xs
xsm
sm
md
lg

พลิกชีวิต : ชีวิตที่พลิกผันสุดขั้วของ ‘นิกร บรรเจิดเลิศ’ จากเด็กเฝ้าห้องน้ำ สู่กูรูสปา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กล่าวได้ว่าในแวดวงโรงแรมและธุรกิจสปาในภูเก็ตนั้น น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก 'นิกร บรรเจิดเลิศ' เจ้าของบริษัท Roseberry ซึ่งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจสปา แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่ากว่าจะมีวันนี้ นิกรได้ผ่านปัญหา ความผิดพลาดและล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน

จากเด็กเที่ยว ติดเหล้า เสพยา เป็นเกย์ ผิดหวังในชีวิตจนคิดสั้นฆ่าตัวตาย ต้องจำใจทำงานเป็นเด็กเฝ้าห้องน้ำสปา แต่ปัจจุบันเขากลายเป็นกูรูสปา และเรกิมาสเตอร์ (เรกิ หรือพลังจักวาล คือการบำบัดโรคแบบพุทธบำบัด โดยนำพลังจากธรรมชาติมาใช้ฝึกจิตให้สงบ เพื่อเข้าสู่สภาวธรรม และปรับความสมดุลให้กับร่างกาย) ที่ให้คำปรึกษาปัญหาทั้งทางกายและทางใจแก่ผู้คนในหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่คนยากจนที่สิ้นหวังในชีวิต ถึงระดับอภิมหาเศรษฐี

อะไรที่ทำให้ชีวิตของผู้ชายคนนี้ เปลี่ยนแปลงพลิกผันไปอย่างสุดขั้วชนิดกลับดำเป็นขาวเช่นนี้

• ปมในใจ กลายเป็นแรงผลักดัน

นิกรย้อนความถึงชีวิตในวัยเยาว์ให้ฟังว่า เขาเกิดและเติบโตมากับความยากจนและขาดแคลน ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ได้ฝังลึกกลายเป็นปมในใจตลอดมา แต่ในทางกลับกัน 'ปม' ที่ว่าก็กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เขามีความมุมานะ เพราะฝันว่าอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

“บ้านเดิมผมอยู่ที่นครศรีธรรมราช พ่อกรีดยาง แม่จบ ป.4 ผมเกิดมาไม่มีไฟฟ้า ไม่มีตู้เย็น ไม่มีมอเตอร์ไซค์ ผมมองว่ามันขาดนะ มันเป็นปม ขณะที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นปม แล้วก็ทุกข์กับมัน แต่ผมมองว่าปมที่เกิดขึ้นมันเป็นแรงผลักดันให้เราหาหนทางที่จะก้าวไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า

ผมมีเป้าหมายว่าอยากพูดภาษาอังกฤษเก่งๆ อยากมีเมียฝรั่ง ก็เลยเลือกไปเรียนและหางานทำที่ภูเก็ต และความที่เราเป็นคนบ้านนอก มันเชย ก็เลยฝันว่าอยากจะไปเมืองนอก แล้วด้วยความที่ผมเป็นเด็กเรียนดี ทางบ้านจึงคาดหวังกับผมเยอะ แม่อยากให้เป็นหมอ พอสอบเข้าเรียนมัธยมที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศได้ ผมเลยเลือกเรียนสาขาวิทย์-คณิต ทั้งที่ความจริงผมชอบภาษากับศิลปะ ปรากฏว่าสอบตก เพราะทำวิชาเลขไม่ได้ ทำให้ผมเรียนไม่จบเบญจมฯ ซึ่งเป็นแผลในใจมาตลอด

ตอนนั้นถึงขั้นนอนร้องไห้ ก็เลยตั้งจิตอธิษฐานว่า ชีวิตนี้ผมต้องเจ๋งกว่าเด็กเบญจมฯคนอื่นๆให้ได้ จนกระทั่งเป็นแรงผลักมหาศาล ทำให้ผมมีความพยายามและอดทน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แล้ววันหนึ่งผมได้กลับไปบรรยายที่เบญจมราชูทิศในฐานะศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ ทั้งๆที่ผมไม่ได้จบที่นั่น ผมก็บอกน้องๆว่า รู้ไหมว่ากว่าจะมีวันนี้ ผมใช้เวลาถึง 25 ปี” นิกรกล่าวยิ้มๆ

