ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 4
เรือนแพแม่ปั้น สินไหว้พระสวดมนต์เสร็จพอดี ปั้นนับเงินขายของได้ ทำบัญชีรับจ่ายยังไม่เสร็จ
"ไอ้วันมันจะได้ไปโรงเรียนแล้วนะ ตาสิน"
"อะไร...ไอ้วันมันเพิ่งจะสี่ขวบเองไม่ใช่เรอะ แม่ปั้น"
"ยัยแม่มันคุยฟุ้งไปทั่วซอยว่า พ่อเลี้ยงไอ้วันมันจะส่งเสียให้เรียนโรงเรียนอนุบาลเอกชนอะไรซักแห่ง จบอนุบาลแล้วก็จะส่งเข้าอัสสัมชัญอะไรนั่นแน่ะ"
"มันโม้ซะมากกว่าละมั้งแม่ปั้น ไม่ใช่ลูกเขาซักหน่อย เขาจะส่งเสียเลี้ยงดูถึงยังงั้นเชียวเรอะ"
"ฉันก็ว่ายังงั้นแหละ อีพวกบ้านนี้จะพูดอะไรต้องเอาตะแกรงมาร่อนให้ดี"
"แต่ถ้าเขาเมตตาเอ็นดูมันจริงๆ ก็นับว่าเป็นบุญของมันนะ แม่ปั้น"
"เขาอาจจะเอ็นดูมันวันนี้ แต่วันข้างหน้าพอเขามีลูกชายของเขาเอง ไอ้วันมันก็ไม่พ้นเป็นหมาหัวเน่าหรอก ตาสิน"
ผ่านเวลามา หลวงตาปิ่นอ่านนิทานชาดกเรื่อง “มาตุโปสกชาดา”
"วันหนึ่งพรานไพรชาวกรุงพาราณสีคนหนึ่ง เป็นคนหลงทาง เมื่อไม่อาจกำหนดทิศได้ จึงร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวว่า จักต้องเอาชีวิตมาทิ้งในป่าแห่งนี้เสียแล้ว"
วันเฉลิมวัย 4-5 ขวบนวดขาให้หลวงตาปิ่น ตั้งอกตั้งใจฟังนิทานไป สันต์ในเครื่องแบบติดยศนายเรือตรี ขึ้นมาบนกุฏิ มองลูกชายด้วยรอยยิ้ม
"พญาช้างมาช่วยได้แล้ว หลวงตา"
"เออ..กำลังจะมาอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว เอ็งฟังจนรู้เรื่องจนจำได้หมด แล้วไม่เบื่อรึไงวะ"
"ไม่เบื่อ"
"เอ้า...ใครมาวะนั่น"
สันต์ขยับเข้ามากราบหลวงตาปิ่น วันเฉลิมเรียก
"พ่อ"
วันเฉลิมเดินหน้าเข้ามาหาพ่อ
"วันกวนหลวงตารึเปล่าลูก"
"ไม่กวนครับ"
"พ่อได้ข่าวว่า วันจะได้ไปโรงเรียนแล้วด้วย ดีใจไหมลูก"
"ดีใจครับ ไปโรงเรียน"
"เออ... ได้ไปโรงเรียนแล้วก็ต้องขยัน ตั้งใจเรียนรู้ไหม คนมีความรู้เยอะๆ วันข้างหน้าจะไม่ลำบาก จะได้เป็นที่พึ่งให้พ่อแม่ พี่ น้องได้ เข้าใจไหม"
"เข้าใจครับหลวงตา"
สันต์มองลูกด้วยความรัก
ลำยองเพิ่งตื่น หน้าตาหัวหูยังยับเยินเดินแคะขี้ตา กระพือผ้าถุงเหน็บใหม่เดินลงบันไดมา ชมกวาดบ้านอยู่มุมหนึ่ง
"มีอะไรกินมั่งนังชม"
"อยู่ในฝาชีครอบนั่นน่ะค่ะ"
"แล้วไอ้วันมันไปไหน"
"ไปเล่นที่วัดมังคะ"
ลำยองเปิดฝาชีดูกับข้าว
"ผัดผักกับไข่เจียวอีกแล้ว ไม่มีปัญญาทำอย่างอื่นกันเลยรึไง ไปตักข้าวมาจาน"
ชมจะออกไปที่ครัว ลำยองเกิดพะอืดพะอม คลื่นไส้ แต่ขี้เกียจจะขยับไปไหน วันเฉลิมกลับเข้ามาพอดี ลำยองอ้วกแตกตรงนั้น ชมกับชื่นได้ยินเสียง โผล่ออกมาดูจากครัว
"เอาอีกแล้ว ใจคอแกจะเดินไปอ้วกนอกบ้านไม่ได้รึไง"
"เอ็งไปเตรียมผ้าขี้ริ้วไว้ไป ให้แกอ้วกให้หมดไส้หมดพุง แล้วค่อยเช็ดล้างซะทีเดียว"
วันเฉลิมรีบเดินเข้ามาดูลำยอง
"แม่เป็นไร...แม่เจ็บไหม"
ลำยองยังอ้วกหน้าดำหน้าแดง ลูกชายลูบหลังให้แม่ ชื่นถือขันน้ำเข้ามายื่นให้ลำยอง
"น้ำค่ะคุณ"
"เอายาหม่องมาดมหน่อยไอ้วัน"
วันเฉลิมวิ่งไปหยิบยาหม่อง
"คุณไปหาหมอดีกว่ามังคะ อาเจียนมาสองวันแล้ว" ชื่นว่า
ลำยองรับยาหม่องจากวันเฉลิม
"เอ๊ะ" ชื่นเอะใจ
"เอ๊ะอะไร นังชื่น"
"รึว่า คุณแพ้ท้องคะ"
ลำยองคิดไม่ถึงเหมือนกัน
เวลาต่อมา เมื่อกวงรู้ข่าวก็อดตื่นเต้นไม่ได้
"แน่แล้วเหรอ ลำยอง"
"ลำยองว่าแน่ เมนส์ลำยองไม่มาสองเดือนแล้ว"
ลำยองนอนลงเตียง
"ไปโรงพยาบาลเถอะให้หมอตรวจดู ถ้าใช่ก็จะได้ฝากครรภ์เลย"
"คุณกวงดีใจไหม"
"ดีใจสิ ยิ่งถ้าได้ลูกชาย ผมจะดีใจที่สุดในชีวิต"
"ลำยองมั่นใจค่ะ ว่าต้องเป็นผู้ชาย"
กวงยิ้มเต็มไปด้วยความหวัง
"แต่งตัวเถอะ จะได้ไปโรงพยาบาลกัน"
"คุณกวง...ลำยองอยากกินหูฉลามน้ำแดง"
"เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้"
"ลำยองอยากได้ตู้เย็นด้วย จะได้เอาไว้แช่น้ำเย็นกิน ชื่นใจดี"
"แล้วผมจะซื้อให้"
วันเฉลิมที่เกาะประตูห้องยืนมองแม่อย่างเป็นห่วงที่แม่ไม่สบาย
ปั้นเดินมาเพิ่งกลับมาจากวัดมาที่กลางซอย ยายแลจับกลุ่มกับชาวบ้านกำลังน้ำลายแตกฟองกันอยู่ พอเห็นปั้นก็เพิ่มเสียงดังขึ้นทันที
"ลูกชายสิวะ ยังไงก็ต้องได้ลูกชาย ลำยองมันพันธุ์ดี โว้ย คนแรกก็ได้ลูกชาย คนที่สองมันก็ต้องเป็นลูกชายแหงๆ"
ปั้นไม่ต้องตั้งใจฟังก็ได้ยินเต็มสองรูหู
"เถ้าแก่แกคงดีใจตายเลยสิ" ชาวบ้านว่า
"เขายิ่งรักมันมากกว่าเดิมอีก ซื้อหูฉลาม หมูหัน เป็ดปักกิ่งมาให้มันกินทุกวัน เขาดี๊ดี ดีกว่าไอ้ผัวเก่าเป็นไหนๆ นี่ละโว้ยที่เขาว่า นารีมีรูปเป็นทรัพย์ จริงไม่จริง ไอ้เรื่องทำงานบ้านทำกับข้าวไว้คอยผัวน่ะมันเรื่องรอง เรื่องแรกนะมันต้องสวยเข้าไว้ก่อนโว้ย ข้าไม่อยากจะคุย โทรศัพท์ก็มีแล้ว ตู้เย็นเขาก็เพิ่งซื้อให้หยกๆ ถ้ามันมีลูกชายให้เขาซักสองคนคงต้องซื้อบ้านเพิ่มอีกหลังเพราะไม่พอจอดรถยนต์ว่ะ รถตั้งสองคันสามคัน"
ยายแลหัวเราะร่วน ปั้นหมั่นไส้จะเดินผ่านไป
"อ้าว อีปั้น มาแอบฟังตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
"ไม่ต้องแอบฟัง ก็ได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน เหม็นน้ำลายว่ะ"
"มึงอิจฉากูละซี๊"
"สมเพชมากกว่าว่ะ เอ็งอย่าเพิ่งฝันไปไกลเล๊ยนังแล ระวังเหอะ คลอดออกมาจะได้ลูกสาวเหมือนเมียหลวงเอ็งจะช้ำใจเปล่าๆ เพราะเขาไม่ตื่นเต้นกะเอ็งซักนิด ไอ้ลูกชายที่มีอยู่น่ะ มันก็แค่ลูกติด ใครเขาจะเอาไปสืบสกุล"
"อีปั้น"
ปั้นยิ้มเยาะสะใจก่อนเดินออกไป
"คอยดูเหอะมึง ซักวันมึงต้องมายกมือไหว้กู เรียกกูว่าคุณแล เพราะกูรวยกว่ามึง"
ภายในบ้านลำยอง ปานกับแป้งเล่นตู้เย็น ราวกับเป็นของเล่นไฮเทค ปิดๆ เปิดๆ ให้ความเย็นออกมา ภายในตู้เย็นแทบไม่มีอะไรแช่ นอกจากน้ำดื่มใส่ขวดแก้ว วันเฉลิมนั่งมองน้าๆเล่นกัน ยายแลหัวเราะน้ำลายหกกับมุขตลกของตัวจำอวดลิเกในทีวี ลำดวนถือกิ๊บติดผมดอกไม้ออกมาจากห้องนอนพร้อมลำยอง
"พี่ลำยอง กิ๊บอันนี้พี่ไม่เอาแล้ว ฉันขอนะ"
"เฮ่ย...ใครบอกไม่เอาแล้ว"
"พี่รวยแล้ว แต่งตัวเป็นคุณนายยังงี้ ติดกิ๊บไม่เห็นเข้ากันเลย อย่างพี่ต้องใส่ทองใส่เพชรมากกว่า นะ นะฉันขอนะ"
"เออ ๆ เอาไป"
"เฮ้ย...ไอ้ปานไอ้แป้ง เล่นอะไรกันวะ ตู้เย็นเก่าหมด" แลว่า
ปานกับแป้งไม่ฟังแม่
"ช่างมันเหอะแม่ เก่าก็ซื้อใหม่"
ลำยอง ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มพรวด
"เฮ้ย...ลำยอง เอ็งกินเหล้าเยอะจัง"
"ไม่เยอะหรอกแม่ แค่จิบๆเพลินๆ"
"เอ็งต้องระวังนะโว้ย หยุดซะเถอะ เลิกได้ยิ่งดี เขาว่ากินเหล้าแล้วลูกในท้องจะแย่นา"
ลำยองชะงักกึกนึงเหมือนกัน
"เอ็งอย่าลืมนา...ว่าเอ็งจะได้ดีเพราะมีลูกกับเขา ยิ่งถ้าได้ลูกชายละก็ เอ็งเอ๊ย...เมียเก่ากับลูกสาวอีกสี่ก็ตกกระป๋องได้ ลูกชายที่แข็งแรงสมบูรณ์น่ะเฮ้ย คนจีนเขารักนักล่ะ ทีนี้เอ็งจะได้เป็นเมียออกหน้าออกตา เมียเก่าเอาไว้ก้นครัว พ่อผัวแม่ผัวก็จะยอมรับเอ็ง เอ็งจะเอารถยนต์ เอาบ้านกี่หลัง ทองกี่หีบเขาก็จะหามาประเคนให้เอง ถึงจะเป็นเมียน้อย ก็เป็นเมียน้อย เทพบุตรโว้ย เลิกซะเหอะ เหล้านะ"
"เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน"
วันเฉลิมขยับเข้ามาหาลำยอง จะกระแซะกอดแม่
"แม่"
"อย่าเพิ่งมากอดตอนนี้...เหนียวตัวไปๆๆ"
ลำยองปัดป้องวันเฉลิม จนเซออกไปชนขวดเหล้าล้ม เหล้าหกลงพื้นเพราะไม่ได้ปิดฝา ลำยองรีบคว้าขวดเหล้า ฉุนขาด
"เห็นไหมเหล้ากูหกเลย"
ลำยองฟาดแขนลูกชายไปหลายทีด้วยความโกรธ วันเฉลิมร้องไห้ น้ำตาผุดออกมาเป็นเม็ดๆ ค่อยๆ ถอยออกไปห่างด้วยความตกใจและน้อยใจ
ยายแลเดินมาถึงเพิงขายขนม ในเวลาเดียวกับที่ชายคนสวนไทยแท้ ขี้เหร่กำลังขนมะพร้าวโยนเข้ากองที่นับแล้ว
"ลูกเล็กนี่แถมให้ละกันนะจ๊ะ" ชายคนสวนยิ้มจีบลำยง
"เท่าไรล่ะงวดนี้"
"สองร้อยกว่าลูก คิดให้ลำยงห้าบาทก็พอ"
"ขอบใจ งวดหน้าก็เอาประมาณนี้นะ เอ้านี่เงิน"
ลำยงยื่นเงินให้ พร้อมยื่นกระทงขนมถ้วยให้
"ขนมถ้วยนี่เอาไปกินนะ"
แลจ้องสังเกตความเป็นไป ชายชาวสวนเอาผ้าขาวม้ามาเช็ดเหงื่อ
"ขอบใจจ๊ะ"
"กินน้ำกินท่าซะก่อนสิ"
ลำยงยื่นจอกน้ำให้ ชายคนสวนรับไปดื่มดับกระหาย ยิ้มให้ลำยง ยายแลกระแอมดัง ชายชาวสวนหันมาเห็นแลที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"ฉันกลับก่อนดีกว่า ไหว้ละจ้ะน้าแล"
"เออ..."
แลไม่ได้รับไหว้ แค่ยกมือข้างเดียวกึ่งโบกไล่ ชายชาวสวนเดินออกไป
"ไอ้นี่มันมาจีบเอ็งเรอะ"
"จีบเจิบอะไรกันแม่"
"กูดูก็รู้...สวนที่มันทำเช่าเขาเอานี่หว่า ไม่ใช่สวนมันเอง ข้าว่าไอ้คนขับเรือหางยาวมันจะเข้าท่ากว่าว่ะ อย่างน้อยนะเอ็ง มันก็มีเรือหางยาวเป็นของตัวเอง เอ็งเลือกไอ้นี่ดีกว่า"
"แม่พูดอะไรเนี่ย ฉันยังไม่เคยคิดเรื่องอะไรพรรค์นี้ซะหน่อย"
"เลือกๆไปเหอะ ขึ้นคานแล้ว หน้าไหนมันก็ไม่มาให้เอ็งเลือก อย่างเอ็งน่ะไม่มีทางได้ดีอย่างอีลำยองมันหรอก"
"ฉันรู้ตัวฉันดีแม่ ว่าฉันไม่ได้สวยอย่างพี่ลำยองเขา"
"เออ...รู้ตัวก็ดีนี่หว่า วาสนาเอ็งมันก็แค่นี้"
"แต่ยังไงซะ ถ้าฉันจะมีผัว ฉันก็ไม่คิดจะให้ผัวเป็นฝ่ายหาเลี้ยงฉันหรอก ยังไงฉันก็ขอยืนบนลำแข้งตัวเองนี่แหละ"
"โธ่อีบ้า...คิดอย่างเอ็งเนี่ยก็เหนื่อยไปจนตายนั่นละวะ"
เวลากลางวัน สันต์นั่งคุยกับศรีวรรณที่เย็บผ้าไปคุยกับพี่ชายไป
"เด็กเพิ่งจะสามสี่ขวบ เขาเรียนอะไรกัน"
"มันก็เหมือนเอาไปฝากเลี้ยงกลางวัน เหมือนสถานรับเลี้ยงเด็กน่ะแหละ พี่สันต์"
"เพราะคนเป็นพ่อแม่ไม่มีเวลาดูแล"
"ก็ทำงานทั้งนั้นแหละ คนสมัยนี้ ทั้งพ่อทั้งแม่ทำงานนอกบ้านกันตัวเป็นเกลียว หาเงินกันล่กๆไม่มีเวลาดูแลลูกกันหรอก แต่มองในแง่ดี โรงเรียนแบบนี้มันก็เป็นการเตรียม...."
