว้...
“ขอบใจพี่ชาย ฉันชื่อเพชร ไม่ได้พี่ฉันตายแน่”
เพชรขอบใจไม้ โดยไม่ได้หันไปมอง เสือหวาดที่กำลังเข้ามาซ้ำ ไม้กันท่าแล้วต่อสู้
“อย่าเพิ่งขอบใจ ช่วยกันจับมัน”
เพชรได้สติเข้าไปต่อสู้ เสือหวาดถูกไม้และเพชรเข้ารุมสองต่อหนึ่ง
โชติออกมาหน้าเรือนสั่งสิง
“เอ็งเร่งไปเอาม้า”
สิงรับคำแล้ววิ่งออกไป โชติหันไปสั่งมั่นและขาบ
“พวกเอ็งซุ่มสะกดรอยไอ้ลูกน้องเสือหวาดที่มันหนีไป”
ขาบและมั่นพยักหน้ารับ แล้ววิ่งออกไป โชติคิดที่จะไปช่วยพุดจีบมาให้ได้
ไม้และเพชรต่อสู้กับเสือหวาด ทั้งสองรวมแรงร่วมใจต่อสู้เต็มที่ เสือหวาดสู้ไม่ไหวไล่ฟันทั้งสองให้เสียหลักแล้วกระโดดขึ้นม้าควบหนีไป ไม้และเพชรผิดหวังที่เสือหวาดหนีไปได้ โชติควบม้าเข้ามา ไม้เข้าไปขวาง
“ข้าไปด้วยคน ข้าจะไปจับมัน”
โชติมองไม้แล้วควบม้าผ่านไป ไม้ผิดหวัง สิงควบม้าเข้ามา ไม้เข้าไปขวางไว้ชักดาบขู่...สิงไม่กลัวเพชรจึงเข้าไปช่วยขู่อีกคน
“ข้ามิได้ปล้นเอ็ง อย่าสะดุ้งใจไป ให้คิดเสียว่าขอหยิบยืม” เพชรตะโกนบอก
สิงเห็นไม้และเพชรถือดาบขู่จึงกระโดดลงจากม้า เพชรหันไปยักคิ้วให้ ไม้กระโดดขึ้นม้า ควบตามไป เพชรนึกได้
“เอ้าพี่ชาย แล้วฉันล่ะ ให้ฉันไปด้วยคนสิเล่า”
ไม้ควบม้าไปไกลแล้ว เพชรมองตามเซ็งๆ
กาหลงประคองพุดจีบมาที่เรือน แม่บุญอิ่มเห็นพุดจีบมาก็ดีใจมาก ร้องไห้เข้าไปสวมกอด
“พุดจีบ”
“แม่...”
พุดจีบเข้าสวมกอดทั้งสองร้องไห้ดีใจที่ปลอดภัย กาหลงยืนมองด้วยความซาบซึ้งใจ ดีใจที่พุดจีบรอดปลอดภัย
เสือหวาดควบม้าหนี เจอช่วงควบม้าขวางหน้า เสือหวาดดึงม้าดีดตัวสูง
“ยอมให้ข้าจับเสียโดยดี เอ็งสิ้นท่าแล้ว”
เสือหวาดยิ้มเยาะ
“ค่าหัวข้าคงมากโข เอ็งถึงกับลงมือตามจับด้วยตัวเอง”
“จะเป็นไรมี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...ได้ทั้งเงินรางวัลนำจับเอ็ง และชื่อเสียงปราบเสือหวาดกระฉ่อนไกล ข้ามิผิดได้เป็นใหญ่เป็นโตในหัวเมือง”
“มันน่าหัวร่อ เอ็งเป็นผู้ใหญ่บ้านแต่สันดานชั่วยิ่งกว่าโจร โยนความผิดให้ข้ากุเรื่องว่าข้าฆ่าไอ้ปองทั้งๆที่ข้าไม่เคยรู้จักมัน”
“หยุดพล่ามได้แล้ว ลงมาให้ข้าจับตัว”
ช่วงชักปืนออกมาขู่ เสือหวาดจ้องมองแล้วยอมกระโดดลงจากม้า ช่วงถือปืนขู่ไว้ เสือหวาดถือดาบไว้มั่น พร้อมสู้
“ทิ้งดาบซะ” ช่วงตวาด
“เอ็งเข้ามาให้ใกล้มือ ขุนโจรจะตายก็ขอตายอย่างไว้ชื่อ”
เสือหวาดถือดาบพร้อมต่อสู้
“จับเป็นไม่ได้...ก็ต้องจับตาย”
ช่วงเล็งปืนจะยิงเสือหวาด โชติควบม้าเข้ามาโดยมีไม้ควบม้าตามเข้ามา ช่วงไม่พอใจนัก โชติกระโดดลงจากม้า เข้าไปหาช่วง
“พ่อไม่ต้อง...ฉันจับมันให้เอง”
โชติเสนอตัวจะจับเสือหวาดตัวเป็นๆ เพื่อเอาตัวให้ทางการ ได้ค่าหัวมากกว่าจับตาย ช่วงต่อว่าโชติ
“เอ็งไม่ต้องยุ่ง หลบไป”
ช่วงถือปืนขู่ โชติหลบไป ช่วงเล็งปืนไปที่เสือหวาด ไม้กระโดดลงจากหลังม้ามาขวางไว้
“หยุดก่อน”
ช่วงไม่พอใจที่ไม้เข้ามาขวางไว้
แม่บุญอิ่มพาพุดจีบเข้านอน นวลคอยดูแลข้างเตียง กาหลงยืนมองพุดจีบที่นอกห้อง ดีใจที่เพื่อนปลอดภัย แต่ภายในใจกาหลงยังคงหวั่นใจเรื่องพุดจีบกับไม้ เธอเดินกลับเรือนไป
ช่วงไม่พอใจบอกไม้
“ไอ้ไม้ เอ็งหลบไป”
“ผู้ใหญ่ยังฆ่ามันไม่ได้ ฉันจะจับมันไปขอขมาต่อหน้ากระดูกพ่อ กระดูกแม่ ให้มันสำนึกผิดบาปที่มันทำลงไป”
ไม้เข้ามายืนขวางทางปืนช่วง คั่นกลางระหว่างช่วงกับเสือหวาด
“ข้าสั่งให้หลบไป”
ไม้ไม่ยอมหลบหันไปบอกเสือหวาด
“เอ็งยอมรับผิดมาว่าเอ็งฆ่าพ่อแม่ข้า”
เสือหวาดหัวเราะ
“ฮะฮ่าฮ่า”
ช่วงรีบบอกไม้
“ชะ...โจรใจบาปหยาบช้าอย่างมัน จะหาสำนึกเป็นไม่มี ข้าจะฆ่ามันให้ตกนรกชดใช้กรรม”
เสือหวาดแสยยิ้ม
“อยู่กันพร้อมหน้าเสียก็ดี เอ็งจะได้แจ้งความจริงเสียที ว่าคนที่ฆ่าพ่อแม่เอ็ง...ไม่ใช่ข้า”
ไม้แปลกใจ
“เอ็งพูดอะไร...ไม่ใช่เอ็งแล้วจะเป็นใคร”
“คนที่ฆ่าพ่อแม่เอ็งคือ...”
เสือหวาดจะบอกความจริง ช่วงตัดสินใจยิงปืนใส่ ไม้หันไปรู้ว่าช่วงยิงปืนจึงเอียงตัวหลบ กระสุนพุ่งเข้าโดนไหล่เสือหวาดทรุดลง
“ฉันจับมันให้พ่อเอง”
โชติตรงเข้าไปหวังจะจับ เสือหวาดลุกขึ้นมาแล้วแย่งดาบขึ้นมาล๊อคคอโชติไว้
“ทิ้งปืนซะ”
เสือหวาดขู่ช่วง โชติตกใจที่กลายเป็นตัวประกัน ช่วงเล็งปืนใส่เสือหวาด โชติอึ้ง
“พ่อ...”
ช่วงจำใจต้องโยนปืนทิ้ง เสือหวาดล๊อคตัวโชติไปที่ม้า ผลักโชติแล้วฟันเข้าที่แขน โชติทรุดตัวลงกองกับพื้น เสือหวาดกระโดดขึ้นม้าควบหนีออกไป ไม้วิ่งมาขึ้นม้าควบม้าเพื่อตามเสือหวาด ช่วงเข้าไปหยิบปืนจะวิ่งขึ้นม้า โชติเรียกไว้
“พ่อ...ช่วยฉันด้วย”
โชติเจ็บแขนมีเลือดไหล ช่วงไม่สนใจกระโดดควบม้าตามเสือหวาดไป โชติผิดหวังที่พ่อไม่ห่วงเขาเลย
ไม้ควบม้าแล้วหยุดไม่สามารถตามเสือหวาดได้แล้ว ช่วงควบม้าตามเข้ามาแล้วก็หยุด รู้ว่าเสือหวาดหนีไปแล้ว
“มันหนีไปแล้ว”
ช่วงผิดหวัง จะควบม้ากลับไป ไม้ตะโกนถาม
“ทำไมผู้ใหญ่ต้องยิงมัน”
“เอ็งจะให้ข้าไว้ชีวิตไอ้มหาโจรรึ มันออกปล้นชาวบ้านนับครั้งไม่ถ้วน ทางการตามตัวมัน แล้วที่สำคัญหนัก มันเป็นคนฆ่าพ่อแม่เอ็ง”
ไม้นึกถึงภาพที่พ่อแม่ถูกฆ่า ภาพโจรเผาเรือน โจรอยู่บนหลังม้ามีผ้าโพกปิดหน้า
“ทุกสิ่งยังค้างอยู่ในในฉัน แต่เหตุในครั้งนั้น มันโพกผ้าปิดหน้า ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่ามันคือเสือหวาด ฉันต้องการฟังความจริงจากปากมัน”
ช่วงย้อนถาม
“หากไม่ใช่มันแล้วจะเป็นผู้ใด”
ไม้ตอบไม่ได้ ช่วงพูดจบแล้วควบม้าออกไป สวนทางกับเพชรที่วิ่งเข้ามา
“พี่ชายเป็นไงบ้าง จับโจรได้ไหม”
ไม้มองหน้าเพชร ควบม้าวิ่งออกไป เพชรร้องตาม
“พี่ชาย ข้าไปด้วย”
เพชรมองไป ไม้ควบม้าหายไปไกล เพชรหันกลับไปมองเส้นทางนอกหมู่บ้าน
“เสือหวาด เอ็งมันดวงแข็งนัก”
เรือนกาหลง ตอนที่ 6 (ต่อ)
กาหลงรออยู่ที่เรือนเป็นห่วงที่ไม้ยังไม่กลับมา สักครู่ไม้กลับเข้ามา กาหลงวิ่งเข้าไปรับ
“พี่ไม้...ฉันเป็นห่วงพี่มากนะ”
ไม้ยิ้มรับเข้ากอด กาหลงกอดตอบด้วยความชื่นใจที่เขาปลอดภัย
“พุดจีบเป็นอย่างไร”
กาหลงซบไหล่ไม้ ไม่ค่อยพอใจนักที่เขาถามถึงพุดจีบ
“ว่าไงจ๊ะ พุดจีบดีขึ้นหรือยัง”
กาหลงหันมามองหน้า
“พี่ไม้แลห่วงใยพุดจีบนัก”
“ไม่ห่วงได้ไงล่ะ พุดจีบตกใจขวัญบินหนีไปหมด ช่างเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เห็นศพปอง และยังต้องถูกเสือหวาดหมายฉุดเอาไปทำเมีย กาหลงไม่ห่วงเพื่อนรักหรือไง”
กาหลงยิ้มตอบ กลบเกลื่อนอารมณ์น้อยใจ
“ฉันส่งพุดจีบกลับเรือน นอนพักแล้วจ้ะ”
ไม้ยิ้มคลายกังวล กาหลงมองไปทั่วตัวเขา
“พี่กลับมาบอบช้ำหนัก ไปอาบน้ำเถิด ฉันจะทายานวดประคบตัวให้”
“จ้ะ”
กาหลงประคองไม้เดินขึ้นเรือนไป
ไม้นอนหนุนตักกาหลงอยู่ที่ชานเรือน กาหลงใช้ลูกประคบประคบตัวให้เขาพร้อมกับร้องเพลงไปด้วย ไม้ยิ้มมีความสุขใจเอามือจับกาหลงแล้วนอนหลับด้วยความสุข กาหลงประคบนวดตัวให้ร้องเพลงเศร้าๆเพราะกลัวเสียเขาไป หยดน้ำตาร่วงลงพื้น หยดน้ำไหลออกจากตัวกาหลงไหลลงใต้ถุนเรือน
เช้าวันใหม่...โชติเดินขึ้นเรือน มือประคองแขนข้างหนึ่งที่มีผ้าพันแผลจากเมื่อคืนเข้าไปบอกช่วง
“พ่อ...ฉันขอโทษเสียเถิดที่พลั้งทำเสือหวาดมันหนีไปได้”
โชติพูดไม่ทันจบ ช่วงตบหน้าทันที
“เอ็งมันทำพลั้งทุกครั้งแท้เทียว เสือหวาดบุก ทำไมไม่บอกข้า”
โชติหน้าสลด
“ฉันตั้งใจจะจับตัวมันให้พ่อ ไม่อยากให้พ่อต้องเสียแรง”
“แล้วเป็นไง ฝีมือเอ็งมันปลายแถว เอ็งเอาเสือหวาดไม่อยู่ ท้ายสุดไอ้ไม้ก็ออกโรงชิงเอาหน้า แล้วมันก็เกือบรู้...”
