เมื่อเร็วๆนี้ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อสร้างรอยยิ้ม กำลังใจ สานสายใย ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 42 ปี สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ทางสมาคมฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาของโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้เทียบจากประชากรจำนวน 100 คน จะมีผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินถึง 2 คน หากเทียบประชากรในปัจจุบัน 67 ล้านคน จะมีผู้ป่วยด้วยโรคสะเก็ดเงินและสะเก็ดเงินแฝง ประมาณถึง 1.34 ล้านคน ดังนั้น จึงได้จัดโครงการสร้างรอยยิ้ม กำลังใจ สานสายใย ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประธานประชาสัมพันธ์สมาคมฯ กล่าวว่า สมาคมฯต้องการสื่อสารให้สังคมเข้าใจโรคสะเก็ดเงินในทางที่ถูกต้อง และเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน มีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข
โรคสะเก็ดเงิน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Psoriasis” หรือที่ชาวบ้านเข้าใจผิด เรียกว่า “โรคเรื้อนกวาง” นั้น เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบบ่อย มีอาการเป็นผื่นแดง สะเก็ดสีเงินหนาบริเวณผิวหนัง หนังศีรษะ เล็บ และมีอาการคันร่วมด้วย บางรายมีไข้สูง ตุ่มหนองกระจายทั่วตัว มีข้ออักเสบและข้อผิดรูปร่วมด้วย
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากพันธุกรรม และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไม่ใช่โรคติดต่อ ยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย สังคมคนรอบข้างรังเกียจ ไม่อยากเข้าใกล้ ผู้ป่วยเด็กต้องขาดเรียนเวลาที่ผื่นเห่อ เพื่อนไม่กล้าเล่นด้วย ผู้ป่วยผู้ใหญ่มีความอับอาย ไม่กล้าเข้าสังคม แยกตัวจากสังคม เพราะเกรงว่าจะเป็นที่รังเกียจ ไม่มีใครรับเข้าทำงาน เนื่องจากมีความเชื่อที่ผิดคิดว่าเป็นโรคติดต่อ
โรคสะเก็ดเงินเกิดได้ทั้งเพศชายและหญิง พบได้ทุกช่วงอายุ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยพบบ่อยใน 2 ช่วงอายุ คือ ช่วงวัยรุ่นถึงวัยรุ่นตอนปลาย อายุประมาณ 20 ปี และวัยผู้ใหญ่ อายุประมาณ 55-60 ปี
สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาว T lymphocyte เฉพาะที่ผิวหนัง หลั่งสารมากระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดผื่นที่มีสะเก็ดหนา นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าเกิดจากพันธุกรรม มียีนที่เป็นสาเหตุหลายชนิด ครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่เป็นโรคสะเก็ดเงิน ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคสะเก็ดเงินสูงกว่าคนทั่วไป
ส่วนอาการผื่นผิวหนังเป็นได้หลายรูปแบบ ที่พบบ่อย คือ ผื่นแดงขอบเขตชัดเจน มีขุยหรือสะเก็ดสีเงินปกคลุมหนา (Silvery-white scale) เมื่อลอกขุยออกจะมีจุดเลือดออก (Auspitz sign) ขนาดผื่น มีตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าหยดน้ำ (Guttate Psoriasis) หรือผื่นขนาดเท่าเหรียญหรือปื้นขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือ (Chronic Plague type Psoriasis) หรือเป็นตุ่มหนอง (Pustular Psoriasis) พบผื่นบริเวณหนังศีรษะ ลำตัว แขน ขา เป็นๆหายๆ บางรายผื่นเป็นแดงทั่วตัว จนไม่เหลือผิวหนังปกติ (Psoriasis Erythroderma) ความผิดปกติอื่นๆที่อาจพบได้ คือ เล็บมือ เล็บเท้าผิดปกติ เล็บเป็นหลุม เล็บร่อน เล็บโดนทำลาย มีข้ออักเสบ ปวดบวม แดงร้อน ข้อผิดรูปได้ พบได้ประมาณ 20-40% โดยผู้ป่วยอาจมีอาการผิดปกติของเล็บหรือปวดข้อนำมาก่อน หรือเกิดขึ้นพร้อมๆกับอาการผื่นที่ผิวหนัง