สันต์ชะเง้อไปทางหน้าบ้าน
"ความพร้อมให้เด็กน่ะ เขาดูแลให้แล้วก็สอนหนังสือนิดๆหน่อยๆให้เล่นอะไรๆที่มีประโยชน์ ช่วยพัฒนาเด็กให้เติบโตอย่างดีๆ ฉลาดๆ หน่อย สมัยเรากว่าจะได้เข้าโรงเรียนก็เจ็ดแปดขวบโน่น โผล่เข้าไปก็เริ่มท่องกอเอ๋ยกอไก่ เด็กอนุบาลสมัยนี้เขาผสมคำ สะกดคำ บวกเลข ลบเลขกันแล้วด้วยช้ำ" ศรีวรรณพูดไป
สันต์ใจลอยชะเง้อแล้ว ชะเง้ออีก ศรีวรรณถาม
"พี่จะไปไหนรึเปล่า"
"เปล่าๆไม่ได้ไปไหน"
"เห็นชะเง้อเหมือนคอยใครอยู่"
"เปล่า....เปล่า"
เสียงตะโกนเรียกดังมาจากหน้าบ้าน
"ศรีจ๊ะ....ศรี"
ศรีวรรณลุกขึ้นมองออกไป
"อ้าว....เทวี"
สันต์ใจเต้นโครมคราม...เธอมาแล้ว เธอมาจริงๆ ศรีวรรณเปิดประตูออกไปรับเทวี สันต์ขยับตัว จัดแจงให้ตัวเองอยู่ในสภาพพร้อมเผชิญหน้าหญิงสาวที่สุด ศรีวรรณ พาเทวีเข้ามาในบ้าน
"บังเอิญอีกแล้วดูสิ"
สันต์รู้อยู่เต็มอกแต่แกล้งถาม
"ใครมาเหรอศรี...เพื่อนเหรอ"
"สวัสดีค่ะคุณสันต์"
สันต์รับไหว้ด้วยรอยยิ้ม วันนี้เธอสวยสะอาดจังเลย
"สวัสดีครับอาจารย์"
"ดิฉันแวะเอาขนมฝีมือตัวเองมาให้เจ้าของสูตรเขาชิมนะค่ะ"
สันต์อยากพูดอะไรๆอีกเยอะแยะ ได้แต่ "ครับ"
สันต์เขินจนเผลอยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มโชคดีไม่มีใครเห็น สันต์แอบมองกิริยามารยาทอันนุ่มนวลงดงามโดยไม่มีจริตมองเทวีอย่างชื่นชมประทับใจ
"แฟนศรีกับลูกๆไม่อยู่เหรอจ๊ะ บ้านเงียบเชียว"
"คุณสามีพาลูกๆออกไปเที่ยวตลาดนัดสนามหลวงโน่น เพราะทนเด็กๆรบเร้าไม่ไหวจ้ะ กินน้ำกินท่าก่อน”
"คุณสันต์มานานแล้วเหรอ"
สันต์ตั้งตัวแทบไม่ทัน ได้แต่ "ครับ...ครับ"
เทวีช่วยศรีวรรณจัดขนมใส่จานและเตรียมเครื่องดื่ม
"เด็กๆ ใกล้สอบแล้ว ยุ่งมากล่ะสิ เทวี"
"ก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน เย็นๆ เลิกเรียนแล้ว ต้องสอนพิเศษให้เด็กอ่อนๆ ที่เรียนตามเพื่อนไม่ทัน กลับถึงบ้านบางทีก็ค่ำ คุณพ่อเป็นห่วงจนต้องมาคอยยืนรับปากซอย" เทวีบอก
"ก็หาคนคอยรับส่งชักคนสิจ๊ะ"
เทวีหัวเราะ
"ใครเขาจะมาสนใจคนอย่างเรา"
"ถ้ามีล่ะ"
"อย่ามาล้อเล่นหน่อยเลย"
"พูดจริงๆ"
"ใครเขาวานให้มาเป็นแม่สื่อจ๊ะ"
"สมัครใจเอง ทีแรกว่าจะไม่ยุ่งด้วยหรอก"
ภายในห้องรับแขก บ้านศรีวรรณ สันต์ตักขนมกิน จิตใจไม่ได้อยู่ที่ขนมแต่ไปอยู่ที่คนทำมากกว่า
"อร่อยกว่าเจ้าของสูตรทำเองซะอีก" ศรีวรรณบอก
"ใครเขาจะไปเชื่อจ๊ะ ชมกันเกินจริงไปแล้ว"
"จริงๆไส้กระฉีกอร่อยมาก ไม่หวานเกินไป ไม่เชื่อถามพี่สันต์ดูสิ"
ขนมเทียนยังเต็มปากสันต์
"ครับ...อร่อยมากครับ ผมกินสามอันแล้ว"
เทวีขำท่าทางสันต์แล้วหลบตา ศรีวรรณยิ้มพอใจ เทวีตั้งใจเปลี่ยนเรื่อง
"เราเอาคู่มือสอบมาฝากศรีด้วย เล่มนี้ดีมาก เราว่าน่าจะช่วยศรีได้เยอะเลย"
เทวีทำเป็นสนใจตำรากับศรีวรรณ สันต์ยิ้มปลื้มแกะใบตองขนมเทียนกินชิ้นแล้วชิ้นเล่าไม่รู้อิ่ม
ในเวลาเดียวกัน บนบ้านลำยองอยู่ในสภาพรกรุงรัง ข้าวของอยู่ไม่เป็นที่ทาง ยกทรงพาดอยู่ทางหนึ่ง ผ้าถุงม้วนอยู่อีกทางเหมือนผ้าขี้ริ้ว ขวดเหล้า แก้วเหล้า จานข้าวสุมเขละ พื้นสกปรก ชื่นเก็บข้าวของไป กวาดพื้นไป วันเฉลิมเกาะติดชมช่วยรวมรวมผ้าจะเก็บไปซัก
"เห็นบ้านสวยๆข้างนอก ใครจะไปคิดว่าข้างในมันกองขยะดีๆ นี่เองนะ น้าชื่น"
วันเฉลิมเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
"เออ...เอ็งอย่าพูดมาก รีบๆทำเข้าจะได้เสร็จๆซะที"
น้าชื่นหันกลับมาแล้วสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นกวงยืนอยู่ที่ประตู
"คุณกวง...มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
"ทำไมบ้านช่องสกปรกรกรุงรังยังงี้ล่ะ กี่วันทำความสะอาดที" กวงถาม
"ทำทุกวันละคะ"
"ทุกวัน"
"ก็มันทั้งรกทั้งสกปรกยังงี้ทุกวันนี่คะ ข้างบนนี่กว่าจะได้ทำก็สายหน่อย เพราะต้องรอคุณลำยองเธอตื่นก่อน" ชมว่า
น้าชื่นถลึงตาให้ชมพูดน้อยๆหน่อย กวงถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
"คุณกวงลงไปอยู่ข้างล่างก่อนดีกว่ามังคะ บนนี้มันไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่"
กวงมองวันเฉลิมที่กำลังหอบกองผ้าใส่ตะกร้า
"วันเฉลิม หวัดดีคุณกวงรึยัง" ชื่นถาม
วันเฉลิมเดินมาหากวง ยกมือขึ้นไหว้ ค้อมตัวอย่างอ่อนน้อม กวงเกิดรอยยิ้มขึ้นมาได้ เอื้อมมือไปจับมือวันเฉลิม
"สวัสดีครับ"
"ทำอะไรเรา"
"เก็บผ้าไปซักครับ"
วันเฉลิมกลับไปช่วยชมต่อ
เพิงขายขนมลำยง ในเวลาเดียวกัน ลำยองหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ ผสมโรงกับยายแลและลำดวนที่รุมกินของดองจิ้มพริกเกลือกันอยู่
"ขืนได้กับไอ้คนเก็บตั๋วเรือ มีหวังลูกออกมาคงดำปิ๊ดปี๋แถมเตี้ยเป็นมะขามข้อเดียวแหงๆ"
ลำยองหัวเราะท้องแข็ง
"แล้วไอ้ช่างตัดผมกลางซอยนั่นล่ะวะ" แลว่า
"ลูกออกมาก็ล้านเลี่ยนเตียนโล่งน่ะสิแม่" ลำดวนบอก
"ไม่เปลืองยาสระผมดี นะโว้ยนังลำยง"ลำยองว่า
ลำยอง ยายแล ลำดวน หัวเราะครืน
ลำยงบอก
"ขำกันมากเลยนะเรื่องสังขารของคนอื่นเขานะ ระวังเหอะ ชาติหน้าจะต้องเป็นยังงั้นบ้าง"
"อย่างกูเป็นนางฟ้ามาเกิดโว้ย"
"เออ ชาตินี้ก็ทำบุญไว้เยอะๆละกัน ตุนเอาไว้ให้ดี"
ปานวิ่งเข้ามาบอก
"พี่ลำยอง ผัวพี่มาแน่ะ"
"ผัวคนไหนวะ ไอ้ปาน"
"คุณกวงน่ะสิ ฉันโผล่ไปที่บ้านพี่ลำยองพอดี"
"วันนี้มันเพิ่งจะวันอังคาร...มาทำไปวะ"
"พี่รีบกลับไปเหอะ หน้าตาเขาบึ้งๆ เหมือนอารมณ์ไม่ดี"
"สงสัย จะหงุดหงิดเพราะทนคิดถึงเอ็งไม่ไหว" แลบอก
"มันก็แหงอยู่แล้วล่ะแม่"
วันเฉลิมจับดินสอค่อยๆลากกอไก่อย่างบรรจง ลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ กวงนั่งดูวันเฉลิมอย่างสนใจ
"ตัวอะไร"
"กอ ไก่ ครับ"
กวงทึ่ง
"ใครสอนวันให้เขียน"
"หลวงตาครับ"
"หลวงตาที่ไหน"
"หลวงตาอยู่ที่วัด"
"แล้ววันเจอใครอีกที่วัดน่ะ"
"ปู่...พ่อ"
กวงชะงักกับคำว่าพ่อ หรือการที่วันเฉลิมได้รับการสอนอบรมจะมาจากฟากผัวเก่า ที่ลำยองเคยบอกว่าแสนโหดตบตีตนประจำ
ลำยอง เดิน ยิ้มกระจายเข้าบ้านมา
"คุณกวงขา...มานานแล้วเหรอคะ"
"ไปไหนมาล่ะลำยอง"
"ลำยองไปคุยกับแม่มาน่ะค่ะ ปรึกษาแกเรื่องเรียนตัดเสื้อน่ะแหละ แม่แกว่า อย่าเพิ่งไปเรียนเลยกำลังท้องกำลังไส้ งานมันหนักเดี๋ยวเป็นอันตรายกับลูก"
"ขอ ไข่"
"ไอ้วัน มาเล่นอะไรตรงนี้...เกะกะ"
"ปล่อยแกเหอะ"
กวงหยิบเหรียญบาทออกมาจากกระเป๋าส่งให้
" เอ้า..วัน ป๊าให้ตังค์ซื้อขนม"
วันเฉลิมเงยหน้ามองกวง ยกมือไหว้ แล้วรับตังค์มายื่นให้ลำยอง
"ป๊าให้วัน ไม่ได้ให้แม่" กวงบอก
"ให้แม่เก็บไว้"
กวงถูกปะทะความรู้สึกอีกครั้ง
"เอ...จะให้ไอ้วันมันเรียกป๊าหรือเรียกพ่อดีคะคุณกวง ไอ้วัน...เรียกพ่อสิ"
"ไม่ใช่พ่อ...พ่ออยู่บ้านโน้น"
ลำยองเงื้อมือจะตี
"เดี๋ยวเหอะ บอกให้เรียกพ่อ"
"อย่าไปบังคับเขาเลย เด็กเขาไม่ยอมรับ"
"งั้นเรียก ปาป๊าก็ได้ ดีไหมคะ คุณกวงเป็นปาป๊าลำยองเป็นหม่าม๊า"
ลำยองทำอารมณ์ดี ออเซาะ กวงรู้สึกอึดอัดมากกว่ารื่นรมย์
ทางบ้านศรีวรรณ เทวีทำท่าขยับคว้ากระเป๋า...
"น่าจะอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อน"
"ขอบใจจ๊ะ แต่ไม่ดีกว่า กว่าจะถึงบ้านจะค่ำเปล่าๆ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเป็นห่วงกลับละนะคะ คุณสันต์”
สันต์ไม่รู้จะดึงจะยื้อไว้ยังไง บอก "ครับ"
เทวีไหว้สันต์ สันต์รับไหว้ แล้วได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ จนเทวีเดินออกไป ศรีวรรณฟาดแขนสันต์ เข้าให้
"ยังไม่ตามไปอีก"
"ไปไหนล่ะศรี"
"ก็ไปส่งเขาให้ถึงบ้านน่ะสิถามได้"
"ไม่น่าเกลียดใช่ไหม"
"ทีพี่สันต์ไปดักรอเขาที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน ยังทำได้เลยนะ"
"งั้นพี่กลับเลยนะศรี ขอบใจมาก"
สันต์วิ่งตามเทวีออกไป
"ดูแลเพื่อนรักของศรีให้ดีๆด้วยนะ"
สันต์วิ่งตามมาจนทันเทวี
"อาจารย์ครับ...อาจารย์"
"อ้าว...คุณสันต์ ดิฉันลืมอะไรรึเปล่าคะ"
เทวีเปิดกระเป๋าดู
"เปล่าครับเปล่า พอดีผมก็จะกลับเหมือนกัน"
"จากนี่ คุณสันต์ต้องนั่งรถเมล์กี่ต่อคะ"
"เท่าๆกับที่อาจารย์นั่งแหละครับ"
เทวีงง สันต์บอกอย่างเจียมตัวมาก
"วันนี้ผมขออนุญาตไปส่งอาจารย์ให้ถึงบ้านเลย ได้ไหมครับ"
เทวียิ้มให้แทนคำตอบ สันต์ดีใจ ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน รักษาระยะห่างอย่างมีมารยาท
บ้านลำยอง เวลาค่ำ น้าชื่นกับชม ช่วยกันจัดอาหารขึ้นโต๊ะ วันเฉลิมนั่งตักข้าวกินเองอยู่มุมหนึ่ง
กวงเดินเข้ามากับลำยอง
"มานั่งกินกับป๊ามาวัน มีอะไรกินมั่งแม่ชื่น"
"ไข่พะโล้ ผัดเผ็ดหน่อไม้ไก่แล้วก็...."
