ข่าวสารบ้านเรา

• ผู้นำชาวพุทธ 32 ประเทศ ทูลถวายพระเกียรติยศสูงสุด
แด่ “สมเด็จพระสังฆราช” เป็นครั้งแรกของโลก

พระ ดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า จากการประชุมสุดยอดพุทธศาสนิกชนแห่งโลก ที่มีสุดยอดผู้นำชาวพุทธโลกจาก 32 ประเทศเข้าร่วมประชุม ณ ประเทศญี่ปุ่น ได้มีมติทูลถวายตำแหน่งพระเกียรติยศอันสูงสุด "ผู้นำคณะสงฆ์สูงสุดแห่งโลกพระพุทธศาสนา" แด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แห่งราชอาณาจักรไทย ในฐานะผู้ทรงได้รับการเคารพอย่างสูงสุดด้วย ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แห่งดินแดนแห่งรอยยิ้ม ผู้สอนพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ทุกคนปฏิบัติธรรมตั้งอยู่ในพระปัญญาธรรม และพระกรุณาธรรม นำไปสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง มีพระบารมีปกแผ่ไพศาลไปทั่วราชอาณาจักรไทยและทั่วโลก

ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวอีกว่า พระศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพระองค์ที่มีมายาวนาน เป็นที่ยอมรับของคณะสงฆ์ทุกนิกาย ไม่ว่าจะเป็น มหายาน เถรวาท และวชิรยาน ที่สำคัญพระองค์ได้ทรงพระนิพนธ์หนังสือต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก มีการเขียนและการแปลถึง 5 ภาษา ได้แก่ ไทย จีน อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศส และถือเป็นโอกาสที่ดีที่พระองค์ได้รับการทูลถวายพระเกียรติยศในครั้งนี้ สอดคล้องกับวาระฉลองพระชันษาครบ 99 ปี ในวันที่ 3 ตุลาคม 2555

• วธ.เปิดสายด่วน เฝ้าระวัง
โบราณสถาน หวั่นถูกน้ำท่วม

นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จนเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในหลายจังหวัดนั้น ได้สั่งการให้กรมศิลปากรประสานงานกับสำนักศิลปากรในพื้นที่เสี่ยง เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และในพื้นที่เสี่ยง จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งในจังหวัดสุโขทัย อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะโบราณสถานในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยที่วัดไชยวัฒนารามนั้นได้เพิ่มระดับความสูงของแนวกำแพงริมฝั่งแม่น้ำอีก 50 ซม. และได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้รองรับ

และเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่โบราณสถานต่างๆ วธ.ได้เปิดสายด่วน 1765 ให้ประชาชนได้แจ้งข้อมูลต่างๆ

• รมว.ศธ. ชูไอเดียแยก “ศาสนา”
ออกจากวิชาสังคมศึกษา

ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า อยากให้มีการแยกการสอนหลักพุทธศาสน์ ออกมาเป็นอีก 1 วิชาต่างหาก โดยไม่ต้องรวมอยู่ในกลุ่มสาระสังคมศึกษา เพื่อให้เด็กได้เรียนพุทธศาสนาอย่างเข้มข้น เหมือนเด็กในภาคใต้เรียนหลักศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ เพราะเห็นว่าถ้าเด็กได้มีโอกาสเรียนศาสนาอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะมีโอกาสได้ฝึกอบรมจิตแล้ว ก็จะเติบโตเป็นคนที่มีคุณธรรม จริยธรรม นอกจากนั้น การฝึกอบรมจิตยังช่วยให้เด็กมีสมาธิดี ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาทุจริต คอร์รัปชั่น แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งคงสำเร็จได้ยากถ้าต้นเหตุไม่ได้รับการแก้ไข แต่การให้เด็กได้เรียนศาสนา ได้ฝึกอบรมจิตใจนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กล่าวว่า หาก รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายให้แยกวิชาศาสนาออกมา สพฐ.อาจตอบโจทย์นี้ ด้วยการทำให้การเรียนการสอนศาสนามีความเด่นชัดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า การแยกการเรียนศาสนาออกจากกลุ่มสาระวิชาสังคมศึกษา มาตั้งเป็นวิชาศาสนาโดยเฉพาะนั้น คงทำได้ยาก

• ประกวด “สวดมนต์ยกชั้น ได้บุญยกทีม”
ชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งแรกของประเทศ

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และสถานีเฮลท์พลัสแชนแนล พร้อมหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันจัดโครงการประกวด “สวดมนต์ยกชั้น ได้บุญยกทีม” ในกลุ่มเยาวชน ตั้งแต่อนุบาลถึงอุดมศึกษา โดยมี พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานกรรมการอำนวยการ

โครงการประกวด “สวดมนต์ยกชั้น ได้บุญยกทีม” ร่วมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จากวันแม่สู่วันพ่อ วันที่ 12 สิงหาคม – 5 ธันวาคม 2555 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา และเพื่อเพิ่มพูนศรัทธาในพระรัตนตรัยแก่เยาวชนไทยตามหลักไตรสิกขา และสนับสนุนให้เยาวชนรู้จักการอ่านออกเสียง และใช้ภาษาไทย บาลี อย่างถูกต้อง

นายอำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการจัดประกวดฯ กล่าวว่า โครงการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของประเทศ จากที่ผ่านมาจัดเป็นรายบุคคลและกลุ่มย่อย โดยกำหนดจัดเฉพาะโรงเรียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนที่จะขยายผลไปภูมิภาคในปีต่อไป

