คนดังมีดี : "แจ๊ค" จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม นักร้องหนุ่มวัยใส หัวใจใฝ่ธรรมะ

หลายคนรู้จักหนุ่ม “แจ็ค” จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม ในฐานะนักร้องเดี่ยวค่ายอาร์เอส ที่ใช้ชื่อว่า “แบล็ค แจ็ค” และเป็นอดีตสมาชิกวงไนซ์ ทู มีท ยู ซึ่งมีภาพลักษณ์สุดเท่ มาพร้อมกับเพลงแดนซ์มันส์หยด จึงมีน้อยคนนักที่จะรู้จักเขาในอีกมุมที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว กับการศึกษาธรรมะ สวดมนต์ นั่งสมาธิ และมีใจเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ร่วมโลกมาก ถึงขนาดใฝ่ฝันว่าจะรับสัตว์จรจัดมาเลี้ยงไว้ในอาณาจักรของตนเอง

• ซึมซับธรรมะมาตั้งแต่เด็ก

คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ห้องพระต้องติดกับห้องนั่งเล่น แล้วทำให้เด็กคนหนึ่งได้นำธรรมะมาปรับใช้ในชีวิตจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่ใช่เกิดจากความสนใจในพระธรรมคำสอนด้วยตัวเอง

“ผมชอบเรื่องการสวดมนต์ไหว้พระ ด้วยความที่ตอนเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่พาไปทำบุญบ่อย แล้วก็สวดมนต์ด้วย แล้วห้องนั่งเล่นกับห้องพระที่บ้านติดกัน เวลานั่งดูทีวี มองไปก็จะเห็นพระ เลยถูกซึมซับว่าต้องเข้าไปไหว้พระ”

ตอนแรกแจ็คเริ่มจากการนั่งสวดมนต์แล้วไต่ระดับมานั่งทำสมาธิ พร้อมทั้งศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาควบคู่ไปด้วย

“การนั่งสมาธิเริ่มมานั่งตอนเข้ามหาวิทยาลัย ปี 1 มันเริ่มจากที่เราซ่าส์เยอะ เรียนไม่เป็นเรียน พอวันหนึ่งได้ไปวัด ไปให้อาหารปลา แล้วเห็นเขานั่งสมาธิกัน ก็เลยไปลองนั่งกับเขา นั่นเป็นการนั่งสมาธิครั้งแรก ที่วัดแถวจังหวัดปทุมธานี หลังจากนั้นก็มานั่งเองในห้องพระที่บ้านหรือที่ห้องนอน”

เมื่อถามว่าได้อะไรจากการนั่งสมาธิ แจ็คบอกว่า
“ถ้าไม่ได้คำนึงเรื่องบุญบาปนะครับ แจ็ครู้สึกว่าอย่างน้อยก็ทำให้เรา 1. ได้อยู่กับตัวเอง 2. สมองเราหรือความคิดเราสงบนิ่ง นั่นแหละคือสิ่งที่แจ็คโอเคแล้ว คือมันเหมือนเป็นการรักษาจิตใจตัวเอง อย่างเช่น เราเครียด วิธีการนั่งสมาธิหลักของมันก็คือการไม่คิดอะไรเลย เป็นการโฟกัสไปที่อะไรบางอย่างอยู่ในหัว สมมติเราเครียดเรื่องนี้อยู่ แต่เราเอาตัวเองออกจากสิ่งที่เครียดแล้ว มันก็จะสบายขึ้น ซึ่งแจ็คมองว่าเป็นเรื่องที่ทำได้จริง”

• ทำสมาธิให้ใจสงบได้ทุกที่

ใจเย็นขึ้น สงบนิ่งขึ้น คิดก่อนพูดเสมอ ล้วนเป็นข้อดีของการทำสมาธิที่ทุกคนอยากมี แต่มักอ้างกันว่าทำไม่ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ซึ่งจริงๆแล้วการทำสมาธิเพื่อให้จิตสงบได้นั้น ไม่จำเป็นต้องอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิเสมอไป

“การทำสมาธิมันเหมาะกับทุกที่นะครับโดยเฉพาะในเมือง เวลาไปเที่ยวหรือไปต่างจังหวัดเนี่ย อารมณ์แจ็คจะเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง แต่พอมาอยู่ในเมืองหรือในที่ที่คนเยอะๆ มันทำให้เรารู้สึกวุ่นวาย เราไม่สามารถโฟกัสอะไรบางอย่างได้เลย เราจึงต้องนั่งนิ่งๆ และอยู่กับตัวเองพักหนึ่ง บางทีเวลานั่งรถตู้ไปทำงาน แจ็คก็นั่งหลับตาอยู่เฉยๆ คือไม่ได้หลับนะ แต่เรานั่งอยู่กับตัวเอง มันจะทำให้เรานิ่งขึ้น สบายใจขึ้นด้วย

