รักออกอากาศ ตอนที่ 3
บริเวณทางเดินหน้าบ้านกำโป๊ง เจ้าคุณโดนกำโป๊งเฉ่งเรื่องพูดครับซึ่งเป็นภาษาคนกรุงเทพฯ ซึ่งอาจหลุดจนความแตกทำให้เครือฟ้าและหวานเจี๊ยบจับได้
“จำใส่กะโหลกไว้ ต่อไปไม่ต้องพูดคงพูดครับอะไรของเอ็งอีกไอ้ไฮโซ ประเดี๋ยวชาวบ้านเขาจะสงสัย”
“ก็ผมลืมอ่ะลุง”
“นี่แน่ะ!” กำโป๊งผลักหัวเจ้าคุณแทบจะหน้าทิ่ม
“โอ๊ย! อะไรอีกล่ะลุง”
“จะอะไร คำว่าผมก็พูดไม่ได้ ห้ามพูด!” กำโป๊งกำชับหนักแน่น
“โว๊ย! ยุ่งยากจังเว๊ย” เจ้าคุณโวยวาย
“แค่นี้ไม่ยุ่งยากหรอกเว๊ย ยุ่งยากของจริง อยู่นู่น”
กำโป๊งโบ้ยให้เจ้าคุณดูบรรดาโจทก์เก่าอย่างสมใจ แคบหมู ที่มานั่งรออยู่ใต้ถุนบ้านโดยมีไส้อั่วอยู่ด้วย
“กลัวที่ไหน” เจ้าคุณว่า เดินอาดๆ เข้าไป
“เออ เอ็งเก่ง” กำโป๊งประชด แล้วเดินมาหาสมใจทักทายขึ้น “เอ้า! ไอ้ใจ๋ มีอะไรให้ข้าบริการเหรอ”
“อ๋อ ฉันจะมาขอโทรศัพท์น่ะจ้ะลุง”
สมใจพูดไปแอบเหล่จับผิดเจ้าคุณไปด้วย
“อ๋อ ได้เลยๆ รอแป๊บ”
กำโป๊งควักลูกกุญแจออกมาจากเอว ไปไขห้องลับเดินหายเข้าไป สมใจจ้องเจ้าคุณตาเขม็งแบบจับผิดอีก เจ้าคุณมองตอบอย่างชิลล์ๆ ไม่หลบตา ส่วนแคบหมู ไส้อั่วแอบมองอยู่เช่นกัน
“ได้กลิ่นมั้ยไอ้อั่ว” แคบหมูตั้งข้อสังเกต
“กลิ่นแรง!” ไส้อั่วเห็นด้วย
“ข้าก็ว่างั้น”
สองคนมองหน้ากัน ยิ้มตาวาวคิดในใจ สนุกล่ะเว้ยงานนี้ ในขณะที่สมใจกับเจ้าคุณยังจ้องหน้ากันอย่างไม่วางตา
“มองทำไม” สมใจว่า
“มองทำไม” เจ้าคุณนึกสนุกย้อนกลับคำพูดเดียวกัน
“เฮ๊ย!” สมใจอุทาน
“เฮ๊ย!” เจ้าคุณอุทานตาม
“นายจะกวนฉันไปถึงไหนห๊าไอ้ขุนทอง”
สมใจปรี่จะเข้าไปลุย แต่กำโป๊งหิ้วโทรศัพท์ออกมาซะก่อน
“ได้แล้วๆ ตามสบายนะไอ้ใจ๋”
กำโป๊งวางโทรศัพท์ให้ตรงหน้า สมใจค้อนเจ้าคุณขวับ ก่อนจะนั่งลงหยิบหูโทรศัพท์ เจ้าคุณมองโทรศัพท์แบบตาโตอยากโทร.ใจจะขาด
“ยังจะมองอีก!” สมใจด่า
“สวยตายล่ะ ใครอยากมอง” เจ้าคุณโต้
“ไอ้…ไอ้ปากเหม็น แน่จริงกลับมาก่อนซิเว๊ย!”
กำโป๊งมองอย่างงงๆ
“นี่มันอะไรกันวะ”
“ของเขาแรงส์จ้ะลุง” แคบหมูกับไส้อั่วหัวเราะกันคิกคัก
“ของแรงส์” กำโป๊งไม่เก็ตกับคำพูดสองแสบ
สมใจยังคงสงสัยในตัวเจ้าคุณไม่หาย
กลางดึกคืนนั้น เจ้าคุณนอนห่มมุ้งอยู่ท่ามกลางความมืดในห้องนอน ซักพักเสียงยุงตอมหึ่งๆ เจ้าคุณตบหน้าเพี๊ยะ นอนหงุดหงิดได้ซักพัก ก็ลุกขึ้นนั่งทั้งเคืองและรำคาญสุดๆ
“โอ๊ย! ไม่ไหวแล้วเว้ย”
ครู่หนึ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ เจ้าคุณจึงจุดตะเกียง แล้วลุกขึ้นเดินย่องออกจากห้องไป เจ้าคุณถือตะเกียงค่อยๆ ย่องลงมาท่ามกลางความมืด จนมายืนหน้าห้องลับลุงกำโป๊ง เจ้าคุณพยายามจะเปิดประตูห้องลับนั้นเพราะเคยเห็นกำโป๊ง ถือโทรศัพท์ออกมาจากห้องนั้น แต่เจ้าคุณต้องอึ้งเมื่อพบว่าห้องนั้นมีสายยูแม่กุญแจขนาดเขื่องล็อกไว้อย่างแน่นหนา
“โธ่เว๊ย! จำไว้เลย ไอ้ลุงกำโป๊ง” เจ้าคุณพยายามดึงอีก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
“เออ กูจะจำไว้” เสียงกำโป๊งดังชัดแจ๋วมาจากข้างหลัง
“เย้ย!”
เจ้าคุณสะดุ้งเฮือกเหมือนโดนผีหลอก พอหันกลับมาเจอหน้ากำโป๊งยิ่งตกใจหนักกว่าเดิม เมื่อเห็นกำโป๊งประแป้งขาววอกยืนในระยะประชิดแทบจะชนหน้ากัน
“ตกใจอะไรนักหนา ข้าไม่ใช่ผี”
“โอย! ก็นึกว่าใช่”
“เอ็งนั่นแหละไอ้ผีขี้ขโมย หนอย ริจะขโมยโทรศัพท์ข้าล่ะซิ ใช่มั้ย” กำโป๊งคาดคั้น
“เอ่อ..ชะ..ชะ..ชั้น..”
เจ้าคุณโกหกและเกิดติดอ่างขึ้นมากะทันหัน
“ฝันไปเถอะไอ้ขุนทอง ฮ่าๆ”
กำโป๊งหัวเราะเยาะ พร้อมยกกุญแจโชว์อีกต่างหาก เจ้าคุณอึ้ง กำโป๊งเดินขำออกไป
ยามเช้าที่แสนสดใส ลำใยนุ่งกระโจมอกเตรียมตัวลงอาบน้ำในบึงของหมู่บ้าน โดยหวังว่าจะได้เจอกับเจ้าคุณ หรือขุนทองหนุ่มในดวงใจของเธอ หลังแอบฟังปลัดจืดกับคำปุยคุยกันเมื่อวันก่อนว่าเจ้าคุณขุนทองมาแก้ผ้าอาบน้ำที่นี่
“ณ บึงแห่งนี้ บึงที่อ้ายขุนทองชอบมาแก้ผ้าอาบน้ำ ว๊าย! เอาใหม่ๆ ณ บึงแห่งนี้ บึงที่อ้ายขุนทอง และแทใย จะมาป๊ะและสาบานต่อกันว่าจะรักกันตลอดไป ว๊ายๆ อุ๊ย! สงสัยอ้ายขุนทองจะมาอาบน้ำแล้ว ทำไงดี”
ว่าแล้วลำใยรีบลงไปแช่น้ำทำไม่รู้ไม่ชี้ทันที
อีกมุมหนึ่งในป่าแถวๆ นั้น ดำเกิงกับสมุนเดินมาตามทาง
“เฮ้ย! ข้าปวดฉี่ว่ะ” ดำเกิงร้องบอกลูกน้อง
“ลูกพี่ปวดฉี่”
“จะแหกปากไปไหน รอตรงนี้..เดี๋ยวมา!!”
พูดจบดำเกิงก็เดินอาดๆ หายไปในป่า ในขณะที่ลำใยชะเง้อชะแง้ เงี่ยหูฟัง
“มาแล้วๆ”
รีบเข้าไปหลบหลังพุ่มไม้ริมบึงทันที ดำเกิงเดินมาเตรียมฉี่ใส่พุ่มไม้นั้น ลำไยโผล่พรวดขึ้นมาทักมั่นใจว่าเป็นเจ้าคุณขุนทองแน่ๆ
“จ๊ะเอ๋!”
“เย้ย!” ดำเกิงผงะ
“ว๊าย!” ลำใยตก
“เย้ย! อีผีป่า”
“ไอ้ผีเปรต!!
สองคนแตกกระเจิงวิ่งกันไปคนละทางสองทาง ดำเกิงตกใจคิดว่าลำใยเป็นผี ส่วน ลำยตกใจที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างของดำเกิงใต้พุ่มไม้
ส่วนที่บ้านกำโป๊ง เวลานั้นสุภาพบุรุษสุดหล่อของลำใย ยังไม่ตื่นแถมนอนหลับสนิท แต่แล้วก็มีกระป๋องสองใบถูกโยนโครมใส่จนเจ้าคุณต้องสะดุ้งตื่น
“เฮ้ย! อะไรวะ”
“จะอะไรล่ะวะ บรรทมเพลินเลยนะพะยะค่ะ เจ้าชายไปเลยไป ไปอาบน้ำแล้วก็ตักน้ำกลับมาใส่ตุ่มด้วย
เร็ว!”
“ก็แล้วทำไมลุงไม่ไปอาบที่บึง ทำไมต้องให้ฉันตักน้ำมาด้วยล่ะ”
“แล้วทำไมข้าต้องยอมให้เอ็งอยู่บ้านข้าด้วยวะเนี่ย” กำโป๊งว่า
เจ้าคุณอึ้ง กลัวถูกไล่ ไม่มีที่ซุกหัวนอน รีบคว้าถังเดินปึงปังออกไปทันที
“ฮึ ไผเป็นไผให้มันรู้เสียบ้าง”
กำโป๊งสะใจที่จิกใช้เจ้าคุณ หนุ่มไฮโซไปตักน้ำได้สำเร็จ
บริเวณริมบึงเวลาเดียวกัน หวานเจี๊ยบนุ่งกระโจมอกห่มผ้าขนหนูเข้ามาเหมือนลำใยทุกประการ หวังจะเจอขุนทองหนุ่มเจ้าของซิกซ์แพ็คชวนฝันของเธอ
“โชคดีจัง อ้ายขุนทองยังไม่มา เอาไงดีวะ นึกออกแล้ว ฮิฮิ รับรองว่าอ้ายขุนทองเสร็จเรา ฮิฮิ”
ทันใดนั้นหวานเจี๊ยบก็สะดุ้ง เพราะได้ยินเสียงคนเดินมา
“อุ๊ย! อ้ายขุนทองแน่ๆ อ้ายขุนทองมาแล้ว”
ไวเท่าความคิดหวานเจี๊ยบโยนผ้าขนหนูทิ้ง รีบวิ่งลงไปแช่น้ำ ซักพักก็ร้องโวยวาย
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ตะคริว ช่วยหวานเจี๊ยบด้วย”
หวานเจี๊ยบฟังเสียงคนเดิน รู้สึกเหมือนใกล้เข้ามาแล้ว เลยรีบงัดแผนเด็ดทิ้งตัวลงในน้ำทำเหมือนเป็นตะคริวหมดแรง แล้วผุดๆ ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่อย่างนั้น
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
สายตาใครบางคนยืนมองหวานเจี๊ยบอยู่ หวานเจี๊ยบยังแกล้งเป็นตะคริวร้องลั่นต่อไป แต่ชักเอะใจว่าทำไมไม่มีใครมาช่วยสักที เลยหรี่ตาแอบมองแล้วก็แทบช็อก
“ไอ้ปลัดจ๋อย!”
“อ้าว หายเลย หายซะงั้น” ปลัดจืดเยาะ
“ไอ้บ้า มายืนทำอะไรตรงนี้” หวานเจี๊ยบฉุน
“ก็มายืนดูคนบ้าน่ะซิ บ้าผู้ชาย! หน้าไม่อาย ลงทุนแกล้งจมน้ำอยากให้ขุนทองมาช่วยใช่มั้ยล่ะ” ปลัดจืดพูดแทงใจดำ
“อ๊าย! ไอ้ ไอ้ ไอ้นรกส่งมาเกิด”
“ก็ตามๆ กันมาแหละเจ๊ แล้วไงเนี่ย ขุนทองไม่มาอย่างนี้ก็เป็นตะคริวเก้อซิเจ๊ ฮ่าๆ”
“ไอ้บ้า!”
หวานเจี๊ยบทั้งอาย ทั้งโกรธวักน้ำสาดใส่ปลัดจืดแก้เก้อ
“ฮ่าๆ คราวหน้าหาแผนที่มันล้ำลึกกว่านี้หน่อยนะ สมองทั้งก้อนคิดได้แค่เนี้ยเหรอ เฮ้อ! โง่จริงๆ”
“ไอ้บ้า!”
“อ๊ะๆ อย่าขึ้นมานะ ฉันไม่อยากเห็นเธอโป๊ เดี๋ยวจะซวยไปตลอดชาติ”
“กรี๊ด! ไอ้ปลัดจ๋อย จำไว้นะไอ้ปลัดจ๋อย หึ้ย!”
หวานเจี๊ยบอารมณ์เสียวิ่งลุยน้ำขึ้นมาทันที ปลัดจืดขำกลิ้งวิ่งหนีออกไป
เจ้าคุณหิ้วกระป๋องตักน้ำเดินมาตามทางเดินในหมู่บ้าน ขณะเดียวกันก็เหวี่ยง โยนกระป๋องเล่นไปด้วย จังหวะหนึ่งกระป๋องหลุดมือลอยไปโดนหัวสมใจที่ขี่จักรยานสวนมาพอดี สมใจร้องลั่น จักรยานเสียหลักพุ่งเข้าชนเจ้าคุณ ล้มกลิ้งกันไปทั้งคู่
“เฮ้ย! ขี่รถยังไงของเธอเนี่ย”
“หนอย เกือบทำหัวฉันแตกยังไม่ขอโทษซักคำ ยังมีหน้ามาว่าชั้นอีกเหรอ นายขุนทอง”
“แต่เธอขี่จักรยานมาชนฉัน”
“แต่นายโยนกระป๋องมาโดนหัวฉัน”
“เธอเอาหัวมารับกระป๋องฉันเอง”
“งั้นนายก็เอาตัวมาชนจักรยานฉันเองเหมือนกัน”
“เธอนี่มันแสบไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ”
เจ้าคุณหลุดปาก พูดเหมือนว่าเคยเจอสมใจมาก่อน สมใจฉุกคิดรีบถามเค้นทันที
“ทำไม นายเคยเจอฉันแสบเมื่อไหร่ ที่ไหน”
“ก็...” เจ้าคุณรู้ตัวเดินหนี สมใจวิ่งไปดักหน้า
“จะหนีไปไหนล่ะ ตอบมาก่อนซิ”
“โห่ย รำคาญ!”
“จะหนีไปไหน”
สมใจดึงรั้งเจ้าคุณไม่ให้เดินหนี ร่างเจ้าคุณเซจนหน้ามาใกล้ชิดสมใจเอามากๆ สองคนมองหน้ากันงงๆ แต่ทันใดนั้น ปลัดจืดก็โผล่มาขัดจังหวะเสียก่อน สมใจสะดุ้งไปเมื่อเห็นปลัดจืดเดินมา
“เฮ้ย ทำอะไรน่ะ” ปลัดจืดปรี๊ด พุ่งเข้าหาเจ้าคุณ “ฉันถามว่าแกทำไรใจ๋ ปล่อยใจ๋เดี๋ยวนี้”
“บอกใจ๋ของปลัดให้ปล่อยฉัน อย่าทำอะไรฉันจะดีกว่ามั้ย”
ว่าพลางเจ้าคุณเหล่ไปมองที่ข้อมือตัวเอง สมใจกับปลัดจืดมองตาม เห็นมือสมใจยังกำข้อมือเจ้าคุณไว้แน่น
“เฮ๊ย!”
