มารกามเทพ ตอนที่ 7
ด้านเพชรกำลังวิ่งตามมา พร้อมกับร้องเรียกหาน้ำหนึ่ง
“น้ำหนึ่งๆ”
ส่วนน้ำหนึ่งกำลังเดินมา และกำลังจะเดินไปทางเดียวกับที่พลอยกระชากผมอลิสอยู่ อลิสมองพลอยในอาการหวาดผวา ตกใจ และตื่นกลัว ไม่คาดคิด พลอยกระชากผมถามอีก
“อยากรู้เรื่องที่ฉันพิการใช่มั้ย” น้ำเสียงพลอยเกรี้ยวกราด “อยากรู้เรื่องว่าคนพิการทำอะไรได้มั่งใช่มั้ย”
อลิสบอกหน้าตาตื่น “เปล่านะคะคุณพลอย ฉันเปล่า”
พลอยกระชากผมมือเกร็ง “ไม่ต้องมาแก้ตัว ตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอเห็นฉัน เธอก็ดูถูกเหยียดหยามฉัน”
อลิสรีบแก้ตัว “ไม่นะคะคุณพลอย ฉันไม่ได้ดูถูกคุณ ฉันมาที่นี่แค่อยากรู้...น้ำหนึ่ง ได้อยู่ที่นี่หรือเปล่า”
พลอยชะงัก “น้ำหนึ่ง?”
อลิสรีบบอก “น้ำหนึ่งเป็นเพื่อนฉันค่ะ วันนั้นฉันเหมือนจะเห็นน้ำหนึ่งแว้บๆ เลยอยากมาดูให้แน่ใจ ว่าน้ำหนึ่งอยู่นี่หรือเปล่า”
พลอยตวาด “ที่นี่ไม่มีใครทั้งนั้น...” มองจ้องหน้าอลิส จิกผมแรงขึ้น “เธอมาที่นี่เพราะอยากรู้...คนพิการอย่างฉัน มันจะทำอะไรได้ เธอได้รู้แน่อลิส”
พลอยผลักอลิสออกอย่างแรง อลิสหงายหลังล้มลงร้องลั่น
“โอ๊ย”
พลอยถอยหลังรถเข็นออกมา จดสายตาจ้องเขม็งที่อลิสอย่างไม่วางตา อลิสมองพลอยอย่างตื่นตระหนกตกใจ โดยที่ไม่มีใครคาดคิดพลอยเลื่อนรถพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว อลิสร้องกรี๊ด
“อย่า”
น้ำหนึ่งได้ยินเสียงอลิส ชะงัก หันไปมองตามเสียง เป็นจังหวะเดียวกับที่รถของพลอยพุ่งเข้าชนร่างของอลิสอย่างแรง อลิสร้องเสียงหลง เจ็บปวดมาก
“โอ๊ย”
พลอยมองผลงานอย่างสะใจ ก่อนจะถอยรถเข็นออกมา อลิสร้องถอยหลังกรูด
“อย่า!อย่า ช่วยด้วยๆๆๆๆ”
น้ำหนึ่งสะดุดหู แต่ไม่มั่นใจ ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เสียง อลิส”
น้ำหนึ่งจะวิ่งไป มือของเพชรคว้าข้อมือของน้ำหนึ่งเอาไว้เต็มแรง น้ำหนึ่งร้องตกใจ
“ว้าย”
ร่างของน้ำหนึ่งเซถลาเข้าสู่อ้อมอกของเพชร แรงเหวี่ยงของน้ำหนึ่งทำให้เพชรเสียหลัก สองหนุ่มสาวล้มลง ในลักษณะที่ศีรษะของเพชรกระแทกลงกับพื้น และน้ำหนึ่งล้มทับเพชรลงมา
เพชรร้อง “โอ๊ย”
“พี่เพชร”
น้ำหนึ่งตกใจมาก ผวาเข้ากอดเพชร ลืมเรื่องเสียงของอลิสไปทันที ขณะที่ทับทิม เบิกตาโพลงขึ้นมา
พลอยถอยหลังอีก แล้วพุ่งรถเข็นเข้าทำท่าจะชนอลิส แต่คราวนี้อลิสตั้งสติพลิกตัวหลบทัน แรงที่พลอยเหวี่ยงมาเต็มแรงนั่นทำให้พลอยเสียหลัก รถคะมำล้มลงไป พลอยร้องลั่น
“โอ๊ย”
ร่างของพลอยไถลลงกับทางพื้นลาด อลิสตะลึง เมื่อเห็นพลอยล้มลงหน้ากระแทกครูดไปกับพื้น พลอยนิ่งไป ก่อนจะหันขวับกลับมา
อลิสแทบช็อก เห็นใบหน้าของพลอยถากเป็นทางตามการครูด เลือดซึมออกมาแดงฉาน
พลอยค่อยๆ เอามือจับใบหน้า แล้วยกมือขึ้นมาดูเห็นเลือด “ไม่...ไม่จริง หน้าฉัน...หน้าฉัน เธอ!”
“เปล่านะฉันเปล่า”
พลอยกรีดร้องสุดเสียง “เธอทำฉัน” แล้วปล่อยโฮออกมา กลัวไม่สวยมากกว่าเจ็บ
อลิสยังไม่ทันแก้ตัวอะไร ทับทิมก็วิ่งเข้ามา พุ่งเข้ามาหากอดประคองพลอย
“พลอย..พลอย”
พลอยกอดแขนทับทิม ร้องไห้ อ้อน “แม่..ช่วยด้วย...คุณอลิส..คุณอลิสทำพลอย”
“เปล่านะคะ คุณน้า..ฉันเปล่า”
“ฉันไม่เชื่อ ลูกฉันหน้าตาเหวอะหวะแบบนี้ แปลว่าลูกฉันมันเอาหน้าไปครูดกับพื้นเองรึไงฉันจะฟ้องหมอณัฐ!”
อลิสหน้าแหยไปทันที
-ตัดไป-
หมอณัฐอยู่ในห้องทำงานที่โรงพยาบาล ถอนหายใจเฮือก ทั้งตกใจ และหนักใจ ขณะคุยโทรศัพท์
“ผมขอโทษครับน้าทับทิม ขอโทษจริงๆ” หมอณัฐวางสายด้วยสีหน้ากังวล “อลิสไม่น่าเลย...ป่านนี้คุณพลอยจะเป็นยังไงบ้าง”
หมอณัฐได้แต่ส่ายหน้าระอา
ด้านพลอยมองตัวเองที่หน้ากระจก เห็นใบหน้าตัวเองเต็มไปด้วยรอยครูด เป็นแผล พลอยโกรธจัด กำมือแน่น ก่อนค่อยๆ ยกมือขึ้นมา พบว่าในมือของพลอยมีเศษกระเบื้อง พลอยค่อยๆ เอาเศษกระเบื้องครูดลงบนใบหน้า นัยน์ตาวาวโรจน์ เจ็บ! แต่เล็งเห็นผลที่จะได้มามากกว่า ว่าทุกคนต้องสงสารเห็นใจตน พลอยมองดูเลือดที่ค่อยๆ ไหลซึมออกมา
ก่อนยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิป ส่งไปให้ทับทิม ด้วยดวงตาสาแก่ใจ
ส่วนเพชรนอนอยู่บนเตียง น้ำหนึ่งนำเอาผ้าเย็นมาเช็ดให้ ถามอย่างอาทร
“พี่เพชรยังเจ็บอยู่มั้ยคะ”
“พี่ไม่เป็นไร” เพชรลุกขึ้น ในอาการเจ็บๆ มึนๆ
น้ำหนึ่งถามเสียงหลง “พี่เพชร จะไปไหน”
เพชรแกล้งทำเป็น หนักใจ ว้าวุ่น สับสน ขณะบอก “ไป..ที่ที่ไม่มีน้ำหนึ่ง”
“พี่เพชร” น้ำหนึ่งตกใจ ร้องไห้ออกมา “นี่พี่เพชรรังเกียจน้ำหนึ่งมากขนาดนี้เลยเหรอคะ”
เพชรแกล้งมองมาด้วยสีหน้ากังวล ปนหนักใจ ก่อนจะส่ายหน้า “ตรงกันข้าม...นับวันหัวใจพี่มีแตน้ำหนึ่ง และพี่ก็รู้ว่า..ถ้าเรายังอยู่ใกล้กัน...ซักวัน..พี่ก็คงต้องรักน้ำหนึ่งหมดใจ และพี่พลอยก็คง...ต้องเสียใจ ที่พี่ไปหลงรักลูกของศัตรู ลาก่อนน้ำหนึ่ง”
เพชรเสริมให้น่าเชื่อถือ หันหลังเดินกลับไปที่ประตู น้ำหนึ่งมองตาม ใจหายวับ ก่อนผวาเข้าไปกอดด้านหลังเพชร
“พี่เพชร..พี่เพชรอย่าไปไหนนะคะ..น้ำหนึ่งรักพี่เพชร น้ำหนึ่งรักพี่เพชรค่ะ”
เพชรอึ้ง ความรู้สึกสงสารท่วมท้นล้นหัวใจ ก่อนที่เพชรจะยิ้มหยันออกมาอย่างพึงพอใจ เอามือกุม
มือน้ำหนึ่งเอาไว้ หันกลับมาแสร้งทำท่าหนักใจ
“แล้วเราจะรักกันได้ยังไง? พี่ยังมองไม่เห็นทางเลย”
“น้ำหนึ่งจะกลับไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่”
ประตูเปิดออก เพชรกับน้ำหนึ่งหันขวับไปมอง เห็นพจนีย์ในสภาพอิดโรยตาขวางยืนอยู่
พจนีย์เย้ยหยัน
“กลับไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่....เรื่อง...เป็นเมียน้อยคนอื่นหรือคะคุณน้ำหนึ่ง”
“พจน์” เพชรปราม
พจนีย์ดุเพชร “หยุดนะพี่เพชร พจน์จะจัดการกับนังผู้หญิงหน้าด้านคนนี้เอง อยากได้พี่เพชรนักใช่มั้ย มานี่ นังน้ำหนึ่ง!”
พจนีย์ไม่ฟัง ลากแขนน้ำหนึ่งออกไปอย่างแรง เพชรตะโกนก้อง
“หยุดนะพจน์ หยุด”
เพชรเดินตามออกไปทันที
พจนีย์ฉุดกระชากลากน้ำหนึ่งมา น้ำหนึ่งร้องโอดโอย
“ปล่อยฉันนะคะปล่อย”
“ไม่ปล่อย”
เพชรวิ่งตามหลัง ตะโกนดังลั่น
“ปล่อยน้ำหนึ่งนะพจนีย์”
เพชรจะตาม แต่พลอยเลื่อนรถออกมาจากข้างทาง ด้วยสภาพใบหน้าเป็นรอยถาก เห็นเลือดสีแดง ไหลซึม แผลบนใบหน้ามากกว่าเดิม สภาพน้ำตานองหน้า เพชรตกใจ
“พี่พลอย! ทำไมพี่พลอยเป็นอย่างนี้”
“พี่ถูกทำร้ายเพชร....พี่ถูกทำร้าย” พลอยสะอึกสะอื้นผวาตัวกอดเพชรแน่น “น้ำหนึ่งพาคนมาทำร้ายพี่!”
