ภายในห้องผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพทวีปัญญา โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง “ลิน” เด็กสาวคงแก่เรียนกับคุณพ่อ กำลังสนทนากับผู้อำนวยการ เกี่ยวกับผลการศึกษายอดเยี่ยมจากโรงเรียนเก่า พ่อของลินอยากให้ลูกสาวได้ศึกษาต่อในโรงเรียนดัง แต่ยังติดปัญหาเรื่องค่าเทอม รวมทั้งค่าบำรุงการศึกษาอันแสนแพงสำหรับสถานะพ่อเลี้ยงเดี่ยว (แม่ของลินเสียชีวิตไปแล้ว) แต่แล้วด้วยรางวัลการแข่งขันด้านคณิตศาสตร์ที่รับประกันความสามารถของบุตรสาว สุดท้ายแล้ว ผู้อำนวยการก็ยินดีอนุมัติทุนอาหารกลางวันให้ เพื่อให้เด็กสาวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของสถาบัน
วันแรกของการเริ่มต้นเป็นนักเรียนมัธยมปลาย ลินมีโอกาสรู้จักกับ “เกรซ” เด็กสาวหน้าตาสละสลวย อารมณ์ดี และกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เกรซมีปัญหาเรื่องการเรียนพอสมควร เพราะไปทุ่มเวลาให้กับกิจกรรมชมรมการแสดง จนผลการเรียนไม่ดีนัก โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ และทางชมรมก็มีกฎว่า หากใครมีคะแนนเฉลี่ยไม่ถึงเกณฑ์ ก็ไม่มีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมสำคัญ เกรซจึงต้องขอให้ลินช่วยสอนพิเศษ โดยยกให้เป็น “ครูลิน” ซึ่งเป็นอาชีพที่ลินใฝ่ฝัน
แต่การจะเรียนรู้โจทย์ยาก กลายเป็นสิ่งที่เกรซไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้การทำข้อสอบครั้งถัดมา ลินใช้วิธีซ่อนคำตอบแล้วแอบส่งไปกับยางลบให้เพื่อนสนิท จนเกรซสอบผ่าน ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ไปทำกิจกรรมของชมรมได้สำเร็จ
หลังจากนั้น เกรซก็พาลินไปรู้จักกับ “พัฒน์” แฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งอยู่ห้องเดียวกัน พัฒน์เป็นเด็กหนุ่มที่บ้านรวยล้นฟ้า ซึ่งนั่นทำให้พัฒน์และเกรซ มีความคิดนอกลู่นอกทาง คิดว่า “เงิน” สามารถซื้อความสำเร็จทางลัดได้ เพราะหากตั้งใจเรียน ติวหนังสือ คงไม่ทันการ ทั้งคู่จึงเสนอให้ลินใช้วิธีโกงข้อสอบ โดยพัฒน์เสนอค่าตอบแทนให้อย่างงาม แถมยังจะหาลูกค้า (เพื่อนคนอื่นๆ) ที่พร้อมจะจ่ายให้อีกด้วย ส่วนพัฒน์นั้น หากผลสอบผ่านเป็นที่น่าพอใจ พ่อของเขาก็จะให้รถหรูเป็นของขวัญ
แม้ตอนแรก ลินคิดว่าการโกงข้อสอบที่ขยายวงจากแค่เพื่อนสนิท กลายเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นเรื่องที่เธอไม่อยากทำ แต่เมื่อความโลภเข้าครอบงำจิตใจ เพราะจำนวนเงินมหาศาลที่เธอจะนำมาใช้จ่ายได้มากมาย กระบวนการโกงข้อสอบจึงเริ่มขึ้น
ลินต้องคิดค้นวิธีพิเศษในการโกง มากกว่าแค่การส่งโพยในยางลบ เธอจึงคิดบอกโค้ดลับด้วยการเคาะนิ้วแบบการเล่นเปียโน ลินสอนเพื่อนๆถึงจังหวะตัวโน้ตการเคาะ ที่เป็นคำตอบข้อ ก. ข. ค.
อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่เข้ามามีบทบาท คือ “แบงค์” เด็กหนุ่มอัจฉริยะ ที่เสมือนเป็นคู่แข่งด้านการเรียนของลิน แต่แบงค์แตกต่างจากลิน ตรงที่เมื่อมีเพื่อนขอให้ช่วยโกงข้อสอบ แบงค์ไม่ยอมใจอ่อน แถมยังไปกระซิบบอกคุณครู
แล้วก็ถึงการสอบครั้งสำคัญ ลินใช้โค้ดที่ซักซ้อมไว้ส่งคำตอบให้เพื่อนได้สำเร็จ จนสอบผ่านกันทุกคน แต่คราวนี้เธอไม่โชคดีเหมือนเดิม เมื่อแบงค์กระซิบบอกคุณครูผู้คุมสอบ
เมื่อผู้อำนวยการทราบเรื่องนี้ จึงประกาศตัดสิทธิ์ทุนการศึกษาและตัดสิทธิ์การสอบชิงทุนเรียนฟรีจากมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ ทำให้ลินกับแบงค์เกิดบาดหมางใจกัน เพราะเธอคิดว่าแบงค์ต้องการกีดกันคู่แข่งการสอบชิงทุน แถมพ่อของลินก็ผิดหวังในตัวลูกสาวมาก
เหตุการณ์ต่างๆ ดูเหมือนจะจบลงไปอย่างเงียบๆ แม้ลินไม่ได้สิทธิ์สอบชิงทุนฟรี แต่ความสามารถของเธอก็คงจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอื่นได้ไม่ยาก แต่ทว่าเรื่องยุ่งๆก็เกิดขึ้นมาจากพัฒน์และเกรซอีกครั้ง เพราะทั้งคู่พึ่งพาคำตอบจากลิน ผ่านการทุจริตในห้องสอบตลอด จนทำให้ผลการเรียนดี เข้าตาพ่อแม่สุดไฮโซของพัฒน์ ซึ่งคิดว่าลูกชายของตนคบกับเกรซ แล้วพากันเรียนจนประสบความสำเร็จ จึงมีข้อเสนอให้ทั้งสองไปสอบ STIC หรือการสอบเพื่อนำคะแนนไปสมัครมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ถ้าสอบผ่านก็จะส่งเสียเรื่องเรียนของทั้งคู่
แน่นอนว่า เด็กโกงข้อสอบมาตลอดอย่างพัฒน์กับเกรซ ไม่มีทางสอบผ่าน STIC ดังนั้น หนทางสุดท้ายเท่าที่ทั้งสองจะคิดได้ คือ การขอร้องเพื่อนสนิทให้ช่วยโกงอีกครั้ง พร้อมจ่ายไม่อั้น รวมถึงจะให้ลินไปเรียนด้วยกันก็ยังได้ พร้อมทั้งหาลูกค้าให้อีก จนรวมแล้วเป็นเม็ดเงินมหาศาล แต่ระบบการสอบ STIC มีการคุมสอบเข้มงวดกว่าการสอบในโรงเรียนมัธยมหลายเท่า แถมยังเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆอีกต่างหาก
แต่ทว่าความอัจฉริยะของลิน ก็คิดวิธีโกงครั้งสำคัญได้สำเร็จ เพราะ Time Zone ของเวลาทั่วโลก เอื้อให้ประเทศทางตะวันออก ต้องสอบ STIC ก่อนเวลาในประเทศไทย ดังนั้น สนามสอบแรกที่ลินจะดึงโจทย์และคำตอบออกมาได้ทัน คือ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีเวลามากพอที่นักโกงข้อสอบในเมืองไทย จะนำคำตอบไปเข้าห้องสอบได้ทัน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ที่ยังคิดไม่ตก คือ การจะจำข้อสอบ STIC ออกมาจากห้องสอบได้นั้น จำเป็นต้องมีผู้ร่วมปฏิบัติการอีกหนึ่งคน และคนที่เหมาะสม มีความอัจฉริยะในการจดจำได้เทียบเท่าลิน ก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแบงค์ แต่เขาก็น่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ยอมเข้าร่วม