จริงๆ เราไม่ต้องนั่งสมาธิก็ได้นะ การที่เราทำอะไรบางอย่างจดจ่ออยู่กับมัน ก็ถือเป็นการทำสมาธิเหมือนกัน ยกตัวอย่าง เช่น การขับรถ บางทีก็เปิดกระจกบ้าง ฟังเสียงลม ฟังเสียงเครื่องยนต์รถบ้าง ให้ใจเราอยู่นิ่งๆ กับอะไรบางอย่าง แม้กระทั่งการฟังเพลง แล้วจดจ่ออยู่กับเพลง ก็จะได้ยินมากกว่าเสียงเพลง ได้ยินอะไรในเพลงมากกว่า มันมีรายละเอียดมากกว่าเพลงปกติที่เราฟัง”

• ดำรงชีวิตด้วยศีล 5

“อย่างน้อยการที่คนเรารักษาศีล 5 ได้ ก็จะไม่ทำให้เราไปหลงกับสิ่งที่เป็นอโคจร หรืออบายมุข ศีล 5 เป็นหลักธรรมคำสอนง่ายๆ ที่คนทั่วไปพึงระลึกไว้เป็นหลักปฏิบัติ เพื่อความเจริญของชีวิต และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกสถานการณ์

หลักธรรมเรื่องศีล 5 นี่แหละ ที่แจ็คนำมาใช้บ่อยที่สุด รักษาทุกข้อครับ การที่เราศึกษาธรรมะ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัน เราไม่โกหกเขา ไม่ขโมยของเขา ไม่ทำร้ายเขา ไม่ไปนอกใจเขา ไม่กินเหล้าแล้วมีปากเสียงกัน อย่างน้อยมันก็ทำให้ชีวิตดีอยู่แล้ว ศีล 5 สำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต สามารถใช้ได้ในทุกโอกาสกับทุกคนรอบข้าง

ถ้าเราพูดเรื่องมารยาทต่อกัน อย่างการไม่โกหก ไม่พูดจาลับหลัง ไม่ทำร้ายกัน ซึ่งมันก็โอเคสำหรับเรา มันก็จะเกิดความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งมันก็สอดคล้องกับศีล 5 อยู่ดี แค่เรารู้สึกคิดดีทำดีกับคนอื่น เราก็จะได้รับสิ่งที่ดีๆ กลับมาอยู่แล้วครับ” นักร้องหนุ่มกล่าว

• กายใจสะอาดขึ้นด้วยธรรมะ

“คิดดีทำดี” จึงกลายเป็นเป็นคติประจำใจของแจ็ค พร้อมกับการมองความรักในแง่ธรรมะที่เขาคิดว่า “ความรักต้องมองในเรื่องของความเชื่อใจกันและกัน รวมถึงการให้เกียรติกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นสิ่งที่บอกตัวเองอยู่ตลอดทั้งต่อตัวเองและต่อผู้อื่นด้วย

ธรรมะทำให้เราเปลี่ยนไปเยอะนะ จากแต่ก่อนที่เป็นผู้ชายลั้ลลานิดนึง (หัวเราะ) เด็กผู้ชายมันก็มีเรื่องตั้งแต่ผู้หญิง เหล้า สิ่งมัวเมาต่างๆ แต่พอเราเข้าหาธรรมะปุ๊บ มันก็ค่อยถอยห่างออกมาเรื่อยๆ อย่างน้อยร่างกายของเราสะอาดขึ้นแน่ๆ สะอาดขึ้นทั้งในเรื่องของเหล้าก็กินน้อยลง ร่างกายเราก็ปลอดภัยขึ้น ความคิดที่คิดต่อคนอื่นก็จะเป็นด้านบวกมากขึ้น เราก็สบายใจมากขึ้น จากที่เป็นคนขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อนกับทุกสิ่งอย่าง เดี๋ยวนี้ก็จะนิ่งมากขึ้น”

• หยุดฆ่าสัตว์ด้วยมังสวิรัติ

แจ็คจึงมีความมุ่งมั่นที่จะละเว้นการฆ่าสัตว์ ด้วยการหันมากินมังสวิรัติแทน และตั้งปณิธานว่าจะไม่เบียดเบียนชีวิตใครอีกต่อไป

“จริงๆ เริ่มกินมังสวิรัติแบบไม่กินเนื้อสัตว์เลยอยู่ประมาณปีนึง ตั้งแต่เรียนอยู่ปี 3 แล้วทำให้ร่างกายมีโปรตีนไม่เพียงพอ คุณหมอบอกให้กินปลาด้วย พักหลังจึงเริ่มกินปลาบ้าง แต่ก็จะมีวันที่ไม่กินเนื้อสัตว์เลย คือทุกวันเกิด ทำอย่างนี้มาตลอด ส่วนวันอื่นก็กินปกติ แต่จะเน้นที่เนื้อปลา ส่วนเนื้ออื่นๆไม่กินเลย