ช่วงหลุดปากเรื่องของไม้ โชติสงสัย
“รู้เรื่องไร”
ช่วงเปลี่ยนเรื่อง
“จำใส่กะโหลกไว้...ฝีมือเท่าหางอึ่ง อย่าอวดดีอวดเก่ง เสียแรงนักเทียวที่เกิดเป็นลูกข้า”
ช่วงเดินหนีออกไป โชติยืนมองผิดหวังที่พ่อไม่พอใจเขา แม่น้อยยืนฟังที่มุมหนึ่งสงสารลูกชายอย่างแรง
โชติจะเดินออกไป แม่น้อยเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วงที่โชติถูกช่วงตบหน้าและโดนฟันแขน
“ลูกเจ็บมากไหม ประเดี๋ยวแม่ทายาให้”
แม่น้อยเข้ามาจับแขน โชติผลักแม่
“แม่อย่ายุ่กับฉัน”
“ทำไมล่ะลูก ลูกเจ็บเอาการ คงต้องเอายาสมานแผลมาใส่”
แม่น้อยเข้ามาดู โชติผลักแม่ล้มลง...
“แม่ประคบประหงมอย่างนี้ ฉันถึงได้อ่อนแอ พ่อพาลไม่รักฉัน”
แม่น้อยเสียใจที่โชติต่อว่าเธอ
“ฉันไม่เข้าใจ ตั้งแต่เล็กจนโต แม่คอยขวางไม่อยากให้ฉันฝึกมวย ฝึกดาบ ทำไมแม่ต้องขวางฉัน”
แม่น้อยโพล่งออกมา
“แม่ไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนพ่อ”
“แม่หมายถึงอะไร”
แม่น้อยไม่อยากพูดถึงความเลวร้ายของช่วง เดินเลี่ยงหนีไป โชติหงุดหงิดใจที่ไม่รู้เรื่องราว อบเชยเดินเข้ามาพูดจาเย้ยโชติ
“มันน่าขันนัก หวังทำดีเอาหน้า แต่ถูกตบหน้าเป็นรางวัล”
โชติไม่พอใจเดินหนีออกไป อบเชยดึงแขนไว้
“อย่าพาลหัวเสีย ฉันมาเจรจาเรื่องพุดจีบ”
โชติหันมาสนใจฟังอยากรู้
กาหลงนั่งอยู่ที่ท่าน้ำมองแม่น้ำตรงหน้ารู้สึกเศร้า คิดถึงเรื่องราวของพุดจีบกับไม้ เธอนึกถึงคำพูดของอบเชย
“จริงอย่างเอ็งว่า พี่ไม้ซื่อสัตย์หาใช่ชายสองใจ นั่นประไรล่ะ ดีแสนดีอย่างนี้ เพื่อนรักถึงได้ทึกทักเอาผัวไป เอ็งไว้ใจเกินตัวระวังจะจนใจ เอ็งไม่เคยสงสัยบ้างหรือไง เหตุใดพุดจีบถึงครองตัวมิออกเรือน ถ้าไม่หวังแย่งชิงพี่ไม้”
กาหลงนึกถึง ภาพพุดจีบสวมกอดไม้หลังจากวิ่งหนีจากเสือหวาด ไม้จะออกไปจับเสือหวาด พุดจีบตะโกนบอกไม้ด้วยความเป็นห่วง
“พี่ระวังตัวด้วยนะจ๊ะ”
กาหลงมองภาพพุดจีบบอกไม้ด้วยความห่วงใย เมื่อนึกถึงภาพเหล่านี้ กาหลงไม่พอใจคว้าของใกล้ตัวเขวี้ยงใส่ภาพตรงหน้าภาพนั้นหายไป กลายเป็นผืนน้ำกระเพื่อม ทันใดนั้นเสียงระนาดดังขึ้น กาหลงแปลกใจหันกลับไปมองที่เรือน
อบเชยบอกโชติ...
“ฉันรู้ว่านังกาหลงมันหวั่นใจไปเสียแล้ว มันกลัวเสียพี่ไม้ให้พุดจีบ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า”
“พี่สร้างวีรกรรมให้น้าบุญอิ่มพึงใจแล้ว ก็อย่าปล่อยให้กาลผ่านเลยโดยสูญเปล่า ฉวยโอกาสไปสู่ขอพุดจีบ”
อบเชยเสนอทางให้พี่ชาย โชติคิดๆแต่หวั่นใจ
“เขารู้ออกแซ่ไปทั้งบาง พุดจีบใจแข็งไม่รับรักพี่”
อบเชยเสนอตัว
“ฉันจะช่วยพี่อีกแรง ขอเพียงพี่ทำตามคำฉัน”
โชติสงสัยว่าอบเชยจะให้ทำอย่างไร
เสียงระนาดดังขึ้น กาหลงเดินเข้ามามองไปตรงหน้าเห็นไม้ตีระนาดอยู่หน้าเรือน พุดจีบกำลังรำอยู่ด้านหน้าไม้ กาหลงมองเห็นภาพนั้นก็ไม่พอใจ ไม้ลุกขึ้นทำเสียงระนาดแล้วเข้าไปรำคู่กับพุดจีบ เหมือนกับที่เคยรำกับเธอ กาหลงเสียใจและไม่พอใจวิ่งเข้าไปผลักพุดจีบออกจากไม้ทันที
“อย่าแย่งพี่ไม้ของฉัน”
กาหลงสะดุ้งตื่นมองไปตรงหน้ารู้ตัวว่าเป็นแค่ความฝันก็อุ่นใจ เธอหันไปมองหาไม้ไม่เจอเขาก็แปลกใจ
“พี่ไม้”
อบเชยจูงมือไม้เพื่อเดินทางไปเรือนของพุดจีบ ไม้สะบัดมือออก
“เอ็งปล่อยมือข้า”
“จ้ะ...พี่เร่งไปเถิด”
ไม้สงสัย
“ข้าจะเชื่อใจได้ยังไงว่าสิ่งที่เอ็งพูดเป็นจริง เห็นแต่โกหกตะพึด”
“ฉันรู้ข่าวว่าเสือหวาดบุกเรือนพุดจีบ ฉันไปเยี่ยมเยียน พุดจีบก็เอาแต่ร้องไห้หนัก ฉันหวั่นใจว่าสติจะไม่สมประดีอย่างไอ้จอก เห็นก็มีแต่พี่ไม้นี่แหละที่เป็นหลักชัย เป็นกำลังใจให้พุดจีบได้”
ไม้ฟังความอบเชย ก็ไม่มั่นใจนัก
“หากพี่คิดว่าฉันโป้ปดมดเท็จ พี่กลับเรือนเถิด”
ไม้คิดตัดสินใจ แล้วเดินตรงไปยังเรือนของพุดจีบ อบเชยยิ้มพอใจ ที่เป็นไปตามแผน
กาหลงออกมาหน้าเรือนเรียกหาไม้
“พี่ไม้...พี่ไม้จ๊ะ”
กาหลงออกมาแล้วเจออบเชยอยู่หน้าเรือนก็มองอย่างแปลกใจ
พุดจีบกำลังจะเดินออกไปจากเรือน แม่บุญอิ่มเข้ามาถาม
“ลูกจะไปไหนแต่เช้า”
“ฉันจะไปเยี่ยมและขอบน้ำใจพี่ไม้จ้ะ”
“คนที่ลูกต้องขอบใจคือพ่อโชติ...พ่อโชติช่วยชีวิตลูกแล้วนี่ยังมีน้ำใจมาเยี่ยมลูกด้วยความห่วงใย”
โชติเดินเข้ามายิ้มให้ พุดจีบไม่พอใจ
กาหลงมองอบเชย แล้วเดินเลี่ยงไปเพื่อตามหาไม้
“ฉันรู้ว่าพี่ไม้อยู่ที่ใด” อบเชยพูดขึ้น
กาหลงแปลกใจ หันไปมองอบเชย
“ที่ใด”
อบเชยยิ้มเย้ย
“เอ...แล้วจะมาพึ่งถามฉันทำไมกัน เอ็งน่าจะแจ้งใจดีว่าพี่ไม้อยู่เรือนใคร”
“เอ็งอย่ามัวอมพะนำซิน่า บอกข้ามาพี่ไม้อยู่ใด”
“ใครหนอที่อ่อนแอหนัก หวังคนคอยดูแล”
กาหลงคิดตาม
“ใครหนอ...น่าถนุถนอม คุ้มครองคุ้มภัย”
กาหลงคิดตาม
“ใครหนอ...”