แต่แล้วแผนการอันชั่วร้าย เพื่อการโกงครั้งประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้น เมื่อพัฒน์จ้างคนไปรุมทำร้ายแบงค์ แล้วหิ้วตัวไปทิ้งในที่ห่างไกลจากเมือง เพื่อตัดโอกาสที่เขาจะไปสอบชิงทุนเรียนฟรีของมหาวิทยาลัยที่สิงคโปร์ แบงค์จึงหมดโอกาสได้ทุนฟรี และด้วยฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างขัดสน ทำให้เขาตัดสินใจรับงานโกงข้ามทวีป แม้ในการซักซ้อมก่อนเดินทาง แบงค์ได้รู้ความจริงของแผนการอันชั่วร้าย ที่พัฒน์จ้างคนไปทำร้ายเขา แต่ท้ายที่สุดแบงค์ก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสในใจ เพราะไหนๆ เขาก็โดนซ้อมจนไปสอบชิงทุนไม่ทันแล้ว อย่างน้อยการร่วมปฏิบัติโกงครั้งนี้ ก็ยังทำให้เขาได้เงินค่าตอบแทนมหาศาล พอที่จะนำไปพลิกชีวิตได้
ภารกิจโกงข้ามทวีปของลินกับแบงค์จึงเกิดขึ้น ทั้งคู่เดินทางไปยังซิดนีย์ และก่อนการส่งคำตอบเป็นโค้ดลับทางโทรศัพท์มือถือ แบงค์แก้แค้นที่ตัวเองโดนพัฒน์ทำร้าย ด้วยการขอส่วนแบ่งเพิ่มเป็นหลักล้าน ซึ่งพัฒน์ก็จำใจต้องยอมโอนเงินให้ตามคำขอ
การทุจริตสอบที่เกิดขึ้น แบงค์ส่งคำตอบไปได้ส่วนหนึ่ง ก็โดนจับได้เสียก่อน ส่วนลินสามารถส่งคำตอบได้ทั้งหมด แต่ก็โดนเรียกตัวไปสอบสวนหาความเกี่ยวข้อง แต่กระนั้นพลพรรคนักโกงที่รอคำตอบอยู่เมืองไทย ก็สามารถสอบ STIC ผ่านกันได้อย่างถ้วนทั่ว
บทสรุปส่งท้าย แม้ว่าลินจะรอดพ้นจากความผิดไปได้ ส่วนแบงค์ก็ไม่มีผลอะไร เพราะได้เงินล้านไปสมใจ แต่ก็กลายเป็นคนใหม่ที่เดินไปสู่ด้านมืด เห็นแก่เงินอย่างเต็มตัว
ฝ่ายลินรู้สึกผิดกับพ่อและตัวเอง จึงตัดสินใจตัดขาดจากเกรซและพัฒน์ (ซึ่งอนาคตการไปเรียนต่อในอเมริกา ที่ต้องใช้การสอบแบบอัตนัย ไม่สามารถโกง หรือลอกใครได้ ก็พอจะเห็นภาพได้ว่า ความล้มเหลวของทั้งคู่กำลังรออยู่) และเลือกสอบเข้าคณะครุศาสตร์ตามที่ฝันไว้ ตั้งใจนำความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียน ขณะเดียวกันก็ตัดสินใจเข้าไปให้การแก่คณะกรรมการสอบ STIC เพื่อตีแผ่และเปิดโปงการทุจริตครั้งสำคัญ อันเป็นการชำระความผิดที่ตนเองได้กระทำลงไป
เรื่องราวที่เกิดกับ “ลิน” มาจากการไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมทางพุทธศาสนา เรื่อง “มงคลชีวิต 38 ประการ” ซึ่งเป็นหลักคิดที่พระพุทธองค์ประทานไว้เพื่อให้ผู้ปฏิบัติตามนั้นมีชีวิตที่ประสบผลสำเร็จ
ลินละเมิดหลักมงคลชีวิตตั้งแต่ข้อแรก คือ “การไม่คบคนพาล” ซึ่งลักษณะของคนพาลมี 3 ประการ ได้แก่
1. คิดชั่ว มีจิตคิดอยากได้ในทางทุจริต มีความพยาบาท มีมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นชอบ
2. พูดชั่ว หรือ วจีทุจริต เช่น พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ
3. ทำชั่ว การกระทำที่เป็นกายทุจริต เช่น ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ลักขโมย ฉ้อโกง ประพฤติผิดในกาม
