การละความชั่ว และการบำเพ็ญบุญกุศลจึงต้องทำ การสร้างความดีนั้นไม่สู้กระไร เพราะมีความดี อยากได้ความดีล่อใจอยู่แล้ว แต่การละความชั่วนี่ยากเหลือเกิน
ยิ่งคนที่ติดความชั่ว เช่น ติดยาอี ติดยาบ้า เฮโรอีน บุหรี่ เหล้า เป็นต้น ติดอะไรก็ตาม ก็ติดทั้งนั้น ล้วนให้โทษแก่สังขาร ทำลายทรัพย์โดยไม่มีอะไรขึ้นมา ทำสุขภาพธาตุขันธ์ที่สมบูรณ์ให้ย่อยยับลงไป เรียกว่าตายผ่อนส่ง ไปเร่งความชราอันเป็นปกติของตนอยู่แล้ว เร่งความตายให้มาเร็วขึ้น นี่เราไม่เห็น ถึงเห็นก็มองว่าไม่สำคัญ มองว่ารสชาติที่ติดอยู่สำคัญกว่า บางคนก็ยอมตาย ยอมติดคุกตาราง แต่ไม่ยอมเลิกสิ่งเหล่านี้
พระญาณวิศิษฏ์ (ทอง จนฺทสิริ)
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
เราทำด้วยความโลภ ความอยากได้มากๆ มันไม่มีความสุข เพราะเกิดความอยากมากๆ เมื่อทำได้ก็ดีใจ เมื่อทำไม่ได้ก็เสียใจ แต่ถ้าจิตเราอยู่ในหลักธรรมแล้ว จิตพอเพียงแล้ว จิตไม่มีทุกข์ ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ก็คือเกิดดับเป็นธรรมดา ถ้ารู้จักอย่างนี้มันก็ไม่มีทุกข์ ได้ก็ไม่ดีใจ ไม่ได้ก็ไม่เสียใจ นี่จิตที่พอดีมันเป็นอย่างนี้
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้คนปฏิบัติธรรมตกทุกข์ได้ยาก พระพุทธเจ้าสอนเป็นหลักล้วนแต่มีความสุขความเจริญ ไม่มีใครที่จะตกทุกข์ได้ยาก มีแต่จะหลุดพ้นจากทุกข์
หลวงพ่อไม อินทสิริ
วัดป่าหนองช้างคาว จ.อุดรธานี
คนขาดสติลงไปวินาทีหนึ่งก็ตาม ห้านาทีก็ตาม ชั่วโมงหนึ่งก็ตาม สามารถทำให้เราเป็นได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นสัตว์นรกก็ได้ เป็นเปรตก็ได้ เป็นอสุรกายก็ได้ เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ได้ เป็นผีก็ได้ มันเป็นอย่างนั้น ดังนั้น คนใดที่ลืมตัวลงไปในขณะหนึ่งนั้น เรียกว่าคนไม่มีสติ
คนไม่มีสตินั้นท่านมาเปรียบอุปมาอุปไมยว่า เหมือนกับคนตาย แต่ไม่ใช่ตายหมดลมหายใจนะ ตายจากความดีความงาม มันเน่า มันเหม็น เหมือนกับอุจจาระ ร้ายไปกว่าอุจจาระอีกซะด้วย คนไม่มีสตินี้ สามารถพูดได้ ทำได้ คิดได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผิดๆไปตามอารมณ์ตัวเอง
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
วัดสนามใน จ.นนทบุรี
บุญนี่ก็คือความสุข คำที่ว่าความสุขในที่นี้ หมายถึงความสุขที่เกิดขึ้นมาจากความสงบ คำที่ว่าความสุขที่เกิดขึ้นมาจากความสงบ อย่างที่พวกเราเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ก็ย่อมมีความสงบ ทำไมถึงเรียกว่าความสงบ ก็หมายถึงว่าความสงบภายในจิตใจ
ผู้ใดกระทำความทุจริตเอาไว้ ผู้นั้นหากเมื่อนึกถึงความทุจริตของตัวเองแล้ว จิตใจวุ่นวาย เมื่อจิตใจวุ่นวายแล้วเราก็เรียกว่าไม่สงบ เมื่อไม่มีความสงบแล้ว ก็แสดงให้เห็นว่ามีความทุกข์ในใจแน่ นี่เป็นอย่างนั้น
พระวิสุทธิญาณเถร(สมชาย ฐิตวิริโย)
วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 176 สิงหาคม 2558 โดย กองบรรณาธิการ)