เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 1
ในปีพุทธศักราช 2500 กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ชายหนุ่มที่ชื่อสมิง กำลังว่ายน้ำเล่นไล่ตามเรือโยงมาเรื่อยๆ บนเรือโยงมีลุงชุบและป้าสาย สองตายายซึ่งเป็นพ่อและแม่ของสมิง กำลังช่วยกันทำครัว ป้าสายหันไปตะโกนเรียกลูกชาย
“สมิง ใกล้จะเข้าลานเทแล้ว เอ็งเลิกเล่นน้ำได้แล้ว”
“จ้ะแม่”
“วันเกิด แม่ศรีนวลทีไร สมิงมันรบเร้าให้ล่องเรือกลับลานเททุกที” ลุงชุบ พ่อของสมิงบ่น
“แน่ล่ะ ความสวยของแม่ศรีนวลละบือไปทั่วเจ็ดคุ้งน้ำ ยากจะหาหญิงใดเทียบ”
สมิงปีนขึ้นมาบนเรือ
“ก็เพราะอย่างงั้นฉันถึงต้องแวะเวียนมาเยี่ยมศรีนวลเสมอ”
“นอกจากความสวยแล้วกลอนลำตัดของแม่ศรีนวล ฝีปากมันร้ายกาจกินขาดจริงๆ”
“คืนนี้ได้ฟังฝีปากลำตัดของศรีนวลของฉันอีกแล้ว”
ป้าสายมองค้อนลูกชาย
“อย่ามัวโม้อยู่เลย มาสมิงมากินข้าว”
“ได้เลยแม่”
พ่อ แม่ ลูก กินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศท้องน้ำเจ้าพระยา
พอตกกลางคืน พระจันทร์เต็มดวงสวยเด่น ส่องสว่างอยู่กลางฟ้ายามค่ำ แสงจันทร์ส่องกระทบลงบนผืนน้ำเจ้าพระยาในช่วงโค้งแถบอยุธยาที่เรียกกันว่าบ้านลานเท
“ทั่วคุ้งน้ำแถบบ้านลานเท อยุธยา หากไม่นับความงดงามของแสงจันทร์กระจ่างฟ้ายามค่ำคืนนี้แล้ว ความงามของแม่ศรีนวล บุตรสาวของกำนันธงแห่งบ้านลานเทจนร่ำลือกันไปทั่วเจ็ดคุ้งน้ำ แต่เหนือสิ่งอื่นใดฝีปากของแม่ศรีนวลในเชิงกลอนลำตัดนั้นคมคาย บาดใจเป็นที่ยอมรับจากชาวบ้านและนักเลงกลอนทั้งหลาย จนเรียกให้แสดงฝีปากทุกครั้งที่มีงาน โดยเฉพาะวันเกิดของเธอทุกปี”
เสียงกลองรำมะนา ดังรัวขึ้นมาอย่างเร้าใจ
บรรยากาศงานรื่นเริงแบบต่างจังหวัดซึ่งเป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอายุครบ 19 ปีของศรีนวล ลูกสาวกำนันธง ในงาน มีเวทีลำตัดเป็นเวทีหลักของงานและเป็นจุดเด่น
บนเวทีลำตัด ศรีนวลและหนุ่มสาวเพื่อนๆ ที่ชอบเล่นลำตัดต่างก็ร่ายรำขึ้นมาบนเวที ขณะที่ชาวบ้านพากันตบมือไชโยต้อนรับเนื่องจากการแสดงของศรีนวลเป็นสิ่งที่ชาวบ้านลานเทรอคอย และนานทีปีหนจะมีงานแบบนี้สักที
ศรีนวล ในชุดลำตัด สวยงามสมวัย รำขึ้นมาหน้าเวทีแล้วเริ่มร่ายเพลงลำตัดโชว์ฝีปากและการร่ายรำที่อ่อนช้อย น่าดูชม ชาวบ้านที่หน้าเวทีพากันเบียดเสียดเข้ามาหนาแน่นขึ้นกว่าเดิม
ขณะที่ศรีนวลกำลังร้องกลอนลำตัดและได้รับเสียงตบมือชอบใจจากชาวบ้าน ห่างออกไปสมิง ป้าสายและลุงชุบ กำลังเดินเข้ามาในงาน สมิงเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของศรีนวล แต่ต้องห่างกันเนื่องจากสมิงและพ่อแม่ ต้องล่องเรือโยงไปค้าขายที่กรุงเทพฯ โดยสมิงจะกลับมาที่ลานเทในวันเกิดของศรีนวลเช่นนี้ทุกปี
สมิงมองไปยังเวทีลำตัด แม้จะอยู่ห่างจากเวทีแต่สมิงก็จำศรีนวลได้ดี ทำให้ใบหน้าของสมิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มแสดงความชื่นชม กำนันธงเดินผ่านมา ลุงชุบและป้าสายเห็นรีบเข้าไปทักทาย
“สวัสดีจ้ะ กำนันธง”
“อ้าว ว่าไง มากันแล้ว เจ้าชุบ นังสาย ไปหากินกรุงเทพฯ เป็นไงบ้างล่ะปีนี้”
“ก็พอเก็บเงินได้อยู่บ้างจ้ะ กะว่าจะเอามาใช้หนี้เถ้าแก่ชิ้นสักทีจ้ะ”
สมิงเข้าไปกราบที่อกกำนันธง อย่างสนิทสนม
“สวัสดีจ้ะ ลุงกำนัน”
“นี่เอ็งโตเป็นหนุ่มขึ้นเยอะเลยสมิง”
“ศรีนวลก็เหมือนกันจ้ะกำนัน อยู่บนเวทีนั่นตอนแรกก็จำไม่ได้ แต่พอได้ยินกลอนลำตัดก็รู้ทันทีว่าต้องเป็นศรีนวล ลูกสาวกำนันธงฝีปากร้ายกาจจัดจ้านไม่มีใครเทียบ มีอยู่หนึ่งเดียวลานเท”
ทุกคนพากันหัวเราะชอบใจ
“แต่ฝีมือยิงปืนไม่แพ้ฝีปากในเชิงลำตัดของมันเลยไม่เชื่อเอ็งก็คอยดู...สมิง”
“ฉันเชื่อแล้วจะ พ่อกำนัน”
ขณะนั้นศรีนวลกำลังร่ายรำอยู่กลางเวที ยั่วเล่นไปมากับพวกลำตัดชาย
มุมหนึ่งที่โต๊ะกินเลี้ยง บันลือ นักเลงหนุ่มคนหนึ่งกำลังยกจอกเหล้าเทใส่ปาก ขณะที่ตาจับจ้องไปที่เวทีลำตัด บันลือมองเรือนร่างของศรีนวลด้วยความหื่นกระหาย
ขณะที่ ดำ แดง ลูกน้องของบันลือคอยรินเหล้าให้ลูกพี่ไม่ขาดสาย
“นังศรีนวลมันเกินตัวจริงๆ ทั้งแน่น ทั้งงาม แค่มองก็จะบ้าตายอยู่แล้ว ฮ่ะๆ”
“อายุ 19 นี่กำลังได้ที่เลยนะพี่ลือ”
“เขาเรียกว่าสะพรั่ง ถ้าเป็นดอกไม้ก็กำลังผลิบาน แรกแย้มหอมน่าดม”
“หอมนักก็เด็ดมาดมให้มันชื่นใจซิพี่ จะปล่อยไว้ทำไม”
“จริงของเอ็ง จะปล่อยให้มันเหี่ยวเฉาไปทำไม ฮ่ะๆ”
บันลือดื่มเหล้าย้อมใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินตรงไปยังเวที ดำและแดงรีบตาม
บนเวทีศรีนวลกำลังโต้กลอนลำตัดกับหนุ่มๆ ได้รับเสียงเฮฮาจากชาวบ้านหน้าเวทีอย่างสนุกสนาน ชาวบ้านบางคนชอบใจ ส่งพวงมาลัยบ้าง ยื่นธนบัตรให้กับศรีนวลเพื่อแสดงความถูกอกถูกใจ
บันลือ ดำและแดง พากันเดินแหวกกลุ่มคนดูเข้าไปหา จากนั้นก็ควักกระเป๋าหยิบธนบัตรใบใหญ่ออกมาส่งให้ ศรีนวลเข้ามาไหว้รับเงิน
“ขอบใจจ๊ะ แหม...ให้ซะเยอะเชียว”
“ไม่เยอะหรอก ที่บ้านพี่ยังมีอีกเป็นกระบุง”
ศรีนวลละจากบันลือแล้ว ไปร่ายรำตามจังหวะเสียงกลองรำมะนาที่กำลังตีเร้าอารมณ์ บันลือยืนมองหน้าเวทีสักครู่ก็ทนไม่ไหว ปีนขึ้นไปหาศรีนวลบนเวทีแล้วเริ่มร่ายรำเข้าไปต้อนศรีนวลไปมา ชาวลำตัดและศรีนวลมองหน้ากัน แรกๆ ก็พยายามรักษาน้ำใจด้วยการยิ้ม แล้วดึงให้ออกห่างจากศรีนวล แต่บันลือเริ่มหงุดหงิด อาละวาดจะเข้าไปหาศรีนวลลูกเดียว ทำให้ศรีนวลเปลี่ยนจากบทหวานเป็นบทโหดทันที
“หยุด ไม่ต้องเล่นแล้ว”
ศรีนวลหันไปบอกนักดนตรี เมื่อกลองหยุด บันลือก็พลอยหยุดไปด้วย
“เฮ้ย...เล่นต่อ เล่นซิวะ” บันลือบอก
“อยากเล่นก็เล่นไปคนเดียว พวกเราเลิก”
ศรีนวล พาทุกคนเดินลงจากเวที แต่แล้วบันลือเข้าไปฉุดมือศรีนวลเอาไว้
“เราไปเล่นกันสองคนนะจ๊ะศรีนวล”
“ปล่อยนะ”
ศรีนวลสะบัดมือออก ทำให้บันลือฉุนเฉียว
“เล่นตัวนักนังนี่”
บันลือชักปืนออกมายิงขึ้นฟ้า เปรี้ยงๆๆ ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของชาวบ้านที่กำลังตื่นตะลึง บันลือเล็งปืนไปยังร่างของศรีนวลเพื่อบีบบังคับ
“ไป ยังไงเอ็งก็ไม่รอดแน่ศรีนวล”
สมิงโผล่มาจากมุมหนึ่ง เตะเปรี้ยงใส่บันลือทำให้ปืนของบันลือกระเด็นหลุดไป จากนั้นสมิงก็ถีบเปรี้ยงใส่ร่าง ทำให้บันลือเซถลาตกจากเวที ดำและแดงรีบเข้าไปพยุงลูกพี่ให้ลุกขึ้น
“สมิง โผล่มาได้จังหวะเชียวนะ” ศรีนวลบอก
“บอกแล้วไงว่าสมิงจะคอยดูแลศรีนวล สมิงจะไม่ยอมให้ใครทำอะไรศรีนวลได้เป็นอันขาด”
สมิงยิ้มให้ศรีนวล จากนั้นก็กระโดดลงไปล่างเวทีเพื่อเข้าไปตะลุมบอนกับบันลือ ดำแบะแดง แบบสามรุมหนึ่ง
สมิงโชว์ความสามารถในการต่อสู้ ทำให้บันลือ ดำ แดง แม้จะมีจำนวนคนมากกว่าแต่ก็สู้สมิงคนเดียวไม่ได้
บันลือโดนสมิงยำเละแต่แล้วก่อนที่สมิงจะปิดฉากสั่งสอนบันลือ จู่ๆ เถ้าแก่ชิ้น พ่อของบันลือก็โผล่เข้ามาร้องห้าม
“เฮ้ย หยุดๆ” สมิงชะงัก เถ้าแก่ชิ้นและลูกน้อง รีบเข้ามาพยุงบันลือลุกขึ้น “เอ็งกล้าดียังไงมาทำลูกข้าแบบนี้ ไอ้สมิง” เถ้าแก่ชิ้นต่อว่าสมิง
“สมิงไม่ได้เป็นคนเริ่ม ทำไมเถ้าแก่ไม่ลองถามไอ้บันลือมันดูเสียก่อนว่ามันทำอะไรกับศรีนวล”
ศรีนวล และกำนันธง รวมทั้งลุงชุบและป้าสาย รีบเดินเข้ามาสมทบกับสมิง
“ชาวบ้านลานเททุกคนเป็นพยานให้ชั้นได้ ว่าไอ้บันลือมันโดดขึ้นมาลวนลามชั้นบนเวที” ศรีนวลบอก
“ก็คนมันเมา เอ็งจะไปถือสาอะไรมันเล่า”