เพชรอึ้ง ตะลึง เงียบงันไป
ด้านพจนีย์ผลักน้ำหนึ่งลงกับพื้นอย่างแรง น้ำหนึ่งร้องลั่นด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย”
พจนีย์ตามมากระชากผม “เจ็บเป็นด้วยเหรอผู้หญิงหน้าด้าน...ฉันอยากรู้จริงๆ...พ่อแม่เธอเลี้ยงเธอด้วยอะไร ทำไมเธอถึงได้ใฝ่ต่ำขนาดนี้ อยากได้พี่เพชรจนตัวสั่นทั้งๆ ที่รู้ว่าเค้ามีฉันอยู่แล้ว”
ขาดคำพจนีย์ตบหน้าดังผลัวะ
น้ำหนึ่งหน้าหันซวนเซล้มลง ก่อนจะหันกลับมาพร้อมหยาดน้ำตา “มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ”
พจนีย์มองมาทั้งเกลียด ทั้งหมั่นไส้ “ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด...แต่ตามติดพี่เพชรตลอด วันๆ ขลุกด้วยกันแต่ในห้องนอน มันหมายความว่ายังไง? !!โถ!นังดัดจริต นังแอ๊บ” พจนีย์บันดาลโทสะผลักน้ำหนึ่งลงกับพื้นอีก ทำท่าเงื้อมือจะตบ
น้ำหนึ่งเอามือจับมือพจนีย์เอาไว้ “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดจริงๆ นะคะ ฉันกับพี่เพชรไม่ได้มีอะไรกันแต่ฉันจำเป็นต้องอยู่”
พจนีย์กรี๊ด หมั่นไส้สุดๆ “อยู่เพื่อเป็นเมียน้อยเค้านะเหรอ”
“ไม่นะ...ฉันกับพี่เพชรไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“เป็นไม่เป็น คำว่าเมียน้อยมันก็ติดอยู่บนหน้าผากเธอตลอดชีวิตไปแล้วน้ำหนึ่ง แล้วเธอยัง
หน้าด้าน” พจนีย์ พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเลียนเสียงน้ำหนึ่ง “จะไปพูดกับคุณพ่อคุณแม่....” แล้วผลักหัวออก “เธอนี่มันตัวแม่จริงๆ เมียน้อยทั่วประเทศมารวมตัวกันยังไม่หน้าด้านเท่าเธอคนเดียว”
น้ำหนึ่งหันมามองอ้อนวอน “ฉันจำเป็นต้องอยู่จริงๆ ค่ะคุณพจนีย์”
“อยู่ทำไม” พจนีย์ตะคอกขณะเอามือบีบปากน้ำหนึ่ง ตัวเองกัดฟันกรอด “เธอจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ทำไม”
น้ำหนึ่งน้ำท่วมปาก “ฉัน...ฉัน”
พจนีย์เอามือง้างปากบังคับให้น้ำหนึ่งบอก “พูดออกมาสิ พูดออกมา”
น้ำหนึ่งเบือนหน้าหนี “อย่า...ฉันเจ็บ”
“งั้นเธอก็พูดออกมา เธอจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ทำไม? เผื่อฉันจะสงสารให้เธอใช้สามีคนเดียวกับฉันได้”
น้ำหนึ่งก้มหน้าร้องไห้ ไม่รู้จะบอกยังไง พจนีย์ยิ่งมองยิ่งหมั่นไส้อยากตบ
“บอกมาน้ำหนึ่ง บอกมา! ไม่งั้น ฉันจะตบเธอปากแตก เอาให้เรียกชื่อพี่เพชรไม่ได้เลยคอยดู” ไม่พูดเปล่าพจนีย์เงื้อมือจะตบแล้ว
มะพร้าววิ่งเข้ามา ร้องลั่น
“อย่า”
น้ำหนึ่งกับพจนีย์หันขวับ มะพร้าวรีบเข้ามาประคองน้ำหนึ่ง ปากต่อว่าพจนีย์
“ไอ้ฉันรึเป็นห่วง....อุตส่าห์ตามมา...แต่คนป่วยกลับกลายเป็นมือตบไปซะนี่” หันมาทางน้ำหนึ่ง “มะคุณ ลุกๆๆๆๆๆ” พร้อมกับประคองให้ลุกขึ้น
“ถึงเธอจะช่วยฉัน แต่เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของฉันนะมะพร้าว” พจนีย์บอก
“ฉัน เผือก ว่างั้นเถอะ” มะพร้าว
“ไม่ใช่ ผ.ผึ้ง แต่เป็น ส.เสือ” พจนีย์ว่า
“โอเค...สะเกือกก็ได้ นี่!มันเรื่องอะไรกันคุณ ยังไม่ทันจะหายป่วยเลย ตามมาตบคนซะแล้ว
“นังนี่มันแย่งผัวฉัน!”
“หา” มะพร้าวมองน้ำหนึ่งทำหน้าแหยๆ ไม่อยากเชื่อ “นี่...แย่งผัวคุณ!”
มะพร้าวปล่อยมือออกจากน้ำหนึ่งทันที ในท่าทีน่าขัน
เพชรยืนอยู่ในท่าทีกลัดกลุ้ม น้ำหนึ่งเดินกระเซอะกระเซิงมา เห็นเพชรเอามือข้างหนึ่งก่ายหน้าผาก ซบหน้าลงกับกำแพง ดวงตาของเพชรหม่นเศร้า
น้ำหนึ่งสงสาร และห่วงเพชรยิ่งกว่าตัวเอง คิดกังวลอยู่ในใจ
“น้ำหนึ่งไม่อยากเห็นพี่เพชร เศร้าอย่างนี้เลย”
ทับทิมนั่งหน้าเคร่งอยู่ในห้องรับแขกบ้านพักหมอณัฐ ท่าทางโกรธจัด อลิสทำหน้าหงุดหงิด ขณะที่หมอณัฐขอโทษขอโพย
“ผมต้องขอโทษคุณน้าแล้วก็คุณพลอยมากๆ นะครับ ที่อลิสเข้าไปยุ่งวุ่นวายที่นั่น”
“อลิสไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายอะไรเลย” อลิสแย้ง
หมอณัฐขึ้นเสียง “เงียบอลิส”
“จะให้อลิสเงียบได้ยังไง? อลิสไม่ได้ทำอะไรผิด คุณพลอยทำตัวเองตะหาก”
“นี่เหรอที่พลอยทำตัวเอง”
ทับทิมว่าพลาง กดคลิปในมือถือ แล้วยื่นมาให้ดู อลิสและหมอณัฐเห็นใบหน้าพลอยเลือดท่วม สองคนตกใจไปคนละแบบ หมอณัฐคิดไม่ถึงว่า เยอะขนาดนี้เลยเหรอ? ส่วนอลิสตกใจปนงง ว่ามันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง หมอณัฐเหลียวขวับมามองอลิส อลิสรีบปฏิเสธเสียงหลง
“เปล่านะคะอลิสไม่ได้ทำ...แล้วตอนที่เกิดเรื่อง แผลคุณพลอยก็ไม่ได้เยอะขนาดนี้”
ทับทิมเยาะ “คุณหมายความว่า...พลอยทำร้ายตัวเอง”
อลิสเหวอ ยังไม่ทันตอบ หมอณัฐรีบบอก
“ผมต้องขอโทษมากๆ ครับ ต่อไปผมจะไม่ให้อลิสเข้าไปยุ่งวุ่นวายที่บ้านเชิงเขาอีก”
อลิสขัดใจมาก “พี่หมอ”
หมอณัฐเงียบ
อลิสจะเงียบได้ยังไง อลิสไม่ได้ทำอะไรผิด....อลิสอยู่เฉยๆ คุณพลอยก็มาทำร้ายอลิสเอง
“คุณเดินเข้าไปหาพลอยถึงบ้าน แล้วคุณก็บอกว่าพลอยทำร้ายคุณ”
อลิสเถียง “ก็ใช่น่ะสิ”
“อลิส พอได้แล้ว...ผมขอโทษอีกครั้งครับคุณน้า...ต่อไปผมจะไม่ให้อลิสไปวุ่นวายที่บ้านเชิงเขาเด็ดขาด”
“ล่ามโซ่ไว้ก็ดีนะคะคุณหมอ ท่าทางจะดุและบ้าไม่เบา” ทับทิมบอก
อลิสตาขวาง ทับทิมมองด้วยสายตาเหยียดเย้ย
“นั่นประไร....แยกเขี้ยวจะกัดแล้ว...!” ทับทิมฟ้อง
หมอณัฐหันกลับไปมองดุ “อลิส”
“น้ากลับก่อนดีกว่า กลัวอดใจไม่ไหว จะเอามีดฟันคอหมาบ้า”
ทับทิมเดินเชิดออกไป อลิสเต้นเหยงๆ
“ฉันก็จะเอามีดฟันคอคนบ้าเหมือนกัน”
หมอณัฐดุ “อลิส”
อลิสเหวี่ยง วีน เอาแต่ใจตามประสา “เรียกอยู่ได้...รู้แล้วว่าชื่ออลิส...” สายตามองตามทับทิมไปอย่างฉุนเฉียว “ลูกตัวเองบ้า ยังมาว่า คนอื่นบ้าอีก”
หมอณัฐหน่ายหนัก “พี่ไม่สงสัยอะไรอีกแล้ว ทำไมอลิสถึงไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะตรรกอลิส คือ เอาแต่โทษคนอื่น บ้า เห็นแก่ตัว!” หมอหนุ่มเดินพรวดออกไปด้วยความโกรธ
อลิสใจแป้วเพราะแคร์หมอณัฐมาก “พี่หมอ! ทำไมไม่ฟังกันบ้าง อลิสไม่ได้ทำอะไรเค้าจริงๆ นะ”
อลิสได้แต่ฮึดฮัดขัดใจ ก่อนมองไปตามหลังทับทิมด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ยิ่งดูก็ยิ่งแปลกทั้งแม่ทั้งลูก” อลิสคิดในใจ หรี่ตาด้วยความสงสัย “ยัยน้ำหนึ่ง” ก่อนจะพูดออกมาอย่างมุ่งมั่น ฉันกลับไปที่บ้านเชิงเขาอีกแน่”
ท่าทางของอลิสทั้งอยากรู้ และไม่ยอม!
ตกตอนกลางคืน สภาพใบหน้าของพลอยเห็นเป็นรอยแผลมากมาย ทับทิมมองอย่างแปลกใจ ขณะเดินเข้ามาหาลูกสาวในห้องนอน หลังกลับจากบ้านหมอณัฐ
“มันมากกว่าเมื่อวาน” ทับทิมมองมาด้วยความเป็นห่วง “อย่าบอกนะว่าพลอย...”
พลอยยิ้มพูดสวนขึ้นมาทันที “มันอักเสบ”
“พลอย!” ทับทิมห่วงลูกสาว มือไม้สั่นขณะเอื้อมมือมาแตะใบหน้าพลอยเบาๆ “แม่เป็นห่วง!”
