xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวสารบ้านเรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


• สภาสังคมสงเคราะห์ฯ
จัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ


พันเอกหญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานสภาสังคม สงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวในการแถลงข่าวการจัดงานวันแม่แห่งชาติ ปี 2554 ว่า สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะจัดกิจกรรมในโอกาส สัปดาห์วันแม่แห่งชาติ ปี 2554 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา และเป็นการเทิดทูนผู้เป็นแม่

โดยงานสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ ปี 2554 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 สิงหาคม 2554 มีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การมอบรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2554 ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รวม 210 คน การมอบรางวัลลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ รวม 100 คน ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัลทั้งหมดจะเข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณ จากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการจัดเลี้ยงอาหารพระราชทานแก่ผู้ยากไร้ และด้อยโอกาส และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ต้องขังหญิง ทัณฑสถานหญิงธนบุรี และเรือนจำกลางจังหวัดทั่วประเทศ จัดเลี้ยงอาหารพระราชทานแก่ผู้เดินทาง บริเวณสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) การจัดงานคอนเสิร์ต รวมพลลูกกตัญญูแห่งชาติ ครั้งที่ 4 ณ ศูนย์การค้าอยุธยาพาร์ค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การจัดงานหนึ่งใจเทิดไท้ มหาราชินีศรีสยาม ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต การจัดงานคอนเสิร์ต รวมพลคนรักแม่ครั้งที่ 10 และคอนเสิร์ต คิดถึงแม่ ครั้งที่ 14 ณ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางกะปิ

• กทม.เปิดสนามหลวง
จัดงานวันแม่อย่างยิ่งใหญ่


ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.จะจัดงานพิธีถวายราชสักการะ และถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ภายใต้ชื่องาน “เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 79 พรรษา 12 สิงหาคม 2554” เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2554 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนิน และบริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.

ทั้งนี้ กทม.พร้อมด้วยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนกว่า 100 แห่ง ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พิธีถวายเครื่องราชสักการะและถวายพระพรชัยมงคล ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่จัดงานในส่วนพิธีการ การบวงสรวงพระสยามเทวาธิราชและสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 280 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พิธีบวชชีพราหมณ์ 1,980 คน และพิธีถวายพระพรชัยมงคล 5 ศาสนา

นอกจากนี้ กทม.ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาชนจัดโครงการ “ปวงประชาพร้อมภักดิ์รักราชินี” จัดการแสดงมหรสพต่างๆ พร้อมทั้งการจัดฉายภาพยนตร์ 12 จอ ซึ่งกระจายอยู่ในจุดต่างๆ ตลอดเส้นทางถนนราชดำเนินใน ราชดำเนินกลาง และลานคนเมือง

ในส่วนของเทียนชัยมงคลที่จะใช้จุดเพื่อถวายพระพรชัยในปีนี้ มีความพิเศษสวยงามและยิ่งใหญ่กว่าทุกปี โดยได้ความร่วมมือจากศิลปินช่างแกะสลักเทียนฝีมือดีของประเทศไทย การแห่เทียนชัยจัดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม พร้อมขบวนแห่อันยิ่งใหญ่ โดยเริ่มจากลานพระบรมรูปทรงม้า ผ่านถนนราชดำเนินนอก เข้าสู่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และถนนราชดำเนินใน โดยมีจุดหมายที่เวทีพิธีการ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

• ราชบัณฑิตยสถานจัดประกวดแต่งหนังสือ
สอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก ประจําปี 2555


ราชบัณฑิตยสถานจะจัดประกวดแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก ประจําปี 2555 ในหัวข้อเรื่อง “จิตสาธารณะ” เพื่อเป็นการปลูกฝังให้เด็กได้คุ้นเคยกับหลักธรรม คําสอนของพระพุทธศาสนา ได้เข้าใจและรู้จักนําคําสอนต่างๆไปประยุกต์ใช้ในการดําเนินชีวิตประจําวัน ซึ่งจะเป็นการกล่อมเกลาและพัฒนาจิตใจให้รู้จักผิดชอบชั่วดีและประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในทํานองคลองธรรม ไม่ประพฤติตนให้เป็นปัญหาต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์ เพื่อน และสังคม ทั้งยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ดีและถูกต้องแก่เด็กซึ่งจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในภายหน้า ให้เป็นพลเมืองดีของชาติต่อไป