อบเชยจะพูดต่อ แต่กาหลงเดินออกไปยังเรือนพุดจีบ อบเชยหันไปยิ้มเย้ยสะใจ
“ใครหนอ ช่างโง่งม...รักหลงจนติดกับ”
พุดจีบหันไปบอกแม่
“คนที่ช่วยชีวิตลูกคือพี่ไม้ ไม่ใช่พี่โชติ”
“ลูกพูดอะไร พ่อโชติอเสี่ยงชีวิตเอาตัวเข้าแลกสู้ไอ้เสือหวาด ลูกยังขอบใจไอ้ไม้มันอีก”
โชติแทรกขึ้น
“พุดจีบพูดความจริงจ้ะน้าบุญอิ่ม”
แม่บุญอิ่มแปลกใจ
“ก่อนที่ฉันมาถึงเรือน ไม้มาช่วยสู้เสือหวาด แต่พี่ก็สู้สุดใจไม่แพ้มัน ชิงเอาสมทรัพย์คืนมาได้ ความดีของพี่ก็ไม่น่าจะน้อยไปกว่าไอ้ไม้”
พุดจีบยกมือไหว้
“ฉันขอบใจพี่จ้ะ”
โชติรับไหว้ยิ้มพอใจหันไปบอกแม่บุญอิ่ม
“น้าบุญอิ่มคงจำคำที่ให้ไว้กับฉัน”
แม่บุญอิ่มยิ้มให้โชติ พุดจีบสงสัย
ไม้จะไปที่เรือนของพุดจีบ ยายมากำลังเด็ดยอดผักบุ้ง ตาสรกำลังสุ่มจับปลา
“ไอ้ไม้ เอ็งจะไปไหน แวะมาเอายอดผักบุ้งไปจิ้มน้ำพริก” ยายมาหันไปถามไม้
“ขอบใจจ้ะ...ฉันจะเร่งไปหาพุดจีบ”
ไม้พูดจบก็เดินออกไปอย่างเร่งรีบ ยายมามองด้วยความแปลกใจหันไปบ่นกับตาสร
“ตาสร เอ็งได้ยินอย่างที่ข้าได้ยินใช่ไหม ไอ้ไม้เร่งไปหาหญิงอื่นที่มิใช่เมีย”
“มันก็อยากมีเมียสองสิเออ”
ยายมาตกใจ
“เมียสอง”
พุดจีบสงสัยถามแม่บุญอิ่ม
“แม่ให้สัญญาอะไรกับพี่โชติจ๊ะ”
“หากพ่อโชตินำตัวลูกกลับมาได้ แม่ยินดีทำตามคำขอของพ่อโชติ”
พุดจีบได้ฟังเงื่อนไขก็กังวลใจ โชติยิ้มหวาน
“ฉันมาเช้านี้ ก็เพื่อขอพุดจีบ”
พุดจีบตกใจ โชติมองหน้าแม่บุญอิ่ม
“น้าคงไม่กลืนน้ำลายตัวเอง”
แม่บุญอิ่มยิ้มรับ พุดจีบโพล่งออกมาทันที
“แม่ยกฉันให้พี่โชติเป็นไม่ได้”
แม่บุญอิ่มไม่พอใจ
“พุดจีบ”
“พี่โชติหาได้พาฉันกลับสักนิด พี่ไม้ต่างหากที่เสี่ยงชีวิตช่วยฉัน พี่ไม้สั่งให้กาหลงพาฉันกลับเรือน”
พุดจีบหันไปมองโชติ เพื่อยืนยันเหตุการณ์ โชติพูดไม่ออก แม่บุญอิ่มปรามลูกสาว
“แต่พอการเถิดพุดจีบ ถึงยังไง พ่อโชติก็ตามไปสู้ หวังช่วยลูกแม่ถือว่าพ่อโชติมีเอี่ยวช่วยชีวิตลูก แม่จำต้องทำตามสัญญา”
พุดจีบตกใจ
“แม่” พุดจีบหันไปบอกโชติ “พี่กลับไปเถอะ ฉันไม่พร้อมจะคุยเรื่องนี้”
“พี่จะเร่งให้พ่อมาสู่ขอตามประเพณี”
“ยังไงฉันก็ไม่ร่วมหอลงโรงกับพี่”
พุดจีบประกาศยืนยันต่อหน้าโชติแล้วเดินหนีออกไป แม่บุญอิ่มไม่อยากทำให้โชติเสียหน้า
“พ่อโชติกลับไปก่อนเถอะจ้ะ แล้วน้าจะคุยกับพุดจีบให้”
โชติพยักหน้ารับแล้วไหว้ลาแม่บุญอิ่มเดินลงออกไป แม่บุญอิ่มคิดจะหว่านล้อมพุดจีบ
กาหลงเร่งเท้าเดินไปยังเรือนพุดจีบถามยายมา
“ป้ากับลุงเห็นพี่ไม้ไหมจ๊ะ”
“เมื่อกี้มันแล่นผ่าน แจ้งว่าจะไปหาพุดจีบ”
กาหลงหวั่นใจ
“ขอบใจจ้ะ”
กาหลงจะเดินออกไป ยายมารั้งแขนไว้
“ไอ้ไม้ตื่นมาก็ไปหาหญิงอื่นถึงเรือน ข้าถามจริงเหอะ มันคิดอะไรของมัน”
ตาสร เข้ามาเสริม
“ข้าบอกเอ็งแล้วไง เห็นท่ามันอยากมีเมียสอง”
กาหลงไม่พอใจนัก รีบเดินออกไป ยายมาหันมาคุยกับตาสร
“โกรธ....กาหลงมันคงหึงผัว”
“บ๊ะ...ครานี้เรือนพังเป็นแน่”
ยายมาสงสัยอยากรู้
“พังหรือไม่พัง ตามไปดูให้รู้กัน”
ตาสรกับยายมามองหน้าแล้วพูดพร้อมกัน
“มันจะดีรึ”
ตาสรและยายมาจูงมือกันวิ่งตามไปเรือนพุดจีบ แม่กลอยยืนอยู่มุมหนึ่งได้ยินเรื่องราว ก็กังวลใจคิดตามไป
ไม้เดินเข้ามาบริเวณสวนของเรือนพุดจีบ โชติเดินเข้ามาเจอหน้าไม้ก็ไม่พอใจ
“เอ็งมาทำอะไร” ไม้ถามเสียงแข็ง
“ข้าต่างหากที่ต้องถามเอ็ง นี่มันเรือนคนรักของข้า”
“เอ็งเพ้อพกยิ่งกว่าคนเสียสติ”
“อีกไม่นานเกินรอ ข้าจะให้พ่อมาสู่ขอพุดจีบเสียต่อหน้าทุกคน”
โชติยิ้มเย้ยไม้ แล้วเดินสวนออกไป ไม้หันไปตะโกนไล่หลัง
“ข้าไม่มีวันยอมให้พุดจีบ ร่วมหอกับคนชั่วอย่างเอ็ง”
ไม้พูดจบก็รีบเดินไปหาพุดจีบด้วยความเป็นห่วง โชติหันหน้ามามองไม้ไม่พอใจ
พุดจีบยืนร้องไห้เสียใจที่แม่จะยกเธอให้โชติอยู่มุมหนึ่งของเรือน แม่บุญอิ่มเดินเข้ามาต่อว่า
“แม่ไม่พอใจที่ลูกเสียมารยาทกับพ่อโชติ”
“แม่ก็รู้ว่าลูก...”
แม่บุญอิ่มขัดขึ้น
“หยุดมากข้ออ้างเสียที แม่หวังใจให้ลูกแต่งงานกับพ่อโชติ”
“แม่...แม่ไม่รักพุดจีบแล้ว แม่ถึงได้หักหาญน้ำใจลูก”
พุดจีบร้องไห้เสียใจ แม่บุญอิ่มเข้าไปเช็ดน้ำตาปลอบใจ
“แม่ทำไปเพราะรักลูก”
พุดจีบมองหน้าบุญอิ่ม
“หลังจากพ่อลูกเป็นไข้ตายจาก เราก็อยู่กันตามประสา เรือนนี้มีแต่หญิง เกิดเหตุร้ายก็เหลือจะเอาตัวรอด”
พุดจีบคิดตามคำพูดของแม่
“พ่อโชติแสดงให้แจ้งว่า มีใจห่วงใยและปกป้องลูกได้แท้เทียว หากเมื่อคืนมิได้พ่อโชติมาช่วย เราต้องพาลเสียทรัพย์ แม่อาจต้องเสียลูก...ลูกรักของแม่ ถ้าไม่อยากให้แม่เสียคำสัตย์ ขอลูกคิดเปิดใจรับรักพ่อโชติเถิด”
แม่บุญอิ่มพูดหว่านล้อม พุดจีบร้องไห้
“ขอเวลาให้ลูกได้ตรึกตรองเถอะจ้ะ”
แม่บุญอิ่มพยักหน้ารับ
“แม่หวังใจว่าลูกจะตอบแม่ได้ไม่นานเกินรอ”
แม่บุญอิ่มลูบหัวลูกสาว พุดจีบเศร้าใจคิดตัดสินใจ
กาหลงเดินมาถึงบริเวณสวนของเรือนพุดจีบเร่งเดินเข้าไป อบเชยเดินเข้ามาเห็นกาหลงมาที่เรือนพุดจีบก็ดีใจ มือโชติเข้ามาดึงตัวอบเชยออกไป อบเชยตกใจสะบัดมือออกหันไปมองไม่พอใจ
“พี่โชติ ทำเอาฉันใจหายใจคว่ำ”
“พี่ทำตามคำเอ็ง พุดจีบก็ยังปากหนักไม่รับรักพี่ แผนของเอ็งไม่ได้ความ”
“นั่นมันแค่โหมโรง รอดูตอนเข้าบทเข้าเรื่องของฉันสิ”
โชติไม่เข้าใจ
“เอ็งวางแผนให้กาหลงมาเห็นไม้อยู่กับพุดจีบ มันจะได้ผลอย่างไรกัน”
“พี่รู้จักผู้หญิงน้อยเกินไป ไม่เคยได้ยินรึไง เสียทองท่วมหัวแต่ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร”
“เอ็งคิดผิดแล้ว เอ็งก็รู้ว่ากาหลงรักสนิทพุดจีบเป็นเกลอ ไม่มีทางที่จะขัดใจเรื่องผู้ชาย”
“ผู้หญิงมีจุดอ่อนตรงนี้ล่ะ รักมาก หวงมาก และคนที่น่าระแวงที่สุดคือเพื่อนรัก เชื่อฉันเถอะ”
อบเชยมั่นใจว่าแผนของเธอ ต้องทำให้กาหลงผิดใจกับพุดจีบ
ไม้ขึ้นมาบนเรือน เป็นห่วงพุดจีบ...
“พุดจีบ”
พุดจีบเดินออกมาเจอไม้ก็แปลกใจ
“พี่ไม้”
ไม้ดูแลด้วยความห่วงใย
“พุดจีบเป็นยังไงบ้าง หายตระหนกตกใจหรือยัง ขวัญเอ๋ยขวัญมา...ขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัวนะขวัญ”
ไม้จับมือพุดจีบแล้วพูดปลอบขวัญ พุดจีบมองไม้ด้วยความแปลกใจ รู้สึกดีที่ไม้เป็นห่วงเธอมาก ไม้ยังคงพูดกล่อมปลอบขวัญ พุดจีบจับมือไม้แล้วบอกไม้
“พอเถอะจ้ะ...ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”
“อบเชยบอกพี่ว่าพุดจีบ...”