"กับข้าวเดิมๆ ทำแล้วไม่เบื่อบ้างรึไงแม่ชื่น ฉันเป็นคนกินยังเบื่อจะตาย"
ชื่นกับชมสบตากัน ชมพยายามสงบปากคำ
"น่ากินดีออกลำยอง" กวงว่า
"ไม่เอาละค่ะ เราออกไปหาอะไรอร่อยๆ ข้างนอกกินกันดีกว่า...ลำยองอยากกินหัวปลาหม้อไฟราชวงศ์"
"เอาไว้วันหลังค่อยไปเถอะ" กวงบอก
ลำยองลูบท้อง
"แต่ลูกอยากกินวันนี้นี่คะ... ใช่ไหมคะลูก"
กวงอึดอัด
"ลูกหิวแล้วนะคะคุณกวง ไปเหอะ กินข้าวแล้วจะได้ดูหนังกันด้วย หนังเรื่องใหม่ มีคนเขาบอกว่าเพชราส๊วย สวยค่ะ"
"ไปๆ"
ลำยองหน้าบานกอดแขนออเซาะกวง
"กับข้าวนี่อุ่นเอาไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้นะ แม่ชื่น"
"ค่ะคุณกวง"
ลำยองดึงกวงออกไป
ชมหมั่นไส้ในความดัดจริตของลำยอง
"ลูกอยากกินหัวปลาหม้อไฟค่ะ คุณกวง"
"น้อยๆหน่อยนังชม จะทำอะไรก็อย่าให้เด็กเห็น" ชื่นว่า
"เด็กมันไปรู้อะไร"
"ทำไมจะไม่รู้ ยังไงก็แม่เขาทั้งคนนะเอ็ง"
วันเฉลิมนั่งกินข้าวอย่างเป็นปกติ
วันใหม่ สันต์สวมเครื่องแบบเดินมาถึงเพิงขายขนม ลำยงกำลังล้างอุปกรณ์ขึ้นคว่ำ หันมาเห็นสันต์พอดี
"อ้าว พี่สันต์"
ยายแลเอนหลังอยู่บนแคร่ หูผึ่ง ลุกขึ้นนั่ง
"ไม่ได้เห็นหน้าซะนานเลยนะพี่ งานยุ่งหรือว่าแอบไปติดสาวที่ไหน"
แลแค่นหัวเราะ
"วันไม่ได้มาที่นี่เหรอ ลำยง"
"เหมือนเดิมแหละพี่ อยู่กุฏิหลวงลุงโน่น"
"ลูกสาวข้ามันท้องโตแล้วนะโว้ย ท้องนี้ ผัวมันจองห้องพิเศษเอาไว้ให้คลอดด้วย ไม่ต้องคลอดแบบอนาถาเหมือนท้องแรกแล้ว"
สันต์พยายามไม่ฟัง ไม่ใส่ใจ
"ไอ้วันมันเตรียมตัวไปโรงเรียนแล้วนะพี่"
"เหรอ... แล้วมันดีใจไหม"
"ก็คงดีใจละ เห็นหลวงลุงว่า มันชอบเล่นดินสอ ขีดๆเขียนอะไรของมันได้ทั้งวัน"
"ลูกสาวข้ามันจะได้เป็นเถ้าแก่เนี้ยแล้วโว้ย อีกหน่อยพอคลอดลูกชายให้เขามันก็จะรวยๆๆ" แลว่าอีก
"แม่...พอได้แล้ว แม่ไม่อายแต่ฉันอายนะ วันๆไม่ทำมาหากิน แล้วมันจะรวยขึ้นมาได้ยังไง"
"มันเรื่องบุญวาสนาโว้ย ขืนทนเป็นเมียทหารเรือกิ๊กก๊อก ก็คงต้องอยู่แพริมคลองขายผักขายหญ้าได้กำไรวันละหยิบมือ อดตายกันพอดี โชคดีแท้ๆที่สลัดมันหลุดออกมาซะได้"
สันต์เดินยิ้มเฉยๆออกไป ไม่โต้ตอบ
"พี่ไปก่อนนะ ลำยง"
"มันยิ้มอะไรของมัน"
"พี่สันต์เขาก็คงคิดว่าเป็นโชคดีของเขามากกว่าละมั้ง ที่ไม่ต้องทนมีเมียอย่างพี่ลำยอง"
"อีลำยง"
ลำยงเดินหนี ขนของขึ้นรถเข็น
"มึงเป็นพวกใครกันแน่ อีบ้า" แลไล่หลัง
เรือนแพปั้น ในเวลาต่อมา สินบอก
"มันก็พล่ามของมันอย่างนี้จนคนทั้งซอยเขาเห็นเป็นเรื่องตลกกันไปหมดแล้ว"
"เมื่อไรเอ็งจะพาแฟนใหม่เอ็งมาให้พ่อกับแม่ดูตัวล่ะ"
สันต์ตกใจเล็กน้อย
"แฟนใหม่อะไรกันครับแม่"
"อาทิตย์ก่อน ศรีวรรณมันมาเยี่ยม มันเล่าให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว"
สันต์ชักเขิน
"ผมยังไม่กล้าเรียกเทวีเขาว่าแฟนหรอกครับ เพราะผมอาจจะแอบชอบเขาอยู่ข้างเดียวก็ได้"
"เขารู้เรื่องของเอ็งหมดแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไร ไม่ใช่เรอะ"
"เขาก็เฉยๆนี่ครับพ่อ เจอกันทีไรเขาก็มีแก่ใจถามถึงเจ้าวันเสมอ"
"ก็แสดงว่าเขาก็มีใจให้เอ็งอยู่บ้างละ..ว่างๆก็พามาให้พ่อกับแม่ เห็นหน้าค่าตาบ้าง จะได้คุย
ทับนังแลมันได้ มันจะได้หุบปากซะที"
น้าชมกับชื่นช่วยกันลองสวมชุดนักเรียนอนุบาลให้วันเฉลิม
"โอ้โฮใส่ชุดนักเรียนแล้ว ยิ่งหล่อไม่ใช่เล่นเลยนะเรา"
วันเฉลิมยิ้มตื่นเต้นกับการจะได้ไปโรงเรียน กวงยิ้มนั่งมองวันเฉลิมอย่างเอ็นดู
"ไปถึงโรงเรียนจะร้องไห้ขี้มูกโป่งน่ะสิ"
"ไม่ร้องหรอกครับ วันอยากไปโรงเรียน"
"ตั้งใจเรียนให้เก่งๆวันข้างหน้าจะได้ไม่ลำบากรู้ไหมวัน"
"รู้ครับ โตแล้ววันจะหาเงินเลี้ยงแม่ เลี้ยงพี่ชม น้าชื่นด้วย"
ลำยองขำ
"โอ้ย จะหาได้ซักกี่บาทกัน"
"จบประถมต้นแล้ว ป๊าจะพาไปฝากให้เข้าอัสสัมชัญนะ"
"ครับ"
"แล้วคนเล็กในท้องลำยองนี่ล่ะคะ คุณกวง"
"ยังไม่รู้เลย ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"
"ผู้ชายสิคะยังไงก็ต้องเป็นผู้ชาย"
"ก็เข้าอัสสัมชัญเหมือนกัน จบแล้วจะไม่เรียนเมืองไทยก็ได้ผมจะส่งไปเรียนสิงคโปร์หรือไต้หวัน" กวงบอก
"แล้วโรงงานจะยกให้ลูกไหมคะ"
"ยกสิ...ไม่ยกให้ลูกแล้วจะยกให้ใคร"
ลำยองปลื้มคลำท้อง
"ได้ยินไหมลูกปาป๊าเขารับปากเอาไว้แล้วนะ...อุ๊ยๆ ลูกดิ้นใหญ่เลยค่ะ"
ลำยองจับมือกวงไปคลำท้อง วันเฉลิมยิ้มจ๋อยๆ เหมือนตัวเองหมดความสำคัญ
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 4 (ต่อ)
สันต์ขึ้นมาบนกุฏิ กราบหลวงตาปิ่น วันเฉลิมก้มหน้าก้มตาเขียนตัวหนังสืออยู่
"ไอ้วัน ดูซิใครมา"
วันเฉลิมหันไปเห็นสันต์ ก็ยิ้มให้และยกมือไหว้
"สวัสดีครับ"
"ได้ข่าวว่ากำลังจะไปโรงเรียนแล้ว พ่อดีใจด้วยนะวัน เป็นไง พ่อใหม่เราใจดีละสิ"
วันเฉลิมงง
"พ่อนี่...คนนี้ พ่อ"
"อ้าว แล้วคนที่อยู่ที่บ้านกับแม่เขาล่ะ"
"คนนั้นป๊า. ไม่ใช่พ่อ"
สันต์ยังรู้สึกดีที่ลูกแยกออก
"มีแม่มีป๊า ทีนี้คงลืมพ่อแล้วมั้ง"
"ไม่ลืม ครับ"
สันต์ยิ้มเศร้า
"ใครมีพระคุณต่อเรา เราต้องไม่ลืม แล้วก็ต้องตอบแทนพระคุณใช่ไหม ไอ้วัน"
"ครับ หลวงตา"
วันเฉลิมผละไปที่ชั้นหนังสือ ดึงนิทานชาดก เล่มเดิมออกมา
"เอาอีกแล้ว ฟังนิทานอีกแล้วเอ็งไม่เบื่อบ้างเลยรึไง"
"ไม่เบื่อครับ เอาเรื่องพญาช้างเผือกครับหลงตา"
หลวงตาปิ่นรับหนังสือจากวันเฉลิมไปเปิดหานิทานเรื่องนั้น
"ไม่รู้มันติดใจอะไรนักหนากับพญาช้างเผือกเนี่ย"
"พญาช้างเผือกทำอะไรล่ะ ลูกวัน"
"พญาช้างเผือกเลี้ยงแม่ตาบอด หาหญ้ามาให้แม่กินครับ"
สันต์อึ้ง วันเฉลิมหันไปตั้งใจฟังนิทานจากหลวงตา
สันต์จูงมือวันเฉลิม พาเดินมาส่งถึงหน้าบ้าน เสียงลำยองดังลั่น
"อีชม อีชื่น หายหัวกันไปไหนหมด อีชม ยกทรงสีดำของกูไปไหน อีชม"
ลำยองหันมาเห็นวันเฉลิมที่กลับมากับสันต์
"ไอ้วัน...หายหัวไปไหนมา"
"ไปหาหลวงตาครับ"
"ไปทำไมทุกวี่ทุกวัน เดี๋ยวใครมันจับไปเป็นขอทานหรอกมึง"
"สอนลูกให้มันถูกมันควรได้ไหม"
"ฉันจะสอนยังไงมันก็เรื่องของฉัน ไอ้วันมันลูกฉัน"
"ลูกฉันด้วยเหมือนกัน"
"นี่จะมาทวงบุญคุณว่าส่งเสียมันเดือนละสามร้อยละสินะ...ชิ เงินขี้ประติ๋ว ตั้งแต่นี้ไปไม่ต้อง
เอามาให้แล้วโว้ย เข้าบ้านเดี๋ยวนี้ ไอ้วัน หูแตกรึไง เดี๋ยวแม่พาดเข้าให้"
ลำยองกระชากแขนวันเฉลิมแรงๆ พาเข้าบ้านไป สันต์ทั้งโกรธทั้งสงสารลูก
เรือนแพ แม่ปั้นบอก
"มันก็คงคิดว่ามันร่ำรวยแล้ว ถึงไม่เอาสามร้อยนั่น"
"มันคงไม่อยากให้ทางเราไปวอแวกับไอ้วันมันมากกว่า" สินบอก
"ก็ดีแล้วละ เก็บเงินไว้แต่งเมียใหม่ดีกว่า ลูกเอ๊ย"
"ผมตั้งใจเอาไว้แล้วครับแม่ วันเขาเป็นลูกผม ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบเขาจนกว่า เขาจะพึ่งตัวเองได้ ผมจะเก็บเงินใส่บัญชีธนาคารเอาไว้ให้เขาทุกเดือน อายุสิบห้าหรือยี่สิบค่อยยกให้เขาครับ"
ก็ดีเหมือนกัน ให้อีแม่มันเดือนละสามร้อยๆ ตอนนี้ยังไงมันก็ไม่มีทางถึงปากถึงท้องไอ้วันมันหรอก อีแม่มันเอาไปซื้อเหล้ากินหมด"
วันเฉลิมนั่งกอดกระเป๋านักเรียน ชุดนักเรียนอนุบาลแขวนเอาไว้มุมหนึ่ง ลำยองนั่งดูทีวีอย่างกระสับกระส่าย ใจคอไม่ได้อยู่กับความสนุกของละครในทีวีเลย
ลำยองเรียกสุดเสียง
"อีชื่น...อีชื่น"
"มาแล้วค่า มาแล้ว"
ชื่นถือขวดเหล้าที่ห่อถุงกระดาษขึ้นมา
"หายหัวต๋อมไปเลยนะมึง"
"ค่ำมืดขนาดนี้ร้านรวงเขาปิดหมดแล้วค่ะคุณ ฉันต้องเดินไปเกือบถึงถนนใหญ่โน่น"
ลำยองกระชากขวดเหล้าไปจากน้าชื่น
"พูดมากจะไปไหนก็ไป"
ลำยองเทเหล้าลงแก้ว
"คุณติดเหล้ารึเปล่าคะเนี่ย"
"เสือก"
"วิทยุเขาก็บอก โทรภาพเขาก็สอน ว่าคนท้องคนไส้กินเหล้ามันไม่ดีนะคะคุณ"
"มันเรื่องของกู"
"มันทำร้ายเด็กในท้องนะคุณ"
"อีขี้ข้า สาระแนมาสั่งสอนกู เดี๋ยวกูไล่ออกซะเลยนี่"
"ฉันเตือนคุณเพราะหวังดีนะคะ"
"ไป้ ไสหัวไป อีบ้า"
ชื่นเดินออกไป ลำยองกรอกเหล้าเข้าปากตัวเอง ชื่นใจเหมือนได้รับความสุขเต็มเปี่ยม แล้วจะเทเหล้าลงแก้วเพิ่ม วันเฉลิมเอื้อมมาจับขวดเหล้าไว้
"แม่"
"อะไรของมึง ไอ้วัน"
"แม่อย่ากินเลย"
"เอ๊ะ ไอ้นี่... มันความสุขของกูโว้ย"
"แม่มีความสุข แต่น้องเจ็บนะครับ แม่ไม่รักน้องเหรอครับ"
ลำยองชะงัก อึ้งไปเหมือนกัน
"แม่อย่ากินเลย มันบาปครับ"
"บาปอะไร...ใครสั่งใครสอนมึงให้พูด หา ไอ้วัน"
หลวงตาบอกว่า กินเหล้าผิดศีลครับ"
ลำยองปัดมือวันเฉลิมออกแถมผลักจนเซหงายหลังไป เธอซดเหล้าต่อ หัวเราะกับมุขตลกในทีวี ความสุขกลับมาทักทายเธอแล้ว
ยามเช้า หลวงตาปิ่นเดินบิณฑบาต มาจนถึงหน้าบ้านลำยอง น้าชื่นตักข้าวใส่บาตร ชมส่งห่อใบตองให้วันเฉลิมใส่บาตร หลวงตาค้อมตัวลงมารับของใส่บาตรจากวันเฉลิม วันเฉลิมไหว้หลวงตา
"วันนี้ไปโรงเรียนแล้วสิ ไอ้วัน"
"ครับ...หลวงตา"
"เป็นนักเรียนแล้วก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีๆ อย่าให้ใครเขาตำหนิได้นะ"
"ครับ หลวงตา"
หลวงตาปิ่นยิ้มแล้วเดินต่อไป
วันเฉลิมมองตามหลวงตาปิ่น จนหลวงตาไปรับบิณฑบาตหน้าบ้าน ถัดไป เห็นคุณยายวิมลตักบาตร ข้างๆ มีเด็กหญิงยืนอยู่ด้วย ชื่นเก็บอุปกรณ์ตักบาตรกลับเข้าบ้าน วันเฉลิมเห็นหลวงตาเดินจากไปแล้ว เหมือนมีแรงดึงดูด...เด็กหญิงตัวเล็กน่ารักเหมือนตุ๊กตา วันเฉลิมค่อยๆ เดินเข้าไปหา
ยายวิมลกำลังจะพาเด็กหญิงกลับเข้าบ้าน หันมาเห็นวันเฉลิมยิ้มให้
"วันนี้ไปโรงเรียนแล้วเหรอลูก"
"ครับ...น้องน่ารักจัง"
"น้องชื่อสมฤดีจ้ะ" วิมลบอก
"เมื่อไหร่น้องไปโรงเรียนครับ"
"น้องยังเล็กเกินไปลูก อีกซักสองปีถึงจะได้ไปจ้ะ อีกหน่อยหนูก็จะมีน้องเหมือนกันนี่ ยายเห็นแม่หนูเขาท้องใหญ่แล้ว"
"ครับ"
"หนูชื่ออะไรลูก"
"วันเฉลิมครับ"
สมฤดีเอื้อมมือมาหาวันเฉลิม วันเฉลิมที่เอื้อมไปจับมือสมฤดี เด็กทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน
"วัน...รถโรงเรียนมาแล้ววัน" ชมตะโกนมา
วันเฉลิมหันไปมอง
"รถโรงเรียนมาแล้ว ลูก" วิมลบอก
วันเฉลิมวิ่งกลับไป
หลังบ้านลำยอง ชมหอบผ้ากองโตเข้ามาเตรียมซัก
"ฉันละอยากให้ คุณกวงแกโผล่มาที่นี่บ่อยๆจัง" ชมบอก
"ทำไมวะ เวลาคุณกวงมา บ้านนี้ถึงจะมีคำพูดหวานหู จากยัยคุณนายให้ได้ยินรึไง" ชื่นถาม
"อันนั้นน่ะ ฉันทำใจได้มานานแล้วน้าชื่น แต่อยากให้คุณกวงมากำราบยัยคุณนาย เรื่องกินเหล้ามากกว่า ลูกอยู่ในท้องแท้ๆ ใจร้ายจริงๆ"
"พูดไปเตือนไป ก็ไม่คุ้มกับถูกด่า ตัวใครตัวมันละกันเอ็งเอ๋ย เอ็งก็ดูเอาไว้เป็นเยี่ยง แต่อย่าเอา
เป็นอย่าง เป็นผู้หญิงอิงเรือกินเหล้าเมายามันก็ทุเรศมากพอแล้ว"
ตาปอจ่ายเงิน แล้วรับเหล้ากั๊กมาดื่มพรวดอย่างชื่นใจ
"ค่อยมีแรงขึ้นมาหน่อย"
ปอเลียปากแล้วขยี้เช็ดด้วยแขนเสื้อ แล้วเดินกลับมาที่รถเข็นขายฝรั่งดอง สั่นกระดิ่งเรียกลูกค้า
ปอมองฝั่งตรงข้ามถนนแล้วตัดสินใจเข็นรถข้ามถนนทันที ระหว่างนั้นปอหน้ามืดกะทันหัน รอบตัวเบลอพร่า
รถคันหนึ่ง พุ่งเข้าหาปอที่อยู่กลางถนน ปอจะเข็นรถต่อก็ไม่เข็น กลับถอยกลับ เสียงรถปะทะชนโครมใหญ่
รถเข็นขายฝรั่งดองกลิ้งกระเด็นไม่เป็นท่า ฝรั่งดอง ผลไม้ในรถเข็นกระจายเต็มถนน
เพิงขายขนม ลำยงถามลำดวน
"แล้วเขาให้ค่าแรงเอ็งเท่าไหร่"
"หกร้อย"
ยายแลตกใจ
"วันละหกร้อยเชียวเรอะ"
"เดือนละ แม่ เดือนละ" ลำดวนบอก
"ยืนขาแข็งทั้งวันได้วันละยี่สิบบาท"
"ถ้าคิดเลขเป็นรับเงินทอนได้เขาให้เดือนละสองพัน" ลำดวนบอก
"โอ้โฮ ทำไมมันถึงต่างกันนักวะ รู้ยังงี้เอ็งน่าจะตั้งใจเรียนซะหน่อย ไม่น่าเลิกเรียนกลางคันเลยว่ะ" แลบอก
"กว่าจะรู้ยังงี้ มันก็สายไปแล้วแม่" ลำยงบอก
"เอ็งจะไปคิดอะไรมากวะลำดวน เกิดเป็นผู้หญิง ได้แต่งตัวสวยๆออกไปให้ใครๆมันเห็นทุกวัน
ก็คุ้มแล้ว โอกาสดีๆ ผู้ชายรวยๆ ที่เขามาเจอเอ็งมันต้องมีเข้าซักวันละน่า" ลำยองว่า
"แต่งตัวสวย แต่คิดเลขไม่เป็นก็ยังพอทน เอ็งอย่าลืมสะกดคำว่าศักดิ์ศรีให้ถูกก็แล้วกัน ลำดวน"
"อีนี่มันแกะดำแท้ๆ ใครเขาว่าอะไรมันต้องขัดคอเขาทุกเรื่อง" แลบอก
แป้งวิ่งตับแลบมาแต่ไกล แหกปากลั่น
"แม่...แม่...ไปเร็วๆ"
"ตำรวจจับไพ่บ้านไหนอีกล่ะมึง ไอ้แป้ง" แลถาม
"พ่อถูกรถชน"
ตาปอที่ร้องโอดโอย ปานแป้ง ช่วยกันหามพ่อลงนอนบนที่นอนในบ้าน
"โอย...อูย ขากู ขากู"
"เอาไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า ยังไงก็ต้องให้หมอเขาตรวจ" ลำยงบอก
"ไปยังไง มึงมีเงินเรอะ" แลว่า
"มันจะซักกี่บาทกัน"
"ไหนจะค่ารถ ค่ายา ค่าหมออีก มึงมันหาเรื่องแท้ๆ ไอ้ปอ ลำบากแล้วเห็นไหม ทำไมมึงไม่
ตามจับตัวไอ้คนขับรถมันมาให้ได้ ไอ้แป้ง"
"มันชนแล้วหนีไปเลย จะให้ไปจับใครล่ะแม่ แล้วที่ฉันรู้ข่าวก็เพราะมีคนเขาวิ่งมาบอก เขาจำพ่อได้"
"วันนี้เพิ่งขายของได้หกสิบ พี่ลำยอง พี่มีเท่าไร จะได้เอาพ่อแกไปโรงพยาบาล"
ลำยองโกหกบอก
"กูไม่มี คุณกวงเขาไม่ได้ให้ไว้"
"หายืมใครมาก่อนได้ไหม"
"กูเป็นถึงเมียคุณกวงเขานะมึง มึงจะให้กูตากหน้าไปขอยืมเงินใครได้ยังไง"
"เออ..ทียังงี้ล่ะศักดิ์ศรีค้ำคอเลยนะ"
"โอย...อูย ขากู"
"หกสิบก็หกสิบ เอาไปโรงพยาบาลก่อน หมอเขาว่ายังไงค่อยว่ากันอีกที เขาคงไม่ใจร้ายใจดำ
ไม่ยอมรักษาคนเจ็บหรอกน่า ไอ้ปานไอ้แป้ง รีบไปหารถรับจ้างมา"
"กูไม่ไป กูไม่ไปโรงหมอ"
"ขาโก่งออกมายังงี้ หักซะก็ไม่รู้ ยังไงก็ต้องให้หมอเขาดูนะพ่อ"ลำยงบอก
"กูไม่ไป กูแค่ถลอกนิดเดียว...โอย อูย"
"นิดเดียวอะไร"
"กูไม่ไป"
"พ่อ"
"กูกลัวหมอ กูกลัวเข็มฉีดยา"
ลำยงถอนใจ เซ็ง...จบกันแล้วล่าถอยออกไป
"พ่อนะพ่อ จะข้ามถนนทำไมไม่ดูตาม้าตาเรือให้ดี" ลำดวนบอก
"กูหน้ามืดไม่เห็นอะไรเลย"
"กูรู้แล้วทำไมมึงหน้ามืด กลิ่นเหล้าหึ่งเลย มึงขายของได้แอบเอาเงินไปซื้อเหล้ากินใช่ไหม ไอ้ปอ"
"กูกินนิ๊ดเดียว แค่พอมีแรง"
แลฟาดซ้ำ
"นี่แน่ะนิดเดียว รถเข็นฉิบหายป่นปี้ แล้วจะเอาที่ไหนทำมาหากิน"
หน้าบ้าน รถเข็นขายฝรั่งดองสิ้นสภาพ ล้อบิดเป็นเลขแปด ตัวรถงอเบี้ยว ทุเรศได้ใจ เสียงยายแลล้งเล้งตาปอไม่เลิกรา
สันต์พาเทวีมาที่เรือนแพ
"บ้านช่องอาจจะคับแคบไปหน่อยนะหนู ก็อยู่กันตามประสาคนทำมาค้าขายนี่แหละ" สินบอก
"ไม่แคบหรอกค่ะคุณพ่อ หนูว่าน่าอยู่ดีออก ลมพัดเย็นสบายทั้งวันเลย"เทวีบอก
"พ่อผมเขาเป็นช่างไม้ ทุกตารางนิ้วในบ้านหลังนี้ ฝีมือพ่อผมหมดเลยครับ" สันต์บอก
"เก่งจังเลยค่ะ"
ปั้น สินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พอใจเทวีไม่น้อย
"ผมเองก็ได้วิชาพ่อมาบ้างเหมือนกันนะ ถึงจะปลูกบ้านทั้งหลังไม่เป็น แต่ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ก็พอทำเองได้"
"ขี้คุยรึเปล่าคะเนี่ย"
"เอ้า ไม่เชื่อไปดูฝีมือผมก็ได้"
สันต์คะยั้นคะยอเทวีให้ลุกตามไปดูโต๊ะ
"ขออนุญาตนะคะ คุณพ่อ คุณแม่"
เทวีตามสันต์ไปมุมหนึ่ง
"เจ้าสันต์มันไม่ได้ยิ้มเหมือนมีความสุขยังงี้มานานแล้วนะ แม่ปั้น"
"อือ..."
