xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวสารบ้านเรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ช่างสิบหมู่ปั้นพระนารายณ์ พระพักตร์ “ในหลวง ร.9” แย้มพระโอษฐ์สง่างาม แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณ
นายประสพสุข รัตน์ใหม่ หัวหน้ากลุ่มประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวว่า การจัดสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คืบหน้าตามแผนงานที่วางไว้

ล่าสุดได้ดำเนินการปั้นพระวิษณุ หรือพระนารายณ์ เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว จากนั้นจะส่งไปยังโรงปั้นหล่อประติมากรรมท้องสนามหลวง ทำการหล่อไฟเบอร์กลาสและลงสี สำหรับความพิเศษขององค์พระนารายณ์นั้น จะปั้นพระพักตร์ของพระนารายณ์ให้เหมือนกับพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามความเชื่อที่ว่า พระมหากษัตริย์ คือองค์พระนารายณ์อวตารลงมา มีความสง่างามและแย้มพระโอษฐ์ แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยมี 4 กร 2 กรด้านหน้าพนมมือ ส่วน 2 กรด้านหลัง ฝั่งซ้ายถือสังข์ ฝั่งขวาถือจักร ฉลองพระองค์อย่างพระมหากษัตริย์ สีเหลือง ทรงพระมหามงกุฎทอง

นอกจากนี้ ยังมีประติมากรรมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตกแต่งลวดลาย อาทิ พระศิวะ พระอินทร์ เทวดานั่ง ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ราชสีห์ และสิงห์ ซึ่งการจัดสร้างประติมากรรมครั้งนี้ ช่างปั้นสามารถจินตนาการสร้างสรรค์ชิ้นงานผสมผสานกับแบบดั้งเดิม เพื่อให้มีความกลมกลืนเป็นศิลปะสมัยรัชกาลที่ 9 ที่เสมือนจริง แต่ควบคุมสัดส่วนและโครงสร้างตามหลักประติมากรรมไทย

กรมการแพทย์โชว์ 3 นวัตกรรมสุดเจ๋ง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนพิการ
นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ และแพทย์หญิงดารณี สุวพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ ร่วมแถลงข่าว “นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตคนพิการ” เพื่อให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยนวัตกรรมดังกล่าวประกอบด้วย

1. การฝึกเดินด้วยเครื่องหุ่นยนต์ฝึกเดิน (Lokomat) เทคโนโลยีที่ใช้เพิ่มการทรงตัวและความมั่นคงในขณะเดินให้แก่ผู้ป่วย เป็นการฝึกทักษะการเคลื่อนไหวเรื่องการเดิน ใช้รักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยบาดเจ็บสันหลัง ผู้ป่วยเด็กสมองพิการ และผู้ป่วยพาร์กินสัน เป็นต้น จากผลงานวิจัยพบว่า การใช้เครื่องหุ่นยนต์ฝึกเดินในการฝึกเดินร่วมกับการฝึกทางกายภาพบำบัด มีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองกลับมาเดินได้เอง มากกว่าการฝึกทางกายภาพบำบัดอย่างเดียว

2. เครื่องฝึกการทรงตัวบนลู่เดิน (Perturbation Treadmill) พัฒนาเพื่อเพิ่มทักษะด้านการทรงตัวและความมั่นคงในการเดิน เป็นเครื่องสำหรับฝึกการทรงตัวบนลู่เดิน ประกอบด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill) ที่ถูกออกแบบมาพิเศษกว่าลู่วิ่งไฟฟ้าทั่วไป เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีความบกพร่อง หรือมีความผิดปกติของระบบการควบคุมสมดุลของร่างกาย และการทรงตัวในขณะยืนและเดิน เพื่อลดโอกาสในการล้ม และสามารถเดินโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยเดิน

3. ศูนย์ทดสอบอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการทางการเคลื่อนไหวสำหรับคนพิการ ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์ทดสอบรถนั่งคนพิการ และศูนย์ทดสอบข้อเข่าเทียมและฝ่าเท้าเทียม เพื่อส่งเสริมให้คนพิการได้รับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้พร้อมเข้าสู่สังคม