“แม่ไม่ต้องห่วง คนอย่างพลอย ไม่เคยคิดอะไร ทบเดียว...พลอยทำอะไร พลอยหวังผลเสมอ ถึงตัวเองจะเจ็บ พลอยก็จะแลก”
ทับทิมตะลึง อึ้ง มองพลอยเสียใจ เจ็บปวดใจ ขณะที่พลอยพึมพำพูดออกมา
น้ำเสียงพลอยแผ่วเบา แต่เจ็บลึก “พลอยเคยเสียพ่อไปแล้ว...พลอยจะไม่ยอมเสียอะไรไปอีก” พลอยร้องไห้ออกมา แต่น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเข้มแข็ง “ถึงต้องแลกกับความเป็นคน พลอยก็จะแลก”
พลอยเข็นรถเข็นออกไป ทับทิมมองตาม คราวนี้ทับทิมกลับเป็นฝ่ายที่เสียน้ำตาแทน
ทับทิมเดินเข้ามาในห้องตัวเอง ทันทีที่ประตูปิดลง ทับทิมก็เข้าไปหยิบรูปของจินดาขึ้นมามองท่ามกลางความมืด เห็นใบหน้าหล่อเหลาของจินดาสะท้อนออกมาจากกรอบรูป เป็นประกายวาววับเสียงของหมอณัฐดังขึ้นในหู
“รุ่นพี่ของหมอบอก เท่าที่ตรวจดูสุขภาพจิต คุณพลอยโหยหา ต้องการความรัก อาจจะเป็นเพราะ...เธอขาดพ่อ พ่อที่รักเธอมาก”
ที่บ้านหลังเก่า จินดาอุ้มเด็กหญิงพลอย แล้วจับโยนขึ้นฟ้าไปมา แบบที่พ่อลูกคู่นี้ชอบเล่นกับลูก บางจังหวะจินดาทำท่าจะเหวี่ยงพลอยขึ้นไปในอากาศ แต่แล้วกลับไม่เหวี่ยงจริง เด็กหญิงพลอยประดับหัวเราะเอี๊กอ๊ากชอบใจ บ่งบอกให้รู้เด็กน้อยชอบความโลดโผนไม่เบา พอเล่นเสร็จจินดาก็อุ้มพลอยมากอด จับลูกสาวมานั่งบนไหล่ สองคนพ่อลูกหัวเราะร่าเริงกัน บ่งบอกให้รู้จินดารักพลอยมาก ทับทิมมองภาพนั้นอย่างปลาบปลื้ม ดวงหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยดูช่างมีความสุขเหลือเกิน
ทับทิมคิดถึงความหลัง มองดูรูปจินดาด้วยความขื่นขม โทษตัวเองอยู่นั่นแล้ว
“เพราะแม่ แม่...ทำให้พลอยเป็นแบบนี้ แม่ขอโทษพลอย..แม่ขอโทษ!”
ทับทิมร้องไห้โฮ น้ำตาของทับทิมหล่นลงบนกรอบรูป ทว่าในสายตาของทับทิมกลับเห็นหยดเลือดทะลักขึ้นมาจากกรอบรูป ทับทิมร้องกรี๊ด เหวี่ยงกรอบรูปของจินดาทิ้ง นั่งหวาดผวา ตัวสั่นงันงก ทับทิมมองแล้วบอกกับตัวเอง
“ไม่จริง!มันเป็นแค่ภาพลวงตา”
ทับทิมลนลานคว้ายาระงับประสาทมากิน พยายามข่มตาหลับ แต่หลับไม่ลง เลยต้องนั่งกอดเข่าเจ่าจุกทั้งคืน
มารกามเทพ ตอนที่ 7 (ต่อ)
คืนเดียวกันนวลเดินตรวจตราบริเวณรอบๆ ตึกตามปกติ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นดาราณียืนกอดอกซึมเศร้าอยู่ นวลมองอย่างเห็นใจ พร้อมกับคิดในใจ
“ไม่ใช่คุณหญิงคนเดียวหรอกค่ะที่ทุกข์ เพราะความพลัดพราก นวลเองก็ทุกข์เหมือนกัน”
ครู่ต่อมานวลเปิดประตูเข้ามาในห้อง เดินไปนั่งแหมะที่เตียงท่าทางซึมเศร้า ค่อยๆ เปิดลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงหยิบกระเป๋าใบเล็กขึ้นมา แล้วหยิบรูปใบหนึ่งขึ้นมาดู เห็นเป็นรูปทับทิมและนวล ในวัยสาว กอดลูกของตัวเอง เด็กหญิงพลอย และเด็กชายน้อย หรือเพชรวัยเด็ก ในวันที่นวลแวะมาเยี่ยมทับทิม และถ่ายรูปด้วยกันเป็นที่ระลึก
“เธอพาลูกฉันไปอยู่ที่ไหน ทับทิม น้อย...แม่คิดถึงลูก..คิดถึงลูก”
นวลกอดรูป ร้องไห้โฮ คิดถึงลูกชายเหลือเกิน ไม่รู้ลูกชายอยู่หรือตาย
วันต่อมา เพชรอยู่ในห้องกับพลอย และกำลังบอกพลอยอย่างอ่อนโยน
“ผมจะพาพี่พลอยไปหาหมอ พี่พลอยไม่ต้องห่วงนะครับ...ยังไง พี่พลอยก็ต้องสวยเหมือนเดิม”
พลอยร้องไห้กิริยาน่าสงสาร “พี่ไม่ได้ห่วงความสวย พี่แค่รู้สึกสมเพชตัวเอง ขนาดพี่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ ทำไมเค้าถึงจ้องทำร้ายพี่อีก”
เพชรกอดพลอยเอาไว้ พลอยดวงตาวาววับ ลุ้นว่าเพชรจะพูดอะไร
“อาจจะไม่เกี่ยวกับน้ำหนึ่งก็ได้นะครับ”
พลอยผิดหวังมาก ผละออกทันที “เพชร”
เพชรคว้ามือพลอยไว้ “เท่าที่ผมรู้...ผู้หญิงคนนั้นเค้าไม่ถูกกันกับน้ำหนึ่ง”
พลอยหรี่ตาท่าทีสงสัย และคิดอะไรอยู่ ก่อนจะปรับสายตาลง เป็นน่าสงสารบอกเสียงแผ่ว
“เพชรไม่เชื่อพี่...ไม่เป็นไร ถ้าเพชรเข้าข้างน้ำหนึ่ง...ก็ไม่เป็นไร...”
พลอยผละจากเพชรจะตะกายขึ้นเตียง แต่แกล้งทำตัวหล่นลง ร้องลั่นเรียกร้องความสนใจ
“โอ๊ย”
เพชรปราดเข้ามา
“พี่พลอย...”
พลอยปัดมือออก “ไม่เป็นไร พี่ช่วยตัวเองได้...ดีซะอีก ให้พี่ฝึกไว้ เพราะต่อไป พี่คงต้องอยู่คนเดียว” พลอยหันไป พยายามจะลุก ด้วยการช่วยตัวเอง
เพชรคว้ามือพลอยเอาไว้ “ไม่ครับพี่พลอย...ยังไงผมก็จะอยู่ข้างพี่พลอย”
พลอยมองตาเพชร “แต่พี่รู้...เพชรชอบน้ำหนึ่ง”
จังหวะนี้ น้ำหนึ่งเดินมาที่หน้าห้องพลอย ได้ยิน คำพูดของพลอยพอดี น้ำหนึ่งหยุดฟัง
เพชรเงียบ สับสน พลอยยิ่งมองยิ่งเสียใจ
“เพชรชอบน้ำหนึ่งใช่มั้ย” น้ำหนึ่ง ลุ้นระทึก พลอยว่าต่อ “เพชรชอบน้ำหนึ่งจริงๆ ด้วย
น้ำหนึ่ง เหมือนโล่งใจ พลอยมองเพชรอย่างน้อยใจ
“ถ้าเพชรชอบน้ำหนึ่งขนาดนั้น เพชรหย่ากับพจนีย์เลยก็ได้ ในเมื่อความจริง เพชรกับพจนีย์ ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว”
น้ำหนึ่งตะลึง เพชรนิ่ง พลอยมองอย่างช้ำใจ พูดต่อเสียงเครือ
“เพชรกับพจน์ก็แค่แต่งกันในนาม เพราะฉะนั้นมันไม่ยากหรอก ที่จะเลิกกันน่ะ”
“พี่พลอย”
“พี่รู้ว่าเพชรลำบากใจ พี่เองก็ลำบากใจ เพราะถ้าน้ำหนึ่งไม่ใช่ลูกของท่านเกรียงศักดิ์ พี่คงยินดีที่จะรับน้ำหนึ่งมาเป็นน้องสะใภ้ได้..แต่นี่ ไม่ใช่....พี่เห็นหน้าน้ำหนึ่งทีไร พี่เจ็บหัวใจทุกที มันเหมือนพี่..เห็นหน้าท่านเกรียงศักดิ์” พลอยพูดแล้วร้องไห้โฮแบบอดกลั้นไม่อยู่ “เค้าทำร้ายพี่นะเพชร เค้าทำร้ายพี่”
เพชรคว้าตัวพลอยมากอดปลอบประโลม “ผมเข้าใจครับพี่พลอย” ก่อนจะฝืนใจบอก “ยังไง ผมไม่ได้ชอบน้ำหนึ่ง และผมไม่มีทางที่จะชอบน้ำหนึ่ง”
“เพชรกำลังฝืนใจตัวเอง”
น้ำหนึ่งหน้าละห้อย สงสารเพชร ยินเสียงเพชรบอกพี่สาวแผ่วๆ
“ยังไง...ผมก็อยู่ข้างพี่พลอย ถึงผมจะรู้สึกดีกับน้ำหนึ่งขนาดไหน ผมก็จะตัดใจ”
ดวงตาของพลอยเป็นประกายวาววับ ด้วยความโกรธ ส่วนน้ำหนึ่ง น้ำตาไหล ยิ่งสงสารเพชรเข้าไปใหญ่
เพชรพูดพลางอุ้มพลอยขึ้นเตียง ดวงตาของพลอยที่มองมายังเพชรมีแต่ความเสียใจ รู้สึกเหมือนจะเสียของรักไป ได้แต่พูดเสียงแผ่ว
“เพชรรักน้ำหนึ่งมากกว่าพี่”
“ผมไม่มีทางรักใครเท่าพี่พลอย กินยานะครับ จะได้พักผ่อน”
เพชรเอายาระงับประสาท ยาประจำตัวของพลอยให้พลอยกิน พลอยมองเพชร
“ทานยานะครับ พี่พลอยจะได้สบาย”
เพชรบอกในท่าทีอ่อนโยน
เพชรกุมมือพลอยไว้ พลอยมองหน้าเพชร เห็นแววตาเหนื่อยล้าอยู่ในนั้น พลอยน้ำตาไหล ทั้งน้อยใจ ทั้งเสียใจ เพชรเอามือเช็ดน้ำตาให้
“ไม่เอาครับ พี่พลอย อย่าร้องไห้ ยังไง ผมก็อยู่ข้างพี่พลอย”
พลอยมองจ้องตาเพชร ราวกับจะค้นหาความจริงให้เจอ เพชรจับมือพลอยบีบแน่น พยักหน้าเป็นเชิงให้กินยา พลอยกินยาแล้วมองเพชรก่อนจะหลับตาลงไป
เพชรมองพลอย สายตาสับสนหนัก มีทั้งความกลัดกลุ้ม ห่วงใย สงสาร ลำบากใจปนอยู่ในนั้น จนเมื่อเห็นว่าพลอยนอนหายใจสม่ำเสมอ เพชรจึงลุกออกไป
แต่ทันทีที่ประตูปิดลง พลอยก็ลืมตาขึ้นมา ดวงตาบอกว่าระแวง สงสัย ไม่เชื่อเลย
ส่วนที่ด้านนอก ท่ามกลางความเงียบสงัด น้ำหนึ่งเดินร้องไห้ออกมา เสียงของพลอยและเพชรดังสลับกันวุ่นวนตีกันไปหมด
“เพชรกำลังฝืนใจตัวเอง”
“ถึงผมจะรู้สึกดีกับน้ำหนึ่งขนาดไหน ผมก็จะตัดใจ”
“ถ้าเพชรชอบน้ำหนึ่งขนาดนั้น เพชรหย่ากับพจนีย์เลยก็ได้ ในเมื่อความจริง เพชรกับพจนีย์ ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว พลอยกับพจน์ก็แค่แต่งกันในนาม เพราะฉะนั้นมันไม่ยากหรอก ที่จะเลิกกันน่ะ”
น้ำหนึ่งสุดแสนกังวล และว้าวุ่นใจ สงสารเพชรจับใจ
“ตกลงมันคืออะไร? พี่เพชร”
ด้านพลอยลุกขึ้นมานั่ง ค่อยๆ จับเตียง โผลุกขึ้น พลางคว้าไม้เท้าขึ้นมาพยุงกาย ค่อยๆ พยุงกายตัวเองอย่างยากเย็น แต่ลุกขึ้นมาได้
เพชรเดินมาทางด้านหลัง เห็นน้ำหนึ่งร้องไห้ หัวใจของเพชรก็อ่อนยวบ
“น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งสะดุ้งขวับหันมา “พี่เพชร”
เพชรพูดด้วยเสียงอ่อนโยน ท่าทีเหนื่อยใจ “กลับไปเถอะ กลับไป”
“ไม่...น้ำหนึ่งไม่กลับ” น้ำหนึ่งโผเข้ามาหากอดเพชรพลางบอก “น้ำหนึ่งจะอยู่กับพี่เพชร”
“ทั้งๆ ที่ต้องแลกกับการถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยน่ะเหรอ”
น้ำหนึ่งมองเพชรด้วยสีหน้าจริงจัง ขณะพยักหน้า “ค่ะ...เพราะน้ำหนึ่งรักพี่เพชร และน้ำหนึ่งก็รู้ว่าพี่เพชรรักน้ำหนึ่ง”
“น้ำหนึ่ง”
“ต่อให้พี่เพชรปฏิเสธยังไง น้ำหนึ่งก็ไม่เชื่อ...เพราะถ้าพี่เพชรไม่รักน้ำหนึ่ง พี่เพชรคงทำลายน้ำหนึ่งไปแล้ว”
“น้ำหนึ่งกำลังยั่วพี่”
“จะว่าน้ำหนึ่งให้ท่าก็ได้...แต่น้ำหนึ่งรู้...พี่เพชรไม่ทำ พี่เพชรไม่มีวันทำร้ายน้ำหนึ่ง”
เพชรบอกเตือนเสียงเข้ม “อย่าไว้ใจผู้ชาย
“ถ้าผู้ชายคนนั้นคือพี่เพชร” น้ำหนึ่งบอกกลับอย่างเด็ดเดี่ยว “น้ำหนึ่งไว้ใจค่ะ”
“น้ำหนึ่ง”
เพชรโมโหในความรั้น กระชากร่างของน้ำหนึ่งเข้าหา ทำท่าจะก้มลงจูบ น้ำหนึ่งไม่หลบ ไม่ขัดขืน แต่มองเพชรด้วยสายตาเว้าวอน จนเพชรโมโห
“อย่าท้าพี่นะน้ำหนึ่ง...”