“เมายังไงก็ไม่มีสิทธิ์ทำผิด สมิงมันทำถูกแล้วที่เข้ามาช่วย เถ้าแก่ชิ้นควรจะขอบคุณสมิงมันมากกว่าที่จะมากล่าวโทษ หากชั้นจะเอาความ ไอ้บันลือลูกเถ้าแก่ก็คงไม่รอดคุกแน่” กำนันธงบอก เถ้าแก่ชิ้นมองอย่างอาฆาต
“ก็ได้ ครั้งนี้ชั้นขอขอบใจกำนันธงที่จะยกโทษให้ลูกชั้น แต่สำหรับเอ็งไอ้สมิง ลูกไอ้ชุบ นังสาย เราคงได้เห็นดีกันแน่”
เถ้าแก่ชิ้น บันลือและพวกพากันเดินออกไป ลุงชุบ ป้าสาย มองตามด้วยสีหน้ากังวล
เนื่องจากทั้งคู่รู้ดีว่าเถ้าแก่ชิ้นกำลังจะเล่นงานอะไรต่อไป
ป้าสาย ศรีนวล กำลังช่วยกันทำแผลให้กับสมิง ขณะที่ลุงชุบ กำนันธง นั่งคุยกันอยู่ไม่ห่างนัก
“เถ้าแก่ชิ้นมันคงเล่นงานพวกเรา แน่เลยนังสายเอ้ย”
“มันจะเล่นงานแกยังไง ไอ้ชุบ”
“ก็เรื่องหนี้สินนั่นแหละ ชั้นกับนังสายน่ะเป็นหนี้เถ้าแก่ชิ้นมา 4 ปีแล้ว ปีนี้กะจะเอาเงินมาใช้ แต่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
“เราส่งดอกไม่เคยขาด แค่เอาเงินมาใช้หนี้ มันจะทำอะไรเราได้” สมิงบอก
“เอ็งไม่รู้อะไร ไอ้เถ้าแก่ชิ้นเนี่ยะมันเหมือนคนอื่นเค้าซะทีไหน ถ้าไม่พอใจใคร มันก็หาเรื่องยึดบ้านยึดที่ดินมานักต่อนักแล้ว”
“นั่นซิ ไม่รู้มันจะมายึดเรือโยงของเราหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“หน้าเลือดจริงๆ”
“แต่ชั้นคงไม่ยอมให้มันมายึดง่ายๆ แน่”
“เขามีสัญญาเงินกู้ แล้วยังมีตำรวจเป็นพวก ยังไงเราก็คงขัดขืนไม่ได้หรอกสมิง”
“เอาเถอะ อย่าเพิ่งคิดอะไรตอนนี้เลย ยังไงถ้าข้ารู้ก็คงไม่ปล่อยให้พวกมันมารังแกพวกเอ็งหรอก”
“ใช่ ลุงกับป้า ชั้นก็รักและนับถือเหมือนพ่อกับแม่ ถ้ามันมาอีกเมื่อไหร่ คงได้เห็นดีกัน”
ศรีนวลบอกด้วยสายตามุ่งมั่น จริงจังในคำพูด
วันต่อมาโจรมเหศักดิ์ โจรร้ายแห่งลุ่มเจ้าพระยา กำลังพาพวกบุกเข้ามาซุ่มดูความเคลื่อนไหวที่นอกหมู่บ้านลานเท ชาวบ้านโชคร้าย สามคนกำลังเดินแบกจอบ เสียม เพื่อไปทำนากัน แต่แล้วโจรมเหศักดิ์ก็ปรากฏตัวคนเดียว ยืนขวางชายทั้งสามคนไว้
“เฮ้ย....ไอ้กำนันธงวันนี้มันอยู่หรือเปล่า”
ชายชาวบ้านสามคนพากันชะงัก แม้จะไม่รู้ว่าโจรมเหศักดิ์เป็นใคร แต่จากท่าทางแล้วไม่ค่อยน่าไว้วางใจ
“อยู่จ้ะ อยู่”
“ดี งั้นคงได้เจอกัน”
โจรมเหศักดิ์กระชากปืนขึ้นมาเล็งไปยังชายทั้งสาม ชายทั้งสามคนตกใจแทบสิ้นสติ ขณะที่ลูกน้องโจรมเหศักดิ์ค่อยๆ ปรากฏตัวออกจากที่ซ่อน
“แก เป็นใคร”
“บอกให้ก็ได้ เพราะถ้ายมบาลถาม เอ็งจะได้บอกถูกว่าพวกเอ็งตายเพราะโดนโจรมเหศักดิ์ยิงตาย ฮ่ะๆ” โจรมเหศักดิ์ยิงเปรี้ยงๆ ใส่ชายสามคนล้มคว่ำ แล้วจากนั้นก็หันไปสั่งลูกน้อง “ไอ้เสือบุก”
โจรมเหศักดิ์ยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นสัญญาณ แล้วจากนั้นก็เริ่มทำการบุกปล้นหมู่บ้านลานเททันที
บริเวณลานบ้าน กำนันธง ศรีนวล สมิง ขวด ผู้ใหญ่ต้อง และลูกบ้านผู้ชายกำลังฝึก การต่อสู้ ป้องกันตัวกันอยู่ พอได้ยินเสียงปืนทุกคนก็พากันวิ่งมารวมตัวกันพร้อมกับอาวุธในมือเตรียมพร้อม น้อย สาวใช้ซึ่งมาช่วยทำงานบ้านให้กำนันธง วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“ใครยิงปืนวะ”
“ไอ้พวกเสือมเหศักดิ์บุกมาจ๊ะกำนัน”
“มันกล้าปล้นกลางวันแสกๆ เลยเหรอวะ”
“มันกำแหงมากเกินไปแล้วไอ้มเหศักดิ์ กระจายกันออกไปเด็ดหัวมันให้ได้
กำนันธง ศรีนวล สมิง ขวด ผู้ใหญ่ต้อง และลูกบ้านพากันวิ่งกระจายออกไป ได้ยินเสียงยิงปะทะกันดังสนั่น
โจรมเหศักดิ์และลูกน้องสองคนวิ่งแยกมาที่มุมบ้านหลังหนึ่ง แล้วซุ่มยิงใส่กลุ่มชายชาวบ้านที่ออกมาสกัด โจรมเหศักดิ์ซัดเปรี้ยงๆ จนกลุ่มผู้ชายที่ขวางอยู่ล้มลงทีละคน จากนั้นก็บุกเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่ง ป้านวล แม่ของขวดกำลังวิ่งหนีออกมา โจรมเหศักดิ์จึงจับป้านวลไว้
“จะไปไหน”
“ปล่อยชั้น ปล่อย”
“เงินอยู่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้ บอกมา”
ป้านวลหวาดกลัวรีบชี้ไปยังโอ่งเล็กๆ ซึ่งซ่อนไว้ที่มุมหนึ่ง
“โน่นจ้ะโน่น อย่าทำชั้นเลย ปล่อยชั้นนะ”
โจรมเหศักดิ์พยักหน้าให้ลูกน้องไปที่โอ่งเล็ก แล้วเปิดออกดู เห็นเป็นสร้อยทอง เข็ดขัดนาคและเงินทอง ของมีค่าต่างๆ อัดแน่นเต็มโอ่ง
“พี่มเหศักดิ์ ของอยู่ในนี้จริงๆ”
โจรมเหศักดิ์หันมายิ้มกับป้านวล
“ขอบใจ” สิ้นเสียงโจรมเหศักดิ์ก็ยิงเปรี้ยงฆ่าป้านวลตายคาที่ “เก็บไปให้หมด แล้วตามข้ามา”
โจรมเหศักดิ์ให้ลูกน้องเก็บของมีค่า แล้วจากนั้นตัวมเหศักดิ์ก็บุกเข้าบ้านต่อไป
พวกลูกน้องโจรมเหศักดิ์พากันบุกเข้าไป แต่เจอกลุ่มของสมิง ศรีนวล ขวดและชาวบ้านมาตั้งด่านสกัดไว้ โจรคนหนึ่งจุดระเบิดแล้วปาใส่ชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเริ่มผวาเนื่องจากอาวุธของชาวบ้านมีแต่ปืน ไม่มีระเบิด ทำให้เสียเปรียบ
“พวกมันใช้ระเบิดอย่างงี้ พวกเราแย่แน่ๆ” ศรีนวลบอก
“งั้นก็เจอกันหน่อย”
สมิงรีบออกจากมุม
“นั่นจะทำอะไรสมิง”
“ไปต้องห่วง เดี๋ยวมา”
“งั้นรอด้วย ยิงสกัดให้หน่อย” ศรีนวลหันไปบอกขวด
“ได้เลย”
สมิงและศรีนวลพากันวิ่ง หลบออกไป เป้าหมายคือไปจัดการฝ่ายตรงข้าม ขวดและพวกชาวบ้านที่เหลือยิงสกัดให้
กลุ่มโจรกำลังยิงไปยังกลุ่มชาวบ้าน โจรบางคน หยิบระเบิดออกมาเพื่อเตรียมขว้างไป สมิงกับศรีนวล ซึ่งลัดเลาะมาซุ่มแอบมองอยู่
สมิงยกปืนส่องไปยังร่างโจรที่กำลังจะปาระเบิด ทำให้โจรถูกยิงตาย ขณะที่ระเบิดหล่นพื้น แล้วเกิดระเบิดขึ้น...ตูม โจรหลายคนโดนระเบิดตายคาที่
โจรคนหนึ่งรอดจากระเบิดหันไปเห็นสมิงและศรีนวลแอบซุ่มอยู่ก็จำได้
“ที่แท้ก็นังศรีนวล ลูกกำนันธง” โจรและพวกอีกสองคนพากันบุกเข้าไป แล้วล้อมกรอบ สมิงและศรีนวลเอาไว้
“หยุด...ทิ้งปืนเดี๋ยวนี้”
สมิง และศรีนวล ทิ้งปืน แล้วยกมือขึ้น
“ฆ่ามันเลยพี่”
“ไม่ จับมันไปเป็นตัวประกัน”
ศรีนวลและสมิง อาศัยจังหวะที่พวกโจรเข้ามาจับสะบัดหลุดแล้วต่อสู้กัน ศรีนวลโชว์ความเก่งในศิลปะมวยไทย พวกโจรนึกไม่ถึงเลยโดนแม่ไม้มวยไทยไปหลายดอก
สมิงหันมาดูศรีนวล เมื่อเห็นศรีนวลมีฝีมือพัฒนามากกว่าเดิมก็ชื่นชม
“ไปฝึกจากไหน ศรีนวล”
“พวกมวยวัดสอนให้น่ะ”
โจรคนหนึ่งย่องมาข้างหลังสมิง ศรีนวลมองเห็นก็คว้ากิ่งไม้แถวนั้นขว้างผ่านสมิงไปยังโจร ทำให้ปืนของโจรหล่นจากมือ สมิงหันไปชาร์จโจรจนสลบแล้วหันมาขอบใจศรีนวล
“ขอบใจนะศรีนวล”
“เรื่องเล็กน้อย”
สมิงและศรีนวลจัดการโจรที่เหลือจนหมอบ จากนั้นทั้งคู่ก็พากันวิ่งไปยังมุมอื่น
โจรมเหศักดิ์และลูกน้อง กำลังบุกเข้าปล้นบ้านหลังหนึ่ง แล้วยิงเจ้าของบ้านและคนในบ้านตาย จากนั้นก็รื้อค้นหาทรัพย์สิน กำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง และชาวบ้านโผล่เข้ามา
“ไอ้มเหศักดิ์”
โจรมเหศักดิ์หันมาแล้วรีบโดดหลบเนื่องจากกำนันธงยิงเข้าใส่ จากนั้นโจรมเหศักดิ์และพวกโจรก็พากันระดมยิงปะทะ ชาวบ้านลูกน้องกำนันโดนยิงตายหลายคน เหลือผู้ใหญ่ต้องและกำนันธง จากนั้นทั้งคู่ก็ถูกโจรมเหศักดิ์จับตัวไว้ได้
“ฮ่ะๆ ยังไงเอ็งก็ไม่รอดแน่ไอ้กำนันธง ไอ้ผู้ใหญ่ต้อง”
“ฆ่าเลยซิวะ โจรอย่างเอ็งมันไม่เคยปราณีใครอยู่แล้วนี่”
“ใจเย็น จับได้ทั้งกำนัน ทั้งผู้ใหญ่แบบนี้ จะฆ่ากันง่ายๆ ได้ไง” โจรมเหศักดิ์ผลักกำนันธงและผู้ใหญ่ต้อง เซล้มลงไป แล้วจากนั้นก็ตรงเข้าไปซ้อม “อยากเจอคนอย่างพวกเอ็งมานานแล้ว กล้าดียังไงยุให้ชาวบ้านฝึกอาวุธ ต่อสู้กับข้า นี่...”