สุราษฎร์ฯ เตรียมจัดงานแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุไชยา ย้อนรอยอารยธรรมศรีวิชัยสู่อาเซียน ในเทศกาลวิสาขฯ 60
นายจิรศักดิ์ ชัยฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวในการประชุมผู้เกี่ยวข้องกำหนดกรอบแนวทางการจัดงานแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุไชยา ย้อนรอยอารยธรรมศรีวิชัย ประจำปี 2560 ว่า ตามที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องจัดงานแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุไชยา ย้อนรอยอารยธรรมศรีวิชัย ในเทศกาลวิสาขบูชาของทุกปี โดยปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2560 ณ วัดพระบรมธาตุไชยา อำเภอไชยา เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญของชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม บริเวณพื้นที่อำเภอไชยาและใกล้เคียง โดยมี 2 กิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย กิจกรรมแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุไชยา และห่มผ้าอังสะพระพุทธรูปในเขตกำแพงแก้ว และกิจกรรมการจัดงานย้อนรอยอารยธรรมศรีวิชัยสู่อาเซียน

อนึ่ง พระบรมธาตุไชยามีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 ลักษณะเดิมเป็นอิฐเผาไฟแกร่งไม่สอปูน องค์พระบรมธาตุไชยาได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดยกรมศิลปากรเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2479

วัดพระบรมธาตุไชยา เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา ณ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุไชยา ในเทศกาลวิสาขบูชาเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์

สธ.พัฒนาศูนย์มะเร็งเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ร้อยเอ็ด หนี่งเดียวในตะวันออกเฉียงเหนือ
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งรัดปฏิรูประบบบริการตามแผนพัฒนาระบบบริการ(Service plan) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงบริการ ให้บริการได้ครอบคลุมทั่วถึงในทุกพื้นที่ของประเทศ โดยที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เพิ่มศักยภาพในด้านการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เป็นปัญหาสำคัญของพื้นที่ เปิดศูนย์มะเร็งเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งได้รับนามพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีฯ ตั้งแต่ปี 2553 โดยความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ภายใต้การดำเนินงานศูนย์ความร่วมมือเพื่อการป้องกันควบคุมโรคมะเร็ง

ปัจจุบัน โรงพยาบาลร้อยเอ็ดพัฒนาศูนย์โรคมะเร็งครบวงจร ภายใต้ความร่วมมือระดับสากล โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบัน M.D. Anderson Cancer Center ซึ่งเป็นสถาบันการแพทย์ด้านมะเร็งอันดับ 1 ของโลก ที่ มหาวิทยาลัยเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และการพัฒนาบุคลากรร่วมกับศูนย์วิจัยมะเร็งนานาชาติขององค์การอนามัยโลก (WHO-IARC) ณ ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบครบวงจรของศูนย์มะเร็งเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ เป็นต้นแบบหนึ่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างเท่าเทียม มีคุณภาพมาตรฐานและลดความเหลื่อมล้ำในการรับบริการ

ถวายพระเพลิงพระบรมศพ “ในหลวง ร.9” วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าคณะกรรมการอำนวยการถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เสนอให้วันที่ 26 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นวันหยุดราชการ

สำหรับกำหนดการวันที่ 25 ตุลาคม เป็นวันบำเพ็ญพระราชกุศลก่อนออกพระเมรุ วันที่ 26 ตุลาคม อัญเชิญพระบรมศพออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นพระราชยานเข้าขบวนแห่ ไปหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ก่อนเปลี่ยนขึ้นราชรถปืนใหญ่ ไปท้องสนามหลวง ในเวลา 17.30 น.พิธีถวายพระเพลิง และเวลา 22.00 น. ถวายพระเพลิงจริง วันที่ 27 ตุลาคม พระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ วันที่ 28 ตุลาคม พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ วันที่ 29 ตุลาคม อัญเชิญพระบรมอัฐิจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นพระวิมานในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารไปประดิษฐาน ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ซึ่งจะถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 9

ด้านพันเอกอธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบตามที่คณะกรรมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เสนอให้กำหนดพระราชพิธีเป็นเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 25 - 29 ตุลาคม 2560 พร้อมรับทราบการจัดทำผ้าประดับซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ โดยอัญเชิญภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมภาพพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และการจัดนิทรรศการ ภายหลังการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นเวลา 30 วัน ระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน โดยมีกระทรวงวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้วันที่ 26 ตุลาคม 2560 เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตามที่คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสนอ

เพิ่มความมั่นคงโครงเหล็กโครงสร้างพระเมรุมาศ รองรับ ปชช.เข้าชม หลังเสร็จพระราชพิธีถวายพระเพลิง
นายอารักษ์ สังหิตกุล อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะที่ปรึกษาวิศวกรรมด้านโครงสร้างพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เปิดเผยว่า คณะวิศวกร สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ได้คำนวณการออกแบบโครงสร้าง เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้นจากอดีตที่เคยก่อสร้างให้สามารถรองรับน้ำได้ 300 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เป็น 500 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เพื่อรองรับโครงสร้างของพระเมรุมาศที่มีขนาดใหญ่ โดยเพิ่มความมั่นคงของโครงเหล็กให้มีขนาดใหญ่และหนาขึ้น

เนื่องจากภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว จะมีการเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมความงดงามของพระเมรุมาศ คาดว่าจะมีผู้สนใจเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ในส่วนของพระที่นั่งทรงธรรม ศาลาลูกขุน และทับเกษตร ได้เพิ่มการรองรับน้ำหนักด้วยเช่นกัน

สำหรับการก่อสร้างพระเมรุมาศได้ขึ้นโครงสร้างไปแล้วร้อยละ 55 ขึ้นโครงหลังคาชั้นเชิงกลอนของบุษบกประธาน ส่วนพระที่นั่งทรงธรรม เริ่มปูพื้นไฟเบอร์ซีเมนต์ภายในอาคารแล้ว ส่วนทิม ทับเกษตร พลับพลายกสนามหลวง ขึ้นโครงสร้างไปแล้วร้อยละ 15

กรมศิลป์ฯ เผยประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศในหลวง ร.9 พิเศษกว่าในอดีตปั้นรูป “คุณทองแดง” สุนัขทรงเลี้ยง ตั้งบริเวณฐานพระจิตกาธาน 4 มุม
กรมศิลปากรโดยสำนักช่างสิบหมู่ ตั้งใจจัดสร้างสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศให้สมพระเกียรติสูงสุด ถวายงานเพื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย ว่า การจัดสร้างสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งงานประติมากรรม จิตรกรรม โดยความรับผิดชอบของสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม โดยเฉพาะประติมากรรมเพื่อประกอบพระเมรุมาศ มีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งมีความพิเศษและแตกต่างจากการจัดสร้างพระเมรุมาศ เพื่อประกอบพระราชพิธีสำคัญในอดีต เพราะมีถึง 688 รายการ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างปั้นตกแต่งรายละเอียด เช่น เครื่องทรงเทวดายืนเชิญโคมประทีป เทวดานั่งอยู่ในขั้นตอนตกแต่งลวดลายต้นแบบปูนปลาสเตอร์ รูปแบบมหาเทพ 4 องค์ ได้แก่ พระพรหม พระนารายณ์ พระอินทร์ และพระศิวะ จะมีการปั้นในลักษณะที่เหมือนมนุษย์มากขึ้น และมีการนำศิลปะร่วมสมัยเข้ามาร่วม อีกทั้งมีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ อยู่ระหว่างปั้นเครื่องทรงและเครื่องถนิมพิมพาภรณ์

ขณะเดียวกันยังมีสัตว์มงคลประจำทิศ รวมถึงมีประติมากรรมอีกหนึ่งความพิเศษ คือ ประติมากรรมรูป “คุณทองแดง” สุนัขทรงเลี้ยงประจำรัชกาล ตั้งไว้บริเวณฐานพระจิตกาธาน หรือแท่นที่เผาพระบรมศพ ทั้ง 4 มุมด้วย

ขณะที่ นายพรธรรม ธรรมวิมล ภูมิสถาปนิก สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวว่าได้ร่วมกับกลุ่มงานประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ จัดทำแบบจำลองสระอโนดาตภูมิสถาปัตยกรรมรอบพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยสื่อให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจด้านน้ำ ออกแบบเป็นสระน้ำล้นสีมรกต ประดับด้วยโขดหินแบบไทย และสัตว์หิมพานต์ 4 ทิศ ทิศละ 30 ตัว ความยาว 4 เมตร สูง 3 เมตร ประกอบด้วย ช้าง ม้า วัว สิงห์ โดยนำภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นต้นแบบจัดวางรูปปั้นตามแบบวรรณคดีไทย

ล่าสุด พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างและประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานด้านศิลปกรรมและงานประณีตศิลป์ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในบริเวณสำนักช่างสิบหมู่ 9 เปิดเผยว่า งานบูรณปฏิสังขรณ์ มีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 60

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 197 พฤษภาคม 2560 โดย กองบรรณาธิการ)
กำลังโหลดความคิดเห็น