“เฮ้ย! เปล่านะ ฉัน..เอ่อ..ฉัน” สมใจปฏิเสธพัลวัน
“แต๊ะอั๋งผู้ชายนี่กฎหมายต้องลงโทษให้หนักเลยนะปลัด จัดให้ด้วย”
พูดจบเจ้าคุณก็อมยิ้มเดินอารมณ์ดีออกไปเฉยเลย ปลัดจืดกับสมใจยืนอึ้ง สมใจทั้งโกรธทั้งอาย
“คือ ปลัด ฉัน..คือ..ฉันเปล่าแต๊ะอั๋งนะ”
ปลัดจืดมองแบบชักไม่แน่ใจในอาการของสมใจ ส่วนสมใจอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี เพราะเป็นครั้งที่สองแล้วที่ปลัดจืดเข้าใจว่าสมใจอยู่กับเจ้าคุณตามลำพัง
สมใจเล่าเรื่องให้เพื่อนสาวฟังทันทีที่กลับมาถึงบ้าน แต่กลับถูกคำปุยกล่อมให้สมใจเลิกจับผิดจ้าคุณซะที
“ฉันว่าแกเลิกจับผิดอ้ายขุนทองได้แล้วล่ะนังใจ๋”
“นี่! แกเริ่มเข้าข้างคนอื่น เห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ห๊า นังปุ๋ย” แต่ดูท่าสมใจจะไม่ยอมลดละ
“ก็ตั้งแต่เห็นซิกซ์แพ็คอ้ายขุนทอง อ่ะ! ล้อเล่น”
“ไม่ใช่เวลาจะมาล้อเล่น เชื่อฉันซิปุ๋ย ฉันมองคนไม่ผิดหรอก ไอ้นายขุนทองคนนี้ มันมีอะไรไม่น่าไว้ใจ มันไม่ธรรมดา” น้ำเสียงสมใจจริงจังมากๆ
“เชื่อ ดูก็รู้ว่าไม่ธรรมดา ฮ่าๆ” คำปุยกลับคิดไปเรื่องอื่น
“นังปุ๋ย ฉันพูดจริง”
“เฮ้อ นังใจ๋ ฉันว่าแกมันยังป่วยใจไม่หายรึเปล่าวะ โดนพี่โก้ทำเจ็บซะจนพาลไม่ไว้ใจผู้ชายไปทั้งโลก อย่างนี้มันไม่แฟร์ต่ออ้ายขุนทองนะเจ้า” คำปุยหลุดปากพูดถึงโก้อีกครั้ง
“นังปุ๋ย เลิกพูดถึงพี่โก้ แล้วก็อย่าลากมาเกี่ยวกับนายขุนทอง เพราะมันไม่เกี่ยวกัน”
“ถ้างั้นแกก็ต้องเลิกจับผิดอ้ายขุนทองด้วย เพราะฉันเบื่อฟังเรื่องนี้เต็มทีแล้ว เฮ้อ”
คำปุยตัดบทแล้วลุกออกไป ปล่อยให้สมใจบ่นพึมพำคนเดียวอย่างคั่งแค้น
“แต่ฉันยังไม่เบื่อ แล้วเจอกัน อ้ายขุนทอง!”
รจนาวรรณ และเอมี่กำลังช่วยกันขัดห้องน้ำแคบๆ ท่ามกลางบรรยากาศวิเวกวังเวงของวัดยามดึก
“อะไรนะคะคุณหญิงแม่ เราจะต้องไปเจริญสติในป่าช้า”
เอมี่สุดจะทนไหว ขว้างแปรงขัดส้วมในมือทิ้ง
“มี่ไม่ไป! หัวเด็ดตีนขาดมี่ก็ไม่ไป แค่ต้องกวาดลานวัด ขัดส้วมนี่มี่ก็สติจะแตกอยู่แล้ว มี่ไม่มีวันจะไปเจริญสติในป่าช้าเด็ดขาด เชิญคุณหญิงแม่ไปคนเดียวเถอะค่ะ”
โวยวายจบเอมี่เดินออกมาด้านนอกทันทีอย่างไม่พอใจ
“โถ หนูมี่ ไม่เอานะจ๊ะ อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือสติซิจ๊ะคนดี” รจนาวรรณตามมาพูดปลอบทันที
“ไม่ดงไม่ดีแล้วล่ะค่ะ มี่ไม่ได้อยากเป็นคนดีซักกะหน่อย” เอมี่โวยต่อ
“ไม่จริง หนูมี่ของแม่เป็นคนดีซิจ๊ะ ไม่งั้นแม่จะอยากได้มาเป็นสะใภ้เหรอ อดทนอีกนิดนะจ๊ะ พระท่าน
บอกว่าสเต็ปนี้น่ะสุดยอดแล้ว ถ้าผ่านไปได้ เราจะได้เอาบุญไปฝากเจ้าคุณเยอะๆ ไงจ๊ะ”
“คุณหญิงแม่ไปคนเดียวก็ได้นี่คะ แค่นั้นก็น่าจะได้บุญเยอะแยะแล้ว”
เอมี่ท่าทีสงบลงแต่ไม่ยอมอ่อนข้อง่ายๆ
“ไม่ได้หรอกจ้ะ หนูมี่ต้องไปกับแม่ด้วย”
“เอ๊า! ทำไมล่ะคะ”
“เอ่อ...คือ...คุณหญิงแม่กลัวผี” รจนาวรรณบอกเสียงอ่อยๆ
ไม่นานหลังจากนั้น รจนาวรรณกับเอมี่กอดกันกลมอยู่ในป่าช้าของวัด ทั้งคู่ค่อยๆ ย่องเข้ามาอย่างหวาดหวั่น ในบรรยากาศวังเวงของป่าช้าแห้งนั้น มีผู้ปฎิบัติธรรม 2 คน เดินจงกลมเจริญสติด้วยท่าทีสงบอยู่ก่อน
“คุณหญิงแม่”
“โอ๊ย! ตกใจหมด จะเรียกทำไม”
“ก็ มี่กลัว”
“อือ แม่ก็กลัว เอางี้ เรานั่งมันตรงนี้แหละ”
“อ้าว”
“เหอะน่า เราเป็นน้องใหม่นี่จ๊ะ ปล่อยให้รุ่นพี่เขาเข้าไปลึกๆ เราอยู่แค่นี้ก็พอแล้ว”
รจนาวรรณปูเสื่อที่ถือมาคนละผืน แล้วลงนั่งอย่างหวาดๆ ก่อนจะหลับตา ทันใดนั้นก็มีเสียงหมาหอนเกรียว รจนาวรรณ เอมี่ กรี๊ดลั่น โดดกอดกันกลมตัวสั่น
“ไม่เอาแล้ว มี่ไม่ไหวแล้ว”
“แค่..แค่..แค่..แค่หมาหอนจ้ะ ไม่มีอะไร ไป..ไปนั่งให้เสร็จๆ เร้ว”
เอมี่จำใจนั่งบนเสื่อตัวเอง แป๊บหนึ่งก็หรี่ตามองรจนาวรรณที่นั่งสมาธิอยู่ข้างๆ แล้วตัดสินใจค่อยๆ ลุกขึ้น
“อีบ้า!”
เอมี่แลบลิ้นใส่รจนาวรรณ ก่อนจะหนีออกมา คิดจะปล่อยให้ว่าที่แม่สามีนั่งหลับตาปี๋นั่งสมาธิคนเดียวในป่าช้า
“เชิญแกอยู่กับผีไปคนเดียวเถอะนังคุณหญิงแม่ ชั้นไม่เอากับแกด้วยเหรอย่ะ”
แต่แล้วเอมี่แทบช็อก เมื่อรจนาวรรณโผล่ออกมาจากมุมมืดดักหน้าเอมี่ไว้
“อ๊าย...!” เอมี่กรี๊ดลั่นป่าช้า
“หนูมี่” รจนาวรรณทักขึ้น
“คุณหญิงแม่ มี่ตกใจหมดเลย”
“แม่ซิตกใจ จู่ๆ หนูมี่ก็หายไป แม่ตกใจหมดเลย”
“เอ่อ คือ มี่ปวดฉี่อ่ะค่ะ”
“เออ แม่ก็ปวด” รู้ทันกันทั้งสองคน
“ปวดฉี่หรือกลัวผีกันแน่คะ”
“แหะๆ ก็ทั้งสองน่ะจ้ะ แม่ว่าเราไปหาที่ฉี่กันก่อนดีมั้ยจ๊ะ”
“ดีค่ะ”
“จะไปไหน” เสียงใครคนหนึ่งทักมาจากด้านหลัง
“ผีหลอก!” ทั้งคู่ตกใจร้องขึ้นมาพร้อมกัน
“อะไรของเขาวะ หลวงพ่อให้มาตาม เฮ้อ”
ที่แท้เป็นสัปเหร่อเรียกทั้งสองคน แต่รจนาวรรณและเอมี่คิดว่าถูกผีหลอก จึงร้องกรี๊ดวิ่งหนีวนไปมาชนกันล้มกลิ้ง ก่อนจะโกยแน่บออกไปจากบริเวณนั้น
กลางดึกคืนเดียวกันสมใจกับคำปุยกำลังแบกบันไดไม้ไผ่ย่องมาตามทาง เป้าหมายคือมุ่งไปบ้านกำโป๊งเพื่อจับผิดเจ้าคุณต่อ แต่จังหวะหนึ่งคำปุยเกิดสะดุด
“ว๊าย!”
“ชู่ว์”
“จะดีเหรอนังใจ๋ ทำตัวยังกะโจร” คำปุยบ่นกระปอดกระแปด
“ใครบอก นายขุนทองต่างหากที่ฉันสงสัยว่าจะเป็นโจร และคืนนี้ฉันต้องจับโจรให้ได้” สมใจมุ่งมั่นเอามากๆ
“แต่เราเป็นแม่หญิง จะปีนบันไดไปแอบดูผู้ชายมันไม่งาม” คำปุยเรื่อยเจื้อย
“โอ๊ย! นังปุ๋ย แกจะแอ๊บไปไหนห๊ะ จะไปไม่ไป ถ้าไม่ไป ฉันไป”
“พุทโธ สังโฆ แค่นี้ก็ต้องปี๊ด ของดีอย่างนี้ ฉันจะปล่อยให้แกไปคนเดียวได้ไง”
คำปุยเลิกแอ๊บวิ่งแบกบันไดนำหน้าไป สมใจส่ายหน้าหมั่นไส้ ก่อนจะเดินตามไป
ด้านเจ้าคุณนุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำอยู่ สาดโครมๆ 2 ที แล้วก็รีบคว้าขนหนูมาเช็ดตัว
“พอแล้วเว๊ย บรื๊ย หนาว”
เจ้าคุณรีบเดินออกไป โดยไม่รู้ว่าเวลานั้นสมใจกับคำปุยมาถึง และกำลังปีนบันไดพาดหน้าต่างห้องนอนเจ้าคุณอยู่
คำปุยปีนบันไดขึ้นมาโผล่หน้าที่หน้าต่างได้ก่อน กวาดมองไปรอบๆ ไม่เห็นใคร
“ไอ้ปุ๋ย เห็นไรป่ะ” สมใจตะโกนถามเสียงเบาๆ
“ไม่เห็นใครเลยอ่ะ”
“ดีแล้ว ปีนเข้าไปในห้องมันเลย” สมใจบอก
“ห๊ะ! เอาจริงเหรอ”
“เออ อย่าช้า เร็วๆ” สมใจคะยั้ยคะยอ
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ”
คำปุยปีนเข้าไปในห้อง สมใจปีนบันไดขึ้นตามมา เจ้าคุณเดินใกล้บ้านเข้ามาทุกทีๆ สมใจปีนเข้ามาในห้อง แต่ชนกับคำปุยที่ยืนอยู่
“ว๊าย!” คำปุยร้องลั่น
สมใจรีบเอามือปิดปากคำปุย
“จะแหกปากทำไม เดี๋ยวไอ้นายขุนทองมันได้ยิน รีบค้นห้องมันเร็วเข้า”
คำปุยกับสมใจตรงไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า รื้อค้นลิ้นชัก คำปุยเจอกางเกงในถึงกับผงะเขินอาย เลยเจอสมใจเขกหัวพร้อมทำหน้าโหดใส่ คำปุยรีบรื้อห้องต่อ เจ้าคุณเดินมาที่บันไดบ้าน ทำจมูกฟุดฟิดแล้วจาม
“ฮัด ชิ่ว”
ด้านก้องเกียรติและกิ่งแก้วอยู่ที่ห้องคอนโทรล เห็นสมใจและคำปุยเข้าไปรื้อค้นห้องของเจ้าคุณก็ต้องสะดุ้งตื่น มาดูที่หน้าจอทั้งคู่
สมใจและคำปุยยังง่วนอยู่กับการรื้อค้นข้าวของเจ้าคุณ คำปุยหันมาทางสมใจทำหน้าเหนื่อยใส่
“ไม่เห็นเจออะไรที่มันน่าสงสัยเลยอ่ะใจ๋”
“นั่นซิ ไม่เจออะไรเลย แปลก แปลกมากๆ”
ทันใดนั้นเสียงเจ้าคุณจามดังขึ้นอีกครั้ง ที่หน้าห้อง สมใจกับคำปุยหันขวับไปมอง หน้าตาตื่น คำปุยรีบคลานมาหาสมใจ
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ อ้ายขุนกลับ ทำไงอ่ะ ทำไง”
“หนีซิ”
สมใจกับคำปุยตรงไปที่หน้าต่างจะปีนบันไดลงไป แต่แทบช็อก! เพราะบันไดดันหล่นไปอยู่ที่พื้นด้านล่าง สมใจกับคำปุยตาเหลือก หันมาเห็นประตูเปิดออก สมใจกับคำปุยมองหน้ากัน
ไวเท่าความคิดสมใจตัดสินใจฉุดคำปุยเข้าไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าทันที
สมใจกับคำปุยซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า เหงื่อแตก ครู่ต่อมาเสียงประตูปิดดังปัง สมใจกับคำปุยกลืนน้ำลายเอื๊อก คำปุยพนมมือไหว้ปลกๆ
“คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกช้างด้วย”
สมใจกลืนน้ำลายเอื๊อก อยู่ในอาการลุ้นระทึก ทันใดนั้นประตูตู้เสื้อผ้าก็เปิดออก สมใจกับคำปุยตกใจสุดขีด
อ่านต่อหน้า 2 เวลา 12.00 น.
รักออกอากาศ ตอนที่ 3 (ต่อ)
ก้องเกียรติทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืน จ้องมองเหตุการณ์ลุ้นระทึกระหว่าง เจ้าคุณ สมใจ และคำปุย ที่จอมอนิเตอร์ในห้องคอนโทรล โดยมีกิ่งแก้วที่ลุ้นไม่ต่างกันอยู่ด้วยข้างๆ
“แย่แล้ว!”
“ก็รู้แล้วว่าแย่ โธ่เอ๊ย! เอาแต่ร้องแย่แล้วๆ อยู่นั่นแหละ ทำอะไรซักอย่างซิก้อง” กิ่งแก้วเตือนสติ
“จะให้ทำยังไงล่ะ ดูซิ ภาพมันเป็นอะไรก็ไม่รู้”
กิ่งแก้วหันไปดูที่มอนิเตอร์ เห็นเป็นภาพสมใจกับคำปุย ในจอกำลังติดๆ ดับๆ จอพร่าเหมือนสัญญาณไม่ดี
“เฮ้ย!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว มองหน้ากันเมื่อสัญญาณรายการไฮโซบ้านเฮา ที่กำลังออกอากาศติดๆ ดับๆ เล่นเอาแฟนคลับที่ติดตามชมอยู่หัวเสีย
บรรดาลูกค้าร้านขายของชำ ร้านค้าต่างติดเรียลลิตีไฮโซบ้านเฮากันงอมแงม คุณยายแก่ๆ นั่งดูอยู่กับหลานเล็กๆ ยั๊วขาด ตบเข่าฉาด เมื่อจู่ๆ ภาพไฮโซบ้านเฮา ในทีวีก็ติดๆ ดับๆ
“อะไรวะ ทำไมเป็นอย่างนี้ คนกำลังลุ้นอยู่”
ลูกค้า 2 คนนั่งอยู่ที่ม้านั่งหน้าร้านเห็นแล้วขำ
“ใจเย็นยาย เดี๋ยวก็หัวใจวายกันพอดี”
ยายแก่ยั๊ว ปาดน้ำหมากอย่างลุ้นและเอาใจช่วยสมใจสุดขีด
“นังใจ๋เอ๋ยนังใจ๋ จะรอดมั้ยวะเนี่ย”
ส่วนเหตุการณ์จริงที่บ้านม่วนแต๊ เวลานั้นทั้งสมใจและคำปุย ยังคงยืนตกใจกันอยู่ที่เดิม โดยมีกำโป๊งยืนมองเหล่อยู่คู่กับเจ้าคุณ สมใจและคำปุยยืนยิ้มแหยๆ อยู่
“สบายดีบ่ค้า ลุงกำโป๊ง”
“ข้าน่ะสบายดี ว่าแต่เอ็งกับไอ้ใจ๋เถอะ สบายดีรึเปล่า”
“แฮ่ๆ”
คำปุยหน้าแหย สมใจทำหน้าตาบอกไม่ถูก เจ้าคุณเหล่มองสมใจ แต่เจออีกฝ่ายทำหน้ายักษ์ใส่
เวลาต่อมา กำโป๊งยืนอยู่ตรงหน้าสมใจกับคำปุย ที่ใต้ถุนบ้าน เจ้าคุณยืนอยู่ข้างหลังกำโป๊ง
“ข้าก็บอกเอ็งแล้วไงว่าไอ้ขุนทอง มันเป็นหลายชายแท้ๆ ของข้า ทำไมเอ็งถึงไม่เชื่อข้าวะไอ้ใจ๋” กำโป๊งว่า
“อยากให้เชื่อก็ได้ ถ้างั้นฉันขอดูบัตรประชาชนไอ้นายขุนทองหลานลุงหน่อยซิ” สมใจบอก
ลุงกำโป๊งกับเจ้าคุณเหล่มองหน้ากัน
“มีมั้ย” สมใจคาดคั้น
“ไม่มี” กำโป๊งบอกหน้าตาเฉย
“ไม่มีก็แปลว่าไม่มี” เจ้าคุณกวนใส่
“อ้าว! ยังงี้มันหมายความว่า...” สมใจฮึดฮัดขัดใจ
“ก็ไอ้ขุนทองมันเป็นบ้า มันติงต๊องต้องไปอยู่โรงพยาบาล แล้วมันจะเอาเวลาที่ไหนไปทำบัตรประชาชนล่ะเว้ยเฮ้ย!” กำโป๊งเอาเสียงดังเข้าข่ม
สมใจใบ้กิน พูดไม่ออก คำปุยจับแขนสมใจรีบชวนกลับบ้าน
“ใจ๋ ฉันว่าเรากลับบ้านกันเถอะนะใจ๋นะ อยู่ไปก็หน้าแตกเปล่าๆ”
สมใจจ้องหน้าเจ้าคุณที่กำลังยักคิ้วใส่ ก่อนจะยอมหิ้วบันไดกลับบ้าน ระหว่างทางแบกบันไดกลับบ้านคำปุยเฉ่งสมใจที่ทำให้หน้าแตกเรื่องไปจับผิดเจ้าคุณ
“พอได้แล้วนะใจ๋ เลิก เลิกเด็ดขาด ฉันอายเขา” คำปุยโวยอย่างเหลืออด
“แกพอไปคนเดียวเหอะไอ้ปุ๋ย ยังไงฉันก็ไม่เชื่อว่ามันเป็นหลานลุงกำโป๊ง ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใครกันแน่”
หน้าตาคำปุยสุดจะเอือมระอา ในขณะที่สมใจกลับมีหน้าตามุ่งมั่น
ส่วนฟาก เจ้าคุณกำลังสงสัยว่ากำโป๊งรู้ได้อย่างไรว่า สมใจกับคำปุยแอบมาจับผิดตนเองถึงในห้อง
“ลุงรู้ได้ไงว่ายัยนั่นอยู่ในห้องผม”
“ข้ามีพรายกระซิบ” กำโป๊งชะงักเล็กน้อย
“อย่าบอกนะว่าลุงเลี้ยงผีไว้ในบ้าน” เจ้าคุณแซว
“ใช่ แฮ่!” กำโป๊งทำหน้าผีหลอกเจ้าคุณ
“เย้ย!” เจ้าคุณตกใจจนตกเก้าอี้
กำโป๊งหัวเราะสะใจ เจ้าคุณลุกขึ้นมาจับก้นกบด้วยความเจ็บ
“คนอย่างไอ้ใจ๋ กัดไม่ปล่อย” กำโป๊งเปรยขึ้นมา
“ยัยหมาบ้า!”