น้ำหนึ่งจ้องตาแป๋ว “น้ำหนึ่งไม่ได้ท้าค่ะ”
เพชรคว้าตัวน้ำหนึ่งเข้ามาและโน้มหน้าก้มลงจูบ โดยไมรู้ว่าที่ด้านหลังพลอยถือไม้เท้าหลบมุมแอบมอง หัวใจแทบสลาย บอกตัวเองในใจ
“เพชรรักเด็กคนนี้จริงๆ”
พลอยสะบัดหน้าหันหลังกลับ ขยับไม้เท้าเดินไป ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อนึกถึงอดีต
วันนั้นพลอยแต่งตัวสวยเฉิดฉาย เดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาภายในคฤหาสน์ ดวงหน้าสวยเย้ายวน
แต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นเกรียงศักดิ์กอดประคองดาราณี และน้ำหนึ่งในชุดนักเรียนมัธยมต้น เดินลงมาจากบันได ทั้งสามดูเป็นครอบครัวอบอุ่น เกรียงศักดิ์หอมดาราณีและน้ำหนึ่ง พลอยน้ำตาร่วง รีบหลบมุม
พลอยเดินพยุงกายด้วยไม้เท้า คิดเรื่องวันนั้นแล้วน้ำตาร่วง ได้แต่ตะโกนก้องในใจ
“ฉันไม่ยอม...ฉันไม่ยอม....คนอย่างฉัน จะไม่เหลือใครเลยเหรอ ฉันไม่ยอม”
พลอยซบหน้าเข้าหากำแพง ร้องไห้โฮๆ รู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างเหลือเกิน!
ทางด้านเพชรนิ่งงันไปทันที ที่น้ำหนึ่งไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน เพชรถอนตัวออก น้ำหนึ่งบอกพร้อมรอยยิ้ม
“พี่เพชรเป็นคนดี พี่เพชรทำร้ายน้ำหนึ่งไม่ได้หรอกค่ะ...” น้ำหนึ่งมองเพชรอย่างเทิดทูน “เพราะอย่างนี้...น้ำหนึ่งถึงรักพี่เพชร” พร้อมกันนั้นน้ำหนึ่งสวมกอดเพชรเอาไว้ “พี่เพชรอย่าผลักใสให้น้ำหนึ่งไปไหนเลยนะคะ...ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น น้ำหนึ่งพร้อมจะสู้ไปกับพี่เพชร...น้ำหนึ่งจะสู้ จนกว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย นะคะพี่เพชร อย่าไล่น้ำหนึ่งให้ไปไหน เราจะสู้ไปด้วยกัน..นะคะ”
“โธ่เอ๊ย! น้ำหนึ่ง”
เพชรใจอ่อนยวบ คว้าตัวน้ำหนึ่งมากอดปลอบประโลม เอ็นดูในความไร้เดียงสา น้ำหนึ่งรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่อบอุ่น มั่นคงขึ้น น้ำหนึ่งกอดตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ดวงตามุ่งมั่น
“น้ำหนึ่งจะทำทุกอย่าง...จนกว่าพี่พลอยจะยอมให้อภัย”
เพชรมองน้ำหนึ่งแล้วได้แต่ถอนหายใจ สงสารเหลือเกิน
ฝ่ายพจนีย์หน้าหงิกงออยู่ในบ้านหลังเล่าเรื่องถูกทำร้ายให้น้องสาวฟังจบ จนรจนาถาม
“ที่พี่พจน์หายไป เพราะคุณน้ำหนึ่ง”
“ก็ใช่น่ะสิ..ตอนแรก พี่ก็นึกว่าผี...แต่ผีมันมีในโลกที่ไหนล่ะ มันต้องเป็นคนของนังน้ำหนึ่งมาสร้างสถานการณ์ให้พี่ไปจากพี่เพชรแน่ๆ”
“ก็อาจจะใช่น่ะคะ...เพราะท่าทางพี่เพชร รักเค้าออก”
พจนีย์หันขวับมาทางรจนา มองตาขวางไม่พอใจ “แกไปเห็นตั้งแต่เมื่อไร่ ว่าพี่เพชรรักนังนั่น”
“ก็ตอนที่รจไปตามหาพี่พจน์น่ะสิคะ...” รจนาทำตาแบ๊ว “พี่พจน์หายไปทั้งคน พี่เพชรไม่ห่วงเลย แต่ห่วงคุณน้ำหนึ่ง”
พจนีย์ฟังแล้วนิ่งไปนิด “พี่ก็ว่าพี่เพชรรักยัยน้ำหนึ่ง แต่พี่พลอยกีดกัน มันต้องมีอะไรแน่ๆ ว่ามั้ยรจนา”
พจนีย์ถามรัวเร็ว นัยน์ตาปกปิดความอยากรู้อยากเห็นไม่อยู่เลย
ไม่นานต่อมา พลอยนั่งรถเข็นอยู่ ถามรจนาที่นั่งอยู่กับพื้นอย่างตกใจ รจนานั่งพื้นประจบเอาใจพลอย
“อะไรนะ? พจนีย์น่ะเหรอพูดอย่างนั้น”
“ค่ะ...พี่พจน์อยากรู้มาก....ว่าทำไม ถึงต้องเป็นเมียกำมะลอ...รจกลัว...กลัวว่าพี่พจน์จะเผลอหลุดปาก แล้วความเดือดร้อนจะมาหาพี่พลอย”
พลอยบอกเสียงอ่อนโยน “ขอบใจมากจ้ะรจที่มาบอกพี่ แต่มันไม่ได้มีอะไรหรอก...พี่แค่อยากให้มีคนที่พี่ไว้ใจมาดูแลเพชร”
รจนามองตาแป๋ว “พี่พลอยมีบุญคุณกับรจ รจดูแลพี่เพชรให้พี่พลอยได้นะคะ”
พลอยยื่นมือมาเชยคางอย่างเอ็นดู “รจนี่เป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ ซักวัน...พี่คงได้ขอความช่วยเหลือจากรจ”
“รจยอมทำทุกอย่างเพื่อพี่พลอยค่ะ เพราะพี่พลอยมีบุญคุณ”
“ขอบใจมากจ้ะรจ...ขอบใจจริงๆ งั้นอันดับแรก...”
รจนาถามเสียงตื่นเต้น “พี่พลอยอยากให้รจทำอะไรคะ”
“จำคนที่ชื่ออลิส ได้ใช่มั้ย”
รจนาจำได้ “ที่มาหาพี่พลอย เมื่อหลายวันก่อน”
พลอยตาเจ้าเล่ห์ “ใช่..พี่อยากรู้...ว่าเค้าเป็นใคร และเค้าเกี่ยวอะไรกับน้ำหนึ่ง”
“รจจะรีบสืบมาให้พี่พลอยเร็วที่สุดค่ะ”
รจนายิ้มประจบ ส่วนพลอยยิ้มพอใจและคิดในใจ
“เธอเดินเข้ามาเป็นหมากอีกหนึ่งตัวของฉันเองนะรจนา”
ขณะที่หมอณัฐขับรถออกไปทำงาน อลิสที่หลบมุมอยู่ในบ้านพักของหมอณัฐ โผล่หน้าออกมา
“มีคนไข้เยอะๆ นะคะพี่หมอ....เข้าเวรแทนเพื่อนด้วยก็ดี เข้าถึงเที่ยงคืนเลย”
อลิสหัวเราะคิก รีบย่องออกไป แต่หางตากลับเห็นร่างของรจนาลับๆล่อๆอยู่ อลิสมองด้วยสงสัย แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ รีบเดินออกไป แต่ปรายตามองรจนาตลอดเวลา รจนาพาซื่อ รีบเดินตามไป
ทับทิมรู้เรื่องก็ถามพลอยด้วยความสงสัย เพราะไม่มั่นใจ
“ให้ยัยรจนาไปสืบเรื่องยัยอลิส มันจะได้เรื่องเหรอลูก”
“อยากได้เรื่อง...พลอยก็จัดให้แล้วไงคะ”
ทับทิมสงสัยไม่คลาย พลอยพูดต่อ
“ยัยรจนาก็โง่แสนโง่ ทำเป็นแอ๊บซื่อแอ๊บหวาน เฮอะ! คงจะคิดว่าตัวเองฉลาด ส่วนยัยอลิสมันชอบแส่ พลอยจะจัดการมัน แล้วโยนความผิดให้ยัยรจนา!”
พลอยพูดเรื่องทำร้ายคน ด้วยใบหน้าเฉยเมย ราวกับพูดเรื่องลมฟ้าอากาศ
มารกามเทพ ตอนที่ 7 (ต่อ)
ฝ่ายอลิสปรายตามองรจนาตลอด แล้วจนเมื่อสบโอกาสจึงรีบหลบมุม รจนาที่เดินตามมา ไม่เห็นอลิสแล้ว ได้แต่พึมพำ
“อ้าว!หายไปไหนแล้ว”
อลิสที่ซ่อนตัวอยู่ กระโจนออกมา “อยู่นี่” แล้วผลักรจนาเต็มแรง
รจนาล้มลงร้องลั่น “ว้าย!”
