xs
xsm
sm
md
lg

อสีติมหาสาวก : กลุ่มพระต่างแค้วน (ตอนที่ ๙๗)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลุ่มพระต่างแคว้น คือ กลุ่มพระที่ออกบวชต่างแคว้นละ ๑ รูป (เฉพาะที่เป็นพระอสีติมหาสาวก) มี ๖ รูป คือ พระพาหิยะ พระปุณณะ พระทัพพะ พระรัฐบาล พระโสณโกฬิวิสะ พระมหากัปปินะ แต่ละรูปมีประวัติที่น่าศึกษาดังนี้

เอตทัคคะ – อดีตชาติ

บรรดาพระอสีติมหาสาวกต่างแคว้นดังกล่าวนี้ ที่ได้รับตำแหน่งเอตทัคคะมี ๕ รูป คือ พระพาหิยะ พระทัพพะ พระรัฐบาล พระโสณโกฬิวิสะ และพระมหากัปปินะ

พระพาหิยะ พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านบรรลุธรรมได้เร็ว

พระทัพพะ พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านจัดเสนาสนะ

พระรัฐบาล พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านออกบวชด้วยศรัทธา

พระโสณโกฬิวิสะ พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านปรารภความเพียร

พระมหากัปปินะ พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านการกล่าวสอนภิกษุ

พระพุทธเจ้าทรงตั้งพระอสีติมหาสาวก ๕ รูปนี้ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ ตามความสามารถในชาติปัจจุบันและตามที่ตั้งจิตปรารถนาไว้ในอดีตชาติ

พระพาหิยะ ตั้งจิตปรารถนาไว้ตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ครั้งนั้นท่านเกิดเป็นกุลบุตรชาวเมืองหงสวดี วันหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมกับพวกชาวเมืองเพื่อฟังธรรม เห็นพระพุทธเจ้าทรงตั้งพระสาวกรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านบรรลุธรรมได้เร็ว (ขิปปาภิญญา) แล้วเกิดศรัทธาปรารถนาจะได้เป็นเช่นสาวกรูปนั้นบ้าง ท่านแสดงศรัทธาให้ปรากฏ ด้วยการทำความดีต่างๆ ตามที่พระพุทธเจ้าปทุมุตตระตรัสสอน จนเป็นเหตุให้ได้รับพุทธพยากรณ์ว่า

“ในอีก ๑๐๐,๐๐๐ กัปข้างหน้า พระพุทธเจ้าโคดมจักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เธอจักได้ออกบวชเป็นสาวกของพระองค์ จักได้บรรลุอรหัตผล พระพุทธเจ้าโคดมจักตั้งเธอไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านบรรลุธรรมเร็ว”

ท่านได้ฟังพระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์แล้วเกิดปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ได้ทำบุญอื่นๆ สนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต จากชาตินั้นบุญส่งผลให้เวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ จนมาถึงพุทธุปบาทกาลของพระพุทธเจ้ากัสสปะ

ชาติที่พบพระพุทธเจ้ากัสสปะนั้น ท่านเกิดเป็นกุลบุตรชาวเมืองพาราณสี หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนากำลังเสื่อมใกล้จะสูญสิ้น ท่านได้ออกบวช และได้เห็นพระสาวกต่างประพฤติผิดธรรมผิดวินัยกันเป็นจำนวนมาก แล้วเกิดความสลดใจ

ท่านพร้อมด้วยเพื่อนพระอีก ๖ รูป จึงชวนกันหลีกออกจากหมู่คณะ ขึ้นไปปฏิบัติธรรมบนยอดเขา โดยตั้งใจว่าจะไม่กลับลงมาอีก ล่วงไปได้ ๕ วันเพื่อนที่เป็นพระเถระก็ได้บรรลุอรหัตผล และล่วงวันที่ ๗ เพื่อนที่เป็นพระเถระรองลงมาก็ได้บรรลุอนาคามิผล ส่วนพระอีก ๕ รูป เมื่อยังไม่บรรลุมรรคผลขั้นใดเลย ก็ไม่ยอมฉันอาหาร จนร่างกายซูบผอม แล้วมรณภาพลงในที่สุด

หลังจากพระเถระรูปแรกนิพพานได้ไม่นาน พระเถระรูปที่ ๒ ก็มรณภาพ พระเถระรูปที่ ๒ ซึ่งได้บรรลุอนาคามิผลนั้น ครั้นมรณภาพแล้วก็ไปเกิดเป็นมหาพรหมอยู่ในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส ส่วนพระอีก ๕ รูปที่ยังเป็นปุถุชน มรณภาพแล้วก็ไปเกิดอยู่ในเทวโลกสิ้นพุทธันดรหนึ่ง จนมาถึงพุทธุปบาทกาลของพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ทั้งหมดได้มาเกิดเป็นมนุษย์

พระพาหิยะผู้เป็น ๑ ใน ๕ รูปนั้น มาเกิดเป็นบุตรของกฎุมพีในแคว้นพาหิยะ ครั้นแล้วก็ได้บรรลุอรหัตผล แต่ด่วนนิพพานก่อนจะได้บวช