เจ้าคุณขำก๊าก แต่กำโป๊งไม่ขำด้วย เจ้าคุณเลยขำค้างแล้วรีบหุบปาก
“งั้นเอาไงดีล่ะลุง”
“เอ็งต้องเผชิญหน้ากับนังใจ๋ ตาต่อตา ฟันต่อฟันกันไปเลย ถ้าเอ็งยิ่งหนีก็แปลว่าเอ็งเป็นอย่างที่มันสงสัย เคยได้ยินมั้ย หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง”
เจ้าคุณครุ่นคิดตามที่กำโป๊งพูด ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดังแว่วมาจากในห้องลับ
“เสียงอะไรน่ะลุง”
“เอ่อ นาฬิกา นาฬิกาปลุก”
“นาฬิกาปลุก”
พูดจบกำโป๊งก็วิ่งปรี่ไปไขกุญแจแล้วผลุบเข้าห้องไป เจ้าคุณมองตามอย่างสงสัย
กำโป๊ง รับสายก้องเกียรติโทรเข้ามาหาอยู่ในห้องลับ
“ไอ้ก้อง เอ็งจะโทร.มาหาพระแสงเงี้ยวอะไรของเอ็งวะ ความลับหวิดแตกแล้วมั้ยล่ะ”
“ไม่โทร.ได้ไงล่ะครับลุง ระบบไฟฟ้าของลุงมันเกิดอะไรขึ้น ภาพในทีวีมันติดๆ ดับๆ คนดู เอสเอ็มเอส มาด่ากันเพียบเลย
“ห๊า ว่าไงนะ”
“ระบบไฟฟ้าของลุง เอ่อ ไอ้กังหันลมของลุงน่ะซิ เจ๊งละเปล่า ลุงต้องรีบเช็คด่วนนะครับ ไม่งั้นผมเจ๊งแน่ๆ”
“กังหันลม!”
วันถัดมา ที่ไร่ชาเขียวม่วนใจ๋ สมหมาย สมศรี สมใจ ปลัดจืด และกำโป๊งตั้งวงสนทนาอย่างจริงจัง สมหมายมีหน้าตาท่าทางประหลาดใจหลังฟังกำโป๊งพูดจบ
“ตั้งกังหันลมอันใหม่”
“ใช่แล้วพ่อหมาย ฉันจะตั้งกังหันลมตัวใหม่” กำโป๊งบอกอีกรอบ
“ไหนลุงเคยบอกว่า กังหันลมของลุงแค่ตัวเดียว ก็มีไฟฟ้าใช้ทั้งหมู่บ้านแล้วยังไงล่ะครับ แล้วทำไมเราต้องตั้งอันใหม่ด้วย” ปลัดจืดสงสัยเช่นกัน
“เอ่อ... อันเก่ามันใช้มานานแล้วนะพ่อปลัด แรงมันอาจจะตกบ้างอะไรบ้าง แล้วอีกอย่าง ฉันก็อยากจะทดลองของใหม่ ไอเดียมันพุ่งอ่ะ เข้าใจอ๊ะป่าว บ้านม่วนแต๊ของเราถึงจะอยู่หลังเขา แต่ก็ไฮเทคล้ำหน้าใครๆ เขา” กำโป๊งคุยฟุ้ง
“เยี่ยม วิสัยทัศน์เยี่ยม สมแล้วกับที่เป็นตากำโป๊งผู้อัจฉริยะ”
สมหมายเอ่ยชม กำโป๊งถึงกับตัวพองเลยทีเดียว
“แล้วลุงจะตั้งกังหันลมใหม่เมื่อไหร่จ๊ะ” สมใจเอ่ยถาม
“พรุ่งนี้ ก็เลยจะมาบอกให้ปลัดช่วยไปบอกพวกชาวบ้านให้มาช่วยๆ กัน”
“ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา”
ปลัดจืดรับหน้าเสื่อขอแรงชาวบ้าน และมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดูแลเรื่องกังหันลมอันใหม่ที่จะตั้งแทนอันเก่าบริเวณหน้าบ้านกำโป๊ง ไม่นานนักกังหันลมอันใหญ่ถูกวางอยู่บนพื้น มีชาวบ้านมาเตรียมช่วยกันยกโดยพร้อมเพรียง
“ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องที่มาช่วยกันในวันนี้นะจ๊ะ” กำโป๊งยิ้มแป้น
“พร้อมมั้ย พวกเรา” ปลัดจืดเป็นต้นเสียงยกกังหัน
“พร้อม” ชาวบ้านประสานเสียง
“ถ้างั้นก็ลุย!”
ทุกคนช่วยกันยกกังหันลม เจ้าคุณงงๆ ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก สมใจเหล่
“มายืนทำเบื๊อกอะไรเนี่ย ไม่ช่วยก็หลีก เกะกะ!”
สมใจเดินกระแทกไหล่เจ้าคุณ ก่อนจะเดินไปช่วยเพื่อนบ้าน ทุกคนแบกกังหันลมอย่างแข็งขัน เจ้าคุณเหล่สมใจพลางพึมพำออกมา
“ยัยหมาบ้า!”
“ว่าไงนะ” สมใจได้ยินไม่ถนัด
ปลัดจืดมองๆ ก่อนจะปรี่ไปยื่นน้ำแดงให้สมใจ
“ขอบใจปลัด ยังไม่ทันจะเหนื่อยเลยนะเนี่ย”
“ฉันไม่ยอมปล่อยให้ใจ๋เหนื่อยก่อนหรอก”
สองคนมองตากันแล้วยิ้มเยิ้ม เจ้าคุณมองอยู่ ส่ายหน้ากับมุกแป๊กของปลัดจืด แต่คนที่อาการหนักกว่าน่าจะเป็นหวานเจี๊ยบ
“แหวะ เลี่ยนเว๊ย! เอาน้ำชาแก้เลี่ยนหน่อยมั้ยจ๊ะพี่ใจ๋” หวานเจี๊ยบแหวขึ้นมา
“เอาน้ำยาล้างส้วม มาล้างปากเธอดีกว่ามั้งยัยเค็มปิ๊ด!” ปลัดจืดตอกกลับ
“ต๊าย! ไอ้ปลัดจ๋อย มานี่เลยมา ขอนังหวานเจี๊ยบเลาะเหล็กดัดฟันแกออกหน่อยเถอะ”
หวานเจี๊ยบปรี่เข้าไปจะง้างปากปลัดจืด แต่โดนคว้ามือไว้ก่อน
“เฮ้ย! จะเลาะออกไปทำไม”
“จะเอาไปทำตะกร้อครอบปากแกแทนน่ะซิ ไอ้ปลัดจ๋อย”
พูดจบก็ตะปบปากปลัดจืดอย่างแรง ปลัดจืดเผลอผลักหวานเจี๊ยบแรงไปหน่อย จนร่างหวานเจี๊ยบกระเด็นไปล้มทับเจ้าคุณ
“ว๊าย! อ้ายขุนทอง!”
นอกจากไม่เจ็บแล้ว หวานเจี๊ยบยังถูกใจยิ่งกว่าอะไร ตาโต ทำเนียนๆ ล้มคว่ำทับเจ้าคุณจนตัวแนบหน้าใกล้กันในระยะประชิดเหมือนพระนางในซีรีส์เกาหลี
“ว๊ายๆ” หวานเจี๊ยบร้องขึ้น
สมใจอึ้ง ปลัดจืดส่ายหน้าแบบทุเรศจริงๆ หวานเจี๊ยบ กับเจ้าคุณ ยังคงจ้องหน้ากันอยู่
“โอ๊ยๆ เจ็บจัง เจ็บจัง” หวานเจี๊ยบเรียกร้องความสนใจ
แล้วก็สมใจอยากเมื่อมีเสียงคำรามดังแหวกขึ้นมา
“เจ็บมากมั้ย นังหวานเจี๊ยบ”
ทุกคนหันขวับ เห็นแม่ลูกลำยอง กับลำใย ยืนตาขวางอยู่
“ดูซิคะคุณแม่ มันแอ๊บอ่ะ!” ลำใยฟ้องแม่
“ใช่! แอ๊บเหมือนน้ามันไม่มีผิด เชอะ นังน้าก็ทำแอ๊บเป็นสาวเครือฟ้าฟ้อนรำ ส่วนอีนังหลานก็แอ๊บหวานขายน้ำแข็งใส ที่แท้ก็ชอบอ่อยผู้ชายทั้งน้าทั้งหลานล่ะวะ” ลำยองเลยรวบตึงด่าใส่ทั้งน้าและหลาน
“ใช่ค่ะคุณแม่ แน่นอนที่สุด” ลำใยผสมโรง
“อ้าว! เฮ้ยๆ เล่นด่าทั้งน้าทั้งหลานอย่างนี้เดี๋ยวก็มีด่าทั้งแม่ทั้งลูกให้มั่งหรอก”
“อ๊ะ! มาเซ่ มาเซ่ กลัวที่ไหน”
กำโป๊ง สมหมาย และสมศรี ยืนมองเหตุการณ์อยู่ กำโป๊งทนไม่ไหวต้องเข้ามาหย่าศึก
“เฮ๊ยๆ เขาเรียกให้มาช่วยกัน ไม่ใช้ให้มาทะเลาะกัน มาเร็ว มาช่วยกันทั้งหมดนั่นล่ะ”
ลำยองกับลำใย ชี้หน้าหวานเจี๊ยบ แล้วลำใยกับหวานเจี๊ยบก็รีบแข่งกันวิ่งไปเกาะแขนเจ้าคุณ ต่างคนต่างจะแย่งกันเป็นเจ้าของเจ้าคุณ จนสมใจแอบหมั่นไส้
“เฮ้อ! แม่นางบ้านเราเดี๋ยวนี้ริอ่านแย่งผู้ชายกันซะแล้ว”
กำโป๊งบ่นไปยิ้มไป แต่สมหมายมองแบบรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเห็นหวานเจี๊ยบกับลำใยยังดึงเจ้าคุณไปซ้ายทีขวาที แล้วหันไปดูกังหันลมที่ตั้งใหม่ที่ตอนนี้ชาวบ้านช่วยกันตั้งใกล้เสร็จแล้ว ทุกคนเฮลั่น
“อย่างนี้มันต้องฉลอง จริงมั้ยพวกเรา จริงมั้ยจ๊ะ น้าศรี” เพื่อนบ้านว่า
“ชัวร์! จัดหนักๆ เจ้า”
ทุกคนเฮเห็นด้วยดีใจ ยกเว้นเจ้าคุณที่ยืนเฉย เพราะยังไม่รู้ประเพณีของชาวม่วนแต๊
ไม่นานหลังจากนั้น บริเวณลานหน้าบ้านสมใจ ก็กลายเป็นสถานที่จัดเลี้ยงฉลองกังหันลมอันใหม่ เวลานั้นเครือฟ้ากำลังฟ้อนรำอย่างงดงามอยู่กลางลาน ทุกคนดื่มกินส่งเสียงเฮฮา บรรยากาศรื่นเริง เพราะแขกเหรื่อในหมู่บ้านมากันครบ สมใจ ปลัดจืด สมหมาย สมศรี และคำปุย นั่งอยู่ข้างๆ กัน
ส่วนเจ้าคุณนั่งจ๋องอยู่กับกำโป๊งที่จ้องเครือฟ้าตาเยิ้ม
“เชอะ ฟ้อนอย่างนี้ใครๆ ก็ฟ้อนได้” ลำยองที่นั่งข้างๆ ด่ากระทบกระเทียบ
“ดีแต่พูดน่ะแม่ลำยอง”
“อ๊าย! อ้ายโป๊งว่าลำยอง ลำยองน้อยใจ”
“ไม่ได้ว่า ข้าพูดจริงจริง”
“ฮึ อ้ายโป๊งนะอ้ายโป๊ง” ลำยองงอนตุ๊บป่องเดินออกไป
ส่วนลำใยเขยิบมาประชิดตัวเจ้าคุณแทน
“นั่งคนเดียวคงจะเหงา เราไปหามุมเหมาะๆ ฟ้อนกันมั่งมั้ยจ๊ะอ้ายขุนทอง”
“ฉันฟ้อนไม่เป็น” เจ้าคุณบอก
“ไม่ยาก แทใยจะสอนให้ แป๊บเดียว เป็นแน่ๆ”
หวานเจี๊ยบเข้ามากระแทกลำใยกระเด็นตกเก้าอี้ไปเลย
“นังหน้าหนอนลำใยไปไกลๆ เลยไป๊” หวานเจี๊ยบเปิดศึกอีกรอบ
“อร้าย...!”