อลิสตกใจ “เธอ! มันเรื่องอะไรยะ ถึงได้มาทำตัวเป็นโจรมุมตึก หลบอยู่ตามซอกตามมุม มาแอบตามฉันน่ะ เอ๊ะ!” อลิสยื่นหน้าเข้ามามองรจนา “หรือว่าเป็นเห็บ”
“เปล่านะ” รจนาปฏิเสธ
“แล้วเธอตามฉันทำไม” อลิสชะงักคิด “อ้อ!จำได้แล้ว เธออยู่บ้านเชิงเขา เธอมาสืบเรื่องฉันให้ยัยคุณพลอยใช่มั้ย”
รจนาหน้าตาตื่นกลัว ท่าทีเลิ่กลั่กตามประสา อลิสเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผาก
“อย่าหวังเลย หน้าตาเซ่อๆ โง่ๆ อย่างนี้ จะสืบอะไรจากฉันได้..มีแต่จะ โดนขยี้เป็นเศษขยะกลับไป”
อลิสผลักรจนาอย่างแรงจนล้มลงอีก รจนาร้อง “โอ๊ย” ถูกอลิสด่าซ้ำ
“ไม่ต้องมาทำสำออย แน่ะ! มองหน้าฉัน หมายความว่าอะไรยะ”
รจนาลอยหน้าลอยตา “ก็อยากมีเรื่อง”
อลิสสวมมาดไฮโซสก๊อย “อยากมีเรื่อง...งั้น...ฉันจะจัดให้” พร้อมกับกระชากผมรจนา “ยัยพลอยมันทำอะไรฉัน ฉันก็จะทำกับเธออย่างนั้นเหมือนกัน”
อลิสกระชากผมรจนาจนหน้าหงายแล้วตบฉาดใหญ่ รจนาไม่สู้มองด้วยสายตาท้าทาย อลิสงง แต่ตบอีกฉาดแต่รจนาทำเฉย เฉยจนอลิสกลัว ต้องเอามือออก
“ประสาทหรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่า...เธออยากตบฉันไม่ใช่เหรอ...ฉันก็ให้เธอตบไง” รจนาจับมืออลิส “ตบฉันสิ ตบเลยๆ”
รจนาเอามืออลิสให้ตบตัวเอง อลิสสะบัดมือออกอย่างหวาดกลัว
“ไม่เอา! ฉันไม่ตบ เธอก็เหมือนกับยัยพลอยแหละ ประสาท! โอ๊ย! ฉันไม่น่ายุ่งกับพวกเธอเลย”
อลิสกลัวรจนา วิ่งหนีกลับไปทางเดิม ขณะที่รจนากลับยิ้มพอใจ ท่าทางเหมือนคิดอะไรอยู่
เพชรอยู่ที่รถแล้ว ขณะหันมาถามน้ำหนึ่ง
“ไม่กลับกรุงเทพฯกับพี่แน่นะ”
“น้ำหนึ่งบอกพี่เพชรแล้วไงคะ ว่าจะอยู่ดูแลรับใช้ จนกว่าพี่พลอยจะใจอ่อน”
“งั้นพี่จะไปรับตาหวาน มาอยู่เป็นเพื่อนน้ำหนึ่งนะ”
น้ำหนึ่งดีใจตาเป็นประกาย ยกมือไหว้ประจบ “ขอบคุณมากค่ะพี่เพชร”
เพชรยิ้มมองด้วยความเอ็นดู ดึงตัวน้ำหนึ่งมาจูบที่หน้าผากแผ่วเบา “อดทนนะ”
“น้ำหนึ่งจะอดทน...ให้สมกับเป็น เพชรน้ำหนึ่ง อย่างพี่เพชรค่ะ”
เพชรคลึงผมด้วยความเอ็นดู “เรานี่...ขี้ประจบจริงๆ”
“เดินทางปลอดภัยค่ะพี่เพชร”
“แล้วพี่จะรีบกลับมา”
เพชรทำท่าจะขึ้นรถ รจนาที่หน้าตาบวมช้ำ วิ่งเข้ามา
“พี่เพชรคะ?” ท่าทางร้อนรน “รจ...มีเรื่องไม่สบายใจ ต้องบอกพี่เพชรค่ะ”
เพชรมองหน้าน้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งมองเพชรเป็นห่วง ไม่ได้หึง
“นะคะพี่เพชร...สละเวลาฟังรจซักนิด มันเรื่องใหญ่จริงๆ ค่ะ”
น้ำหนึ่งมองเพชรพยักหน้าเป็นเชิงให้ไป รจนาลอบมองอย่างไม่พอใจ แต่ต้องก้มหน้าไม่แสดงท่าทีใดๆ
เพชรเดินนำไป รจนาเดินตาม น้ำหนึ่งมองตามอย่างเป็นห่วง
ที่บ้านเชิงเขาอีกมุม เพชรย้อนถามรจนาท่าทีตกใจ
“อะไรนะ พี่พลอยน่ะเหรอ ให้รจไปสืบเรื่องคุณอลิส”
“ค่ะ...แล้วพอรจไป...” รนาร้องไห้สะอึกสะอื้น “รจก็ถูกคุณอลิสทำร้ายอย่างนี้...พี่เพชรต้องช่วยรจนะคะ”
พูดจบรจนาก็ผวาตัวกอดเพชรท่าทางน่าสงสาร เพชรเอามือของรจนาออก ขณะบอกว่า
“ได้...พี่จะคุยกับพี่พลอยให้”
รจนาตกใจ “อย่านะคะ..ถ้าพี่เพชรทำอย่างนั้น พี่พลอยโกรธรจแน่”
“แล้วรจจะให้พี่ทำยังไง”
“พี่พลอยมีบุญคุณกับรจ...รจ...ยอมรับใช้พี่พลอยทุกอย่างค่ะ ขอแค่...พี่เพชรรับฟังรจบ้างก็พอ”
พูดจบรจนาก็กอดเพชรอีก น้ำหนึ่งมองอยู่หน้าละห้อย แม้ไม่ได้หึง แต่รู้สึกไม่สบายใจ
ทับทิมมองดูเหตุการณ์อยู่อีกมุม สีหน้าทับทิมเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน สะใจ
เพชรไปแล้ว น้ำหนึ่งนั่งซึมไม่สบายใจอยู่มุมหนึ่ง ทับทิมเดินเข้าไปหา พูดจาเย้ยหยัน
“คิดจะอยู่บ้านนี้มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดหรอก”
“ยังไงน้ำหนึ่งก็จะอยู่ค่ะ”
ทับทิมมองอย่างสมเพช “ถ้าฉันเป็นพ่อแม่เธอ คงกระอักเลือดตาย...ที่มีลูกสาวหน้าด้าน เที่ยวมาวิ่งตามเป็นเมียน้อยคนอื่น”
น้ำหนึ่งพูดบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมไม่ได้เถียง
“แต่มันก็เป็นสิ่งที่คุณน้ากับพี่พลอยต้องการไม่ใช่เหรอคะ ให้น้ำหนึ่งมาเป็นเมียน้อยพี่เพชร”
ทับทิมฉุน “นังน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งยกมือไหว้ “ขอโทษค่ะ น้ำหนึ่งไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณน้าโกรธ...น้ำหนึ่งแค่อยากจะบอก น้ำหนึ่งยอมทำลายชื่อเสียงตัวเองทุกอย่าง เพื่อชดใช้ความผิดให้คุณพ่อ..น้ำหนึ่งจะอยู่ที่นี่ จนกว่าคุณน้ากับพี่พลอยจะให้อภัยค่ะ”
“ไม่มีวัน..มันไม่มีวันนั้นหรอกน้ำหนึ่ง”
พูดจบทับทิมก็สะบัดหน้าเดินหนีไป
น้ำหนึ่งมองตามด้วยดวงตามุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว เหมือนกัน
“มันต้องมีค่ะ”
ตกตอนกลางคืน อลิสเดินวนเวียนไปวนเวียนมาอยู่ในบ้านพัก คิดเครียด ตัดสินใจลำบาก
“เอาไงดีอลิส กลับไปก็เจอคนประสาท แต่ถ้าอยู่นี่...ก็ไม่รู้เรื่องยัยน้ำหนึ่ง” คิดไปคิดมาแล้วบอกตัวเอง “เอาวะ? ก็ให้มันรู้ คนดี จะแพ้คนบ้า”
อลิสเดินออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน พลอยหัดเดินด้วยตัวเองอยู่ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าบัดนี้พลอยประดับเดินได้แล้ว!
ระหว่างนั้นน้ำหนึ่งวิ่งมา พลอยได้ยินเสียง รีบทำเป็นหัดเดินอย่างทุลักทุเล น้ำหนึ่งร้องเรียก
“พี่พลอยขา...น้ำหนึ่งช่วยค่ะ”
พลอยแสร้งยิ้มหวาน “ไม่เป็นไรจ้ะ พี่อยากเดินให้ได้ด้วยตัวเอง”
“พี่พลอยทำได้แน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้น้ำหนึ่งช่วยนะคะ”
พูดพลางน้ำหนึ่งก็ยกแขนของพลอยขึ้นพาดคอตัวเองลักษณะพยุง ประคอง บอกเสียงอ่อนโยนเอาใจใส่ “เดินค่ะพี่พลอย”
พลอยแสร้งยิ้ม “ไม่เป็นไรจ้ะน้ำหนึ่ง พี่เกรงใจ”
“น้ำหนึ่งอยากช่วยพี่พลอยจริงๆ ให้น้ำหนึ่งช่วยนะคะ”
พลอยทำเป็นตามใจ “ขอบใจจ้ะ”
น้ำหนึ่งกอดประคองพลอยให้เดินต่อ พลอยเหยียดยิ้มมองเย้ย ก่อนที่จะกดน้ำหนักลงไปที่ตัวน้ำ
หนึ่งสุดแรง น้ำหนึ่งแทบล้ม แต่ตกใจห่วงพลอย
“พี่พลอย พี่พลอยเป็นอะไรคะ”
พลอยไม่ตอบ แต่ออกแรงกดมากขึ้น ใบหน้านิ่งแข็ง เหมือนคนเริ่มชัก หายใจไม่ออก กล้ามเนื้อเกร็งไปทั้งตัว ที่สุดทั้งสองคนก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้น พลอยนอนหงาย น้ำหนึ่งรีบลุกขึ้นมามองพลอยอย่างเป็นห่วง
“พี่พลอย...พี่พลอย”
มือของพลอยชักจนเกร็งไปหมด พลอยแกล้งเอามือป่ายสะเปะสะปะแบบคุมตัวเองไม่อยู่ และคว้าหมับเข้าที่คอของน้ำหนึ่ง บีบเกร็งแบบหาหลักยึดน้ำหนึ่งตกใจแทบช็อก
“พี่พลอยๆ”
น้ำหนึ่งมองพลอย เห็นพลอยชัก ดวงตาเหลือกลาน ในขณะที่น้ำหนึ่งเองก็แย่ เริ่มหายใจไม่ออก แทบไม่มีเสียง
“พี่พลอย..ปะ..ปล่อย”
พลอยกดมือแรงเข้า ความโกรธ เกลียด ริษยา อาฆาตแค้นทำให้พลอยสุดแสนจะหมั่นไส้
“ปะ..ปล่อย พี่..พลอย” น้ำหนึค่งพยายามสู้ แต่สู้ไม่ได้
พลอยไม่สนใจ ออกแรงบีบ ไม่ได้หมายเอาชีวิต แต่โมโห โกรธ เกลียด จนพลั้งมือ
อลิสที่ลอบเข้ามาในบ้านเชิงเขามองเห็นด้านหน้าพลอยกับด้านหลังน้ำหนึ่ง อลิสมองตะลึงตกใจ พยายามเขม้นตามอง แต่ก็ไม่เห็นหน้าของน้ำหนึ่งเห็นแต่ด้านหลัง
“ยัยน้ำหนึ่ง...ต้องเป็นยัยน้ำหนึ่งแน่ๆ”
น้ำหนึ่งหมดสติลง อลิสจะเข้าไป ทับทิมเดินเข้ามาขวาง
“หยุดอยู่ตรงนั้นนะคุณอลิส ไม่อย่างนั้น ฉันจะแจ้งความข้อหาบุกรุก”
“แต่พวกคุณกำลังจะฆ่าคน”
ทับทิมย้อนถาม “ใครฆ่าใคร”
อลิสหันไปมอง ทั้งพลอยและน้ำหนึ่งหายไปแล้ว เหลือแต่ต้นไม้พุ่มใหญ่ อลิสงง
“ก็ตะกี้ฉันเห็นคุณพลอย”
“พลอยทำอะไร”
“ทำ...” พลอยพูดไม่ออก
“คุณน่ะตาหาเรื่อง”
“ถ้าคิดว่าตาฉันหาเรื่องก็ให้ฉันเข้าไปดูสิ”
“จะเปิดประตูให้ขโมยเดินเข้าบ้าน เพียงเพราะแค่คำท้าเท่านั้นน่ะเหรอ ไม่จำเป็น ออกไปจากบ้านฉัน”
“แต่...”