จะเห็นได้ว่า ทั้งเกรซและพัฒน์แม้จะเป็นเพื่อนรักของลิน และพร้อมจะหาทรัพย์สินเงินทองมาให้มากมาย แต่ก็เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว ไม่คำนึงความถูกผิด ซึ่งเป็นวิธีของคนพาลที่อยากได้ในทางทุจริต ฉ้อโกง รวมถึงการที่จ้างคนไปทำร้ายผู้อื่นเพื่อให้ตนได้ในสิ่งที่ปรารถนา
เมื่อการหลงไปคบหาคนพาล แล้วผสมเข้ากับกิเลสอย่าง “โลภะ” ความอยากได้อยากมีที่อยู่ในจิตใจ ทำให้ยิ่งหลุดหลงไปในวังวนของการคิดชั่ว ทำชั่ว อันเป็นโลกของคนพาล ที่พร้อมจะสร้างปัญหาให้ แต่ยังดีที่ลินคิดได้และกลับตัวกลับใจได้ในที่สุด
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 199 กรกฎาคม 2560 โดย ชยวรรศ มานะศิริ)
วันแรกของการเริ่มต้นเป็นนักเรียนมัธยมปลาย ลินมีโอกาสรู้จักกับ “เกรซ” เด็กสาวหน้าตาสละสลวย อารมณ์ดี และกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เกรซมีปัญหาเรื่องการเรียนพอสมควร เพราะไปทุ่มเวลาให้กับกิจกรรมชมรมการแสดง จนผลการเรียนไม่ดีนัก โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ และทางชมรมก็มีกฎว่า หากใครมีคะแนนเฉลี่ยไม่ถึงเกณฑ์ ก็ไม่มีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมสำคัญ เกรซจึงต้องขอให้ลินช่วยสอนพิเศษ โดยยกให้เป็น “ครูลิน” ซึ่งเป็นอาชีพที่ลินใฝ่ฝัน
แต่การจะเรียนรู้โจทย์ยาก กลายเป็นสิ่งที่เกรซไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้การทำข้อสอบครั้งถัดมา ลินใช้วิธีซ่อนคำตอบแล้วแอบส่งไปกับยางลบให้เพื่อนสนิท จนเกรซสอบผ่าน ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ไปทำกิจกรรมของชมรมได้สำเร็จ
หลังจากนั้น เกรซก็พาลินไปรู้จักกับ “พัฒน์” แฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งอยู่ห้องเดียวกัน พัฒน์เป็นเด็กหนุ่มที่บ้านรวยล้นฟ้า ซึ่งนั่นทำให้พัฒน์และเกรซ มีความคิดนอกลู่นอกทาง คิดว่า “เงิน” สามารถซื้อความสำเร็จทางลัดได้ เพราะหากตั้งใจเรียน ติวหนังสือ คงไม่ทันการ ทั้งคู่จึงเสนอให้ลินใช้วิธีโกงข้อสอบ โดยพัฒน์เสนอค่าตอบแทนให้อย่างงาม แถมยังจะหาลูกค้า (เพื่อนคนอื่นๆ) ที่พร้อมจะจ่ายให้อีกด้วย ส่วนพัฒน์นั้น หากผลสอบผ่านเป็นที่น่าพอใจ พ่อของเขาก็จะให้รถหรูเป็นของขวัญ
แม้ตอนแรก ลินคิดว่าการโกงข้อสอบที่ขยายวงจากแค่เพื่อนสนิท กลายเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นเรื่องที่เธอไม่อยากทำ แต่เมื่อความโลภเข้าครอบงำจิตใจ เพราะจำนวนเงินมหาศาลที่เธอจะนำมาใช้จ่ายได้มากมาย กระบวนการโกงข้อสอบจึงเริ่มขึ้น
ลินต้องคิดค้นวิธีพิเศษในการโกง มากกว่าแค่การส่งโพยในยางลบ เธอจึงคิดบอกโค้ดลับด้วยการเคาะนิ้วแบบการเล่นเปียโน ลินสอนเพื่อนๆถึงจังหวะตัวโน้ตการเคาะ ที่เป็นคำตอบข้อ ก. ข. ค.
อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่เข้ามามีบทบาท คือ “แบงค์” เด็กหนุ่มอัจฉริยะ ที่เสมือนเป็นคู่แข่งด้านการเรียนของลิน แต่แบงค์แตกต่างจากลิน ตรงที่เมื่อมีเพื่อนขอให้ช่วยโกงข้อสอบ แบงค์ไม่ยอมใจอ่อน แถมยังไปกระซิบบอกคุณครู
แล้วก็ถึงการสอบครั้งสำคัญ ลินใช้โค้ดที่ซักซ้อมไว้ส่งคำตอบให้เพื่อนได้สำเร็จ จนสอบผ่านกันทุกคน แต่คราวนี้เธอไม่โชคดีเหมือนเดิม เมื่อแบงค์กระซิบบอกคุณครูผู้คุมสอบ
เมื่อผู้อำนวยการทราบเรื่องนี้ จึงประกาศตัดสิทธิ์ทุนการศึกษาและตัดสิทธิ์การสอบชิงทุนเรียนฟรีจากมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ ทำให้ลินกับแบงค์เกิดบาดหมางใจกัน เพราะเธอคิดว่าแบงค์ต้องการกีดกันคู่แข่งการสอบชิงทุน แถมพ่อของลินก็ผิดหวังในตัวลูกสาวมาก
เหตุการณ์ต่างๆ ดูเหมือนจะจบลงไปอย่างเงียบๆ แม้ลินไม่ได้สิทธิ์สอบชิงทุนฟรี แต่ความสามารถของเธอก็คงจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอื่นได้ไม่ยาก แต่ทว่าเรื่องยุ่งๆก็เกิดขึ้นมาจากพัฒน์และเกรซอีกครั้ง เพราะทั้งคู่พึ่งพาคำตอบจากลิน ผ่านการทุจริตในห้องสอบตลอด จนทำให้ผลการเรียนดี เข้าตาพ่อแม่สุดไฮโซของพัฒน์ ซึ่งคิดว่าลูกชายของตนคบกับเกรซ แล้วพากันเรียนจนประสบความสำเร็จ จึงมีข้อเสนอให้ทั้งสองไปสอบ STIC หรือการสอบเพื่อนำคะแนนไปสมัครมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ถ้าสอบผ่านก็จะส่งเสียเรื่องเรียนของทั้งคู่
แน่นอนว่า เด็กโกงข้อสอบมาตลอดอย่างพัฒน์กับเกรซ ไม่มีทางสอบผ่าน STIC ดังนั้น หนทางสุดท้ายเท่าที่ทั้งสองจะคิดได้ คือ การขอร้องเพื่อนสนิทให้ช่วยโกงอีกครั้ง พร้อมจ่ายไม่อั้น รวมถึงจะให้ลินไปเรียนด้วยกันก็ยังได้ พร้อมทั้งหาลูกค้าให้อีก จนรวมแล้วเป็นเม็ดเงินมหาศาล แต่ระบบการสอบ STIC มีการคุมสอบเข้มงวดกว่าการสอบในโรงเรียนมัธยมหลายเท่า แถมยังเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆอีกต่างหาก
แต่ทว่าความอัจฉริยะของลิน ก็คิดวิธีโกงครั้งสำคัญได้สำเร็จ เพราะ Time Zone ของเวลาทั่วโลก เอื้อให้ประเทศทางตะวันออก ต้องสอบ STIC ก่อนเวลาในประเทศไทย ดังนั้น สนามสอบแรกที่ลินจะดึงโจทย์และคำตอบออกมาได้ทัน คือ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีเวลามากพอที่นักโกงข้อสอบในเมืองไทย จะนำคำตอบไปเข้าห้องสอบได้ทัน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ที่ยังคิดไม่ตก คือ การจะจำข้อสอบ STIC ออกมาจากห้องสอบได้นั้น จำเป็นต้องมีผู้ร่วมปฏิบัติการอีกหนึ่งคน และคนที่เหมาะสม มีความอัจฉริยะในการจดจำได้เทียบเท่าลิน ก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแบงค์ แต่เขาก็น่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ยอมเข้าร่วม
แต่แล้วแผนการอันชั่วร้าย เพื่อการโกงครั้งประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้น เมื่อพัฒน์จ้างคนไปรุมทำร้ายแบงค์ แล้วหิ้วตัวไปทิ้งในที่ห่างไกลจากเมือง เพื่อตัดโอกาสที่เขาจะไปสอบชิงทุนเรียนฟรีของมหาวิทยาลัยที่สิงคโปร์ แบงค์จึงหมดโอกาสได้ทุนฟรี และด้วยฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างขัดสน ทำให้เขาตัดสินใจรับงานโกงข้ามทวีป แม้ในการซักซ้อมก่อนเดินทาง แบงค์ได้รู้ความจริงของแผนการอันชั่วร้าย ที่พัฒน์จ้างคนไปทำร้ายเขา แต่ท้ายที่สุดแบงค์ก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสในใจ เพราะไหนๆ เขาก็โดนซ้อมจนไปสอบชิงทุนไม่ทันแล้ว อย่างน้อยการร่วมปฏิบัติโกงครั้งนี้ ก็ยังทำให้เขาได้เงินค่าตอบแทนมหาศาล พอที่จะนำไปพลิกชีวิตได้