จุดเปลี่ยนของการกินมังสวิรัติ เริ่มจากความสงสาร คือแถวบ้านมีโรงฆ่าสัตว์ บางทีขับรถตามแล้วมองตาเขาเกิดความรู้สึกสงสาร ก็เลยคิดว่าเราขอเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ไม่เอาชีวิตเขาดีกว่า เพราะถ้าเกิดเป็นเรามีสภาพที่ต้องเข้าไปอยู่ในนั้น แล้วกำลังจะตาย ทำไมเราต้องตายเพื่อให้คนอื่นมากินเนื้อเราด้วยซึ่งมันไม่แฟร์ จึงหยุดกินดีกว่า เริ่มที่เนื้อวัวก่อน ซึ่งแต่ก่อนเป็นคนชอบกินเนื้อแบบปิ้งย่างมาก แต่ก็หยุดกินเลย และคิดว่านอกจากเนื้อวัวแล้วก็ต้องหยุดพวกสัตว์บกทั้งหมด

จึงลองชวนคนนู้นคนนี้ และก็มีหลายๆ คนที่หยุดกิน แจ็คจะบอกวิธีง่ายๆ เลยว่า ควรหยุดวันเกิดก่อน อย่างแจ็คเกิดวันอังคารก็หยุดกินวันอังคาร เราควรมีเป้าหมายก่อน ส่วนวันอื่นๆ ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ แจ็คเป็นคนหักดิบครับ ไม่กินเลยดีกว่า”

• ทูตมูลนิธิรักษ์ไทย
ผู้มีใจเอือเฟื้อเผื่อแผ่

แจ็คเป็นคนหนุ่มอีกคนหนึ่งที่มองเรื่องการช่วยเหลือคนอื่นตลอดเวลา โดยเฉพาะคนที่ได้รับโอกาสน้อยกว่าเขา ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนแก่ แม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงที่ดูน่าสงสาร ถ้าอยู่ในสายตาเขา แจ็คจะรีบเข้าไปช่วยเหลือโดยไม่ลังเล

“อาจเป็นเพราะที่บ้านปลูกฝังมา และแฟนแจ็คก็เป็นคนแบบนี้ด้วย บางทีมันเป็นปมเล็กๆ ของเรา อย่างตอนแจ็คเด็กๆ หมาของเราเคยถูกรถชนตอนตี 2 แต่โรงพยาบาลหมาไม่มีตอนกลางคืน แล้วเขาตาย มันทำให้เรารู้สึกว่าวันหนึ่ง เราต้องเปิดโรงพยาบาลหมา 24 ชั่วโมงให้ได้ นี่คิดจริงๆ อยากทำพื้นที่บริเวณหนึ่งเพื่อจะเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยง”

จากเรื่องของหมาสุดรัก จึงเป็นแรงบันดาลใจสู่คน ที่ทำให้เขาอยากช่วยเหลือเด็กๆ ที่ไม่มีโอกาส หรือคนชราที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

“บางทีขับรถอยู่แล้วเห็นคุณยายเดินอยู่ข้างถนน เห็นแล้วดูลำบากมาก เราก็จอดรถแล้ววิ่งไปซื้อน้ำให้เขา เราทำใจไม่ได้ที่จะขับผ่านไปเหมือนเราไม่เห็น ถ้าไปด้วยกันกับแฟนก็จะรู้กัน ไม่ต้องพูดอะไรกัน บางทีเจอสัตว์ถูกรถชนก็อุ้มไปโรงพยาบาล มันไม่ใช่ความผิดของเขาที่เขาอยู่ผิดที่แล้วโดนชน แล้วเราไปด่าหมาอีก มันไม่แฟร์เลย”

ด้วยความที่แจ็คมีจิตใจเผื่อแผ่โอบอ้อมอารีต่อเพื่อนมนุษย์เสมอ เขาจึงได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในทูตมูลนิธิรักษ์ไทย ร่วมกับ “แต้ว” ณฐพร เตมีรักษ์ นักแสดงสาวสวยช่อง 3 โครงการดีๆ ที่ช่วยเหลือสังคม ด้วยการออกไปช่วยเหลือเด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ ทั้งหมด 84 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังทรัพย์ กำลังคน และอุปกรณ์การศึกษาต่างๆ

“ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่มีปัญหา ไม่ใช่ยากจนเสมอไป อาจจะเป็นที่ภูมิศาสตร์ของเขาที่ทำให้เกิดปัญหาในการขัดขวางโอกาสทางการเรียนของเด็กๆ อย่างเช่น โรงเรียนหนึ่งอยู่แถวป่าชายเลนแล้วน้ำมันกัดเซาะขึ้นมา จึงทำให้อาคารเรียนพัง หรืออย่างที่เชียงใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่เรานำอุปกรณ์การเรียนและหนังสือขึ้นไปให้ เข้าไปช่วยเรื่องทาสีโรงเรียน

กว่า 2 ปีแล้ว ที่ได้รับเลือกเป็นทูตมูลนิธิรักษ์ไทยทำให้เรารู้สึกดีนะครับ เพราะเราชอบเรื่องของการให้โอกาสคนที่เขามีโอกาสน้อยกว่าเรา ถึงแม้ว่าตอนแรกไม่ได้เป็นทูตรักษ์ไทย แจ็คกับคนในครอบครัวและเพื่อนๆ ก็จะชอบรวมเงินกันเพื่อไปบริจาคในสถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเด็กกำพร้าและโรงทาน รวมถึงในต่างจังหวัดด้วย

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 142 ตุลาคม 2555 โดย manager online)