“ชาเย็นไร่ม่วนใจ๋ชื่นใจแต๊ๆ เจ้า”
หวานเจี๊ยบส่งชาให้เจ้าคุณ
“อืมม์ อร่อยดี”
“ต้องอร่อยซิจ๊ะอ้ายขุนทอง ใบชาไร่ม่วนใจ๋ของพี่ใจ๋เนี่ยสุดยอดแล้ว”
“ของยัยหมาบ้า เอ๊ย! ของยัยใจ๋เนี่ยนะ” เจ้าคุณสำลักพรวด
จังหวะนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา
“เออซิ! มีปัญหาอะไร”
เจ้าคุณหันไปมอง เห็นสมใจยืนท้าวสะเอวอยู่
“ให้กินฟรีๆ แล้วยังมีปัญหา ก็อย่ากินมันเลย” สมใจคว้าแก้วชาไปทันที เจ้าคุณทะลึ่งพรวด
“นี่ เยอะไปแล้วนะเธอ”
“น้อยไปซิ”
“ไม่เอานะ หยุดๆ อย่ามีเรื่องกัน เพราะหวานเจี๊ยบเลยนะจ๊ะอ้ายขุนกะพี่ใจ๋ ใจเย็นๆ อย่าแย่งกัน หวานเจี๊ยบยินดีเก็บเธอไว้ทั้ง 2 คนจ้ะ”
หวานเจี๊ยบเข้าใจผิดคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าสมใจและเจ้าคุณหึงจนเปิดศึกแย่งตัวเอง เจ้าคุณกับสมใจอึ้งๆ ก่อนจะหันมามองหน้ากัน แล้วนึกได้ว่าเคืองกันอยู่ สมใจสะบัดหน้าใส่เจ้าคุณ เจ้าคุณเบะปากใส่อย่างไม่แคร์
ที่กลางวงงานฉลองกังหันลมอันใหม่ ดำเกิงลุกขึ้นประกาศก้องราวกับเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่ช่วงเช้าจะไม่ได้มาช่วยเลยแม้แต่น้อยก็ตาม
“พ่อแม่พี่น้องม่วนแต๊ที่รักทุกคน”
“ไอ้ดำเกิง เมื่อเช้านี้ข้าว่าข้าไม่เห็นเอ็งโผล่ไปช่วยลงแรงเลยนะเว๊ย แล้วนี่ยังกล้าโผล่มามั่วกินกะเขาอีกเหรอ” กำโป๊งเฉ่งทันที
“โธ่ ลุงโป๊ง เมื่อเช้าติดธุระจริงๆ ถึงไม่ได้ลงแรงแต่ก็ส่งใจไปถึงนะจ๊ะ” ดำเกิงแก้ตัว
“ไม่ต้องเลย เอ็งมันก็เป็นอย่างนี้ทุกทีล่ะไอ้ดำเกิง” สมหมายตอกย้ำ
“หืม เกลียดคนรู้ทันอ่ะ เอ้า งั้นเชิญลุงกำโป๊ง”
เพื่อนบ้านทุกคนปรบมือให้กำโป๊ง
“พ่อแม่พี่น้องม่วนแต๊ที่รัก วันนี้ต้องขอขอบใจทุกคนที่มาร่วมแรงร่วมใจกันอีกครั้ง มารวมพลังสร้างความเจริญให้หมู่บ้านเรา” กำโป๊งวางมาดเท่พูดเป็นงานเป็นการ
“เย้!” ชาวบ้านร้องประสานเสียง
“ที่ต้องขอบใจมากๆ ก็พ่อหมายกับแม่ศรีแห่งไร่ชาม่วนใจ๋ ที่นอกจากจะควักทุนให้กังหันลมอันใหม่แล้ว ยังจัดกับข้าวกับปลาเลี้ยงพวกเราอีก”
“เย้!” ชาวบ้านร้องประสานเสียง
“ขอบใจปลัดจืดที่รักของพวกเราที่อำนวยความสะดวกทู้กอย่างให้”
“เย้!” ชาวบ้านร้องประสานเสียง
หวานเจี๊ยบแหวะใส่ ปลัดจืดหันไปเหล่แต่ไม่ใส่ใจแล้วหันไปยิ้มกับสมใจแทน เจ้าคุณมองเห็นจึงเบะปากใส่
“และตามประเพณีของบ้านเรา ทุกครั้งของงานฉลอง พ่อหมายกะแม่ศรีจะต้องมี เพลงเก่ามาฝาก วู้ๆ”
ดนตรีขึ้นทันทีสมหมายยิ้มแย้ม สมศรีอิดออดนิดหน่อยพองาม ก่อนจะคว้าไมค์มาร้องเพลงคู่กันอย่างหวานแหวว โดยมีทุกๆ คนร้องตามอย่างน่ารัก บ้างก็โยกตัวเต้นตามไปด้วย
เวลาผ่านไปหลายคนเริ่มมีอาการกึ่มๆ คำปุยเริ่มแผนแก้อาการมึนเมาขึ้นมา
“ต่อไป คิวไอ้ใจ๋”
“เอาแล้วไง นังปุ๋ย”
“หญิงงามอย่างเรา ต้องเสี่ยงทายว่า ชายผู้ใดจะโชคดีได้ร้องเพลงคู่กะเรานะเจ้า”
เครือฟ้าว่าพลางส่งพวงมาลัยเพื่อให้สมใจเสี่ยงทายคนมาร้องเพลงคู่ด้วย ทุกคนส่งเสียงเชียร์กันใหญ่ ปลัดจืดยิ้มกริ่ม ดำเกิงแอบลุ้น ส่วนเจ้าคุณ ทำหน้าไม่สนใจ
“ตลกน่า น้าเครือ” สมใจทำเป็นอิดออด
“แม่หญิงม่วนแต๊ต้องงามอย่างมีคุณค่า ต้องกล้าอย่างมีศักดิ์ศรี” เครือฟ้าบอก
“มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ย นังเครือฟ้า” ลำยองโพล่งขึ้นมา
“เอาน่า ไอ้ใจ๋ โยนไป เชื่อน้า” เครือฟ้าคะยั้นคะยอสมใจ
กองเชียร์ออกอาการลุ้นเชียร์ แต่ดูเหมือนสมหมายผู้เป็นพ่อจะไม่เห็นด้วยนัก ในขณะที่สมศรีกลับยุลูกสาวสุดฤทธิ์
“อย่าเลย มันไม่งาม”
“เอาน่า อย่าป๊อด ไอ้ใจ๋ลูกแม่ศรี”
“อ่ะ ขำๆ”
ว่าแล้วสมใจก็ก้าวออกไปกลางวง ปลัดจืดลุ้นจัด ดำเกิงหมายมั่นปั้นมือเต็มที่
สมใจหันหลังโยนพวงมาลัยไปด้านหลัง พวงมาลัยลอยเคว้งเหมือนจะไปตกในมือปลัดจืด แต่ดำเกิงกระโดดพุ่งเสียบเอื้อมมือเหมือนจะแย่ง แต่ดันทำให้พวงมาลัยกระเด็นไปแหมะอยู่บนหัวเจ้าคุณเฉยเลย ทุกคนอ้าปากค้าง
“เฮ้ย! ไอ้นายขุนทอง!”
“อะไรอ่ะ ไม่เอาๆ”
เจ้าคุณลุกขึ้น ปัดพวงมาลัยออกจากหัวตัวเองทันที สมหมายเห็นแล้วไม่พอใจกับอาการของเจ้าคุณ
“ทำอย่างนี้หมายความว่าไงวะ เอ็งดีเด่มาจากไหน ถึงได้ทำท่ารังเกียจลูกสาวข้าอย่างนี้ห๊า ไอ้ขุนทอง”
“ใจเย็น ตาหมาย” สมศรีปรามสามี
“จริงด้วย เพิ่งจะมาใหม่ แต่ทำซ่ากล้ารังเกียจน้องใจ๋ของข้าเหรอวะ มา เอ็งไม่ต้องร้องแล้ว ข้าร้องเอง” ดำเกิงได้ทีจะรับสิทธิ์ร้องเพลงคู่สมใจแทน
“ไม่ต้องเลยไอ้ดำเกิง อย่ามามั่ว ไป เลิกๆ ไม่ต้องร้องแล้ว เพลงบ้าๆ บอๆ อะไรเนี่ย” สมหมายฉุนขาด
“เอ๊า! ตาหมาย ยังไงเนี่ย” สมศรีชักฉุน
“พ่อหมาย แม่ศรี ชั้นขอโทษแทนไอ้ขุนทองมันด้วย อย่าไปถือสาคนติงต๊องมันเลยนะ” กำโป๊งต้องเข้ามาเคลียร์
“น่า ตาหมาย แกนี่ก็อะไรกัน ไปถือสาหาความอะไรกับคนบ้ามัน โถ น่าสงสารออกนะ”
“ชั้นเปล่าบ้า โอ๊ย!”
เจ้าคุณโดนกำโป๊งตบหัวดังเพี๊ยะ จนต้องก้มลูบหัวป้อยๆ
“นี่แน่ มันต้องตบให้หายบ้า”
“ไม่เอา พี่โป๊ง อย่าไปทำมันเลย อ่ะ ร้องเพลงเป็นมั้ย เอ้า ไอ้ใจ๋ยืนเซ่ออยู่ทำไมล่ะ มาร้องเพลงกับไอ้ขุนทองมันหน่อยซิ เมตตาคนบ้าน่ะได้บุญนะเว้ย”
สมศรีจับไมค์ยัดใส่มือเจ้าคุณให้มาร้องเพลงคู่กับสมใจทันที
“แม่!” สมใจฮึดฮัดจะไม่ยอม
“มิวสิค!”
ดนตรีขึ้นเพลงชาวบ้านส่งเสียงกันสนุกสนาน คนอื่นว่ากันไปตามอารมณ์ เจ้าคุณอึ้ง หน้าซีด มือเริ่มสั่นเมื่อเห็นสายตาทุกคนจ้องมอง ขาดความมั่นใจทันที สายตาเจ้าคุณเห็นสายตาทุกคนเป็นภาพมึนๆ หลอนๆ เหงื่อแตก สมใจร้องนำไปแล้ว พอถึงท่อนเจ้าคุณ เจ้าคุณก็ติดอ่าง
“เอ่อ..เอ่อ...”
สมใจมองเจ้าคุณงงๆ กองเชียร์งงกว่า ส่งเสียงโวยวาย ดำเกิงปรี่ไปอาละวาด
“อะไรของเอ็งวะเนี่ย เรื่องมากนัก ถ้าไม่ร้อง ข้าร้องเอง”
ดำเกิงกระชากไมค์จากมือขุนทองแล้วผลักขุนทองอย่างแรง ขุนทองไม่ทันตั้งตัวเลยเซไปชนสมใจล้มโครมลงไปด้วยกันทั้งคู่ ปากเจ้าคุณจูบปากสมใจอย่างจัง ทุกคนอื้ออึงตะลึงงัน
เจ้าคุณกับสมใจก็อึ้ง ปลัดจืดได้สติก่อนรีบปรี่ไปกระชากคอเสื้อเจ้าคุณขึ้น
“ไอ้ขุนทอง!”
“ปลัด!”
ปลัดจืดชะงัก เงื้อหมัดค้างเพราะสมหมายร้องทักไว้ แล้วกลายเป็นคนต่อยเจ้าคุณเสียเอง สมหมายชกเปรี้ยงเข้าที่หน้าเจ้าคุณเต็มๆ จนหงายเงิบ ท่ามกลางเสียงวี๊ดกรี๊ดกร๊าดลั่นลานฉลอง แล้วทุกอย่างก็ดับวูบลง
เวลาเดียวกันแมทธิวอยู่ที่คอนโดกำลังขำกลิ้งกับภาพที่ออกอากาศอยู่
“ฮ่าๆ สะใจจริงเว้ย ไอ้ขุนทอง!”
“จะบ้าเหรอ นี่แน่ะๆ คนอะไรใจดำ! น่าสงสารขุนทองจะตาย”
น้องนกคู่ขา ปาดน้ำตาเมื่อเห็นขุนทองโดนต่อย แล้วเอาหมอนไล่ตีแมทธิวที่เยาะเย้ยขวัญใจเรียลลิตีไฮโซบ้านเฮาของเธอ ก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์มือถือแมทธิวมากดจะส่งเอสเอ็มเอสให้กำลังใจเจ้าคุณอีกด้วย
“เฮ้ย!” แมทธิวไม่ให้
“เอามานี่!”
“จะโทร.หาใคร”
“ เอสเอ็มเอส เอาใจช่วยขุนทอง ฮือๆ” น้องนกร้องไห้ความสงสารเจ้าคุณจับจิต
“จะบ้า”
แมทธิวมองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา หงุดหงิดแล้วพาลโกรธที่แม้แต่สาวข้างกายยังไปสงสารเจ้าคุณ
เวลาต่อมาสมาชิกในบ้านคนอื่น พากันอาบน้ำประแป้งหมดแล้วแล้ว ยกเว้นปลัดจืดและ สมหมายยังนั่งหน้ายักษ์อยู่
“ไอ้ขุนทองอะไรนั่น มันน่าจะโดนฉันกระทืบซะให้ตาย ปลัดกับแม่ศรีมาห้ามชั้นทำไมก็ไม่รู้” สมหมายโวย
“ผมเองก็โกรธมันมากนะครับลุงหมาย แต่บ้านเมืองมีขื่อมีแป เราไม่ควรทำผิดกฎหมาย” ปลัดจืดตามติด
“แล้วก็ไม่ควรจะทำร้ายคนบ้าด้วย นี่ตาหมาย แกหวงลูกสาวซะจนถึงขั้นต่อยคนบ้าแล้วเหรอเนี่ย” สมศรีติง
“ก็มันจูบไอ้ใจ๋”
ได้ยินพ่อพูด สมใจถึงกับสะดุ้ง
“จูบเจิบที่ไหน ไอ้ดำเกิงมันผลักไอ้ขุนทองล้มไปทับไอ้ใจ๋ มันเป็นอุบัติเหตุ”
สมหมายอึ้ง แต่มิวายฟึดฟัดอย่างขัดเคืองใจ ปลัดจืดค่อยๆ หันไปมองสมใจทำนองถามว่าเป็นอุบัติเหตุจริงหรือ แต่สมใจเฉไฉมองไปที่อื่น
คำปุยกับแคบหมูแอบเหล่ใส่กัน สมใจถอนใจไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต
เหตุการณ์ที่บ้านกำโป๊ง เจ้าคุณกำลังโดนกำโป๊งเล่นงานอย่างหนักเรื่องจูบสมใจโดยไม่ได้ตั้งใจ จนโดนสมหมายชก
“ข้าบอกให้เอ็งเผชิญหน้ากับไอ้ใจ๋ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่ได้หมายความว่าให้เอ็งไปปล้ำเขา”
“ไม่ได้ปล้ำนะลุง มันเป็นอุบัติเหตุ”
“อุบัติเหตุรักด้วยรึเปล่า ฮิฮิ” ไส้อั่วแซวแล้วขำกิ๊กกั๊ก
“ไม่มีวัน!” เจ้าคุณตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
สมใจเองก็ยังคงโดนคาดคั้นไม่เลิก สมใจสุดจะทนไหวหันมาทางปลัดจืด คำปุย และแคบหมู ที่จ้องหน้าอยู่
“ไม่! นี่ไม่ได้ถือเป็นการจูบ ปากฉันแค่แตะกับ ปากไอ้นายขุนทองนั่นเฉยๆ” สมใจปฏิเสธเสียงแข็ง
“เฮ้อ! แถวบ้านฉันก็เรียกว่าจูบนั่นแหละวะ” คำปุยดักคอ
“โดนจูบแรกจากอ้ายขุนทองเข้าไปเต็มๆ อย่างนี้ พี่ใจ๋จะตกหลุมรักอ้ายขุนทองมั้ยเนี่ย” แคบหมูเสริม
“ไม่มีทาง ฉันเกลียดมันจะตาย”
“แต่การเกลียดกัน มันมักจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรักนะไอ้ใจ๋”
คำปุยยกคำคมความรักมาแซวเพื่อนสาวไม่เลิกรา
กลางดึกของค่ำคืนนั้นเจ้าคุณอยู่ในสภาพตาเขียวคล้ำ นอนเอามือก่ายหน้าผาก ภาพเหตุการณ์ตอนที่จูบปากกับสมใจผุดขึ้นมา เจ้าคุณถึงกับเครียดอีก
ฟากสมใจก็มีอาการไม่ต่างกัน เอาแต่นอนพลิกตัวไปพลิกตัวมาเพราะนอนไม่หลับ มัวแต่คิดถึงภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองที่จูบปากกับเจ้าคุณ
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ทั้งสมใจกับเจ้าคุณลุกขึ้นมานั่งแล้วอุทานออกมา
“ชาตินี้ฉันไม่มีวันรักยัยไม้อัดจอมโหดเด็ดขาด” / “ชาตินี้ฉันไม่มีวันรักไอ้ซิกซ์แพคโรคจิตเด็ดขาด”
เจ้าคุณกับสมใจพูดขึ้นพร้อมกัน โดยที่ต่างคนต่างไม่รู้ว่าใจตรงกัน จากนั้นทั้งคู่ก็ล้มตัวลงนอน
อ่านต่อหน้า 3 เวลา 20.00 น.
รักออกอากาศ ตอนที่ 3 (ต่อ)
เช้าวันต่อมา กำโป๊งพรวดพราดเปิดประตูห้องนอนเจ้าคุณ พร้อมกับถังน้ำสองใบ โยนเข้าไปโดยไม่ทันได้มอง
“ไอ้ไฮโซตื่น! อ้าว หายไปไหนของมัน”
เจ้าคุณไม่ได้นอนหลับอยู่เหมือนทุกวัน กำโป๊งแปลกใจ หันมาเจอเจ้าคุณระยะประชิด ตกใจสุดขีด
“เฮ้ย! โอ๊ย ใจหายใจคว่ำ ท่าทางวันนี้แม่ไก่จะออกลูกเป็นควายเอ็งถึงตื่นเช้าขนาดนี้”
“เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับ”
เจ้าคุณเดินหิ้วถังน้ำขึ้นมาแล้วก็เดินออกไป ไม่พูดไม่จา และไม่บ่น ให้กำโป๊งหงุดหงิด
“เออ ทำดีกับเขาก็เป็นเหมือนกันแฮะไอ้ไฮโซ”
พอถึงเวลาอาหารเช้า จานไข่เจียววางแหมะอยู่ เจ้าคุณหยิบขึ้นมาดู ด้วยสีหน้าเซ็งสุดขีด ก่อนจะโยนลงบนแคร่ ลุงกำโป๊งไม่พอใจ ไส้อั่วสะดุ้ง
“โยนทำไมวะ ของดีแท้ๆ เมื่อเช้าข้าไม่น่าชมเอ็งเลยจริงๆ”
“ของดีอะไรลุง กินทุกวันจนหน้าจะเป็นไข่อยู่แล้ว ฉันเบื่อๆ”
“อุ๊วะ ไอ้นี่! ไอ้อั่ว”
“จ๋า”
เจ้าคุณโดนกำโป๊งเคาะหัว ในขณะที่ไส้อั่วลุกท่องอาขยานอย่างคล่องปาก
“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า คนจนคนยาก มีมากนักหนา สงสารบรรดา เด็กตาดำๆ”
“เอ็งรู้มั๊ยว่าคนที่เขาไม่มีกิน ไข่เจียวจานนี้มันมีค่ามากขนาดไหน” กำโป๊งสอน
“ไม่รู้ ไม่เคยจน”
กำโป๊งไม่พอใจอย่างแรง
“แต่อั่วเคยจน งั้นอั่วกินล่ะนะ” ไส้อั่วนั่งกินต่อไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“ฉันไม่ไหวแล้วลุง ฉันอยากกินสปาเก็ตตี้ พิซซ่า ราดหน้า หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ไข่ มีมะ”
“มีเว๊ย” กำโป๊งบอก
เจ้าคุณยิ้มด้วยความดีใจ
“แต่ว่า”
กำโป๊งทำหน้าเจ้าเล่ห์ เจ้าคุณหุบยิ้มแล้วอึ้งไปเล็กน้อย
เจ้าคุณวิ่งตามกำโป๊งมาพลางถาม “ให้ฉันทำงานเนี่ยนะ”
“เออ ทำงาน จะได้มีเงิน เอาไปซื้อไอ้สปาเก็ตตี้ พิซซ่า ราดหน้า หรืออะไรที่เอ็งอยากกิน!”
