ข่าว”
“แม่โป๊งเหน่ง” ร่ำไห้!!!เปิดใจถึงลูกชาย
เป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่หลายวัน จนกระทั่งวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. ณ อาคารเชษฐโชติศักดิ์ 3 ชั้น 7 บมจ.อาร์เอส ยายอ้อย-ณัฐกนก วันเพ็ญ แม่บังเกิดเกล้าของตลกชื่อดัง โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม หรือ พงษ์ศักดิ์ โสภักดี ได้เดินทางมารายการ “ปากโป้ง” ทาง ช่อง8 โดยมี หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และ หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ เป็นพิธีกร เพื่อเปิดใจถึงกรณีที่ โป๊งเหน่งไม่ยอมรับว่ายายอ้อยเป็นแม่ ในขณะที่กองทัพสื่อมวลชนยกขบวนไปตามสัมภาษณ์ยายอ้อยถึงวัดพระยาสุเรนทร์
ยายอ้อยได้เปิดเผยผ่านรายการปากโป้งว่า การใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของโป๊งเหน่งและภรรยา ยายอ้อยต้องอาศัยอยู่ในห้องนอกบ้าน ซึ่งใช้เป็นที่วางเครื่องซักผ้า และเก็บของ โดยภรรยาของโป๊งเหน่งล็อกประตูบ้านไม่ยอมให้ยายอ้อยเข้า เวลาที่จะถ่ายต้องถ่ายในกระโถนแล้วต้องนำไปทิ้งเอง ส่วนการเลี้ยงดูยายอ้อยได้รับเงินจากลูก 200-300 บาท ซึ่งยายอ้อยต้องเดินออกไปซื้อข้าวกล่องทานเอง นอกจากนี้ยายอ้อยยังเผยว่า ภรรยาของลูกชายไม่ยอมให้ลูกชายเรียกตนว่าแม่ แต่ให้เรียกว่าป้าแทน ยายอ้อยร่ำไห้เล่าว่าถูกเมียของลูกชายไล่ออกจากบ้านถึง 5 ครั้ง โดยครั้งแรกๆ ได้หนีออกไปอยู่กับบ้านเพื่อน แต่ลูกชายก็เรียกให้กลับมา และครั้งล่าสุดยายอ้อยตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากสนง.เขตคลองสามวา ให้ช่วยหาที่อยู่ให้ เพราะถูกลูกสะใภ้ไล่ออกจากบ้าน โดยพูดว่า ‘บ้านนี้ไม่ใช่บ้านลูกมึง แต่เป็นบ้านกู’ ทางสนง.เขตได้ติดต่อบ้านพักคนชราบางแคให้ แต่ต้องให้ลูกชายมาเซ็น ยายอ้อยเล่าต่อว่า เมื่อลูกชายเดินทางมาพร้อมภรรยา (นางสมญา อยู่พ่วง) แต่ลูกชายมิได้เซ็นเอกสารให้ เนื่องจากภรรยาพูดว่า ‘มึงอย่าเซ็น มันเป็นอะไรกับมึง’ หลังจากนั้นทางสนง.จึงพายายอ้อยไปฝากไว้ทีวัดพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา
ทางรายการปากโป้งจึงได้เชิญผู้ที่ดูแลยายอ้อยตอนอยู่ที่วัดมาร่วมพูดคุย คือ คุณตา-สุนันทา ขำเนตร และคุณส้ม-มยุรี สุกใส โดยทั้งคุณตาและคุณส้ม ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวว่า ยายอ้อยไม่เคยบอกว่ามีลูกชายเป็นตลกชื่อดัง บอกเพียงแต่ว่าไม่มีลูก จนกระทั่งวันหนึ่ง คณะตลกชวนชื่น ได้ไปทำบุญที่วัดและเจอเข้ากับคุณยายอ้อย ประกอบกับมีเด็กหนุ่มมาหาและฝากของไว้ให้ โดยบอกว่ามาหาแม่โป๊งเหน่ง ตอนแรกก็บอกไปว่าไม่มีแม่โป๊งเหน่ง มีแต่ยายอ้อย ซึ่งวันนั้นไม่อยู่วัดเพราะออกไปลอกตา หลังจากนั้น คุณตาและคุณส้มจึงไปสอบถามความจริงกับยายอ้อย จนยายอ้อยยอมรับความจริง คุณตาและคุณส้มยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ยายอ้อยมาอาศัยอยู่ที่วัดนานประมาณ 4-5 เดือน ตั้งแต่หลังเหตุการณ์น้ำท่วม โดยเป็นคนยายที่น่ารัก ช่วยเหลืองานในวัด และไม่มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงลูกชายแต่อย่างใด แต่ที่มีข่าว เป็นเพราะมีคนรู้จักเอาไปพูดจึงเกิดเป็นประเด็นข่าวขึ้นมา
ต่อข้อซักถามที่ว่า โป๊งเหน่งบอกกับสื่อว่า ยายอ้อยทิ้งเขาตั้งแต่ยังเด็ก ยายอ้อยเล่าว่า ตนได้เลี้ยงบุตรชายมาจนกระทั่งป.3 ก็ส่งให้เขาไปเรียนโรงเรียนประจำ ในจังหวัดกาญจนบุรี จนกระทั่งม.1-2 ยายอ้อยจึงไปรับกลับมาเลี้ยง หลังจากนั้นโป๊งเหน่งก็ไปอยู่กับพ่อของเขาบ้าง ส่วนกรณีที่ยายอ้อยขายบ้านหลังเดิมของตน ยายอ้อยเล่าว่า โป๊งเหน่งมาบอกให้ตนขาย เพราะอยู่แล้วไม่รวย ยายอ้อยจึงตัดสินใจขาย พร้อมกับขอเงิน 50,000 บาท เพื่อจะเอาไปคืนให้กับพี่สาวตน แต่โป๊งเหน่งกลับไม่ให้ และบอกว่า ‘แม่ต้องทำให้ลูก ไม่ใช่ลูกทำให้แม่’ และนำเงินที่ขายบ้านได้ไปซื้อรถ
หลังจากที่ทีมข่าวช่อง 8 รายงานว่า ทางโป๊งเหน่งได้แถลงข่าวยอมรับว่า ยายอ้อยคือแม่แท้จริงของตน และบอกกับทางสื่อมวลชนว่าวันรุ่งขึ้น (15 พ.ย. 55) โป๊งเหน่งและภรรยา พร้อมด้วย เป็ด เชิญยิ้ม จะไปรับยายอ้อยกลับมาบ้าน หนุ่ม-กรรชัย จึงถามยายอ้อยว่า หากลูกชายมารับจะกลับหรือไม่ ยายอ้อยบอกว่ากลับ ส่วนจะกลับไปอยู่บ้านเดียวกับลูกชายหรือเปล่านั้น ขอดูคำพูดของลูกชายในวันพรุ่งนี้ก่อน สุดท้าย หากลูกชายและลูกสะใภ้ขอขมา และดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของยายอ้อยให้ดีขึ้น ยายอ้อยก็ยินดีจะให้อภัยลูกๆ
