xs
xsm
sm
md
lg

ปุจฉา - วิสัชนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นั่งสมาธิไม่ได้นาน
นั่งสมาธิไม่ได้นาน

ปุจฉา : หลวงปู่คะ เรามีวิธีอะไรที่จะทำให้เรานั่งสมาธิได้นานขึ้น ไม่เคยได้นั่งสมาธิได้นานๆเหมือนคนอื่น คือ หนูจะรู้สึกว่า ถ้าคุยกับพูดก็จะทำได้นาน แต่ถ้านั่งสมาธิ หนูจะทำได้สั้นมากๆ ก็ไม่ไหวแล้ว หนูก็เลยลืมตาขึ้นมา คือมันนั่ง มันไม่นิ่งค่ะ ไม่รู้จะมีวิธีอย่างไร ขอหลวงปู่โปรดช่วยแนะนำด้วยค่ะ

วิสัชนา :

คำว่า “นั่งนาน” ไม่เกี่ยวกับกับคำว่า “นั่งแล้วใจนิ่ง” หรือ “นั่งนิ่ง”

นั่งนิ่งบางทีนั่งหลับก็นั่งได้นานนะ

เออ.. ถ้าถามว่า จะทำยังไงให้เรามีสมาธิตั้งมั่นอยู่ได้นาน อย่างนี้ก็ไม่จำเป็นว่าเราต้องนั่ง บางทีเรายืนก็ได้ เดินก็ได้ เมื่อไรที่เราตั้งใจที่จะทำการงาน นั่นแหละ เรามีสมาธิแล้วล่ะ แต่เป็นสมาธิระดับขณิกสมาธิ

แต่ถ้าทำบ่อยๆฝึกบ่อยๆ ทำตนให้เป็นคนเชื่อมั่น และตั้งมั่นอยู่ในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำได้อย่างยาวนาน นั่งยืน ไม่วอกแวก ไม่สับสน ขณิกสมาธิจะพัฒนาเข้าไปสู่อุปจารสมาธิ

ถ้าอย่างนั้นไม่จำเป็นต้องมานั่งเฉยๆ แต่การนั่งเฉย มันเป็นรูปลักษณ์อย่างหนึ่งที่จะทำให้เราตัดวิถีทางของทางโลกที่ไม่ต้องให้มายุ่งกับเรา เราต้องการโลกส่วนตั๊วส่วนตัวที่เราจะอยู่กับการงานทางจิต นั่นเรียกว่า กรรมฐาน มันต้องฝึกบ่อยๆ ไม่ใช่นานๆทำที ฝึกบ่อยๆฝึกเรื่อยๆ ฝึกจนเป็นนิสัย ฝึกจนกลายเป็นสันดาน


ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้สิ้นกิเลส

ปุจฉา : ในการทำบุญทุกครั้ง ตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้สิ้นต่อกิเลสในชาตินี้ และได้ไปนิพพานด้วยเทอญ จะถือว่าคำขอเช่นนั้นเป็นตัณหาชนิดหนึ่งหรือไม่?

วิสัชนา :

ทุกอย่างก็เป็นตัณหาทั้งนั้นแหละ การที่เราต้องการทำบุญก็เป็นตัณหา ตัณหาคือความอยาก แต่มันเป็นส่วนอยากที่เป็นกุศล หรืออกุศลล่ะ สำคัญมันอยู่ตรงนั้น กุศลคือความฉลาด อกุศลคือความโง่ ความอยากที่จะทำตัวให้ฉลาดขึ้น สว่างกระจ่างขึ้น เรียกว่า กุศล

เพราะฉะนั้น การทำบุญแล้วปรารถนานิพพานนั้น ต้องบอกว่า บุญไม่ใช่เครื่องยังให้สำเร็จถึงนิพพาน นิพพานเป็นวิธีการลงไม้ลงมือที่จะกระทำ เป็นการฝึกหัดดัดกาย วาจา ใจ เพื่อเข้าไปสู่ความหมายของคำว่านิพพาน แต่ไม่ใช่ทำบุญแล้วได้นิพพาน