ชาวบ้านพายเรือเข้ามาเทียบหน้าเรือนแพพอดี
"แม่ปั้นเอาเต้าเจี้ยวให้ขวดสิจ๊ะ มีขวดเก่ามาเปลี่ยนด้วย"
ปั้นจะขยับ
"หนูขายให้เองค่ะคุณแม่ เต้าเจี้ยวอยู่ทางนี้ใช่ไหมคะ"
เทวีหยิบขวดเต้าเจี้ยวจากลังไม้ไปขายให้ลูกค้า อัธยาศัยดี สุภาพ ปั้นกับสินมองอย่างชอบใจ
"ได้ลูกสะใภ้แบบนี้ ลูกชายเราไม่มีทางอับจนแน่ ตาสินเอ๊ย" ปั้นบอก
ลำยองสีหน้าเครียด นับเงินที่มีอยู่
"ทำไมมันเหลือแค่นี้วะ"
"ลำยอง...ลำยอง"
แลร้องเรียก ลำยองชะเง้อมองเห็นแม่ที่กำลังเดินเข้ามาจากหน้าบ้าน เธอรีบยัดเงินใส่กระเป๋าสตางค์แล้วเหน็บใส่เอว แลเห็นเข้าพอดี
"มีอะไรแม่"
"เอ็งช่วยไปดูพ่อเอ็งหน่อยไป"
"อ้าว... นังลำดวนมันอยู่เฉยๆก็ให้มันดูไปสิ"
"มันอยู่ที่ไหนล่ะ มันไปทำงานของมันแล้ว"
"ไอ้ปาน ไอ้แป้ง ไง"
"โอย... พึ่งได้ที่ไหนกัน ไอ้สองตัวนั่นน่ะ หายหัวกันไปตั้งแต่เมื่อวาน ป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย"
"ฉันก็ไม่ว่างหรอกนะแม่"
"ไปดูมันแป๊บเดียวก็ยังดี"
"บ่ายๆคุณกวงเขาอาจจะมา เดี๋ยวเขาไม่เจอฉัน เขาจะหงุดหงิดเอา"
"งั้นเอ็งเอาตังค์มาหน่อย ข้าจะเอาไปซื้อยาแก้ปวดให้มันกิน"
ลำยองหงุดหงิด แต่ต้องตัดใจ หยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเปิด แลชะเง้อคอยาว ดูเงินในกระเป๋าลูกสาว
ลำยองเปลี่ยนใจ คว่ำกระเป๋า โขยกๆเทเหรียญเศษเงินออกมาได้หลายเหรียญ ยื่นส่งให้แล
"อะไรวะ แค่เนี้ย"
"ยาแก้ปวด ซองละห้าสิบสตางค์ แค่นี้ก็ซื้อได้หลายซองแล้วนะแม่"
"เอ็งมีเงินเป็นปึกๆ"
"ฉันก็ต้องประหยัดของฉันเหมือนกันนะแม่ รายจ่ายฉันก็เยอะ ไหนจะค่าทำผมทำเล็บ
ไหนจะค่าเสื้อผ้าอีก"
แลหน้าม่อย
ยายแลกลับเข้ามาในบ้าน
"ไอ้ปอ...กินยา ซื้อยามาให้แล้ว"
แลชะงัก เพราะหลวงตาปิ่นนั่งอยู่ข้างที่นอนปอ
"หลวงพี่"
ยายแลไหว้หลวงตาปิ่นท่าทางเก้ๆกังๆ
"เจริญพร"
"หลวงพี่มาตั้งแต่เมื่อไรจ๊ะ"
"ซักพักแล้ว ไอ้ปานมันไปบอกว่าพ่อมันถูกรถชน"
"ลำบากกันจะตายอยู่แล้วหลวงพี่ คนก็มาเจ็บ รถขายของก็มาพังหมดกัน ไม่รู้จะทำมาหากินยังไงแล้ว"
"ค่อยๆ คิดตั้งสติให้ดีๆ มันยังไม่ได้มืดมิด จนมีแต่ทางตันหรอก เพียงแต่อย่าประมาทในการใช้ชีวิต มีน้อยกินน้อย เวลามีก็หัดรู้จักเก็บออม ไอ้ที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายก็ตัดทิ้งมันไป อย่างเหล้าน่ะ"
"กินนิ๊ดเดียวหลวงพี่ แค่พอจำรสได้เท่านั้นเอง" ปอว่า
"กินแล้วมันมีประโยชน์อะไรไหม"
"ไม่มีจ้ะ"
"ก็รู้นี่หว่า แต่ทำไม่ได้ใจไม่แข็งพอ"
"หลวงพี่ก็ช่วยหน่อยสิจ๊ะ ฉันจะได้ลืมหน้าอ้าปากอย่างคนอื่นเขาได้ซะที" แลว่า
"ช่วยยังไง"
"ก็เวลาหลวงพี่เข้าฌาณลึกๆ เผื่อเห็นเลขอะไรแว๊บๆมาก็มาบอกกันมั่ง รางวัลที่หนึ่ง ฉันไม่หวังหรอกจ๊ะเอาสองตัวก็พอ"
"ยากนะ"
"เข้าฌาน ทำยากเหรอจ๊ะ"
"เปล่า...สันดานพวกเองน่ะดัดยาก"
หน้าบ้านลำยอง เช้าวันใหม่ วันเฉลิมกับชมออกมายืนรอรถโรงเรียน ยายวิมลเดินจูงหนูสมฤดีมือหนึ่ง อีกมือหิ้วตะกร้าไปวัด เดินมาทางหน้าบ้านลำยอง
"รถโรงเรียนยังไม่มาอีกเหรอ วันเฉลิม"
"ยังครับคุณยาย"
"คุณยายไปวัดเหรอคะ"
"จ้ะ... วันนี้วันพระ หนูสมเอาขนมนี่ให้พี่วันสิลูก"
วิมลหยิบขนมในห่อใบตองยื่นให้หลานสาว สมฤดีใช้ทั้งสองมือประคองยื่นห่อขนมให้วันเฉลิม
วันเฉลิม ไหว้วิมลแล้วรับห่อขนมมาจากหนูสมฤดี
"เอาไปกินที่โรงเรียนนะลูกนะ"
"ครับ"
วิมลจูงหนูสมฤดีเดินจากมา วันเฉลิมปลื้มใจ ประคองห่อขนมเอาไว้ มองตามยายหลาน ด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ
แหวนทองเพชรซีกโบราณน้ำดีดูมีสกุลอยู่ในมือปั้น
"ของเก่าก็จริง แต่เพชรเหลี่ยมลูกโลก น้ำดียังงี้ หาไม่ได้ง่ายๆแล้ว" ปั้นบอก
"แม่เอ็ง เขาเทแทบหมดกระเป๋าเชียวล่ะ คนจากบ้านท่านขุนไม่ใช่จะขายของในบ้านให้ใคร
ง่ายๆหรอก" สินว่า
"จะได้ลูกสะใภ้ถูกใจทั้งที มันก็ต้องเต็มที่ให้สมหน้าสมตาเขาสิ"
"ทองอีกห้าบาท เงินสดสองหมื่นคงไม่น้อยไปหรอกนะลูก"
"พ่อครับ แม่ครับ ลำพังผมคงไม่มีปัญญา ขนาดนี้แน่"
สันต์กราบแทบเท้าปั้นและสิน น้ำตาซึมด้วยความซึ้งใจ
"ความสุขของเอ็ง ก็เป็นความสุขของพ่อกับแม่ เหมือนกันลูกเอ๊ย"
ปั้นลูบหัวสันต์ด้วยความรัก
ลำยองหน้าเครียดต้องทนฟังเรื่องแสลงใจ
"แหวนวงนั้นน่ะ ข้าเคยเห็นทีเดียว เพชรมันเม็ดเท่านิ้วแม่มือนี่ ตอนนั้นเมียท่านขุนแกว่าไม่ขาย เป็นตายยังไงก็ไม่ขาย ถ้าไม่ได้ห้าหมื่น ยังมีอีกนะเอ็ง เขาว่า ทองตั้งสิบบาท เงินสดอีกเป็นแสน" แลว่า
"ทีกับกูละขี้เหนียว นะมึง อีแก่...เมียใหม่มันหน้าตาเป็นยังไง แม่"
"ข้าเองก็ไม่เคยเห็นกะตาแต่เขาว่า มันสวยอยู่เหมือนกัน เป็นครู อยู่โรงเรียนอะไรก็ไม่รู้ ท่าทางเป็นผู้ดีอยู่"
ลำยองลุกพรวดขึ้นอย่างขัดใจ
"พอได้แล้วแม่ เขาว่า เขาว่าอยู่นั่นแหละ ไม่ได้เห็นกะตา ก็อย่ามาพูดดีกว่า"
ลำยองเดินไปเปิดตู้จะหยิบเหล้าออกมา แต่ต้องชะงัก ตัวงอ เจ็บจี๊ดที่ท้อง
"เขาว่ามันจะเลี้ยงพระที่บ้านอีปั้น แต่งานเลี้ยงจะไปจัดที่สโมสรนายทหารเรือ"
"โอย"
"เอ็งเป็นอะไรวะลำยอง....เฮ้ย"
ลำยองก้มลงมอง น้ำคร่ำแตกไหลนองลงมาตามขาเต็มพื้นกระดาน
"แม่...ฉันปวดท้อง"
ลำยองปวดจนทรุดลงกองกับพื้น วันเฉลิมรีบวิ่งเข้ามาหาลำยอง
"แม่...แม่"
ยายแลสติแตก วิ่งพล่านแหกปากลั่น
"ไอ้ปาน ไอ้แป้ง เฮ้ยใครอยู่แถวนี้โว้ย ไปตามคุณกวงมาไวๆ นังลำยองมันจะคลอดลูกแล้ว"
แลวิ่งกระเจิงออกไป วันเฉลิมกอดลำยองเอาไว้
"แม่เจ็บมากเหรอครับ แม่กอดวันไว้ แม่จะได้หายเจ็บนะ แม่"
วันเฉลิมพยายามประคองลำยองเอาไว้ ลำยองร้องเต็มกำลัง กับความปวดที่โจมตีอย่างรุนแรง
ยายแลเดินผ่านมาจะกลับบ้าน เห็นปั้นกำลังเก็บพริกใบกระเพราอยู่รั้วหน้าบ้าน สินรดน้ำต้นไม้ในกระถาง ก็พูดเสียงดังกับชาวบ้านแถวนั้น
“เฮ้ย...พวกเอง ลำยองมันเจ็บท้องจะคลอดแล้วนะโว้ย เถ้าแก่กวงแกเอารถเก๋งคันใหม่คันเบ้อเริ่มเลยมารับมันไปโรงหมอ เถ้าแก่กวงแกดีใจจนเนื้อเต้นเลยละพวกเอ็ง พวกเอ็งเตรียมกินโต๊ะจีนได้เลย เขาปิดซอยเลี้ยงแน่ๆ” แลพูดพลางหัวเราะร่วน
ปั้นกับสิน มองหน้ากัน... อี่นี่อีกแล้ว รำคาญหูชิบ...
