• ปณท.จัดทำแสตมป์ที่ระลึก
3 ปูชนียสงฆ์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.)ได้จัดทำแสตมป์ส่วนตัวชุดพิเศษที่เกี่ยวเนื่องกับปูชนียสงฆ์ไทยผู้ได้รับความเคารพนับถืออย่างกว้างขวาง จำหน่ายให้แก่ผู้สนใจซื้อไว้เป็นที่ระลึกและเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ได้แก่ แสตมป์ท่านปัญญานันทภิกขุ แบบ 10 ดวง ราคา 120 บาท และ แบบ 4 ดวง ราคา 70 บาท มีจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 19 แห่งใน กทม. และแสตมป์ที่ระลึกวาระ 84 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ) ซึ่งผ่านการเข้าพิธีอธิษฐานจิตจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ มีให้เลือกประเภท 12 ดวง 4 แบบ แบบละ 140 บาท ประเภท 4 ดวง 4 แบบ แบบละ 70 บาท มีจำหน่ายที่ ปณ.ราชดำเนิน
นอกจากนี้ยังมีแสตมป์ที่ระลึกสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม แบบ 4 ดวง ราคา 70 บาท จำหน่ายที่ ปณ.ราชดำเนิน หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ไปรษณีย์ไทย www.thailandpost.co.th
• "ในหลวง" โปรดเกล้าฯ
ตราสัญลักษณ์ 84 พรรษา
เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 รัฐบาลจึงเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติอย่างสมพระเกียรติและถูกต้องตามราชประเพณี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อพระราชพิธีว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554” และชื่อการจัดงานว่า “งานเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554”
และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยภาพตราสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
ความหมายตราสัญลักษณ์ มีดังนี้ อักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. สีเหลืองทองอันเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพอยู่กลางตราสัญลักษณ์ ขลิบรอบตัวอักษรด้วยสีทองบนพื้นวงกลมสีน้ำเงินล้อมรอบด้วยกรอบโค้งเรียบสีเหลืองทอง หมายความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นศูนย์ รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ
ด้านบนอักษรพระปรมาภิไธยเป็นเลข 9 หมายถึงพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เลข 9 นั้นอยู่ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ อันเป็นเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ และเป็นเครื่องหมายแห่งความ เป็นสมเด็จพระบรมราชาธิราช
ถัดลงมาด้านข้างซ้ายขวาของอักษร พระปรมาภิไธย มีลายพุ่มข้าวบิณฑ์สีทอง ซึ่งมีสัปตปฎลเศวตฉัตร ประดิษฐานอยู่เบื้องบน ด้านนอกสุดเป็นกรอบโค้ง มีลวดลายสีทองบนพื้น สีเขียว หมายถึง สีอันเป็นเดชแห่งวันพระบรมราชสมภพ อีกทั้งยังหมายถึงความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ และความสงบร่มเย็น ด้านล่างอักษรพระปรมาภิไธย เป็นรูปกระต่ายสีขาว กระต่ายนั้นทรงเครื่องอยู่ในลักษณะกำลังก้าวย่าง อันหมายถึงปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ตรงกับปีเถาะ ซึ่งมีกระต่ายเป็นเครื่องหมายแห่งปีนักษัตร โดยรูปกระต่ายอยู่บนพื้นสีน้ำเงิน มีลายกระหนกสีทอง อันหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทยภาย ใต้พระบรมโพธิสมภาร ส่วนเบื้องล่างเป็นแพรแถบสีชมพูขลิบทอง เขียนอักษรสีทอง ความว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554”
• มส.ห้ามพระสงฆ์ทั่วประเทศ
ยุ่งเกี่ยวการเมือง
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเริ่มมีการหาเสียงของผู้สมัครนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีพระสงฆ์บางกลุ่มเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง อาทิ ไปหาเสียงกับผู้สมัคร ทำบัตรรูปของผู้สมัครมาแขวนคอ ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงขอแจ้งเตือนไปยังพระสงฆ์ว่า ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง รวมทั้งไม่ให้ใช้พื้นที่ของวัดในการหาเสียงหรือจัดกิจกรรมทางการเมือง และจะนำคำสั่งของมหาเถรสมาคม(มส.) เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538 แจ้งไปยังเจ้าคณะปกครองเพื่อแจ้งให้พระสงฆ์สามเณรปฏิบัติตาม ประกอบด้วย การห้ามพระภิกษุสามเณรเข้าไปในที่ชุมนุมทางการเมืองไม่ว่ากรณีใด รวมทั้งทำการใดๆอันเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่การหาเสียงแก่บุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ และห้ามร่วมชุมนุมในการเรียกร้องสิทธิของบุคคล หรือร่วมอภิปรายหรือบรรยายเรื่องการเมืองซึ่งจัดขึ้นที่วัด และนอกวัด