“แต่ฉันไม่เคยทำงาน” เจ้าคุณพูดจริง
“ไม่เคยก็จะได้เคยวันนี้แหละ ไป”
“ฉันไม่ไป ฉันไม่ทำ เอางี้ ลุงให้ฉันยืมเงินก่อน พอฉันกลับไปกรุงเทพฯ ฉันจะคืนให้ลุงพร้อมดอกเบี้ยสิบเท่า หรือ ยี่สิบเท่าเลยก็ได้เอ๊า” เจ้าคุณบอก
“โอ๊ยๆ อยากได้จังเลย อยากได้จังไอ้เงินของเอ็งเนี่ย ถุย! ไอ้ไฮโซ พ่อแม่เอ็งไม่เคยสอนให้รู้จักพึ่งตัวเองรึไง เคยได้ยินมั้ยตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไหนเอามือมาดูซิ ตั้งแต่เล็กจนโต เอาแต่แบมือขอตังค์ล่ะซิท่า มันถึงแบจนใหญ่ขนาดนี้” กำโป๊งหลอกด่า
“ใช่ ฉันอยากได้อะไร ฉันก็ได้” น้ำเสียงเจ้าคุณไม่พอใจมาก
“แต่ที่นี่ไม่ได้ ข้าให้เวลาเอ็งคิด ทำงาน ได้เงิน ได้กินของที่เอ็งอยากกิน หรือไม่ทำงาน เอ็งก็ก้มหน้ากินไข่ต่อไป”
กำโป๊งเชิดใส่แล้วเดินออกไป เจ้าคุณถึงกับเครียด
เจ้าคุณเดินมาตามทางคิดถึงสิ่งที่กำโป๊งพูด จนถึงตลาด บริเวณร้านน้ำแข็งใสหวานเจี๊ยบ
“ฉันเนี่ยนะต้องทำงาน ไม่มีทาง ยังไงก็ไม่ทำ”
ระหว่างนั้นหวานเจี๊ยบเห็นเจ้าคุณ ก็รีบเช็คความสวย แล้วคว้าแก้วน้ำแดง รีบวิ่งลั้นล้ามาหาทันที
“อ้ายขุนทองจ๋า น้ำแดงหวานเจี๊ยบชื่นใจจ้ะ”
“ดื่มน้ำเขียวเสียวซ่านชื่นใจของแทใยดีกว่าเจ้า”
เสียงลำไยนำมา ก่อนที่ตัวจริงจะแถเข้ามาอย่างไม่ยอมแพ้
เจ้าคุณหันไปเห็นลำใยเดินถือน้ำเขียวเดินมา หวานเจี๊ยบไม่พอใจ
“อย่าไปกินน้ำเขียวของนังลำใยเลยนะอ้ายขุนทอง ไม่งั้นชีวิตจะเน่าหนอนเหมือนหน้ามัน”
“อ๊าย! นังหวานเจี๊ยบ! พูดงี้อยากเจ็บตัวเหรอไง อุ๊ยตายแทใยทำอะไรลงไป ไม่รู้ตัวเลยอ่ะ ปกติแทใยไม่ได้เป็นคนแบบนี้นะคะ”
ลำไยเท้าสะเอว หน้าตาโหดเหี้ยมเตียมลุย แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้าคุณมองอยู่เลยชะงัก
“ไม่ได้เป็นคนแต่เป็นหมาชิมิ” หวานเจี๊ยบด่า
“ใช่ โฮ่งๆ บรู้ว นังหวานเจี๊ยก” ลำใยเอาคืน
“ฉันชื่อหวานเจี๊ยบ ไม่ใช่หวานเจี๊ยก!”
“เจี๊ยกๆ”
หวานเจี๊ยบสุดทน เอาน้ำแดงสาดใส่ลำใย แต่ลำใยหลบ น้ำแดงเข้าหน้าเจ้าคุณเต็มๆ หวานเจี๊ยบชะงัก
“ขุนทอง! หวานเจี๊ยบขอโทษ หวานเจี๊ยบไม่ได้ตั้งใจ”
“ฮ่าๆ”
“เลิกเห่าซักทีได้มั้ย”
ลำใยผงะโดนด่าโมโหสุดขีด เลยเอาน้ำเขียวสาดใส่หวานเจี๊ยบ หวานเจี๊ยบหลบ โดนหน้าเจ้าคุณเต็มๆ ลำใยเหวอ หวานเจี๊ยบหัวเราะสะใจ
“ฮ่าๆ”
“โว๊ย! มีอะไรจะให้ซวยอีกมั้ยวะเนี่ย”
เจ้าคุณหัวเสียจ้ำเดินออกไป หวานเจี๊ยบกับลำใยจะตาม แต่ก็ดันเดินมาชนกันเอง หันมาเท้าสะเอว ส่งสายตาฟาดฟันกันไม่เลิกรา
ส่วนกำโป๊งกำลังกินข้าวด้วยความเอร็ดอร่อย พอเจ้าคุณเดินมาเห็นกำโป๊งกินข้าวอยู่ก็กลืนน้ำลายเอื้อกๆ ท้องร้องจ๊อกๆ ด้วยความหิวโซ แล้วก็ตัดสินใจว่าจะทำงานหาเงินด้วยตัวเอง
“ลุงกำโป๊ง”
กำโป๊งหันไปทางเจ้าคุณ
“ตกลง! ฉันจะทำงาน
กำโป๊งยิ้มพอใจ
ที่มุมหนึ่งของไร่ชาเขียวม่วนใจ๋ สมหมาย สมศรี และกำโป๊งกำลังคุยเรื่องธุระสำคัญท่าทางซีเรียส สมหมายกับสมศรี มองกำโป๊งด้วยความตกใจ
“จะให้ขุนทองทำงานที่นี่”
สมหมายกับสมศรีมองหน้ากัน สมหมายหน้ายักษ์ทันที
“แน่ใจเหรอพี่โป๊ง” สมศรีถามย้ำ
“ถ้าไม่ใช่ที่นี่แล้วที่ไหนจะมีงานให้ทำล่ะแม่ศรี ฉันรู้ว่าพ่อหมายคงยังโกรธไอ้ขุนทองมันอยู่ แต่ไอ้การที่ฉันพามันมาฝากงานที่นี่ก็เพื่อให้มันมารับใช้และชดใช้ความผิดที่มันเคยทำให้พ่อหมายขุ่นข้องหมองใจด้วยยังไงล่ะ”
ให้โอกาสมันหน่อยเถอะนะถือซะว่าเอาบุญ”
“ถ้าเกิดมันอาละวาดทำไร่ชาข้าพังเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ”
“ไอ้ขุนทองมันไม่ได้เป็นบ้าแบบก้าวร้าว มันใจร้อนก็เท่านั้น ข้าถึงอยากหาอะไรให้มันทำ จะได้เป็นขัดเกลาจิตใจให้สงบ เยือกเย็น มันจะได้หายบ้า แล้วกลับบ้านมันไปซักที”
“น่าสงสารนะตาหมาย”
สมหมายหันไปมองเจ้าคุณครุ่นคิด
ไร่ชาเขียวม่วนใจ๋ อีกด้าน สมหมายกับสมศรียืนอยู่กับเจ้าคุณและลุงกำโป๊ง
“ตั้งใจทำงานล่ะ” กำโป๊งสั่งเจ้าคุณ
“ครับ เอ่อ...จ้ะ”
“ฝากด้วยนะ”
สมหมายกับสมศรีพยักหน้า กำโป๊งเดินออกไป
“เคยเด็ดใบชามาก่อนรึเปล่า” สมศรีเอ่ยถาม
“ไม่เคยจ้ะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันสอน”
“เดี๋ยวก่อน! แล้วอย่าริอ่านทำอะไรทะเล่อทะล่าใส่ไอ้ใจ๋ลูกสาวข้าอีกเป็นอันขาด เข้าใจมั้ย” สมหมายโฑล่งขึ้นมา
“เข้าใจจ้ะ”
“แล้วจะยืนทำเบื๊อกอะไรอยู่ล่ะ ไปทำงาน”
สมศรีอมยิ้มพาเจ้าคุณออกไป สมหมายยังเก๊กสีหน้าเข้มใส่เจ้าคุณต่อไป ฝ่ายสมศรีเอาหมวกกับผ้าขาวม้าให้เจ้าคุณ
“เอาผ้าขาวม้าปิดหน้า แล้วก็ใส่หมวกซะ ไม่งั้นผิวจะไหม้เกรียมล่ะเอ็งเอ๋ย”
“จ้ะ”
สมศรีเอาผ้าขาวม้าพันหน้า แล้วก็ใส่หมวก เจ้าคุณทำตามเงอะงะ สมศรีเลยช่วยอย่างเอ็นดู เจ้าคุณรู้สึกดี อบอุ่น
“เอาล่ะ คราวนี้ฉันจะสอนวิธีเด็ดใบชา ตั้งใจดู”
“จ้ะ”
“การเก็บยอดชาต้องพิถีพิถัน เก็บตั้งแต่ใบที่สามขึ้นไปจนถึงยอด ส่วนใบที่เพิ่งโผล่ออกมาแหลมๆอย่างนี้ ไม่นับว่าเป็นใบ เข้าใจใช่มั้ย”
“เข้าใจจ้ะ”
“ทำให้ดูซิ”
เจ้าคุณกำลังจะทำ แต่คนงานมาเรียก สมศรีเสียก่อน
“พี่ศรี ลูกค้ามาเอาของที่สั่งไว้”
“เออๆ จะไปเดี๋ยวนี้”
“สะพายกระบุงไว้ พอเด็ดใบชาได้ ก็เอาใส่ลงไป ฉันไปหาลูกค้าก่อน”
สมศรีรีบออกไป เจ้าคุณรับกระบุงมาสะพายเหมือนพวกชาวเขา แล้วก็มองๆไปที่ต้นชา เจ้าคุณเด็ดใบชา แต่เด็ดไม่ออก เลยดึงแรงจนออกมาเกือบทั้งต้น ทันใดนั้นเสียงสมใจดังขึ้น
“เฮ้ย!”
เจ้าคุณหันไปเห็นสมใจมีผ้าปิดหน้า ใส่หมวก เหลือแต่ลูกตา ก็จำไม่ได้ว่าเป็นใคร
“พังหมดแล้ว!”
เจ้าคุณชะงัก จำเสียงได้
“ยัยไม้อัดนี่หว่า ถ้ารู้ว่าเป็นเราล่ะก้อ แย่แน่
“เพิ่งมาทำงานใช่มั้ยเนี่ย”
เจ้าคุณพยักหน้าแทนคำตอบ
“มิน่า!”
สมใจหัวเสียอย่างแรง รีบเข้ามาดูแลต้นชาเขียวราวกับลูก
“โถๆเจ็บมั๊ยลูก”
“เว่อร์”
“พูดอะไร”
เจ้าคุณรีบส่ายหน้า ระหว่างนั้นชาวเขาที่กำลังเก็บใบชาอยู่ใกล้ๆเจ้าคุณ เดินมาสะกิดเจ้าคุณ เจ้าคุณหันไปมอง ชาวเขารีบชี้มาที่เจ้าคุณ
“หนอ”
“ห๊ะ”
“หนอ หนอ”
“อะไรวะ”
แล้วไม่นานเจ้าคุณก็เห็นหนอนสีเขียวตัวใหญ่บนไหล่ตัวเอง เจ้าคุณร้องลั่น
“หนอน!”
เจ้าคุณตกใจสุดขีด ทำเอาสมใจตกใจไปด้วย เจ้าคุณสะบัดให้หนอนหลุด แต่หนอนไม่หลุด
“เฮ้ย ทำอะไรซักอย่างซิ มัวแต่ยิ้มอยู่นั่นแหละ”
ชาวเขาไม่เข้าใจ หัวเราะกับท่าทางของเจ้าคุณ เจ้าคุณดิ้นพลาด ทำให้ต้นชาเขียวหัก สมใจเห็นยิ่งตกใจ
“เอ๊ย! หยุดนะ หยุด หยุด”
เจ้าคุณดิ้นจนหมวกหลุด ผ้าหลุด สมใจเห็นเจ้าคุณก็ถึงกับเหวอ
“ไอ้ซิกแพคโรคจิต!”
เจ้าคุณไม่มีเวลาต่อปากต่อคำ รีบสะบัดตัวสุดแรง ทำให้หนอนชาเขียวแปะเข้าที่ระหว่างตาของสมใจ สมใจมองหนอนจนตาเหล่
“อ๊าย!”
สมใจรีบถอดหมวก ถอดผ้าคลุมหน้าแล้วโยนทิ้ง ก่อนจะหอบหายใจถี่ ชาวเขาหยิบหนอนบนพื้นขึ้นมา แล้วหันไปยิ้มให้เจ้าคุณกับสมใจ
“หนอ”
ชาวเขาหัวเราะชอบใจ สมใจกับเจ้าคุณหอบแฮ่ก เจ้าคุณหันไปเห็นสายตาสมใจก็ถึงกับสะดุ้ง แล้วสมใจก็เห็นแขนเจ้าคุณเลือดไหล ก็ตกใจ
“เลือด!”
เจ้าคุณก้มมองแขนเห็นเลือดหน้าซีดเผือดจะเป็นลม
ครู่หนึ่งสมใจกำลังทำแผลที่แขนให้เจ้าคุณ เงยหน้าเห็นเจ้าคุณใบหน้าซีดขาว สมใจหัวเราะ เจ้าคุณไม่พอใจ
“หัวเราะอะไร”
“หน้าซีดหยั่งกับไก่ต้ม แค่นี้ก็กลัวด้วย ทำไมนายถึงขี้กลัวจังห๊า นายขุนทองร้องป๊อดๆ”
“ไม่ได้กลัว ไม่ได้ป๊อด”
สมใจอมยิ้ม เอายาหม่องทาแผล เจ้าคุณแสบจี๊ดร้องลั่น
“โอ๊ย! แสบ แสบ เอาอะไรทาให้ฉัน”
“ยาหม่อง ของแม่ฉันทำเอง”
“ทำเอง ยาเถื่อนน่ะเหรอ”
“เถื่อนบ้านนายดิ”
สมใจดึงแขนเจ้าคุณจะทายาต่อ เจ้าคุณยื้อไว้
“ไม่เอาแล้ว เลิกๆ”
“นายนี่มันป๊อดจริงๆ”
สมใจหมั่นไส้ เอานิ้วกดไปที่แผล เจ้าคุณเจ็บน้ำตาเล็ด
“โอ๊ย! อุ๊ย โรคจิตป่ะเนี่ย เจ็บนะ”
สมใจมองเจ้าคุณเห็นว่าเจ็บจริง เลยจับแขนเจ้าคุณดึงมาแล้วเป่าไปที่แผลเพื่อให้หายแสบ ทำให้เจ้าคุณอึ้ง มองสมใจที่ค่อยๆเป่าแผลให้เขา แล้วก็รู้สึกแปลกขึ้นมาในหัวใจ
ภาพที่สมใจกำลังเป่าแผลให้เจ้าคุณอยู่บนจอทีวี ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วที่อยู่ในห้องคอนโทรล ยืนมองกันด้วยอาการเหวอ
“ก้อง เห็นเหมือนอย่างที่เขาเห็นป่ะ”
“เห็น ไอ้คุณเจ็บตัวแบบนี้ ถ้ามีแผลเป็นกลับมาแล้วคุณหญิงแม่เห็น มีหวังพวกเราโดนด่าไปสามวันเจ็ดวัน”
“ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น”
“อ้าว งั้นหมายถึงเรื่องอะไร”
“ดูแววตาที่เจ้าคุณมองใจ๋ซิ”
ก้องเกียรติหันไปมอง กิ่งแก้วซูมเข้าไปใกล้ดวงตาเจ้าคุณ
“ตั้งแต่รู้จักกันมา เขาไม่เคยเห็นแววตาแบบนี้ของเจ้าคุณมาก่อนเลย เอ มันชักจะยังไงยังไงแล้วนะก้อง”
“นี่ตัวเองกำลังจะบอกว่าไอ้คุณมันจะชอบสมใจเหรอ ไม่มีทาง คนอย่างไอ้คุณ นายเจ้าคุณ คุณากร ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงรจนาวรรณ มหาศักดิ์ไพศาล ไม่มีวันจะไปคว้าสาวไร่ชามาเป็นลูกสะใภ้คุณหญิงแม่เด็ดขาด คิดเยอะนะเรา”
ก้องเกียรติขยี้หัวแฟน กิ่งแก้วหันไปมองเจ้าคุณกับสมใจแล้วก็ครุ่นคิด
สมใจเอาปลาสเตอร์ปิดแผลให้เจ้าคุณ ในไร่ชาม่วนใจ๋ เจ้าคุณมองสมใจไม่วางตา
“เสร็จแล้ว”
สมใจเงยหน้ามองเห็นเจ้าคุณจ้องหน้า ก็ชะงัก
“มองอะไร”
“น่ามองตาย”
“นี่แน่ะ”
สมใจตีเข้าที่แผล เจ้าคุณร้องจ๊าก!
