ท่านผู้อ่านครับ ความเครียดเป็นสาเหตุสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ
ดังนั้น ในศูนย์บำบัดโรคหัวใจ ประเทศสหรัฐอเมริกา แพทย์ก็จะใช้วิธีการสร้างความผ่อนคลาย ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ
การฝึกสมาธิเป็นวิธีหนึ่งที่แพทย์มักจะนำมาใช้ฝึกให้ผู้ป่วย แพทย์ท่านหนึ่งที่นำเอาสมาธิมาใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ คือ นพ.เมห์เมต ออซ (Mehmet Oz) เป็นศัลยแพทย์ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ รพ.โคลัมเบีย เพรสบริทาเลี่ยน นิวยอร์ค
งานของเขาคือผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้ผู้ป่วยที่เส้นเลือดหัวใจตีบที่เป็นมากแล้ว และได้รับการรักษาโดยการขยายเส้นเลือด หรือผ่าตัดต่อเส้นเลือดใหม่ (Bypass surgery) มาแล้ว
เมื่อทำทุกวิธีแล้ว สุดท้ายก็คือการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ (Cardiac Transplantation) โดยมีผู้แสดงความจำนงบริจาคให้ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนไว้
คนไข้ต้องมานอนรอที่โรงพยาบาล เมื่อผู้บริจาคเสียชีวิตลง แพทย์ก็จะนำหัวใจของเขามาเปลี่ยนให้ ผู้ป่วยที่มานอนรอที่โรงพยาบาล บางคนรออยู่ 6 เดือน หรือ 1 ปี จึงจะได้รับการเปลี่ยนหัวใจ มีหลายคนเสียชีวิตก่อนได้รับหัวใจ ทำให้คนไข้เหล่านี้มีปัญหาทางด้านจิตใจ
หลายคนวิตกกังวล ซึมเศร้า ท้อแท้ สิ้นหวัง เขาพบว่า ผู้ป่วยที่มีสภาพทางจิตใจดังกล่าว จะทำให้ผลการผ่าตัดไม่ดี อัตราการตายสูง แต่ถ้าผู้ป่วยมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง มีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ยังใจสู้ ผลการผ่าตัดก็จะดี ก็มักจะรอด
ดังนั้น เขาจึงเริ่มฝึกสมาธิให้ผู้ป่วยที่มานอนรอรับการผ่าตัดในโรงพยาบาล ผลปรากฏว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการฝึกสมาธิ จะทำให้ผลของการผ่าตัดดีขึ้น อัตราตายลดลง อาการแทรกซ้อนหลังผ่าตัดน้อยลง ฟื้นตัวได้เร็ว ผู้ป่วยมีความวิตกกังวลและซึมเศร้าลดลง นอนหลับดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น
เขาได้เขียนเล่าประสบการณ์ของตนเองในหนังสือชื่อ Healing from the Heart หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัล The book for a better life award
ในบทที่ 6 ของหนังสือเล่มนี้ คือ เรื่อง บทเรียนจากวัดโพธิ์ (Lesson from wat Po) เพราะเขาเคยมาเที่ยวเมืองไทย ได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับการนวดแบบไทย และได้นำกลับไปใช้ในสถาบันของเขา
เมื่อเขาเดินทางมาสอนการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดทรวงอก (Open heart surgery) ที่มหานครปักกิ่ง ประเทศจีน เขาก็ได้เรียนรู้เรื่องของการฝังเข็ม
นพ.เมห์เมต ออซ เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาได้นำเอาศาสตร์ตะวันออกผสมผสานกับศาสตร์ของแพทย์แบบตะวันตกได้อย่างกลมกลืน ทำให้สามารถแก้ไขจุดอ่อนของการแพทย์แบบตะวันตก ซึ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยเฉพาะด้าน มาเป็นการดูแลแบบองค์รวม ซึ่งเน้นการดูแลเรื่องจิตใจเข้าไว้ด้วย
หมอออซศึกษาทั้งวิชาการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือก ทำให้เขามีความรู้กว้างขวาง และรู้จักการผสมผสานข้อดีของการแพทย์ทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน
เขาได้จัดตั้งหน่วยการแพทย์ผสมผสานขึ้นในภาควิชาศัลยศาสตร์ โดยนำเอาศาสตร์ด้านการแพทย์ทางเลือกหลายประการ เช่น โภชนบำบัด วิตามินและเกลือแร่ อาหารเสริม ดนตรีบำบัด สุคนธบำบัด การสะกดจิตบำบัด โยคะ สมาธิบำบัด การนวด การฝังเข็ม พลังบำบัด โฮมิโอพาที เป็นต้น มาใช้ในผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น
นอกจากนั้น เขายังจัดรายการโทรทัศน์ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแก่ประชาชนทั่วไป ชื่อรายการ Dr.Oz Show รายการของเขานับว่า เป็นรายการยอดฮิตของอเมริกาในเครือของออฟปรา วินด์ฟรี ได้รับรางวัลรายการทีวียอดเยี่ยม ด้านให้สาระประโยชน์ต่อสังคม (www.doctoroz.com)
ท่านสามารถเข้าไปดูได้ใน www.youtube.com/the Dr.Oz show ก็จะมีรายการน่าสนใจให้ดูมากมายหลายตอน (ขณะนี้ทางบ้านเรา โดยสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ได้นำรายการ Dr.Oz Show มาออกอากาศทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เวลา 22.30 น.)
นอกจากนั้น เขายังเป็นประธานองค์กรที่เรียกว่า Healthcorps ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนไม่แสวงหากำไร ทำงานกระตุ้นเด็กนักเรียนในโรงเรียนมัธยม ให้มาร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อให้มีสุขภาพดี เช่น โครงการเข้าค่ายสุขภาพ โครงการรณรงค์ลดโรคอ้วนในเด็ก โครงการรณรงค์โรคเบาหวานในเด็ก เป็นต้น เนื่องจากเด็กในอเมริกาเริ่มมีปัญหาสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นโรคอ้วน โรคเบาหวาน เป็นต้น
หมอออซเขียนหนังสือเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพสำหรับประชาชนจำนวนมาก ซึ่งเป็นหนังสือขายดีของนิวยอร์ค ไทม์ เช่น You : The Owner's Manual, You : The Smart Patients, You : On a Diet, You : Staying Young เป็นต้น ซึ่งในบ้านเราก็มีวางขายในร้านหนังสือต่างประเทศ และเขายังเขียนบทความลงในวารสารต่างๆหลายเล่ม เช่น New York Times, Esquier Magazine เป็นต้น
• ประวัติ นพ.เมห์เมต ออซ
นพ.เมห์เมต ออซ เรียนจบแพทย์ศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และศัลยแพทย์ทางหัวใจที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เข้าทำงานที่โรงพยาบาลโคลัมเบีย เพรสไบทาเลี่ยน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่นิวยอร์ค
เขาทำงานผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจปีละ 250 ครั้ง มีผลงานรายงานการศึกษาวิจัยด้านโรคหัวใจ 400 ชิ้น เขียนตำราแพทย์ไว้หลายบทเกี่ยวกับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ในปี 2001 และได้รับรางวัลต่างๆ อย่างมากมาย เช่น รางวัลบุคคลดีเด่น 1 ใน 100 ของนิตยสารไทม์ ในปี 2008, รางวัล 75 บุคคล ผู้ทรงอิทธิพลในศตวรรษที่ 21 ของนิตยสาร Esquire, 1 ใน 100 ศิษย์เก่าดีเด่นแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
รวมทั้งเขายังได้รับยกย่องเป็นผู้นำแห่งโลกอนาคต โดย World Economic Forum และได้รับการบันทึกและประกาศเกียรติคุณแพทย์ดีเด่นแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา และรางวัลวิจัยทางการแพทย์อื่นๆอีกมากมาย
ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน www.doctoroz.com และฟังคำบรรยายของเขาเกี่ยวกับประโยชน์ของสมาธิได้ใน youtube.com/Dr.Oz on Transcendental Meditation และ Dr.Mehmet Oz : How can you overcome stress build-up? และเรื่อง Behind the scrubs-Dr Oz.
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 161 พฤษภาคม 2557 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)