ไม้พูดไม่ทันจบ กาหลงตรงเข้ามาเห็นภาพพุดจีบจับมือไม้ก็โกรธมาก
“พุดจีบ”
พุดจีบและไม้หันไปเห็นกาหลงยืนมองไม่พอใจ อบเชยและโชติเดินเข้ามาที่มุมหนึ่ง ทั้งสองมองไป...แม่กลอย ยายมาและตาสร เดินเข้ามาอีกมุมหนึ่ง...พุดจีบปล่อยมือไม้ กาหลงเดินเข้าไปตบหน้าพุดจีบทันทื ไม้ตกใจ
“กาหลงทำอะไร”
“ทำไมถึงทำกับฉันอย่างนี้”
กาหลงเข้าไปผลักพุดจีบล้มลงแล้วเข้าไปตี อบเชยยืนมองด้วยความสะใจ แม่กลอยอึ้งไม่คิดว่ากาหลงจะทำร้ายพุดจีบ ยายมาและตาสรตกใจ กาหลงทุบตี พุดจีบปัดป้องกันตัว ไม้เข้าไปยื้อห้ามไว้
“หยุดนะกาหลง”
กาหลงไม่ฟังเสียง ยังคงตบตีพุดจีบ
นวลผลักประตูเข้าไปยังห้องบุญอิ่ม
“เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ”
แม่บุญอิ่มแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
กาหลงทุบตีพุดจีบ ไม้ดึงตัวออกแล้วผลักกาหลงล้มลงไป
“พี่ไม้” กาหลงเสียใจ
ไม้เข้าไปดูแลพุดจีบ ประคองลุกขึ้น กาหลงเห็นก็ยิ่งเสียใจ
“พุดจีบเป็นยังไงบ้าง”
“พี่ไม้ไม่รักกาหลงแล้ว พี่ปันใจให้พุดจีบ”
ไม้มองหน้ากาหลง
“กาหลงหยุดพร่ำหยุดคิดเสียเดี๋ยวนี้ พี่ต่างหากที่ต้องถามกาหลง พุดจีบทำอะไรพลั้ง ถึงต้องพาลตบตี”
“พุดจีบกำลังแย่งพี่ไปจากฉัน”
พุดจีบยืนฟังก็ตกใจที่กาหลงยังคิดอย่างนั้น แม่บุญอิ่มและนวลเดินเข้ามาได้ยินก็นิ่งอึ้ง พุดจีบจ้องหน้ากาหลง
“กาหลง...ฟังฉันนะ จะให้ฉันสาบานต่อหน้าพระฉันก็ยอม ฉันไม่เคยคิดแย่งชิงพี่ไม้จากกาหลง”
ไม้เสริม
“พี่มาหาพุดจีบ เพราะอบเชยบอกว่าพุดจีบอาการแย่หนัก ไม่เชื่อใจพี่ก็ถามอบเชย”
ทุกคนหันไปที่อบเชย กาหลงหันไปรอฟังคำตอบ
“อบเชย...บอกกาหลงสิว่าเอ็งไปบอกข่าวข้า” ไม้สั่งเสียงเข้ม
อบเชยทำไม่รู้ไม่ชี้
“พี่ไม้พูดอะไร โกหกตะพึด”
ไม้ไม่พอใจ
“อบเชย”
อบเชยโกหกต่อ
“ฉันเห็นพี่ไม้มาเรือนพุดจีบ ฉันก็นึกสงสารกาหลง ไปบอกว่าพี่ไม้มาที่นี่ ไม่อยากให้พี่สวมเขาให้กาหลง”
“เอ็งโกหก” ไม้ตวาด
อบเชยสวน
“พี่นั่นแหล่ะที่กุเรื่องเอาตัวรอด” อบเชยหันมายุกาหลงต่อ “กาหลง เอ็งก็เห็นอยู่แก่ใจ หลายครั้งหลายคราที่พี่ไม้ใกล้ชิดสนิทชิดเชื้อกับพุดจีบ ข้าไม่เคยโกหกแม้แต่น้อย”
ยายมาและตาสรเข้ามาโวยวาย
“แล้วใครกันที่โกหก”
ยายมาและตาสรมองไปยังไม้และอบเชย...แม่กลอยเข้ามากลางวง
“ไม่ต้องเสียน้ำลายจับตัวคนโกหก แม่พุดจีบเปิดปากเสียโดยดีว่าคิดอ่อยลูกเขยข้า”
พุดจีบตกใจ แม่บุญอิ่มไม่พอใจ
“แม่กลอยหยามเกียรติลูกสาวฉันหนักข้อไปกระมัง พุดจีบมิมีวันคิดทำเป็นแน่”
แม่กลอยมองหยัน
“ชะแม่ ออกหน้ารับแทนลูก มันน่าสมเพชหนัก ก่อนหน้าเอ็งเล่นบทแม่พระใจบุญ หนุนนำให้กาหลงออกเรือนกับไม้ แต่พอทั้งสองครองคู่สมรัก เอ็งก็ยุให้ลูกสาวแย่งผัวเพื่อน เหมือนที่เอ็งเคยทำกับข้า”
แม่บุญอิ่มไม่พอใจ
“แม่กลอย”
“ข้าพูดแทงใจดำเอ็งสิท่า เรื่องแย่งชิงผู้ชายเอ็งมันถนัด คงสั่งลูกสาวมาเต็มกระบวน หรือไม่ก็เชื้อแม่มันแรงทำไปโดยตัณหา”
แม่บุญอิ่มไม่พอใจตบหน้าแม่กลอย ยายมาและตาสรจ้องมองอึ้งตกใจไม่คิดว่าแม่บุญอิ่มจะกล้าตบแม่กลอยอย่างนี้ แม่กลอยไม่ยอมแพ้ตบคืน ยายมาและตาสรจ้องมองลุ้นให้ตบตีกัน
“ตบคืน”
แม่บุญอิ่มยกมือจะตบแต่เอามือลง ยายมาและตาสรผิดหวัง
“ยั้งมือทำไมล่ะแม่ ตบคืนสักฉาดสองฉาด” ยายมาหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ
ตาสรดุยายมา
“มันจะดีรึ” ตาสรพูดไปแต่ออกท่าทางให้แม่บุญอิ่มตบคืน
แม่บุญอิ่มมองแม่กลอยแล้วไล่
“แม่กลอย นับแต่นี้เอ็งมิใช่เพื่อนข้า ตายไปก็ไม่ต้องมาเผาผี”
แม่กลอยสวน
“ข้าก็ไม่เคยนับเอ็งเป็นเพื่อน”
“งั้นก็ออกไปจากเรือนข้าเสีย”
แม่บุญอิ่มไล่แม่กลอยให้ออกไป แม่กลอยยอมหันหลังจะเดินออกไปหันไปบอกกาหลง
“กาหลง กลับเรือน”
ยายมาผิดหวัง
“ศึกสงบเสียแล้ว เสียแรงแล่นมาแต่ทุ่ง”
“กลับไปจับจิ้งหรีดกัดกันท่าจะสาแก่ใจกว่า” ตาสรบ่น
ยายมาและตาสรจะจูงมือออกไปจากเรือน นวลเข้ามาเดินไล่ต้อนทั้งสองให้ลงไปจากเรือน
“ไปได้แล้ว”
ยายมาและตาสรถูกนวลไล่ต้อนลงไปจากเรือน
“ชู่...ไปแล้วไปลับ ไม่ต้องกลับมาเหยียบเรือนอีก”
ยายมาโกรธ
“ไม่ต้องมาไล่ข้า จำคำข้าไว้ ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย”
ยายมากับตาสรพูดพร้อมกัน
“พวกข้าไม่มาเหยียบเรือนนี้อีก”
ยายมาและตาสรเดินออกไปนวลยิ้มพอใจ
เรือนกาหลง ตอนที่ 6 (ต่อ)
กาหลงยืนจ้องมองไม้ แม่กลอยจะเดินออกไปหันกลับมาเรียกกาหลง
“กาหลง ข้าสั่งให้เอ็งกลับเรือนเสีย”
“ฉันไม่ไปไหนเสียทั้งนั้น จนกว่าฉันจะได้แจ้งใจว่าเพื่อนฉัน หักหลังฉัน”
กาหลงมองพุดจีบรอฟังคำตอบ ไม้แปลกใจที่กาหลงคิดอย่างนั้น และไม่ยอมจบเรื่อง ยายมาและตาสรจะเดินออกไป แต่ได้ยินคำพูดของกาหลงก็ยั้งเท้าไว้ ยายมาตื่นเต้นดีใจ
“สงครามยังไม่จบ”
ตาสรชะงัก
“มันจะดีรึ”
ตาสรฉุดมือยายมารีบวิ่งไปที่เรือนพุดจีบเพื่อดูการทะเลาะอีกครั้ง นวลขวางไว้
“กลับไปได้แล้ว”
ยายมาและตาสรผลักนวลแล้วรีบวิ่งเข้าไป เพื่อดูการทะเลาะกัน นวลตกใจเป็นห่วงพุดจีบ
กาหลงตรงเข้าไปถามพุดจีบ ด้วยท่าทีเอาเรื่อง
“พุดจีบ...เอ็งพูดความจริงมาให้หมดใจในเดี๋ยวนี้ ว่าเอ็งหวังได้ พี่ไม้ทำผัว”
ไม้ตกใจที่กาหลงพูดอย่างนั้น
“แต่พอการเถอะกาหลง”
“พูดสิ หักใจพูดมาว่าเอ็งคิดยังไงกับผัวข้า”
กาหลงเข้าไปซักไซ้เขย่าตัวถามพุดจีบ ไม้เข้าไปดึงตัวกาหลงออกมา
“พอการ…กาหลงกลับเรือน”
ไม้รวบตัวกาหลงจะพาออกไป กาหลงโวยวาย
“ปล่อยฉัน พี่ไม้ปล่อยฉัน”
“พี่ไม้ปล่อยกาหลงเถอะ” พุดจีบพูดเรียบนิ่ง
ไม้แปลกใจ กาหลงสะบัดตัวออกจากไม้ ทุกคนบนเรือนแปลกใจ อยากรู้ว่าพุดจีบจะทำอย่างไร พุดจีบมองหน้ากาหลง
“กาหลงฟังฉัน ฉันจะรักพี่ไม้ได้อย่างไรกัน ในเมื่อฉันกำลังจะร่วมหอกับพี่โชติ”
กาหลงและไม้ตกใจ หันไปมองโชติที่ยิ้มพอใจ อบเชยยิ้มให้โชติที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
“พุดจีบ...พุดจีบยอมร่วมหอกับพี่แล้ว” โชติเข้าไปหาพุดจีบ
ไม้กันตัวโชติออกไป
“ไม่ได้ พี่ไม่ยอมเห็นงามให้พุดจีบแต่งกับมัน”
ไม้เข้าไปผลักออก โชติไม่พอใจ กาหลงไม่พอใจที่ไม้เข้าไปกันท่าโชติ ยายมา ตาสร นวลเห็นท่าทีของไม้ก็แปลกใจ ยายมาพูดกับตาสร
“ไอ้ไม้ท่าจะหึงพุดจีบ”
กาหลงคิดตามคำพูดของยายมา ตาสรเริ่มเข้าใจ
“อย่างนี้สิเออ ข้าเห็นมันเทียวไปเทียวมาหาพุดจีบอยู่หลายครา”
ยายมาตาโต
“รึว่ามันสองจะเคย...”