คณะกรรมการได้นำบทสวดที่ผ่านการคัดเลือกจากมหาเถรสมาคมมาใช้ในการประกวด ซึ่งได้กำหนดให้เหมาะกับเยาวชนในแต่ละช่วงอายุและชั้นเรียน โดยทีมผู้ชนะแต่ละประเภทนอกจากได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานแล้ว ยังได้รับทุนการศึกษาประเภทละ 100,000 บาท รวมเงินรางวัลกว่า 2 ล้านบาท และได้เป็นตัวแทนเยาวชนในการสวดมนต์ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555

• ภูเก็ตเตรียมจัดงานถือ
ศีลกินผักประจำปี 55

นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า งานประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ตในปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-23 ตุลาคม 2555 เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่เก่าแก่ของชาวจังหวัดภูเก็ตที่ได้ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาเป็นประจำทุกปี รวมถึงเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วย และที่สำคัญเพื่อเป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ทางจังหวัดได้กำชับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการควบคุมการเล่น และจำหน่ายประทัด การควบคุมราคาสินค้า การรักษาความสะอาดตามท้องถนนและบริเวณศาลเจ้าต่างๆ การดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และประชาชนที่เดินทางมาร่วมงาน

• ศน.นำพระราชดำรัสในหลวง-ราชินี
ร่าง กม.คุณธรรมต้านคอร์รัปชั่น

นายปรารพ เหล่าวานิช ที่ปรึกษากรมการศาสนา กล่าวในการประชุมวิพากษ์ร่างแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2555 – 2559 โดยมีผู้แทนศาสนาและหน่วยงานต่างๆเข้าร่วม ว่าร่างดังกล่าวได้น้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับคุณธรรม อาทิ ให้ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา สามัคคี ซื่อสัตย์สุจริต ปรองดอง และความดี เป็นแนวปฏิบัติแก้ปัญหาสังคมไทย ซึ่งผลการสำรวจจากหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนงานวิจัยด้านคุณธรรม พบว่า สังคมไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤติด้านคุณธรรมอย่างรุนแรง เช่น ครอบครัวขาดความรักความอบอุ่น การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เยาวชนก่ออาชญากรรมเพิ่มขึ้น ปัญหายาเสพติดและปัญหาคอร์รัปชั่น คนไทยกว่าร้อยละ 60 ยอมรับการคอร์รัปชั่นได้ สะท้อนว่าอนาคตอาจเกิดปัญหาสังคมเพิ่มขึ้น

นายปรารพกล่าวด้วยว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวได้วางยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานไว้ 4 ข้อ ได้แก่ 1.วางระบบรากฐานการเสริมสร้างคุณธรรมในสังคมไทย 2.สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริมคุณธรรม 3.สร้างความเข้มแข็งในระบบการบริหารจัดการด้านการส่งเสริมคุณธรรมให้เป็นเอกภาพ 4.ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านคุณธรรมสู่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก

โดยจะส่งเสริมให้ภาครัฐ เอกชน ประชาชนทั้งในและต่างประเทศมีคุณธรรม โดยตั้งเป้าให้คนไทยในอนาคตมีลักษณะคุณธรรม 9 ประการ 1.มีสติ อดทน อดกลั้น 2.ความซื่อสัตย์สุจริต 3.ขยันหมั่นเพียร 4.ความรับผิดชอบและมีวินัย 5.เมตตา เสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 6.ความกตัญญู 7.ความสามัคคี 8.ความยุติธรรม และ 9.พอเพียง ประหยัดและอดออม

• ยูเนสโกยกย่อง "พระพันวัสสาฯ"
ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก

องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ประกาศยกย่องให้สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก ในวาระครบ 150 ปี พระราชสมภพ ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ก.ย. โดยทรงเป็นคนไทยลำดับที่ 21 ที่องค์การยูเนสโกประกาศยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ที่มีผลงานด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ประยุกต์ วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์

ในโอกาสสำคัญนี้ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เตรียมก่อสร้างอาคารศูนย์รักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 150 ปี เพื่อย้ำเตือนถึงน้ำพระทัยของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ที่ทรงมีต่อพสกนิกร โดยได้พระราชทานที่ดิน หมู่อาคารในพระตำหนักศรีราชา ให้เป็นสถานที่ช่วยเหลือประชาชน

• นิด้าโพลชี้ควรปลูกฝัง “ความซื่อสัตย์”
ให้เด็กไทยมากที่สุด

ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คุณธรรม กับ เยาวชนไทยในอนาคต” เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี โดยสำรวจจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,256 ตัวอย่าง

พบว่า คุณธรรมพื้นฐานที่เยาวชนควรได้รับการปลูกฝังมากที่สุด ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ร้อยละ 29.78, การมีวินัย ร้อยละ 28.42, มีความสามัคคี ร้อยละ 11.31, การมีน้ำใจ ร้อยละ 9.63, มีความขยัน ร้อยละ 9.16, มีความสุภาพ ร้อยละ 5.89, ความประหยัด ร้อยละ 5.49 และความสะอาด ร้อยละ 0.32

สิ่งที่ประชาชนคาดหวังต่อเยาวชนไทยในอนาคต คือ เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ มีความกตัญญูกตเวที รวมทั้งมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกง และเป็นผู้นำที่ดีในอนาคต

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 142 ตุลาคม 2555 โดย กองบรรณาธิการ)