“หรือจะให้ฉันโทร.บอกหมอณัฐ”
“กลับก็ได้...แต่ถ้ามีใครเป็นอะไรไป ฉันจะเอาตำรวจมาจับคุณ”
“ไปเอามา”
ทับทิมยียวนมองอลิสตาเขม็ง อลิสสู้สายตาไม่ได้ จำต้องถอยกลับไปอย่างคาใจ เหลียวหันกลับไปมองตลอดเวลา แต่พอเจอสายตาเอาจริงของทับทิม ก็ต้องถอยไปจริงๆ
พลอยนั่งหอบหายใจมองดูร่างของน้ำหนึ่งที่นอนหมดสติอยู่ จนทับทิมเดินเข้ามา
“มันตายรึเปล่า”
“เปล่าคะ”
“ก็ดี...” พลอยหันมามองเป็นเชิงถาม ทับทิมบอก “ตะกี้อลิสมันมาที่นี่”
พลอยไม่พอใจมาก “รนหาที่อีกแล้ว”
“จะทำอะไร แกต้องรีบจัดการแล้วล่ะพลอย”
“แม่จะว่ายังไง ถ้าพลอยจะบอกไอ้เกรียงศักดิ์ว่าลูกมัน เป็นเมียน้อย...น้องชายพลอย”
ทับทิมคาดไม่ถึง สงสัยว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น
วันต่อมา นักปราชญ์ลูกชายคนเดียวของสมบัติ และอารีย์ นักธุรกิจใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลมาเยี่ยมเกรียงศักดิ์ สามคนคุยกันอยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์
นักปราชญ์รู้เรื่องน้ำหนึ่งแล้ว กำลังบอกกับเกรียงศักดิ์ด้วยใบหน้าเศร้านิดๆ ด้วยความเห็นใจ
“ผมเสียใจด้วยนะครับเรื่องน้ำหนึ่ง แล้วนี่นายภาคย์ไม่ได้ทำอะไรเลยเหรอครับ”
ดาราณีมองหน้าเกรียงศักดิ์ก่อนพูด
“อาพูดจริงๆ นะ อาไม่กล้าถาม ไม่กล้าคุยกับใครเลย อีกอย่าง...อาได้ข่าวว่าภาคย์จะไปเรียนต่อเมืองนอก เลยไม่อยากทำให้ภาคย์วุ่นวายใจ”
“แต่นายภาคย์รักน้ำหนึ่งนะครับ” นักปราชญ์ว่า
“ความรักมันต้องรักกันทั้งสองฝ่าย แต่นี่..น้ำหนึ่งไม่ได้รักภาคย์..แต่กลับไปรัก...” เกรียงศักดิ์นิ่งไปนิด “มันก็ถูกแล้วที่ภาคย์จะตัดใจ”
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”
“มันชื่อไอ้เพชร”
น้ำเสียงของเกรียงศักดิ์เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เพชรปลอมตัว ใส่หมวก ติดหนวด ขับรถมาจอดหน้าคฤหาสน์เกรียงศักดิ์ แต่จอดห่างมาหน่อย ก่อนจะลงจากรถค่อยๆ ย่องเข้ามา เห็นตาหวานหิ้วของพะรุงพะรังกำลังจะเดินเข้าบ้าน
เพชรร้องเรียก “ตาหวาน”
ตาหวานหันขวับไปมองทันที จำไม่ได้ แต่เขม้นตามอง แล้วเบิกตากว้างดีใจ “พี่เพชร”
เพชรกวักมือเรียก “มานี่เร็ว”
ตาหวานหันรีหันขวาง มองรอบๆ ตัวอย่างระแวดระวังก่อนเดินแกมวิ่งไปหาเพชร
ตาหวานถามเร็วปรื๋อ “พี่น้ำหนึ่งเป็นยังไงบ้างคะ”
“สบายดี...ที่พี่มานี่ เพราะอยากให้ตาหวานไปอยู่เป็นเพื่อนน้ำหนึ่ง”
ตาหวานยังงงอยู่ “ไปเป็นเพื่อนที่น้ำหนึ่ง แล้วพี่น้ำหนึ่งอยู่ที่ไหนคะ”
“อยู่กับพี่นี่แหละ ป่ะ...เร็ว”
ตาหวานพะว้าพะวัง “ป้านวลให้ตาหวานไปซื้อของ งั้น...ตาหวานเอาของไปให้ป้านวลก่อนนะคะ”
“รีบๆ มานะตาหวาน แล้วอย่าบอกใคร”
“ค่ะ”
ตาหวานรีบเดินเข้าไปข้างในรวดเร็ว เพชรยืนรอ ท่าทีกระวนกระวาย
นวลทำกับข้าวอยู่ในครัว ตาหวานเดินเข้าไปหาด้วยท่าทางมีพิรุธ นวลไม่ทันสังเกต
“ทำไมช้านักล่ะตาหวาน นี่! มาช่วยป้าทำกับข้าวเร็วๆ แขกท่านรอนานแล้ว”
“ป้านวล...ตาหวานปวดหัว”
นวลนึกห่วง “เป็นไรมากรึเปล่า? ไป..กินยาแล้วรีบไปนอนไป...เกิดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะแย่”
ตาหวานเดินออกไปท่าทีมีพิรุธ นวลไม่ทันสังเกต แต่นึกได้
“เอ้า! บอกให้เอายาไปกินก็ไม่เอา ตาหวานนี่”
นวลเช็ดมือเช็ดไม้ เปิดตู้ยา หยิบยาออกมา
นวลเปิดประตูห้องของตาหวาน แต่กลับไม่เห็นใคร
“ตาหวานไปไหน...ตาหวานๆ อย่าบอกนะ เป็นลมเป็นแล้งไป”
นวลรีบเดินออกจากห้องทันที
ตาหวานรีบเดินออกไปหาเพชร ที่ซุ่มรออยู่อย่างกระวนกระวาย เพชรเห็นก็ดีใจ
“เร็วตาหวาน”
ตาหวานชะงัก “พี่เพชร...ตาหวานลืมเก็บเสื้อผ้า”
“ไม่เป็นไร ซื้อใหม่ก็ได้”
“ตาหวานลืมกระเป๋าตังค์”
“ไม่เป็นไร พี่มี”
“ไม่ได้ ในกระเป๋าตังค์มีบัตรประชาชน ตาหวานไปเอาแป๊บนะ” ตาหวานรีบวิ่งกลับเข้าไป
“ตาหวาน” เพชรมองตาอย่างกังวล
“โธ่เอ๊ย! บัตรประชาชนทำใหม่ก็ได้ตาหวาน”
เพชรหัวเสีย ร้อนใจไปหมด
ขณะที่ตาหวาน จะวิ่งเข้าบ้าน เจอนวลที่ออกมาตาม
“เอ้า!ตาหวาน ไหนบอกว่าไม่สบาย ทำไมมาปร๋ออยู่นี่”
ตาหวานอึกอัก “เอ่อ” มองไปทางด้านหลังส่อพิรุธ
นวลสงสัย “อะไร”
ตาหวานไม่ตอบ นวลมองตาม เห็นแต่เงามืดหน้าบ้าน ไม่เห็นอะไร แต่พอหันมามองท่าทางของตาหวาน มีพิรุธเต็มๆ นวลถามเสียงแข็ง
“นัดใครไว้”
ตาหวานตกใจ รีบปฏิเสธ “เปล่าจ้ะป้านวล ตาหวานไม่ได้นัดใคร”
นวลไม่ต่อปากต่อคำกับตาหวาน แต่เดินตรงลิ่วออกไป ตาหวานหน้าซีดตกใจ
“อย่าป้านวล” ตาหวานรีบตามไปกระชากแขน
นวลสะบัดออก “มันเรื่องอะไรตาหวาน”
ตาหวานมองด้วยสายตาเว้าวอน “พี่เพชรมารับตาหวานไปอยู่เป็นเพื่อนพี่น้ำหนึ่ง ป้านวลให้ตาหวานไปนะ”
“ไม่..ป้าไม่ให้ไป”
พูดจบนวลก็สะบัดมือออก วิ่งกลับเข้าไปด้านใน ตาหวานร้องลั่น
“ป้านวล อย่าบอกท่านนะป้านวล”
นวลไม่ฟังรีบวิ่งกลับเข้าไปด้านใน ตาหวานหน้าซีดสนิท ตกใจมาก
นวลวิ่งหน้าตื่นเข้าไปด้านใน บอกเสียงสั่น
“ท่านคะ..นายเพชร นายเพชรอยู่หน้าบ้านค่ะ
ทั้งสามคนตกใจ คาดไม่ถึง รีบผุดลุกพรวดขึ้นพร้อมกัน แล้ววิ่งออกไปหน้าบ้านทันที
มารกามเทพ ตอนที่ 7 (ต่อ)
ฟากเพชรยืนรอด้วยความกระวนกระวายอยู่ ครู่หนึ่งเห็นตาหวานวิ่งออกมา เพชรจึงโล่งใจ
“ได้กระเป๋าตังค์แล้วใช่มั้ย รีบไปเร็วตาหวาน”
ตาหวานละล่ำละลัก “พี่เพชร”
“อะไร”
“ป้านวล..ป้านวลบอกท่าน ว่าพี่เพชรมา”
เพชรตะลึงตกใจ จังหวะนี้เกรียงศักดิ์ ดาราณี นักปราชญ์วิ่งกรูออกมา
“หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้เพชร หยุด”
“ไปเร็วตาหวาน” เพชรคว้ามือตาหวาน
นวลร้องห้าม “ตาหวานอย่าไป”
เพชรไม่ฟังกระชากตาหวานจะพาขึ้นรถ นักปราชญ์คว้าปืนขึ้นมายิงออกไปทั้งเพชรและตาหวานหลบกระสุน ตาหวานร้องลั่น
“อย่า!อย่ายิง”
นักปราชญ์ไม่สนใจ เพชรกับตาหวานอ้อมไปคนละด้าน จะขึ้นรถ นักปราชญ์ยิงปืนเปรี้ยงออกไป กระสุนเจาะทะลุหลังของตาหวาน
ตาหวานร้องสุดเสียง “โอ๊ย”
เพชรตกใจมาก “ตาหวาน”
นวลใจสั่นจะเป็นลม “ตาหวาน”
“ไอ้เพชร! มันฆ่าตาหวาน” นักปราชญ์ตะโกนก้อง “แจ้งตำรวจจับไอ้เพชรเร็ว”
เพชรตกใจ รีบกระโจนขึ้นรถขับหนีไปอย่างรวดเร็ว
นวลกับดาราณีวิ่งเข้าไปหาตาหวาน นวลพลิกร่างขึ้นมา ตาหวานนอนแน่นิ่งเลือดทะลัก
สองคนร้องเรียก “ตาหวานๆ”
เกรียงศักดิ์เดินมามองตาอย่างสลด “ตาหวาน”
นักปราชญ์ย้ำอีก “ไอ้เพชรมันคือฆาตกร แจ้งตำรวจจับไอ้เพชรเร็ว”
นวลกับ เกรียงศักดิ์ ดาราณีอึ้ง ถึงไม่ใช่ความจริง แต่น้ำท่วมปาก
พลอยกับทับทิมนั่งดูทีวี ภาพข่าวในจอทีวีดังขึ้น ตาหวานนอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน
“เกิดเหตุอุจฉกรรจ์ เมื่อคนร้ายบุกเข้าปล้นทรัพย์บ้านรมต.เกรียงศักดิ์ ยิงกระหน่ำสาวใช้เสียชีวิตเบื้องต้นทราบว่า ผู้ร้ายรายนี้คือนายเพชร ศรีนาทม ซึ่งทางจนท.ตำรวจ กำลังติดตามตัวมาดำเนินคดีอยู่ค่ะ
ตัดรับภาพพลอยกับทับทิม อึ้ง ช็อกไปทันที”
“เพชร” สองคนอุทาน
เพชรวิ่งพรวดเข้าไป หน้าซีด ทันเห็นภาพข่าวพอดี
“ผมไม่ได้ทำ”
“แล้วหนีทำไม? เพชรไปมอบตัวสิ...แม่อยากรู้เหมือนกัน ลูกไม่ผิด ไอ้เกรียงศักดิ์มันจะทำอะไรลูกได้”
“ทุกคนเป็นคนของมันหมด ถูกผิดยังไง กว่าจะพิสูจน์ได้ ผมก็ต้องอยู่ในคุก บางทีผมอาจจะตายอยู่ในคุกก็ได้ เพราะมันมีอิทธิพล”
พลอยหน้าซีดเผือด ความเคียดแค้น ชิงชังปะทุขึ้นมาอีก
“เพชรรู้แล้วใช่มั้ย? ทำไม ตอนนั้นพี่เรียกความยุติธรรมให้ตัวเองไม่ได้ เพราะไอ้เกรียงศักดิ์มันเลว” พลอยเสียงสั่นเครือ “และนี่คือเหตุผล ทำไมพี่ต้องจัดการมัน ด้วยวิถีของพี่”
ทับทิมสำทับ “ทำให้ไอ้เกรียงศักดิ์มันเจ็บถึงที่สุดเพชร...ไอ้เกรียงศักดิ์ มันต้องเจ็บอย่างถึงที่สุด!”