“แล้วถ้าไม่ได้ลูกชายล่ะยัยแล” ชาวบ้านถาม
“ลูกชายโว้ย... ยังไงก็ต้องได้ลูกชาย ข้าน่ะฝันติดๆ กันมาหลายคืนแล้ว ฝันว่าช้างเผือกขาวจั๊วไปทั้งตัวมาเดินชูงวงอยู่ในซอยเนี่ย”
“เอ็งดูดีรึเปล่าล่ะ ว่าช้างตัวผู้หรือตัวเมีย” ปั้นถามอย่างอดไม่ได้
ชาวบ้านหัวเราะ ครืน
แลหันขวับไปทางปั้นกับสิน
“มึงไม่ต้องมาอิจฉากูหรอกอีปั้น หน๋อยทำเป็นคุยว่า งานหมั้นสะใภ้ใหม่จะจัดให้ใหญ่โต แน่จริงมึงก็คอยดูงานเลี้ยงรับขวัญหลานกูเอาก็แล้วกัน แล้งมึงจะหนาว เถ้าแก่กวงเขาไม่ใช่แค่ปิดซอยเลี้ยงโต๊ะจีนโว้ย เขาจะมีดนตรี พยงค์ มุกดา วงใหญ่ มีลิเกสามสี่โรงมาประชันกัน เจ็ดวันเจ็ดคืนด้วยโว้ย”
“อ๋อเหรอ...ร่ำรวยขนาดนี้คงต้องไปจัดท้องสนามหลวงแล้วล่ะมัง”
“พอเหอะแม่ปั้น อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดกับมันเลย” สินบอก
“แล้วเขาบอกไหมล่ะว่าถ้าได้ลูกสาว เขาจะจัดงานแบบไหน”
“ยังไงกูก็ต้องได้หลานชายโว้ย”
“มึงหัดอยู่กับความเป็นจริงบ้างเหอะอีแล มัวแต่ฝันเฟื่องตกลงมาจะเจ็บตัวเปล่าๆ”
“พอแล้วแม่ปั้น เข้าบ้านเหอะ”
สินพยายามต้อนปั้นให้กลับเข้าบ้าน
“มึงแช่งกันยังงี้ มาตบกันให้รู้ดำรู้แดงกว่ามั้ง อีปั้น”
“กูก็ไม่ได้กลัวมึงหรอก แต่มึงเคยได้ยินไหมล่ะ ที่เขาว่า หมาเห่าอย่าเห่าตอบน่ะ”
สินต้อนปั้นหายเข้าบ้านไปจนได้
“อีนี่ มึงว่ากูเป็นหมาเรอะ”
ชาวบ้านสนุกได้ดูหนังสด แลถลกผ้าถุงคลั่งเป็นเจ้าเข้าอยู่คนเดียว
สันต์ขึ้นมาจากโป๊ะเรือ จะเดินกลับบ้าน ลำยงขายขนมอยู่เห็นสันต์ก็เรียก
“พี่สันต์ แวะก่อน”
“มีอะไรลำยง”
“พี่ลำยองเขาเจ็บท้องจะคลอด ผัวเขาพาไปโรงพยาบาลแล้วนะ”
“ก็ดีแล้วนี่ หวังว่าคงจะปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก”
“แม่เขาตื่นเต้นยังกะเป็นคนคลอดซะเอ็ง แถมมั่นอกมั่นใจว่าต้องได้ผู้ชาย”
“ถ้าพ่อใหม่เขาไม่เอาเจ้าวันขึ้นมา ลำยงก็บอกพี่มานะ เพราะพี่ยังยินดีรับเลี้ยงลูกเสมอแหละ”
“อีกไม่นานพี่ก็จะแต่งงานใหม่ มีลูกใหม่ไม่ใช่เหรอ”
“ถึงมีใหม่ เจ้าวันมันก็ยังคงเป็นลูกพี่นี่ ไม่ใช่จะกลายเป็นลูกคนอื่นเมื่อไหร่”
บ้านลำยอง ทีวีถูกเปิดทิ้งเอาไว้ ถึงรายการจะไม่น่าสนใจและไม่มีใครสนใจดูก็ตาม ไม่มีใครคิดจะปิด วิทยุก็ถูกเปิดเสียงดังเอาไว้แข่งกับทีวี บรรยากาศเหมือนเป็นปาร์ตี้ย่อมๆ ปานมุดรื้อของในตู้เย็น อะไรที่กินได้เอาออกมาหมด ตาปอนั่งเหยียดขาที่ยังเจ็บ กินก๋วยเตี๋ยว อย่างตายอดตายอยาก
ลำดวน แล จกตำมะยมรสชาติจัดจ้านกันด้วยมือ วันเฉลิมนั่งหงอยอยู่อีกมุมด้วยความเป็นห่วงแม่
“ไอ้วัน...อีกไม่นานเอ็งก็หมาหัวเน่าละว้า”
วันเฉลิมยิ้ม
“ป๊าเอ็งเขาจะมีลูกของเขาเองแล้ว ตอนนี้เขาก็เอ็นดูเองอยู่หรอก เพราะไม่มีลูกชาย แต่อีกหน่อยเถอะเอ็งเอ๊ย” ปานบอก
“พ่อเองมันก็กำลังจะมีเมียใหม่ มีลูกใหม่ แล้วเอ็งจะเป็นลูกใครวะ ปู่ย่าเอ็ง มันก็ไม่เอาหรอก เชื่อข้าเหอะไอ้หมาหัวเน่าเอ๊ย” แลพูดพลางหัวเราะ
ลำดวนบอก
“รู้จักไหมวะไอ้วัน หมาหัวเน่าน่ะ”
ทุกคนหัวเราะชอบใจกับท่าทางซึมๆของวันเฉลิม
ชมถือจานของกิน ประเภทยำจากของเหลือในตู้เย็นเข้ามาเสริมวงปาร์ตี้
“เฮ้ย... เอามานี่ เอามาทางนี้”
ปานกับแป้งเข้ามาแย่งจานไป, อลหม่านวุ่นวายเหมือนแร้งลงไม่มีผิด
“วัน...ไปอยู่กับพี่เถอะไป”
ชมจูงวันเฉลิมลงบันไดไป ฝูงแร้งมีชีวิตชีวา อาหารเกลื่อนเต็มพื้น
กวงยืนไม่ติดที่อยู่มุมหนึ่งของโรงพยาบาล ที่นั่งคอยของบรรดาญาติๆเต็มไปด้วยผู้คน พยาบาลออกมาจากห้องคลอด
“คุณพัฒนพงษ์ค่ะ”
ญาติคนไข้แสดงตัว
“คุณได้ลูกชาย ค่ะ”
กลุ่มญาติคนไข้ดีใจกันจนแทบกระโดดโลดเต้น
บรรยากาศของความสมหวังอบอวลไปทั้งห้อง กวงเองรู้สึกได้ เขาภาวนาให้ตัวเองได้ลูกชายเช่นกัน
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 4 (ต่อ)
บ้านลำยอง ตอนค่ำ ยายแลยกธูปดอกเดียวที่จุดแล้วขึ้นจบ ปากงึมงำไหว้เจ้าที่ ลำดวนทัก
“แม่ ทำไมจุดธูปดอกเดียวล่ะ”
“มึงจะไหว้ผีที่ไหน อีแล” ปอถาม
“ไอ้บ้า กูจะไหว้เจ้าที่”
“เขาจุดกันสามดอกโว้ย” ปอบอก
“สามดอกไหว้พระ พ่อ” ปานบอก
“ไหว้เจ้าที่เขาจุดกันห้าดอกไม่ใช่เรอะ” ลำดวนบอก
“เออ..รึเจ็ดดอกวะ” แลลังเล
“ฉันเห็นพวกไปขอหวยเขาจุดเก้าดอก” ลำดวนบอก
“ตกลงมันกี่ดอกกันแน่วะ” แลว่า
“งั้นจุดมันทั้งกำเลยละกัน” ปานบอก
“เออ...ๆ ทั้งกำเลยก็ดีเหมือนกันจะได้ขลังๆ”
ปานจุดธูปทั้งกำยื่นให้แล
“เจ้าประคู้ณ เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือนขอให้นังลำยองมันได้ลูกชายด้วยเถิ้ด สมหวังแล้ว ลูกจะถวายหัวหมู ไข่ต้ม ไก่ต้ม ขนมนมเนย” แลบอก
“เหล้าด้วย อย่าลืมเหล้าอีแล” ปอบอก
“กูรู้แล้ว เหล้าด้วยจ้า...สาธุ”
เรือนแพแม่ปั้น เวลาค่ำ ปั้นพูดขึ้น สันต์กับสินนั่งอยู่ด้วย
“ถ้ามันได้ผู้หญิงขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่ามันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน คุยไว้ซะขนาดนั้น”
“ผมอยากให้เขาได้ลูกชาย ให้เขาสมหวัง ครับแม่”
“เขาจะเมตตาไอ้วันมันน้อยลงนะ เอ็งจะปวดใจเปล่าๆ”
“ไม่หรอกครับพ่อ ผมว่าผมมีหวังมากขึ้นที่จะได้เจ้าวันคืนมาเลี้ยงเองต่างหาก”
เวลาค่ำ วันเฉลิมยืนเกาะรั้วบ้านคอยแม่ ความเจ็บปวดของแม่ก่อนไปโรงพยาบาลยังหลอนอยู่
ชมเดินออกมาชะเง้อมองหาวันเฉลิม แล้วเดินเข้ามาหา
“วัน...ทำไมมาตากยุงอยู่ตรงนี้ล่ะเข้าบ้านเหอะ”
“วันคอยแม่ พี่ชม”
“แม่เขาไปคลอดน้องนะ ไม่ได้ไปตลาด อีกหลายวันแหละกว่าจะกลับบ้านได้”
“แม่เจ็บจังเลยนะ พี่ชม”
“คนจะคลอดลูกก็เจ็บยังงี้แหละ”
“ตอนแม่จะคลอดวัน แม่ก็เจ็บยังงี้ใช่ไหมพี่ชม”
ชมตบยุงบอก
“อือ... เข้าบ้านเหอะ รออยู่ตรงนี้ทั้งคืนแม่เขาก็ยังไม่กลับมาหรอก”
วันเฉลิมยังชะเง้อมองออกไป ก่อนจะกลับเข้าบ้านกับชม
ภายในห้องน้าชื่นกับชม
“ข้างบนคนเต็มไปหมดเลย ง่วงนอนรึยังล่ะวัน... จะนอนที่นี่ก็ได้นะ” ชื่นบอก
“เดี๋ยวผมขึ้นไปข้างบนดีกว่าครับ”
ชมหาวนอน
“ฉันละงอมแน่น้า...ผ้าอ้อม ที่นอนเด็กอ่อน มีหวังเขลอะ แล้วบางทีเด็ก ร้องกลางดึกกลางดื่นขนาดไม่มีลูกอ่อนห้องยังเละเทะ ลูกอ่อนยังงี้ เฮ้อ... มีหวังอีชมตายแน่”
“คุณกวงเขาสัญญาจะขึ้นเงินเดือนให้เอ็งแล้วไง”
“ร้อยเดียว...แต่งานมันไม่เพิ่มร้อยเดียวแน่ๆ”
“เอ็งน่าจะคิดว่าเพิ่มตั้งร้อยสิจะได้สบายใจ ร้อยนึงก็ไม่ใช่น้อยนะ ทนเอาหน่อยวะ ไว้มีหนทางดีๆค่อยคิดขยับขยาย”
วันเฉลิมได้แต่นั่งฟังตาปริบๆ
“น้าว่าอีกนานไหมกว่าเขาจะคลอดน่ะ”
“น้ำเดินแล้วนี่ ตอน จะไปน่ะ ไม่ใช่ท้องแรกไม่น่ายาก อีกไม่นานก็รู้เอง คุณกวงเขาต้องกลับมารับแม่ลำดวนนั่นไปนอนเป็นเพื่อน นี่...”
ภายในโรงพยาบาล กวงนั่งรออยู่ที่ม้านั่งมุมหนึ่ง พยาบาลออกมาพร้อมเอกสารในมือ
"คุณกวง ค่ะ"
กวงลุกพรวดขึ้นทันที
"ครับ"
"ภรรยาคุณคลอดเรียบร้อยแล้ว"
"ลูกชายใช่ไหมครับ"
พยาบาลสีหน้าเรียบเฉย
"ลูกชายค่ะ"
กวงขนลุกซู่ซ่าไปทั้งตัว ปิติล้น
"แม่เด็กปลอดภัยดีใช่ไหมครับ"
"ค่ะ"
"ผมขอดูลูกได้ไหมครับ"
"เชิญตามมาทางนี้ค่ะ"
กวงเดินตามพยาบาลเข้าไป ตัวแทบลอยด้วยความสมหวัง
กวงเดินตามพยาบาลเข้ามาที่หน้าห้องเด็กอ่อนแรกคลอด เขามองผ่านกระจกเข้าไปในห้องอนุบาลเด็กปลอดเชื้อ
"เด็กยังไม่ได้ตั้งชื่อนะคะ ใช้ชื่อคุณพ่อคุณแม่ไปก่อน"
"ความจริงตั้งเอาไว้แล้วครับ อภิชาต ครับ ชื่ออภิชาต"
"ค่ะ"
พยาบาลขยับออก กวงขยับเข้าดูลูก ความสุขที่ล้นหัวใจ ค่อยๆเปลี่ยนไปตามสิ่งที่ได้เห็น
ภายในห้องพักคนไข้พิเศษ ลำยองนอนเพลียหมดแรง กวงค่อยๆผลักประตูเข้ามาเงียบๆ หมดเรี่ยวแรงเหมือนทุกส่วนของร่างกายหนักอึ้ง ลำยองค่อยๆลืมตาขึ้น ผืนยิ้มให้กวง
"ลำยองเจ๊บเจ็บค่ะ คุณกวง"
กวงมองนิ่ง
"ลูกชายใช่ไหมคะ ลำยองได้ยินคุณหมอบอกว่าลูกชาย"
กวงพยักหน้า
"คุณกวงเห็นลูกแล้วใช่ไหมคะ"
กวงพยักหน้า
"คุณกวงดีใจจนพูดอะไรไม่ออกเลยเหรอคะ"
กวงนิ่ง
"คืนก่อนลำยองฝันว่า มีเทวาเหาะลงมาจากฟ้า แล้วก็เอาแหวนเพชรมายื่นให้ตรงหน้าลำยองเลย คุณกวงขา...ลำยองอยากได้แหวนเพชรเม็ดใหญ่ๆ ซักวงนึง คุณกวงซื้อให้ลำยองนะคะ...รับขวัญลูก"
กวงนิ่ง ลำยองมองปรือเลยไม่เห็นปฏิกิริยาของกวง
บนบ้านลำยอง แลยังคุยโววาดฝัน
"ปิดอู่พัก ซักแป๊บนึง พอเข้าที่เข้าทาง ลำยองมันก็ทำลูกให้คุณกวงเขาได้อีก"
"แหมยังกะโรงเลี้ยงหมูเลยนะแม่" ลำดวนบอก
"ยิ่งถ้าได้ลูกแฝดผู้ชายให้เขาได้ยิ่งดี"
"คุณกวงเขาจะซื้อบ้านให้พวกเราอีกหลังไหมแม่"
วันเฉลิมเดินออกมาจากห้องจะลงไปข้างล่าง
"ของมันแน่อยู่แล้ว"
"พี่ลำยองน่าจะบอกเขาให้รับฉันไปเป็นผู้จัดการโรงงาน" แป้งบอก
ปานถาม
"ถ้าเขาซื้อรถยนต์ให้ ให้ฉันเป็นคนขับนะแม่ บอกพี่ลำยองด้วย"
แป้งถามวันเฉลิม
"หมาหัวเน่า...จะไปไหนวะ"
วันเฉลิมไม่ตอบเดินลงบันไดไป
"ข้าอยากลองกิน ไอ้หูฉลามมั่ง เขาว่ามันวิเศษนักเหรอวะ" ปอบอก
"เออ...อีกหน่อยเรารวยกันแล้ว มึงได้กินทุกวันแน่ตาปอ"
วันเฉลิมนั่งหงอยอยู่มุมหนึ่ง ข้างประตูรั้ว รถกวงแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน วันเฉลิมลุกขึ้นรีบวิ่งมาหา กวงลงจากรถด้วยอารมณ์ยังอื้ออึง ผิดหวังที่เจอทางตัน
"ป๊า"
กวงชะงัก เมื่อเห็นวันเฉลิม ในใจยิ่งเจ็บเพราะ ฝันอยากได้ลูกน่ารักอย่างวันเฉลิม
"แม่ผมล่ะครับ"
"แม่เราสบายดี...แต่คงต้องนอนพักที่โน่นอีกหลายวัน"
วันเฉลิมพอยิ้มออก กวงเอื้อมมือมาจับหัววันเฉลิม
แก๊งยายแล ยกแก๊งกรูกันออกมาจากบ้าน เสียงดังเจี๊ยวจ๊าว เป็นนกกระจอกแตกรัง ปอวิ่งขาเป๋ลงมาด้วย
"เถ้าแก่.. เป็นไงมั่ง ผู้หญิง ผู้ชาญ" แลถาม
กวงมีสีหน้าลำบากใจไปอึดใจใหญ่
"ผู้ชาย"
"ไชโย...ๆๆ"
แก๊งยายแลกระโดดโลดเต้นดีใจกันสุดขีด วันเฉลิมมองแต่กลับรู้สึกบางอย่าง ทำไมกวงไม่ดีใจด้วยเลย
"ลูกชาย งั้นก็ต้องโห่เอาฤกษ์เอาชัยสิวะ อีแล" ปอว่า
แลโห่ลั่น "โฮ ฮิ๊ โฮ ฮิ๊โฮ...."
"ฮิ้ว"
"กระเป๋าเสื้อผ้า เตรียมไว้รึยังลำดวน จะได้ไปกันเลย" กวงถาม
"อยู่ในบ้านค่ะ"
"รีบไปเอามาสิวะ ไวๆ" แลบอก
ลำดวนวิ่งกลับเข้าบ้าน ใครต่อใครยังดีอกดีใจไม่เลิก วันเฉลิมมองตามกวงที่เดินกลับไปนั่งรอในรถ
ภายในรถ กวงนึกถึงเรื่องลูกชายที่ได้มีโอกาสคุยกับหมอ
"ให้เด็กอยู่โรงพยาบาลสักพัก...น้ำหนักน้อยไป ต้องดูแลพิเศษ"
"ทำไมลูกผมเป็นยังงี้...ทำไมล่ะครับ เด็กก็ครบกำหนด แม่เด็กก็แข็งแรงดี ไม่ใช่เหรอครับ โธ่...ผมเพิ่งมีลูกชายก็คนนี้แหละ ผู้หญิงตั้งสี่คนแล้ว"
"ลูกสาวคุณแข็งแรงทุกคน เพราะแม่เด็กระวัง กินแต่ของดีมีประโยชน์ แต่ลูกคุณคนนี้ไม่แข็งแรง เพราะแม่ดื่มเหล้าตอนท้อง ผมห้ามแล้วก็ไม่เชื่อ"
กวงปวดใจ
"แต่ไม่เป็นไร ดูแลเลี้ยงดูให้ดีๆ ก็เติบโตแข็งแรงได้"
"หมายความว่า ถ้าเลี้ยงไม่ดีก็มีหวังไม่รอดใช่ไหมครับ"
"ถึงรอดสติปัญญาเด็กก็อาจจะไม่ค่อยดีนัก เด็กคลอดออกมาอย่างมีอาการของคนติดเหล้าจะต้องมีการให้ยาบำบัดทางด้านสมอง ถ้าให้อาหารดี ยาดี ก็ยังเจริญเติบโตได้พอสมควร ไม่ถึงกับปัญญาอ่อนหรอกครับ"
กวงหนักอึ้งในหัวอก...
ลำดวน หิ้วกระเป๋า เสื้อผ้าออกมาจากในบ้าน
"เร็วๆเข้าสิวะ อีลำดวน เถ้าแก่เขาคอยอยู่"
"แหมเร่งจัง ฉันผัดหน้าหวีผมแป๊บเดียวเอง"
ลำดวนเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างกวง ยายแล ยื่นหน้ายื่นตาตามเข้ามา
"บอกลำยองมันด้วยนะคุณกวง มันอยากดูลิเกคณะไหน ก็ให้รีบบอกมาจะได้รีบไปจอง"
แต่กวงกลับนิ่งจนน่าแปลกใจ
"พอแล้วแม่ คุณกวงเขารีบ"
ลำดวนดันแลออกไป แล้วปิดประตูรถ
"มีอะไรรึเปล่าคะ คุณกวง"
กวงถอนใจ แล้วขับรถออกไป
"เปล่า...ไม่มีอะไร"
แลเดินกลับไปรวมกลุ่มกับแก๊ง
"มันไม่ดีใจรึไงวะ ได้ลูกชายแทนที่มันจะไชโยฉลอง ทำไมทำหน้าแปลกๆวะ" แลสงสัย
วันเฉลิมที่รู้สึกได้ถึงความกังวลของกวง
ในเวลาต่อมา ลำดวนหน้าแฉล้มเดินนำกวงเข้ามาถึงหน้าห้องดูเด็กอ่อน...ชะเง้อชะแง้มองหา
"อุ๊ยตายน่ารักน่าเอ็นดูทั้งนั้นเลย คุณกวงขา คนไหนล่ะคะ หลานลำดวน"
ลำดวนหันมามองกวงที่ยืนพิงผนังกอดอกนิ่ง ก้มหน้าหันไปทางอื่น ลำดวนแปลกใจ
พยาบาลเข้ามาดูแลเด็กในห้องกระจกพอดี ลำดวนเคาะกระจก กวักมือเรียกพยาบาล
"คนไหนลูกคุณลำยองน่ะคุณ คนไหน"
พยาบาลเข็นรถที่มีตู้กระจกครอบอีกที เข้ามาให้ลำดวนดู เธอผงะตกใจ แทบร้องไม่ออก ไม่ต่างจากเห็นผีเลย
ลำยองนอนสิ้นฤทธิ์ ครางเจ็บแผลฮือๆ อยู่ในห้องพิเศษ ลำดวนหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเปิดประตูเข้ามา
"หมอ...เมื่อไหร่ฉันจะหายเจ็บเนี่ย เอาอะไรก็ได้มาฉีดให้หน่อย จะได้...อ้าว อีลำดวน กูก็นึกว่าหมอ"
"คุณกวงเขาไปรับฉันมานอนเฝ้าไข้พี่"
"อ้าว แล้วเขาไปไหนแล้วล่ะ สงสัยจะเห่อลูก ไปเฝ้าแต่ลูกละสิ"
"คุณกวง เขากลับไปแล้ว"
"คงรีบกลับไปส่งข่าวเตี่ยกับแม่เขามั้ง ว่าได้ลูกชายแล้ว"
ลำดวนสีหน้าลำบากใจ
"พี่ลำยอง...ลูกพี่มันไม่ค่อยแข็งแรงนะ"
"เดี๋ยวหมอเขาก็ดูแลเองแหละ กูเป็นคนไข้พิเศษนะโว้ย ไม่ได้คลอดอนาถาแบบตอนคลอดไอ้วันมัน"
ลำดวนกระอักกระอ่วน ลำยองยังร่ายไม่หยุด
"ถ้ามึงกลับบ้าน ฝากบอกแม่แกด้วยว่า ให้หาหมอประคบเก่งๆไว้รอกูหน่อย จะได้ประคบหน้าท้องให้มันยุบๆ บวมฉึ่งยังงี้ ใส่ชุดอะไรก็ไม่สวย...เออนี่...คุณกวงเขารับปากจะซื้อแหวนเพชรให้กูด้วย เขาจะรับขวัญลูก...มึงคอยดูนะ กูจะเลือกเพชรเม็ดให้มันใหญ่กว่าที่ไอ้สันต์มันหมั้นเมียใหม่มันอีก"
ลำดวนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แต่รู้ว่าอนาคตของพี่สาวไม่ได้สวยใสอย่างคิดไว้แน่ ลำยองยิ้มคิดแต่เรื่องของตัวเองมากกว่าลูก สลับกับครางด้วยความเจ็บแผล
หน้าบ้านลำยอง เช้าวันใหม่ วิมลประคองถาดใส่บาตรมือหนึ่ง อีกมือจูงสมฤดีออกมาหน้าบ้าน
วันเฉลิมยืนยิ้มอยู่มุมหนึ่ง
"หนูสม...วันนี้มีขนมอะไรมาแบ่งพี่เขาลูก"
สมฤดียื่นชมพู่ให้ วันเฉลิมรับชมพู่ไป
"ขอบใจนะหนูสม"
"ขอบใจนะ"
ชมหิ้วกระเป๋านักเรียนเดินเข้ามาหา
"วัน...รอรถเองได้ไหม พี่จะได้รีบเข้าไปทำงานในบ้าน"
"ได้ครับ"
"เมื่อคืนยายเห็นใครต่อใครมากันเต็มบ้าน มีอะไรกันล่ะ" วิมลถาม
"เขามาฟังข่าวแม่เจ้าวันไปคลอดค่ะ" ชมบอก
"อ้าว...ไปคลอดแล้วเหรอ วันได้น้องผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะลูก"
"น้องผู้ชายครับ"
"หนูล่ะไม่ชอบเล้ย พวกยายๆน้าๆเขาชอบพูดว่าอีกหน่อยวันเขาจะเป็นหมาหัวเน่า"
"เขาคงคิดไม่ถึงล่ะมังว่า เด็กตัวแค่นี้ก็มีความคิดจิตใจ"
"นั่นสิคะคุณยาย ทำไมชอบคิดว่าเด็กไม่รู้..."