เนื่องจากสอบตกที่เบญจมราชูทิศ นิกรจึงต้องย้ายโรงเรียนกลางคัน หลังจากที่จบชั้นมัธยมเขาก็เดินตามความฝัน โดยได้โควต้าเข้าเรียนสาขาอังกฤษธุรกิจ ที่วิทยาลัยครูภูเก็ต และสามารถคว้าปริญญาตรี เอกภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยพายัพได้ในที่สุด ซึ่งความรู้ด้านภาษานี่เองที่ปูทางให้เขาเดินไปสู่ความฝัน

นิกรผ่านการสมัครงานเข้าไปทำงานในโรงแรมหรูระดับห้าดาวอย่าง "บันยันทรีรีสอร์ท ภูเก็ต" ในตำแหน่ง "Spa attendant" ซึ่งแม้จะเป็นแค่พนักงานดูแลห้องน้ำสปา และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแขก แต่เขาไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หากแต่พยายามทำงานอย่างเต็มความสามารถ จนหน้าที่การงานก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ สู่ตำแหน่งรีเซฟชั่นสปา, ซีเนียร์สปารีเซฟชั่น, ซูเปอร์ไวเซอร์, ผู้ช่วยผู้จัดการ และขึ้นตำแหน่งผู้จัดการสปา มีเงินเดือนในสมัยนั้นถึง 50,000 บาท

• เคยเป็นเกย์ และฆ่าตัวตาย

ชีวิตไม่ได้มีแต่แสงเจิดจ้าที่งดงามสว่างไสวเท่านั้น หากแต่ยังมีความมืดมิดในค่ำคืนอันปวดร้าวและหนาวเหน็บ ระหว่างทางที่เดินนั้นนิกรก็เคยก้าวพลาด ผิดหวัง เสียใจ จนถึงขั้นลงมือฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง เดชะบุญที่ไม่สำเร็จ เพราะช่วงชีวิตที่ย้ายไปเรียนในระดับอุดมศึกษาที่ภูเก็ตนั้น นับเป็นครั้งแรกที่นิกรได้ไปใช้ชีวิตอิสระท่ามกลางเมืองแห่งแสงสีที่ไม่เคยหลับ

เขาเริ่มเที่ยวกลางคืน หลงมัวเมาไปกับอบายมุข จนเงินที่แม่ให้มาเรียนหนังสือไม่พอใช้ ต้องไปทำงานพิเศษเป็นบ๋อยในโรงแรม การเรียนก็เริ่มแย่ลง จนขึ้นปี 2 จึงเริ่มมีสติ เที่ยวน้อยลง แต่ก็ไม่ได้เลิกเสียทีเดียว และช่วงนั้นเองที่เขาเริ่มเดินหลงทาง ถึงขั้นคบหาและอยู่กินกับผู้ชายด้วยกันนานถึง 6 ปี จนคิดว่าชาตินี้คงเป็นเกย์ไปตลอดชีวิต

“คือโรงแรมที่ผมทำงานจะมีเพศที่ 3 เยอะ ทั้งตุ๊ดทั้งเกย์ ด้วยความเป็นเด็กอายุ 17-18 เราก็ไม่คิดอะไรมาก อยากรู้อยากลอง มีอะไรกับผู้ชายก็ไม่เห็นเสียหาย ตอนแรกคิดว่าจะเล่นๆ แบบมีคนเลี้ยงเหล้า ซื้อของให้ ไม่คิดอะไร คิดแค่ว่าคืนเดียวก็พอ แต่จาก 1 ก็เป็น 2, 3, 4เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี มันเกิดเป็นความผูกพันเห็นอกเห็นใจ กระทั่งใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชาย 5-6 ปี ตอนนั้นคิดว่าเราคงเป็นเกย์ไปตลอดแล้วล่ะ

แต่อยู่ๆเขาก็มีคนใหม่ แล้วก็ทิ้งเราไป ตอนนั้นเสียใจมาก บวกกับที่บ้านมีปัญหา เลยทำให้ตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย แต่พี่คนที่ทิ้งเราไปมาเจอและช่วยไว้ทัน หลังจากนั้นผมก็พยายามฆ่าตัวตายอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ ทุกวันนี้ก็รู้สึกขอบคุณพี่เขานะ ถ้าเขาไม่ช่วย ผมก็คงตายไปแล้ว และถ้าเขาไม่ทิ้งเราไป เราก็คงไม่มีแรงฮึดที่ทำให้ชีวิตเรามาไกลขนาดนี้ เรียกว่าก่อนที่จะประสบความสำเร็จเนี่ย ชีวิตผมล้มเหลวมาตลอดนะ ขนาดฆ่าตัวตายยังล้มเหลว จะเป็นเกย์ก็ล้มเหลว (หัวเราะ)” นิกรเล่าติดตลก