ฟากน้ำหนึ่ง ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เพิ่งได้สติ แต่ยังเจ็บระบบที่คอ ค่อยๆ ลุกขึ้นมา ยังไม่ทันจะทำอะไร เพชรก็วิ่งพรวดเข้ามาแบบหน้าตาตื่น เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า
น้ำหนึ่งถามงงๆ “พี่เพชร จะไปไหน”
เพชรบอกด้วยน้ำเสียงเสียใจ เพราะรู้ว่าน้ำหนึ่งรักตาหวาน “พี่ต้องหนี”
“หนี หนีทำไมคะ”
“เด็กของเธอที่ชื่อตาหวาน ถูกยิงตาย และพ่อเธอก็โยนความผิดให้กับเพชร” ทับทิมบอก
“พี่เพชร ตาหวาน”
น้ำหนึ่งพูดได้แค่นั้นก็ทรุดฮวบลงกับพื้นหมดสติทันที
ที่บริเวณด้านนอกบ้านพักหมอณัฐตอนกลางคืน ลมพัดแรงเหมือนฝนจะตก ด้านในอลิสนั่งเล่นไอแพดแล้วเจอภาพข่าวเพชร ถึงกับตกตะลึงพึมพำ
“ไอ้เพชร เป็นผู้ต้องหา มีอะไรที่มันตื่นเต้น ดราม่ากว่านี้อีกมั้ยเนี่ย” อลิสยิ้มเยาะ “สมน้ำหน้า นังน้ำหนึ่ง นังลูกอกตัญญู”
สีหน้าของอลิสยามนี้มีแต่ความสาแก่ใจ ขณะที่สายฝนเริ่มเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง ลมฝนโหมพัดอย่างรุนแรง
เวลาเดียวกันที่บ้านเชิงเขา น้ำหนึ่งยังนอนหมดสติอยู่ในห้องเพชร ขณะที่เพชรเอาผ้าเย็นเช็ดหน้าให้ ก่อนจะจับมือน้ำหนึ่งมากุม นั่งมองหน้าเด็กสาวด้วยความเวทนา แรงสัมผัสที่มือทำให้น้ำหนึ่งรู้สึกตัว ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
“น้ำหนึ่ง” เพชรเรียก สีหน้าดีใจ
น้ำหนึ่งยังงงอยู่ “พี่เพชร” จนสักพักพอสติเริ่มมาจำได้ น้ำหนึ่งดึงมือออกจากเพชรทันที ร้องไห้โฮ
เพชรเสียใจ “น้ำหนึ่ง”
“ตาหวาน...น้ำหนึ่งจะไปหาตาหวาน” น้ำหนึ่งผุดลุกขึ้นจะไป
เพชรคว้าตัวเอาไว้ “อย่าน้ำหนึ่ง ตาหวาน...” เพชรจุก ลำบากใจที่จะพูด
น้ำหนึ่งกรีดเสียงร้องออกมาด้วยความเสียใจ “ตาหวานไม่อยู่แล้ว เพราะพี่เพชรเป็นคนฆ่าตาหวาน ทำไมพี่เพชรทำอย่างนี้” น้ำหนึ่งทุบตีเพชรไปมา
เพชรจับมือเอาไว้ บอกด้วยเสียงดัง เข้ม โกรธไปถึงเกรียงศักดิ์
“พี่ไม่ได้ทำ พี่ไมได้ฆ่าตาหวาน”
“พี่เพชรจะให้น้ำหนึ่งเชื่อเหรอคะ? ว่าคุณพ่อฆ่าตาหวาน แล้วโยนความผิดให้พี่เพชร น้ำหนึ่งไม่เชื่อ”
น้ำหนึ่งวิ่งออกไปแบบคนเสียขวัญสุดขีด
“น้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งวิ่งเตลิดออกนอกบ้าน เพชรวิ่งตาม พลอยที่อยู่ด้านในอีกมุม เห็นเหตุการณ์จึงเลื่อนรถเข็นตามมาหยุดมอง
ท่ามกลางฝนที่ตกหนักไม่ลืมหูลืมตา น้ำหนึ่งวิ่งฝ่าสายฝนออกมาอย่างไม่กลัวอะไรเลย ฟ้าร้องครืนโครมเป็นระยะ เสียงน่ากลัว น้ำหนึ่งหลับหูหลับตาวิ่ง เพชรวิ่งมาทันกระชากมือน้ำหนึ่งไว้
“ปล่อยน้ำหนึ่ง” ถูกน้ำหนึ่งสะบัดมือออกแต่ไม่หลุด
เพชรคว้าร่างน้ำหนึ่งกอดรวบเอาไว้ทั้งตัว
พลอยมองดูอย่างเสียใจ เห็นชัดว่าเพชรแคร์น้ำหนึ่งมาก
เพชรละล่ำละลักบอก ด้วยน้ำเสียงอาทร
“ฟังพี่ก่อน พี่ไม่ได้เป็นคนทำร้ายตาหวานจริงๆ”
“งั้นก็แปลว่าน้ำหนึ่งต้องเชื่ออย่างที่คุณน้าทับทิมบอกเหรอคะ” น้ำหนึ่งร้องไห้โฮออกมา “คุณพ่อฆ่าตาหวาน แล้วโยนความผิดให้พี่เพชร” ถึงตอนนี้น้ำหนึ่งสะอึกสะอื้น ร้องไห้จนตัวโยน “มันเป็นไปไม่ได้ คุณพ่อเป็นคนเลี้ยงตาหวานมา คุณพ่อรักตาหวานเหมือนลูก ไม่มีทางที่คุณพ่อจะทำอย่างนั้น”
“พี่ก็ไม่ได้บอกว่าคุณพ่อของน้ำหนึ่งทำ”
น้ำหนึ่งชักงง ถามรัว “แล้วใครเป็นคนทำ”
เพชรเงียบ ตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้จักนักปราชญ์ น้ำหนึ่งมองมาด้วยความเข้าใจผิด
“พี่เพชรตอบไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้ว พี่เพชรเป็นคนฆ่าตาหวาน ทำไมคะพี่เพชร พี่เพชรทำตาหวานทำไม” น้ำหนึ่งทุบตีเพชรระบายอารมณ์
เพชรไม่สู้ แต่น้ำเสียงเริ่มโกรธ “ถ้าน้ำหนึ่งเชื่ออย่างนั้น จะฆ่าพี่ให้ตายไปกับตาหวาน ก็เอา”
“อย่าท้านะพี่เพชร” น้ำหนึ่งหันรีหันขวางไปคว้าท่อนไม้แถวๆ นั้นขึ้นมากำแน่น
เพชรทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ “พี่ไม่ได้ท้า แต่ถ้าน้ำหนึ่งเชื่ออย่างนั้น ก็แปลว่า...น้ำหนึ่งไม่ได้มีพี่อยู่ใน
หัวใจเลย”
น้ำหนึ่งน้ำตาร่วง ร้องไห้เหมือนเด็กน่ากิริยาน่าสงสาร สับสนมากๆ “ที่ผ่านมา ก็เพราะน้ำหนึ่งเชื่อพี่เพชรไม่ใช่เหรอคะ เรื่องทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้ ตอนนี้น้ำหนึ่ง ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว น้ำหนึ่งไม่รู้จะเชื่อใคร?” น้ำหนึ่งปล่อยท่อนไม้ลง ร้องไห้โฮๆ
เพชรสงสาร คว้าตัวน้ำหนึ่งมากอดเอาไว้แน่น พูดออกมาอย่างเข้าใจ และเสียใจ
“พี่เข้าใจ ว่าน้ำหนึ่งรู้สึกอย่างไร...แต่ขอให้เชื่อพี่นะ...มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่พี่จะทำร้ายตาหวาน”
น้ำหนึ่งร้องไห้ เสียงเครือสั่น สับสนหนัก “งั้นก็แปลว่า...ต้องให้น้ำหนึ่งเชื่อว่าคุณพ่อใส่ร้ายพี่เพชร...” น้ำหนึ่งเกิดความอัดอั้นตันใจมากขณะพูดประโยคต่อมา “พี่เพชรรู้มั้ย เพราะคำว่ารัก เพียงคำเดียว ทำให้น้ำหนึ่งเป็นเหมือนลูกกตัญญู”
เพชรสบตาน้ำหนึ่ง สุดแสนจะสงสาร น้ำหนึ่งดันตัวเพชรออก เพราะรับตัวเองไม่ได้
“น้ำหนึ่งขยะแขยงตัวเองเหลือเกิน น้ำหนึ่งขยะแขยงตัวเอง” ว่าแล้วก็ผลักเพชรออกแล้ววิ่งหนีไป
“น้ำหนึ่งๆ” เพชรคว้าตัวน้ำหนึ่งเอาไว้ รั้งร่างแบบบางมากอดแน่น
จังหวะนี้เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาอย่างแรง น้ำหนึ่งกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจกลัวสุดขีด มือกอดเพชรแน่น เพชรก็กอดน้ำหนึ่งแน่น ในอาการหวงแหนและปกป้องเต็มที่
พลอยมองภาพที่เพชรกอดปกป้องน้ำหนึ่ ง น้ำตาไหลรินออกมาด้วยความน้อยใจ และเสียใจ
ยิ่งนับวันพลอยยิ่งเห็นเพชรรักน้ำหนึ่งสุดหัวใจ และสองคนรักกันมาก
เพชรอุ้มน้ำหนึ่งเข้ามาในห้อง สองคนเนื้อตัวเปียกโชก เพชรวางตัวน้ำหนึ่งลงบนเตียง เนื้อตัวน้ำหนึ่งสั่นสะท้าน เพชรมองอย่างเป็นห่วง
“หนาวเหรอ” เพชรเอามืออังที่หน้าผาก “น้ำหนึ่งไม่สบาย”
“น้ำหนึ่งไม่เป็นไรค่ะ” น้ำหนึ่งหน้าซีดเหมือนคนจะเป็นไข้ ดันตัวเพชรออก
“ยังกลัวพี่อีกเหรอ”
“เปล่าค่ะ....น้ำหนึ่ง...กลัว...กลัวใจตัวเอง...เพราะยิ่งพี่เพชรดีกับน้ำหนึ่งเท่าไหร่ น้ำหนึ่งก็ยิ่งจะตัดใจจากพี่เพชรไม่ได้”
“ไม่ต้องตัดใจเลยน้ำหนึ่ง” น้ำหนึ่งมองด้วยท่าทีสงสัย เพชรลูบผมอย่างอ่อนโยน “ในเมื่อ พี่ก็รักน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งตะลึงงัน อึ้ง ดีใจ คาดไม่ถึง “พี่เพชร”
