• น้ำผลไม้อร่อยชื่นใจ แต่ระวังได้น้ำตาลเกิน
สมูตี้ น้ำผลไม้ปั่น น้ำผลไม้คั้นสด น้ำผลไม้บรรจุขวดหรือกล่อง กำลังเป็นที่นิยม เพราะว่ารสชาติอร่อย กินแล้วสดชื่น มีวิตามินตามธรรมชาติ และวิตามินเสริมที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย สมอง ความงาม ฯลฯ
แม้ว่าจะดีแต่ต้องระวังเรื่องน้ำตาลกันหน่อย สำหรับคนที่เป็นเบาหวานและคนที่น้ำหนักมาก รวมทั้งเด็กๆ ที่จะติดหวานและกลายเป็นโรคอ้วน
เพราะในน้ำผลไม้คั้นสดปริมาณ 100 มิลลิลิตร (ประมาณ 1/2 แก้ว) พบว่า มีน้ำตาลเท่ากับ 2 ช้อนชา และในสมูตี้ปริมาณเท่ากันอาจจะมีน้ำตาลมากถึง 2.5 ช้อนชา หรือเกินครึ่งของปริมาณแนะนำคือ 4 ช้อนชาต่อวัน สำหรับเด็กอายุ 6-13 ปี หญิงวัยทำงาน 25-60 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
ในแต่ละวัน เรากินข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว หรือแป้งอื่นๆ เป็นปกติอยู่แล้ว อาหารพวกนี้จะแปลงเป็นน้ำตาลเมื่อกินเข้าไปด้วย ฉะนั้น ถ้าจะกินน้ำผลไม้ ให้กินแบบคั้นสดดีกว่าแบบกล่องหรือขวด (ซึ่งส่วนใหญ่จะมีน้ำตาลเท่ากับ 4 ช้อนชา) และกินเพียงวันละ 1 แก้วเล็ก หรือลดความเข้มข้นลง
แต่หากเป็นไปได้ ควรเลือกกินผลไม้สดดีกว่า เพราะมีเส้นใย และสารอาหารที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
• ยิ่งกินเกลือ กระดูกยิ่งแข็งแรง?
เคยมีการเตือนกันว่า ไม่ควรกินเกลือมาก จะส่งผลเสียต่อกระดูก เพราะปกติในกระดูกมีแคลเซียมและโซเดียม (เกลือ) อยู่ ถ้ามีโซเดียมมากเกิน ร่างกายจะกำจัดออกพร้อมกับแคลเซียมด้วย
แต่ ดร. ลอร่า ดี คาร์บอร์น หัวหน้าหน่วยโรครูมาตอยด์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์แห่งจอร์เจีย มหาวิทยาลัยออกัสตา ศึกษาเรื่องการลดบริโภคเกลือกับผลที่เกิดกับกระดูก แล้วพบว่า การกินเกลือไม่ได้เป็นปัจจัยหลักของปัญหาเนื้อกระดูกบางลง แต่ยิ่งกินเกลือ กระดูกกลับยิ่งแข็งแรงด้วยซ้ำ อัตราการเกิดกระดูกสะโพกหักก็น้อยลง การลดเกลือจึงไม่น่าจะเกิดประโยชน์ต่อกระดูก และปัญหาใหญ่ของกระดูก น่าจะเป็นเรื่องฮอร์โมนลดลงในวัยทองมากกว่า
แม้ว่าเกลือจะดีต่อกระดูก แต่ถ้ากินมากไปก็ส่งผลเสียต่อไตและหัวใจเหมือนกัน
• ปลดล็อคก่อน “มนุษย์แว่น” จะครองโลก
รู้ไหม ปี 2050 หรืออีก 35 ปีข้างหน้า กว่าครึ่งของประชากรโลกจะเป็น “น้องแว่น” กันหมด เพราะวารสาร Ophthalmology รายงานว่า ปี 2050 คนสายตาสั้นจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี 2000 ถึง 7 เท่า และจะเป็นปัญหาการมองเห็นอันดับหนึ่งของโลก
ปัญหาสายตาไม่ได้อยู่ที่พฤติกรรมการใช้งานดวงตาอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องอาหารการกินด้วย นักวิชาการด้านโภชนาการอธิบายว่า แป้งขัดสีและน้ำตาล อย่างขนมปัง ซีเรียล น้ำตาล ที่นิยมตามคนตะวันตกนั้น กระตุ้นการผลิตอินซูลิน IGF-1 ซึ่งถ้ามีจำนวนมากจะทำให้ลูกตายาวผิดปกติ และเกิดปัญหาการรับภาพ เนื่องจากโครงสร้างของลูกตาลึกเกินไป
