• อยุธยาเชิญชวนปชช.ใช้ดอกดาวเรือง 99,999 ต้น ตกแต่งเส้นทางสู่เมืองมรดกโลกและเขตอุทยานประวัติศาสตร์ฯ ถวายเป็นพระราชกุศล
นายเรวัต ประสงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงร่วมใจประดับตกแต่งด้วยดอกดาวเรืองจำนวน 99,999 ต้น บนเส้นทางสู่เมืองมรดกโลกและเขตอุทยานประวัติศาสตร์ฯ และพระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ พระราชวังโบราณ ในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงวันที่ 23-27 ตุลาคม 2560 ซึ่งจะทำให้เมืองมรดกโลกเต็มไปด้วยดอกดาวเรืองสีเหลืองสวยสดงดงาม พร้อมกันนี้ทุกภาคส่วนหลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ร่วมจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดมหรสพ การแสดง และการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ บริเวณพระราชวังโบราณ
จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมกิจกรรมในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม 2560 ณ พระที่นั่งจักวรรดิไพชยนต์ พระราชวังโบราณ
• เริ่มแล้ว..สธ.ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 .5 ล้านโด๊ส ให้กลุ่มเสี่ยงฟรี ที่รพ.ของรัฐทุกแห่ง
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 3 ล้าน 5 แสนโด๊ส ให้กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 4 แสนโด๊ส และประชาชนกลุ่มเสี่ยง 3 ล้าน 1 แสนโด๊ส ประกอบด้วย 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4.บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.ผู้มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม 6.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 7.ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย 8. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 สิงหาคม 2560 สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้านฟรี โดยวัคซีนที่ฉีดให้ครั้งนี้ ประกอบด้วย 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ A Michigan(H1N1) สายพันธุ์ A Hong Kong (H3N2) และสายพันธุ์ B Brisbane (ออสเตรเลีย)
การเตรียมตัวฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้น ก่อนฉีดควรพักผ่อนให้เพียงพอ สุขภาพโดยรวมสามรถปฏิบัติงานได้ปกติ ไม่ป่วยหรือมีอาการไข้ก่อนรับการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน ผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่ไก่อย่างรุนแรง มีประวัติเคยแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรง โดยทั่วไปอาการข้างเคียงพบได้น้อย ส่วนใหญ่เป็นอาการเฉพาะที่ เช่น บวม แดง ตรงบริเวณที่ฉีดวัคซีน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือมีไข้ต่ำๆ อาการที่เกิดขึ้นมักหายได้เองภายใน 1-3 วัน
ส่วนการดูแลรักษาอาการข้างเคียง หากปวดบวมบริเวณที่ฉีดให้ประคบด้วยผ้าเย็น หากมีไข้ให้รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ในขนาดที่เหมาะสม หากมีอาการรุนแรง หรือเป็นมาก ควรปรึกษาแพทย์ทันที และแจ้งอาการให้ทราบโดยละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 หรือ สำนักโรคติดต่อทั่วไป โทร 0-2590-3183
• ไปรษณีย์ไทยเผยโฉม “แสตมป์ดวงแรก” แห่งรัชกาลที่ 10
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เผยโฉมแสตมป์ดวงแรกแห่งรัชสมัย ร.10 เทิดพระเกียรติวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา ชนิดราคา 10 บาท พื้นภาพโทนเหลืองตามสีประจำวันพระราชสมภพ เทคนิคพิเศษปั๊มฟอยล์ทอง จำนวนพิมพ์ 1 ล้านดวง
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 65 พรรษา ไปรษณีย์ไทยได้จัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึกชุดแรกแห่งรัชกาล เป็นภาพพระฉายาลักษณ์พระราชทานในฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประกอบอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. พร้อมข้อความบรรยาย บนพื้นภาพสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ เพิ่มเทคนิคปั้มฟอยล์ทองบริเวณคำบรรยาย ชื่อชุด ชนิดราคา และประเทศไทย กำหนดวันแรกจำหน่าย 28 กรกฎาคม 2560 ราคาดวงละ 10 บาท (เต็มแผ่น 10 ดวง) จำนวนพิมพ์ 1 ล้านดวง และซองวันแรกจำหน่ายราคา 20 บาท
ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายตลาดตราไปรษณียากร 0-2573-5463, 0-2573-5480 หรือทางเฟซบุ๊ก stamp in love และทางไลน์ @stampinlove
• สธ.หนุน โรงพยาบาลชุมชน เป็น “โรงพยาบาลประชารัฐ”
ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นโยบายโรงพยาบาลประชารัฐ ซึ่งเป็นโครงการที่คณะปฏิรูปโรงพยาบาลชุมชน เสนอขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขนั้น กระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลประชารัฐ ได้มอบนโยบายให้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาใช้เป็นหลักในการทำงาน คือ เข้มแข็งจากภายใน เติบโตไปด้วยกัน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลที่มากกว่าโรงพยาบาล
นพ.ปิยะสกลกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการในโรงพยาบาลอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พบว่าได้ผลดี โดยเปลี่ยนวิธีคิดและการบริหารจัดการงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับโรงพยาบาล ให้ประชาชนร่วมบริจาควันละ 3 บาท หรือปีละ 1,000 บาท เมื่อป่วยสามารถใช้ห้องพิเศษฟรี ประสานภาคเอกชนรับผู้ป่วยที่พิการเข้าทำงาน และเชิญชวนบริษัทที่พร้อมทำธุรกิจที่ตอบแทนต่อสังคม ร่วมกับกรรมการสุขภาพอำเภอ และคลินิกหมอครอบครัว เริ่มระยะ 1 ตั้งแต่กรกฎาคม 2560 - กันยายน 2560 ในโรงพยาบาลชุมชน 38 แห่ง ระยะที่ 2 ตุลาคม 2560-กันยายน 2561 ขยายเพิ่มจังหวัดละ 1 อำเภอทุกจังหวัด และระยะที่ 3 ตุลาคม 2561-กันยายน 2562 จะขยายผลในโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งทั่วประเทศ
โรงพยาบาลชุมชนถือเป็นหัวใจของระบบสุขภาพระดับอำเภอ มีการทำงานเชื่อมต่อส่งผู้ป่วยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และรับดูแลผู้ป่วยที่พ้นระยะวิกฤตและมีอาการคงที่กลับมาดูแลฟื้นฟู โดยเฉพาะ 3 โรคสำคัญ คือ โรคหลอดเลือดสมอง การบาดเจ็บที่สมอง และการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เพื่อช่วยลดการนอนรักษาในโรงพยาบาลใหญ่ ผู้ป่วยได้รับการดูแลฟื้นฟูจากทีมหมอครอบครัวสหวิชาชีพต่อเนื่องจากโรงพยาบาลจนถึงบ้าน ทั้งด้านการทำกายภาพบำบัด โภชนาการ สอนญาติในการดูแลผู้ป่วย เพื่อช่วยลดความพิการ หรือบางรายหายเป็นปกติกลับไปทำงานเป็นพลังของสังคมได้
• ไปรษณีย์ไทยชวนน้อมรำลึกถึงในหลวง ร.9 ในนิทรรศการ “แสตมป์ของพ่อ 2493 เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทย ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านนิทรรศการ “แสตมป์ของพ่อ 2493 เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” นิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านแสตมป์รัชกาลที่ 9 ที่บันทึกไว้ในดวงแสตมป์ 70 ชุด 341 แบบ ตลอดช่วงระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ โดยแบ่งออกเป็น 5 ห้องจัดแสดง ได้แก่ ปฐมบทแห่งความสุขของคนไทย, 2 พระองค์...คู่บารมี, 4 ภาค...เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร, 9 ทำ...เพื่อพสกนิกร, และ 3 คำสอน...ศาสตร์พระราชา
ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการดังกล่าวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยประชาชนทุกคนที่เข้าชมนิทรรศการดังกล่าวจะได้รับโปสการ์ดและบัตรภาพแสตมป์รัชกาลที่ 9 เป็นของที่ระลึก ระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน-31 ตุลาคม 2560 ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th
• สธ.จับมือ ก.วิทย์ฯ-สวทช. ทีเซล วช. ส่งเสริมนวัตกรรมไทย ใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางทันตกรรม “เดนตีสแกน”
กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ (วท.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (ทีเซล) และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อดำเนินงานส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมไทย สู่การใช้งานในกระทรวงสาธารณสุข ในการใช้ “เดนตีสแกน” ใน 6 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยมีพลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นประธานเปิดงานและสักขีพยานในการลงนาม
ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการใช้ผลงานวิจัยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางทันตกรรม (Dentiiscan) เป็นงานทันตกรรมแบบ 3 มิติ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ช่วยให้ทันตแพทย์มองเห็นโครงสร้างช่องปากและขากรรไกรของผู้ป่วยแบบ 360 องศา ลดความผิดพลาดในการผ่าตัดในช่องปากของผู้ป่วย ที่สำคัญคือ เป็นนวัตกรรมที่ผลิตโดยคนไทย มีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยทางปริมาณรังสี จากสำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ มีปริมาณรังสีต่ำใกล้เคียงกับเครื่องที่ผลิตจากต่างประเทศ ผ่านความปลอดภัยทางระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้สนับสนุนงบประมาณผลิตเครื่องเดนตีสแกน 2.0 จำนวน 6 เครื่อง ในปี 2560 พร้อมนำไปติดตั้งและใช้ประโยชน์ในสถานพยาบาล 6 แห่ง ได้แก่ สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์, รพ.แพร่, รพ.สกลนคร, รพ.สุราษฎร์ธานี และ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย
• กรมศิลป์ฯจัดมหรสพสุดอลังการ งานพระเมรุมาศ ในหลวง ร.9
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยว่า วธ.โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล จัดการแสดงมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพตามแบบแผนโบราณราชประเพณี โดยใช้ผู้แสดงจากนาฏศิลปิน สำนักการสังคีต นักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป์ 12 แห่งทั่วประเทศ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และศิลปินจากที่ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 3,084 คน
สำหรับการแสดงมหรสพในพระราชพิธีครั้งนี้ ประกอบด้วย การโขนหน้าพระเมรุมาศ หน้าพระที่นั่งทรงธรรม เรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร -ยกรบ รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีผู้แสดง และผู้เกี่ยวข้องจำนวน 300 คน เหตุที่เลือกโขนหน้าไฟเรื่องรามเกียรติ์ ชุดยกรบ เพราะเป็นการแสดงโขนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมศิลปากรจัดการแสดงต้อนรับพระราชอาคันตุกะอยู่เสมอ นอกจากนี้ทรงมีพระราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการแสดงโขน เพื่อปรับปรุงให้จัดการแสดงอย่างพร้อมเพรียงและสวยงาม การแสดงโขนหน้าพระเมรุมาศครั้งนี้ จึงเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
ส่วนการแสดงมหรสพในเวทีกลางแจ้ง บริเวณสนามหลวงด้านทิศเหนือ มี 3 เวที ประกอบด้วย เวทีที่ 1 การแสดงหนังใหญ่เบิกหน้าพระ และการแสดงโขนรามเกียรติ์ ใช้ผู้แสดงจำนวน 1,420 คน เวทีที่ 2 การแสดงละครเรื่องพระมหาชนก การแสดงหุ่นหลวง ตอนหนุมานเข้าห้องนางวานรินทร์ การแสดงหุ่นกระบอก เรื่องพระอภัยมณี ตอนกำเนิดสุดสาคร ละครในเรื่องอิเหนา และละครเรื่องมโนห์รา ใช้ผู้แสดง 422 คน สำหรับเวทีที่ 3 การบรรเลงดนตรีสากล “ธ คือ ดวงใจไทยทั่วหล้า” เป็นการบรรเลงและขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพลงเทิดพระเกียรติ บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นเพื่อแสดงความอาลัย โดยมีวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ วงสหายพัฒนา โรงเรียนราชินี วงดนตรี 4 เหล่าทัพ วงดนตรีสถาบันกัลยาณิวัฒนา กองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมด้วย รวมผู้แสดงทั้งหมด 942 คน โดยทั้ง 3 เวทีจะเริ่มแสดงตั้งแต่ 18.00 น.ของวันที่ 26 ต.ค.จนถึง 06.00 น.ของวันที่ 27 ต.ค.2560 ซึ่งการแสดงทุกเวทีจะหยุด เมื่อมีพระราชพิธีบนพระเมรุมาศ
“ในหลวง ร. 9 ทรงเป็นองค์อัครศิลปิน ซึ่งมีศิลปินหลากหลายสาขาต้องการมีส่วนร่วมเพื่อแสดงความจงรักภักดี โดยในเวทีการแสดงละคร ยังได้เปิดโอกาสให้ศิลปินพื้นบ้านร่วมถวายความจงรักภักดีครั้งนี้ด้วย และจะนำเสนอรายละเอียดการแสดงทั้งหมดต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อไป” นายวีระกล่าว
