อำนาจที่เกรียงไกรที่สุด จะมีกองทัพมหึมา รถถัง ปืนใหญ่ต่างๆ จะเอามายิงต่อสู้กับกิเลสนั้น ยิงมันไม่ได้ แต่ว่ากิเลสสามารถที่จะย่ำยีพวกที่มีอำนาจต่างๆ ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าใครทั้งนั้น...
กิเลสไม่ได้เข้าใครออกใคร สามารถที่จะย่ำยีได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกลักษณะ เพราะฉะนั้น มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือการทำจิตให้สงบ คือการเป็นสมาธิของจิต ที่สามารถจะต่อสู้ ไม่ให้กิเลสมันย่ำยีเราได้
พระธรรมมงคลญาณ (วิริยังค์ สิรินธโร)
วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
ใจของเรานั่นน่ะมันสำคัญที่สุด มันหาสาระแก่นสาร หาประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้เท่าไรหรอก คือ มันใจโลภ ใจโกรธ ใจหลง ใจอิจฉาพยาบาท ใจของเราน่ะมันโลภหลงไปตามสัญญาอารมณ์ต่างๆ หลงในวัตถุธาตุ ว่าเป็นของเราอย่างนั้นอย่างนี้ ตามวิ่งตามวัตถุธาตุว่าเป็นสมบัติของเรา สุดท้ายก็ทำบาปทำกรรมในวัตถุอันนั้นแหละ ฆ่ากัน ตีกัน วุ่นวายก็เพราะว่าหลงในวัตถุอันนั้น
พระอุดมญาณโมลี (จันทร์ศรี จันททีโป)
วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี
เวลาเราทำงานอะไรอยู่ ถ้าเราสังเกตว่าใจเราเสีย ก็ให้หยุดทันที แล้วกลับมาดูใจของตนเอง เราต้องรักษาใจของเราไว้เป็นงานอันดับแรก
พระครูญาณวิศิษฏ์(เฟื่อง โชติโก)
วัดธรรมสถิต จ.ระยอง
เมื่อเราสามารถทำความดี จนจิตใจจริงต่อความดีแล้วนั่นแหละ อารมณ์อันนึกถึงความดีที่เรากระทำมันไว้ สามารถเป็นบันไดให้เราก้าวเข้าสู่สันติสุขอันหนึ่งได้ เพราะฉะนั้น ขอให้พวกเราพยายามกระทำซะให้มาก
บางคนบุญกุศลไม่อยากทำ แต่ถึงคราวเข้าตาอับจน หรือมีเหตุอะไรเกิดขึ้น ก็มักจะร้องถึงบุญอยู่เสมอ ว่าขอให้บุญช่วยด้วย เปรียบเหมือนกับคน คนที่เราไม่รู้จักเขา เขาก็ไม่รู้จักเรา ต่างคนต่างก็ไม่มีบุญคุณอะไรต่อกัน ไม่ได้สังสรรค์วิสาสะอะไรกันเลย เมื่อถึงคราวจำเป็น ขอพึ่งอาศัยเขา รู้สึกจะยาก แต่สำหรับคนที่คุ้นกัน ทำความดีร่วมกันมา มีบุญคุณต่อกัน จนกระทั่งรู้จักนิสัยใจคอกันได้ดี เมื่อมีเหตุจำเป็น เราขอร้องเขา จะพึ่งกันได้ง่ายกว่า
พระวิสุทธิญาณเถร(สมชาย ฐิตวิริโย)
วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 195 มีนาคม 2560 โดย กองบรรณาธิการ)
กิเลสไม่ได้เข้าใครออกใคร สามารถที่จะย่ำยีได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกลักษณะ เพราะฉะนั้น มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือการทำจิตให้สงบ คือการเป็นสมาธิของจิต ที่สามารถจะต่อสู้ ไม่ให้กิเลสมันย่ำยีเราได้
พระธรรมมงคลญาณ (วิริยังค์ สิรินธโร)
วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
ใจของเรานั่นน่ะมันสำคัญที่สุด มันหาสาระแก่นสาร หาประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้เท่าไรหรอก คือ มันใจโลภ ใจโกรธ ใจหลง ใจอิจฉาพยาบาท ใจของเราน่ะมันโลภหลงไปตามสัญญาอารมณ์ต่างๆ หลงในวัตถุธาตุ ว่าเป็นของเราอย่างนั้นอย่างนี้ ตามวิ่งตามวัตถุธาตุว่าเป็นสมบัติของเรา สุดท้ายก็ทำบาปทำกรรมในวัตถุอันนั้นแหละ ฆ่ากัน ตีกัน วุ่นวายก็เพราะว่าหลงในวัตถุอันนั้น
พระอุดมญาณโมลี (จันทร์ศรี จันททีโป)
วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี
เวลาเราทำงานอะไรอยู่ ถ้าเราสังเกตว่าใจเราเสีย ก็ให้หยุดทันที แล้วกลับมาดูใจของตนเอง เราต้องรักษาใจของเราไว้เป็นงานอันดับแรก
พระครูญาณวิศิษฏ์(เฟื่อง โชติโก)
วัดธรรมสถิต จ.ระยอง
เมื่อเราสามารถทำความดี จนจิตใจจริงต่อความดีแล้วนั่นแหละ อารมณ์อันนึกถึงความดีที่เรากระทำมันไว้ สามารถเป็นบันไดให้เราก้าวเข้าสู่สันติสุขอันหนึ่งได้ เพราะฉะนั้น ขอให้พวกเราพยายามกระทำซะให้มาก
บางคนบุญกุศลไม่อยากทำ แต่ถึงคราวเข้าตาอับจน หรือมีเหตุอะไรเกิดขึ้น ก็มักจะร้องถึงบุญอยู่เสมอ ว่าขอให้บุญช่วยด้วย เปรียบเหมือนกับคน คนที่เราไม่รู้จักเขา เขาก็ไม่รู้จักเรา ต่างคนต่างก็ไม่มีบุญคุณอะไรต่อกัน ไม่ได้สังสรรค์วิสาสะอะไรกันเลย เมื่อถึงคราวจำเป็น ขอพึ่งอาศัยเขา รู้สึกจะยาก แต่สำหรับคนที่คุ้นกัน ทำความดีร่วมกันมา มีบุญคุณต่อกัน จนกระทั่งรู้จักนิสัยใจคอกันได้ดี เมื่อมีเหตุจำเป็น เราขอร้องเขา จะพึ่งกันได้ง่ายกว่า
พระวิสุทธิญาณเถร(สมชาย ฐิตวิริโย)
วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 195 มีนาคม 2560 โดย กองบรรณาธิการ)