ดวงตาต้องการสารอาหารหลากหลายเช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ โดยเฉพาะโปรตีนที่ส่วนใหญ่เป็นคอลลาเจน สารอาหารเหล่านี้ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม ซิลิกา ซีลีเนียม แมงกานีส วิตามินดี วิตามินซี และไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งหาได้จากอาหารพวกผักใบเขียวเข้ม ถั่วเหลือง ผลไม้สีแดง โอเมก้าในปลา และอาหารที่มีสารซัลเฟอร์อย่างแครอท แคนตาลูป ขึ้นฉ่าย แตงกวา เป็นต้น
ถึงแม้อาหารจะแก้ไขความบกพร่องของโครงสร้างไม่ได้ แต่ช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตา การมองเห็นจะดีขึ้น ...ดูแลดวงตาของเรากันหน่อยนะ
• ควันบุหรี่ทำร้ายสัตว์เลี้ยง
วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก มีการวิจัยพบว่า การสูบบุหรี่และควันบุหรี่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพเฉพาะกับคนเท่านั้น แม้แต่สัตว์เลี้ยงยังพลอยได้รับลูกหลงไปด้วย
แคลร์ น็อตเทนเบลท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านยาสำหรับสัตว์เล็ก มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ประเทศอังกฤษ บอกว่าสุนัขและแมวในบ้านที่มีการสูบบุหรี่ เมื่อเปรียบเทียบบ้านที่ไม่สูบบุหรี่ พบความเสี่ยงต่อการถูกทำลายของเซลล์ จนกลายเป็นมะเร็ง หรือทำให้น้ำหนักขึ้น
ในสัตว์เล็ก แมวจะเสี่ยงมากที่สุด เพราะชอบเลียทำความสะอาดขนที่ติดฝุ่นควันบุหรี่ ส่วนสุนัขเมื่อตรวจลูกอัณฑะ พบยีนที่บ่งบอกว่า เซลล์ถูกทำลายและเกี่ยวข้องกับมะเร็งบางชนิด
เอาเป็นว่า..ถ้าไม่ห่วงสุขภาพตัวเองและคนรอบข้าง จะเลิกสูบบุหรี่เพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักก็ได้นะ
• ทำนายโรคคนชอบง่วงตอนกลางวัน
กินข้าวกลางวันแล้วของีบหน่อย หรือตกบ่ายสัปหงกเป็นประจำใช่ไหม บางทีเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความเคยชินต้องสังเกตดีๆว่า งีบนานไหม เผลอหลับยาวหรือเปล่า เพราะมีข้อบ่งชี้ว่า อาจจะเริ่มเป็นโรคความดันโลหิตสูง โคเลสเตอรอลสูง น้ำตาลสูง เบาหวาน หรืออ้วนลงพุง ซึ่งทั้งหมดนี้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ
ถ้างีบไม่เกินครึ่งชั่วโมง ยังพอเบาใจ เพราะเมื่อปี 2015 นพ.โตโมฮิเดะ ยามาดะ มหาวิทยาลัยโตเกียว และคณะ ได้ศึกษาพบว่า การงีบกลางวันเกิน 60 นาที มีส่วนสัมพันธ์กับโอกาสเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นถึง 82% และมีโอกาสเสียชีวิตจากทุกสาเหตุเพิ่มขึ้น 27%
นอกจากนี้ ยังพบว่า คนที่นอนกลางวันไม่ถึง 40 นาที กับ 40 นาทีขึ้นไป ความเสี่ยงต่อโรคต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต้ถ้างีบสัก 20-30 นาทีกลับช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญได้
เพราะฉะนั้น ใครที่มักหลับยาวช่วงกลางวัน ลองสำรวจดูทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย การพักผ่อนนอนหลับตอนกลางคืน ปรับให้สมดุลและมีคุณภาพ จะได้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 185 พฤษภาคม 2559 โดย ธาราทิพย์)