• ก้าวสู่ “กูรูสปา”

นอกจากการได้ซึมซับการบริหารจัดการด้านสปาใน"บันยันทรีรีสอร์ท" รีสอร์ทหรูระดับโลก ซึ่งมีมหาเศรษฐีและผู้มีชื่อเสียงจากทั่วโลกเข้ามาใช้บริการแล้ว ที่สำคัญเขายังมีโอกาสได้เรียนเรกิหรือพลังจักรวาล จากครูสอนเรกิชาวอังกฤษ และจากหัวหน้าชาวนิวซีแลนด์ โดยครูสอนเรกิกำชับว่า "เขาเป็นคนที่มีพลังในการช่วยบำบัดคนอื่น"

ต่อมาเขาได้ลาออกจาก "บันยันทรีรีสอร์ท" และร่วมทำธุรกิจกับคนรักชาวต่างชาติ ซึ่งก็คือภรรยาในปัจจุบัน ด้วยการเปิดบริษัท Roseberry ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านสปา และผลิตสินค้าเกี่ยวกับสปาจำหน่ายด้วย

กระทั่งวันหนึ่งนิกรพบว่าเขาเป็นนิ่วในไตทั้ง 2 ข้าง แต่เมื่อถึงวันผ่าตัด กลับเกิดเหตุการณ์สึนามิถล่มภูเก็ต เขาจึงเริ่มใช้เรกิในการบำบัดตัวเองและช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยจากสึนามิ

นับเป็นโชคดีที่เขามีภรรยาที่เป็นทั้งกูรูสปาและเรกิมาสเตอร์ เขาจึงนำความรู้มาทำเรกิให้กับลูกค้าในรีสอร์ทที่รับเป็นที่ปรึกษา ซึ่งปรากฎว่าได้ผลดีมาก และที่น่าอัศจรรย์คือ เขาใช้เวลาบำบัดเพียงเดือนกว่าๆ อาการปวดหลังและนิ่วของเขาหายไปเป็นปลิดทิ้ง เขาจึงเกิดแรงบันดาลใจในการศึกษาศาสตร์เรกิจนจบขั้นสูงสุด และถ่ายทอดวิชานี้ให้คนอื่นได้ด้วย

ช่วงแรกๆ ที่นิกรใช้เรกิในการบำบัดให้แก่ผู้คนนั้น เขาช่วยเหลือฟรีๆ ไม่คิดเงิน คนที่เขาช่วยเหลือส่วนใหญ่จะป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ และเมื่อชื่อเสียงด้านนี้ของเขาแพร่สะพัดออกไป จึงมีผู้คนสนใจเข้ารับการบำบัดจากเขาเป็นจำนวนมาก

ชายหนุ่มได้มีโอกาสทำเรกิให้กับบุคคลชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงจากประเทศอินเดีย, Susie Ellis เจ้าของหนังสือ SPA FINDER หนังสือสปาอันดับ 1 ของโลก, Sergey มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย, Mark Owen อดีตนักร้องวง TAKE THAT เพื่อนของร็อบบี้ วิลเลี่ยม รวมถึงนักธุรกิจที่มีชื่ออีกไม่น้อย

นอกจากนั้น เขายังได้จัดคอร์สเรกิให้กับสปาระดับโลกอย่าง Six Senses Spa Phuket, Six Senses Destination Spa เกาะนาคา ไปสอนเรื่องสมาธิ พลังจิต และทำพลังบำบัดให้ลูกค้าที่รีสอร์ทหรูที่มัลดีฟส์

ผลงานของนิกรโด่งดังถึงขั้นได้รับการกล่าวถึงใน In flight Magazine ของสายการบินดังอย่าง British Airways, Spa Finder นิตยสารสปาที่ดีที่สุดมีชื่อเสียงที่สุดของโลก และ Amex Centurion UK และ The Departures UK

• ในความโชคร้าย มักมีความโชคดี

นิกรบอกว่าเหตุที่การบำบัดด้วยเรกิประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด เพื่อกำจัดความทุกข์ออกจากใจ โดยให้ความสำคัญกับลมหายใจมากกว่าปัญหาทางกายทางใจที่เกิดขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อคิดเป็นคิดได้ใจก็เป็นสุข เมื่อใจเป็นสุขก็ย่อมส่งผลถึงร่างกายให้ฟื้นฟูแข็งแรงด้วย เท่ากับเป็นการดึงพลังชีวิตให้กลับคืนมา แต่หากใจมัวคิดวนเวียนถึงปัญหาและความทุกข์ นอกจากใจจะเศร้าหมองแล้วก็จะส่งผลต่อปฏิกิริยาต่างๆในร่างกายด้วย