ไม้ขัดขึ้น
“พวกน้าอย่าคิดอกุศล สักน้อยฉันไม่เคยคิดอย่างว่าสิเล่า ฉันกันท่าเพราะฉันไม่วางใจคนชั่วอย่างมัน”
“เอ็งหุบปากเอ็งซะ” โชติบอกพุดจีบ “พี่รู้ที่ผ่านมาพี่ทำตัวไม่ดี ขาดสติพลั้งผิดก็มากโข แต่เพื่อพุดจีบ เพื่อชีวิตใหม่ ของเรา พี่จะบวชสักพรรษาให้พุดจีบยอมรับในตัวพี่”
พุดจีบแปลกใจที่โชติยอมบวชเพื่อเธอ
“ฉันจะรอพี่ แล้วเราจะร่วมหอร่วมใจกัน”
โชติยิ้มพอใจ ไม้ไม่พอใจ เข้าไปบอกพุดจีบ
“พุดจีบอย่าไปฟังคำมัน”
กาหลงสุดทน
“พี่ไม้ ฉันเพิ่งแจ้งใจครานี้ นอกจากพุดจีบจะคิดการให้ท่าพี่ พี่เองก็มีใจให้พุดจีบไม่ผิดกัน”
กาหลงวิ่งออกไปด้วยความเสียใจ
“กาหลง...”
แม่กลอยต่อว่าไม้
“ไอ้ไม้ หากเอ็งยังนับถือข้าเป็นแม่ยาย เอ็งลงเรือน ไปดูแลลูกสาวข้า”
แม่กลอยต่อว่าแล้วเดินกลับไป โชติมองหน้าไม้
“ไม่ได้ยินที่แม่ยายเอ็งสั่งรึไง”
ไม้ยังไม่ออกไป เพราะไม่อยากให้พุดจีบแต่งงานกับโชติ
“พี่ไม้กลับเรือนเถอะ ฉันขอร้อง” พุดจีบต้องบอก
ไม้ตัดสินใจ หันไปยกมือไหว้แม่บุญอิ่มที่รับไหว้ไม่เต็มใจนัก ไม้ออกไปจากเรือน โชติดีใจจะชวนคุย
“น้องพุดจีบ”
พุดจีบตัดบท
“ฉันไม่ค่อยจะสบาย ขอตัวไปพักประเดี๋ยว”
พุดจีบพูดจบก็เดินออกไป แม่บุญอิ่มหันมาบอกโชติ
“พ่อโชติกลับไปก่อนเถอะจ้ะ”
“จ้ะ”
แม่บุญอิ่มตามพุดจีบเข้าไป โชติยิ้มพอใจที่พุดจีบยอมรับรัก เดินออกไป ยายมาหันไปบอกอบเชย
“พี่ชายเอ็งไปโน่นแล้ว จะยืนหาพระแสงอะไร ไปได้แล้ว”
อบเชยไม่พอใจ เดินกระแทกไหล่ยายมาออกไป
“นังนี่มันร้ายนัก รุ่นราวคราวเดียวกันล่ะแม่เอ๊ย แม่จะตบให้หน้าคะมำ”
นวลเดินตรงเข้ามาหายายมา ไม่พอใจที่ยายมาและตาสรคอยเสี้ยมยุแหย่
“ฉันกับพี่ก็ห่างไม่กี่ปี สักยกไหมล่ะ”
ยายมากลัวนวล
“มันจะดีรึ”
นวลตะคอกใส่
“สาระแนทุกเรื่อง ออกไปจากเรือนได้แล้ว”
ยายมาตกใจกลัว
“ว้าย...”
ตาสรเข้าไปลากตัวยายมาวิ่งออกไปจากเรือนทันที ทั้งสองพลาดล้มลุกคลุกคลานออกไป นวลระอาใจที่มีเรื่องวุ่นวายเป็นห่วงความรู้สึกของพุดจีบ
ค่ำนั้น กาหลงนั่งกอดเข่าร้องไห้ที่ท่าน้ำ ไม้เดินเข้ามายืนอยู่ด้านหลังกาหลง ยืนมอง ใจหนึ่งก็สงสาร ใจหนึ่งก็ยังโกรธ
แม่บุญอิ่มเดินเข้าไปหาพุดจีบ ซึ่งนั่งร้องไห้อยู่ในห้อง
“ลูกตรึกตรองดีแล้วรึไม่นั่น”
พุดจีบยิ้มทั้งน้ำตา
“ลูกจะก้มหน้าตามเวรของลูก มันคงเป็นคำตอบที่ดีสาหัสสุดแล้ว”
แม่บุญอิ่มยิ้มรับ แต่ยังห่วงความรู้สึกขอลูกสาว
“ลูกรักพ่อโชติหรือไม่”
“บางครั้งความรักก็หาใช่เรื่องใหญ่ เท่ากับการได้ทำเพื่อหน้าที่ เพื่อใครบางคน หรือทำเพื่อคนที่เรารัก”
พุดจีบยิ้มทั้งน้ำตา แม่บุญอิ่มเข้าใจความรู้สึกของลูกสาวดี
“แม่ดีใจที่ลูกคิดได้ พ่อโชติอาจไม่ใช่คนดีโดยสมบูรณ์ แต่คนเราเปลี่ยนแปลงได้ แม่เชื่อว่าความผูกพันจะทำให้ลูกรักพ่อโชติได้ไม่ยาก”
แม่บุญอิ่มเข้าสวมกอดลูกสาว พุดจีบร้องไห้น้ำตาไหลพราก
กาหลงนั่งร้องไห้ ไม้เดินตรงมาหา กาหลงรู้ว่าเขาเข้ามาก็เช็ดน้ำตา ลุกขึ้นแล้วจะเดินหนีไป ไม้จับมือไว้ เธอหยุดมอง คิดว่าเขาจะขอโทษที่ทำร้ายความรู้สึกของเธอ ความรู้สึกภายในใจของกาหลงดีขึ้น เธอยืนรอฟังคำขอโทษจากเขา
“พี่ไม่ชอบใจที่กาหลงก้าวร้าว และทำร้ายพุดจีบ”
กาหลงนิ่งอึ้ง รู้สึกผิดหวัง ที่ไม้ยังคงห่วงใยพุดจีบ เธอสะบัดมือออกน้ำตาไหล
“ฉันคิดว่าพี่จะมาง้อขอโทษฉัน แต่พี่กลับตำหนิฉัน”
“มันสมควรแล้วรึที่กาหลงกล่าวหาพุดจีบ ตบตีพุดจีบ”
กาหลงสวนกลับ
“แล้วมันผิดคำที่ฉันพูดเสียเมื่อไร”
ไม้ฟังความคิดของกาหลงก็เสียใจนิ่งมอง
“พี่เสียใจ...”
“ฉันต่างหากที่ต้องเสียใจ”
“กาหลงคิดอย่างนั้น เท่ากับกาหลงไม่ไว้ใจพี่”
“ฉันรักและเชื่อใจ พี่ต่างหากที่ทำให้ฉันหวั่นใจ”
“กาหลงเชื่อคำอบเชย แทนจะเชื่อในคนรักของตัวเอง กาหลงรู้เห็นมาตลอดว่าอบเชยคอยใส่ไฟทำลายความรักของเรา”
“ฉันไม่ได้เชื่อคำใคร ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น”
กาหลงยืนยันความคิดของเธอ
“ทุกครั้งที่พี่อยู่ใกล้กัน มันทำให้ฉันหวั่นใจ หญิงกะชายใกล้กัน ฤาจะให้คิดเป็นอื่น”
“พี่ไม่มีเจตนาคิดมากไปกว่านั้น พุดจีบเดือดร้อนพี่ก็เข้าไปช่วย”
“งั้นพี่คงต้องช่วยดูแลพุดจีบทั้งชีวิต”
ไม้นิ่งอึ้ง
“พุดจีบควรมีใครสักคนดูแลเป็นคู่ชีวิต ไม่ใช่พี่ แล้วฉันจะไม่น้อยใจได้อย่างไร พุดจีบจะแต่งงานกับโชติ พี่ก็ออกโรงขวาง แท้จริงแล้วพี่หึงพุดจีบ พี่รักพุดจีบ”
กาหลงระบายความในใจออกมา คิดว่าไม้จะเข้าใจความรู้สึกของเธอ ไม้กลับรู้สึกเสียใจและน้อยใจที่เธอคิดอย่างนั้น เขาเดินหนีออกไป
“พี่ไม้”
อบเชยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จะเดินขึ้นเรือน โชติเข้ามาบอกอบเชย
“พี่ขอบใจเอ็ง”
“ฉันบอกแล้วว่าแผนฉันต้องสำเร็จ”
“ว่าแต่เอ็งเถอะ ทำอย่างนี้ ยิ่งทำให้ไอ้ไม้เกลียดที่เอ็ง โกหกพกลม”
“อย่างมากก็แค่โกรธ แต่มันก็คุ้ม ทำให้พุดจีบออกไปจากชีวิตพี่ไม้”
“ไอ้ไม้ยังมีกาหลง เป็นเมียอยู่ทั้งคน”
“มันไม่หนักข้อนักดอก ทำให้กาหลงผิดหวัง น้อยใจ หวาดระแวงพี่ไม้เยอะๆ เผื่อมื้อหน้านังกาหลงเกินทน ยอมเลิกรา พี่ไม้ก็เป็นไท”
อบเชยยิ้มมั่นใจในแผนการของเธอ
ไม้เดินหนี กาหลงตามเข้ามา
“พี่ไม้จะหนีหน้าไปไหน พี่อย่าหนีความจริง”
ไม้หันกลับมาตอบ
“พี่ไม่ได้หนีหน้า ไม่คิดหนีความจริง แต่พี่ไม่อยากคุยกับคนเห็นแก่ตัว”
กาหลงอึ้งแปลกใจ
“ฉันทำอะไรผิด”
ไม้ต่อว่าอย่างไม่พอใจ
“กาหลงก็รู้ว่าไอ้โชติเลวทรามยังไง กาหลงยังผลักไสให้เพื่อนรักไปร่วมหอกับคนพรรค์นั้น กาหลงเอาอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น ไม่ห่วงใยเพื่อน กาหลงเห็นแก่ตัว”
ไม้ระบายความรู้สึกออกมา กาหลงเสียใจ ตะโกนระบายความในใจ
“ใช่ ฉันมันเห็นแก่ตัว แล้วพี่เคยถามฉันสักคำไหม ว่าเพราะอะไร...”