ผู้ป่วยบางรายมีอาการผื่นเห่อเฉียบพลัน แล้วผื่นก็หายไป บางรายมีผื่นผิวหนังอักเสบกำเริบเรื้อรังไปตลอดชีวิต
ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ผื่นเห่อกำเริบ เช่น ความเครียด การแกะเกา การดื่มสุรา การอดนอน การติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ หูอักเสบ การติดเชื้อ HIV การตั้งครรภ์ ยารับประทานบางอย่าง เช่น ยาลดความดัน ยารักษาโรคทางจิตเวช ยาแก้ปวดข้อปวดกระดูก เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ป่วยสะเก็ดเงินที่มีอาการรุนแรง มักมีโรคร่วมซ้ำซ้อนต่างๆได้ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วนลงพุง เส้นเลือดหัวใจตีบ อัมพาต และมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น อีกทั้งพบภาวะซึมเศร้า แยกตัวจากสังคม เครียด มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ ติดเหล้า ติดบุหรี่ ฆ่าตัวตาย ได้
การรักษาโรคสะเก็ดเงินมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละคน ในกรณีที่ผื่นเป็นน้อยพิจารณารักษาด้วยยาทาเฉพาะที่ เช่น ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ กลุ่มวิตามินดี ยาทาน้ำมันดิน กรณีที่ผื่นเป็นมาก กระจายทั่วร่างกาย ควรพิจารณารักษาด้วยการฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน ผลการรักษาค่อนข้างดี ผลข้างเคียงน้อย หรือถ้าผู้ป่วยไม่สะดวกมาฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต ที่โรงพยาบาล อาจพิจารณารักษาด้วยยารับประทาน เช่น ยา Methotrexate Neotigason และ Cyclosporine เป็นต้น ยาเหล่านี้ ผลการรักษาค่อนข้างดีเช่นกัน แต่มีผลข้างเคียงต่อระบบเม็ดเลือด ตับ ไต ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์เป็นระยะ มีการเจาะเลือดเพื่อเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
แต่ในรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยารับประทาน หรือการฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต อาจพิจารณารักษาด้วยยาฉีด Biologics ผลการรักษาค่อนข้างดีเช่นกัน แต่มีราคาแพง
นอกจากนี้ ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ที่อาจทำให้ผื่นกำเริบได้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ดื่มสุรา ไม่หมกมุ่นอยู่กับปัญหาเดิมๆ ที่แก้ไขไม่ได้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดความเครียดแอบแฝง ผู้ป่วยต้องมีความเข้าใจในตัวโรคสะเก็ดเงิน มองโลกในแง่บวก และปรับตัวอยู่กับโรคสะเก็ดเงินได้อย่างมีความสุข คนในครอบครัวและสังคมรอบข้างต้องให้รอยยิ้ม ให้กำลังใจผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยมีอาชีพ มีงานทำ เพื่อให้ผู้ป่วยไม่เป็นภาระกับใคร
ในปัจจุบัน คณะแพทย์ผิวหนังจากสถาบัน และโรงพยาบาลต่างๆหลายแห่งทั่วประเทศ อาทิ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทั่วภูมิภาค ฯลฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดตั้งชมรมโรคสะเก็ดเงินแห่งประเทศไทย เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินแบบครบวงจร เพราะสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคร้าย ผู้ป่วยอยู่ได้ด้วยความเข้าใจ
ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานฝ่ายกิจกรรมสังคมของสมาคมฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปลายปีนี้ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ จะจัดงาน “Run for Psoriasis” ซึ่งจะเป็นการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน เพื่อรณรงค์เรื่องผู้ป่วยสะเก็ดเงินเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 197 พฤษภาคม 2560 โดย กองบรรณาธิการ)
รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 42 ปี สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ทางสมาคมฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาของโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้เทียบจากประชากรจำนวน 100 คน จะมีผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินถึง 2 คน หากเทียบประชากรในปัจจุบัน 67 ล้านคน จะมีผู้ป่วยด้วยโรคสะเก็ดเงินและสะเก็ดเงินแฝง ประมาณถึง 1.34 ล้านคน ดังนั้น จึงได้จัดโครงการสร้างรอยยิ้ม กำลังใจ สานสายใย ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประธานประชาสัมพันธ์สมาคมฯ กล่าวว่า สมาคมฯต้องการสื่อสารให้สังคมเข้าใจโรคสะเก็ดเงินในทางที่ถูกต้อง และเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน มีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข
โรคสะเก็ดเงิน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Psoriasis” หรือที่ชาวบ้านเข้าใจผิด เรียกว่า “โรคเรื้อนกวาง” นั้น เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบบ่อย มีอาการเป็นผื่นแดง สะเก็ดสีเงินหนาบริเวณผิวหนัง หนังศีรษะ เล็บ และมีอาการคันร่วมด้วย บางรายมีไข้สูง ตุ่มหนองกระจายทั่วตัว มีข้ออักเสบและข้อผิดรูปร่วมด้วย
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากพันธุกรรม และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไม่ใช่โรคติดต่อ ยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย สังคมคนรอบข้างรังเกียจ ไม่อยากเข้าใกล้ ผู้ป่วยเด็กต้องขาดเรียนเวลาที่ผื่นเห่อ เพื่อนไม่กล้าเล่นด้วย ผู้ป่วยผู้ใหญ่มีความอับอาย ไม่กล้าเข้าสังคม แยกตัวจากสังคม เพราะเกรงว่าจะเป็นที่รังเกียจ ไม่มีใครรับเข้าทำงาน เนื่องจากมีความเชื่อที่ผิดคิดว่าเป็นโรคติดต่อ
โรคสะเก็ดเงินเกิดได้ทั้งเพศชายและหญิง พบได้ทุกช่วงอายุ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยพบบ่อยใน 2 ช่วงอายุ คือ ช่วงวัยรุ่นถึงวัยรุ่นตอนปลาย อายุประมาณ 20 ปี และวัยผู้ใหญ่ อายุประมาณ 55-60 ปี
สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาว T lymphocyte เฉพาะที่ผิวหนัง หลั่งสารมากระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดผื่นที่มีสะเก็ดหนา นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าเกิดจากพันธุกรรม มียีนที่เป็นสาเหตุหลายชนิด ครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่เป็นโรคสะเก็ดเงิน ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคสะเก็ดเงินสูงกว่าคนทั่วไป
ส่วนอาการผื่นผิวหนังเป็นได้หลายรูปแบบ ที่พบบ่อย คือ ผื่นแดงขอบเขตชัดเจน มีขุยหรือสะเก็ดสีเงินปกคลุมหนา (Silvery-white scale) เมื่อลอกขุยออกจะมีจุดเลือดออก (Auspitz sign) ขนาดผื่น มีตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าหยดน้ำ (Guttate Psoriasis) หรือผื่นขนาดเท่าเหรียญหรือปื้นขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือ (Chronic Plague type Psoriasis) หรือเป็นตุ่มหนอง (Pustular Psoriasis) พบผื่นบริเวณหนังศีรษะ ลำตัว แขน ขา เป็นๆหายๆ บางรายผื่นเป็นแดงทั่วตัว จนไม่เหลือผิวหนังปกติ (Psoriasis Erythroderma) ความผิดปกติอื่นๆที่อาจพบได้ คือ เล็บมือ เล็บเท้าผิดปกติ เล็บเป็นหลุม เล็บร่อน เล็บโดนทำลาย มีข้ออักเสบ ปวดบวม แดงร้อน ข้อผิดรูปได้ พบได้ประมาณ 20-40% โดยผู้ป่วยอาจมีอาการผิดปกติของเล็บหรือปวดข้อนำมาก่อน หรือเกิดขึ้นพร้อมๆกับอาการผื่นที่ผิวหนัง