ภารกิจโกงข้ามทวีปของลินกับแบงค์จึงเกิดขึ้น ทั้งคู่เดินทางไปยังซิดนีย์ และก่อนการส่งคำตอบเป็นโค้ดลับทางโทรศัพท์มือถือ แบงค์แก้แค้นที่ตัวเองโดนพัฒน์ทำร้าย ด้วยการขอส่วนแบ่งเพิ่มเป็นหลักล้าน ซึ่งพัฒน์ก็จำใจต้องยอมโอนเงินให้ตามคำขอ
การทุจริตสอบที่เกิดขึ้น แบงค์ส่งคำตอบไปได้ส่วนหนึ่ง ก็โดนจับได้เสียก่อน ส่วนลินสามารถส่งคำตอบได้ทั้งหมด แต่ก็โดนเรียกตัวไปสอบสวนหาความเกี่ยวข้อง แต่กระนั้นพลพรรคนักโกงที่รอคำตอบอยู่เมืองไทย ก็สามารถสอบ STIC ผ่านกันได้อย่างถ้วนทั่ว
บทสรุปส่งท้าย แม้ว่าลินจะรอดพ้นจากความผิดไปได้ ส่วนแบงค์ก็ไม่มีผลอะไร เพราะได้เงินล้านไปสมใจ แต่ก็กลายเป็นคนใหม่ที่เดินไปสู่ด้านมืด เห็นแก่เงินอย่างเต็มตัว
ฝ่ายลินรู้สึกผิดกับพ่อและตัวเอง จึงตัดสินใจตัดขาดจากเกรซและพัฒน์ (ซึ่งอนาคตการไปเรียนต่อในอเมริกา ที่ต้องใช้การสอบแบบอัตนัย ไม่สามารถโกง หรือลอกใครได้ ก็พอจะเห็นภาพได้ว่า ความล้มเหลวของทั้งคู่กำลังรออยู่) และเลือกสอบเข้าคณะครุศาสตร์ตามที่ฝันไว้ ตั้งใจนำความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียน ขณะเดียวกันก็ตัดสินใจเข้าไปให้การแก่คณะกรรมการสอบ STIC เพื่อตีแผ่และเปิดโปงการทุจริตครั้งสำคัญ อันเป็นการชำระความผิดที่ตนเองได้กระทำลงไป
เรื่องราวที่เกิดกับ “ลิน” มาจากการไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมทางพุทธศาสนา เรื่อง “มงคลชีวิต 38 ประการ” ซึ่งเป็นหลักคิดที่พระพุทธองค์ประทานไว้เพื่อให้ผู้ปฏิบัติตามนั้นมีชีวิตที่ประสบผลสำเร็จ
ลินละเมิดหลักมงคลชีวิตตั้งแต่ข้อแรก คือ “การไม่คบคนพาล” ซึ่งลักษณะของคนพาลมี 3 ประการ ได้แก่
1. คิดชั่ว มีจิตคิดอยากได้ในทางทุจริต มีความพยาบาท มีมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นชอบ
2. พูดชั่ว หรือ วจีทุจริต เช่น พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ
3. ทำชั่ว การกระทำที่เป็นกายทุจริต เช่น ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ลักขโมย ฉ้อโกง ประพฤติผิดในกาม
จะเห็นได้ว่า ทั้งเกรซและพัฒน์แม้จะเป็นเพื่อนรักของลิน และพร้อมจะหาทรัพย์สินเงินทองมาให้มากมาย แต่ก็เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว ไม่คำนึงความถูกผิด ซึ่งเป็นวิธีของคนพาลที่อยากได้ในทางทุจริต ฉ้อโกง รวมถึงการที่จ้างคนไปทำร้ายผู้อื่นเพื่อให้ตนได้ในสิ่งที่ปรารถนา
เมื่อการหลงไปคบหาคนพาล แล้วผสมเข้ากับกิเลสอย่าง “โลภะ” ความอยากได้อยากมีที่อยู่ในจิตใจ ทำให้ยิ่งหลุดหลงไปในวังวนของการคิดชั่ว ทำชั่ว อันเป็นโลกของคนพาล ที่พร้อมจะสร้างปัญหาให้ แต่ยังดีที่ลินคิดได้และกลับตัวกลับใจได้ในที่สุด
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 199 กรกฎาคม 2560 โดย ชยวรรศ มานะศิริ)