อาศัยเหตุที่ตั้งจิตปรารถนามาแต่อดีตชาติ ประกอบกับความสามารถในปัจจุบันชาติที่สามารถบรรลุธรรมได้เร็ว พระพุทธเจ้าจึงทรงตั้งท่านไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านบรรลุธรรมได้เร็วดังกล่าวมาแล้ว

พระทัพพะ ตั้งจิตปรารถนาไว้ตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ครั้งนั้นท่านเกิดเป็นบุตรเศรษฐีชาวเมืองหงสวดี วันหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมกับพวกชาวเมืองเพื่อฟังธรรม เห็นพระพุทธเจ้าทรงตั้งพระสาวกรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านจัดเสนาสนะ แล้วเกิดศรัทธาปรารถนาจะได้เป็นเช่นพระสาวกรูปนั้นบ้าง

ท่านแสดงศรัทธาให้ปรากฏ ด้วยการถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าและพระสาวก ติดต่อกัน ๗ วัน วันสุดท้ายท่านได้กราบทูลพระพุทธเจ้าให้ทรงทราบถึงความปรารถนาของท่าน และได้รับพุทธพยากรณ์ว่า

“ในอีก ๑๐๐,๐๐๐ กัปข้างหน้า พระพุทธเจ้าโคดมจักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เธอจักได้ออกบวชเป็นสาวกของพระองค์ จักได้บรรลุอรหัตผล พระพุทธเจ้าโคดมจักตั้งเธอไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านจัดเสนาสนะ”

ท่านได้ฟังพระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์แล้วเกิดปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ได้ทำบุญอื่นๆสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต จากชาตินั้น บุญส่งผลให้เวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ จนมาถึงพุทธุปบาทกาลของพระเจ้าวิปัสสี

ชาติที่พบพระพุทธเจ้าวิปัสสีนั้น ท่านเกิดเป็นชาวเมืองพันธุมดี ได้ถวายสลากภัตรแด่พระพุทธเจ้าวิปัสสีและแก่พระสาวก และยังได้ทำบุญอื่นๆ สนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต จากชาตินั้นบุญส่งผลให้เวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ จนมาถึงพุทธุปบาทกาลของพระพุทธเจ้ากัสสปะ

ชาติที่พบพระพุทธเจ้ากัสสปะ ท่านเกิดเป็นชาวเมืองพันธุมดี ได้ถวายสลากภัตรแด่พระพุทธเจ้าซึ่งเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนากำลังเสื่อมใกล้จะสูญสิ้น ท่านได้ออกบวช และได้เห็นพระสาวกต่างประพฤติผิดธรรมผิดวินัยกันเป็นจำนวนมาก แล้วเกิดความสลดใจ ท่านพร้อมด้วยพระอีก ๖ รูป ซึ่งมีพระพาหิยะรวมอยู่ด้วย จึงชวนกันหลีกออกจากหมู่คณะขึ้นไปปฏิบัติธรรมบนยอดเขา

ท่านเป็นเช่นเดียวกับพระพาหิยะ คือ นับเนื่องอยู่ในจำนวนพระ ๕ รูปที่ไม่ได้บรรลุมรรคผลขั้นใดเลย ครั้นมรณภาพแล้วก็ไปเกิดอยู่ในเทวโลกพร้อมกับพระ ๔ รูปสิ้นพุทธสันดรหนึ่ง

จนมาถึงพุทธุปบาทกาลของพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ทั้งหมดได้มาเกิดเป็นมนุษย์ พระทัพพะมาเกิดเป็นราชบุตรเชื้อสายราชวงศ์มัลละ ในอนุปิยนิคม แคว้นมัลละ ครั้นแล้วก็ได้ออกบวชและได้บรรลุอรหัตผล

อาศัยเหตุที่ตั้งจิตปรารถนามาแต่อดีตชาติ ประกอบกับความสามารถในชาติปัจจุบันที่สามารถจัดเสนาสนะแจกจ่ายได้ดียิ่ง พระพุทธเจ้าจึงทรงตั้งท่านไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านจัดเสนาสนะดังกล่าวมาแล้ว

พระรัฐบาล ตั้งจิตปรารถนาไว้ตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ และครั้งพระพุทธเจ้าปุสสะ ในช่วงเวลานั้น ท่านเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ จนมาถึงพุทธุปบาทกาลของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ท่านมาเกิดเป็นบุตรเศรษฐีในถุลลโกฎฐิตนิคม แคว้นกุรุ ครั้นออกบวชก็ได้บรรลุอรหัตผล

อาศัยเหตุที่ตั้งจิตปรารถนามาแต่อดีตชาติ ประกอบกับเหตุการณ์ในชาติปัจจุบัน ที่แสดงศรัทธาปรารถนาจะออกบวชอย่างแรงกล้า พระพุทธเจ้าจึงทรงตั้งท่านไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านออกบวชด้วยศรัทธา

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 145 มกราคม 2556 โดย ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ)
กำลังโหลดความคิดเห็น