สมใจขำก๊าก เจ้าคุณมองตาเขียวฝากไว้ก่อน แต่แววตาลึกซึ้งข้างใจ ในขณะที่สมใจกับเจ้าคุณเดินมาตามทางด้วยกัน เจ้าคุณท้องร้องดังมาก สมใจผงะหันไปมอง
“เสียงท้องนายร้องเหรอ”
“ใช่ ยังไม่ได้กินอะไรแต่เช้า เธอมีอะไรให้ฉันกินมั้ย แต่ไม่เอาไข่นะ ฉันเบื่อจะแย่แล้ว”
“ได้ซิ ฉันจะทำอาหารให้นายกินเอง”
สมใจนิ่งคิดแอบ มีแผนเจ้าเล่ห์ แต่เจ้าคุณกลับยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“จริงเหรอ”
“อือ แต่นายต้องทำงานแลกข้าว”
เจ้าคุณมองสมใจด้วยความสงสัย เริ่มระแวง
สมใจพาเจ้าคุณไปที่คอกหมูที่บ้าน แล้วหยิบเอาหยวกกล้วยให้เจ้าคุณ เจ้าคุณชะงัก
“อะไร”
“หยวกกล้วย”
“แล้วไง”
“จะแล้วไง ฉันก็จะให้นายทำอาหารให้หมูกินไง”
“ห๊ะ! เธอให้ฉันทำอาหารหมูเนี่ยนะ”
“เออ หั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วก็เอาไปตำ เร็วเข้า”
“แทนที่เธอจะทำอาหารให้ฉันกิน กลับให้ฉันทำอาหารให้ไอ้หมูพวกนี้กิน”
“ก็ถ้านายไม่ทำ นายก็ไม่ได้กินข้าว หมูอิ่ม นายก็อิ่ม เอ้า ยิ่งเสร็จช้า หิวจนไส้ขาดไม่รู้ด้วยนะ ฉันว่าจะทำอาหารเหนือให้นายกินซักหน่อย มีทั้งหมูทอด ข้าวเหนียว ต้มยำ โอ๊ย น่ากินทั้งนั้น”
เจ้าคุณกลืนน้ำลายด้วยความหิว โดยมีสมใจเหล่มอง
เจ้าคุณหั่นหยวกกล้วย โดยมีสมใจนั่งเฝ้า ยิ้มสะใจที่ได้แกล้งเจ้าคุณ เจ้าคุณเอาหยวกกล้วยใส่ลงไปในที่อุปกรณ์ที่เหมือนกับที่ตำข้าว เจ้าคุณเหยียบ สากตำลงไปในครก
“ออกแรงหน่อยซิ เบาแบบนี้เมื่อไหร่มันจะแหลก”
“แต่ก็ยังไม่แรงโดนใจสมใจ สมใจลุกขึ้นมา”
“หลีกๆ ฉันทำให้ดู”
สมใจทำให้ดู เจ้าคุณผงะ สมใจแรงเยอะกว่าผู้ชายบางคนเสียอีก
“มันต้องแรงๆ แบบนี้”
สมใจกลับซวนเซ จะล้ม เจ้าคุณรีบเข้ามาประคองรับสมใจเอาไว้ สมใจหันมา หน้าเกือบจะโดนหน้าเจ้าคุณ ทั้งคู่ผงะกันไป คำปุยเดินมาเห็นพอดี
“โอ้แม่เจ้า พุธโธ ธัมโม สังโฆ”
สมใจกับเจ้าคุณหันไปเห็นคำปุย ก็รีบผละออกจากกัน สมใจรีบเก๊กหน้าดุ หันไปสั่งเจ้าคุณ
“ทำต่อซิ!”
สมใจจ้ำเดินออกมา คำปุยมอง
“ไม่มีอะไร ฉันล้ม แล้วไอ้นายขุนทองก็รับฉันไว้”
“เป็นตุ๊กแกเหรอยะ ร้อนท้อง ตั๊บแก่!”
“ไอ้ปุ๋ย!”
สมใจเงื้อมือจะตีคำปุย
“อ่ะจ๊ะอ่ะจ๊ะ ไม่แซวก็ได้ ว่าแต่ แกทำอะไรของแกวะเนี่ย ไอ้ใจ๋”
สมใจหันไปมองเจ้าคุณแล้วยิ้มมุมปาก เจ้าคุณเอาหยวกกล้วยเข้าไปเทให้หมู ท่าทางรังเกียจ มีหมูมาดมๆชนๆ เจ้าคุณ
“เฮ้ย ไป ไป ชิ้วชิ้ว”
สมใจยืนมองด้วยความสะใจ คำปุยหันมา
“สงสารอ่ะใจ๋ แกล้งแรงไปป่ะ”
“ฉันไม่ได้แกล้ง มันเป็นข้อตกลงเว้ย ถ้าหมูอิ่ม ไอ้นายขุนทองก็จะอิ่มด้วย ฉันจะทำอาหารให้ไอ้นายขุนทองกิน”
เจ้าคุณก็ล้มก้นจ้ำเบ้า สมใจเห็นก็ขำก๊าก เจ้าคุณเหล่มองด้วยความหัวเสีย คำปุยอดขำตามไปด้วยไม่ได้ เจ้าคุณล้มแปะนั่งหมดแรงบนพื้น แล้วก็รู้สึกตัวเหม็น เจ้าคุณยกแขนสองข้างขึ้นมาดมๆ ก็จะขย้อนออกมา
ทันใดนั้นมีผ้าขาวม้าโยนมาปิดหัวเจ้าคุณ เจ้าคุณดึงออกมาหันไปเห็นสมใจกับคำปุย
“ไปอาบน้ำ จะได้กินข้าว”
เจ้าคุณชะงัก สมใจเดินออกไป คำปุยมองเจ้าคุณแล้วก็ยิ้มหวาน แต่โดนสมใจดึงหูไว้เสียก่อน
“อยากได้คนช่วยถูหลังมั้ยเจ้า แอร๊ย! ไอ้ใจ๋ ฉันเจ็บนะ”
“มานี่เลย มาช่วยฉันทำกับข้าว”
สมใจลากคำปุยออกไป เจ้าคุณมองตามสมใจ มองผ้าขาวม้าในมือ แล้วก็แอบรู้สึกดี
เจ้าคุณสาดน้ำไม่กี่ครั้ง แล้วก็หันไปคว้าผ้าขาวม้ามาเช็ดตัว สีหน้าสดชื่น นุ่งผ้าขาวม้าออกจากห้องน้ำ แล้วก็มองไปที่เสื้อผ้าตัวเองที่ทั้งมอม และเหม็นสุดๆ
“แล้วจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่วะเนี่ย”
ฟากสมใจกับคำปุยสาละวนทำอาหารตามข้อตกลงให้เจ้าคุณกินกระทะไฟลุกพรึ่บ คำปุยกรี๊ดลั่น
“อ๊าย! พุธโธ ธัมโม สังโฆ หน้าฉันเกือบไหม้”
“เว่อร์!”
“ไม่เอาแล้ว ไม่อยู่แหละ หัวเหม็น ตัวเหม็นไปหมดแล้วเนี่ย ฉันออกไปรอกินเลยดีกว่า”
“แหม หมั่นไส้! แม่นางเนื้อหอม”
คำปุยออกไป สมใจหันมาทำอาหารต่อเจ้าคุณนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวเดินมาตามทาง จนถึงประตูครัว มองเข้าไปเห็นสมใจกำลังทำอาหาร สมใจร้อนเลยยกมือขึ้นมาสยายผม เจ้าคุณถึงกับผงะ ดึงคอเสื้อให้กว้างแล้วก็ใช้มือพัดให้คลายร้อน
เจ้าคุณเคลิ้ม อ้าปากค้าง เอนตัวพิงกับขอบประตู ไม่นานก็ได้สติ รีบสะบัดหัวตัวเอง
“บ้าไปแล้ว ไอ้เจ้าคุณ!”
เจ้าคุณจะเดินออกไป แต่โดนขอบประตูเกี่ยวผ้าขาวม้าเอาไว้ เจ้าคุณก้มมอง
“อ้าวเฮ้ย!”
เจ้าคุณพยายามดึงผ้าขาวม้าออก สมหมายเดินมา แล้วก็ชะงักกึกเห็นด้านหลังเจ้าคุณที่กำลังดึงผ้าขาวม้าออก สมหมายเข้าใจว่าเจ้าคุณกำลังคิดมิดีมิร้าย แล้วก็หันไปเห็นสมใจในครัว สมหมายถึงกับเลือดขึ้นหน้า หันรีหันขวางเห็นถังน้ำก็คว้าขึ้นมา
เจ้าคุณดึงผ้าขาวม้าที่ติดกับเสี้ยนไม้ออกมาได้สำเร็จ แต่กลับเจอสมหมายเอาถังน้ำครอบหัว เจ้าคุณแทบช็อก
“เฮ้ย!”
สมใจได้ยินเสียงหันมาเห็นสมหมายกำลังซ้อมเจ้าคุณ
“ไอ้ลามก! ไอ้ติงต๊อง ไอ้บ้ากาม”
“โอ๊ย! โอ๊ย!”
เจ้าคุณล้มหงายเงิบไปบนพื้น สู้ไม่ได้เพราะมองไม่เห็น สมใจรีบออกมาห้ามพ่อ
“พ่อ อย่า!”
“อย่ามาห้ามพ่อ พ่อจะฆ่ามัน”
สมใจตกใจ หันไปเห็นเจ้าคุณนอนแผ่ผ้าขาวม้าถลกขึ้นมาถึงต้นขาสองพ่อลูกฟัดเหวี่ยงยื้อแย่งกันชุลมุน เจ้าคุณลุกขึ้นนั่งเอาถังน้ำออกจากหัว หน้าเขียวด้วยความจุก
ภายในบ้านสมใจกำลังสอบสวนเจ้าคุณเรื่องใส่ผ้าขาวม้าผืนเดียว ทำให้สมหมายเข้าใจผิดคิดว่าจะทำมิดีมิร้ายสมใจ เจ้าคุณนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวจนคำปุยเหล่มอง
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ”
สมใจ สมหมาย และสมศรี นั่งอยู่ด้วย
“ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบที่พ่อหมาย..”
“ไม่ต้องเรียกข้าว่าพ่อ ข้าไม่ใช่พ่อเอ็ง”
สมหมายเดือด ลุกขึ้นจะเอาเรื่อง สมศรีกับสมใจต้องรีบจับแขนเอาไว้
“ใจเย็นตาหมาย เดี๋ยวหน้ามืด”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรไม่ดีจริงๆ นะจ๊ะ คือว่าผ้าขาวม้ามันโดนเกี่ยวไว้ ฉันก็เลยต้องแกะมันออก”
“แล้วทำไมแกถึงไม่ใส่เสื้อผ้า” สมหมายตะคอกใส่หน้า
“เพราะใจ๋เองแหละพ่อ ใจ๋ใช้นายขุนทองเลี้ยงหมู เขาก็เลยเลอะเทอะไปทั้งตัว ใจ๋เลยให้เขาอาบน้ำ แล้วก็ลืมเอาเสื้อผ้าให้เขาเปลี่ยน
เจ้าคุณหันไปมองสมใจอึ้งๆ ที่ช่วยแก้ตัวแทน คำปุยช่วยลุกขึ้นมาเป็นพยานอีกคน
“ปุ๋ยเป็นพยานได้จ้ะ ปุ๋ยก็อยู่ตอนที่อ้ายขุนทองเลี้ยงหมูด้วย”
“นั่นไง ตาหมายเอ๋ยตาหมาย แซบเว่อร์จริงๆ เลยแก”
สมหมายค่อยเย็นลง เลยยอมนั่ง สมใจ สมศรี คำปุย ถอนหายใจโล่งอก แต่สมหมายกลับลุกพรวดขึ้นมาอีก
“แต่เดี๋ยว!”
สมใจ สมศรี และคำปุยตกใจ ลุกขึ้นตาม เจ้าคุณผงะ มองสมหมายอย่างตื่นกลัว สมหมายหรี่ตามองเจ้าคุณ ไม่วางใจ
“ข้าจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้เอ็งใส่ หยั่งกับชีเปลือย เห็นแล้วอุจาดลูกกะตา”
ทุกคนโล่งอก สมหมายเดินออกไป สมศรี สมใจ และคำปุยหันไปทางเจ้าคุณ เจ้าคุณยิ้มแหะๆ อย่างน่าสงสาร ขณะที่สมใจกำลังรู้สึกผิด ที่ทำให้เจ้าคุณโดนพ่อเล่นงาน
อาหารที่บ้านสมใจวางอยู่เต็มโต๊ะ เจ้าคุณกินไม่หยุด ทำเอาสมหมาย สมศรี สมใจ และคำปุยถึงกับอึ้ง จนกินของตัวเองไม่ลง
“ขุนทองค่อยๆ กิน เดี๋ยวติดคอ” สมศรีเตือน เกรงข้าวจะติดคอ
“มันอร่อยมากเลยจ้ะ อร่อยที่สุด” เจ้าคุณบอกจากใจ
“ประชดป่ะเนี่ย”
“ไม่ได้ประชด อร่อยจริงๆ ไม่นึกเลยว่าหน้าตาอย่างเธอจะทำกับข้าวเป็นด้วย” คราวนี้ด่าสมใจโดยไม่รู้ตัว
“ทำไม! หน้าตาอย่างฉันมันทำไม พูดดีๆ นะ ไม่งั้นอด”
สมใจดึงจานเจ้าคุณมาไว้กับตัว
“อย่าไปแกล้งขุนทองมันเลย แกล้งคนหิวมันบาป”
“แม่พูดถูก ระวังชาติหน้าจะไม่มีกินนะแก”
คำปุยดึงจานข้าวเจ้าคุณจากมือสมใจ คืนให้เจ้าคุณ เจ้าคุณกินต่อ สมใจมองๆ
“ไอ้นี่มันต๊องจริงๆ แค่ข้าวเหนียวกับหมูทอดก็บอกว่าอร่อยสุดยอดแล้ว” สมหมายกระซิบสมใจ
“ขุนทอง กินอย่างนั้นจะไปอร่อยได้ไง ต้องใช้มือปั้นข้าวเหนียวแบบนี้ แล้วก็จิ้มลงไป แล้วใส่ปากอย่างงี้”
สมศรียัดข้าวเหนียวใส่ปากคำปุยเป็นตัวอย่างให้ดู เจ้าคุณทำตาม ปั้นข้าวเหนียวก้อนโต จิ้มลงในน้ำพริกหนุ่มจนชุ่ม แล้วกินเข้าไป แต่กลับผงะ เพราะเผ็ดมาก เจ้าคุณแทบจะพ่นไฟออกมา
“เผ็ด เผ็ด น้ำ น้ำ” เจ้าคุณร้องหาน้ำจ้าละหวั่น
“เอ้า ตายแล้ว ตาย”
เจ้าคุณหันไปคว้าขันน้ำข้างสมหมายขึ้นมาดื่ม สมหมาย สมศรี สมใจ และคำปุยอ้าปากค้าง เจ้าคุณดื่มน้ำจนหมดขัน แล้วก็วางลง เจ้าคุณหยิบใบมะกรูดจากในขันขึ้นมา
“หืมม์ น้ำอะไรอร่อยจัง ใส่ใบอะไรด้วยเนี่ย” เจ้าคุณถาม
“ใบมะกรูด แล้วไอ้น้ำที่นายดื่มเข้าไปน่ะ มันน้ำล้างมือ”
เจ้าคุณชะงักแทบจะอ้วกออกมา สมหมาย สมศรี สมใจ คำปุยหัวเราะชอบใจ เจ้าคุณหน้าแหย บอกไม่ถูก
จนพลบค่ำอยู่แล้ว สมใจ คำปุย และเจ้าคุณเดินออกมาจากบริเวณไร่ด้วยกัน สมใจยื่นเงินให้ เจ้าคุณชะงัก
“อะไร”
“ค่าจ้างที่วันนี้นายเก็บใบชายังไงล่ะ รับไปซิ”
เจ้าคุณรับเงินมาเห็นเป็นแบงค์ร้อย 1 ใบ
“ร้อยเดียวเองเหรอ”
“ร้อยเดียวเอง ไม่เอาก็เอาคืนมาเลย”
“เอามา! ร้อยเดียว เอาไปทำอะไรได้วะเนี่ย กินข้าวมื้อนึงยังไม่พอเลย”
เจ้าคุณพูดจบเดินออกไป สมใจชะงักกับคำพูดของเจ้าคุณ แล้วก็รู้สึกไม่พอใจ หันมาทางคำปุย
“ได้ยินมันพูดมั้ย น่าโดนชกปากจริงๆ” สมใจโมโห
“เอาน่าใจ๋ โบราณเขาว่า อย่าถือคนบ้า เพราะเดี๋ยวแกจะบ้ากว่ามัน ฮ่าๆ”
“ไอ้ปุ๋ย!”
คำปุยแหย่เสร็จก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้าน สมใจหันไปมองตามหลังเจ้าคุณสีหน้าครุ่นคิด
“แกบ้าจริงเหรอ ไอ้ขุนทอง”
สมใจพึมพำกับตัวเอง และอดคิดไม่ได้ว่าเข้าเจ้าคุณในร่างขุนทองนั้นจะเป็นคนบ้าจริงหรือ
อ่านต่อหน้า 4
รักออกอากาศ ตอนที่ 3 (ต่อ)
เจ้าคุณกลับมาถึงบ้าน เจอกำโป๊งถือแก้วยาดองนั่งอยู่บนแคร่ ข้างๆ มีขวดโหลสองใบ
“ไงไอ้ไฮโซ กินข้าวมาเหรอยัง ข้าเก็บไว้ให้”
เจ้าคุณเดินมานั่ง มองกับข้าวที่ลุงกำโป๊งเก็บไว้ให้ แล้วก็เบ้หน้าอวดว่ากินข้าวมาแล้ว
“กินมาแล้ว มีทั้งหมูทอด ข้าวเหนียว น้ำพริกหนุ่ม ต้มยำ อิ่มมากๆ”
เจ้าคุณจับท้องตัวเอง ลุงกำโป๊งมองอย่างหมั่นไส้
“แล้วเอ็งไปกินที่ไหน ไม่ได้ขโมยเขานะเว๊ย”
“นอกจากจะมีของอร่อยๆ ให้กินแล้ว ยัง นี่! เงิน ค่าจ้างเก็บใบชาของฉัน”
เจ้าคุณตีแบงก์ร้อยกับแคร่ จนกำโป๊งสะดุ้ง
“แค่ร้อยเดียวทำยืด”
“หิวน้ำพอดีเลย”
“น้ำบ้านเอ็งอ่ะดิ ยาดองของดีเว๊ย กรึ๊บแล้วหลับสบาย อันนี้แบ่งให้ไม่ได้ ของดีมีน้อย”
กำโป๊งพูดจบก็ยกโหลยาดองไปเก็บ เจ้าคุณมองว่าว่าเอาไปวางไว้ที่ไหน
“งก!”