สํานวนที่ชนะการประกวด ราชบัณฑิตยสถานจะนําขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อขอรับพระราชทานรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจัดพิมพ์เป็นหนังสือสําหรับพระราชทานในวันวิสาขบูชาประจําปี 2555 จึงขอเชิญชวนผู้สนใจส่งเรื่องเข้าประกวด โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. แต่งเป็นภาษาไทย อธิบายความง่ายๆ เพื่อให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อ่านเข้าใจได้ การยกตัวอย่างประกอบ ถ้อยคําสํานวน และภาษาที่ใช้ ต้องเหมาะสม เข้ากันได้กับสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน สามารถโน้มน้าวจิตใจเด็กหรือผู้อ่านให้เห็นคุณค่าของการประพฤติปฏิบัติตามคําสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครอบคลุมความหมายของคําว่า “จิตสาธารณะ” มากที่สุด เรื่องที่แต่งต้องเป็นรื่องการสอนพระพุทธศาสนาตามหลักธรรมในพระไตรปิฎกและไม่อธิบายความย่ำยีลัทธิและศาสนาอื่น พิมพ์ด้วยโปรแกรม Microsoft Word ตัวอักษร Browallia New ขนาด 16 พอยต์ (point) หน้าละ 28 บรรทัด ความยาว 25-30 หน้ากระดาษพิมพ์ดีด (A4)

2. ผู้มีสิทธิ์ส่งเรื่องเข้าประกวด คือบุคคลทั่วไป ยกเว้นกรรมการตัดสิน

3. ส่งเรื่องเข้าประกวดได้คนละ 1 สํานวน โดยส่งต้นฉบับจํานวน 3 ชุด พร้อมแผ่นบันทึก (diskette) หรือแผ่นซีดี (CD) ด้วยตนเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ ที่กองศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถาน สนามเสือป่า เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2554 ทั้งนี้นับวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสําคัญ ให้ระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ให้ชัดเจน

4. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชบัณฑิตยสถานแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะหนึ่งเป็นผู้ตัดสินและคัดเลือกสํานวนที่ดีที่สุด เพื่อนําขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย รวม 3 สํานวน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดสํานวนใด จะทรงเลือกพิมพ์เป็นหนังสือพระราชทานในวันวิสาขบูชา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด ดังนี้ รางวัลที่ 1 จํานวนเงิน 5,000 บาท รางวัลที่ 2 จํานวนเงิน 3,000 บาท รางวัลที่ 3 จํานวนเงิน 2,000 บาท

ผู้สนใจขอทราบรายละเอียดได้ที่ ราชบัณฑิตยสถาน สนามเสือป่า เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 0-2356-0466-70 ต่อ 3021, 3024 ในวันและเวลาราชการ หรือดูรายละเอียด ที่ www.royin.go.th

• ยูเนสโกเลือกภาพเศียรพระในรากโพธิ์
ติดโชว์ที่หน้าสำนักงานใหญ่ยูเนสโก


นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะกรรมการมรดกโลก กล่าวว่า ในช่วงการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสำนักงานใหญ่ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประเทศฝรั่งเศส ได้คัดเลือกภาพแหล่งมรดกโลก จำนวน 50 ภาพ จากแหล่งมรดกโลก 936 แหล่ง นำมาติดไว้บริเวณรั้วของสำนักงานใหญ่ทั้ง 4 ด้าน โดยครั้งนี้ ยูเนสโกได้นำภาพเศียรพระที่อยู่ในรากไม้ต้นโพธิ์ วัดมหาธาตุ มรดกโลกพระนครศรีอยุธยา มาติดที่บริเวณประตูใหญ่ด้านหน้าทางเข้าสำนักงานใหญ่ ถือเป็นความภูมิใจที่ยูเนสโกเลือกภาพดังกล่าวมาจัดแสดง

สำหรับภาพอื่นๆ ที่ได้นำมาติดไว้บริเวณรั้วของสำนักงานใหญ่ยูเนสโกนั้น กรรมการมรดกโลกกล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นภาพความโดดเด่นของมรดกโลกของแต่ละประเทศ การที่ยูเนสโกนำภาพเศียรพระของไทยไปจัดแสดง อาจเป็นเพราะภาพดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ และเป็นเศียรพระที่สมบูรณ์ แสดงให้เห็นว่าแหล่งมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา มีหลายจุดที่น่าเยี่ยมชม ซึ่งจากการจัดทำสถิตินักท่องเที่ยว พบว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยามากกว่า 7 แสนคน

• ธรรมะสามัคคี ทำดีถวายในหลวง

พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการโครง การทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 โครงการทุนเล่าเรียนหลวงฯ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดโครงการ “ธรรมะสามัคคี ทำดีถวายในหลวง” ขึ้น ด้วยการสนับสนุนกิจกรรมทำดีวิถีพุทธตลอดปี 2554-2555 จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาร่วมโครงการธรรมะสามัคคี ทำดีถวายในหลวง เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมในทุกสังคมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