ไม้มองหน้า
“ฉันรักพี่มากเท่าไร ฉันยิ่งห่วงและหวงพี่มากเท่านั้น ฉันไม่อยากเห็นผู้หญิงอื่นเข้าใกล้พี่”
ไม้สวนกลับ
“หึงจนไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม จะให้พี่ทนได้ยังไงกัน”
กาหลงตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้
“พี่ไม้...”
ไม้เองก็รู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง ไม้นิ่งมอง กาหลงเศร้าเสียใจ ไม้ตัดสินใจเลี่ยงหนีไป เพราะไม่อยากคุยในอารมณ์โมโห
“คืนนี้พี่จะไปนอนวัดกับไอ้โขง” ไม้เดินออกไป
กาหลงร้องเรียก
“พี่ไม้กลับมา”
ไม้ไม่หันหลังกลับ เดินออกไป กาหลงตะโกนเรียก
“พี่ไม้ กลับมาหาฉัน”
ไม้เดินออกไปจนลับตา กาหลงเสียงดัง
“พี่ไม้”
กาหลงหน้าซีด ลมพัดด้านหน้าผมสลายด้วยความโกรธเสียงก้องกังวานน่ากลัว
“อย่าทิ้งฉันไป”
ลมพัดบริเวณนั้นด้วยความน่ากลัว สักครู่ลมค่อยสงบลง กาหลงหน้าเศร้า ผมค่อยๆกลายเป็นปกติ น้ำตาไหลไม่หยุด กาหลงทรุดตัวลงร้องไห้กับพื้น เสียงสะอื้นดังกังวานน่าสงสาร กาหลงนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น บริเวณรอบตัวกาหลง มีน้ำเจิ่งนองรอบตัว
เช้าวันใหม่...แม่กลอยนั่งสับหมาก ปังๆด้วยความโกรธ ชบาเดินเข้ามาเห็นแม่สับหมากก็แปลกใจ เข้าไปแหย่เล่นหวังให้แม่อารมณ์ดี
“แม่นอนฝันดีเหรอจ๊ะ อารมณ์ดีแต่เช้าเชียว”
“นังชบา อย่ามาวอนหาเรื่อง ข้ายิ่งอารมณ์เสีย”
ชบาเข้ามาหยิบหมากส่งให้แม่
“แม่มีเรื่องหนักอกหนักใจ เล่าให้ฉันฟังเถอะ ฉันจะช่วยแบ่งเบาปัญหาให้แม่เอง”
“พ่อโชติจะบวชแล้วแต่งงานกับพุดจีบ”
ชบาแปลกใจ
“นี่ถ้าฉันไม่ฟังจากปากแม่ ฉันไม่มีวันเชื่อว่าพี่พุดจีบจะตกลงปลงใจกับพี่โชติ แต่ก็ดี พี่พุดจีบจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที”
แม่กลอยสับมีดดังปัง
“ไม่ดี”
“ทำไมล่ะแม่ พี่พุดจีบจะได้มีคนดูแล จะว่าไป พี่พุดจีบก็เหมาะสมที่จะเป็นเจ้าสาวของพี่โชติ”
“เอ็งต่างหากคู่ควรกับพ่อโชติ”
ชบาตกใจ
“แม่ว่าอะไรนะ”
“พี่สาวเอ็งริใฝ่ต่ำเลือกไอ้ไม้ ข้าหนักใจมากโข ข้าเหลือเอ็งคนเดียว ชบาเอ็งก็โตเป็นสาวเป็นนางแล้ว ข้าจะยกเอ็งให้พ่อโชติ”
ชบาตกใจ
“ไม่นะ ฉันไม่เอาอะไรพรรค์นั้นหรอก”
แม่กลอยไม่พอใจ
“นังชบา เอ็งอย่ามาแข็งข้อเหมือนพี่สาวเอ็ง”
“ฉันไม่ได้รักพี่โชติ หัวเด็ดตีนขาดฉันก็ไม่ยอม”
ชบาจะเดินลงไปจากเรือน
“เอ็งจะไปไหน”
“ไปทุ่ง...” ชบาชิงขู่ไว้ “ถ้าแม่จับฉันให้พี่โชติ ฉันจะหนีไป”
ชบาวิ่งลงไปจากเรือน
“นังชบา กลับมา”
ชบาวิ่งหนีออกไป ไม่สนใจฟัง แม่กลอยไม่พอใจ
“ข้าไม่มีวันปล่อยให้นังบุญอิ่ม ได้เป็นแม่ยายพ่อโชติหรอก”
แม่กลอยยืนยันจะจับชบาแต่งกับโชติให้ได้
ชบาถือพร้าฟันต้นกล้วย ด้วยความหงุดหงิดที่ถูกบังคับให้แต่งงาน
“ไม่ ฉันไม่ยอมร่วมหอกับพี่โชติเด็ดขาด”
ชบาประกาศเสียงดังแล้วใช้พร้าฟันฉับ ต้นกล้วยล้มลงเผยให้เห็นเพชรกำลังยืนฉี่ใส่ต้นกล้วยอยู่ ชบาตกใจตาค้าง
“ไอ้ลามกจกเปรต”
เพชรตกใจ
“เฮ้ย”
ชบาวิ่งหนีไป เพชรจะวิ่งตามไป แต่ยังฉี่ไม่สุดหันหลังไปฉี่อีกทาง
ไม้นั่งกลุ้มใจอยู่มุมหนึ่งในวัด โขงเข้ามาปลอบใจ
“พี่ไม้เลิกคับใจได้แล้ว ผู้หญิงก็เป็นซะอย่างนี้ล่ะ รักมาก พิษหึงก็มาก”
“กาหลงไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน”
“มื้อนั้นเป็นแค่คู่รัก แต่มื้อนี้พี่เป็นผัว”
“มันผิดกันด้วยรึวะ”
“ผิดสิพี่ ฉันเคยได้ยินสัปเหร่อขาวตาสรนินทาเมีย ยามคบหาดูใจอะไรก็ได้ เราชี้นกบอกว่าไม้ก็ใช่หมด แต่พอแปรเปลี่ยนเป็นเมียล่ะพี่เอ๊ย ชี้ไม้บอกว่านก มันด่าเปิง ยังจะตามคุมแจไม่ให้ชี้ชมใครอื่นนอกจากเมีย”
“ฉันเองเคยพบพานแต่เรื่องหวาน ไม่คาดคิดว่ากาหลงจะหึงได้หนักเช่นนี้”
จอกร้องเพลงเดินเข้ามา
“โบราณว่าไว้ให้จำท่อง เสียทองท่วมหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร”
ไม้ดีใจที่เห็นจอกเป็นปกติ ยิ้มให้
“เอ็งหายดีแล้ว”
จอกยิ้ม
“จ้ะพี่”
“ข้าดีใจกับเอ็งจริงๆ”
จอกเข้ามาจับมือจับตัวไม้ แล้วก็โอบกอด ไม้เริ่มแปลกใจ จอกจะหอมแก้มจูบ
“เฮ่ย...ไอ้จอก” ไม้ดันตัวออก
“พี่อย่าหนีไปไหนนะ สุดสวาทของน้อง มาม๊ะ มาหอมแก้มให้ชื่นใจ”
จอกจะเข้ามากอดหอมไม้ โขงต้องลากตัวจอกออกห่าง
“มันก็เป็นงี้ล่ะ สามวันดีสี่วันเพี้ยน”
จอกหัวเราะเสียงดัง แบบเพี้ยนๆ ไม้ผิดหวังที่จอกยังไม่หายดี แต่ก็ยังดีใจที่จอกดูร่าเริงมีความสุข
เพชรวิ่งไล่ตามชบา
“ชบา...รอข้าด้วย”
เพชรคว้าแขนไว้ ชบามองหน้า เพชรรีบปล่อยมือ
“เอ็งต้องรับผิดชอบข้า”
“ข้าทำอะไรเอ็ง”
“เอ็งเห็นปลิง...เอ็งต้องแต่งงานกับปลิง”
ชบาเย้ยหยัน
“เชอะ...ของพรรค์นั้นบ้านฉันเรียกไส้เดือน”
เพชรเสียหน้ามาก
“เฮ้ย”
ชบาเดินหนี เพชรจะวิ่งไล่ตาม ชบาตะโกนขู่
“หยุดตรงนั้นไม่ต้องตาม”
“เห็นงามเป็นเมียข้าสิ ข้าจะเชื่อทุกสิ่งตามแต่ใจเอ็ง”
เพชรจะไล่ตาม ชบาไม่พอใจเด็ดกล้วยจากต้นปาใส่ เพชรรับกล้วยแล้วปอกกิน ชบาไม่พอใจคว้าอีกลูกปาใส่เพชรรับไว้แล้วก็กินกล้วยทำหน้าทะเล้นใส่ ชบาโมโหคว้าสองลูกแล้วปาพร้อมกัน กล้วยพุ่งเข้าใส่หน้าเต็มๆ เพชรเจ็บร้องเสียงหลง
“โอ๊ย...ตาข้า”
ชบาตกใจ แต่ไม่ไว้ใจนัก
จอกร้องรำทำเพลงมีความสุข ไม้หันไปถามโขง
“เอ็งรู้จักไอ้คนต่างถิ่นที่ชื่อเพชรไหม”
“เพชร”
“คืนก่อนมันช่วยข้าไล่จับไอ้เสือหวาด”
“ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้...แล้วก็ไม่เคยเห็นคนต่างถิ่นด้วย”
จอกโผล่หน้ามา
“ข้ารู้...ข้าเห็น”
ไม้และโขงหันไปหาจอก สนใจอยากรู้ทันที
อ่านต่อเวลา 17.00น.
เรือนกาหลง ตอนที่ 6 (ต่อ)
เพชรเอามือปิดตา ร้องเสียงหลง
“โอ๊ย...มองอะไรไม่เห็น ตาบอดแล้ว”
ชบายังเป็นห่วง เดินเข้ามา...