สมูตี้ น้ำผลไม้ปั่น น้ำผลไม้คั้นสด น้ำผลไม้บรรจุขวดหรือกล่อง กำลังเป็นที่นิยม เพราะว่ารสชาติอร่อย กินแล้วสดชื่น มีวิตามินตามธรรมชาติ และวิตามินเสริมที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย สมอง ความงาม ฯลฯ
แม้ว่าจะดีแต่ต้องระวังเรื่องน้ำตาลกันหน่อย สำหรับคนที่เป็นเบาหวานและคนที่น้ำหนักมาก รวมทั้งเด็กๆ ที่จะติดหวานและกลายเป็นโรคอ้วน
เพราะในน้ำผลไม้คั้นสดปริมาณ 100 มิลลิลิตร (ประมาณ 1/2 แก้ว) พบว่า มีน้ำตาลเท่ากับ 2 ช้อนชา และในสมูตี้ปริมาณเท่ากันอาจจะมีน้ำตาลมากถึง 2.5 ช้อนชา หรือเกินครึ่งของปริมาณแนะนำคือ 4 ช้อนชาต่อวัน สำหรับเด็กอายุ 6-13 ปี หญิงวัยทำงาน 25-60 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
ในแต่ละวัน เรากินข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว หรือแป้งอื่นๆ เป็นปกติอยู่แล้ว อาหารพวกนี้จะแปลงเป็นน้ำตาลเมื่อกินเข้าไปด้วย ฉะนั้น ถ้าจะกินน้ำผลไม้ ให้กินแบบคั้นสดดีกว่าแบบกล่องหรือขวด (ซึ่งส่วนใหญ่จะมีน้ำตาลเท่ากับ 4 ช้อนชา) และกินเพียงวันละ 1 แก้วเล็ก หรือลดความเข้มข้นลง
แต่หากเป็นไปได้ ควรเลือกกินผลไม้สดดีกว่า เพราะมีเส้นใย และสารอาหารที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
• ยิ่งกินเกลือ กระดูกยิ่งแข็งแรง?
เคยมีการเตือนกันว่า ไม่ควรกินเกลือมาก จะส่งผลเสียต่อกระดูก เพราะปกติในกระดูกมีแคลเซียมและโซเดียม (เกลือ) อยู่ ถ้ามีโซเดียมมากเกิน ร่างกายจะกำจัดออกพร้อมกับแคลเซียมด้วย
แต่ ดร. ลอร่า ดี คาร์บอร์น หัวหน้าหน่วยโรครูมาตอยด์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์แห่งจอร์เจีย มหาวิทยาลัยออกัสตา ศึกษาเรื่องการลดบริโภคเกลือกับผลที่เกิดกับกระดูก แล้วพบว่า การกินเกลือไม่ได้เป็นปัจจัยหลักของปัญหาเนื้อกระดูกบางลง แต่ยิ่งกินเกลือ กระดูกกลับยิ่งแข็งแรงด้วยซ้ำ อัตราการเกิดกระดูกสะโพกหักก็น้อยลง การลดเกลือจึงไม่น่าจะเกิดประโยชน์ต่อกระดูก และปัญหาใหญ่ของกระดูก น่าจะเป็นเรื่องฮอร์โมนลดลงในวัยทองมากกว่า
แม้ว่าเกลือจะดีต่อกระดูก แต่ถ้ากินมากไปก็ส่งผลเสียต่อไตและหัวใจเหมือนกัน
• ปลดล็อคก่อน “มนุษย์แว่น” จะครองโลก
รู้ไหม ปี 2050 หรืออีก 35 ปีข้างหน้า กว่าครึ่งของประชากรโลกจะเป็น “น้องแว่น” กันหมด เพราะวารสาร Ophthalmology รายงานว่า ปี 2050 คนสายตาสั้นจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี 2000 ถึง 7 เท่า และจะเป็นปัญหาการมองเห็นอันดับหนึ่งของโลก
ปัญหาสายตาไม่ได้อยู่ที่พฤติกรรมการใช้งานดวงตาอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องอาหารการกินด้วย นักวิชาการด้านโภชนาการอธิบายว่า แป้งขัดสีและน้ำตาล อย่างขนมปัง ซีเรียล น้ำตาล ที่นิยมตามคนตะวันตกนั้น กระตุ้นการผลิตอินซูลิน IGF-1 ซึ่งถ้ามีจำนวนมากจะทำให้ลูกตายาวผิดปกติ และเกิดปัญหาการรับภาพ เนื่องจากโครงสร้างของลูกตาลึกเกินไป