“คนส่วนใหญ่หลงประเด็น อยากให้ชีวิตเพอร์เฟค จนลืมคิดไปว่ามีใครบ้างในโลกนี้ที่ไม่เคยผิดพลาด ไม่เคยล้มเหลว ไม่มีหรอก มันเป็นเรื่องธรมดาของชีวิต อยู่ที่ว่าเรามองยังไง ผมเองจะเป็นเกย์ก็ล้มเหลว ฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง แต่ไม่เคยสำเร็จ (หัวเราะ) ในชีวิตเนี่ยเราไปหลงประเด็นกัน ไปให้ค่ากับสิ่งที่ไม่ใช่สาระในชีวิต ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

แต่ถ้าเรารู้ว่า จริงๆแล้วลมหายใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เสียงนินทา ไม่ใช่ความคาดหวังของใคร เราจะกลับมามีสติมากขึ้น จากคนที่เคยมีปมมากที่สุดคนหนึ่ง ตอนนี้งานหลักของผมคือช่วยคนแก้ปมนะ

ลูกค้าผมจำนวนไม่น้อยเป็นมหาเศรษฐีชาวต่างชาติ เขาคิดแบบคนส่วนใหญ่ว่า ถ้ายิ่งรวยมากขึ้นนั่นคือความสำเร็จ ซึ่งคนเหล่านี้ทุกข์เขาซับซ้อนมากกว่าเรานะ ซึ่งผมคงให้คำแนะนำเขาไม่ได้ ถ้าไม่ผ่านความผิดพลาดมาก่อน

ผมถามว่าคุณทุกข์ขนาดไหน คุณเคยฆ่าตัวตายสักครั้งไหม เขาบอกไม่เคย ถ้างั้นคุณก็ทุกข์น้อยกว่าผม พอผมคุยให้เขาฟัง ปัญหาเขาก็คลี่คลาย เพราะเขาไปโฟกัสผิดจุด ไปโฟกัสที่ปัญหาและทำตัวเป็นปัญหา ไม่ได้โฟกัสที่ลมหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า” นิกรเล่าด้วยรอยยิ้มละไม

นิกรบอกว่าทุกครั้งที่เขาสามารถช่วยช่วยคลี่คลายปัญหาให้กับผู้คนได้ ใจเขาก็อิ่มเอมตามไปด้วย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่มากกว่าค่าตอบแทนที่เขาได้รับหลายเท่านัก ที่ผ่านมานิกรยังได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองลงในพ็อกเก็ตบุ๊ค ชื่อ “คุณทำได้มากกว่าที่คุณคิด” และ “เชื่ออย่างไรได้อย่างนั้น” ซึ่งได้รับเสียงตอบรับมากมาย มียอดขายถล่มทลาย ถึงขั้นที่ติดเบสเซลเลอร์ (Bestseller)

ปัจจุบัน นิกรเป็นคุณพ่อลูก 4 มีภรรยาที่ทั้งสวยทั้งเก่ง และที่สำคัญเขาถือศีล 5 สิ่งที่เขาตั้งใจทำมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ การช่วยเหลือผู้คนให้พ้นจากความทุกข์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งนอกจากความสุขใจที่ได้รับแล้ว เขายังเชื่อว่าความดีที่ทำนี้ ล้วนเป็นบุญที่จะคอยเกื้อหนุนตัวเขาและครอบครัวให้พบแต่สิ่งที่ดีอีกด้วย

“ชีวิตที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า ในความโชคร้ายมักมีความโชคดีอยู่เสมอ ถ้าผมไม่ประสบปัญหาในวันนั้น ผมก็ไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ และวันนี้ความสำเร็จของผมไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทองนะ แต่ถ้าคำพูดหรือข้อเขียนของผมสามารถทำให้ชีวิตของใครสักคนพ้นจากความสิ้นหวังมืดมนได้ ตรงนี้ผมถือว่าผมประสบความสำเร็จ” นิกรกล่าวตบท้ายด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่น

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 143 พฤศจิกายน 2555 โดย กฤตสอร)





กำลังโหลดความคิดเห็น