“อย่ามาเล่นให้ตกใจสิเออ”
เพชรเอามือปิดตาออก แล้วทำทีว่ามองไม่เห็นเอามือคลำทาง
“ชบา เอ็งอยู่ไหน ข้าเจ็บตาจนลืมตาไม่ขึ้นเลย”
เพชรทำทีว่ามองไม่เห็น เดินผ่านไป...ชบาแปลกใจเริ่มสงสารคว้ามือเขาไว้
“ข้าอยู่นี่ เอ็งลืมตาสิ”
เพชรค่อยๆลืมตา แต่ทำทีมองไม่เห็น
“ข้าไม่เห็นอะไรเลย” เขาเอามือจับหน้าเธอแผ่วเบา “นี่เอ็งรึไม่นั่น”
ชบาเริ่มสงสาร
“ใช่...ฉันเอง”
เพชรจับหน้าชบา ลูบไล้ด้วยความนุ่มนวล
“ไม่ใช่ เอ็งไม่ใช่ชบา...นี่มันนางฟ้า”
เพชรลืมตายิ้มหวาน ชบาอึ้งจ้องมองเขา
“ไอ้กะล่อน”
ชบาสวดหมัดต่อยเข้าเต็มตา เพชรล้มลงร้องเสียงหลง
“โอ๊ย ตาบอดจริงเสียแล้ว”
ชบาไม่สนใจเดินหนีออกไปจากดงกล้วย เพชรหันไปมองเห็นชบาเดินออกไปสีหน้าเศร้าๆก็แปลกใจ
ไม้ถามจอกด้วยความสงสัย
“เอ็งรู้รึว่ามันเป็นใคร”
“เพชร...” จอกร้องเพลง “เพชรนั้นเป็นของสูงค่า...เลิศล้ำอัญมณีศรี...แม้นแฝงอยู่ในกรวดหินดินทราย ยังฉายแสงพราวแพรวดั่งแก้วสวรรค์”
โขงผิดหวังที่จอกไม่รู้จริง
“เอาอีกแล้วนะไอ้จอก ถ้าเอ็งไม่ฟั่นเฟือน ข้ากระทืบติดดินไปแล้ว”
โขงชี้หน้าขู่ จอกทำหน้าเศร้าออดอ้อน ไม้ตัดบท
“เอ็งไม่รู้ไม่เป็นไร ไว้ปะหน้ามัน จะซักให้รู้หัวนอนปลายตีน”
“พี่ไม้...อย่าว่าฉันจุ้นเรื่องพี่เลย พี่กลับเรือนเถอะ ป่านนี้กาหลงคอยพี่ทั้งคืนแล้วกลับไปพูดคุยให้หายยุ่งใจเถอะ” โขงแนะ
ไม้คิดตัดสินใจ
กาหลงเดินตรงมาที่หน้าวัด คิดจะเข้าไปตามหาไม้ที่ในวัด แต่ลังเล ไม่กล้าเข้าไป กาหลงยืนชะเง้อมอง คิดตัดสินใจจะเข้าไป แต่สายตาเหลือบไปเห็นไม้เดินออกจากวัดที่ประตูด้านหนึ่ง เธอดีใจ แต่ยังไม่กล้าเรียก...ไม้เดินออกจากวัด จะเดินกลับไปเรือน กาหลงดีใจรีบเดินตามไป
ชบาเดินหนีไปบริเวนทุ่งนา เพชรเดินตามเข้ามาเดินเคียงคู่ ชบาไม่พูดเอาแต่เดิน เพชรเดินตามจ้องมองหน้า ทั้งสองเดินคู่กันสักระยะ เขาเห็นเธอหน้าเศร้าอมทุกข์ก็สงสัย
“ทำหน้ายังกะถูกข่มเหงใจให้ออกเรือน”
ชบาหยุดเดิน หันมามองเพชรทันที...
“เอ็งรู้”
เพชรยิ้มดีใจที่เดาถูก โม้ทันที
“ข้ารู้ข้าเห็น”
“เฉลยมา...คู่ของข้า หน้าตาเป็นยังไง”
เพชรมองหน้าชบา
“เอ็งจะได้ร่วมใจกับลูกชายเศรษฐี ฐานะมั่งคั่ง”
ชบาคิดตาม แต่นึกถึงโชติ
“มีเกียรติมีศรี เป็นที่นับหน้าถือตา ชายคนนั้นก็คือ...”
เพชรจ้องมองชบาด้วยความหวานซึ้งจะเฉลยว่าเป็นตัวเอง แต่ชบากลับคิดว่าเป็นโชติ
“ข้าไม่แต่งกับพี่โชติ”
ชบาผลักอย่างแรง เพชรหงายหลังล้มลงปลักควายข้างคันนา ชบาเดินออกไป เพชรส่ายหน้าเซ็ง
“ข้าไม่ได้หมายถึงไอ้โชติไรนั่นเสียหน่อย ข้าหมายถึงตัวข้า”
เพชรลุกขึ้นจากปลักจะเดินออกไป รู้สึกคันก้มมองเห็นปลิงเกาะ 6 – 7 ตัว ก็ร้องเสียงหลง
“ปลิง...ช่วยด้วย”
เพชรสะดุ้งโหยงรีบวิ่งออกไป
ชบาจะเดินกลับบ้าน นึกได้ว่าผลักเพชรตกปลักปลิง
“ผ่าซี...ปลักนั้นปลิงชุม ป่านนี้โดนดูดเลือดตายเสียแล้วซิเล่า”
ชบานึกเป็นห่วง วิ่งกลับไป
เพชรดึงปลิงตัวสุดท้ายออก
“จะเสียท่าก็ครานี้ล่ะ...อึ๋ย”
เพชรก้มมองดูขาเห็นเลือดไหลออกไม่หยุด
“เลือดไหลไม่หยุด ไอ้เพชรเอ๊ย เอ็งตายแน่”
เพชรเริ่มวิตกกังวล พุดจีบเข้ามาเห็น ก็รู้ว่าเพชรแพ้ปลิงเลือดไหลไม่หยุด
“น้องชายท่าจะแพ้ทางปลิงเสียแล้ว"
พุดจีบเป็นห่วง เพชรเริ่มใจเสีย
พุดจีบยีใบสาบเสือแล้วใช้ก้อนหินทุบให้แหลกเอาโปะห้ามเลือดที่ขา เพชรสงสัย
“พี่สาวทำอะไร”
“ใช้ใบสาบเสือปิดปากแผลไว้ ประเดี๋ยวเลือดก็หยุดไหล”
เพชรยกมือไหว้
“ฉันขอบคุณพี่สาวมากจ้ะ”
“ฉันชื่อพุดจีบ ฉันสิที่ต้องขอบใจน้องชายที่ช่วยฉันไว้”
“ฉันชื่อเพชร...ไม่ต้องขอบอกขอบใจฉันหรอก ฉันช่วยพี่สาว มันเป็นหน้าที่ฉัน” เพชรเผลอพูด
พุดจีบชะงักแปลกใจ เพชรรีบแก้ตัว
“ฉันหมายถึงหน้าที่คนดีต้องจับโจรจ้ะ” เขาเปลี่ยนเรื่อง เอาใบสาบเสือออก “เลือดหยุดไหลจริงเสียด้วย ชาติหน้าชาติไหนอย่าได้พบพานปลิงอีกเลยเจ้าประคู๊น”
เพชรลุกขึ้นดีใจยกมือพนมขึ้น พุดจีบมองเห็นปลิงเกาะที่ใต้หลังแขนของเขา
“ปลิง”
เพชรสะดุ้งโหยง ดึงปลิงออกด้วยความตกใจแล้วเซมาชนพุดจีบ ทั้งสองล้มลงไปกองกับพื้น ชบาเดินเข้ามาเห็นภาพเพชรล้มทับโอบด้านข้างพุดจีบก็ไม่พอใจเพชร
“สันดานชาย”
ชบาเดินกลับไปทันที เพชรตกใจหันไปถามพุดจีบที่ล้มนอนด้วยความเป็นห่วง
“พี่สาวเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”
“พี่ไม่เป็นอะไร น้องลุกขึ้นเถอะ”
ไม้เดินเข้ามาเห็นภาพเพชรล้มทับพุดจีบก็ไม่พอใจ
“เอ็งทำอะไร”
เพชรหันไปตอบ
“ฉันดูด...”
ไม้ไม่พอใจ ต่อยเพชรทันที
“ไม่ใช่...”
ไม้จะเข้าไปต่อยซ้ำ เพชรรีบบอกความจริง
“ฉันจะบอกว่า ปลิงดูดฉัน ฉันตกใจพลาดท่าล้มทับพี่พุดจีบ”
ไม้หันไปมองพุดจีบ หญิงสาวพยักหน้าตอบ
“ไม่บอกให้รู้เรื่องเสียแต่แรก” ไม้หันไปถามพุดจีบ “พุดจีบเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันไม่เป็นอะไร...พี่กลับเรือนล่ะ” ชบาหันไปบอกเพชร
“จ้ะ...”
พุดจีบเดินออกไปไม่อยากอยู่ใกล้ ไม้มองตามแล้วเดินตามไป เพชรมองตาม แปลกใจในพฤติกรรมของทั้งสอง
พุดจีบกำลังจะเดินกลับเรือน ไม้เดินตามมา
“พี่ไปส่งเรือน”
“ฉันขอเถอะจ้ะ หลังจากนี้ไป เราอย่าได้เจอกันเลย ฉันไม่อยากให้กาหลงขุ่นเคืองใจอีก”
“พี่ขอโทษแทนกาหลง...ที่กาหลงตบตีพุดจีบ”
“ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก กาหลงทำถูกแล้ว พี่อย่าได้ตำหนิกาหลงเลย”
ไม้แปลกใจ กาหลงเดินเข้ามาที่มุมหนึ่งยืนฟังพุดจีบคุยกับไม้
“หากฉันเป็นกาหลง ฉันจะไม่ยอมให้คนรักของฉันใกล้ชิดกับหญิงอื่น...ผู้หญิงเรามีผัวได้เพียงคนเดียว และพี่ก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของกาหลง ฉันอยากให้พี่ดูแลกาหลงอย่าห่างกาย ฉันไม่ถือโทษโกรธกาหลงแม้แต่น้อย ขอให้พี่อุ่นใจ”
กาหลงได้ฟังก็ซึ้งใจพุดจีบ
“หลังจากฉันออกเรือนกับพี่โชติ ทุกอย่างคงจะดีขึ้น”
ไม้เข้าใจความรู้สึกของพุดจีบและสงสารที่เธอต้องยอมแต่งงานกับโชติ พุดจีบเดินแยกไป...กาหลงตัดสินใจเดินตามไป ไม้ยืนมองตามพุดจีบ เพชรเดินเข้ามามองตามสายตาไม้คิดว่าพุดจีบเป็นคู่รักของไม้
“พี่ชายผิดใจกับคู่รักไปง้อเสียเถอะ ปล่อยไว้นานเกินรอ แล้วต้องนั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า”
ไม้จ้องมองเพชรไม่ไว้ใจนัก
“เอ็งเป็นใคร”
เพชรยิ้มให้ ไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไง
พุดจีบเดินมาบริเวณบึงบัวเจอกาหลงยืนรออยู่ ทั้งสองมองหน้ากัน พุดจีบพูดไม่ออก กาหลงวิ่งเข้ามาสวมกอดร้องไห้
“ฉันขอโทษ”
พุดจีบค่อยๆเอามือโอบกอดกาหลงแล้วร้องไห้ตาม ทั้งสองร้องไห้กันพักนึงกาหลงค่อยๆเงยหน้าคุยกับพุดจีบ