"วัน...วันดีใจไหมลูกที่ได้น้องชาย"
"ดีใจครับ"
"แล้วถ้าได้น้องสาวล่ะลูก"
"ดีใจครับ"
"นั่นสินะ ยังไงก็น้องของเรา แม่ของเรา ใช่ไหมลูก"
"ครับ"
ปั้นกับสินช่วยกันขายของคนละมุม ลูกค้ามาก..คึกคักเชียว ยายแลสีหน้ามั่นใจ เดินอาดๆเข้ามา
"เฮ้ย...ตาสิน เอาเหล้ามาโรงมาขวดนึง"
สองผัวเมียหันมามองเป็นตาเดียวกัน
"กินเหล้าแต่วันเลยเรอะ ยัยแล" ชาวบ้านถาม
"ไม่ได้เอาไปกินเองโว้ย เอาไปถวายเจ้าที่ท่าน พวกเอ็งคงยังไม่รู้มั้งว่า ลำยองลูกสาวข้ามันคลอดแล้วเมื่อคืน ได้ลูกชายโว้ย สมใจเถ้าแก่กวงเขา เขางี้ยิ้มหน้าบานไม่ยอมหุบเชียวล่ะ พวกเอ็งเตรียมล้างไส้ล้างพุงมากินโต๊ะจีนกันได้เลย เอ้าเฮ้ย...ได้รึยังล่ะเหล้าน่ะตาสิน เงินสดๆ โว้ยไม่ต้องทอนด้วยที่เหลือข้าให้เป็นติ๊บ"
"อีแล...มึงก็รู้ว่าบ้านกูไม่ได้ขายเหล้า มึงอยากอวดบารมีลูกมึง มึงไปอวดไกลๆ เลย ไม่มีใครเขาเห่อโต๊ะจีนไปกะมึงหรอก"
"เออ เนาะ กูก็ลืมไป...ขายแต่ผักหญ้า น้ำปลากะปิ วันๆกำไรหยิบมือ จนตายลงโลง มึงก็มีปัญญาแค่นี้แหละ" แลพูดพลางหัวเราะ
"จะจนจะรวย มันก็เรื่องของกู ถึงจะจนกูก็มีปัญญาได้คนดีๆมาเป็นสะใภ้กูล่ะวะ ไม่ใช่สวยแต่ข้างนอก ข้างในเหม็นฉึ่งอย่างลูกสาวมึง"
ยายแลถลกผ้าถุงชี้หน้า
"อีปั้น"
"ไปซะยัยแล คนเขาจะทำมาหากินกัน" สินบอก
ยายแลปราดไปคว้ากระจาดไข่เป็ดเงื้อขึ้นจะทุ่มทิ้งทำลาย ปั้นเข้ามาท้าวสะเอวเผชิญหน้า
"เอาสิ ลองสิ ไข่กูแตกกี่ฟองกูจะปรับมึงเป็นร้อยเท่าเชียว แถมจะลากคอมึงส่งตำตรวจด้วย ลองดู อีแล"
แลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเพราะทำอะไรไม่ได้ ทุกสายตามองมาอย่างเย้ยเยาะ ยายแลกระแทกกระจาดไข่ลง จะเดินออกไป ไม่ออกไปเปล่า ถ่มน้ำลายปิ๊ดลงพื้น
"ดูเอาเหอะ อีคนชั้นต่ำ แม่ลูกไม่ได้ต่างกันเลย"
เวลากลางวัน วันเฉลิมถูพื้นกุฏิอย่างตั้งใจ หลวงตาปิ่นนั่งเช็ดตู้ทำความสะอาดอยู่อีกมุม
สันต์พาเทวีขึ้นกุฏิมา...
"นมัสการครับหลวงลุง"
สันต์ เทวีกราบหลวงตาปิ่น
"เจริญพร"
วันเฉลิมหันไปมองเห็นสันต์กับเทวี
"พ่อ"
"ขยันจริงลูก ช่วยหลวงตาถูพื้นเหรอ"
"ครับ"
เทวีมองวันเฉลิมเห็นครั้งแรกก็เมตตาเลย
"มันถูเอาจริงเอาจังนะ ไม่ได้ถูเล่นๆ ผู้ใหญ่เห็นยังต้องอายเชียวละ"
"ดีแล้วละลูก วันต้องดูแลหลวงตาให้ดีๆนะ"
"ครับ"
"นั่นใครล่ะ แฟนใหม่เอ็งเรอะเจ้าสันต์"
"ครับหลวงตา...วันนี้มีโอกาส ผมเลยพาอาจารย์เทวีมากราบหลวงลุงครับ"
"แต่งกันแล้วจะพากันย้ายมาอยู่แพแม่ปั้นเขารึเปล่าล่ะ"
"ยังไม่ทราบเลยครับหลวงลุง"
"ถ้ามาอยู่ที่นี่ก็ไกลจากที่ทำงานไปหน่อยเจ้าค่ะ"
"ก็ค่อยดูกันไปนะ แต่เป็นผัวเมียกันยังไงก็ต้องอยู่ดูแลกันให้ดี ผัวอยู่ทาง เมียอยู่ทาง ไปก็ไปคนละทาง สุดท้ายครอบครัวก็พัง"
สันต์และเทวียกมือไหว้น้อมรับคำสอนหลวงตา
"วัน...มาหาพ่อใกล้ๆซิลูก"
วันเฉลิมคลานเข้าไปหาสันต์
"นี่อาเทวีนะลูก ไหว้อาเทวีซะ"
วันเฉลิมไหว้ เทวีเอื้อมมือมาจับมือวันเฉลิมไว้แทนการรับไหว้
"พ่ออยากให้วันรู้ไว้นะลูก ว่าถึงแม้พ่อกับแม่ของวันจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงวันจะมีพ่อใหม่แม่ใหม่ วันต้องการความช่วยเหลืออะไร วันก็มาหาพ่อได้เสมอ พ่อไม่มีวันทอดทิ้งวันไปไหนหรอก เข้าใจไหมลูก"
"ครับ"
ภายในห้องคนไข้พิเศษ ลำยอง เสือกถาดอาหารออกไปไกลตัวอย่างหงุดหงิด จริงๆ แล้วอยากเหล้ามากกว่า
"กับข้าวบ้าอะไรวะ จืดชืดไม่มีรสชาติอะไรเลย"
"กับข้าวโรงพยาบาล มันก็ยังงี้แหละพี่" ลำดวนบอก
พยาบาลอุ้มเด็กทารกที่ห่อตัวมิดชิดเข้ามา
"คุณแม่ให้นมลูกหน่อยนะคะ"
พยาบาลวางทารกลงข้างแม่ ลำยองหันมามองลูกตัวเองแล้วแทบกรี๊ดผงะ !
"อะไรพี่ลำยอง"
"ไอ้นี่มันลูกข้าเหรอ"
ลำดวนไม่กล้าสบตาลำยอง
"ทำไมมันเป็นยังงี้ล่ะ ผัวฉันเขาหล่อยังกะอะไรดี ฉันก็สวยขนาดนี้ แล้วนี่มันอะไร หมอเอาเด็กผิดคนมาให้เป็นลูกฉันหรือเปล่าเนี่ย"
"ไม่ผิดพลาดอย่างนั้นหรอกค่ะ เด็กไม่ค่อยแข็งแรง คุณหมอกำลังพยายามช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่ และนมจากคุณแม่จะเป็นอีกทางนึงที่ช่วยเด็กได้ค่ะ" พยาบาลบอก
ลำยองจนมุม
"อีกสักพัก ดิฉันจะกลับมานะคะ"
พยาบาลเดินออกไป
"นังลำดวน...ทำไมคุณกวงเขาไม่โผล่มาเลย สองสามวันแล้วนะมึง"
"เขามา แต่มาดูลูกแล้วก็ไป"
"ทำไมเขาไม่มาดูกูมั่ง"
ลำดวนไม่ตอบ เพราะลำยองน่าจะรู้อยู่แก่ใจ
บ้านลำยอง วันใหม่ วันเฉลิมช่วยชมวักน้ำจากถัง รดน้ำผักสวนครัวเล็กน้อยๆที่ปลูกเอาไว้
"วันนี้กินไข่เจียวใส่ใบโหระพาละกันนะวัน...ไม่เบื่อใช่ไหม"
ชมเด็ดใบโหระพาจากต้น วันเฉลิมมองไปทางหน้าบ้าน
"ทุ่นค่ากับข้าวไปได้เยอะเลยนะเนี่ย ผักพวกเนี้ย"
"พี่ชม...เมื่อไหร่แม่จะพาน้องกลับบ้าน"
"ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน อยากเห็นน้องละสิ"
วันพยักหน้าบอก
"คิดถึงแม่ด้วย"
ปานเดินมา จะเข้าบ้าน
"ไอ้วัน...ทำอะไรวะ"
"รดน้ำผัก"
"วันนี้บ้านปู่ย่าเอ็งเขามีงานแน่ะ ของกินขนมต้มเพียบเลย เอ็งไม่ไปดูเหรอวะ"
"งานอะไรน้าปาน"
"ก็พ่อเอ็งเขาหมั้นแฟนใหม่เขาไงวะ ไม่มีใครบอกเองรึไง อ้อลืมไป...ไม่มีใครเขาเอาเอ็งแล้วนี่หว่า เฮ้ย...ไปเอาของกินมาเผื่อข้าด้วยนะโว้ย เอามาเยอะๆ"
ปานหัวเราะ เริงร่า ชอบใจ
อ่านต่อเวลา 17.00น.
ภายในเรือนแพ สันต์ สวมแหวนหมั้นให้เทวี แขกเหรื่อปลาบปลื้มชื่นชมชะเง้อชะแง้...เทวี ไหว้สันต์ สันต์รับไหว้...
งานจัดเล็กๆไม่เอิกเกริก ฟู่ฟ่า ไม่มีความฟูมฟาย แต่ถูกต้องตามประเพณี งดงามด้วยความสุขของผู้คน
วันเฉลิมค่อยๆเดินเข้ามาตามทางลงเรือแพผ่านสวนกับผู้คนที่เข้าๆออกๆ
ทั้งสันต์และเทวีผ่านขั้นตอนรับไหว้ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้พร ทั้งสองครอบครัวต่างมีปฎิสัมพันธ์กันดี
วันเฉลิมมุดผ่านผู้คนมายืนมองห่างๆ วันเฉลิมเห็นทุกคนมีความสุขชื่นมื่น โดยเฉพาะ ปู่-ย่า สันต์กับเทวี ไม่มีใครหันมาเห็นวันเฉลิม หรือให้ความสนใจเลย วันเฉลิมค่อยๆเดินหลบออกไป
ภายในห้องคนไข้พิเศษ ลำดวนพับผ้าเก็บใส่กระเป๋า ลำยองนั่งผัดหน้าอยู่บนเตียง
"อีลำดวน หมอนใบเนี้ยนอน สบ๊ายสบาย มึงเอาใส่กระเป๋าไปให้กูด้วย"
"จะใส่ลงไปได้ยังไงล่ะพี่ กระเป๋ามันเล็ก"
"งั้นมึงก็ถือไปให้กู"
"เดี๋ยวเขาก็จับเอาหรอก ขโมยของเขาน่ะ"
"ขโมยที่ไหนกันวะ เงินเราก็จ่าย มันต้องเอาให้คุ้มสิ"
"พี่อยากได้ก็ถือไปเองละกัน ฉันไม่ถือให้หรอก"
ลำยองเขวี้ยงหมอนใส่ลำดวน
"อีบ้า"
กวงเปิดประตูเข้ามาพอดี สีหน้าเงียบนิ่ง พยาบาลเข็นรถตามเข้ามา
"เสร็จกันรึยัง จะได้ไปซะที"
พยาบาลจะประคองลำยองลงนั่งรถเข็น แต่ลำยองสะบัด
"คุณกวงขาประคองลำยองหน่อยสิคะ ลำยองเดินไม่ไหว"
"ลำดวนไปช่วยประคองหน่อยไป ผมหิ้วกระเป๋าให้เอง"
ลำดวนขยับเข้ามาช่วยประคองลำยองที่หน้าหงิก ลงนั่งรถเข็น
ลำยองเรียกร้องความสนใจ
"โอย อูย"
"แล้วลูกล่ะคะคุณกง" ลำดวนถาม
"หมอเขาให้อยู่ต่อไปก่อน ยังไม่ให้เอากลับ"
กวงเดินนำออกไปจากห้อง พยาบาลเข็นรถพาลำยองที่หน้าง้ำออกไป
วันเฉลิมวิ่งออกมาจากในบ้านเพราะเห็นรถกวงมาจอด
"พี่ชม...แม่กลับมาแล้ว"
ลำดวนประคองพาลำยองลงจากรถ น้าชื่นกับชมตามออกมาจากในบ้าน
"มึงจับกูเบาๆ ได้ไหมอีลำดวน กูเจ็บนะมึง"
"แม่ยังไม่หายเจ็บเหรอครับ"
"มึงอย่าเพิ่งมายุ่งกะกู...รำคาญ"
น้าชื่นจะเข้าช่วยประคองอีกด้าน ลำยองสะบัดแขนออก
"กูไม่อยู่ สุขสบายกันเต็มที่เลยละสิ อีชื่น อีชม"
ชื่นกับชมถอยออกมาห่าง
"ชม มาเอากระเป๋านี่ไปที"
ชมเข้ารับกระเป๋าจากกวง แล้วตามลำยองเข้าบ้าน วันเฉลิมมองตามแม่ แล้วหันมามองกวง
"ไหนน้องล่ะครับป๊า"
"น้องยังต้องอยู่โรงพยาบาล ยังกลับมาไม่ได้"
กวงเดินเข้าบ้าน
บนบ้าน ห้องนอนลำยอง ชมวางกระเป๋าลงมุมหนึ่ง ลำดวนประคองพาพี่สาวลงนั่งที่เตียง กวงตามเข้ามาในห้อง ชมขยับออกไปจากห้อง
"คุณกวงขา ลำยองอยากกินหูฉลาม"
กวงนิ่งไม่ตอบ เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดตู้ แล้วหยิบเสื้อกางเกงของตัวเองออกมาหลายตัว
"คุณกวงจะไปไหน"
"กลับบ้านฉันน่ะสิ"
"แล้วทำไมต้องเอาเสื้อผ้าไปด้วย"
"ก็มันเสื้อผ้าฉัน"
ลำยองปรี๊ดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
"ไม่ใช่ไปมีอีหนูเลี้ยงไว้ที่ไหนอีกเหรอ"
"พูดอะไรออกมาน่ะ"
"นึกว่ากูไม่รู้รึไง อย่าให้กูจับได้นะมึง กูจะตามไปตบให้ฟันร่วงเลย"
"เป็นบ้าหรืออยากเหล้าจนคลั่งกันเนี่ย ลูกจะรอดไม่รอดอยู่โรงพยาบาลนั่นน่ะ ยังมีสมองคิดเรื่องแบบนี้อีกเหรอ"
"กูจะกินมันก็เรื่องของกู เหล้าของกู"
"ที่ลูกต้องออกมาเป็งยังงี๊ก็เพราะแกนะแหละ รู้เอาไว้ซะ"
"แอร๊ย..."
"หุบปาก รู้จักอายชาวบ้านเขามั่ง แล้วจำเอาไว้ให้ดี ถ้ายังขืนไม่เลิกกินเหล้า ฉันจะไม่กลับมาที่นี่อีกเลย"
กวงเดินออกไปทันที ลำดวนได้แต่ตาค้าง หลบตาวูบวาบ เพราะไม่เคยเจอกวงรุนแรงยังงี้
"แอร๊ย..."
