xs
xsm
sm
md
lg

ของดีจากพระไตรปิฎก : ธรรมะกับวินัย ต่างกันอย่างไร?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก่อนที่จะก้าวไปสู่ความแตกต่างระหว่างธรรมะกับวินัย ผู้เขียนใคร่ขอทำความเข้าใจกับท่านผู้อ่านเกี่ยวกับรูปแบบ เนื้อหา และความเป็นมาของทั้ง 2 คำนี้ก่อน

คำว่าธรรมะ หมายถึง สภาวะแห่งความเป็นจริง ซึ่งดำรงอยู่ก่อนที่พระพุทธองค์จะเกิดขึ้นมาในโลกนี้ ดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในธัมมนิยามสูตร สรุปใจความได้ว่า

ตถาคตจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นในโลกก็ตาม สภาวะที่ทรงตัวไว้ที่เรียกว่า ธัมมนิยาม ธัมมฐิติ อันได้แก่ ธรรมที่ว่า สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา มีอยู่แล้วในโลก เพียงแต่ขาดผู้ค้นพบเท่านั้น

ดังนั้น การตรัสรู้ของตถาคตก็คือธรรมะที่มีอยู่แล้ว มิใช่เป็นผู้สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา และเมื่อค้นพบแล้วก็ทรงนำมาเปิดเผยให้โลกได้รู้ตามเท่านั้น

ส่วนพระวินัยเป็นบทบัญญัติขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือในการปกครองสงฆ์ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นไปตามกาลสมัย ไม่มีกฎตายตัวเหมือนธรรมะ

อีกประการหนึ่ง ถ้าจะมองในแง่ของการเกิดขึ้นแล้ว ธรรมะเกิดขึ้นก่อนพระสงฆ์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ธรรมเกิดขึ้นพร้อมพระพุทธเจ้าเกิด ดังนั้น การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จึงเรียกว่า เกิดด้วยธรรมกาย ในวันเพ็ญเดือน 6 ก่อน พ.ศ. 2555 ปี มาแล้ว

อีกประการหนึ่ง พระธรรมกับพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งเดียวกัน จะเห็นได้ในพุทธพจน์ที่ว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา (ตถาคต) (โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ)

จากนัยดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า ทั้งพระธรรมและพระวินัย เป็นคำสอนที่เกิดขึ้นมา เพื่อค้ำจุนแก่กันและกัน

พระธรรมเป็นคำสอนที่ให้ความจริง และเป็นเครื่องมือในการฝึกจิตให้หลุดพ้นจากกิเลส ส่วนพระวินัยหรือศีล ซึ่งเป็นทั้งข้อห้ามและข้ออนุญาต เป็นเครื่องมือในการปกครองหมู่สงฆ์ โดยการป้องกันการกระทำอันเป็นทุจริตทั้งทางกายและทางวาจา และก้าวขึ้นสู่การฝึกจิตอันเป็นส่วนของธรรมต่อไป

ด้วยเหตุนี้ ทั้งพระธรรมและพระวินัยจึงเป็นเหมือนศาสดาแทนพระพุทธเจ้า หลังจากที่พระองค์ทรงล่วงลับไปแล้ว และยังตรัสว่า ตราบใดที่พุทธบริษัทยังเคารพยำเกรงในพระธรรมและพระวินัย เคารพในพระรัตนไตร พระพุทธเจ้าก็จะดำรงอยู่ ตราบนั้น

อะไรคือหลักประกันว่า พุทธศาสนาจะไม่เสื่อม ถ้ายังมีการปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และเวลานี้ที่มีผู้บอกว่า พุทธศาสนาเสื่อม แท้จริงแล้ว ศาสดาเสื่อม หรือคนเสื่อม

เกี่ยวกับประเด็นนี้ ตอบได้คำเดียวว่า ถ้าฝึกหลักที่ว่า พระธรรมและพระวินัยคือศาสดา และพระพุทธศาสดาก็คือคำสอนที่เป็นทั้งส่วนพระธรรม และพระวินัย ก็ยังคงมีอยู่ครบ ทั้งในสิ่งตีพิมพ์ และอุปกรณ์ในการเก็บเอกสารต้นฉบับในรูปแบบต่างๆ ง่ายต่อการศึกษา และค้นหา เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน

จึงพูดได้ว่าคำสอนส่วนนี้ไม่สูญหายไปไหน แต่ที่เสื่อมและสูญหายไป ก็คือ ศรัทธาของพุทธบริษัทลดลง และมีอยู่ไม่น้อยที่นับถือเปลือกนอกของพุทธศาสนา เช่น ศรัทธาในวัตถุมงคล เป็นต้น และบุคคลกลุ่มนี้เองที่เรียกได้ว่า เสื่อมและเป็นเหตุให้พุทธศาสนาเสื่อม เมื่อนำเอาศรัทธาในรูปแบบของตนเผยแพร่ให้ลูกหลานสืบทอดในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ จึงขอฝากไว้ด้วยคำกลอนบทนี้

หยุดเถอะชาวพุทธจงหยุดเถอะ
หยุดเลอะเทอะด้วยศรัทธาพาลุ่มหลง
เข้าวัดเพื่อปัดเป่าเสกคาถาอาคมลง
จิตไม่ปลงไม่ถึงธรรมชี้นำทาง


(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 136 เมษายน 2555 โดย สามารถ มังสัง)

กำลังโหลดความคิดเห็น