กลางดึกคืนนั้น เจ้าคุณกระสับกระส่าย ลุกขึ้นมานั่งอย่างหัวเสีย
“นอนไม่หลับอีกแล้ว มันอะไรกันวะ”
เจ้าคุณฉุกคิดขึ้นมาได้ “ยาดองของดีเว้ย กรึ๊บแล้วหลับสบาย” เจ้าคุณยิ้ม รีบไปหาโหลใส่ยาดองออกมาวางบนแคร่ เจ้าคุณตาวาว
“ของดี! หลับสบาย”
เจ้าคุณหลับสนิทถึงเช้า พระอาทิตย์ขึ้น กรนเสียงดังสนั่น ข้างๆ กาย มีโหลเปล่าๆ วางเอียงอยู่ กำโป๊งกับไส้อั่วออกมาจากบ้าน ได้ยินเสียงกรน แต่ยังไม่รู้ว่าเสียงอะไร
“ใครขับเรือเนี่ยลุง”
“เรือบ้านพ่อเอ็งซิ แถวนี้มันจะมีเรือได้ไง?
“เอ้า แล้วไอ้เสียง นี่มันเสียงอะไรล่ะลุง”
“เออว่ะ”
กำโป๊งกับไส้อั่วมองหาที่มาของเสียง แล้วก็ผงะ เห็นเจ้าคุณนอนแผ่บนแคร่ สองคนรีบวิ่งมาดู กำโป๊งตกใจ หยิบโหลยาดองขึ้นมามอง
“ไอ้เวร! ล่อซะหมด”
“อ้ายขุนทอง อ้ายขุนทอง” ไส้อั่วรีบปลุก
“ปลุกยังไงก็ไม่ตื่นหรอกเว๊ย ข้าว่ามันน็อกถึงเย็นแน่ ทิ้งมันไว้นี่แหละ”
กำโป๊งกับไส้อั่วออกไป เจ้าคุณนอนหลับไม่รู้เรื่อง
ที่บ้านสมใจ คนงานช่วยคนงานใบชาขึ้นรถ แต่วันนี้เจ้าคุณยังไม่โผล่มา
“เร็วหน่อย เดี๋ยวไปส่งลูกค้าไม่ทัน นายขุนทองไปไหนเนี่ย”
“ขุนทองยังไม่มาเลยเจ้า”
“ป่านนี้ยังไม่มาทำงานอีกเหรอ”
สมใจหัวเสียโมโหอย่างที่สุด
ใต้ถุนบ้านกำโป๊ง สมใจจ้ำเดินด้วยความโมโหมาถึงหน้าบ้านกำโป๊ง
“นายขุนทอง ไอ้นายขุนทอง ลุงกำโป๊ง หายไปไหนกันหมด”
สมใจเดินเข้าไปใต้ถุน ได้ยินเสียงกรน หันไปเห็นเจ้าคุณนอนอยู่ สมใจเดินมายืนเท้าเอว
“ทุเรศจริงๆ ไอ้นายขุนทอง ไอ้นายขุนทอง ตื่นๆ”
ทันใดนั้นเจ้าคุณคว้าแขนสมใจดึงมานั่งข้างๆ สมใจตกใจ เจ้าคุณกอดสมใจไว้เต็มอ้อมแขน
“เฮ้ย!”
สมใจเงื้อมือจะฟาด แต่ชะงักเพราะเจ้าคุณละเมอออกมา
“พ่อ ผมขอโทษ ผมขอโทษนะครับ พ่อครับ พ่อ”
สมใจมองเจ้าคุณอึ้งๆ เห็นน้ำตาเจ้าคุณไหลออกมาก็ตกใจ เจ้าคุณกอดสมใจแน่นขึ้น สมใจถึงกับอึ้งไปทำอะไรไม่ถูก
หวานเจี๊ยบขี่จักรยานมาตามทาง มองกระติกน้ำที่วางอยู่ในตะกร้าหน้ารถ
“เช้านี้ถ้าอ้ายขุนทองดื่มน้ำแดงของหวานเจี๊ยบจะต้องสดชื่นไปตลอดตลอดทั้งวัน อิอิ”
ทันใดนั้นเสียงบีบแตรดังขึ้น หวานเจี๊ยบตกใจ
“ว๊าย!”
หันไปเห็นปลัดจืดขี่มอเตอร์ไซด์ตาม มีวิทยุเก่าๆมัดติดกับเบาะหลัง ปลัดจืดแซงหวานเจี๊ยบไม่ได้เพราะถนนแคบ
“ไอ้ปลัดจ๋อย บีบแตรทำไม”
“ช้า หลีก ฉันจะรีบไป”
“ไม่หลีก ซ้ำยังขับเบ้ไปเบ้มา ทำให้ปลัดจืดหัวเสียพยายามแซง แต่หวานเจี๊ยบไม่ยอม”
“แน่จริงก็แซงซิ ไอ้จ๋อย แบร่!”
เพราะมัวแต่หันทำให้หวานเจี๊ยบไม่ได้มองทาง พอหันไปอีกที รถก็เบ้ออกไปจะชนต้นไม้ หวานเจี๊ยบตกใจรีบเบรก
“อ๊าย!”
จักรยานของหวานเจี๊ยบล้ม กระติกน้ำหล่น น้ำแดงหก ปลัดจืดขับมาจอดดู ส่ายหน้าเบื่อหน่าย
“ไม่สวยแล้วยังซุ่มซ่าม”
ปลัดจืดเร่งเครื่องออกไป ฝุ่นตลบเข้าหน้าเข้าหัวหวานเจี๊ยบ หวานเจี๊ยบโมโหสุดขีด
“อ๊าย! แค่กๆ ไอ้จ๋อย กลับมาให้ด่าก่อน แค่กๆ”
ใต้ถุนบ้านลุงกำโป๊ง สมใจยังพยายามแกะมือเจ้าคุณออกด้วยความทุลักทุเล จนในที่สุดก็แกะมือออกสำเร็จ สมใจจะลุก แต่เจ้าคุณกลับคว้าตัวสมใจแล้วดึงเข้ามาอย่างแรง สมใจเสียหลัก ล้มไปในอ้อมกอดของเจ้าคุณ สมใจมองหน้าเจ้าคุณที่ห่างแค่คืบเริ่มหวั่นไหว ใจเต้นแรง ไม่นาน เจ้าคุณสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมาเห็นสมใจหน้าใกล้มาก ก็ผงะไปเช่นกัน
ที่ห้องคอนโทรลก้องเกียรติถึงกับสำลักกาแฟที่ดื่มอยู่ กว้างออกเห็นว่าอยู่กับกิ่งแก้วกำลังดูเจ้าคุณกับสมใจ ก้องเกียรติเหวออ้าปากค้าง กิ่งเลียนเสียงก้องขึ้นมา
“เจ้าคุณ-คุณากร ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงรจนาวรรณ มหาศักดิ์ไพศาล ไม่มีวันจะไปคว้าสาวไร่ชามาเป็นลูกสะใภ้คุณหญิงแม่เด็ดขาด! เฮอะๆ คิดเยอะนะเรา ยังจะว่าเคขาคิดเยอะอีกมั้ย”
กิ่งแก้วเอามือขยี้หัวก้องเกียรติ คล้ายกับที่เคยทำกับตัวเอง
“ไอ้คุณมันเมา ตาเยิ้มเลยเห็นป่ะ ยังไงลูกสะใภ้คุณหญิงแม่ก็ต้องไม่ใช่สาวไร่ชาทั้งชาตินี้ชาติหน้า ฟันธง”
ก้องเกียรติขยี้หัวกิ่งแก้ว แล้วเดินออกไป กิ่งแก้วไม่พอใจ หันไปมองเจ้าคุณกับสมใจด้วยความสงสัย และมั่นใจในความคิดของตัวเอง
สมใจกับเจ้าคุณยังมองหน้ากันอยู่ ไม่นานก็ได้สติทั้งคู่ แต่ยังไม่ทันผละออกจากกัน ปลัดจืดเข้ามาเห็นพอดี
“นายขุนทอง! แกทำอะไรใจ๋”
ระหว่างนั้นหวานเจี๊ยบเข้ามาเห็นเช่นกันก็ตกใจ
“พี่ใจ๋ปล้ำอ้ายขุนทองของหวานเจี๊ยบ อ๊าย! ไม่ยอมอ่ะ ไม่ยอม”
สมใจรีบผละออกจากเจ้าคุณ เจ้าคุณยังเบลอๆจับต้นชนปลายไม่ถูก
“โว๊ย! บ้าเหรอหวานเจี๊ยบฉันไม่ได้ปล้ำเขา”
“งั้นก็แปลว่าไอ้หมอนี่ปล้ำใจ๋!”
“อ้ายขุนทองปล้ำพี่ใจ๋ของหวานเจี๊ยบ อ๊าย!! ไม่ยอมอ่ะ ไม่ยอม”
“เฮ้ย! หยุด! ฉันไม่ได้ทำอะไรเขา และเขาก็ไม่ได้ทำอะไรฉัน”
“ไม่ทำอะไรได้ไง ก็ผมเห็นมันกอดใจ๋”
“เออจริงด้วย กอดกันกลมเลย”
เจ้าคุณลุกขึ้นมานั่งยังมึน ฟังไม่ค่อยไม่รู้เรื่อง
“โอ๊ย! ปวดหัวเว๊ย”
ปลัดจืดปรี่เข้าหาเจ้าคุณทันที
“หนอย ยังจะฟอร์มเยอะอีกเหรอ”
สมใจกลัวมีปัญหารีบดันปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบออกไป
“ออกไปคุยกันข้างนอก”
เจ้าคุณจับหัวตัวเองด้วยความปวด ปลัดจืดหันมาโวยใส่สมใจ มีหวานเจี๊ยบอยู่ด้วย
“ครั้งที่แล้วก็ถูกนายขุนทองจูบ”
“ครั้งนี้ก็ถูกอ้ายขุนทองกอด มันไงกันอ่ะพี่ใจ๋” หวานเจี๊ยบย้ำตามปลัดจืด
“ครั้งที่แล้วมันเป็นอุบัติเหตุ และครั้งนี้ก็เป็นอุบัติเหตุเหมือนกัน ไม่ได้จูบไม่ได้กอดทั้งนั้น”
“อุบัติเหตุบ่อยไปรึเปล่าใจ๋”
“จริงด้วย”
“เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ”
สมใจกัดปลัดจืดกับหลานเจี๊ยบ
ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบเหล่มองกัน เห็นว่ายืนใกล้กันก็ตกใจ รีบผละออกห่างทันที ปลัดจืดหันไปทางสมใจสีหน้าเป็นกังวล
“ใจ๋ ใจ๋ต้องสัญญากับผมนะว่าใจ๋จะไม่ชอบนายขุนทอง”
“สัญญากับหวานเจี๊ยบด้วย”
“ฉันไม่มีทางชอบอยู่แล้ว”
“งั้นก็สัญญาซิ
“สัญญา”
“ทำไมต้องสัญญา”
“ถ้าไม่สัญญา ก็แสดงว่าใจ๋จะชอบมันงั้นเหรอ”
“บ้าไปกันใหญ่แล้ว ที่ไม่สัญญา เพราะเรื่องนี้ไม่มีวันเกิดขึ้น”
ปลัดจืดหน้าตาไม่สบายใจ แต่หวานเจี๊ยบยิ้มแฉ่ง
“ได้ยินอย่างนี้หวานเจี๊ยบค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย”
ระหว่างนั้นลุงกำโป๊งกลับมา เห็นสมใจ ปลัดจืด หวานเจี๊ยบก็แปลกใจ
“มาโวยวายอะไรกันวะ หนวกหูจริง”
“ผมเอาวิทยุมาให้ลุงซ่อมให้ครับ”
ปลัดจืดเดินไปเอาวิทยุที่เบาะหลังรถมาให้ลุง แล้วหันไปทางสมใจกับหวานเจี๊ยบว่าตกลงสองคนนี้มาธุระอะไร
สักพักกำโป๊งเอากาแฟเข้มๆให้เจ้าคุณดื่มสร่างเมา เจ้าคุณค่อยดื่มทีละนิดเพราะร้อน สมใจกับปลัดจืดยืนอยู่ด้วย
“ใครเขาให้กินทั้งโหล แก้วเดียวก็เดี้ยงแล้ว”
“ฉันนอนไม่หลับนี่ลุง”
“ถ้างั้นวันนี้นายก็ยังไม่ต้องไปทำงาน แต่พรุ่งนี้นายต้องมาแต่เช้า โอเคป่ะ”
“อือ ไม่ไหวแล้ว ฉันขอไปนอนต่อนะลุง”
“งั้นหวานเจี๊ยบจะไปนอนเป็นเพื่อน”
หวานเจี๊ยบรีบตามไป แต่เจอกำโป๊งดันหัวเอาไว้
“ไม่ต้องเลยนังหวานเจี๊ยบ อย่าเยอะๆ เดี๋ยวข้าจะฟ้องน้าเครือฟ้าของเอ็ง ผู้หญิงอะไรเป็นสาวเป็นนาง ไม่หัดไว้ตัวอย่างน้าเอ็งบ้าง”
“โฮ ใครจะไปดีเท่าน้าเครือฟ้าของลุงล่ะ”
“ของข้าจริงๆ ก็ดีดิ”
สมใจหันไปทางลุงกำโป๊งสีหน้าสงสัย โดยมีปลัดจืดและหวานเจี๊ยบอยู่ด้วย
“นี่ลุง ฉันมีเรื่องอยากถาม”
“เอ็งจะถามถึงพ่อมันทำไม”
“นั่นซิใจ๋ ใจ๋อยากรู้เรื่องพ่อนายขุนทองทำไม”
“ฉันได้ยินนายขุนทองเพ้อเรียกหาพ่อแล้วก็ร้องไห้”
“โถๆอ้ายขุนทองของหวานเจี๊ยบร้องไห้”
“มันเกี่ยวอะไรกับที่ทำให้นายขุนทองติงต๊องรึเปล่าอ่ะลุง”
กำโป๊งชะงักกึก ล่อกแล่ก เพราะไม่เคยรู้ เลยรับสมอ้างไป ทำเป็นถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อ ใช่ เพราะสาเหตุนี้แหละ ที่ทำให้ขุนทองมันสะเทือนใจ จนกระเทือนไปถึงสมอง ก็เลยทำให้มันต๊องๆอย่างที่เห็น”
“แล้วตกลงพ่อเขาเป็นไรเหรอครับ”
ปลัดจืดสงสัย กำโป๊งแกล้งตีหน้าเศร้า ร้องไห้โฮ
“พ่อไอ้ขุนทองมันโดนควายขวิดตาย!”
สมใจ ปลัดจืด และหวานเจี๊ยบต่างตกใจไปกับเรื่องราวของเจ้าคุณที่ได้ฟัง
ที่ห้องคอนโทรล ก้องเกียรติสำลักกาแฟ คราวนี้หนักกว่าเก่า ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วหันมามองหน้ากัน
“โดนควายขวิดตาย!”
“ไปกันใหญ่แล้วลุงเอ๊ย!”
“ให้อภัยเราด้วยนะ เจ้าคุณ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับการหาทางออกของกำโป๊ง
ส่วนที่บริเวณวัด รจนาวรรณ กำลังกวาดใบไม้ร่วมกับผู้ทำวิปัสสนาคนอื่นๆ บรรยากาศสงบเงียบ ด้านเอมี่ที่กำลังกวาดใบไม้อีกด้าน หงุดหงิดสุดๆ หันไปมองคุณหญิง
“ไม่รู้ทนได้ยังไง ฉันจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว”
เอมี่หัวเสีย แล้วก็มีเสียงเป็ดร้อง
“ก๊าบ ก๊าบ”
เอมี่ชะงักหันไปมองหา
“ แถวนี้มีเป็ดด้วยเหรอ”
เอมี่สงสัยเดินไปตามหาเสียงเป็ด ทันใดนั้นมีมือมาปิดปากเอมี่แล้วดึงเข้าพุ่มไม้ คุณหญิงได้ยินเสียงหันไปมองแต่ไม่เห็นเอมี่ ก็ไม่ได้ติดใจอะไรหันไปกวาดใบไม้ต่อ
“กวาดใบไม้หนอ กวาดใบไม้หนอ”
เอมี่ตาเหลือก แกะมือที่ปิดปากออกกำลังจะกรี๊ดแต่เห็นเป็นแมทธิวก็ดีใจ
“แมท!”
“ชู่ว์! เดี๋ยวคุณหญิงแม่ได้ยิน”
เอมี่กระโดดกอดแมทธิวด้วยความดีใจเป็นที่สุด
“เอมี่ดีใจมากเลยนะคะที่แมทมาหา เอมี่ไม่ได้คุยกับใครจนน้ำลายจะบูดเน่าอยู่แล้ว”
“ถ้างั้นเราไปหากิจกรรมที่ทำให้เรามีความสุขกันดีกว่าจ้ะ”
แมทธิวลูบแขนเอมี่ เอมี่ยิ้มยั่วยวนแล้วก็แอบย่องออกไปกับแมทธิว
แมทธิวกับเอมี่ ทำหน้าซี๊ดซ๊าดได้อารมณ์ แมทธิวทำหน้าเช่นเดียวกัน สองคนนั่งนวดเท้ากันอยู่ คนนวดเป็นผู้หญิงแก่คราวป้าเป็นมือนวดให้ทั้งคู่
“นี่เป็นวันที่มี่มีความสุขมากที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านมาเลยล่ะค่ะ”
“ผมก็เหมือนกัน อยู่ที่กรุงเทพน่าเบื่อ! มีแต่คนพูดถึงแต่ไอ้คุณกันทั่วบ้านทั้งเมือง ถุ้ย ไอ้ขุนทอง”
“เฮ้ย! มาถุ้ยใส่ไอ้ขุนทองของป้าทำไม”
ป้าคนนวดโวยขึ้น แมทธิวกับเอมี่ผงะ
“ไอ้ขุนทองของป้า”
“ของแกคนเดียวซะที่ไหน ของข้าด้วยเว๊ย”
คนนวอดอีกคนตะโกนดังข้ามมา
“เออนั่นแหละ แกมาถุ้ย ใส่ไอ้ขุนทองของเราทำไม ขอโทษเดี๋ยวนี้!”