โจรมเหศักดิ์ตบฉาดที่หน้ากำนันธงและผู้ใหญ่ต้อง แต่แล้วก็มีกระสุนระดมยิงเข้ามาใส่โจรมเหศักดิ์ และลูกน้อง ทำให้ลูกน้องมเหศักดิ์ล้มตายลงไป เป็นกระสุนจากฝ่ายของสมิง ศรีนวล ขวด และชาวบ้านนั่นเอง
โจรมเหศักดิ์รีบวิ่งเข้าไปหลบที่มุมหนึ่ง แต่สมิงมาขวางไว้
“จะไปไหน”
“เอ็งเป็นใคร”
“ข้าคือสมิง”
“งั้นก็เป็นผีเฝ้าลานเทซะ”
โจรมเหศักดิ์ยิงเปรี้ยงใส่ แต่สมิงหลบได้ มเหศักดิ์และโจรรีบพากันหนีออกไป สมิงรีบตาม ศรีนวลรีบเข้าไปดูกำนันธงและผู้ใหญ่ต้อง
“พ่อ ผู้ใหญ่ เป็นยังไงบ้าง”
“แค่นี้ไม่หนักหนาหรอกศรีนวล” ผู้ใหญ่ต้องบอก
“ข้าก็ไม่เป็นไร เอ็งรีบพาพวกเราไปช่วยสมิงเถอะ”
“จ้ะพ่อ”
ศรีนวล ขวด และพวกชาวบ้าน รีบพากันตามสมิงออกไป ผู้ใหญ่ต้องช่วยพยุงกำนันธง
ศรีนวล ขวดและพวกชาวบ้าน พากันวิ่งตามสมิงออกมา แต่แล้วโจรมเหศักดิ์ก็อาศัยจังหวะเผลอโผล่เข้ามาจับตัวศรีนวลไว้เป็นตัวประกัน สมิง ขวดและคนอื่นๆ ชะงักหันมา
“หลบไป ไม่งั้นนังศรีนวลตาย”
“ยิงมันเลยสมิง ยิง” ศรีนวลบอก
“หุบปาก”
โจรมเหศักดิ์ตวาด สมิง ขวดและพวกชาวบ้านพากันแหวกทาง เปิดให้โจรมเหศักดิ์และพวกโจรทยอยกันออกจากวงล้อม ศรีนวลขยิบตาให้สมิงเป็นสัญญาณ จากนั้นก็เริ่มเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการทำเป็นขาเจ็บ เดินไม่ได้
“โอ๊ย...ชั้นเจ็บ”
“อย่าสำออย”
“อะไรกัดขาชั้นก็ไม่รู้ โอ๊ยยย”
ศรีนวลก้มลงไปเพื่อดูขา จังหวะนั้นเองสมิงลั่นกระสุนเปรี้ยงๆ ใส่โจรมเหศักดิ์ กระสุนเฉี่ยวไหล่โจรมเหศักดิ์เลือดทะลัก ศรีนวลสะบัดตัวแล้ววิ่งหนี
โจรมเหศักดิ์และพวกยิงต่อสู้ จากนั้นก็ล่าถอยหนีไปได้
อ่านต่อหน้า 2
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 1 (ต่อ)
ที่ลานหน้าบ้าน พวกชาวบ้านกำลังช่วยกันทำแผล ดูแลคนบาดเจ็บ มีหลายคนกำลังร้องไห้เสียใจที่ญาติของตนเสียชีวิต
ขวดกอดร่างป้านวลผู้เป็นแม่ ซึ่งโดนยิงตาย ร้องไห้โฮ
กำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง สมิง ศรีนวล เดินสำรวจความเสียหาย และให้กำลังใจชาวบ้าน ขวดหันมาถามกำนันธงทั้งน้ำตา
“กำนัน เมื่อไหร่ตำรวจจะมาจัดการไอ้โจรพวกนี้ซะที มันฆ่าแม่ชั้นตาย ตำรวจจะมาช่วยชั้นมั้ยกำนัน”
“เรามันพวกบ้านป่า ห่างไกลจากความเจริญ อย่ามัวหวังพึ่งแต่ทางการเลย”
“เอ็งก็เห็นอยู่ไอ้ขวด เกิดเรื่องมาตั้งหลายหนแล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม”
“ใช่จ้ะ พวกเราต้องช่วยกัน ผู้ชายทุกคนต้องหมั่นฝึกอาวุธเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา”
“ผู้หญิงก็เหมือนกันนะจ๊ะ ถึงแม้จะเป็นกองหลัง แต่ฝึกป้องกันตัวเอาไว้บ้าง หากพวกมันมาถึงตัวก็จะได้ป้องกันตัวเอง”
“วันรุ่งจะมีเรือเข้าเมือง ข้าจะโดยสารไปแจ้งทางการ หากใครเจ็บหนักอยากให้หมอในเมืองดูก็ไปด้วยกัน”
กำนันธง ศรีนวล สมิง ช่วยกันดูแลชาวบ้าน
วันต่อมาที่บ้านเถ้าแก่ชิ้น เถ้าแก่ชิ้นกำลังเอ็ดตะโรลุงอ้อน ชาวบ้านแก่ๆ และลูกชายชื่อเหิม ซึ่งเป็นลูกหนี้รายหนึ่ง วันนี้ลุงอ้อนเอาเงินมาใช้หนี้แต่เถ้าแก่ชิ้นแกล้งนับเงินผิดแล้วกล่าวหาว่าเงินไม่ครบ เนื่องจากเถ้าแก่ชิ้นกำลังจะหาทางยึดที่นาของลุงอ้อน
“นี่หรือวะสามพัน ข้านับยังไงก็ได้แค่สองพันสี่”
“ไม่จริงเถ้าแก่ ข้านับตั้งหลายรอบ ก่อนมาก็ให้ไอ้เหิมลูกชายข้ามันนับอีกที สามพันครบแน่นอนจ๊ะ”
“ใช่จ้ะ ชั้นเป็นคนนับกับมือ ครบสามพันแน่นอน” เหิมช่วยยืนยันอีกคน
“นี่เอ็งหาว่าข้านับโกงหรือไง”
“เปล่าจ้ะ ๆ เดี๋ยวลองเอาเงินมาให้ชั้นนับใหม่ซิจ๊ะ เดี๋ยวชั้นจะนับให้ดู”
“ไม่ได้ เงินเข้ามือข้าแล้ว เอาคืนไม่ได้ ข้าถือเคล็ด วันนี้ถือว่าเอ็งแค่ส่งดอก เพราะข้ายังได้เงินไม่ครบ”
“เถ้าแก่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ใช่จ้ะ เถ้าแก่ลองนับอีกรอบก็ได้ ชั้นจะช่วยนับเสียงดังๆ จะได้มีพยานรู้เห็น”
“เอ๊ะ เอ็งสองคนนี่ยังไง ข้าบอกว่าเงินไม่ครบ มันก็คือไม่ครบ ไปๆ ถ้าอยากได้ที่นาเอ็งคืนก็ไปหาเงินมาให้ครบ”
เถ้าแก่ชิ้นบอกแล้วออกไป
“แบบนี้นี้มันโกงกันชัดๆ นี่”
เหมบอกอย่างโมโห บันลือ ดำและแดง ซึ่งนั่งฟังอยู่มุมหนึ่งพากันเดินเข้ามากระชากคอเหิม
“อย่าปากมากไอ้เหลียว ถ้ายังไม่อยากตาย”
บันลือบีบคอเหิมเพื่อข่มขู่ เหิมดิ้นไปมากำลังจะขาดใจตาย ลุงอ้อนรีบเข้ามา
“อย่าทำลูกชั้นเลยจ๊ะ อย่าทำ”
“ไปให้พ้น”
บันลือปล่อยมือจากเหิมแล้วหันไปผลักลุงอ้อนเซล้มไป เหิมแค้นจัดพุ่งตัวเข้าใส่บันลือ
“มึงทำพ่อกู”
เหิมลุงขึ้นสู้แต่โดน ดำและแดง ลูกน้องบันลือช่วยกันจับตัวไว้ จากนั้นบันลือก็เข้าไปซ้อมจนสะบักสบอม ลุงอ้อนเข้าไปช่วยเลยโดนไปด้วย
บันลือ ดำ แดง พากันลากตัวเหิมและลุงอ้อน ซึ่งถูกซ้อมสะบักสะบอมไปโยนทิ้งที่หน้าบ้าน
“จำเอาไว้ เอ็งสองคนพ่อลูก ถ้าคราวหน้ากำแหงอีก ข้าไม่เลี้ยงไว้แน่”
เหิมและลุงอ้อน บาดเจ็บ นอนร้องโอดโอย
ระหว่างนั้นมีชายสองคนซึ่งใส่หมวกและอำพรางใบหน้าเดินเข้ามาหาบันลือ บันลือและพวกชักปืนเตรียมพร้อม
“มาหาใคร”
ชายคนที่เป็นหัวหน้า เปิดผ้าที่คลุมหน้าให้บันลือเห็นว่าเขาคือโจรมเหศักดิ์
“ข้าเองมเหศักดิ์”
บันลือพยักหน้า แล้วรีบพากันไป เหิมพยุงลุงอ้อนขึ้นมา เหิมมองไปที่โจรมเหศักดิ์ แล้วจำได้ แต่ก็นิ่งเงียบ ขณะที่ลุงอ้อนรีบสะกิดให้เหิมหลบกันออกไป
ภายในบ้านเถ้าแก่ชิ้น โจรมเหศักดิ์และลูกน้องพากันเดินเข้ามา แล้วเปิดหมวกและผ้าคลุมหน้า บันลือ ดำและแดง เดินเข้ามาคุมเชิงสังเกตการณ์ เถ้าแก่ชิ้นยิ้มต้อนรับ
“แกนี่เอง มเหศักดิ์ นึกว่าใคร”
“เที่ยวนี้ปล้นไม่สำเร็จ ได้ของมาไม่มาก” ลูกน้องของโจรมเหศักดิ์เทเครื่องทอง เข็มขัดและของที่ปล้นได้จากครั้งที่แล้วลงต่อหน้าเถ้าแก่ชิ้น “เถ้าแก่จะให้เท่าไหร่”
เถ้าแก่ชิ้นเอาไม้เขี่ย แยกของที่ปล้นมา แล้วเริ่มตีราคา
“ทั้งหมดคงให้ได้ไม่เกินสามพันห้า” เถ้าแก่ชิ้นหันไปหยิบเงินแล้วนับส่งให้ โจรมเหศักดิ์รับเงิน เถ้าแก่ชิ้นสังเกตเห็นว่าโจรมเหศักดิ์โดนยิงที่แขน “นั่นแกโดนยิงรึ”
“ใช่ แต่เถ้าแก่คอยดูก็แล้วกันว่าไอ้คนที่ยิงเสือมเหศักดิ์ มันต้องได้คืนเป็น 10 เท่า”
“ใคร”
“ไอ้สมิง”
เถ้าแก่ชิ้นหันไปสบตาบันลือ ซึ่งเต็มไปด้วยความแค้นเมื่อได้ยินชื่อของสมิง
“ไอ้สมิงมันทำแสบ งั้นเรามาร่วมมือกัน เสือมเหศักดิ์”
“ใช่ เรามีศัตรูคนเดียวกัน ถ้าข้ายังอยู่ที่ลานเท ไอ้สมิงก็อยู่ไม่ได้”
โจรมเหศักดิ์พยักหน้ารับ
เช้าวันรุ่งขึ้น เรือโยงของสมิงลอยลำอยู่ริมน้ำ ป้าสายอาศัยอยู่ในเรือ กำลังติดเตาเพื่อทำกับข้าว สมิงซึ่งนอนหลับอยู่ในเรือตื่นขึ้นมาล้างหน้า แล้วเอากิ่งข่อยถูฟันเตรียมตัวออกไปบ้านกำนันธง
“จะไปแล้วรึสมิง”
“จ้ะแม่ ไปช่วยกำนันธงฝึกอาวุธให้ชาวบ้าน”
“เดี๋ยวนี้ไม่กินกับข้าวที่แม่ทำแล้วซิ” ป้าสายบอกอย่างงอนๆ สมิงเข้ามาอ้อน
“กินซิจ๊ะแม่ ตอนเย็นสมิงก็กลับมากินข้าวกับแม่ทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนเช้าสมิงอยากไปชิมฝีมือศรีนวลเค้าหน่อย”
“เออ...แม่ไม่ได้ว่าอะไรหรอกสมิง ศรีนวลมันก็คนดี ถ้าสมิงจะเอามาเป็นสะใภ้แม่ก็สบายใจ”
“จริงหรือจ๊ะแม่ เอาไว้ถ้าสมิงพร้อมเมื่อไหร่ แม่ไปขอศรีนวลให้สมิงทีนะแม่นะ”
“แล้วศรีนวลมันตกลงกับเอ็งแล้วรึ”
“ยังหรอกจ๊ะแม่ ฉันก็ยังไม่รู้ว่าศรีนวลเขาจะมีใจให้ฉันหรือเปล่า”
“งั้นก็รีบไปเถอะ ไปสายประเดี๋ยวศรีนวลเค้าจะงอนเอา”
“จ้ะแม่ งั้นสมิงไปนะ”
สมิงเดินลงเรือไป ป้าสายหันไปทำกับข้าวต่อ
บริเวณทางเดินในหมู่บ้าน ลุงชุบกำลังเดินกลับไปที่เรือโยง แต่แล้วจู่ๆ โจรมเหศักดิ์เดินออกมาขวางทางไว้ ลุงชุบตกใจ
“แก...”
“ใช่ ข้าเอง” ลุงชุบวิ่งหนี แต่ลูกน้องโจรมเหศักดิ์เข้ามาจับตัวไว้ “ไอ้สมิงอยู่ไหน”
“ปล่อยข้า ปล่อย”
“บอกมา ไอ้สมิงอยู่ไหน”
โจรมเหศักดิ์เข้ามาตะคอกถามลุงชุบ ซึ่งกำลังตกใจจนรนราน
ที่เรือโยง ป้าสายกำลังทำกับข้าวอยู่แล้วสักครู่ก็ได้ยินเสียงด้านหลัง เมื่อหันมาก็พบโจรมเหศักดิ์และลูกน้องจับตัวลุงชุบขึ้นมาบนเรือ
“ว้าย...นี่มันอะไรกัน”
โจรมเหศักดิ์เดินขึ้นเรือมาแล้วมองหาสมิง แต่ไม่เจอ
“ไอ้สมิงอยู่ไหน”
“ชั้นไม่รู้”
“ไม่รู้เรอะ”
โจรมเหศักดิ์เอาด้ามปืนตบหน้าป้าสายล้มคว่ำ ขณะที่ลุงชุบพยายามต่อสู้ แล้วที่สุดโจรมเหศักดิ์ก็ลั่นกระสุนเปรี้ยงๆ เข้าใส่ลุงชุบและป้าสาย
ขณะนั้นขวด หนุ่มชาวบ้านยืนแอบมองอยู่บนฝั่ง ขวดตกใจมากเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงรีบวิ่งหนีไป
ลานหน้าบ้านกำนันธง สมิงประทับปืนบนบ่าแล้วลั่นไกปืนปล่อยลูกกระสุนไปยังเป้าซึ่งทำจากลูกมะพร้าวกระเด็นไป ศรีนวลและชาวบ้านพากันตบมือชอบใจในความแม่นยำของสมิง
“โอ้โห...สมิงฝีมือไม่ตกเลย”
“ไหนศรีนวลลองบ้างซิ”
ศรีนวลรับปืนจากสมิงมา แล้วเริ่มเล็งยิงไปยังเป้าหมาย กระสุนปืนเข้าจุดสำคัญเช่นกัน ทุกคนพากันตบมือเสียงชื่นชม
“ฝีมือศรีนวลก็ไม่ใช่ย่อย”
“ฝีมือเด็กหัดใหม่ หรือจะสู้ยอดฝีมืออย่างสมิง”
“ขอให้มีสมาธิ และทำความคุ้นเคยกับปืน รับรองยิงแม่นกันทุกคน”
ขวด วิ่งเข้ามาหาสมิงใบหน้าตื่นตระหนก
“สมิงๆ เร็ว”
“มีอะไร ขวด”
“ไปช่วยลุงชุบกับป้าสายเร็ว ไอ้เสือมเหศักดิ์”
สมิงรีบวิ่งออกไป ศรีนวล ขวดและคนอื่นๆ พากันวิ่งตาม
ที่เรือโยง ศพของลุงชุบกับป้าสายนอนตายจมกองเลือดอยู่ สมิง ศรีนวล ขวดและคนอื่นๆ พากันวิ่งเข้ามา สมิงเห็นร่างพ่อกับแม่ก็รีบเข้าไปประคองกอด
“แม่ แม่” ลุงชุบพยายามจะเคลื่อนไหว สมิงเข้าไปประคอง “พ่อ พ่อ”
“ไอ้มเหศักดิ์มัน...” ลุงชุบขาดใจตาย ศรีนวลหันไปหาขวด
“แกเห็นอะไรบ้าง”
“ชั้นผ่านมา ได้ยินเสียงลุงกับป้าแกร้อง ฉันก็เลยเข้ามาดูเห็นไอ้มเหศักดิ์ มันเป็นคนฆ่าลุงกับป้าตาย”
“แกเห็นใคร...”
