ปาปานิ ปริวชฺชเย
พึงละเว้นบาปทั้งหลาย
เมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินทางจันทรคติของไทย เสียงเพลงลอยกระทงจะดังกังวานทั่วทุกคุ้งน้ำ
“วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้วขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง
รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ”
ชื่อของเพลงนี้ก็คือ “รำวงวันลอยกระทง” ซึ่งฟังติดหูกันมาเนิ่นนานเกือบ 60 ปีแล้ว และไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้น คนต่างชาติก็ดูเหมือนจะคุ้นหูกันดีในทำนองที่สนุกสนาน และท่ารำง่ายๆที่เป็นเอกลักษณ์
เพลงนี้แต่งเนื้อร้องโดย ครูแก้ว อัจฉริยกุล และแต่งทำนองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน แห่งวงดนตรีสุนทราภรณ์ เมื่อพ.ศ. 2498 ขณะที่ไปบรรเลงเพลงที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่านแต่งที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ แล้วก็บรรเลงในงานวันลอยกระทงของคณะในวันนั้น
วันเพ็ญเดือนสิบสองที่ไทยเรากำหนดให้เป็น “วันลอยกระทง” นั้น ปีนี้ ตรงกับวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 หลายคนไปลอยกระทงด้วยจุดประสงค์ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วบอกว่า นอกจากจะขอขมาพระแม่คงคาแล้ว ยังถือเป็นโอกาสที่ได้ลอยบาปลอยเคราะห์ ให้ออกไปพ้นตัวด้วย
เรื่องลอยบาปนี้ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ แห่งวัดชลประทานรังสฤษฎ์ ท่านเคยเทศน์สอนญาติโยมในวันลอยกระทงตอนหนึ่งว่า
“....พระพุทธเจ้าเคยเห็นชาวอินเดียไปลอยกระทงกันมาก ก็ทรงถามว่ามาทำอะไรกันมากมาย เขาบอกว่ามาลอยบาปในแม่น้ำคงคา แล้วอาบน้ำล้างบาปด้วย เพื่อลอยบาปไปกับกระแสน้ำ
พระพุทธองค์จึงทรงบอกว่า บาปไม่ใช่ขี้ไคลขี้ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามร่างกาย บาปเกิดที่จิตที่คิดผิด พูดผิด ทำผิด เราจะลอยบาป ก็ต้องลอยความชั่วที่อยู่ในใจของเราให้ลดน้อยลงไป จึงจะเป็นการถูกต้อง
เพราะฉะนั้น เราไม่จำเป็นต้องไปเบียดเสียดลอยกระทงกับใคร ลอยกระทงเป็นเรื่องสนุกของเด็กๆ และหนุ่มสาว ผู้ใหญ่ลอยอยู่ที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องทำกระทง แค่ไหว้พระสวดมนต์ ทำใจให้สงบ พิจารณาตัวเอง เตือนตัวเอง แก้ไขตัวเอง
พิจารณาให้รู้ว่า ตัวเรามีอะไรบกพร่อง มีอะไรไม่ดีไม่งามอยู่ในตัวเราบ้าง แล้วก็คิดแก้ไข เลิกละจากสิ่งเหล่านั้น นั่นแหละเรียกว่าลอยกระทง คือลอยความชั่วที่อยู่ที่กาย ที่วาจา ที่ใจ ให้มันลดน้อยไป ลอยความชั่วออกไปจากตัวของเรา อย่างนี้เป็นการกระทำที่ถูกต้อง แล้วไม่สิ้นเปลืองด้วย ไม่เกิดความเสียหายในแม่น้ำ เป็นการลอยบาปแบบอริยชน คนฉลาดเขาทำกันแบบนั้น...”
ฝากธรรมะดีๆนี้ไว้เตือนตัวเองสักหน่อยในวันลอยกระทง
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 167 พฤศจิกายน 2557)
พึงละเว้นบาปทั้งหลาย
เมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินทางจันทรคติของไทย เสียงเพลงลอยกระทงจะดังกังวานทั่วทุกคุ้งน้ำ
“วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้วขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง
รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ”
ชื่อของเพลงนี้ก็คือ “รำวงวันลอยกระทง” ซึ่งฟังติดหูกันมาเนิ่นนานเกือบ 60 ปีแล้ว และไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้น คนต่างชาติก็ดูเหมือนจะคุ้นหูกันดีในทำนองที่สนุกสนาน และท่ารำง่ายๆที่เป็นเอกลักษณ์
เพลงนี้แต่งเนื้อร้องโดย ครูแก้ว อัจฉริยกุล และแต่งทำนองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน แห่งวงดนตรีสุนทราภรณ์ เมื่อพ.ศ. 2498 ขณะที่ไปบรรเลงเพลงที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่านแต่งที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ แล้วก็บรรเลงในงานวันลอยกระทงของคณะในวันนั้น
วันเพ็ญเดือนสิบสองที่ไทยเรากำหนดให้เป็น “วันลอยกระทง” นั้น ปีนี้ ตรงกับวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 หลายคนไปลอยกระทงด้วยจุดประสงค์ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วบอกว่า นอกจากจะขอขมาพระแม่คงคาแล้ว ยังถือเป็นโอกาสที่ได้ลอยบาปลอยเคราะห์ ให้ออกไปพ้นตัวด้วย
เรื่องลอยบาปนี้ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ แห่งวัดชลประทานรังสฤษฎ์ ท่านเคยเทศน์สอนญาติโยมในวันลอยกระทงตอนหนึ่งว่า
“....พระพุทธเจ้าเคยเห็นชาวอินเดียไปลอยกระทงกันมาก ก็ทรงถามว่ามาทำอะไรกันมากมาย เขาบอกว่ามาลอยบาปในแม่น้ำคงคา แล้วอาบน้ำล้างบาปด้วย เพื่อลอยบาปไปกับกระแสน้ำ
พระพุทธองค์จึงทรงบอกว่า บาปไม่ใช่ขี้ไคลขี้ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามร่างกาย บาปเกิดที่จิตที่คิดผิด พูดผิด ทำผิด เราจะลอยบาป ก็ต้องลอยความชั่วที่อยู่ในใจของเราให้ลดน้อยลงไป จึงจะเป็นการถูกต้อง
เพราะฉะนั้น เราไม่จำเป็นต้องไปเบียดเสียดลอยกระทงกับใคร ลอยกระทงเป็นเรื่องสนุกของเด็กๆ และหนุ่มสาว ผู้ใหญ่ลอยอยู่ที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องทำกระทง แค่ไหว้พระสวดมนต์ ทำใจให้สงบ พิจารณาตัวเอง เตือนตัวเอง แก้ไขตัวเอง
พิจารณาให้รู้ว่า ตัวเรามีอะไรบกพร่อง มีอะไรไม่ดีไม่งามอยู่ในตัวเราบ้าง แล้วก็คิดแก้ไข เลิกละจากสิ่งเหล่านั้น นั่นแหละเรียกว่าลอยกระทง คือลอยความชั่วที่อยู่ที่กาย ที่วาจา ที่ใจ ให้มันลดน้อยไป ลอยความชั่วออกไปจากตัวของเรา อย่างนี้เป็นการกระทำที่ถูกต้อง แล้วไม่สิ้นเปลืองด้วย ไม่เกิดความเสียหายในแม่น้ำ เป็นการลอยบาปแบบอริยชน คนฉลาดเขาทำกันแบบนั้น...”
ฝากธรรมะดีๆนี้ไว้เตือนตัวเองสักหน่อยในวันลอยกระทง
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 167 พฤศจิกายน 2557)