นิพพานไม่มีบุญ ไม่มีบาป ไม่มีกุศล และอกุศล นิพพานไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวตน แต่นิพพานคือความว่าง นอกเหนือไร้ขีดจำกัด เป็นความสะอาดเหนือขีดจำกัด เป็นความสว่างและความสงบเหนือการคาดเดา

เพราะฉะนั้น ความหมายของนิพพาน มันไม่ใช่ได้มาจากการขอหรือทำบุญ แต่ได้มาจากการทดสอบ พิสูจน์ทราบ ค้นหา และค้นคว้า ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน และลงไม้ลงมือกระทำตามที่ค้นคว้าได้แล้วนั้น อย่างจริงจังและจริงใจ นั่นแหละคือนิพพาน เป็นการสลัดตัดให้หลุดจากสิ่งที่ฉุดให้เราหลงใหลและได้ปลื้มไปด้วย คือความหมายของนิพพาน

สรุปก็คือนิพพานได้มาจากการลงไม้ลงมือกระทำ ไม่ใช่ได้มาจากการสวดมนต์ อ้อนวอน หรือขอพร


มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?

ปุจฉา : คนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เราควรทำอย่างไรกับชีวิต อะไรคือจุดหมายที่แท้จริงของการดำรงชีวิต อะไรคือความจริงแห่งชีวิตครับ?

วิสัชนา :

อ่านคำถามของคุณแล้ว อยากบอกว่า... อย่าคิดมากนะ รักษาสุขภาพด้วย

ขณะเดียวกันก็ต้องขอชมว่า คุณเริ่มจะเข้าใจชีวิตได้มากขึ้นแล้ว ที่กล่าวดังนี้ เพราะชีวิตคือการตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบ การที่คุณรู้จักตั้งคำถามในชีวิตต้องถือว่าเป็นเรื่องดี ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่สามารถค้นหาคำตอบได้ด้วยตัวคุณเอง ก็ไม่ถือว่าผิดบาปอะไร

ขอเพียงมีคำถาม สักวันคุณต้องได้รับคำตอบด้วยตนเอง นั่นจึงจะถือว่าเป็นคำตอบที่เหมาะเจาะถูกต้องต่อตัวคุณ แต่ถ้าจักให้ฉันช่วยตอบให้ ก็ต้องขอตอบว่า... คนเรามีชีวิตอยู่เพื่อตาย แต่ก่อนจะตาย ควรจักปลดปล่อยชีวิต จิตวิญญาณให้หลุดพ้นจากเครื่องร้อยรัด พันธนาการ และผูกพันทั้งปวง

ขณะเดียวกันก็นำพาชีวิตนี้ให้ทำดี มีสาระ ปราศจากสภาวะความผิดพลาด หรือถ้าจะผิด ก็ขอให้ผิดน้อยที่สุดด้วยความสำนึกว่า นี่คือหน้าที่สำคัญของชีวิต เรียกว่า มีลมหายใจ ได้ชีวิต เกิดพลัง ใช้ชีวิตสร้างสรรสาระ เมื่อหมดลมหายใจ สิ้นชีวิต ไร้พลัง แต่ยังไม่สิ้นสาระ

และโปรดขอให้คุณได้เข้าใจด้วยว่า ที่สุดของสรรพสิ่งทั้งปวงที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงแค่สมมติ ขอให้ใช้สมมติ ยอมรับในสมมติ ให้ประโยชน์กับสมมติ ได้ประโยชน์จากสมมติ และท้ายที่สุดอย่ายึดติดในสิ่งที่เป็นสมมติ เหล่านี้คือคำตอบเรื่องชีวิต


(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 156 ธันวาคม 2556 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้สิ้นกิเลส
มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?
กำลังโหลดความคิดเห็น