สมิงหันไปเห็นกระดาษจดหมายแผ่นหนึ่งตกอยู่ไม่ห่างนักจึงหยิบขึ้นมาอ่าน เนื้อความในจดหมาย เขียนว่า “ไอ้สมิง โจรอย่างมเหศักดิ์ไม่เคยโดนใครหยามและชีวิตของพ่อกับแม่เอ็งก็คือผลตอบแทนที่เอ็งลบหลู่ข้า หากเอ็งต้องการเจอข้า ข้าจะรอเอ็งอยู่ที่ซ่องยายจันทร์ ลงชื่อ เสือมเหศักดิ์ ”
“นั่นจดหมายอะไรสมิง”
สมิงไม่ตอบ แต่ส่งจดหมายให้ศรีนวลอ่าน ดวงตาของสมิงแข็งกร้าว เต็มไปด้วยความแค้น
เปลวไฟกำลังลุกท่วมโลงศพ 2 โลง ซึ่งถูกเผาบนเชิงตะกอนแบบง่ายๆ กลางแจ้งลานวัด สมิงยืนมองเปลวไฟ น้ำตาคลอ เต็มไปด้วยความแค้น ผู้ใหญ่ต้อง ขวดและชาวบ้านมายืนไว้อาลัยกับการเผาศพครั้งนี้ ศรีนวลและกำนันธงเดินเข้ามาหาสมิง
“จดหมายของมันทิ้งไว้ ข้าคิดว่ามันมีเลศนัยแอยู่นะสมิง” กำนันธงบอก
“ลุงกำนันคิดว่ามีอะไร”
“บางทีอาจจะเป็นแผนของมันหลอกล่อเอ็งไปก็ได้”
“ใช่สมิง ถ้าสมิงไปก็เท่ากับว่าติดกับดักของมัน อันตรายมาก”
“แต่สมิงจะปล่อยให้พ่อแม่ตายฟรีไม่ได้”
“เรื่องนั้นข้าเข้าใจ แต่ก็ไม่อยากให้เอ็งวู่วาม”
“ชีวิตของสมิงยังมีค่าต่อคนบ้านลานเทอีกมาก เราเป็นห่วง ไม่อยากให้สมิงเป็นอะไรไป”
สมิงหันมามองศรีนวล เขาดีใจที่ศรีนวลห่วงใยเขา แต่เรื่องนี้ก็ตัดสินใจยากเหลือเกิน เพราะวิญญาณพ่อกับแม่จะสงบสุขได้อย่างไรหากสมิงนิ่งดูดายไม่ช่วยแก้แค้นให้
“เอาไว้สมิงจะลองคิดดู”
สมิงรับปาก ขณะที่ดวงตาหันไปจับจ้องโลงศพของพ่อกับแม่ที่กำลังถูกเผา
ค่ำวันเดียวกันนั้นที่ซอยแห่งหนึ่งซึ่งเป็นห้องแถวประดับโคมไฟกันระยิบระยับ โดยในซอยนี้มีซ่องหลายเจ้าของ ทำให้เห็นหญิงสาวโสเภณีพากันออกมายืนเรียกแขกให้เข้าไปใช้บริการ
ภายในซ่องแห่งหนึ่งซึ่งก็คือซ่องยายจันทร์ โจรมเหศักดิ์กำลังนอนให้หญิงสาวบีบนวดอยู่ สักครู่ก็เห็นนายอำเภอซึ่งปลอมตัวอยู่ในเสื้อผ้าแบบชาวบ้านเดินเข้ามาพร้อมคนสนิท โจรมเหศักดิ์หันไปเห็นก็รีบลุกขึ้นมาต้อนรับ
“ท่านนายอำเภอ”
นายอำเภอจุ๊ปากไม่ให้มเหศักดิ์เสียงดัง
“จุ๊ๆ ห้ามเรียกว่านายอำเภอ”
“ข้างนอกเป็นไงบ้างครับ”
“ผมวางกำลังเอาไว้แล้วทุกจุด ถ้ามันบุกเข้ามายังไงก็ไม่รอด”
“แล้วคืนนี้มันมาแน่เหรอครับ”
นายอำเภอหันไปหาคนสนิท
“สายของเรารายงานว่ามันน่าจะลงมือคืนนี้แน่นอนครับ”
“แกวางใจเถอะมเหศักดิ์ ถ้ามันมา ยังไงก็ไม่มีทางรอด ตามสบาย”
นายอำเภอ และคนสนิทพากันเดินออกไป
โจรมเหศักดิ์นอนลงแล้วให้หญิงสาวนวดต่อ
ที่หน้าซ่องแห่งนั้น เห็นชายหนุ่มหลายคนพากันเดินเตร็ดเตร่เที่ยวชมหญิงโสเภณีกันพลุกพล่าน สมิงใส่หมวกพลางตัวเดินปะปนไปกับคนอื่นๆ
สมิงคอยสังเกตการณ์หาความผิดปรกติ และมองหาโจรมเหศักดิ์ แล้วสักครู่ก็สังเกตเห็นนายอำเภอและคนสนิท กำลังส่งสัญญาณบางอย่างทำให้สมิงรู้ตัวว่าคนที่เดินไปมาแวดล้อมตัวเขานั้น แท้จริงก็คือตำรวจนอกเครื่องแบบ สมิงแกล้งเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนหนึ่งแล้วเดินพาเธอเข้าไปในซ่องที่อยู่ห่างออกไป นายอำเภอ ส่งสัญญาณมือให้สายสืบคนหนึ่งรีบตามสมิงไป
ภายในซ่องเจ้จู สมิงเดินเข้ามากับหญิงสาว กำลังมองหาห้องว่าง
“พี่ไม่เคยมาเที่ยวเลยเหรอจ๊ะ”
“ไม่เคย”
“มิน่า ท่าทางแปลกๆ”
“พอดีพี่ไม่ชอบคนเยอะ”
“นั่นซิ วันนี้คนเยอะจริงๆ มาจากไหนก็ไม่รู้” หญิงสาวมองเห็นห้องๆ หนึ่งว่างแล้ว “ห้องว่างแล้วจ้ะ”
หญิงสาวพาสมิงเข้าไปด้านใน สายสืบซึ่งแอบตามสมิงมาเดินมายืนเฝ้าหน้าห้อง พร้อมขยับปืนเตรียมพร้อม
ที่ซ่องยายจันทร์ ขณะนั้นโจรมเหศักดิ์กำลังนอนให้หญิงสาวบีบนวด
“ตรงนั้นๆ แรงๆ จ้ะ ไม่ต้องกลัวพี่เจ็บ อืมม”
สักครู่นายอำเภอเดินเข้ามาพร้อมคนสนิท
“มันมาแล้ว”
โจรมเหศักดิ์ลุกขึ้นหยิบปืนทันที นายอำเภอส่งยิ้มให้ใจเย็น
“ไม่ต้องรีบ ตอนนี้ผมส่งคนประกบมันแล้ว”
“มันอยู่ไหน”
“ซ่องเจ้จู ห้องข้างๆ นี่แหละ”
“มันคงมาแค่ดูลาดเลาน่ะครับ เห็นขึ้นห้องไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง”
“งั้นก็เก็บมันเลยซิ”
โจรมเหศักดิ์เตรียมตัวจะออกไปลุย แต่นายอำเภอห้ามไว้
“แกอยู่นี่แหละ ชั้นแค่แวะมาบอก ป่านนี้ลูกน้องชั้นล้อมห้องมันไว้หมดแล้ว”
นายอำเภอและคนสนิทพากันออกไป มเหศักดิ์ล็อกห้อง มีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น จากนั้นก็หันไปหาหญิงสาว ให้หญิงสาวเริ่มบีบนวดต่อ
บนเพดาน สมิงกำลังแอบมองความเคลื่อนไหวของโจรมเหศักดิ์จากด้านบน
หน้าห้องที่สมิงเข้าไปกับหญิงสาว สายสืบยังยืนเฝ้าหน้าห้อง โดยมีสายสืบอีกสามคนมายืนสังเกตการณ์ด้วย
สักครู่ นายอำเภอและคนสนิทเดินเข้ามา
“มันอยู่ห้องไหน”
“ห้องนี้ครับ”
“งั้นก็พังประตูเข้าไปเลย”
นายอำเภอและพวกเริ่มพังประตู
โจรมเหศักดิ์กำลังนอนอย่างสบายอารมณ์ให้หญิงสาวบีบนวด แล้วจู่ๆ สมิงก็โดดลงมาจากเพดาน โจรมเหศักดิ์สะดุ้งพลิกตัวมาคว้าปืน แต่สมิงเตะเปรี้ยงปืนของโจรมเหศักดิ์หลุดจากมือ แล้วจากนั้นก็ต่อสู้กัน หญิงสาวตกใจสิ้นสติเป็นลมไป
สมิงต่อสู้กับโจรมเหศักดิ์ แล้วทำให้ตะเกียงล้มลงไป ไฟจากตะเกียงเริ่มลามไปยังผ้า
ที่ซ่องเจ้จูนายอำเภอและสายสืบ พากันพังประตูเข้าไปในห้อง แล้วพบว่าหญิงสาวโสเภณีที่มากับสมิงถูกจับมัดไว้กับเตียง มีผ้าอุดปาก สายสืบคนหนึ่งรีบไปแก้ผ้าที่มัดปาก
“มันอยู่ไหน”
“โน่นค่ะ มันขึ้นไปบนโน้น”
หญิงสาวชี้มือขึ้นไปบนเพดาน เห็นฝ้าเพดานถูกเปิดออกเป็นรู มีร่องรอยของคนปีนขึ้นไป
“ไปที่ห้องไอ้มเหศักดิ์เร็ว”
ทุกคนพากันวิ่งออกไป
โจรมเหศักดิ์ถูกสมิงต่อยประตูพังถลาออกมาจากข้างในล้มลงที่ถนนหน้าซ่อง สมิงตามมาแล้วจากนั้นก็เริ่มต่อสู้กันอีก นายอำเภอและพวกพากันวิ่งออกมาจากด้านใน ชักปืนออกมาเล็งแล้วยิงเปรี้ยงออกไป แต่สมิงหลบฉากแล้วจับโจรมเหศักดิ์เป็นตัวประกัน ชาวบ้านแถวนั้นพากันแตกตื่นวิ่งหนีกันวุ่นวาย
“สมิง แกโดนล้อมไว้หมดแล้ว มอบตัวซะดีๆ”
“แกเป็นใคร”
“ไอ้โง่ อย่าบอกนะว่าเอ็งไม่รู้จักนายอำเภอ”
“ถ้าเป็นนายอำเภอก็จับมันซิ ไอ้นี่มันโจรมเหศักดิ์”
“คนที่ข้าจะจับก็คือเอ็งไอ้สมิง ไม่ใช่มเหศักดิ์”
สมิงโกรธเมื่อรู้ว่านายอำเภอกับโจรมเหศักดิ์เป็นพวกเดียวกัน จังหวะนั้นเองที่โจรมเหศักดิ์สะบัดหลุดจากสมิง คนสนิทรีบโยนปืนไปให้มเหศักดิ์ แต่สมิงแย่งปืนมาได้แล้วยิงโจรมเหศักดิ์ล้มลงจมกองเลือด นายอำเภอและพวกพากันระดมยิงสมิง สมิงรีบหลบฉากเข้าที่กำบัง
เริ่มมีควันจากไฟไหม้คละคลุ้ง ชาวบ้านตะโกนส่งเสียงร้องแล้วพากันวิ่งหนีไฟไหม้กันวุ่นวาย
โจรมเหศักดิ์ฟื้นขึ้นมาแล้วรีบพยุงตัวหนีไป
ไฟไหม้เริ่มไหม้หนักขึ้น ชาวบ้านพากันวิ่งหนีกันวุ่นวาย สมิงวิ่งหนีเข้ามาหลบที่มุมหนึ่ง แล้วจากนั้นก็โผล่ออกไปยิงตอบโต้กับกลุ่มของนายอำเภอและพวก
สมิงอาศัยหมอกควันที่กำลังลุกไหม้เป็นสิ่งพรางตัว แล้วที่สุดเสียงปืนทางด้านของสมิงก็เงียบหายไป นายอำเภอกำลังแปลกใจที่ไม่มีเสียงยิงตอบโต้ออกมา
“มันหายไปไหนแล้ว”
“สงสัยคงโดนเป่าไปแล้วครับ”
“พวกเอ็งเข้าไปดูซิ”
พวกสายสืบพากันกรูเข้าไปสำรวจเพื่อหาสมิง ทำให้ด้านของนายอำเภอไม่มีคนคุ้มกัน สมิงโผล่มาจากด้านหลังของนายอำเภอ
“เป็นข้าราชการแต่เป็นโจรซะเอง”
นายอำเภอและคนสนิทยิงสมิง แต่สมิงไวกว่า ล้มตัวลงแล้วพลิกยิงสวนไปถูกนายอำเภอและคนสนิทล้มลง สมิงวิ่งหายไปในกลุ่มควัน
เช้าวันรุ่งขึ้น บริเวณลานหน้าบ้านกำนันธง ชาวบ้านพากันมาจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์เมื่อคืน โดยทุกคนได้รับข่าวที่บิดเบือนจากความเป็นจริง กล่าวหาว่าสมิงเป็นโจรไปปล้นซ่องนางโลมในตัวเมืองและฆ่าคนตาย กำนันธงและศรีนวล ลงมาจากบ้าน ผู้ใหญ่ต้อง ขวด เหิมและลุงอ้อนรีบพากันเข้าไปหากำนันธง
“กำนัน ได้ข่าวเมื่อคืนหรือยัง”
“เออ...มีคนมาบอกข้าตั้งแต่เช้ามืดแล้ว”
“ได้ยินว่ามียิงกันด้วย”
“ใช่จ้ะศรีนวล เมื่อกี้พวกเรือเร่มาส่งข่าวบอกว่า ไอ้ที่ยิงกันเมื่อคืนเป็นฝีมือของโจรก๊กใหม่ บุกมาปล้นซ่อง แล้วก็ฆ่านายอำเภอกับลูกน้องตายไปหลายคน”
“โจรก๊กใหม่เหรอวะ”
“ใช่ ในเมืองเค้าลือกันว่าพวกโจรมาจากบ้านลานเท”
“ข่าวผิดแล้ว บ้านลานเทของเราจะมีโจรได้ยังไง”
“นั่นซิ พูดแบบนี้พวกเราเสียหายนะ”
“แต่ในเมืองเขาพูดกันแบบนี้จริงๆ มันบอกว่าหัวหน้าโจรเป็นคนลานเท”
“แล้วรู้ตัวมั๊ยว่าเป็นใคร”
เถ้าแก่ชิ้น บันลือ และลูกน้องเดินเข้ามาพร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4-5 คน
“ก็ไอ้สมิงไง เมื่อคืนไอ้สมิง มันร่วมมือกับเสือมเหศักดิ์ ยกพวกบุกไปปล้นซ่องนางโลม แล้วก็เกิดผิดใจกัน มันเลยยิงกับเสือมเหศักดิ์ นายอำเภอรู้ก็เลยยกกำลังมาล้อมปราบ ไอ้สมิงก็เลยยิงนายอำเภอและพวกตายไปหลายคน”
“ไม่จริง สมิงไม่มีวันเป็นโจรเด็ดขาด”
“แหม...ศรีนวล เข้าข้างไอ้สมิงเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ ทีกับพี่ละก็ค้อนเอาๆ”
ศรีนวลตาขวาง ไม่พอใจท่าทีกวนๆ ของบันลือ
“ไม่ว่าเรื่องนี้จะจริงไม่จริงยังไง ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด ต้องหาหลักฐานมายืนยัน” กำนันธงบอกแล้วหันไปพูดกับชาวบ้าน “พวกเราทุกคน อย่าเพิ่งเชื่อข่าวลือ คนลานเทต้องรักและสามัคคีกันไว้ เอาละ ตอนนี้แยกย้ายกันไปทำมาหากินเถอะ ถ้ามีข่าวอะไรคืบหน้าข้าจะเอามาบอก”
ชาวบ้านทำท่าจะแยกย้ายกัน แต่เถ้าแก่ชิ้นห้ามไว้
“เดี๋ยว ยังไปไหนไม่ได้” บันลือเปิดสมุดบัญชีส่งให้เถ้าแก่ดูรายชื่อลูกนี้ เถ้าแก่เริ่มชี้หน้าไล่รายชื่อลูกหนี้ทุกคน
