ขณะอาจารย์เซนออกจาริกธรรม ระหว่างการเดินทาง บังเอิญพบผู้ที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเซน คนผู้นั้นเอาแต่ประณามหยามเหยียดอาจารย์เซน ใช้คำพูดตำหนิหวังให้อาจารย์เซนได้อาย
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร อาจารย์เซนกลับไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ยังคงสงบสำรวมดังเช่นที่เป็นมา
ในที่สุดคนผู้นั้นอดรนทนไม่ได้ เอ่ยถามอาจารย์เซนด้วยความสงสัยใคร่ใจว่า "เราตำหนิประจานเจ้าถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้าไม่รู้สึกรู้สา อีกทั้งไม่โต้ตอบ"
ยามนั้นอาจารย์เซนไม่ตอบ แต่กลับเอ่ยถามคนผู้นั้นกลับไปว่า "หากมีผู้มอบของขวัญให้ท่าน แล้วท่านปฏิเสธไม่รับ ของขวัญชิ้นนั้นนับว่าตกเป็นของผู้ใด?"
คนผู้นั้นตอบว่า "ย่อมยังเป็นของผู้มอบให้"
อาจารย์เซนจึงกล่าวว่า "นั่นก็ใช่แล้ว หากเราไม่รับคำตำหนิติด่าของท่าน เช่นนั้นมิใช่นับว่า ท่านกำลังด่าประณามตนเองหรอกหรือ?"
ปัญญาเซน : เมื่อมีสรรเสริญ ต้องมีนินทา บัณฑิตผู้ฝึกตนไม่ควรยึดโลกธรรมเป็นอารมณ์
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 193 มกราคม 2560 โดย มุมจีน : manager online)
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร อาจารย์เซนกลับไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ยังคงสงบสำรวมดังเช่นที่เป็นมา
ในที่สุดคนผู้นั้นอดรนทนไม่ได้ เอ่ยถามอาจารย์เซนด้วยความสงสัยใคร่ใจว่า "เราตำหนิประจานเจ้าถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้าไม่รู้สึกรู้สา อีกทั้งไม่โต้ตอบ"
ยามนั้นอาจารย์เซนไม่ตอบ แต่กลับเอ่ยถามคนผู้นั้นกลับไปว่า "หากมีผู้มอบของขวัญให้ท่าน แล้วท่านปฏิเสธไม่รับ ของขวัญชิ้นนั้นนับว่าตกเป็นของผู้ใด?"
คนผู้นั้นตอบว่า "ย่อมยังเป็นของผู้มอบให้"
อาจารย์เซนจึงกล่าวว่า "นั่นก็ใช่แล้ว หากเราไม่รับคำตำหนิติด่าของท่าน เช่นนั้นมิใช่นับว่า ท่านกำลังด่าประณามตนเองหรอกหรือ?"
ปัญญาเซน : เมื่อมีสรรเสริญ ต้องมีนินทา บัณฑิตผู้ฝึกตนไม่ควรยึดโลกธรรมเป็นอารมณ์
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 193 มกราคม 2560 โดย มุมจีน : manager online)