เพชรย้ำคำ อย่างจริงจัง “พี่รักน้ำหนึ่ง”
น้ำหนึ่งน้ำตาไหลรินออกมาด้วยความดีใจ เพชรเอามือค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้น้ำหนึ่งอย่างอ่อนโยน น้ำหนึ่งจับมือของเพชรเอาไว้ มองเพชรอย่างเทิดทูน
“พี่เพชรอย่าหลอกน้ำหนึ่งนะคะ..อย่าหลอกน้ำหนึ่ง”
เพชรส่ายหน้า “พี่เคยหลอก..” น้ำหนึ่งนิ่งรอฟัง เพชรพูดต่อ “หลอกตัวเอง แต่สุดท้ายพี่ก็หลอกไม่ได้ เพราะพี่รักเด็กคนนี้...เด็กที่รักพี่อย่างหมดใจ”
“พี่เพชร” น้ำหนึ่งโผเข้ากอดเพชรแน่น ร้องไห้ด้วยความดีใจ
เพชรกอดน้ำหนึ่งแน่น แววตาของเพชรกลับดูทุกข์ใจ
“น้ำหนึ่งยอมค่ะ ยอมทุกอย่าง ยอมโง่ ยอมเป็นคนไม่ดี ยอมเป็นลูกอกตัญญู...ยอมให้คน
ทั้งโลกด่า แต่น้ำหนึ่งไม่ยอมที่จะหยุดรักพี่เพชร...น้ำหนึ่งรักพี่เพชรค่ะ”
“พี่ก็รักน้ำหนึ่ง”
เพชรบรรจงจูบน้ำหนึ่งอย่างแผ่วเบา ละมุนละไม ก่อนที่จะถอนตัวออก
“อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า นอนซะ เดี๋ยวพี่จะออกไปเอายามา พี่กลัวน้ำหนึ่งไม่สบาย”
เพชรเดินออกไป น้ำหนึ่งมองด้วยสายตาเต็มตื้น รักเพชรเหลือเกิน
เพชรเดินออกไปด้านนอก มองออกไปยังความมืด เห็นฝนตกหนักมองแทบไม่เห็นอะไร ช่างเหมือนชีวิตของเพชรตอนนี้ที่มืดมน หาทางออกไม่ได้เลย
เพชรได้แต่ทอดถอนใจอย่างกลัดกลุ้ม
ความมืดโรยตัวครอบคลุมไปทั่วพื้นที่บ้านเชิงเขา พลอยเลื่อนรถเข็นมา
ดวงตาของพลอยเห็นน้ำตาไหลและประกายตาแห่งความเจ็บปวด โกรธเกลียด เคียดแค้น หน่วยตาสีน้ำตาลเข้มของพลอยกลายเป็นสีเลือด เป็นเลือดที่ออกมาจากร่างเกรียงศักดิ์ สภาพเหมือนตอนจินดาผู้เป็นบิดาตาย
มือของพลอยกำมีดจ้วงแทงเข้าที่ร่างของเกรียงศักดิ์ ด้วยความแค้นจัด ใบหน้าของเกรียงศักดิ์กระตุกเฮือกขึ้นมาเจ็บปวดสุดชีวิต ขณะที่ร่างของพลอยลุกพรวดขึ้นอย่างแข็งแรงน่ากลัว
พลอยจินตนาการฉากแห่งความตายของเกรียงศักดิ์ไว้ในใจแล้ว
เวลาเดียวกันภายในห้องนอน เกรียงศักดิ์สะดุ้งเฮือกตกใจตื่นขึ้นมาจากอาการเครียดและกังวล สีหน้ารู้สึกผิด เหลือบตามองข้างๆ ก็ เห็นดาราณีนอนลืมตาไม่หลับเช่นกัน สองคนมองหน้ากัน ท่าทางไม่ดี
“ผมขอโทษ” เกรียงศักดิ์ขอโทษภรรยาที่โยนความผิดให้เพชร
ดาราณีผุดลุกขึ้นมานั่งหน้าเศร้าๆ “ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษเราทั้งคู่ ที่...” คุณหญิงเสียงเครือสั่น ด้วยรู้สึกผิด “โยนความผิดให้ผู้ชายคนนั้น”
เกรียงศักดิ์เสียงเครียดขึ้นอีก “แต่มันก็จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น ในเมื่อ นักปราชญ์ช่วยเรา”
“แต่ความยุติธรรมจะช่วยเราหรือคะ? คุณคิดหรือคะว่านายเพชร จะไม่ปกป้องตัวเอง”
“ทุกอย่างในโลก เป็นไปได้เสมอ”
“แต่นวล...” ดาราณีสงสารนวล เพราะผูกพันกับตาหวานมาก
“ผมคิดว่า นวลเข้าใจ” เกรียงศักดิ์พูดอย่างมั่นใจ
รุ่งเช้านวลในชุดดำ บอก เกรียงศักดิ์ และดาราณีที่อยู่ในชุดดำเช่นกัน
“นวลเข้าใจค่ะ และสมควรแล้วที่คนร้ายจะเป็นไอ้เพชรคนนั้น เพราะมันเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ถ้ามันไม่พาคุณน้ำหนึ่งไป คุณนักปราชญ์ก็คง...ไม่...” นวลจุกอก อึ้ง เงียบงันไป น้ำตาคลอเบ้า “และตาหวานก็คงจะไม่จากไป” นวลสุดกลั้นร้องไห้ออกมา
“ไอ้เพชร มันเกิดมาเพื่อทำลาย ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ฉันไปทำอะไรให้มัน มันถึงได้จองเวร
จองกรรมกับฉันขนาดนี้” เกรียงศักดิ์มองสองคน สีหน้าและน้ำเสียงไม่สบายใจนักขณะบอก “ทุกคนต้องให้การกับตำรวจให้ตรงกัน”
“ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ความจริง...ก็ตาม” ดาราณีสะท้อนใจ
เกรียงศักดิ์อึ้ง สีหน้าทุกคนมีแต่ความเสียใจ
ด้านหมอณัฐเดินออกมาจากห้องโถงบ้านพัก เพื่อไปทำงาน อลิสเดินตาม
“พี่หมอฟังก่อนสิคะ..อลิสพูดเรื่องจริงนะคะ บ้านเชิงเขา เต็มไปด้วยผู้คนแปลกๆ นายเพชร น้องชายของยัยคุณพลอย เป็นฆาตกร ส่วนยัยคุณพลอยก็เป็นคนบ้า โรคจิตทำร้ายอลิส”
หมอณัฐหันมาดุ “เลิกพูดจาเหลวไหลได้แล้ว” พลางหันมาย้อนถามในท่าทีประชด “ตรรกะอลิสอีกรึไง”
“โอ...ไม่ต้องตรรกะอลิส คนธรรมดาที่ไม่หน้ามืดตามัวอย่างพี่หมอก็ต้องรู้ค่ะ ว่าคนที่บ้านเชิงเขา ไม่ใช่คนธรรมดา”
หมอณัฐฉุน “นี่อลิส”
“เชื่ออลิสเถอะนะคะพี่หมอ ตรรกะอลิส แม่น ยำตรงเป๊ะ เชื่อได้ทุกอย่าง”
หมอณัฐบอกอย่างจริงจัง “เรายังไม่รู้จักคุณเพชรอะไรนั่น แล้วคุณพลอยจะเป็นคนร้ายกาจได้ยังไง”
“ไอ้สิคะ...คุณพลอยบ้า อาจจะแกล้งพิการก็ได้” อลิสบอก
หมอณัฐขึ้นเสียง “อลิส”
อลิสเจื้อยแจ้วต่อ “ก็คนบ้าที่ไหนจะมีแรงบีบคออลิสขนาดนั้น อีกอย่าง...อลิสเห็นกับตา ว่าคุณพลอยบ้าจะฆ่าคน อ้อ...มิน่า...พี่สาวโหดอย่างนั้น น้องชายเลยฆ่าคนได้”
หมอณัฐชักโมโห “อย่าพูดพล่อยๆ บอกมา คุณพลอยฆ่าใคร”
“ฆ่า...”
อลิสหลุดปากเถียงลั่น แต่ต้องชะงัก เพราะตัวเองก็ตอบไม่ได้ เพราะตอนนั้นไม่เห็นน้ำหนึ่ง แต่หมอณัฐกลับจ้องหน้าอลิส
“นี่แปลว่า...อลิสไปยุ่งวุ่นวายบ้านคุณพลอยอีกแล้วใช่มั้ย”
อลิสรู้สึกตัว “เอ่อ…”
“ทำไมอลิสเป็นคนแบบนี้ รู้มั้ยว่าที่อลิสไปยุ่งวุ่นวายบ้านเชิงเขาวันนั้น พี่ก็อายจนไม่กล้าไปสู้หน้าคุณพลอยเค้าอีกแล้ว” หมอณัฐจ้องหน้าหาคำตอบ ท่าทียุ่งยากใจหนัก “พี่ไม่รู้ว่าอลิสมีอะไรนักหนา แต่ถ้าอลิสเป็นคนอย่างนี้ กลับกรุงเทพฯ ไปเลย ไป” พูดจบหมอณัฐลากแขนอลิสให้ออกนอกบ้าน
อลิสร้องโวยวาย "พี่หมอไล่น้อง"
"น้องอย่างนี้ สมควรที่สุดที่จะถูกไล่ กลับกรุงเทพฯ เลยอลิส"
"อลิสไม่กลับ" อลิสสะบัดมือออกบอกอย่างดื้อรั้น "อลิสจะฉีกหน้ากากยัยพลอยบ้า"
หมอณัฐโกรธจัด เถียงลั่น “คุณพลอยไม่ได้บ้า”
อลิสตะโกนไล่หลังไป “บ้าๆๆๆๆ ยัยคุณพลอยมันบ้า อลิสจะฉีกหน้ากากมัน พี่หมอจะได้รู้ซักที
ตัวตนที่แท้จริงของยัยพลอยบ้าเป็นยังไง?” อลิสวิ่งออกนอกบ้านอย่างเร็วรี่
“อลิสๆ.....” หมอณัฐเรียก แต่อลิสไม่หยุด เลยตะโกนด่า “คุณพลอยไม่ได้บ้า อลิสนั่นแหละ บ้า”
อลิสเดินไปบ่นไป ตามทางที่จะมุ่งหน้าสู่บ้านเชิงเขา
“คนพิการที่ไหน จะเป็นอย่างยัยพลอยบ้า คอยดูเถอะ...อลิสจะทำให้พี่หมอฉีกตำราทุกเล่มทิ้งเลย คอยดู!”
อลิสโกรธเดินบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ท่าทีฮึดฮัดและขัดใจมาก
ติดตาม "มารกามเทพ" ตอนที่ 8