“พวกเอ็งทุกคนยังไปไหนไม่ได้ วันนี้ถึงกำหนดส่งต้นส่งดอกกันแล้ว”
ชาวบ้านส่งเสียงฮือ ไม่พอใจ
“มีปัญหาอะไร หรืออยากจะคุยกับตำรวจก็เอา”
“เรื่องหนี้สิน ถ้ามีสัญญาถูกต้อง ตำรวจก็ต้องทำตามหน้าที่ ใครเบี้ยวเจอซังเตแน่นอน”
“ใครก็ช่วยเอ็งไม่ได้ทั้งนั้น แม้แต่กำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง เพราะข้ามีสัญญาเงินกู้ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ไปคุยกันที่โรงพัก ขอโทษนะ กำนัน ผู้ใหญ่”
เถ้าแก่ชิ้นกับพวกพาชาวบ้านไป สมิงซึ่งแอบซุ่มดูอยู่มุมหนึ่งเป่าปากเป็นเสียงนกดุเหว่า ศรีนวลได้ยินก็จำได้ จึงหันไปบอกพ่อ
“พ่อ ได้ยินมั๊ย”
“ได้ยินอะไร”
“เสียงนกกาเหว่า”
“สมิงอยู่แถวนี้”
ศรีนวลกระซิบบอก ศรีนวลและกำนันธงหันไปมองรอบๆ แล้วเห็นสมิงซุ่มอยู่ สมิงให้สัญณาณมือนัดให้ทั้งคู่แอบไปพบกันที่เถียงนา ศรีนวลให้สัญญาณมือตอบกลับไป สมิงรีบหลบไป
“ผู้ใหญ่อยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวชั้นมา”
กำนันธงและศรีนวล ตัดสินใจพากันหลบออกจากบ้านไป ปล่อยผู้ใหญ่ต้องเฝ้าบ้าน
อ่านต่อหน้า 3
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 1 (ต่อ)
ไม่นานต่อมาศรีนวลและกำนันธง พากันเดินมาที่เถียงนา ห่างไกลจากชุมชน แล้วสักครู่สมิงก็เดินออกมาจากพุ่มไม้
“สมิง ได้ยินข่าวแล้วใช่มั้ย”
“ได้ยินแล้ว”
“เรื่องจริงเป็นยังไง”
“สมิงไม่ได้ปล้นใคร จุดหมายเดียวที่ไปก็เพื่อล้างแค้นไอ้มเหศักดิ์เท่านั้น”
“แล้วทำไมนายอำเภอกับพวกถึงต้องตาย”
“นายอำเภอเป็นพวกเดียวกับไอ้มเหศักดิ์ มันร่วมมือกันวางแผนให้สมิงเข้าไปติดกับ ที่นายอำเภอต้องตาย
สมิงจำเป็นต้องป้องกันตัว”
“เรื่องบานปลายแบบนี้ เราจะทำยังไงดีละพ่อ”
“ปัญหานี้คงแก้ยากแล้วสมิงเอ้ย หากเอ็งคิดจะมอบตัวสู้คดี ก็ต้องทำใจยอมติดคุกไปก่อน แล้วก็รอจนกว่าศาลท่านจะตัดสิน”
“กว่าศาลจะตัดสินว่าสมิงบริสุทธิ์ สมิงก็ติดคุกฟรีซิพ่อ”
“เรื่องนี้แล้วแต่เอ็งจะตัดสินใจ สมิง”
กำนันธงมองหน้าสมิงอย่างหนักใจ
หน้ากระท่อมของเหิมและลุงอ้อน ลูกน้องของเถ้าแก่ชิ้นกำลังโยนข้าวของในบ้านออกมากองไว้ เหิมและลุงอ้อนพยายามเข้าไปแย่งคืนแต่ก็โดนทำร้ายทุบตีโดยไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ
เถ้าแก่ชิ้น บันลือ ดำ แดงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินเข้ามาหาลุงอ้อนและเหิม
“ข้าบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้หาเงินมาไถ่ที่ดินของเอ็งคืนไป แต่พวกเอ็งก็ทำเฉย วันนี้ข้าจึงต้องมายึดบ้านยึดที่ดินของเอ็ง”
“มายึดได้ยังไง ชั้นเอาเงินไปให้เถ้าแก่แล้ว”
“แต่เอ็งเอาเงินไปให้ไม่ครบ บ้านกับที่ดินของเอ็งต้องเป็นของข้า”
“ไอ้ขี้โกง พวกเอ็งหาเรื่องโกงที่ดินพ่อข้า ไอ้พวกนรกมาเกิด”
“ปากดีนัก”
บันลือตบฉาดจนเหิมเซล้มลงไป จากนั้น ดำ แดง และลูกน้องบันลือเข้าไปลากตัวเหิมมาซ้อมจนทรุดลงไป
เถ้าแก่ชิ้นหันไปหาลูกน้องที่ขนของออกมาเป็นชิ้นสุดท้าย
“ขนออกมาหมดแล้วหรือยัง”
“หมดแล้วครับ”
“เอาของพวกนี้กลับไปไว้ที่บ้าน แล้วไอ้กระท่อมสัปปะรังเคก็เผาทิ้งซะ” ลูกน้องที่เหลือช่วยกันจุดไฟเผากระท่อม จากนั้นก็พากันขนของไป “ฮ่ะๆ ต่อไปที่ดินผืนนี้ก็ตกเป็นของข้าแล้ว พวกเอ็งไสหัวออกไป หากขัดขืน เอ็งสองคนตายแน่”
เหิมแค้นใจ หันไปคว้าไม้ที่หล่นอยู่ตรงเข้าไปฟาดเถ้าแก่ชิ้น
“มึงตาย”
บันลือและพวกรีบเข้ามาจับเหิมไว้แล้วรุมซ้อม สมิงปรากฏตัวเดินออกมาจากพุ่มไม้ กำนันธง ศรีนวล ผู้ใหญ่ต้อง เดินเข้ามาดูเหตุการณ์
“หยุดนะ เถ้าแก่”
“ไอ้สมิง”
เถ้าแก่ชิ้นรีบหันไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาด้วยให้จับสมิง
“ตำรวจจับมันเลย ไอ้นี่แหละโจรที่ปล้นฆ่านายอำเภอเมื่อคืน มันเป็นพวกเดียวกับเสือมเหศักดิ์”
ตำรวจชักปืนออกมา
“ไม่จริง คนที่เป็นพวกเดียวกับเสือมเหศักดิ์ก็คือพวกแก วันนั้นชั้นเห็นเสือมเหศักดิ์มันไปที่บ้านแก ชั้นกับพ่อจำได้” เหิมบอก
“ปากดีนัก ตายซะเหอะมึง”
เถ้าแก่ชิ้นแย่งปืนมาจากตำรวจแล้วยิงเปรี้ยงไปที่เหิมหมายจะปิดปาก แต่ลุงอ้อนกระโดดเข้าไปบังร่างเหิมไว้ กระสุนปืนถูกลุงอ้อนตายคาที่
“พ่อ”
เถ้าแก่ชิ้นเห็นว่าเหิมยังไม่ตาย จึงพุ่งเข้ามาแล้วกระหน่ำยิงใส่อีกครั้งแต่สมิงหันไปหยิบไม้มาแล้วเหวี่ยงไปกระแทกมือเถ้าแก่ชิ้นปืนหล่นกับพื้น บันลือรีบเข้าไปที่ปืนหมายจะเก็บขึ้นมายิง แต่สมิงเข้าไปชกบันลือ แล้วแย่งปืนมาได้ ตำรวจอื่นๆ รีบวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นสมิงมีปืนก็ช่วยกันยิงใส่ ศรีนวลจะเข้าไปช่วยสมิงแต่กำนันธงดึงเอาไว้
“อย่าศรีนวล เอ็งเป็นลูกกำนันจะทำแบบนี้ไม่ได้”
“แต่ว่า...”
“เอ็งต้องเชื่อพ่อ ตามมา”
กำนันธงรีบดึงศรีนวลหลบเข้าที่กำบัง เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ต้อง แต่เหิม ขวดและหนุ่มๆ ชาวบ้านเมื่อเห็นสมิงกำลังโดนตำรวจรุมยิงก็พากันเข้าไปช่วยสมิง
“สมิงช่วยพวกเรา อย่าให้มันทำสมิง”
“พวกเราช่วยสมิงจัดการกับพวกมันเลย”
ขวด เหิมและพวกหนุ่มชาวบ้าน ช่วยกันคว้าไม้ย่องไปจัดการกับตำรวจแล้วแย่งปืน ขณะที่สมิงยิงโต้ไปมากับตำรวจอื่นๆ
เถ้าแก่ชิ้นเห็นว่ากำลังเสียเปรียบ รีบหอบสัญญาเงินกู้หนี เนื่องจากชาวบ้านมีกำลังมากกว่าทำให้ตำรวจต้องล่าถอยไป
กำนันธง ศรีนวล ผู้ใหญ่ต้องและชาวบ้าน เข้ามาหาสมิง ด้วยความเป็นห่วง
“สมิง ชั้นขอโทษที่เมื่อกี้ไม่ได้ช่วยสมิงเลย”
“ดีแล้ว หากศรีนวล กำนันธง ผู้ใหญ่ต้องไปมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง พวกชาวบ้านลานเทจะขาดที่พึ่ง”
“เอ็งเห็นจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วสมิง”
“แต่ชั้นจะหนีไปไหนได้ ลานเทเป็นบ้านชั้น”
“หาที่ซ่อนตัวเสียก่อนเถอะวะ รอให้เรื่องเงียบก่อนแล้วค่อยกลับมาใหม่”
“เชื่อพ่อเถอะนะ ศรีนวลยังไม่อยากให้สมิงเป็นอะไรไป”
สมิงชะงักหันมามองศรีนวล ซึ่งเป็นเจ้าหัวใจของเขาด้วยความภักดี
“เอ็งต้องซ่อนตัวในที่ๆ ไม่มีใครรู้จัก” กำนันธงบอก
“เราจะพาสมิงไปเอง จนกว่าคนจะลืมเรื่องนี้”
“งั้นชั้นไปด้วย สมิงมีบุญคุณกับชั้น สมิงไปไหนชั้นไปด้วย” ขวดบอก
“ชั้นก็เหมือนกัน ถ้าวันนี้ไม่ได้สมิง ชั้นก็คงเป็นศพ ชีวิตชั้นเป็นของสมิง” เหิมบอก
“งั้นพวกเราไปด้วย”
“พวกเราด้วย”
“พวกเราด้วย”
ชาวบ้านส่งเสียงเซ็งแซ่ สมิงมองไปรอบๆ เห็นชาวบ้านหนุ่มๆ หลายคนพากันส่งเสียงขอไปร่วมเป็นร่วมตายกับสมิง
ภายในป่าดิบรกชัฏ ศรีนวลเดินนำสมิง ขวด เหิมและชาวบ้านอื่นๆ ลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็กๆ แล้วที่สุดศรีนวลก็พาสมิงมาถึงหน้าถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชัยภูมิดี เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย สมิงและชาวบ้านคนอื่นๆ พากันมองไปรอบๆ ด้วยไม่เคยเห็นที่นี่มาก่อน
“ที่นี่ที่ไหน”
“ผาช่องลม ชั้นเคยมาล่าสัตว์กับพ่อบ่อยๆ แต่พ่อไม่ให้บอกใคร พ่อกะไว้ว่าหากมีโจรมาปล้นหมู่บ้าน แล้วเราสู้ไม่ได้จริงๆ ก็จะอพยพพวกผู้หญิงกับเด็กมาซ่อนตัวกันที่นี่”
“ศรีนวลจำทางเข้าออกได้ยังไง มันวกวนมาก”
“ใช่ ถ้าเดินออกไปก็คงหลง กลับเข้ามาอีกไม่ถูกแน่”
“เรื่องทางเข้าออก เอาไว้ชั้นจะบอกเคล็ดลับให้ทีหลัง ตอนนี้ขอสมิงกับพวกเราพักอยู่ที่นี่ไปก่อน เรื่องอาหารการกินคงหาไม่ยาก เพราะตรงลำธารด้านโน้นมีวังปลาอุดมสมบูรณ์ ในป่าก็มีทั้งกล้วย ทั้งลูกไม้ป่า”
“ไม่ต้องห่วง เราจะอยู่ที่นี่รอข่าวจากศรีนวล”
“ตกลงตามนี้นะ”
ขวด เหิมและชาวบ้านทุกคนพยักหน้ารับคำกับศรีนวล
หลายวันต่อมาที่บ้านเถ้าแก่ชิ้น โจรมเหศักดิ์ซึ่งได้รับการปฐมพยาบาลอย่างดี ฟื้นขึ้นมา ดำและแดง ซึ่งคอยดูแลอยู่หันไปบอกบันลือ
“พี่มเหศักดิ์ฟื้นแล้วพี่ลือ”
บันลือรีบเดินเข้ามา
“นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว”
“นี่ชั้นสลบไปนานแค่ไหน”
“เป็นอาทิตย์ ดีที่ชั้นกับเตี่ยหาหมอมารักษาทัน”
“ขอบใจบันลือ ครั้งนี้ถือว่าแกมีบุญคุณกับชั้นมาก”
“แต่เถ้าแก่ชิ้น ให้ออกข่าวไปว่าพี่มเหศักดิ์โดนไอ้สมิงฆ่าตาย”
“ทำไม”
“เตี่ยเค้ากะจะให้พี่ฟอกตัวเองเป็นคนใหม่ ให้ทางการเข้าใจว่าโจรมเหศักดิ์ตายไปแล้ว ต่อไปจะได้ไปไหนมาไหนได้เหมือนคนปกติ”
“ดี ข้าก็จะไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีก”
เถ้าแก่ชิ้นเข้ามา พร้อมหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
“ฮ่ะๆ มเหศักดิ์ แกฟื้นขึ้นมาพร้อมกับข่าวดีจริงๆ ฮ่ะๆ”
“ข่าวอะไรเตี่ย”
“นี่ไง เตี่ยไปบอกให้พวกที่อำเภอลงประกาศจับไอ้สมิงในหนังสือพิมพ์ ป้ายความผิดให้มันเป็นโจรซะเลย”
“ถ้างั้นชั้นกับพวกจะสวมรอย อาศัยชื่อไอ้สมิงไปปล้นพวกชาวบ้านดีไหม” บันลือบอก
“ฉันด้วย”
“อย่าเพิ่งเลยพี่มเหศักดิ์ รอให้พี่หายดีก่อน ช่วงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชั้น”
“ฮ่ะๆ ชีวิตของเอ็งจะอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้อีกต่อไป ไอ้สมิง ฮ่ะๆ”
เถ้าแก่ชิ้นหัวเราะสะใจ
รูปของสมิงถูกประกาศลงหนังสือพิมพ์ โดยพาดหัวข่าวว่า ประกาศจับตายไอ้สมิง โจรร้ายแห่งลานเท
ที่บ้านหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ซึ่งมีข่าวของสมิงอยู่ ด้านนอกขณะนั้นบันลือ ดำ แดงและลูกน้อง เอาผ้าปิดบังใบหน้าเตรียมตัวปล้น
“ไอ้เสือสมิง...บุก...”