ผู้ป่วยบางรายมีอาการผื่นเห่อเฉียบพลัน แล้วผื่นก็หายไป บางรายมีผื่นผิวหนังอักเสบกำเริบเรื้อรังไปตลอดชีวิต
ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ผื่นเห่อกำเริบ เช่น ความเครียด การแกะเกา การดื่มสุรา การอดนอน การติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ หูอักเสบ การติดเชื้อ HIV การตั้งครรภ์ ยารับประทานบางอย่าง เช่น ยาลดความดัน ยารักษาโรคทางจิตเวช ยาแก้ปวดข้อปวดกระดูก เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ป่วยสะเก็ดเงินที่มีอาการรุนแรง มักมีโรคร่วมซ้ำซ้อนต่างๆได้ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วนลงพุง เส้นเลือดหัวใจตีบ อัมพาต และมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น อีกทั้งพบภาวะซึมเศร้า แยกตัวจากสังคม เครียด มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ ติดเหล้า ติดบุหรี่ ฆ่าตัวตาย ได้
การรักษาโรคสะเก็ดเงินมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละคน ในกรณีที่ผื่นเป็นน้อยพิจารณารักษาด้วยยาทาเฉพาะที่ เช่น ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ กลุ่มวิตามินดี ยาทาน้ำมันดิน กรณีที่ผื่นเป็นมาก กระจายทั่วร่างกาย ควรพิจารณารักษาด้วยการฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน ผลการรักษาค่อนข้างดี ผลข้างเคียงน้อย หรือถ้าผู้ป่วยไม่สะดวกมาฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต ที่โรงพยาบาล อาจพิจารณารักษาด้วยยารับประทาน เช่น ยา Methotrexate Neotigason และ Cyclosporine เป็นต้น ยาเหล่านี้ ผลการรักษาค่อนข้างดีเช่นกัน แต่มีผลข้างเคียงต่อระบบเม็ดเลือด ตับ ไต ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์เป็นระยะ มีการเจาะเลือดเพื่อเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
แต่ในรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยารับประทาน หรือการฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต อาจพิจารณารักษาด้วยยาฉีด Biologics ผลการรักษาค่อนข้างดีเช่นกัน แต่มีราคาแพง
นอกจากนี้ ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ที่อาจทำให้ผื่นกำเริบได้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ดื่มสุรา ไม่หมกมุ่นอยู่กับปัญหาเดิมๆ ที่แก้ไขไม่ได้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดความเครียดแอบแฝง ผู้ป่วยต้องมีความเข้าใจในตัวโรคสะเก็ดเงิน มองโลกในแง่บวก และปรับตัวอยู่กับโรคสะเก็ดเงินได้อย่างมีความสุข คนในครอบครัวและสังคมรอบข้างต้องให้รอยยิ้ม ให้กำลังใจผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยมีอาชีพ มีงานทำ เพื่อให้ผู้ป่วยไม่เป็นภาระกับใคร
ในปัจจุบัน คณะแพทย์ผิวหนังจากสถาบัน และโรงพยาบาลต่างๆหลายแห่งทั่วประเทศ อาทิ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทั่วภูมิภาค ฯลฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดตั้งชมรมโรคสะเก็ดเงินแห่งประเทศไทย เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินแบบครบวงจร เพราะสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคร้าย ผู้ป่วยอยู่ได้ด้วยความเข้าใจ
ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานฝ่ายกิจกรรมสังคมของสมาคมฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปลายปีนี้ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ จะจัดงาน “Run for Psoriasis” ซึ่งจะเป็นการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน เพื่อรณรงค์เรื่องผู้ป่วยสะเก็ดเงินเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 197 พฤษภาคม 2560 โดย กองบรรณาธิการ)