xs
xsm
sm
md
lg

ปุจฉา-วิสัชนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทำผิดกับพ่อแม่

ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ครับ อยากจะทราบว่า ถ้าทำผิดกับพ่อแม่ไว้ จะขอโทษอย่างไรดี จึงจะพ้นจากโทษที่ทำผิดไว้นี้

วิสัชนา : ทำดีก่อน ต้องทำดีให้เป็นที่ประจักษ์ นั่นคือ วิธีการขอโทษที่ดีเยี่ยมที่สุด ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่เห็นลูกทำดีแล้วจะโกรธ ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่เห็นลูกทำดีแล้วจะรู้สึกขัดเคือง ขุ่นเคือง หรือ อาฆาตพยาบาท หรือโหดร้าย

เพราะฉะนั้น การที่เราจะขอขมาพ่อแม่ ก็เริ่มต้นจากตัวเราเองทำดี พูดดี คิดดี ทำให้ความดีของเรา เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของพ่อแม่ นั่นคือ วิธีการขอโทษที่ดีเยี่ยมที่สุด แล้วก็จำไว้ว่า เรารักคนอื่นทั้งแผ่นดิน เรารักได้ แต่ต้องไม่ลืมที่ต้องรักพ่อแม่ก่อน แล้วความรักที่เรามีต่อพ่อแม่ ต้องเป็นความรักที่ทำให้ท่านพึ่งได้ ไม่ใช่ว่า แอบรักอยู่ลึกๆ

เดี๋ยวนี้วัยรุ่นยุคปัจจุบัน ชอบบอกรักคนอื่น แต่เวลาบอกรักพ่อแม่นี่กระดาก กลัวดอกอะไรมันจะหลุดออกจากปากก็ไม่รู้ คือ พูดไม่ออก บอกไม่ได้ มันเขิน มันขัด มันเคืองอะไรก็ไม่รู้

เราบอกรักก็ได้ แต่ใช้วิธีกระทำ ห่วงใย อาทร ใส่ใจ อย่างเช้าๆ หลวงปู่บิณฑบาตเสร็จ ก็แบ่งอาหารให้แม่ เพลก็แบ่ง ตอนเย็นไม่มีอาหาร ก็ต้องเข้าไปที่บ้าน คือ ที่พักแกอยู่ในวัด ก็ไปที่พักแก ไปทำกับข้าวให้ ไปถูบ้าน กวาดพื้น ทำเท่าที่ทำได้ นั่นคือ สุดยอดของความดีที่ควรจะกระทำให้พ่อแม่

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา แปลว่า ความกตัญญู กตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี ต้องกตัญญู-รู้คุณ และกตเวทิตา-ตอบแทนคุณ เราอยากจะเป็นคนดี แล้วไม่กตัญญู ไม่สำนึกในบุญคุณคน โดยเฉพาะคุณพ่อแม่ แล้วเราจะบอกว่า เป็นคนดีต่อคนอื่นน่ะ อย่างนั้นเขาเรียกอัปรีย์ ไม่ดีจริงๆ

ผลกรรมที่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง

ปุจฉา : กราบเรียนหลวงปู่ค่ะ ดิฉันขอเรียนถามว่า บุคคลที่ไม่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างซื่อตรง ชอบเอาเวลาไปทำเรื่องอื่น แล้วทิ้งหน้าที่ของตัวเองไว้ ผลกรรมที่เขาจะได้รับ จะเป็นอย่างไรคะ

วิสัชนา : มันก็เป็นดินพอกหางหมูน่ะสิ

1 ในมงคล 38 ประการ มีว่า “อนากุลา จ กมฺมนฺตา” การงานทั้งหลายไม่อากูล “เอตัมมัง คะละมตฺตะมัง” ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด

ถ้าไม่รู้จักสำนึกรับผิดชอบหน้าที่อย่างนี้ เกิดชาติใดๆ ก็เป็นคนที่ทำอะไรไม่จบ เรียกว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แล้วพวกนี้จะไม่มีความสำเร็จในชีวิต ไม่มีความภาคภูมิใจที่จะมีชีวิต คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เขาจะมีความภาคภูมิใจในการมีชีวิต รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า เพราะเขาเห็นคุณค่าในการมีชีวิต ด้วยการลงไม้ลงมือกระทำ แล้วก็เกิดผลสำเร็จ

ส่วนคนที่ไม่เคยเห็นความสำเร็จของชีวิตตัวเองเลยน่ะ มันจะไม่ภูมิใจในการมีอยู่ ไม่ภูมิใจในการเป็นอยู่ แล้วก็รู้สึกจะมีอยู่ เป็นอยู่ อย่างมีทุกข์ทรมานด้วยซ้ำไป พวกนี้จะไม่ค่อยมีสิทธิ์ได้เป็นมนุษย์ต่อไป ส่วนใหญ่จะไปเป็นเดรัจฉาน เป็นเปรต เป็นอสุรกาย แล้วไม่มีสิทธิ์เป็นผู้นำ ได้แต่เป็นผู้ตามเขาตลอด โดนข่มเหง โดนกดขี่ โดนจิกหัวใช้ ไม่มีสิทธิ์จะคิดเอง ทำเองหรอก

ดังนั้น ถ้าอยากเป็นผู้นำ ผู้บริหาร ผู้จัดการ ก็ต้องหัดทำอะไรให้สำเร็จ ให้จบสิ้น ให้เรียบร้อย เขาเรียกว่า รวดเร็ว เร่งรีบ รวบรัด แล้วก็เรียบร้อย นั่นแหละ 4 ร. คือ หัวใจสำคัญของนักพัฒนา

การรวมจิตภายใน-ภายนอก

ปุจฉา : กราบเรียนหลวงปู่ เมื่อพูดถึงการรวมจิต มีทั้งรวมภายในและภายนอก ผมเลยอยากจะรู้ว่า มันเป็นอย่างไรครับ

วิสัชนา : มันขึ้นอยู่กับการงานที่เราจะให้จิตมันทำ การงานนั้นเป็นการงานภายในหรือการงานภายนอก บางทีถ้าเราอยากอ่านหนังสือ แน่นอนล่ะ อย่างนี้เป็นการงานภายนอก

อย่างนี้ก็ถือว่า เอาจิตไปรวมไว้อยู่กับการงานภายนอก ถ้าเราอยากดูชีพจร อย่างนี้ก็ถือว่า การงานภายใน อยากดูลมหายใจ ก็ถือว่าเป็นการงานภายใน มันขึ้นอยู่กับว่า จะหาการงานอะไรให้จิต แล้วสำคัญที่สุด นอกจากมีงานให้จิตแล้ว จิตมันอยู่กับงานนั้นอย่างจริงจังหรือเปล่า

ทุกวันนี้ที่เราประสบความสำเร็จได้ในชีวิต ไม่ใช่สำเร็จเพราะจิตอยู่กับงานอย่างจริงจังอย่างชนิดต่อเนื่องยาวนานจนตลอดรอดฝั่ง มันอยู่แบบผลุบๆโผล่ๆ วิ่งไปวิ่งกลับ แต่ขนาดนี้ก็ยังมีความสำเร็จได้เห็นปานนี้ แล้วถ้าอยู่อย่างชนิดที่มันจดจ่อจับจ้อง ตั้งใจจริงจังแล้ว โอ้โห.. ผลมันจะมหาศาลขนาดไหน

เรื่องอำนาจจิตนี่มันยิ่งใหญ่มาก มันสำคัญมาก ถ้าเราฝึกให้มันอยู่กับการงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตลอดเวลาต่อเนื่องยาวนาน เราจะเป็นผู้ทรงพลังจิตมาก

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 180 ธันวาคม 2558 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
กำลังโหลดความคิดเห็น