“...ประเทศหรือสังคมจะอยู่ได้ก็เพราะมีผู้ที่ให้ คือ หมู่มนุษย์ต้องมีพวกที่ให้กับพวกที่รับ พวกที่ให้ที่สำคัญที่สุด ได้แก่บิดามารดา ต่อมาก็มีครูบาอาจารย์ ผู้ที่ให้นั้นเพราะได้รับก่อนจึงให้ได้ ทุกคนเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะได้รับกำเนิดจากบิดามารดา ได้มาเป็นครูอาจารย์ ก็เพราะได้รับวิชาความรู้ตกทอดลงมา...”
…....
“...งานนั้นถ้าทำต้องทำจริง ถ้าไม่ทำจริงแล้วเกิดความเสียหายอย่างมาก เพราะว่าถึงจะมีวิชาการดี หรือมีวิธีการต่างๆที่จะวางหลักสูตรที่ดีงาม มีวิธีที่จะถ่ายทอดความรู้อย่างดีเท่าไรๆ ก็จะไม่สัมฤทธิ์ผล ถ้าหากหลักประการต่างๆนั้น ไม่ได้รับความเอาใจใส่ หรือไม่มีผู้เล็งเห็นความสำคัญโดยแท้...”
…....
“...เราทั้งหลายไม่พึงประมาทต่อเหตุการณ์ ต้องตระหนักว่าเรามีศัตรูคอยมุ่งร้าย เพราะฉะนั้น ทุกคนจะต้องตั้งมั่นในความสามัคคีและความไม่ประมาท จะต้องใช้ปัญญาและความคิดรอบคอบคิดอ่านก่อนที่จะกระทำการทั้งปวง จะต้องร่วมกันป้องกันแก้ไข และกำจัดสิ่งชั่วร้ายเป็นอันตรายต่อประเทศชาติ หมั่นประกอบสัมมาอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต คิดถึงประโยชน์สุขส่วนรวมของบ้านเมืองเป็นนิจเป็นสำคัญ...”
…....
“...ความเจริญของแต่ละบุคคลต้องอาศัยความเจริญมั่นคงของส่วนรวม ถ้าส่วนรวมมีความเจริญแล้ว ก็สามารถที่จะประกอบการงานของตนได้อย่างมีผล จึงมีความจำเป็นที่สุดที่ทุกคนจะได้นึกถึงส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เพราะว่าถ้าส่วนรวมไม่มีความมั่นคงแล้ว แต่ละคนก็จะแย่เหมือนกัน...”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 167 พฤศจิกายน 2557)