ป้าคนนวดบังคับให้แมทธิวขอโทษ
“ขอโทษ จะบ้าเหรอ”
ป้าบีบเท้าแมทธิวอย่างแรงสุดขีด
“จ๊าก!
“จะขอโทษรึไม่ขอโทษ ห๊า!”
ป้าบีบแรงขึ้นอีก แมทธิวดิ้นเร่าๆ ร้องเสียงหลง
“พอแล้วๆ ขอโทษแล้ว ขอโทษๆ”
ป้าคนนวดลุกขึ้นชี้หน้า
“ดี ต่อไปนี้อย่ามาถุ้ย ใส่ไอ้ขุนทองของเราอีก จำไว้!”
“ขุนทองของพวกแกซะเมื่อไหร่ล่ะนังป้า คุณคะคุณขาเขาเป็นแฟนฉันย่ะ”
คนนวดทั้งสอง คนหันขวับไปมองเอมี่
“แฟน!”
“แกเนี่ยนะแฟนอ้ายขุนทอง ชิ! อีนังขี้ตู่ ไม่มีทางหรอกเว้ย โอ๊ย! อ้ายขุนทองต้องได้กับยัยไม้อัดคนเดียวเท่านั้น”
“ยัยไม้อัด ใครคือยัยไม่อัดห๊ะป้า”
“ไม่น่งไม่นวดมันแล้ว เกลียดคนขี้ตู่ เกลียดแก”
“อ้าว!”
ป้าคนนวดไม่สบอารมณ์เลยเดินออกไป เอมี่หัวเสียลุกขึ้นยืน
“ป้า ป้ายังนวดไม่เสร็จนะ แล้วตกลงยัยไม่อัดเป็นใคร ป้า ป้า”
เอมี่อยากรู้จัด หันไปทางแมทธิวที่ยังกุมเท้าป้อยๆ
นวดเสร็จเอมี่ยังข้องใจเรื่องยัยไม้อัด ขวัญใจเจ้าขุนทองที่ป้าสองคนเล่า เอมี่จึงถามเอาความกับแมทธิว
“แมท บอกมี่มาเดี๋ยวนี้ว่ายัยไม้อัดเป็นใคร”
“ยัยไม้อัดก็คือผู้หญิงเจ้าของไร่ชาเขียวที่ไอ้คุณมันทำงานด้วย”
แมทธิวตอบทั้งที่ยังเดินกะเผลกๆ
“คุณคะคุณขาทำงาน คุณคะคุณขาของมี่เนี่ยนะ”
“เออ!”
“ไม่อยากจะเชื่อ!”
“ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ตอนนี้ไอ้คุณคะคุณขาของเธอมันทั้งเก็บใบชา ทั้งเลี้ยงหมู หมดสภาพความเป็นไฮโซแล้ว ฮ่าๆ”
เอมี่แทบจะล้มทั้งยืนด้วยความอึ้งตะลึงงัน
“แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ดันโด่งดังขึ้นมาอย่างที่คุณเห็นยัยป้าสองคนนั่น ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผมยอมไม่ได้ เพราะฉะนั้น เอมี่”
แมทธิวมองเอมี่ตาโหด เอมี่สะดุ้ง
“คุณจะต้องดึงนังคุณหญิงแม่ให้กวาดใบไม้ในวัดต่อไปอีกอย่าให้มันกลับออกมาตอนนี้เด็ดขาด
“อร้าย! มี่ไม่ไหวแล้ว”
“ต้องไหว!”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็เพราะผมไม่ต้องการให้นังคุณหญิงแม่ออกมาขัดขวางแผนการของผม”
“แผนอะไรอ่ะ”
“ก็แผนยำเละไอ้ขุนทองน่ะซิ ผมจะยำมันให้เละ ดูซิ คราวนี้มันจะยังเป็นขวัญใจของใครๆ อยู่รึเปล่า ฮ่าๆ”
ที่ห้องนอนบ้านสมใจคำปุยมองสมใจที่กำลังหวีผมด้วยความประหลาดใจ
“พ่ออ้ายขุนทองรถคว่ำตาย!”
“อือ น่าสงสารเนอะ ไม่มีพ่อ อยู่กับแม่แค่สองคน ก็เลยเป็นเด็กมีปัญหา ขาดความรัก ขาดความอบอุ่น แถมยังเห็นพ่อตายต่อหน้าต่อตา ถึงทำให้นายขุนทองเป็นบ้า”
“ฮั่นแน่! สงสารเขาแบบนี้ ใจอ่อนแล้วซิ”
“พูดไรของแก”
“ใจ๋ ฉันพูดตรงๆนะ ถ้าไม่นับว่าอ้ายขุนทองเป็นบ้า ฉันว่าเขากับแกก็เหมาะสมกันอยู่นะ” คำปุยจริงจังขยับเก้าอี้มาทำสีหน้าจริงจัง
“ไอ้ปุ๋ย! ใช่หัวแม่เท้าคิดป่ะเนี่ย”
“ฉันพูดจริงนะใจ๋ ซีเรียสเลยอ่ะ ตัดความต๊องออกไป เค้าก็รูปหล่อ หุ่นดี กล้ามเป็นมัด มาดแมน และที่สำคัญเขาไม่ใช่คนกรุงเทพฯแบบที่พ่อแกเกลียด เหมาะสมที่จะเป็นแฟนกับแกที่สุด”
ทันใดนั้นแคบหมูโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม
“แม่นแล้ว!”
คำปุยกับสมใจหันไปเห็นแคบหมูประแป้งหน้าขาวก็ตกใจ กระโดดมาเกาะแขนสมใจ
“ว๊าย!”
“นังแค๊บ! เข้ามาในห้องฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เข้ามานานแล้ว ว่าจะมาขอยืมหวี แต่รอนานไปหน่อยก็เลยเผลอหลับไป แฮะๆ”
“พุธโธ ธัมโม สังโฆ ตกใจหมด นึกว่าผีเด็กมาขอส่วนบุญ”
“แล้วตกลงพี่ใจ๋จะเอาอ้ายขุนทองเป็นแฟนอ๊ะป่าว”
“นังแค๊บ! ถ้าแกถามฉันอีกคำเดียว แกได้กลายเป็นผีเด็กอย่างนังปุ๋ยมันว่าแน่! ไป๊ ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว”
สมใจลุกขึ้นไล่แคบหมูกับคำปุย สองคนเดินออกไป สมใจปิดประตู แล้วก็หันมา
“ชาตินี้ฉันไม่มีวันเอาไอ้นายขุนทองเป็นแฟนเด็ดขาดเว๊ย นังแค๊บ!”
พูดจบสมใจปิดไฟมืดทันที
ดึกสงัด ที่ห้องพักในวัดที่รจนาวรรณและเอมี่ไปนั่งวิปัสสนา เอมี่ค่อยๆย่องมาตามทาง ทันใดนั้นก็เจอคุณหญิงแม่แปะมาร์คหน้ายืนอยู่ท่ามกลางความมืด เอมี่ตกใจ
“ว๊าย!”
“ชู่ว์ หนูมี่หายไปไหนมาจ๊ะ”
“เออ อ่า มี่ไปนั่งวิปัสสนาในป่าช้ามาค่ะ”
“ห๊ะ! หนูเนี่ยนะไปนั่งวิปัสสนาในป่าช้าคนเดียว”
“ใช่ค่ะ”
“ตายแล้วหนูมี่ของแม่ ช่างแก่กล้าวิชาอะไรขนาดนี้ นี่แสดงว่าหนูมี่ฝึกสมาธิถึงขั้นสูงสุดแล้วน่ะซิ”
“อ่า ใช่ค่ะใช่ ขนาดมีวิญญาณมาขอส่วนบุญ มี่ยังไม่หวั่นไหวเลยนะคะ”
“โอ้ คุณแม่ภูมิใจในตัวหนูมี่จริงๆ”
คุณหญิงแม่ดึงเอมี่มากอด เอมี่ถอนหายใจโล่งอกที่ผ่านไปได้ด้วยดี
“เอ่อ ถ้าคุณหญิงแม่อยากแอ๊ดว๊านซ์ได้เท่ามี่ คุณหญิงแม่ก็ต้องอยู่ปฎิบัติธรรมต่ออีกหน่อยนะคะ เอ่อ เจ้าคุณจะได้ได้บุญเยอะๆ
“จ้ะ จ้ะ แม่จะอยู่นานๆ เลย เฮ้อ! แต่ก็คิดถึงลูกคุณจังเลย ป่านนี้คงกินอิ่มนอนหลับรับกุศลจากแม่จนตัวกลมไปแล้ว”
เอมี่ตาเหลือก
“ซะที่ไหนล่ะยะคุณหญิงแม่”
เช้าวันถัดมา สมใจยืนเท้าสะเอวอยู่ที่หน้าบ้าน หน้าวีน ด้านหลังเห็นแคบหมูกับคนงานช่วยกันขนชาขึ้นรถ
กระบะ ไม่นานเจ้าคุณเดินมาถึง
“เมื่อคืนกินอะไรเข้าไปอีกล่ะ ถึงได้มาสายโด่งขนาดนี้”
“ฉันต้องช่วยลุงกำโป๊งตักน้ำใส่ตุ่มก่อน แล้วก็เดินมาอีกตั้งหลายกิโล”
“งั้นก็แล้วไป ว่าแต่ทำไมนายไม่ขอยืมมอเตอร์ไซด์ลุงกำโป๊งขี่มาล่ะ จะได้มาไวหน่อย”
สมใจอึ้ง อึ้งไปที่รู้ว่าเจ้าคุณช่วยงานกำโป๊ง
“ฉันขี่มอไซค์ไม่เป็น”
“ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็น”
สมใจเสียงสูงย้อนถามเหมือนไม่อยากเชื่อ จนเจ้าคุณพาเปลี่ยนเรื่อง
“วันนี้จะให้ทำอะไร”
“วันนี้นายต้องไปส่งของกับแคบหมู”
เจ้าคุณหันไปมองแคบหมู แคบหมูยิ้มพร้อมยักคิ้วให้
ภายในร้านค้าในตลาดเจ้าคุณกับคนงานหนึ่งคนช่วยกันขนชาเข้ามาวางในร้าน ส่วนแคบหมูกำลังกดเครื่องคิดเลขคิดเงินอย่างคล่องแคล่ว
“ทั้งหมดก็ 853.50 สตางค์”
“800 ถ้วนก็แล้วกัน”
เจ้าของร้านต่อรองแคบหมู
“ก็ได้ อ้ายขุนทองเอาชากลับถุงครึ่ง”
“อ้าวเฮ้ย! เอาชากลับไปทำไม”
“อ้าวลุ๊ง ตังค์ลด ของก็ลด แฟร์ๆ ใช่ป่ะ”
“งกจริงๆ นังแค๊บหมู”
“งกที่ไหน ไอ้แบบนี้เขาเรียกว่าความถูกต้อง ของซื้อของขายมันก็ต้องแบบนี้ แต่ถ้าวันไหนลุงหมายกะพี่ใจ๋เขาจัดงานเลี้ยง ดื่มฟรี กินฟรีไม่อั้น อันนั้นมันก็อีกเรื่องซิลุ๊ง”
“เออๆพูดมาก เอ้า! แปดร้อยห้าสิบสามบาทห้าสิบสตางค์ จ่ายเต็มราคาก็ได้วะ”
แคบหมูยิ้ม แล้วหันไปทางเจ้าคุณกับคนงาน
“เรียบร้อย กลับได้”
แคบหมูเดินเชิดๆ นำออกไปเจ้าคุณมองตาม แอบอมยิ้มก่อนจะเดินตามไป
ใกล้หวานเจี๊ยบไสน้ำแข็งใสอยู่ ภายใต้คอเสื้อคว้านลึก กล้องซูมออกเห็นดำเกิงตาโตวาว น้ำลายย้อย ยืนรอน้ำแข็งไสอยู่กับเคนและติ๊ก
“อีกนิดจ้ะ อ้ายเกิงชอบน้ำแข็งเยอะๆ มันขาว”
“ว่าไงนะ”
“ก็มันขาว มันอึ๋ม!”
หวานเจี๊ยบสาดถ้วยน้ำแข็งไสใส่เต็มหน้าดำเกิงทันที
“นี่แน่ะ!”
“โอ๊ย! อะไรเนี่ยน้องหวานเจี๊ยบ ทำไมทำกับอ้ายเกิงอย่างนี้”
“ฮ่าๆ”
ดำเกิงหันไปมองขวับ แคบหมูยืนขำอยู่กับเจ้าคุณที่ยืนอมยิ้มอยู่
“ขำอะไรวะนังแค๊บ ยิ้ม เอ็งบังอาจยิ้มเยาะข้าเรอะไอ้ติงต๊อง”
“อ้ายขุนทอง!”
หวานเจี๊ยบวิ่งจู๊ดไปเกาะแขนเจ้าคุณ
“ลมอะไรหอบอ้ายขุนทองมาถึงนี่ ลมคิดถึงหวานเจี๊ยบอ๊ะป่าว”
“เชอะ! ลมบ้าหมูน่ะซิน้องหวานเจี๊ยบ!”
“หยุดเห่าได้แล้วอ้ายเกิง ไม่หล่อแล้วยังน่ารำคาญอีก”
แคบหมูขำก๊าก เจ้าคุณอมยิ้มอีก
“ไอ้ติงต๊องมันยิ้มเยาะลูกพี่อีกแล้วอ่ะ”
“จริงด้วย เอาไงดีลูกพี่”
“จะถามทำว่อกอะไรล่ะเว๊ย ลุยมันเลย”
ดำเกิงกับลูกน้องย่างสามขุม นักเลงสามคน ที่แมทธิวส่งมาที่นั่งหันหลังอยู่ที่โต๊ะถัดไป ค่อยๆ หันมาหน้าตาถมึงทึงดูน่ากลัว ดำเกิงถึงตัวเจ้าคุณแล้ว
“คราวก่อน ฉันอุตส่าห์อโหสิให้ หนอย ไม่สำนึกบุญคุณแล้วยังมีหน้ามายิ้มเยาะเย้ย ลุย!”
ติ๊ก เคน ยืนแข็งทื่อทำหน้าตาสยอง
“อ้าวเฮ๊ย ข้าบอกให้ลุย”
“ใครจะกล้า”
“ว้า! ป๊อดทั้งลูกพี่ลูกน้อง ฮ่าๆ”
แคบหมู หวานเจี๊ยบขำกันก๊าก ดำเกิงเลิ่กลั่ก เสียหน้า
“เอ้า! ถ้าไม่มีเรื่องก็กลับกันเหอะ อ้ายขุนทอง”
“กลับไม่ได้ ต้องมีเรื่องก่อน!”
แคบหมู ขุนทองชะงัก หลังดำเกิงเสียงดัง แคบหมูถอนใจ มองหน้าเจ้าคุณ
“จะต่อยเมื่อไหร่เรียกด้วย ฉันไปกินโจ๊กก่อนล่ะนะ”
“อือ เอายัง มา!”
หวานเจี๊ยบปรบมือลั่นอย่างปลาบปลื้ม ดำเกิงหน้าจ๋อยๆ แต่ก็ฮึดสู้
“อย่าทำเป็นซ่า! แล้วเอ็งจะรู้ว่าอ้ายเกิงน่ะ ไม่ธรรมดา”
ดำเกิงเริ่มฟุตเวิร์ค แล้วชกวืด และแล้วดำเกิงก็โดนเหวี่ยงวืดไปหัวทิ่มกลางโต๊ะ นักเลงลูกน้องของแมทธิว จ้องดำเกิงตาถลน
“ชั้นเปล่านะเพ่ ไอ้นั่นมันทำ!”
ดำเกิงชี้ไปที่เจ้าคุณ นักเลงไม่พูดพล่ามทำเพลง ล็อกคอดำเกิงแล้วรุมทันที หวานเจี๊ยบวี๊ดว๊าย แคบหมูจะกินโจ๊กก็อ้าปากค้าง เคนกับติ๊กร้องลั่น
“ช่วยด้วย! ช่วยลูกพี่ด้วย!”
“พวกนั้นเป็นใคร” เจ้าคุณถามหวานเจี๊ยบ
“ไม่รู้ซิ ไม่เคยเห็นหน้าเลย”
เคน ติ๊กวิ่งมาเกาะเจ้าคุณ ให้ไปช่วยลูกพี่ เจ้าคุณเดินเข้าไปทันที
“อย่าหมาหมู่ซิวะ”
นักเลงชะงัก หยุดอัดดำเกิงที่กำลังน่วม หันมามองเจ้าคุณตาวาว และต้องจัดการกับเจ้าคุณให้ได้ เพราะแมทธิวสั่งมา
“อัดมันให้น่วม ยำมันให้เละ!”
นักเลงสามคน เปลี่ยนเป้า เข้าไปรุมเจ้าคุณแทน หวานเจี๊ยบวี๊ดว๊ายร้องลั่นเป็นห่วงเจ้าคุณ
อ่านต่อตอนที่ 4