สิ้นคำ บันลือและพวกก็บุกเข้าปล้นฆ่า ยิงต่อสู้กับเจ้าของบ้านแล้วจัดการฆ่าเจ้าของบ้านตาย
บันลือและพวกบุกปล้นชาวบ้านอีกหลายราย ซึ่งการปล้นแต่ละครั้งบันลือและพวกจะฆ่าเจ้าของบ้านอย่างทารุณโหดร้ายและการปล้นแต่ละครั้งบันลือก็จะทิ้งหลักฐานโยนความผิดว่าเป็นสมิง
กำนันธงอ่านหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับสมิง แล้วลดหนังสือพิมพ์ลงมาด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก ขณะที่ศรีนวลเองก็กำลังกลุ้มใจเช่นกัน
“มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ยศรีนวล ไม่ใช่ฝีมือของสมิงใช่มั้ย”
“ไม่ใช่แน่ๆ สมิงกับคนอื่นๆ รับปากกับชั้นไว้แล้ว ไม่มีทางที่จะทำเรื่องพวกนี้เด็ดขาด”
“ถ้างั้นหนังสือพิมพ์เอาเรื่องพวกนี้มาจากไหน”
“ต้องมีใครจงใจใส่ร้ายสมิงแน่นอน”
“ชักจะไม่ได้การณ์แล้วซิ”
“งั้นศรีนวลจะเข้าไปบอกสมิง แล้วก็ถามให้แน่ใจอีกที”
“รีบไปรีบมานะ”
ศรีนวลหยิบปืน แล้วเดินออกไป
ที่ชายป่าแห่งหนึ่ง ศรีนวลเดินเข้ามาแล้วมองซ้ายขวาดูว่ามีคนติดตามหรือไม่ แล้วสักครู่ศรีนวลก็รีบเดินเข้าป่าไป ที่มุมหนึ่งเห็นบันลือ ดำ แดง สารวัตรสมภพ และตำรวจนอกเครื่องแบบ ซุ่มมองอยู่
“เห็นมั้ยสารวัตร ท่าทางมันมีพิรุธ”
“ผู้หญิงคนเดียว จะเดินเข้าป่าไปทำไม”
“มันต้องแอบไปพบไอ้สมิงแน่นอน”
“งั้นตามไป”
สารวัตรสมภพ บันลือ และตำรวจนอกเครื่องแบบแอบติดตามศรีนวลไป
ศรีนวลกำลังเดินไปตามทางเดินในป่า ขณะที่ด้านหลังเห็นบันลือ ดำ แดง สารวัตรสมภพ และคนอื่นๆ พากันแอบติดตามมาห่างๆ ศรีนวลเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติ เธอหยุดสังเกตการณ์สักครู่ก็ตัดสินใจที่จะแกล้งเดินอ้อม หลอกให้ผู้ติดตามหลงทาง สารวัตรสมภพเริ่มรู้สึกว่ากำลังเดินอ้อม
“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เราเดินมาทางนี้กันแล้วนี่”
ทุกคนพากันมองไปรอบๆ
“จริงด้วยสารวัตร แสดงว่ามันกำลังหลอกพวกเรา”
“งั้นพวกเรา กระจายกำลังกันไป จับตัวมันมาให้ได้”
ทุกคนพากันกระจายกำลังกันออกไป ศรีนวลรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวรีบหลบเข้าที่กำบังหายไป
สารวัตรสมภพและบันลือ ดำ แดง ย่องติดตามหาศรีนวลตามพุ่มไม้ต่างๆ ทั้งคู่กระชับปืนในมือเตรียมพร้อมตลอดเวลา ศรีนวลหลบอยู่ที่พุ่มไม้แล้วค่อยๆ โผล่หน้าไปแอบดู ความเคลื่อนไหว
ที่ด้านหลังของศรีนวล ตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งผ่านมาเห็น
“หยุดนะ”
ศรีนวลชะงักหันไปมอง ขณะที่บันลือและสารวัตรสมภพได้ยินจึงรีบรุดเข้ามา ศรีนวลเห็นท่าไม่ดีจึงคว้ากิ่งไม้แล้วขว้างใส่ตำรวจแล้ววิ่งหนีไป บันลือตามมาจึงยิงไล่หลังศรีนวลไป ศรีนวลหลบเข้าต้นไม้แล้วหันมายิงโต้ตอบ
ป่าอีกด้านหนึ่ง สมิง เหิม ขวดและพวกชาวบ้าน กำลังช่วยกันทำตาข่ายดักสัตว์กันอยู่ เสียงปืนดังแว่วเข้ามาทำให้ทุกคนหยุดชะงัก
“ใครยิงปืน”
“ไม่ใช่เสียงปืนจากพวกเรา”
“หรือว่าเป็นพวกตำรวจ”
สมิงจุ๊ปากให้ทุกคนเงียบ แล้วเริ่มกระซิบแบ่งงาน จากนั้น สมิง ขวด เหิมก็แยกตัวไปทางด้านหนึ่ง พวกชาวบ้านที่เหลือแยกย้ายกันไปอีกทาง
ศรีนวลกำลังยิงปะทะกับพวกบันลือ ดำ แดงและสารวัตรสมภพ ขณะที่ตำรวจคนอื่นๆ ต่างพากันกระจายตัวเข้าล้อมกรอบ ทำให้ศรีนวลตกอยู่ในวงล้อมและเริ่มถูกลอบยิงมาจากทุกทิศทุกทาง ตำรวจคนหนึ่งและพวก อาศัยที่ศรีนวลมัวหลบกระสุน รีบบุกเข้ามาประชิด แล้วเล็งปืนจะยิงจากด้านหลัง แต่แล้วสมิง ขวด เหิมก็ปรากฏตัวยิงตำรวจและพวกล้มคว่ำ ศรีนวลหันไปมองเมื่อพบว่าเป็นสมิงและพวก เธอก็ดีใจ
“สมิง”
“ทางนี้เร็ว”
ศรีนวลวิ่งมาหาสมิง สมิง ขวด ศรีนวงและเหิม เริ่มยิงต่อสู้กับบันลือ ดำ แดงและสารวัตรสมภพ ขณะที่หนุ่มๆ แก๊งค์ของสมิง ยิงต่อสู้กับพวกตำรวจนอกเครื่องแบบ
สารวัตรสมภพโดนสมิงยิงที่แขนล้มมาใส่บันลือ บันลือตกใจ
“สารวัตรถูกยิง ถอยก่อนดีกว่าครับ”
“ถอย! แบ่งกำลังปะทะไว้ก่อน”
สารวัตรสมภพตะโกนบอก บันลือ ดำ แดงและสารวัตรสมภพ ถอย เหลือกำลังบางส่วนไว้
สมิงและพวกบุกเข้าจัดการกำลังของสารวัตรสมภพ
สมิง ศรีนวลและทุกคนพากันเดินสำรวจ เก็บอาวุธและของมีค่าต่างๆ ของพวกตำรวจมารวบรวมเอาไว้
“มาคนเดียวอย่างนี้อันตรายนะศรีนวล สมิงถูกใส่ร้ายว่าเป็นโจรปล้นชาวบ้าน”
“ฉันจะมาบอกเรื่อง...”