สำหรับวิธีการร่วมกันทำดีถวายเป็นพระราชกุศลกับโครงการธรรมะสามัคคี สามารถร่วมกันทำดีวิถีพุทธด้วยตนเอง หรือให้การสนับสนุนในกิจกรรมต่อไปนี้

1. ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมเผยแผ่ธรรมทั่วไทย กระตุ้นให้เกิดการบรรยายธรรมในหน่วยงานทั่วประเทศ ร่วมแสดงออกถึงนโยบายองค์กรที่สนับสนุนกิจกรรมวิถีพุทธอย่างเป็นรูปธรรม จัดกิจกรรมบรรยายธรรม สอนธรรมหรือปาฐกถาธรรมในวาระต่างๆ โดยโครงการธรรมะสามัคคีฯ จะช่วยสนับสนุนพระวิทยากรและสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้หน่วยงานเกิดความพร้อมในการจัดงาน

2. ร่วมเดินทางกับกิจกรรมรวมใจปฏิบัติธรรม โดยเข้าร่วมเดินทางไปกับกิจกรรมรวมใจปฏิบัติธรรม โดยโครงการธรรมะสามัคคีฯ จะสนับสนุนในด้านต่างๆ อาทิเช่น รวบรวมรายละเอียด วัด/สำนักปฏิบัติธรรม และประสานงานเรื่องตารางเวลา เพื่อให้ผู้สนใจกิจกรรมรวมใจปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ถึงธรรมด้วยความพร้อมอย่างราบรื่น

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการธรรมะสามัคคีฯ ได้ที่โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย โครงการธรรมะสามัคคีฯ โทร. 0-2245-2113, 08-1844-8159 หรืออีเมล์ kstminfo@gmail.com

• สธ.แจกใบสั่งทำความดีเพื่อสุขภาพ
ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ "ในหลวง"


นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม-12 ตุลาคมนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการรวมพลคนรักสุขภาพ ทำความดีในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2554 ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวงทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 และเพื่อสร้างกระแสการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของไทยในขณะนี้และในอนาคต อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคมะเร็ง ซึ่งแต่ละปีพบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจาก 5 โรคนี้กว่า 1 ล้าน 3 แสนคน สูญเสียรายได้ผลผลิตประชาชาติ หรือจีดีพีของประเทศไทยประมาณ 52,150 ล้านบาท อาศัยเทศกาลเข้าพรรษา 3 เดือนนี้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนที่เสี่ยงเกิดโรค โดยใช้หลัก 3 อ. 2 ล คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ ลด ละ เลิกการดื่มสุรา และบุหรี่

โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดพิมพ์ใบสั่งทำความดี 9 ข้อ จำนวน 3 ล้านใบ คือ ตั้งใจลดน้ำหนัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินผักผลไม้ทุกมื้อ กินข้าวกล้องทุกมื้อ ลดกินหวานมันเค็ม กินเจหรือมังสวิรัติทุกวันพระ ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม งดเหล้าและบุหรี่ และสวดมนต์ไหว้พระ แจกไปยังสถานบริการสาธารณสุขในสังกัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนเลือกปฏิบัติอย่างน้อย 1 ข้อ และทำสัญญาใจกับตัวเอง ทำให้ได้ตลอดเทศกาลเข้าพรรษา หากปฏิบัติได้จริงจะทำให้สุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน

• สปน.จัดทำเข็มที่ระลึกตรา
สัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ


นายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) ร่วมกับ สำนักราชเลขาธิการ จัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ตราสัญลักษณ์ให้เป็นที่รู้จัก และเชิญชวนให้ประชาชนอัญเชิญเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ประดับที่อกเสื้อในโอกาสมงคลต่างๆ โดยเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ดังกล่าวมีขนาดกว้าง 3 เซนติเมตร สูง 5 เซนติเมตร ทำด้วยวัสดุคุณภาพดีประดับคริสตัล จำนวน 7 เม็ดที่พุ่มข้าวบิณฑ์ข้างละ 1 เม็ด ดอกพิกุลบนแพรแถบสีชมพูข้างละ 1 เม็ดและลายกนกล้อมกระต่าย 3 เม็ด สื่อความหมายถึงการเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ และกล่องบรรจุเข็มที่ระลึกทำด้วยวัสดุหนังเทียมชนิดพิเศษสีชมพู ฝากล่องด้านนอกมีภาพลายเส้นเข็มที่ระลึก ตราสัญลักษณ์สีทอง บุกำมะหยี่สีน้ำเงิน

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์จำนวน 250,000 เข็ม จำหน่ายเข็มละ 250 บาท ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล และที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2554 โดยรายได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-2817224

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 129 สิงหาคม 2554 โดย มรรคา)




กำลังโหลดความคิดเห็น