“ยกโทษให้เพื่อนโง่คนนี้เถอะ ตีฉันตามแต่ใจเถอะ”
กาหลงจับมือพุดจีบให้มาตบหน้าตัวเอง พุดจีบยั้งมือไว้
“ตีให้มันรู้สารู้สำนึกว่าเพื่อนของมันรักมันมากแค่ไหน”
กาหลงจับมือพุดจีบมาตบหน้าตัวเองหลายครั้ง พุดจีบทนไม่ได้จับมือกาหลงให้หยุดทำอย่างนั้น
“เราเคยสัญญาจะเป็นเพื่อนรักเพื่อนตาย ฉันจะทำร้ายกาหลงได้อย่างไร”
กาหลงยิ่งรู้สึกผิดร้องไห้เสียใจหนักกว่าเดิม
“ฉันขอโทษ...ในชีวิตนี้มีพุดจีบเพียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนรักเพื่อนตายของฉัน”
พุดจีบยิ้มทั้งน้ำตา ทั้งสองช่วยกันเช็ดน้ำตาให้กันและกัน ยิ้มให้กัน ความรู้สึกของความเป็นเพื่อนรักกลับมาอีกครั้ง
“พุดจีบ...ยกเลิกงานแต่งกับพี่โชติ”
พุดจีบยิ้มให้กาหลง
“ฉันไม่ได้แต่งเพื่อกาหลง ฉันทำตามใจของฉัน”
“พอเถอะ หยุดเสียสละความสุขตัวเองเพื่อคนอื่น พูดความจริงกับฉัน บอกฉันมาว่าพุดจีบรักใคร”
กาหลงคาดคั้น พุดจีบตัดสินใจพูดความจริง
“ฉันรักพี่ไม้”
กาหลงอึ้ง
“ฉันรักพี่ไม้ รักมานานพอๆกับกาหลง ชีวิตฉันไม่ผิดกาหลง กาหลงกำพร้าพ่อได้ไม่นาน...พ่อฉันก็จากไป เราต่างดิ้นรนตามประสา มีเพียงพี่ไม้เป็นชายเดียวที่คอยช่วยคุ้มครองดูแลฉัน ฉันไม่อาจห้ามใจหยุดรักพี่ไม้ได้เลย จวบจนฉันแจ้งแก่ใจว่าพี่ไม้มีใจกับกาหลง”
กาหลงคิดตามคำพูดของพุดจีบ พุดจีบจึงเล่าถึงเรื่องราวในอดีต ครั้งนั้นกาหลงพายเรือมีเธอนั่งอยู่บนเรือเด็ดดอกบัว กาหลงนึกสนุกวางไม้พาย แล้วเขย่าเรือ พุดจีบตกใจ
“หยุดนะกาหลง ฉันว่ายน้ำไม่เป็น”
“ว่ายไม่เป็นก็ต้องหัดว่ายสิ...มัวแต่ขลาดกลัวน้ำแล้วเมื่อไหร่จะว่ายได้เสียที”
กาหลงยังคิดแกล้งแหย่ แต่พุดจีบกลัว จะลุกขึ้น กาหลงห้าม
“อย่ายืน เดี๋ยวก็ตกน้ำหรอก”
พุดจีบตื่นกลัว
“ฉันกลัวนี่”
กาหลงเข้าไปห้ามแล้วทั้งสองก็พลัดตกจากเรือ ไม้มองเห็นก็ตกใจ รีบว่ายน้ำเข้าไปช่วยกาหลงก่อนจะช่วยพุดจีบ
“พี่ไม้เลือกที่จะช่วยกาหลง ทั้งๆที่กาหลงว่ายน้ำเป็น ฉันกลายเป็นคนที่สอง รองจากกาหลง หลังจากวันนั้น ฉันก็รู้ดีว่าฉันทำได้แค่แอบรัก พี่ไม้และกาหลงรักสมัครใจกัน ฉันก็ยินดี ฉันยินดีด้วยใจจริง”
กาหลงเข้ามาเช็ดน้ำตาให้พุดจีบ
“น้ำใจเพื่อนฉันไม่เคยจางหาย เพื่อนฉันต้องได้คู่ครองที่สมควร ไม่ใช่พี่โชติ”
“อย่าห้ามฉันเลย ฉันตรองดีแล้ว ฉันไม่อยากปิดกั้นใจตัวเอง ฉันจะให้โอกาสพี่โชติสักครั้ง”
กาหลงยังโกรธเกลียดโชติ
“คนใจหยาบช้าอย่างมันไม่มีวันเปลี่ยนได้หรอก”
“กาหลงพูดเรื่องอะไร”
พุดจีบอยากรู้ กาหลงลังเลที่จะบอกเรื่องนี้
“มีความอะไรในใจจะบอกฉัน” พุดจีบคาดคั้น
กาหลงมองพุดจีบ แต่แล้วนวลเข้ามาตาม
“คุณพุดจีบเจ้าคะ คุณบุญอิ่มให้มาตามตัวกลับเรือนไปคุยเรื่องช่วยงานพ่อโชติ พ่อโชติจะเลี้ยงฉลองก่อนบวชเจ้าค่ะ”
“ฉันกลับล่ะจ้ะ”
พุดจีบลากาหลง แล้วเดินออกไปกับนวล กาหลงมองตาม คิดลังเลจะบอกเรื่องโชติหรือไม่
เพชรบอกไม้
“อย่างที่ฉันเล่าให้พี่ชายฟังล่ะจ้ะ...ฉันมันก็แค่พ่อค้าเร่พเนจร ค่ำไหนนอนนั่น”
ไม้ฟังเรื่องราวของเพชรก็ไม่เชื่อใจนัก ตัดสินใจลงเรือไป เพชรงงๆ
“พี่จะลงไปทำอะไร”
อ่านต่อเวลา 17.00น.
กาหลงยืนคิดตัดสินใจ จะบอกเรื่องโชติกับพุดจีบหรือไม่ เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่โชติขู่ไว้ ห้ามไม่ให้บอกใครเรื่องที่โชติขืนใจและจับถ่วงน้ำ ไม่เช่นนั้นจะเล่นงานครอบครัว...กาหลงยังไม่กล้าบอกพุดจีบ ขาบและมั่นเดินตรงเข้ามาหา กาหลงตกใจ
“ไอ้ขาบ ไอ้มั่น”
ไม้เดินลงมาเปิดหีบเปิดดูของในเรือ ดินประสิว ดินสองพองและเครื่องยาธาตุ เพชรตามมา
“ฉันบอกพี่ชายแล้วว่าฉันขายดินสองพอง ดินประสิว กำมะถัน”
ไม้เดินตรงไปหยิบกล่องใบเล็ก กล่องที่เพชรเคยถือไว้ ซึ่งเป็นกล่องใส่ปืนที่ระบุถึงอาชีพตำรวจของเขา เพชรตกใจจะเข้าไปแย่งคืน แต่ไม้ชิงถือไว้ได้
“กล่องอะไร เอ็งถึงได้หวงนักหวงหนา”
“กล่องใส่เงินฉันจ้ะ”
เพชรจะขอกล่องคืน ไม้ไม่ให้
“ข้าก็อยากแจ้งใจว่าเอ็งขายได้มากแค่ไหน”
ไม้เปิดกล่องทันที เพชรตกใจ
“อย่า”
ไม่มีอะไรอยู่ในกล่อง...ไม้งงๆ
“ไม่มีเงินสักบาท”
“ฉันยังขายไม่ได้เลย หรือพี่ไม้จะช่วยฉันประเดิมสักสี่ซ้าห้าบาท”
ไม้คืนกล่องให้เพชร ไม้จะเดินออกไป
“ฉันมันคนต่างถิ่น ฉันขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะพี่”
เพชรยกมือไหว้ ไม้พยักหน้ารับ
“หน่วยก้านเอ็งใช่คนเลว”
เพชรยิ้มๆ
“แต่ก็ใช่ว่าจะดี”
เพชรหุบยิ้มทันที
“เอ็งมีน้ำใจช่วยกาเหว่าและพุดจีบ ข้าก็จะลองคบหาเป็นพวก”
เพชรยกมือไหว้ดีใจ
“ขอบใจมากจ้ะพี่”
ไม้พยักหน้ารับแล้วเดินออกไป...เพชรยิ้มดีใจ เดินไปหยิบปืนที่ห่อผ้าซ่อนไว้ในเรือแกะห่อผ้าออกเผยให้เห็นปืนที่มีสัญลักษณ์ปืนตำรวจซึ่งเป็นปืนประจำตำแหน่ง เขาหยิบปืนขึ้นมามอง ดีใจที่ไม้ไม่รู้ความจริงว่าเขาเป็นตำรวจ
กาหลงวิ่งหนี มั่นและขาบวิ่งไล่ตาม
“กาหลง...เอ็งหยุด” ขาบตวาด
กาหลงตกใจกลัววิ่งหนีต่อไป
“ช่วยด้วย”
ขาบและมั่นกลัวมีคนเข้ามารีบวิ่งไล่ตามกาหลง
ไม้จะเดินกลับไปเรือนได้ยินเสียงร้องของกาหลง
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
ไม้ตกใจ
“กาหลง”
กาหลงวิ่งหนี ขาบวิ่งมาดักหน้าไว้ เธอหมดหนทางหนี มั่นและขาบเดินตรงเข้ามาหา กาหลงตกใจ
“พวกเอ็งจะทำอะไร”
ขาบมองจ้อง
“ข้าไม่เห็นกับตา ข้าไม่มีวันปลงใจว่าเอ็งรอดตาย”
มั่นเข้ามาจับแขน กาหลงสะบัดออก
“อย่ามายุ่งกับข้า ปล่อย ไม่งั้นพวกเอ็งจะเดือดร้อน”
“แรงเอ็งน้อยนิด จะสู้พวกข้าได้งั้นรึ” ขาบมองหยัน
“รึเอ็งอยากลงไปนอนแช่ในน้ำเล่นให้เย็นใจอีก”
ขาบและมั่นหัวเราะ กาหลงเริ่มโกรธหน้าขึงขังมากขึ้น ลมพัดรอบๆบริเวณนั้น พวกมั่นและขาบหันไปมองด้านหลังด้วยความแปลกใจที่จู่ๆก็เกิดลมพัดใหญ่ หน้ากาหลงกลายเป็นผี ผมสยายตั้งใจจะเล่นงานมั่นและขาบ เส้นผมของกาหลงยาวเลื้อยไปตามพื้น กำลังจะพุ่งไปยังมั่นและขาบที่หันไปมองด้านหลัง ทันใดนั้นเสียงไม้ดังขึ้น
“พวกเอ็งทำอะไรเมียข้า”
ไม้วิ่งเข้ามาทางที่ชายป่า ไม่เห็นภาพเส้นผมน่ากลัวของกาหลง กาหลงหันไปมองไม้ด้วยความตกใจ มั่นและขาบหันกลับมามองเห็นกาหลงในสภาพปกติ ไม้วิ่งเข้ามาพุ่งเข้าไปจัดการมั่นและขาบ
“ไอ้มั่นไอ้ขาบ เอ็งมันชั่วนัก”
มั่นกลัว
“เอ็งฟังข้าก่อน ข้ามาดีมิได้มาร้าย”
“พวกข้าจะมาขอขมา”
มั่นและขาบพูดไม่ทันจบ ไม้ตรงเข้าต่อยมั่นและขาบ ทั้งสองไม่ทันตั้งตัวโดนไม้เล่นงานต่อเนื่อง
“ไอ้พวกมารศาสนา คิดขุดกรุพระไปขาย พอเมียข้ารู้แผนก็จับเมียข้าถ่วงน้ำ พวกเอ็งมันสมควรตาย”
ไม้จะตรงเข้าไปซ้ำเล่นงาน โชติเข้ามาห้ามไว้...
“พอการได้แล้ว”
ไม้และกาหลงมองไปยังโชติ
อ่านต่อตอนที่ 7