“สมิงรู้แล้วพวกพรานป่าที่เข้ามาล่าสัตว์ เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง”
“คนที่ใส่ร้ายสมิง คงจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ไอ้บันลือ”
“สมิงก็คิดอย่างนั้น”
“แล้วจะทำยังไงกันต่อดี”
“ชื่อของสมิงป่นปี้ไปหมดแล้ว ถึงจะปฏิเสธยังไงก็คงไม่มีใครเชื่อ”
“สมิงกำลังจะทำอะไร”
“สมิงคงกลับไปเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้อีกแล้ว ถ้าพวกเขาคิดว่าสมิงเป็นโจร สมิงก็จะเป็นให้ดู”
“ไม่นะ สมิงทำแบบนั้นไม่ได้” ศรีนวลบอกอย่างตกใจ
“ศรีนวลอย่ากลัวไปเลย ถึงสมิงจะเป็นโจร แต่โจรอย่างสมิงก็จะไม่ทำร้ายคนดี เป้าหมายของสมิงก็คือพวกเศรษฐีหน้าเลือด ที่มันรังแกคนจน พวกข้าราชการเลวๆ ที่มันร่วมมือกันโกงประชาชน เมื่อปล้นแล้วสมิงสัญญาว่าจะเอาทรัพย์สมบัติที่ได้มาไปแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่ทุกข์ยาก”
“สมิงสัญญานะ”
“จ้ะ สมิงสัญญา คำพูดของสมิงเชื่อถือได้”
“พวกเราทุกคนจะทำตามคำพูดของสมิง โจรพวกเราจะต้องรักษาสัตย์ และคุณธรรม”
“ใช่มั้ยพวกเรา”
เหิมตะโกนถามคนอื่นๆ ทุกคนตอบว่าใช่ เสียงดังกึกก้องป่า บางคนยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย แล้วกระโดดร้องรำทำเพลงกัน สมิงยิ้มให้ศรีนวลเพื่อยืนยันความตั้งใจ
1 ปีผ่านไป เรือยนต์เร็วส่วนตัวลำหนึ่งกำลังแล่นมากลางลำน้ำ ในเรือเห็นมี เลอสรร บุตรชายท่านผู้ว่า เจ้าของที่ดินผืนใหญ่ของลานเท เดินทางมากับลุงมหา ชายวัยกลางคน คนสนิทของท่านผู้ว่า นอกจากนี้ลุงมหายังเป็นเพื่อนเก่ากำนันธงอีกด้วย
เรือเร็วแล่นมากลางน้ำสักครู่ก็เกิดเครื่องยนต์ดับ คนขับเรือหันมาเปิดเครื่องยนต์ที่ท้ายเรือดู
“เรือเป็นอะไร” เลอสรรหันมาถาม
“อยู่ๆ เครื่องก็ดับไม่ทราบเป็นอะไรครับ”
“ทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเอามาวะ”
“คือช่างไม่อยู่น่ะครับ”
“มา เดี๋ยวชั้นดูให้”
“คุณเลอสรรซ่อมเป็นเหรอครับ”
“ก็พอได้”
เลอสรรเริ่มเข้าไปดูเครื่องยนต์เรือ จัดการซ่อมอยู่สักครู่ก็เอามือมาปาดเหงื่อทำให้หน้าตาของเลอสรรมอมแมม “สตาร์ทสิ!” เครื่องยนต์ติด “โอเค ไปได้แล้ว”
เรือเร็วแล่นออกไป ทั้งๆ ที่เลอสรรหน้าตามอมแมม
“ไม่นึกว่าคุณเลอสรรจะมีความรู้ทางเครื่องยนต์”
“ตอนเป็นนักเรียนนายร้อย ต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ลุงมหา”
เรือเร็วแล่นมาจอดที่ท่าน้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นท่าน้ำหลักของหมู่บ้านลานเท กำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง และชาวบ้านบางส่วน มาคอยต้อนรับ ลุงมหาขึ้นจากเรือมาทักทายกับกำนันธง ผู้ใหญ่ต้องและชาวบ้านที่ท่าเรือ เลอสรรและคนขับเรือ ช่วยกันดูเครื่องเรืออยู่ แต่เนื่องจากหน้าตามอมแมมของเลอสรรทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเลอสรรเป็นเจ้านายของลุงมหา
“สวัสดีไอ้ธง ผู้ใหญ่สำเภา”
“มหาแกจากลานเทไปอยู่กับท่านผู้ว่าเป็นไงบ้าง”
“ก็สบายดีว่ะ แล้วแกสายดีนะ”
“ก็สบายดี แล้วไหนล่ะลูกชายกำนัน”
เลอสรรกำลังเดินมา
“โน่นไง” เลอสรรเดินขึ้นมาจากเรือ หน้าตามอมแมม “คุณเลอสรร เป็นบุตรชายท่านผู้ว่า เจ้าของที่ดินที่
พวกแกเช่าทำนากันนี่แหละ”
กำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง และชาวบ้านพากันยกมือไหว้
“อย่าไหว้ชั้นเลย ชั้นอายุน้อยกว่า ประเดี๋ยวอายุจะสั้น”
“ไม่ได้หรอกครับคุณเลอสรร พวกเราเป็นผู้น้อย อาศัยเช่าที่ดินท่านผู้ว่าทำมาหากิน คุณเลอสรรเป็นลูกชายท่าน ยังไงก็ต้องเคารพกราบไหว้เสมอท่านผู้ว่า แต่เอ้อ...ทำไมหน้าตา”
“พอดีเครื่องยนต์เรือเสียน่ะ ชั้นเลยช่วยซ่อม”
“มิน่า หน้าตามอมไปหมดเลยนะครับ งั้นเชิญที่บ้านผมเลยครับ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อน”
เลอสรรมองไปรอบๆ เห็นการประดับตกแต่งสถานที่เหมือนกำลังมีงานรื่นเริง จึงหถามอย่างสงสัย
“แล้วนี่กำลังจะมีงานอะไรกันหรือ”
“นั่นซิ ประดับธงทิวซะฟู่ฟ่า”
“พอดีวันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของลูกสาวผม ยังไงก็ต้องเรียนเชิญคุณเลอสรรกับมหาด้วย”
“งานนี้น่าจะสนุก”
“กำนันพาคุณเลอสรร กับลุงมหาไปพักก่อนเถอะ ประเดี๋ยวชั้นจะไปช่วยคนขับเรือดูเครื่องเรือให้”
กำนันธงพาเลอสรร ลุงมหา เดินออกไป ผู้ใหญ่ต้อง และคนขับเรือช่วยกันดูเครื่องเรือ
อ่านต่อหน้า 4
เลือดเจ้าพระยา ตอนที่ 1 (ต่อ)
กำนันธงพาเลอสรร ลุงมหา เข้ามาในบ้าน แล้วนำเข้าไปยังห้องนอนซึ่งเตรียมไว้สำหรับให้เลอสรรพัก
“คุณเลอสรรพักห้องนี้นะครับ ผมให้ศรีนวลลูกสาวผมมาทำความสะอาดไว้แล้ว”
“แล้วชั้นล่ะ กำนัน จะให้ชั้นพักที่ไหน”
“ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว ไม่ต้องห่วง”
“แล้วนี่ลูกสาวกำนัน ไปไหนล่ะ”
“ไม่ทราบเหมือนกันครับ คงจะเตรียมงานอยู่แถวนี้แหละครับ ประเดี๋ยวก็คงได้เจอกัน พักผ่อนตามสบายนะครับคุณเลอสรร”
กำนันธงพาลุงมหาออกไป ปล่อยเลอสรรอยู่ในห้องคนเดียว เลอสรรเริ่มเดินสำรวจมุมต่างๆ ของห้อง ทั้งๆ ที่หน้าตายังคงมอมแมม สักครู่ก็หันไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าเตรียมเปลี่ยนเสื้ออาบน้ำ
ที่หน้าห้อง ศรีนวลกำลังเดินมาแล้วได้ยินเสียงกุกกักจากในห้องก็ชะงัก สงสัย
“เอ๊ะ...เสียงใคร” ศรีนวลเริ่มย่องไปแอบฟังเสียงให้แน่ใจ “มีคนอยู่จริงๆ ด้วย หรือว่าเป็นพ่อ...” ศรีนวลกำลังจะเปิดประตูเข้าไป แต่ก็ชะงักเมื่อคิดขึ้นได้ว่าพ่อไม่อยู่ “แต่พ่อไปที่ท่าเรือ ยังไม่กลับนี่ หรือว่าขโมย” ศรีนวลหันไปคว้าปืนยาวที่ข้างผนังมาถือไว้ขึ้นลำเตรียมยิง แล้วจากนั้นก็ถีบประตูเข้าไป “หยุดนะ”
ประตูเปิดออก ศรีนวลถือปืนอยู่ที่หน้าประตูมองเข้ามาด้านใน เลอสรรนุ่งผ้าขาวม้าเตรียมจะอาบน้ำ ตกใจหันไปมอง ศรีนวลมองเห็นเลอสรรหน้าตามอมแมมก็ยิ่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขโมยจริงๆ
“แกเป็นใคร หนอย...มอมหน้า กลัวฉันจะจำได้ใช่มั้ย”
“อย่าๆ”
“หุบปาก แล้วยกมือขึ้น”
ศรีนวลเล็งปืนมาที่เลอสรร ขณะที่เลอสารปล่อยมือจากผ้าขาวม้าแล้วยกมือขึ้นตามคำสั่งทำให้ผ้าที่นุ่งหลุดลงมากองกับพื้น ศรีนวลมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วตกใจร้องโวยวาย
“ว้าย...ไอ้บ้า” ศรีนวลยิงเปรี้ยงออกไป เลอสรรกระโดดหลบเข้าไปข้างตู้เสื้อผ้า ศรีนวลรีบตามมาจะยิงซ้ำ “ไอ้คนผีทะเล ตายซะเถอะ”
กำนันธงและลุงมหาวิ่งถลาเข้ามา
“มีอะไรศรีนวล เกิดอะไรขึ้น”
“ขโมยจ้ะพ่อ ขโมยเข้าบ้าน”
“มันอยู่ไหน”
“นั่น หลบข้างตู้นั่น ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันส่องแกแน่”
เลอสรรโผล่หน้ามอมแมมออกมา ยิ้มเจื่อนๆ
“อย่า อย่ายิง”
กำนันธง และลุงมหาสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นว่าเป็นเลอสรร
“คุณเลอสรร”
“อ้าว...”
“ไปหลบอยู่ทำไม ออกมาซิครับ ออกมา”
“ออกไม่ได้จ้ะ ออกไม่ได้”
ลุงมหารีบเข้าไปฉุดมือเลอสรร โดยไม่ทันได้สังเกตว่าเลอสรรไม่มีเสื้อผ้า
“ทำไมละครับ คนกันเองทั้งนั้น ออกมาเถอะครับ ไม่ต้องกลัว”
ลุงมหาเข้าไปดึงเลอสรรออกมา กำนันธงสะดุ้งโหยงรีบกระโดดไปปิดตาศรีนวลแทบไม่ทัน
“อย่ามองนังศรีนวล เดี๋ยวตากุ้งยิง”
“ยิงไปแล้วซิพ่อ ยิงไปแล้ว”
ลุงมหาไม่รู้ตัวว่าดึงร่างเปลือยของเลอสรรออกมา
“ยิงอะไรกันวะ” ลุงมหาหันไปมองเลอสรรแล้วสะดุ้งด้วยความตกใจ “โอ้วว...กุ้งมังกร”
ลุงมหารีบเอาผ้าขาวม้ามาบังเลอสรร กำนันธงรีบดันศรีนวลให้ออกจากห้องไป เลอสรรหน้าเจื่อน เขิน อาย
เลอสรรเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยชุดใหม่ หน้าตาสดใส ผ่านการอาบน้ำมาแล้วทำให้หน้าตาดูดี มีราศรี เลอสรรเดินมานั่งตรงข้ามกับศรีนวล ศรีนวลนั่งก้มหน้าอาย ไม่กล้าสบตา ขณะที่กำนันธงและลุงมหา หัวเราะ อมยิ้มขำๆ
“ไง นังศรีนวล แกมีอะไรจะพูดก็พูดเร็ว”
ศรีนวลอาย ก้มหน้าก้มตาพูดกับเลอสรร
“ศรีนวลขอโทษค่ะ”
ด้วยความเขินอายทำให้ศรีนวลไหว้ขอโทษเลอสรรแบบลวกๆ เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาหน้าแตกให้เร็วที่สุด ทำให้กำนันธงไม่พอใจ
“จะขอโทษก็ทำให้มันดีๆ ให้มันรู้จักที่ต่ำที่สูงบ้าง”
“พ่ออ้ะ”
ศรีนวลตัดพ้อพ่อที่ไม่รู้เลยว่า ศรีนวลอายแทบจะแทรกแผ่นดินอยู่แล้ว
“อะไรวะนังนี่ เรียกทำไม”
“โธ่...พ่ออ้ะ”
“ข้าอยู่นี่ เรียกทำไม ข้าบอกให้เอ็งขอโทษคุณเลอสรรใหม่ ไม่ได้ยินหรือไง”
“พอแล้วจ้ะ ไม่ต้องมาขอโทษอะไรแล้ว ชั้นไม่ถือสา”
“ไม่ได้ครับ ศรีนวลมันล่วงเกินคุณเลอสรร ผมจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ ไม่ได้หรอก เร็วศรีนวลมาขอโทษคุณเลอสรรให้มันดีๆ เร็ว”
ศรีนวลกลั้นหายใจ สะกดความอายชั่วขณะ เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเลอสรร
และแล้ววินาทีนั้นที่หนุ่มสาวทั้งคู่ได้สบตากันชัดๆ เป็นครั้งแรก หน้าตาเลอสรรล้างสะอาดหมดจดจนดูหล่อเหลา ความรู้สึกร้อนผ่าวก็วิ่งเข้าไปแทรกซึมที่หัวใจของทั้งคู่ เลอสรรและศรีนวลสบตากันนิ่งนาน
ลุงมหาหันมามองกำนันธง แล้วก็เริ่มไม่เข้าใจว่าทั้งคู่เป็นอะไรไป
“เอ็งเป็นอะไรไปนังศรีนวล”
“คุณเลอสรรก็ผีสิงหรือยังไง”
ลุงมหาว่าคาถาแล้วเป่าพรวดไปที่ร่างเลอสรร ทำให้เลอสรรได้สติ เช่นเดียวกับศรีนวล
“ศรีนวล ขอโทษคุณเลอสรรดีๆ อย่าช้า”
ศรีนวลนั่งลงคุกเข่ากับพื้น แล้วพนมมือด้วยท่าทางเขินเล็กๆ
“เอ้อ...ดิชั้นศรีนวล วันนี้ได้กระทำการล่วงเกินคุณเลอสรรด้วยความเข้าใจผิด จึงกราบขอโทษ และขอให้คุณเลอสรรอภัยให้ดิชั้นด้วย”
