xs
xsm
sm
md
lg

จุดประกาย คอนเสิร์ตฯ # 51 ถึงเวลาของ "ยืนยง โอภากุล"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 จุดประกาย คอนเสิร์ตฯ # 51
 ถึงเวลาของ "ยืนยง โอภากุล"

การแสดงดนตรีทางเลือก เพื่อสังคมคุณภาพ ในนามของ "จุดประกาย คอนเสิร์ต ซีรีส์" ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ พร้อมเหล่าพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เวียนกลับมาอีกคำรบ คราวนี้เป็นคิวของ ยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว กับคอนเซ็พท์ในการแสดงสดที่แตกต่างไปจากทุกๆ เวที ในงาน จุดประกาย คอนเสิร์ต ซีรีส์ # 51 ตอน "วันวานไม่มีเขา วันนี้ไม่มีเรา" ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2556 เวลา 17.00 น. ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

หลังจากเคยปรากฏตัวเป็นแขกแบบ "เซอร์ไพรส์" ในคอนเสิร์ตของจุดประกาย โดยเฉพาะจากการประชันฝีมือ ร่วมกับ กิตติ กีตาร์ปืน มาก่อนหน้านี้ ในที่สุด แอ๊ด คาราบาว ตัดสินใจขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเล็กๆ แต่เต็มด้วยความอบอุ่นแห่งนี้ เพื่อถ่ายทอดเสียงเพลงที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่เหมือนการแสดงของวงคาราบาวในสถานที่อื่นๆ เพราะนี่คือโปรเจ็คท์เฉพาะกิจของเขาที่มีขึ้นเพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจเป็นหลัก

"ไอเดียในการทำวงแบบนี้ คืออยากเล่นที่เป็นตัวของตัวเอง... " แอ๊ด เล่าให้ฟัง พร้อมขยายความต่อว่า

"บางทีเขียนเพลง ก็ต้องนึกถึงสมาชิก แต่งานนี้ ผมเขียนขึ้นมา เพื่อผมเล่นคนเดียว แต่ละเพลง เล่นแค่ 4 คนก็แน่นแล้ว ผมต้องเล่นไปด้วย ร้องไปด้วย โซโลไปด้วย" กล่าวคือ ในระหว่างที่วงคาราบาวมีตารางทัวร์แน่นชนัดตลอดทั้งปี เพื่อตอบสนองความต้องการของมิตรรักนักเพลงทั่วประเทศอยู่นั้น ในอีกด้านหนึ่ง แอ๊ด กลับมองว่า ควรจะมีดนตรีอีกโปรเจ็คท์หนึ่ง เพื่อปรับเปลี่ยนบรรยากาศ หลีกหนีความจำเจ เพื่อหล่อเลี้ยงความคิดสร้างสรรค์ของตนเองไว้ ซึ่งในที่สุด กลายมาเป็นผลงาน "วันวานไม่มีเขา วันนี้ไม่มีเรา" และ "กันชนหมา"

"เราได้แต่งเนื้อหาที่ไม่ต้องผูกมัดกับแนวทางเพื่อชีวิต อยากทำอะไรที่รีแลกซ์บ้าง อย่างคนขับรถชนหมา แล้วมาโทษผม เขาอยากเก็บเงินค่ากันชนเขา ผมก็เอามาเขียนเป็นเพลงว่า จิตใจมนุษย์สมัยนี้เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง ชีวิตหมามันไม่สนใจเลย ถ้ามันเป็นหมาผมนะ คุณจะต้องมาขอโทษผมด้วยซ้ำ เพราะหมามันจะไปรู้เรื่องอะไร มันก็สิทธิ์เดินบนถนน แล้วคุณเป็นคนขับรถ ทำไมคุณไม่ดูละ เพราะคุณเป็นคนขับ เรื่องนี้จบตรงที่ไม่ใช่หมาผม ถ้าเป็นหมาผม ก็คงยาว คงต้องฝัง.... ฝังคน"

"หรืออย่างเพลงวันวานไม่มีเขา เป็นเรื่องความรักที่เรามีต่อผู้มีที่บุญคุณต่อเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นแม่ แต่ภาพที่เขียนในเพลงจะเป็นลักษณะของพ่อแม่มากกว่า แต่อาจจะเป็นคนอื่นๆ อาจจะเป็นครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนฝูงที่เป็นห่วงเป็นใยเรา"

"คอนเสิร์ตในรูปแบบนี้ เราจะใช้นักดนตรีฝีมือดีคนอื่นๆ บ้าง ที่ไม่ใช่สมาชิกคาราบาว อย่าง หรั่ง (อิสระ สุวรรณณัฐวิภา) มือเปียโน ซึ่งเล่นให้หลายๆ วงด้วยกัน เช่น เล่นให้บัตเตอร์ฟลาย , อ้อง สุรสีห์ , ซูซู , ทอม ดันดี แล้วก็มี เอ็ดดี้ (สุเทพ ปานอำพัน) เล่นเบส อ๊อด (อ่างทอง) ซาวด์เอนจิเนียร์ของคาราบาว เล่นคีย์บอร์ด และเพอร์คัสชั่น มีน้องเพชร (พชรพรรณ สุทธนนท์) ร้องประสาน แล้ว กีตาร์ มีผม กับน้าหมี (ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ)"

นอกจากช่วงเดี่ยวของแอ๊ด แล้ว ยังมีช่วงที่เป็นคาราบาว ซึ่งจะมีทั้ง เทียรี่ เมฆวัฒนา , เล็ก ปรีชา ชนะภัย , อ๊อด (เกริกกำพล ประถมปัทมะ) และ ดุก (ลือชัย งามสม) มาร่วมด้วยช่วยกัน "ในคอนเสิร์ตนี้ เทียรี่ และเล็ก จะมาด้วย ในเพลงที่เขาไม่ค่อยได้เล่น โดยจะเริ่มให้ เทียรี่ และ เล็ก โชว์เดี่ยวไปก่อน แล้วค่อยมาถึงคิวผม แล้วตอนท้ายค่อยสามช่าด้วยกัน"

"พูดถึงสามช่านี่ ไม่เล่นก็ไม่ได้ เดี๋ยวคนดูจะว่าเอา มันเหมือนกับว่า คนมาดูคาราบาวแล้ว ไม่ได้เหงื่อกลับบ้านก็จะไม่สนุก งานนี้จึงเป็นเหมือนได้ดูทั้งคาราบาวในภาคของสามช่า มันจะแน่น กว่าผมคนเดียว" โดยภาพรวม แอ๊ด ยืนยันว่าจะมีความแปลกใหม่ถึง 70 เปอร์เซนต์ นอกจากเพลงของคาราบาว เพลงเดี่ยวของแอ๊ดแล้ว ยังมีเพลงสากลที่ แอ๊ด คาราบาว ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว จะถ่ายทอดให้ได้ฟังกันในงานนี้ด้วย

พร้อมยืนยันว่าทุกครั้งที่ขึ้นเวที จะไม่มีการกลางเนื้อร้องเด็ดขาด ดังนั้น ทุกอย่างจึงผ่านการซ้อมมาให้ฟังกันแบบเต็มร้อย.
กำลังโหลดความคิดเห็น