กวงเดินถือเสื้อผ้าออกมาจากบ้านด้วยความโกรธ วันเฉลิมได้ยินการทะเลาะกันเมื่อครู่ก็ยืนก้มหน้าอยู่มุมหนึ่ง กวงดับอารมณ์ตัวเองลงได้มากทันทีที่เห็นวันเฉลิม กวงเดินช้าๆ เข้าไปหาลูบหัวอย่างเอ็นดู
"ป๊าไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอกนะ"
"ป๊าอย่าโกรธแม่เลยครับ แม่ไม่สบาย"
กวงใจอ่อนยวบลงไปอีก
"ทำไมเราถึงไม่มาเกิดเป็นลูกป๊า.. หือ..วันเฉลิม"
วันเฉลิมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองกวง น้ำตาคลอหน่อย กวงหัวใจแทบหล่นวูบเหมือนกัน ตัดใจ เดินจะไปที่รถ ยายแลวิ่งหน้าบานแจ้นเข้ามา
"เถ้าแก่...เถ้าแก่ ลำยองมันกลับมาแล้วใช่ไหม ลูกล่ะเป็นยังไง น่ารักน่าชังใช่ไหม เหมือนใครกันล่ะ พ่อหรือแม่ หือ"
กวงไม่ตอบอะไรเลย ขึ้นรถแล้วขับออกไป
"มันอะไรกันวะ"
ยายแลท้าวสะเอวมองตามรถกวงไป
ลำยองเปิดตู้ควานหาขวดเหล้าที่เก็บเอาไว้จนเจอ เปิดขวด ซดให้หายคิดถึง ยายแลเข้ามาในห้อง
"ลำยอง...ข้าเตือนเอ็งแล้วใช่ไหม ว่าให้เลิกกินเหล้า"
"เอาอีกคนนึงแล้ว แม่อย่ามายุ่งกะฉันได้ไหม"
"ลำดวนมันเล่าให้ข้าฟังหมดแล้วว่า ทำไมหมอเขาถึงยังไม่ให้ลูกเองกลับมาบ้าน"
"มันน่าเกลียดจะตาย ตัวเหี่ยวๆ ย่นๆเหมือนไม่ใช่ลูกคน" ลำยองว่า
"ก็เพราะมึงกินแต่เหล้าน่ะแหละ อีลำยอง"
"มันเกี่ยวกันตรงไหน แม่"
"มึงกินก็เท่ากับมึงบังคับยัดใส่ปากลูกมึงน่ะแหละ"
"ใครจะไปรู้"
"มึงดื้อเอง หมอเค้าเตือนมึงตั้งนานแล้ว เลิกได้ก็เลิกซะ แค่นี้คุณกวงเขาก็ผิดหวังมากพอแล้ว ถ้าเขาเอือมมึงมากๆ เขาไม่กลับมาหามึงอีกเลย มึงจะทำยังไง"
"ไม่มีทางหรอกแม่ ยังไงเขาก็ต้องกลับมาง้อฉัน ลูกชายเขาอยู่กับฉันทั้งคน ฉันไม่กลัวหรอก"
ลำยองซดเหล้าต่อ ยายแลเอือมระอา
เย็นวันใหม่ หน้าบ้านยายวิมล วันเฉลิมจับมือสมฤดีจูงเดินเตาะแตะไปหาคุณยาย
"แม่เขากลับมาอยู่บ้านแล้วใช่ไหมลูก" วิมลถาม
"ครับ"
"แล้ววันช่วยแม่เลี้ยงน้องบ้างรึเปล่าลูก"
"น้องยังไม่ได้กลับมาครับ น้องไม่ค่อยสบาย"
"อีกไม่นานก็คงได้กลับมา"
"แม่บอกว่าน้องน่าเกลียด"
"น้องคงไม่สบายน่ะแหละ วันยิ่งต้องสงสารน้องให้มากๆ รู้ไหม"
"ครับ"
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 4 (ต่อ)
ตาปอเดินขาเป๋มาจนถึงเพิงขายขนม ยายแลเห็นขนมเหลือ
"เย็นป่านนี้แล้ว ขนมเหลือบานเบอะ แล้วจะเอาไปทิ้งที่ไหนวะเนี่ย"
"ไม่ทิ้งหรอกน่าแม่ เดี๋ยวก็ขายถูกๆไป พอได้ทุนคืนก็พอ"
ยายแลถอนใจ
"ทำไปก็เหนื่อยเปล่า ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมาเลย เลิกดีกว่ามั้ย"
"เลิกแล้วจะเอาอะไรกินล่ะแม่"
"ขายหวยดีกว่าว่ะ"
"หวยรัฐบาล ยังไงแม่ก็ต้องมีทุนไปซื้อเขามานะ"
"กูอยากกิน ก๋วยเตี๋ยว อีแล" ปอบอก
"สรรแดกนักนะมึง ขนมถ้วยเนี่ยกินเข้าไป" แลบอก
"กินจนหน้ากูจะเป็นขนมถ้วยอยู่แล้ว"
"ฉันนึกออกแล้ว ฉันจะขายก๋วยเตี๋ยว" ลำยงบอก
"กูเห็นมึงพูดมาหลายทีแล้ว"
"ทีนี้ก็คงต้องทำจริงๆแล้วล่ะแม่"
"พ่อ...ฉันจะขายก๋วยเตี๋ยว พ่อมาช่วยฉันนะ" ลำยงบอก
"กูจะได้กินก๋วยเตี๋ยวทุกวันเลยใช่ไหมวะ"
"พ่ออย่ากินจนพากันล่มจมละกัน"
"ทำกันให้มันใหญ่ๆ หรูๆ ให้มันสมหน้าสมตาเลยนะโว้ย ให้คนมันลือกันทั้งซอย" แลว่า
"ทุนแค่นี้ มันจะหรูได้ซักแค่ไหนกันแม่"
"คิดอย่างมึงนี่ แล้วเมื่อไหร่จะรวยกันซะทีอีลำยง"
เช้าวันใหม่ ลำยองสวมกางเกงแล้วเอาตีนเขี่ยผ้าถุงที่กองอยู่กับพื้นไปทิ้งไว้มุมหนึ่ง เธอส่องกระจกแล้วแต่งหน้าซ้ำ แต่งหน้าไป หยิบแก้วเหล้ามาจิบไป
วันเฉลิมนั่งคอยรถโรงเรียนมารับ
"อีกหน่อย หนูสมจะไปโรงเรียนกับพี่วันไหมลูก"
สมฤดีพยักหน้า
รถกวงแล่นมาแต่ไกล จอดที่หน้าบ้านลำยอง กดแตรเรียก ทุกคนหันไปมอง
"ป๊ามารับแม่ไปดูน้องที่โรงพยาบาลครับ"
ลำยองยังตะบอยทาปากไม่เสร็จ เสียงแตรรถกวงดังกระชั้น ลำยองจิบเหล้าไม่รู้สึกรู้สา
น้าชื่นเข้ามา
"คุณคะ เสร็จรึยัง คุณกวงมาคอยแล้วค่ะ"
"มึงตาบอดหรือไงอีชื่น ถามโง่ๆ แหกตาดูเอาเองว่ากูเสร็จรึยัง"
"คุณกวงกดแตรหลายทีแล้วนะคะ"
"กูไม่ได้หูหนวก คอยได้ก็คอย คอยไม่ได้ก็กลับไป"
กวงกดแตรรถอีกชุดด้วยความหงุดหงิด ลำยองเดินอย่างไม่รู้สึกรู้สาออกมาจากบ้าน รถโรงเรียนมาพอดี ชมออกมาตะโกนเรียกวันเฉลิม
"วัน... รถโรงเรียนมาแล้ว"
"คุณยายสวัสดีครับ หนูสมพี่วันไปโรงเรียนก่อนนะ"
วันเฉลิมวิ่งกลับมาหน้าบ้านเตรียมขึ้นรถ กวงอารมณ์เสียจนถึงที่สุด ลงจากรถ ตรงเข้าหาลำยอง
"มัวทำอะไรอยู่ จะไปไม่ไป"
"แต่งตัวอยู่"
ชมรีบต้อนวันเฉลิมขึ้นรถโรงเรียนไป
"กลิ่นเหล้าหึ่งยังงี้ แต่งตัวบ้าอะไร"
"กินนิดเดียว"
"บอกให้เลิกซะ ทำไมไม่เลิกหา กินจนหน้าแดงเป็นงิ้ว ยังจะมีหน้าไปโรงพยาบาลอีกเหรอ บอกแล้วว่าที่ลูกเป็นแบบนี้ก็เพราะเหล้า ยังไม่ยอมเลิกอีก"
รถโรงเรียนแล่นออก วันเฉลิมที่นั่งอยู่ในรถ เห็นกวงกับแม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง อย่างไม่อายสายตาใคร
"ฉันกินเป็นยาต่างหาก ขืนไม่กินได้ผอมแห้งตาย"
"ไม่ผอมแห้งหรอก แต่จะเป็นอีขี้เมามากกว่า หัดดูสารรูปตัวเองมั่ง โผล่ไปถึงไหนก็อายเขาเปล่าๆ"
"แอร๊ย..."
วันเฉลิมมองผ่านกระจกรถ ใจเสียที่เห็นแม่กับกวงทะเลาะกันอย่างรุนแรง
วันใหม่ โรงงานกาละมังเคลือบ สมัย ผู้จัดการโรงงาน เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานกวง หอบแฟ้มเอกสารด้านบัญชีเข้ามาด้วย กวงนั่งหน้าเหนื่อยเครียดอยู่
"คุณกวงครับ...เถ้าแก่ตีแฟ้มบัญชีปึกนี้กลับมาให้คุณกวงตรวจดูใหม่"
"หมายความว่ายังไง"
"เถ้าแก่บอกว่า มันไม่ค่อยเรียบร้อย ตัวเลขผิดพลาดหลายจุดครับ"
กวงถอนใจลูบหน้าตัวเอง เหมือนอยากจะไล่ปัญหาชีวิตให้ออกไปให้หมด
"ผมจะพยายามละกัน"
"มีอะไรที่ผมช่วยได้ก็บอกมาเถอะนะครับ"
"ช่วงนี้มีแต่เรื่องน่าปวดหัว อันที่จริงผมก็ผิดเองที่แส่หาเรื่อง"
"เด็กจะออกจากโรงบาลได้เมื่อไหร่ล่ะครับ"
กวงส่ายหน้า
"หมอเองก็บอกไม่ได้ ผมรู้สึกแย่มากที่ทำร้ายจิตใจลูกเมียผม"
"คุณกวง หวังดีต่อวงศ์ตระกูลต่างหากครับ"
"อุตส่าห์ได้ลูกชายกะเขาทั้งที ทำไมมันถึงได้เป็นอย่างนี้"
บ้านยายแล ลำยองนั่งปรับทุกข์กับแม่
"เดี๋ยวนี้มันไม่เคยสนใจฉันเลยนะแม่ บ้านช่องไม่เคยมาค้างด้วยเลย แต่ก่อนยังพาไปกินข้าว ดูหนังบ้าง เดี๋ยวนี้มีที่ไหน มารับไปดูลูกแล้วก็ไป"
"เอ็งก็อย่างไปเสียงดังใส่เขาสิวะ ผู้ชายน่ะเว้ยเฮ้ย เขาชอบเมียเงียบ ๆ ไม่มีปากมีเสียง ยิ่งปากมากเขายิ่งหนีหน้า" แลว่า
"แม่ว่าฉันยังสวยเหมือนเดิมรึเปล่า"
"หัวซอยยันท้ายซอย ไม่มีใครกินเอ็งลงหรอก...แต่ว่า"
"ฉันน่ะอดสงสัยไม่ได้หรอกน่ะแม่ มันอาจจะมีอีหนูซ่อนไว้ที่ไหนอีกก็ได้"
"ก็ช่างเขาปะไร สันดานผู้ชายมันก็ยังงี้ ถ้าเอ็งทำตัวดี ๆ ให้เขาเห็นว่าเอ็งตั้งใจเลี้ยงลูกเขา เขาคงไม่คิดทิ้งขว้างเอ็งหรอก"
"จับได้จะตามไปตบให้มันฟังร่วงเลย"
"ข้าว่า เหล้าน่ะ เอ็งเลิกได้ก็เลิกซะเหอะ ลำยอง...เขาอาจจะรังเกียจที่เอ็งติดเหล้าก็ได้"
ลำยองชะงักฟังอยู่เหมือนกัน เสียงอ่อยลง
"กินเป็นยา ไม่ได้ติดซะหน่อย"
กุฎีหลวงตาปิ่น วันเฉลิมไหว้สิน ก่อนรับข้าวเหนียวหมูทอดที่ห่อใบตองมาจากสิน
"ย่าเอ็งเขาทอดหมู แล้วก็นึกถึงเอ็ง กินเยอะ ๆ พักนี้ดูซูบไปนะไอ้วัน" สินบอก
"กินข้าวเหนียวหมูทอด"
"ทำไมน้องเอ็งยังไม่ได้กลับบ้านล่ะ" หลวงตาปิ่นถาม
"แม่บอกว่า หมอยังไม่ให้กลับครับ"
หลวงตาปิ่นกับสิน สบตากัน
"แล้วป๊าเอ็งเขาว่ายังไง"
"ป๊าอารมณ์ไม่ดี ทะเลาะกับแม่บ่อย ๆ"
"เป็นพ่อ เป็นแม่คน ทะเลาะกันให้ลูกเห็นได้ยังไง อีกหน่อยเด็กมันก็จดจำเป็นเยี่ยงอย่าง"
"แล้วเอ็งถูกตีบ้างไหม" สินถามหลาน
"แม่ไม่ตีวันหรอกครับ แต่วันไม่ชอบเลยเวลาแม่กินเหล้า...แม่บอก แม่กินแก้เครียด แต่วันเห็นตอนแม่อารมณ์ดีแม่ก็กินนี่ครับ"
สินหนักใจ
หลวงตาปิ่นได้แต่ปลง
"มันคงเกินเยียวยาแล้วละ"
วันเฉลิมเคี้ยวข้าวเหนียว ตุ้ย ๆ
เพิงชายขนมลำยงที่กำลังถูกสร้างใหม่เป็นเพิงขายก๋วยเตี๋ยว ลำยง ส่งตับจากขึ้นไปให้ชดที่อยู่บนโครงหลังคา ชดไล่มุงหลังคาได้มากกว่าครึ่งแล้ว ปอเดินขาเป๋มาส่งน้ำในขันขึ้นไปให้ดื่ม
"กินน้ำก่อนโว๊ย ไอ้ชุด"
ลำยองเดินมากับแล
"ไอ้นั่นมันเป็นใครล่ะแม่" ลำยองถาม
" ไอ้ชุด คนขับเรือหางยาวไง มันมาจีบ ๆ นังลำยงอยู่ ก็เลยใช้งานมันซะเลย มันก็ขยันดีอยู่"
"หน้าตาน่าเกลี๊ยด น่าเกลียด"
"อย่างนังลำยงมันวาสนาก็ได้แค่นี้แหละวะ ดีถมถืดไปแล้ว"
ลำยงเดินมาหยิบตับจากที่แช่น้ำไว้เพิ่ม
"จะได้ขายเมื่อไหร่วะเนี่ย"
"วันนี้เพิงก็น่าจะเสร็จ พรุ่งนี้ทำโต๊ะกับม้านั่ง มะรืนมะเรื่องโน่นล่ะมัง"
"ก๋วยเตี๋ยวเอ็งชามละเท่าไหร่วะ"
"ชามละบาท เด็ก ๆก็กินห้าสิบตังค์พอ"
ลำยองหัวเราะ
"ขายจนมือหยิก ล้างชามจนมือเปื่อย เมื่อไหร่จะรวยวะ"
"ของมันมีคนกิน วัน ๆ ขายหมด ไม่มีของเหลือก็ไม่ขาดทุนแล้ว"
"ข้าว่าเอ็งจะเหนื่อยเปล่า" ลำยองบอก
"ก็ยังดีกว่าไปรับจ้างเป็นคนงานโรงงานละ อย่างน้อยฉันก็ได้แสดงฝีมือของฉันเอง วัน ๆ กำไรน้อยหน่อยก็ช่างหัวมัน เก็บเล็กเก็บน้อย เดี๋ยวมันก็เยอะเอง"
"เออ...ขายให้ได้นาน ๆ ก็แล้วกัน ไอ้วันมันจะได้มาอาศัยกินมั่ง อีคนใช้ที่บ้านมันทำกับข้าวอะไรของมันก็ไม่รู้ มีแต่ผักแต่หญ้า เทให้หมา หมามันยังเมินเลย"
"แล้วนี่ไอ้วันมันอยู่บ้านเรอะ"
"ไม่รู้มัน โรงเรียนเลิกรึยังก็ไม่รู้ ช่างหัวมันเหอะ มันหิวมันก็กลับบ้านไปเองแหละ"
สินจูงวันเฉลิมพามาส่งกลางสะพาน
"ปู่ส่งเอ็งแค่นี้นะ แน่ใจนะว่ากลับเองได้"
"ครับ"
"เอ็งเดินชิด ๆ ขอบถนนด้านนี้นะ รถสวนมาเอ็งจะได้เห็น เวลาจะข้ามถนนก็ดูดี ๆ ดูทางขวาก่อน แล้วดูทางซ้าย แล้วดูทางขวาอีกที ค่อยข้ามจำได้ไหม"
"จำได้ครับ"
"ปู่ให้ตังค์ไว้กินขนม เอาหนังยางมารัดไว้ซะ"
สินเก็บหนังยางที่พื้นขึ้นมารัดเหรียญบาทใส่ชายเสื้อวันเฉลิมไว้
เสียงลำยองตะโกนเข้ามา
"ไอ้วัน"
ปู่กับหลานหันไปมอง
ลำยองปราดเข้ามาอย่างเร็ว และกระชากวันเฉลิมออกจากสิน
"มึงมาทำอะไรแถวนี้"
"วันไปหาหลวงตามา กำลังจะกลับบ้านครับ"
"อยู่ไม่ติดบ้าน วัน ๆ เอาแต่ตะลอน ๆ นะมึง"
สินบอก
"เอ็งจะว่าลูกน่ะ หัดมองตัวเองให้ดีซะก่อนเหอะนังลำยอง"
"อย่ามาแส่ แม่ลูกเขาจะสั่งสอนกันโว้ย คนอื่นไม่เกี่ยว หนอย คิดจะขโมยลูกกูละสิ ทำเป็นเอาเงินมาล่อ"