ศรีนวลก้มลงกราบที่ตัก เลอสรรเอามือมารับกราบของศรีนวลทำให้มือของทั้งคู่สัมผัสกัน เลอสรรกุมมือศรีนวลไว้ ศรีนวลสั่นสะท้านไปทั้งร่างเมื่อได้สัมผัสมือกับชายหนุ่ม เช่นเดียวกับเลอสรรที่กำลังมีอาการเหมือนโดนกระแสไฟช็อตวิ่งเข้าสู่ร่างกาย
“ไม่เป็นไรหรอกศรีนวล ชั้นรู้ว่าศรีนวลไม่ได้ตั้งใจ อย่ากังวลไปเลย ชั้นไม่ถือสาหรอก”
ศรีนวลเงยหน้าขึ้นมาสบตาเลอสรรอีกครั้ง ทั้งคู่มองกันด้วยสายตาที่เปรียบเสมือนเป็นรักแรกพบ
ค่ำวันเดียวกันนั้นชาวบ้านพากันแต่งตัวสวยงามมารวมตัวกันที่ลานวัด บางคนเข้าไปที่เวทีรำวงแล้วร่ายรำกันสนุกสนาน ในกลุ่มชาวบ้าน สมิง ขวด เหิมและแก๊งค์ของสมิงคนอื่นๆ แต่งตัวกลมกลืนไปกับพวกชาวบ้านกำลังเดินเที่ยวงานและไปหยุดดูเวทีรำวงกัน
“นานๆ จะออกจากป่าที เห็นคนเยอะๆ แล้วมันคึกคักจริงๆ เลยนะพี่สมิง”
“แสดงว่าเอ็งอยากจะกลับมาอยู่ลานเทเหมือนเดิมรึไอ้จอด”
“มันก็อยากกลับมาอยู่เหมือนกัน แต่อยู่ในป่านอนหลับสนิทมากกว่า ไม่เสี่ยง”
สมิงมองหาศรีนวลตามมุมต่างๆ แต่ยังไม่เห็น เหิมสงสัย
“มองหาใครอยู่ล่ะพี่”
“เอ็งก็น่าจะรู้นะไอ้เฉลียวว่าข้าควรมองหาใคร ชีวิตข้ามีผู้หญิงที่ข้ารักก็แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น”
“ถ้างั้นก็มาโน่นแล้วละ นั่นไง”
เหิมชี้ไปที่มุมหนึ่งเห็นศรีนวลกำลังเดินเล่นกับเพื่อนผู้หญิงสองคน สมิงหันไปมองก็รีบเข้าไปหาทันที
“ศรีนวล”
ศรีนวลหันมาเห็นแล้วดีใจ เพื่อนผู้หญิงสองคน ขวด และเหิมเข้าไปพูดคุยแล้วชวนไปเดินเที่ยวปลีกตัวออกไป เหลือศรีนวลและสมิงยืนคุยกัน
“สมิง นี่ออกมาจากป่าทำไม มันเสี่ยงมากนะ”
“ถึงจะเสี่ยงยังไงสมิงก็ต้องมา วันเกิดศรีนวลทุกปีจะขาดสมิงไม่ได้”
“ขอบใจสมิงมากที่อุตสาห์มา”
“วันเกิดปีนี้ขอให้ศรีนวลมีแต่ความสุข ขอแค่นึกถึงสมิงก็พอแล้ว สมิงสัญญาว่าจะมาหาและอวยพรวันเกิดศรีนวลไม่ขาด จนกว่าสมิงจะหมดลมหายใจ”
“ศรีนวลจะคอย ตอนอายุ 70 สมิงจะยังมาวันเกิดศรีนวลได้อีกหรือเปล่า”
“ต่อให้เดินไม่ได้ สมิงก็จะคลานมา”
เลอสรรเดินมากับลุงมหา ศรีนวลหันไปเห็น
“เอ้อ... ศรีนวลขอตัวไปรับแขกก่อนนะ เที่ยวงานให้สนุกนะ สมิงระวังตัวด้วย”
ศรีนวลปลีกตัวจากสมิงเดินเข้าไปหาเลอสรร แล้วจากนั้นศรีนวลและเลอสรรก็พากันเดินไปยังเวทีรำวง ปล่อยลุงมหาเดินเที่ยวงานคนเดียว
เลอสรรโค้งศรีนวลแล้วเริ่มรำวง สมิงยืนมองด้วยความแปลกใจ เพราะไม่รู้ว่าเลอสรรเป็นใคร
“เป็นแบบนี้ แล้วสมิงจะเที่ยวสนุกได้ยังไงกันศรีนวล”
สมิงจับตาดูเลอสรรและศรีนวล ซึ่งทั้งคู่เริ่มมีท่าทีใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ เหิม ขวด เข้ามาสมิง
“นั่นศรีนวลนี่ รำวงอยู่กับใคร”
“เอ็งไปสืบซิว่าเขาเป็นใคร”
สมิงบอก เหิมแยกไป
ที่เวทีรำวง เลอสรรและศรีนวลกำลังรำวงกันอย่างมีความสุข ทั้งคู่ต่างเขินและเหนียมอายในการเจรจากัน
“คุณเลอสรร คงไม่เคยรำวงมาก่อนแน่เลย”
“จ้ะ ที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยมีงานรำวงแบบนี้เลย”
“ถ้างั้นลำตัด คุณก็คงไม่เคยดูเหมือนกันใช่มั้ย”
“เคยได้ยินชื่อลำตัด แต่ไม่เคยเห็นของจริงซักที”
“คืนนี้คุณจะได้เห็น”
เลอสรรและศรีนวลยังคงรำวงกันต่อไปเรื่อยๆ สมิงยืนมองนิ่ง เต็มไปด้วยความรู้สึกสับสน น้อยใจ
ที่เวทีลำตัด ชาวบ้านพากันมายืนมุงกันอย่างแน่นขนัด บนเวทีกำลังมีการแสดงรำเคียวเกี่ยวข้าวของพวกหนุ่มสาวชาวบ้าน ศรีนวลพาเลอสรรมาที่เวทีลำตัด มีกำนันธง ผู้ใหญ่ต้อง ลุงมหาต้อนรับที่หน้าเวที มีการจัดที่นั่งพิเศษเอาไว้เพื่อให้เลอสรรนั่งชม ศรีนวลขอตัวแยกไปแต่งตัวก่อนขึ้นเวทีลำตัด ห่างออกไปในฝูงชนสมิงยืนแอบมองเลอสรรอยู่ เหิมและขวด เดินแหวกฝูงชนเข้ามาหาสมิง กระซิบกระซาบกัน
“ชั้นสอบถามชาวบ้านแล้วพี่สมิง ผู้ชายคนนั้นคือคุณเลอสรรเป็นลูกชายของท่านผู้ว่าฯ เจ้าของที่ดินแถบลานเทนี่ ปีนี้ท่านผู้ว่า ให้คุณเลอสรรมาเก็บค่าเช่าแทน เพิ่งมาถึงเมื่อตอนบ่ายนี่เอง”
“มาถึงเมื่อบ่าย แล้วสนิทสนมกันขนาดนี้เชียวรึ”
สมิงคำราม จากส่วนลึกของหัวใจ
“เก็บเลยมั้ยพี่ หมกป่าไปเลย ไอ้ขวดจัดการไม่ต้องถึงมือพี่ร๊อก”
“ไม่ต้อง คนอย่างสมิง ถ้าจะแข่งกับใคร ต้องแข่งอย่างยุติธรรม ข้าไม่ชอบเอาเปรียบ”
“แต่ท่าทางศรีนวลจะมีใจให้คุณเลอสรรไม่น้อยเลยนะพี่”
“น่าเจ็บใจจริงๆ ศรีนวลกับพี่สมิงรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ไอ้หมอนั่นมาแค่วันเดียวก็ทำท่าจะชนะซะแล้ว”
“อย่าเพิ่งดูถูกน้ำใจของศรีนวลของข้า บางทีศรีนวลอาจจะแค่ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีเท่านั้น”
สมิงให้กำลังใจตัวเอง
บนเวที การแสดงเต้นกำรำเคียวจบลง เสียงกลองรำมะนาดังรัวจังหวะเร้าใจ ศรีนวลกับชาวคณะลำตัดออกมาร่ายรำ ศรีนวลร่ายรำด้วยท่าทีสวยงาม เลอสรรตะลึงมองในความงาม เพราะบัดนี้ศรีนวลได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูมีสีสัน เมื่อเข้าไต้เข้าไฟจึงทำให้ราศรีจับราวกับดารา
ศรีนวลโชว์ฝีปาก ร้องลำตัดเป็นที่น่าประทับใจ ขณะที่เลอสรรมองอย่างไม่วางตา สมิงอยู่ในกลุ่มคนดู
สมิงรู้สึกน้อยใจ แล้วที่สุดก็ไม่อยากทนเห็นอีกต่อไป ขวดและเหิมสังเกตเห็น
“จะไปไหนพี่”
“ข้าจะกลับ”
“ใช่พี่นานๆ มาที”
“ถ้าใครยังไม่อยากกลับก็ตามใจ แต่ข้าจะกลับ”
สมิงเดินออกไปโดยไม่รีรอ ขวดและเหิมรีบตามติดไปทันที
มุมหนึ่งของหมู่บ้านห่างออกไป ซึ่งตอนนี้ปลอดผู้คนเพราะชาวบ้านพากันไปอยู่ที่งานหมด สมิง ขวด เหิมและแก๊งค์ของสมิงอีก 7 คนพากันเดินลัดเลาะไปตามทางเดิน
“พวกเราที่เหลือไปไหนกันหมด”
“กำลังตามมาจ้ะพี่สมิง”
“บางคนมันขอค้างกับญาติ แล้วพรุ่งนี้จะกลับ”
สมิงพยักหน้ารับรู้ แล้วทุกคนก็พากันเดินต่อไป ขณะนั้นบันลือและสารวัตรสมภพ นำกำลังเข้ามาซุ่ม
“นั่นไง มันมางานนี้จริงๆ ด้วยสารวัตร”
“แค้นนี้ได้เวลาชำระกันแล้ว บันลือ”
สารวัตรสมภพ ให้สัญญาณตำรวจพากันติดตามสมิงและพวกไป
สมิงและพวก พากันเดินมาที่ชายป่า แต่แล้วสมิงก็หยุดชะงักเนื่องจากสังเกตเห็นห่อผ้าเก่าๆ ลักษณะคล้ายผ้าห่อเด็กทารกถูกวางทิ้งไว้ที่โคนต้นไม้ สมิงรีบเข้าไปดู
“เด็กทารก”
ขวด เหิมและคนอื่นๆ เข้ามามุงดู
“แม่มันอยู่ไหน”
ทุกคนช่วยกันมองหา แต่ไม่เห็นแม้เงา
“สงสัยจะโดนทิ้งแล้วไอ้หนูเอ้ย”
“เอาไงดีละพี่ หรือจะทิ้งไว้แถวนี้”
“ไม่ได้ ทิ้งไว้เดี๋ยวมดกัดตาย” สมิงตัดสินใจเอาผ้าขาวม้า ผูกเด็กไว้กับหน้าอกตัวเอง “มา มาช่วยข้าหน่อย”
ขวด เหิมและคนอื่นๆ ช่วยสมิงเอาผ้ามาผูกเด็กไว้กับหน้าอก แล้วสักครู่เด็กก็ส่งเสียงร้องออกมา สมิงสังหรณ์ใจ
“เอ๊ะ...เด็กมันร้องทำไม”
“มันคงจะหิว”
“หรือไม่ มันก็กำลังเตือนภัยให้พวกเรา”
สมิงสังเกตเห็นนกบินออกมาจากพุ่มไม้อย่างผิดปกติ จึงรู้ว่ามีอันตรายแน่นอน สมิงเป่าปากเป็นเสียงนกเตือนภัย เมื่อสิ้นเสียงนก ทุกคนในแก๊งค์ก็พุ่งตัวเข้ากำบังต้นไม้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ปืนกลรัวกระหน่ำเข้ามา สมิง ขวดและเหิมแอบอยู่หลังต้นไม้ ยิงโต้ตอบกับฝ่ายตรงข้าม
“ถ้าพี่ไม่ส่งสัญญาณบอก พวกเราคงเสร็จไปหลายคน”
“ไอ้เด็กคนนี้ต่างหากที่มันเตือนข้า ดูซิ เงียบไปแล้ว”
“พวกมันเป็นใคร”
“น่าจะเป็นไอ้บันลือ”
“งั้นพวกแกยิงล่อพวกมันอยู่ที่นี่”
สมิงวิ่งหลบหายเข้าป่าไป โดยมีเด็กสะพายติดตัวไปด้วย ขณะที่เหิม ขวด และคนในแก๊งค์ช่วยกันยิงสกัด
บันลือ สารวัตรสมภพและตำรวจคนอื่นๆ กำลังกระจายกำลังกันเพื่อปิดล้อม แล้วยิงตอบโต้ไปยังฝ่ายตรงข้าม สมิงโผล่ออกมาจากหลังพุ่มไม้ แอบมองอยู่แต่แล้วบันลือหันมาเห็น
“เฮ้ย...ไอ้สมิง”
บันลือยิงเข้าใส่ไม่ยั้ง สารวัตรสมภพรีบส่งสัญณาณมือให้ตำรวจที่เหลือ เข้าไปปิดล้อมสมิง สมิงยิงตอบโต้กับบันลือและคนอื่นๆ แต่ด้วยกำลังที่น้อยกว่าทำให้สมิงเริ่มเสียเปรียบ
ขวดยิงตอบโต้กับตำรวจอยู่อีกมุมหนึ่งหันไปเห็นว่าสมิงกำลังตกอยู่ในวงล้อม
“สมิงกำลังโดนปิดล้อม”
“เอ็งแบ่งกำลังไปช่วยสมิง”
เหิมบอกแล้วหันไปสั่งการคนในแกงค์ จากนั้นขวดกับเหิมก็แยกตัวออกไป
สมิงวิ่งหนีหลบกระสุนที่กำลังไล่ล่ามาไม่ยั้ง แล้วพลาดโดนยิงเข้าที่ขาทำให้วิ่งไม่ถนัด เมื่อจวนตัวสมิงก็กระโดดหลบเข้าที่กำบัง สารวัตรสมภพ บันลือและตำรวจจำนวนหนึ่ง ตามยิงไล่หลังมา แล้วกระจายกันออกไปเพื่อปิดล้อม ขวดกับเหิมโผล่เข้ามาแล้วยิงสกัดเอาไว้ สมิงหันไปเห็น
“ขอบใจนะ”
“สมิงรีบหนีไปเร็ว เราสองคนจะยิงสกัดให้”
“ไม่ได้ ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน”
“สมิงรีบไปเร็ว ไม่ต้องห่วง ต่างคนต่างหนี ถึงจะรอด”
“ก็ได้ แล้วไปเจอกันที่ผาช่องลม”
สมิงรีบวิ่งหลบออกไปด้านหนึ่ง ขวดและเหิมยิงสกัดแล้ววิ่งหลบหนีออกไปอีกมุม สารวัตรสมภพและบันลือ ก้มมองรอยเลือดของสมิง
“ไอ้สมิงมันไปทางหมู่บ้าน”
“งั้นตามไอ้สมิงไป”
สารวัตรสมภพ บันลือและพวกตำรวจพากันติดตามสมิงไป
สมิงหนีเข้ามาในงานเลี้ยงเพื่อใช้ชาวบ้านที่มาในงานกำบังกาย ศรีนวลยังเล่นลำตัดอยู่ เลอสรร กำนันธงและผู้ใหญ่ต้องยังอยู่หน้าเวทีลำตัด
บรรยากาศงานเลี้ยงในหมู่บ้าน ชาวบ้านกำลังสนุกสนานกันตามมุมต่างๆ บนเวทีลำตัดเปลี่ยนการแสดงเป็นการฟ้อนรำ ที่มุมรำวงก็กำลังคึกคักเนื่องจากหนุ่มสาวต่างก็พากันจับคู่รำวงต้อนกันไปมา
สมิงอุ้มเด็กเดินโซเซมาหลบมองอยู่ที่มุมหนึ่ง สมิงก้มมองที่ขาซึ่งเป็นแผลถูกยิง จากนั้นสมิงก็เอื้อมมือไปคว้าผ้าของชาวบ้านที่ตากไว้บนราวตากผ้ามาซับเลือดแล้วฉีกบางส่วนเพื่อมาห้ามเลือดไม่ให้ไหล
สารวัตรสมภพ บันลือและพวกตำรวจพากันเดินมองหาสมิงตามมุมต่างๆ ขณะที่ชาวบ้านเริ่มแตกตื่น
สมิงแอบมองแล้วหลบหายไปในความมืด
อ่านต่อตอนที่ 2 เวลา 09.00 น.