ดวงตาต้องการสารอาหารหลากหลายเช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ โดยเฉพาะโปรตีนที่ส่วนใหญ่เป็นคอลลาเจน สารอาหารเหล่านี้ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม ซิลิกา ซีลีเนียม แมงกานีส วิตามินดี วิตามินซี และไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งหาได้จากอาหารพวกผักใบเขียวเข้ม ถั่วเหลือง ผลไม้สีแดง โอเมก้าในปลา และอาหารที่มีสารซัลเฟอร์อย่างแครอท แคนตาลูป ขึ้นฉ่าย แตงกวา เป็นต้น
ถึงแม้อาหารจะแก้ไขความบกพร่องของโครงสร้างไม่ได้ แต่ช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตา การมองเห็นจะดีขึ้น ...ดูแลดวงตาของเรากันหน่อยนะ
• ควันบุหรี่ทำร้ายสัตว์เลี้ยง
วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก มีการวิจัยพบว่า การสูบบุหรี่และควันบุหรี่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพเฉพาะกับคนเท่านั้น แม้แต่สัตว์เลี้ยงยังพลอยได้รับลูกหลงไปด้วย
แคลร์ น็อตเทนเบลท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านยาสำหรับสัตว์เล็ก มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ประเทศอังกฤษ บอกว่าสุนัขและแมวในบ้านที่มีการสูบบุหรี่ เมื่อเปรียบเทียบบ้านที่ไม่สูบบุหรี่ พบความเสี่ยงต่อการถูกทำลายของเซลล์ จนกลายเป็นมะเร็ง หรือทำให้น้ำหนักขึ้น
ในสัตว์เล็ก แมวจะเสี่ยงมากที่สุด เพราะชอบเลียทำความสะอาดขนที่ติดฝุ่นควันบุหรี่ ส่วนสุนัขเมื่อตรวจลูกอัณฑะ พบยีนที่บ่งบอกว่า เซลล์ถูกทำลายและเกี่ยวข้องกับมะเร็งบางชนิด
เอาเป็นว่า..ถ้าไม่ห่วงสุขภาพตัวเองและคนรอบข้าง จะเลิกสูบบุหรี่เพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักก็ได้นะ
• ทำนายโรคคนชอบง่วงตอนกลางวัน
กินข้าวกลางวันแล้วของีบหน่อย หรือตกบ่ายสัปหงกเป็นประจำใช่ไหม บางทีเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความเคยชินต้องสังเกตดีๆว่า งีบนานไหม เผลอหลับยาวหรือเปล่า เพราะมีข้อบ่งชี้ว่า อาจจะเริ่มเป็นโรคความดันโลหิตสูง โคเลสเตอรอลสูง น้ำตาลสูง เบาหวาน หรืออ้วนลงพุง ซึ่งทั้งหมดนี้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ
ถ้างีบไม่เกินครึ่งชั่วโมง ยังพอเบาใจ เพราะเมื่อปี 2015 นพ.โตโมฮิเดะ ยามาดะ มหาวิทยาลัยโตเกียว และคณะ ได้ศึกษาพบว่า การงีบกลางวันเกิน 60 นาที มีส่วนสัมพันธ์กับโอกาสเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นถึง 82% และมีโอกาสเสียชีวิตจากทุกสาเหตุเพิ่มขึ้น 27%
นอกจากนี้ ยังพบว่า คนที่นอนกลางวันไม่ถึง 40 นาที กับ 40 นาทีขึ้นไป ความเสี่ยงต่อโรคต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต้ถ้างีบสัก 20-30 นาทีกลับช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญได้
เพราะฉะนั้น ใครที่มักหลับยาวช่วงกลางวัน ลองสำรวจดูทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย การพักผ่อนนอนหลับตอนกลางคืน ปรับให้สมดุลและมีคุณภาพ จะได้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 185 พฤษภาคม 2559 โดย ธาราทิพย์)