ประกาศมติมหาเถรสมาคมประกาศเรื่อง แนวทางการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

วันที่ 14 ตุลาคม 2559นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) ได้ลงนามในประกาศมติมหาเถรสมาคม เรื่องแนวทางการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ความว่า ในการประชุม มหาเถรสมาคม ครั้งพิเศษ/2559 วันที่ 14 ต.ค.2559 ประธานกรรมการมหาเถรสมาคมได้แจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบตามประกาศสำนักพระราชวัง ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2557 ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับถึงวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี

ที่ประชุมรับทราบและเจริญจิตภาวนาปลงธรรมสังเวช เป็นเวลา 9 นาที และมีมติให้คณะสงฆ์และวัดทุกวัดทั้งในและต่างประเทศ ดำเนินการดังนี้ 1.จัดโต๊ะหมู่บูชา ประดิษฐานพระบรมรูป พระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ พร้อมตั้งเครื่องบูชาทองน้อย ภายในพระอุโบสถ/อุโบสถ หรือสถานที่ที่สมพระเกียรติ ภายในวัด 2. ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม ถวายเป็นพระราชกุศล ในเวลา 15.52 น.หรือตามเวลาที่เหมาะสมทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป โดยทุกวัดเป็นเจ้าภาพและเชิญชวนประชาชนร่วมถวายเป็นพระราชกุศล

3. ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ถวายเป็นพระราชกุศล เมื่อครบกำหนดสัตตมวาร (7 วัน) ปัญญาสมวาร (50 วัน) และสตมวาร (100 วัน) 4.สำหรับสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด เมื่อครบสัตตมวาร 7 วัน ปัญญาสมวาร 50 วัน และสตมวาร 100 วัน ให้จัดปฏิบัติธรรม มีกำหนดคราวละ 7 วัน 5.เจริญจิตภาวนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล หลังทำวัตรสวดมนต์เย็นทุกวัน 6.เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมบำเพ็ญกุศลด้วยการสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา รักษาศีล ฟังธรรม และปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ตลอดระยะเวลา 1 ปี