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 199 กรกฎาคม 2560 โดย กองบรรณาธิการ)
นายเรวัต ประสงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงร่วมใจประดับตกแต่งด้วยดอกดาวเรืองจำนวน 99,999 ต้น บนเส้นทางสู่เมืองมรดกโลกและเขตอุทยานประวัติศาสตร์ฯ และพระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ พระราชวังโบราณ ในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงวันที่ 23-27 ตุลาคม 2560 ซึ่งจะทำให้เมืองมรดกโลกเต็มไปด้วยดอกดาวเรืองสีเหลืองสวยสดงดงาม พร้อมกันนี้ทุกภาคส่วนหลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ร่วมจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดมหรสพ การแสดง และการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ บริเวณพระราชวังโบราณ
จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมกิจกรรมในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม 2560 ณ พระที่นั่งจักวรรดิไพชยนต์ พระราชวังโบราณ
• เริ่มแล้ว..สธ.ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 .5 ล้านโด๊ส ให้กลุ่มเสี่ยงฟรี ที่รพ.ของรัฐทุกแห่ง
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 3 ล้าน 5 แสนโด๊ส ให้กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 4 แสนโด๊ส และประชาชนกลุ่มเสี่ยง 3 ล้าน 1 แสนโด๊ส ประกอบด้วย 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4.บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.ผู้มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม 6.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 7.ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย 8. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 สิงหาคม 2560 สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้านฟรี โดยวัคซีนที่ฉีดให้ครั้งนี้ ประกอบด้วย 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ A Michigan(H1N1) สายพันธุ์ A Hong Kong (H3N2) และสายพันธุ์ B Brisbane (ออสเตรเลีย)
การเตรียมตัวฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้น ก่อนฉีดควรพักผ่อนให้เพียงพอ สุขภาพโดยรวมสามรถปฏิบัติงานได้ปกติ ไม่ป่วยหรือมีอาการไข้ก่อนรับการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน ผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่ไก่อย่างรุนแรง มีประวัติเคยแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรง โดยทั่วไปอาการข้างเคียงพบได้น้อย ส่วนใหญ่เป็นอาการเฉพาะที่ เช่น บวม แดง ตรงบริเวณที่ฉีดวัคซีน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือมีไข้ต่ำๆ อาการที่เกิดขึ้นมักหายได้เองภายใน 1-3 วัน
ส่วนการดูแลรักษาอาการข้างเคียง หากปวดบวมบริเวณที่ฉีดให้ประคบด้วยผ้าเย็น หากมีไข้ให้รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ในขนาดที่เหมาะสม หากมีอาการรุนแรง หรือเป็นมาก ควรปรึกษาแพทย์ทันที และแจ้งอาการให้ทราบโดยละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 หรือ สำนักโรคติดต่อทั่วไป โทร 0-2590-3183
• ไปรษณีย์ไทยเผยโฉม “แสตมป์ดวงแรก” แห่งรัชกาลที่ 10
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เผยโฉมแสตมป์ดวงแรกแห่งรัชสมัย ร.10 เทิดพระเกียรติวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา ชนิดราคา 10 บาท พื้นภาพโทนเหลืองตามสีประจำวันพระราชสมภพ เทคนิคพิเศษปั๊มฟอยล์ทอง จำนวนพิมพ์ 1 ล้านดวง
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 65 พรรษา ไปรษณีย์ไทยได้จัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึกชุดแรกแห่งรัชกาล เป็นภาพพระฉายาลักษณ์พระราชทานในฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประกอบอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. พร้อมข้อความบรรยาย บนพื้นภาพสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ เพิ่มเทคนิคปั้มฟอยล์ทองบริเวณคำบรรยาย ชื่อชุด ชนิดราคา และประเทศไทย กำหนดวันแรกจำหน่าย 28 กรกฎาคม 2560 ราคาดวงละ 10 บาท (เต็มแผ่น 10 ดวง) จำนวนพิมพ์ 1 ล้านดวง และซองวันแรกจำหน่ายราคา 20 บาท
ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายตลาดตราไปรษณียากร 0-2573-5463, 0-2573-5480 หรือทางเฟซบุ๊ก stamp in love และทางไลน์ @stampinlove
• สธ.หนุน โรงพยาบาลชุมชน เป็น “โรงพยาบาลประชารัฐ”
ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นโยบายโรงพยาบาลประชารัฐ ซึ่งเป็นโครงการที่คณะปฏิรูปโรงพยาบาลชุมชน เสนอขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขนั้น กระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลประชารัฐ ได้มอบนโยบายให้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาใช้เป็นหลักในการทำงาน คือ เข้มแข็งจากภายใน เติบโตไปด้วยกัน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลที่มากกว่าโรงพยาบาล
นพ.ปิยะสกลกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการในโรงพยาบาลอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พบว่าได้ผลดี โดยเปลี่ยนวิธีคิดและการบริหารจัดการงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับโรงพยาบาล ให้ประชาชนร่วมบริจาควันละ 3 บาท หรือปีละ 1,000 บาท เมื่อป่วยสามารถใช้ห้องพิเศษฟรี ประสานภาคเอกชนรับผู้ป่วยที่พิการเข้าทำงาน และเชิญชวนบริษัทที่พร้อมทำธุรกิจที่ตอบแทนต่อสังคม ร่วมกับกรรมการสุขภาพอำเภอ และคลินิกหมอครอบครัว เริ่มระยะ 1 ตั้งแต่กรกฎาคม 2560 - กันยายน 2560 ในโรงพยาบาลชุมชน 38 แห่ง ระยะที่ 2 ตุลาคม 2560-กันยายน 2561 ขยายเพิ่มจังหวัดละ 1 อำเภอทุกจังหวัด และระยะที่ 3 ตุลาคม 2561-กันยายน 2562 จะขยายผลในโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งทั่วประเทศ
โรงพยาบาลชุมชนถือเป็นหัวใจของระบบสุขภาพระดับอำเภอ มีการทำงานเชื่อมต่อส่งผู้ป่วยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และรับดูแลผู้ป่วยที่พ้นระยะวิกฤตและมีอาการคงที่กลับมาดูแลฟื้นฟู โดยเฉพาะ 3 โรคสำคัญ คือ โรคหลอดเลือดสมอง การบาดเจ็บที่สมอง และการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เพื่อช่วยลดการนอนรักษาในโรงพยาบาลใหญ่ ผู้ป่วยได้รับการดูแลฟื้นฟูจากทีมหมอครอบครัวสหวิชาชีพต่อเนื่องจากโรงพยาบาลจนถึงบ้าน ทั้งด้านการทำกายภาพบำบัด โภชนาการ สอนญาติในการดูแลผู้ป่วย เพื่อช่วยลดความพิการ หรือบางรายหายเป็นปกติกลับไปทำงานเป็นพลังของสังคมได้
• ไปรษณีย์ไทยชวนน้อมรำลึกถึงในหลวง ร.9 ในนิทรรศการ “แสตมป์ของพ่อ 2493 เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทย ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านนิทรรศการ “แสตมป์ของพ่อ 2493 เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” นิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านแสตมป์รัชกาลที่ 9 ที่บันทึกไว้ในดวงแสตมป์ 70 ชุด 341 แบบ ตลอดช่วงระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ โดยแบ่งออกเป็น 5 ห้องจัดแสดง ได้แก่ ปฐมบทแห่งความสุขของคนไทย, 2 พระองค์...คู่บารมี, 4 ภาค...เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร, 9 ทำ...เพื่อพสกนิกร, และ 3 คำสอน...ศาสตร์พระราชา
ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการดังกล่าวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยประชาชนทุกคนที่เข้าชมนิทรรศการดังกล่าวจะได้รับโปสการ์ดและบัตรภาพแสตมป์รัชกาลที่ 9 เป็นของที่ระลึก ระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน-31 ตุลาคม 2560 ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th
• สธ.จับมือ ก.วิทย์ฯ-สวทช. ทีเซล วช. ส่งเสริมนวัตกรรมไทย ใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางทันตกรรม “เดนตีสแกน”
กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ (วท.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (ทีเซล) และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อดำเนินงานส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมไทย สู่การใช้งานในกระทรวงสาธารณสุข ในการใช้ “เดนตีสแกน” ใน 6 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยมีพลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นประธานเปิดงานและสักขีพยานในการลงนาม
ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการใช้ผลงานวิจัยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางทันตกรรม (Dentiiscan) เป็นงานทันตกรรมแบบ 3 มิติ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ช่วยให้ทันตแพทย์มองเห็นโครงสร้างช่องปากและขากรรไกรของผู้ป่วยแบบ 360 องศา ลดความผิดพลาดในการผ่าตัดในช่องปากของผู้ป่วย ที่สำคัญคือ เป็นนวัตกรรมที่ผลิตโดยคนไทย มีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยทางปริมาณรังสี จากสำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ มีปริมาณรังสีต่ำใกล้เคียงกับเครื่องที่ผลิตจากต่างประเทศ ผ่านความปลอดภัยทางระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้สนับสนุนงบประมาณผลิตเครื่องเดนตีสแกน 2.0 จำนวน 6 เครื่อง ในปี 2560 พร้อมนำไปติดตั้งและใช้ประโยชน์ในสถานพยาบาล 6 แห่ง ได้แก่ สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์, รพ.แพร่, รพ.สกลนคร, รพ.สุราษฎร์ธานี และ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย
• กรมศิลป์ฯจัดมหรสพสุดอลังการ งานพระเมรุมาศ ในหลวง ร.9
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยว่า วธ.โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล จัดการแสดงมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพตามแบบแผนโบราณราชประเพณี โดยใช้ผู้แสดงจากนาฏศิลปิน สำนักการสังคีต นักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป์ 12 แห่งทั่วประเทศ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และศิลปินจากที่ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 3,084 คน
สำหรับการแสดงมหรสพในพระราชพิธีครั้งนี้ ประกอบด้วย การโขนหน้าพระเมรุมาศ หน้าพระที่นั่งทรงธรรม เรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร -ยกรบ รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีผู้แสดง และผู้เกี่ยวข้องจำนวน 300 คน เหตุที่เลือกโขนหน้าไฟเรื่องรามเกียรติ์ ชุดยกรบ เพราะเป็นการแสดงโขนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมศิลปากรจัดการแสดงต้อนรับพระราชอาคันตุกะอยู่เสมอ นอกจากนี้ทรงมีพระราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการแสดงโขน เพื่อปรับปรุงให้จัดการแสดงอย่างพร้อมเพรียงและสวยงาม การแสดงโขนหน้าพระเมรุมาศครั้งนี้ จึงเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
ส่วนการแสดงมหรสพในเวทีกลางแจ้ง บริเวณสนามหลวงด้านทิศเหนือ มี 3 เวที ประกอบด้วย เวทีที่ 1 การแสดงหนังใหญ่เบิกหน้าพระ และการแสดงโขนรามเกียรติ์ ใช้ผู้แสดงจำนวน 1,420 คน เวทีที่ 2 การแสดงละครเรื่องพระมหาชนก การแสดงหุ่นหลวง ตอนหนุมานเข้าห้องนางวานรินทร์ การแสดงหุ่นกระบอก เรื่องพระอภัยมณี ตอนกำเนิดสุดสาคร ละครในเรื่องอิเหนา และละครเรื่องมโนห์รา ใช้ผู้แสดง 422 คน สำหรับเวทีที่ 3 การบรรเลงดนตรีสากล “ธ คือ ดวงใจไทยทั่วหล้า” เป็นการบรรเลงและขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพลงเทิดพระเกียรติ บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นเพื่อแสดงความอาลัย โดยมีวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ วงสหายพัฒนา โรงเรียนราชินี วงดนตรี 4 เหล่าทัพ วงดนตรีสถาบันกัลยาณิวัฒนา กองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมด้วย รวมผู้แสดงทั้งหมด 942 คน โดยทั้ง 3 เวทีจะเริ่มแสดงตั้งแต่ 18.00 น.ของวันที่ 26 ต.ค.จนถึง 06.00 น.ของวันที่ 27 ต.ค.2560 ซึ่งการแสดงทุกเวทีจะหยุด เมื่อมีพระราชพิธีบนพระเมรุมาศ
“ในหลวง ร. 9 ทรงเป็นองค์อัครศิลปิน ซึ่งมีศิลปินหลากหลายสาขาต้องการมีส่วนร่วมเพื่อแสดงความจงรักภักดี โดยในเวทีการแสดงละคร ยังได้เปิดโอกาสให้ศิลปินพื้นบ้านร่วมถวายความจงรักภักดีครั้งนี้ด้วย และจะนำเสนอรายละเอียดการแสดงทั้งหมดต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อไป” นายวีระกล่าว
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 199 กรกฎาคม 2560 โดย กองบรรณาธิการ)