ลำยองแกะหนังยางที่ชายเสื้อที่รัดเงินอยู่ออก โยนเหรียญคืนไปให้สิน เหรียญปะทะใส่ตัวสินแล้วกลิ้งไปตามพื้นถนน
"เงินแค่นี้ กระจอกโว๊ย"
ลำยองฉุดกระชากวันเฉลิมออกไป
"มึงนี่ก็เหมือนกัน เป็นขอทานรึไง เงินบาทสองบาทไปเอาของมันมาทำไม"
สินได้แต่มองตามวันเฉลิมไปอย่างเวทนา วันเฉลิมถูกแม่ฉุดกระชาก ถูลู่กูกังก็ยังอุตส่าห์หันกลับมาหาปู่
ลำยองลากวันเฉลิมลงไปตามสโลปสะพานจนหายไปกับตา
ลำยองถูกวันเฉลิมเหวี่ยงเข้ามาในบ้าน
"อย่าให้กูรู้นะมึง ว่ามึงแอบไปบ้านนั้น จะตีให้ตายคามือเลย"
"ทำไมไปไม่ได้ละครับ"
"กูเกลียดมันทั้งบ้านน่ะแหละ ยิ่งย่ามึงน่ะตัวดี กูเกลียดเข้าไส้เลย รู้เอาไว้"
วันเฉลิมก้มหน้านิ่ง ลำยองเดินตรงไปเปิดตู้จะหยิบขวดเหล้าออกมา วันเฉลิมเดินตามมา
"แม่ครับ"
"อะไร"
ลำยองหยิบขวดเหล้าออกมา
"แม่เลิกกินเหล้า เถอะครับ"
"กงการอะไรของมึง มาสั่งกู"
"เวลาแม่อารมณ์ไม่ดี แม่ตีวันก็ได้ แต่แม่อย่ากินเหล้าเลยนะครับ เหล้ามันไม่ดี"
วันเฉลิมน้ำตาไหล ลำยองชะงักของจริงเมื่อเจอสายตาวิงวอนจากวันเฉลิม
"จะไปไหนก็ไป รำคาญ...ไปอยู่กับนังชมก็ได้ หิวก็บอกให้มันหาอะไรกิน...ไป"
วันเฉลิมป้ายน้ำตาแล้วเดินออกไป
ลำยองยืนนิ่งอยู่พักนึง มองขวดเหล้าในมือแล้วยัดมันเก็บคืนใส่ตู้และปิดตู้ลง
ชมถือมะละกอดิบที่เพิ่งเด็ดมาจากต้นเข้ามาในบ้าน
"เย็นนี้กินมะละกอผัดไข่ก็แล้วกันนะวัน"
" ครับ อร่อยดี วันชอบ"
"เราน่ะ อะไรก็อร่อยทั้งนั้น กินง่ายอยู่ง่ายเกินไปรึเปล่าเนี่ย"
วันเฉลิมช่วยน้าชื่นพับผ้าที่เพิ่งเก็บเข้ามา
"พรุ่งนี้ป๊าเรา เขาจะไปรับน้องกลับมาอยู่บ้านแล้ว...ดีใจไหมล่ะ"
"ดีใจครับ วันจะได้เห็นหน้าน้องซะที"
"เราน่ะดีใจ แต่พี่เตรียมรับศึกหนักได้เลย"
"ทำไมละพี่ชม"
"เลี้ยงเด็กอ่อนนะ มันสนุกที่ไหนกันล่ะ"
"วันจะช่วยพี่ชมเลี้ยงน้องเอง"
"จ้า พ่อคนมีน้ำใจ เห่อน้องมากกว่าแม่เราซะอีกนะเนี่ย"
ภายในห้องนอน เวลาดึกมากแล้วลำยองนอนกระสับกระส่ายจนทนไม่ไหว เธอลุกขึ้นเดินออกมา เปิดทีวีดูเป็นเพื่อน อุตส่าห์นั่งคอยให้หลอดภาพทำงาน จอทีวีไม่มีภาพมีแต่เม็ดซ่า เพราะสถานีเขาหยุดแพร่ภาพไปแล้ว เธอลุกมาปิดปุ่มเปลี่ยนช่อง ช่องไหน ๆ ก็ปิดสถานีหมดแล้ว เธอหัวเสียปิดทีวี
เธอมองไปที่ตู้เก็บขวดเหล้า เปิดตู้ หยิบขวดเหล้าออกมา เธอตัดสินใจแน่วแน่ ถือขวดเหล้าที่เหลือค่อนขวดเดินออกมาทิ้งลงถังขยะ แล้วเดินกลับมานอน
ความหงุดหงิดวุ่นวายใจ รบกวนอย่างหนัก ลำยองลุกขึ้นอีกครั้ง เธอแพ้ใจตัวเอง ลำยองล้วงลงถังขยะ หยิบขวดเหล้าขึ้นมาเปิดขวดแล้วยกขึ้นซด ความสุขแผ่ซ่าน
เช้าวันใหม่ วันเฉลิมช่วยชมรดน้ำผักข้างบ้าน กวงขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน
"ป๊ามาแล้ว"
กวงลงจากรถ เดินเข้ามา
"แม่เราล่ะ อยู่ในบ้านเหรอ ไปตามเขาซิ บอกว่าป๊ามารับแล้ว"
วันเฉลิมนิ่งอึ้ง
"คุณ แกยังไม่ตื่นเลยค่ะ" ชมบอก
กวงคิ้วขมวดขึ้งทันที
ลำยองยังนอนหลับ แผ่หลาบนเตียง ข้างตัวมีขวดเหล้าเปล่า กวงเข้ามาในห้อง เห็นสภาพแล้วโกรธแทบยั้งอารมณ์ไม่อยู่ เขากระชากแขนเธอให้ลุกขึ้น
"นี่มันกี่โมง กี่ยามแล้ว"
ลำยองทั้งตกใจ ทั้งเจ็บ ทั้งเมาค้าง
"จะไปไม่ไป"
"ไปไหน"
"เมาจนจำอะไรไม่ได้ซักอย่าง แกมันเป็นแม่ชนิดไหนกัน เคยคิดห่วงลูกในไส้บ้างไหม กินมันเข้าไปไอ้เหล้าบ้าเนี่ย"
"แกก็กินกะฉัน มาด่าฉันได้ยังไง"
กวงกัดฟันแน่นข่มความโกรธ
"ฉันมันโง่เองเลยหลงผิด เพิ่งจะเห็นชัดๆ ก็วันนี้แหละว่า สันดานที่ติดตัวมามันแก้ไขกันไม่ได้"
กวงเดินออกไปทันที
"ไอ้บ้า"
กวงเดินหน้าเครียดออกมา น้าชื่นถือจานข้าวไข่เจียวออกมาให้วันเฉลิม ที่ช่วยชมถอนหญ้าอยู่
"ชม...ไปกับฉัน"
ชมงง
"ไปไหนค่ะ"
"ไปช่วยอุ้มลูกฉันหน่อย แม่มันห่วงเหล้ามากกว่า คงพึ่งไม่ได้หรอก"
กวงเดินไปที่รถทันที
"เร็ว ๆเข้าสิวะ นังชม ล้างมือล้างไม้เข้า" ชื่นว่า
ชมรีบมาตักน้ำในโอ่งมาล้างมือลูบแขนลวกๆ แล้วรีบตามกวงไปที่รถ
เพิงขายก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว ชดกับตาปอช่วยกันต่อโต๊ะม้านั่งยาวด้วยไม้เก่า
"ตื่นสายนิดเดียว มันด่าฉันเป็นชุด" ลำยองบอก
"พี่ก็รู้ทั้งรู้ว่า วันนี้ต้องไปรับลูกออกจากโรงบาล แล้วทำไมพี่ไม่เตรียมตัวให้พร้อม เป็นฉัน ฉันก็อารมณ์เสียเหมือนกัน"
"มึงไม่ต้องมาผสมโรงอีลำยง"
"คนเรามันต้องรู้จักหน้าที่ตัวเอง เป็นแม่ก็ต้องเลี้ยงลูกให้ดี ไม่งั้นก็ยุ่งชิบ"
"เรื่องของกู มึงอย่าแส่"
"ก็ไม่อยากจะยุ่งนักหรอก แต่เห็นแล้วมันขัดลูกตา"
ลำยงเลี่ยงออกไปช่วยปอกับชด
"เอ็งเมารึเปล่าถึงได้ตื่นสาย" แลถาม
"ฉันกินเข้าไปนิ๊ดเดียว ยังไม่ทันรู้รสด้วยซ้ำ"
"แล้วกินเข้าไปทำไม๊"
"ก็ฉันนอนไม่หลับ"
ยายแลถอนใจ
"ข้าว่าเอ็งกลับไปบ้านเหอะไป เผื่อเขาพาลูกกลับมา ไม่เห็นหน้าเอ็ง เขาจะยิ่งเอือมไปใหญ่"
วันเฉลิมค่อย ๆ ขยับเข้ามาดูน้องในเบาะที่ชมเพิ่งวางลง
"ป๊าตั้งชื่อให้น้องว่า อภิชาติ"
"อภิชาติ...น้องตัวเล็กจังเลยครับ"
"ถ้าเราช่วยกันดูแลดี ๆ น้องก็จะแข็งแรงขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น"
"ผมจะช่วยเลี้ยงน้องครับ"
กวงลูบหัววันเฉลิม
"แล้วนั่นถุงอะไร ตั้งหลายใบคะ"
"ขวดนม นมผง ผ้าอ้อม ของใช้เด็กอ่อนทั้งหมด น้ำที่ใช้ชงนมต้องน้ำต้มสุกเท่านั้นนะชื่น ขวดนมก็ต้องต้มฆ่าเชื้อให้สะอาด"
"ล้างอย่างเดียว ไม่ได้เหรอคะ" ชมถาม
"ไม่ได้เด็ดขาด หมอสั่งนัก สั่งหนา ทุกอย่างต้องสะอาด ไม่งั้นลูกฉันไม่สบายได้"
ลำยองกลับเข้าบ้านมา
"แม่ครับ น้องมาแล้วครับ"
"รู้แล้ว ไม่ต้องบอกก็ได้"
"มีแกงส้มมะละกอเหลือก้นหม้ออยู่หน่อยนึงค่ะ" ชื่นบอก
"ทุเรศ"
"คุณอยากกินอะไรก็สั่งมาสิคะ"
"ไปถามคุณกวงโน่น เจ้านายมาทั้งที ใจคอพวกแกจะให้กินแกงเหลือก้นหม้อเรอะ ผัดหมู ผัดไก่เป็นกันบ้างไหม"
"เป็นค่ะ แต่เงินค่ากับข้าวซื้อหมู ซื้อไก่ มันไม่เคยพอนี่คะ ก็ได้แต่แกงส้ม ผัดผัก อย่างที่คุณว่าทุเรศน่ะแหละ"
"คุณกวง ดูเอาเถอะค่ะ นี่ขนาดต่อหน้า มันยังกล้าต่อปากต่อคำขนาดนี้"
กวงหยิบเงินร้อยนึงออกมายื่นให้ชื่น
"เอาไว้ซื้อกับข้าว แม่ชื่น"
"เอาปลากะพงผัดใบขึ้นฉ่าย เป็ดพะโล้ แล้วก็อะไรอีกซักอย่างดีคะ คุณกวง"
กวงบอกกับชื่น
"ฉันคงไม่อยู่กินด้วยหรอก ต้องรีบกลับไปทำงาน ฝากลูกฉันด้วย นะชม...แม่ชื่น"
กวงเดินออกไปทันที ไม่สนใจ ลำยองเลยแม้แต่น้อย เธอขุ่นเคือง ปึงปังขึ้นข้างบนไป ไม่สนใจลูก
ชื่นกับชมได้แต่มองหน้ากัน
กุฎิหลวงตาปิ่น เครื่องบินสังกะสี ของเล่นขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไป ถูกวางลงตรงหน้าวันเฉลิมที่ยิ้มตื่นเต้นไม่น้อย
"ชอบไหมลูก อันนี้พ่อเลือกให้เอง แต่อันนี้ อาเทวีเขาเป็นคนเลือก"
สันต์ยื่นหนังสือนิทานสมุดภาพให้วันเฉลิม
"อาเห็นวันชอบฟังนิทาน นิทานเล่มนี้สนุกมาก ตอนนี้ ถ้ายังอ่านไม่ได้ก็ดูรูปไปก่อนนะจ๊ะ ลองเปิดดูสิ...ชอบไหม"
"ให้วันคนเดียวเหรอครับ"
"ของวันทั้งหมดนี่แหละลูก"
"วันเอาไปแบ่งน้องได้ไหมครับ"
สันต์กับเทวีมองหน้ากัน
"ได้สิ ทำไมจะไม่ได้จ๊ะ แต่อาว่า น้องยังเล็กเกินไปรึเปล่า เอาไว้น้องโตอีกหน่อย วันค่อยแบ่งน้องก็ได้"
หลวงตาปิ่นบอก
"ไอ้เจ้านี่มันขี้สงสาร"
"ก็น้องน่าส่งสารจริง ๆนี่ครับหลวงตา น้องผอมแล้วก็ไม่ค่อยสบายเลย ร้องไห้บ่อย ๆ"
"แม่เอ็งก็คงเหนื่อยหน่อยละ" หลวงตาปิ่นบอก
วันเฉลิมก้มหน้าบอก
"แม่ไม่ค่อยรักน้องหรอกครับ"
สันต์กับเทวีมองหน้ากัน
"วัน...อย่าพูดอย่างนั้นสิลูก ฟังอานะ...ไม่มีแม่คนไหน ไม่รักลูกของตัวเองหรอก" เทวีบอก
วันเฉลิมค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตาเทวีที่ยิ้มให้อย่างเปี่ยมเมตตา และเข้าใจความรู้สึกของวันเฉลิม
เครื่องบินของเล่นสังกะสี ถูกไสไปมากับพื้น วันเฉลิมเล่นเครื่องบินอยู่คนเดียวเงียบ ๆ
ลำยองถือยาทาเล็บเดินเฉียดผ่านมา หยุดมองแว่บนึง
"ไปเอามาจากไหน ไอ้เครื่องบินนั่นน่ะ"
"พ่อซื้อให้วันครับ"
"พ่อหรือป๊า"
"พ่อครับ"
"ลับหลังกูนี่มีเวลาไปแอบเจอกันนะมึง ทุเรศ ทำเป็นอวดรวย ซื้อของเล่นให้ลูก ไปเล่นไกล ๆ กูเลยนะมึง ขวางหูขวางตา รำคาญ"
ลำยองเริ่มทาเล็บให้ตัวเอง วันเฉลิมจะขยับออกไป แต่ชะงัก เพราะอภิชาติร้องโยเยขึ้นมา ลำยองได้ยินเสียงก็หงุดหงิด รำคาญ
"ร้องอีกแล้ว ร้องทั้งวัน มันอะไรกันหนักหนาวะ เอาขวดนมยัดปากมันไปซิ"
วันเฉลิมวิ่งมาดูน้อง
"นมหมดครับ"
"นังชื่น นังชื่น อีชื่น คนใช้บ้านนี้มันมุดหัวอยู่ไหนกันหมดโว้ย"
วันเฉลิมถือขวดนมมาที่มุมชงนม จะชงนมให้น้องยกกระติกน้ำร้อนขึ้น แล้วพบว่าน้ำร้อนหมด
วันเฉลิมวิ่งกลับมาดูน้อง
"โอ๋ๆ รอเดี๋ยวนะ อภิชาต"
วันเฉลิมวิ่งถือกระติกน้ำร้อนลงข้างล่างไป ลำยองไม่ขยับตูด แต่เสียงดังกว่าเดิม
"อีชื่น"
วันเฉลิมวิ่งเข้ามาในครัว แต่ไม่มีใครอยู่ กาน้ำที่ตั้งอยู่บนเตา ยังพอมีเหลือค่อนกา ชื่นหิ้วตะกร้าเพิ่งกลับมาจากตลาดเข้ามาพอดี วันเฉลิมวางกระติกลง ยกกาน้ำขึ้นจะเทน้ำลงกา
"ทำอะไรน่ะวัน"
"น้ำต้มหมดครับ ไม่มีชงนมให้น้อง"
"น้าทำเองเดี๋ยวน้ำร้อนลวกเอา"
ชื่นวางตะกร้ากับข้าว รับกาน้ำมาจากวันเฉลิม ชมเข้ามาจากหลังบ้าน หอบผ้าอ้อมหอบใหญ่เข้ามา
"ซักผ้าอ้อมวันละสามเวลา อย่างอื่นไม่ต้องทำกันแล้ว คุณนายเขาจะเอาอะไรน่ะน้า ตะโกนซะลั่นบ้าน"
"แกจะชงนมให้ลูก น้ำสุกหมดก็ไม่ลงมาเอา ดีนะได้พ่อวันเนี่ย"
ลำยองรองน้ำก๊อกจากในห้องน้ำใส่ขวดนมจนเกือบเต็มขวด แล้วเดินออกมา ปิดฝาขวดนมเขย่าเดินมาเตะเครื่องบินของวันเฉลิมด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเอาตีนเขี่ยเครื่องบินกระเด็นไปไกลแล้วเดินมาป้อนนมใส่ปากอภิชาติ
"กิน ๆ เข้า จะได้หยุดแหกปากซะที"
วันเฉลิมวิ่งนำขึ้นบันไดมา ชื่นหิ้วกระติกตามมา
"น้ำสุกมาแล้วครับ"
"อะไร น้ำสุกอะไร"
ชื่นบอก
"ก็น้ำชงนมไงคะคุณ"
"ไปแหกตาดูเอาโน่น มันกินไปครึ่งขวด ค่อนขวดแล้ว กูเรียกจนคอจะแตกมัวไปมุดหัวอยู่ไหน"
"คุณเอาน้ำอะไรชงนม" ชื่นถาม
"ก็น้ำก๊อกในห้องน้ำโน่นไง"
"ตายแล้ว ให้กินเข้าไปได้ยังไงคะ"
"ทำไมจะไม่ได้ มันก็น้ำเหมือนกัน"
"คุณกวง สั่งนักสั่งหนา ว่าน้ำชงนมต้องเป็นน้ำต้มสุก"
"มากเรื่อง...วุ่นวายนักก็เอาไปเลี้ยงเองสิโว้ย"
วันเฉลิมเดินไปมองน้องด้วยความเป็นห่วง
จบตอนที่ 4