พร้อมกันนี้ ยังมอบหมายให้พระสังฆาธิการชี้แจงผู้อยู่ภายใต้ปกครองให้ทราบคำสั่งดังกล่าว และกวดขันไม่ให้มีการฝ่าฝืน หากพระภิกษุสามเณรรูปใดฝ่าฝืน ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แต่หากความผิดเกิดขึ้นนอกเขตสังกัด ให้เจ้าคณะของเขตที่มีความผิดเกิดขึ้น ว่ากล่าวตักเตือนและแจ้งให้พระสังฆาธิการดำเนินการ รวมทั้งให้พระสังฆาธิการผู้มีอำนาจหน้าที่ในการปกครองทุกชั้นปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำสั่งของมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด
• ประกวดเรียงความและสารคดีสั้น
เฉลิมพระเกียรติ "ในหลวง"
นายกรวุฒิ กาญจนาบุญมาเลิศ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัท เดย์ โพเอทส์ และโครงการ We Love King ได้ร่วมจัดกิจกรรมประกวดเรียงความและสารคดีสั้นเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้หัวข้อ เรารักพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมายุครบ 7 รอบ และเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและคนไทยทั่วไปได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี โดยการถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจ ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทางผลงานเรียงความ หรือสารคดีสั้นเฉลิมพระเกียรติ
การประกวดเรียงความแบ่งเป็น 3 ระดับคือ ระดับนักเรียนนักศึกษา อายุไม่เกิน 25 ปี และระดับประชาชนทั่วไปไม่จำกัดอายุ เรียงความที่ส่งเข้าประกวดมีความยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 ส่วนการประกวดสารคดีสั้นแบ่งเป็น 2 ระดับคือระดับนักเรียนนักศึกษา อายุตั้งแต่ 16-25 ปี และระดับบุคคลทั่วไป อายุ 23 ปีขึ้นไป สารคดีที่ส่งเข้าประกวดมีความยาว 5-8 นาที ในรูปแบบ DVD
ผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ได้ที่ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เลขที่ 3 ซอยเจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 วงเล็บมุมซอง We Love King ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 54 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.0-2726-9996, 08-6304-4805, 08-6304-4810
• พบใบเสมาหินทรายเก่าแก่ อายุ 1,400 ปี
จำหลักรูปเจ้าชายสิทธัตถะทรงออกผนวช
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นางวณี จิวะรังสรรค์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ นางชะม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบใบเสมา ซึ่งพระอธิการสานิต วราโภ จากวัดโพธิ์ชัยเสมา-ราม ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ได้ค้นพบเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 54 ที่บริเวณพื้นที่นาของชาวบ้านหมู่บ้านเสมา จากนั้นจึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดโพธิ์ชัยเสมาราม
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบว่า ใบเสมาดังกล่าวมีความสูง 175 ซ.ม. กว้าง 70 ซ.ม. หนา 20 ซ.ม. เป็นหินทรายจำหลักเป็นรูปเจ้าชายสิทธัตถะ ทรงเครื่องกษัตริย์ พร้อมนายฉันทะ กำลังออกผนวช เป็นศิลปะสมัยทวารวดี อายุ 1,400 ปี มีความงดงามอย่างมาก ไม่แพ้ใบเสมาที่อยู่ในประเทศอังกฤษที่เป็นพระนารายณ์ทรงช้างเอราวัณ และอีกใบหนึ่งที่ชื่อใบเสมาพิมพาพิลาป ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดขอนแก่น โดยใบเสมานี้ทางสำนักศิลปกรที่ 10 ร้อยเอ็ด ได้เข้ามาตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
• "สมาคมสภาผู้สูงอายุฯ" จับมือ "มูลนิธิส่งเสริมผู้สูงอายุฯ" สร้าง "พระทรงเครื่องจักรพรรดิ" เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.54 นพ.บรรลุ ศิริพานิช ที่ปรึกษาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นพ. วิชัย โชควิวัฒน ประธานสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ และนายวัลลภ เจียรวนนท์ ประธานมูลนิธิส่งเสริมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ได้ร่วมแถลงข่าวการจัดสร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 โดยรายได้จากการบริจาคบูชาจะทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศล และจัดสร้างสำนักงานถาวรของสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯและมูลนิธิส่งเสริมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย
นพ.บรรลุ ศิริพานิช ที่ปรึกษาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้สูงอายุของไทยมีเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าภายใน 10 ปีข้างหน้า จะมีผู้สูงอายุเพิ่มเป็นร้อยละ 20 เนื่องจากพัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้คนอายุยืนยาวมากขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสังคมไทย ที่ต้องเตรียมแผนรองรับในระยะยาว โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุที่ยากไร้
ด้าน นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ เสริมว่า สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯในฐานะภาคเอกชนได้ทำงานควบคู่กับภาครัฐในการดูแลผู้สูงอายุมาอย่างต่อเนื่อง มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายและโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ อาทิ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุแห่งชาติ โครงการเตรียมตัวก่อนเกษียณอายุ โครงการฝึกอบรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ โครงการพัฒนาชมรมผู้สูงอายุในหมู่บ้านห่างไกลและหมู่บ้านสร้างเสริมสุขภาพ ฯลฯ ปัจจุบันมีเครือข่ายผู้สูงอายุทั่วประเทศ 21,120 ชมรม หากสมาคมฯและมูลนิธิฯ มีสำนักงานถาวรเป็นของตนเอง ก็จะสามารถดำเนินงานและสร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้สูงอายุทั่วประเทศได้มากยิ่งขึ้น
ขณะที่นายวัลลภ เจียรวนนท์ ประธานมูลนิธิส่งเสริมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการโครงการสร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา กล่าวว่า พระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิถือเป็นพระพุทธรูปที่ทรงคุณค่าองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ด้วยพุทธลักษณะปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ ประทับบนฐานอาสนบัลลังก์ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดิษฐานพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฏ บนผ้าทิพย์พระพุทธรูปและด้านหลังพระผง
ในส่วนของการจัดสร้างพระผง ได้รวบรวมมวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และวัดสำคัญทั่วประเทศมาผสมเป็นเนื้อผง โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีเททองหล่อองค์พระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ และพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปและพระผง ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
นายวัลลภ กล่าวต่อไปว่า การสร้างพระครั้งนี้มีจำนวนทั้งหมดกว่า 2 ล้านองค์ แบ่งเป็นพระบูชาขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว หล่อด้วยโลหะทองเหลืองรมดำ สีมันปู จำนวน 500 องค์ บูชาองค์ละ 20,000 บาท พระบูชาขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว หล่อด้วยโลหะทองเหลืองรมดำ สีมันปู จำนวน 12,500 องค์ บูชาองค์ละ 5,000 บาท และพระผงขนาด 2.5 x 3.5 เซนติเมตร จำนวน2 ล้านองค์ บูชาองค์ละ 100 บาท
สำหรับการบริจาคบูชา เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 54 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.54 ผ่าน 4 ช่องทาง คือ. ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ(เฉพาะพระผง) 2. ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ(เฉพาะพระผง) 3. อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์(สีลม)ชั้น 12 โทร. 0-2625-8310, 0-2625-8312 และ 4. สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ โทร. 0-2282-7716, 0-2282-3251
• วธ.จับมือมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส
จัดกิจกรรมเชิงสารธรรมและธรรมบันเทิง
นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้และสถานบริการด้านศาสนธรรมในลักษณะสารธรรมและธรรมบันเทิง (Spiritual fitness and edutainment center) ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินงานร่วมกันเพื่อเผยแพร่กิจกรรมการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรมในลักษณะสารธรรม และธรรมบันเทิงที่สอดแทรกความรู้และข้อคิดด้านธรรมะ รวมทั้งยังใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต และอยู่ร่วมกันของคนในสังคมอย่างเป็นปกติสุข โดยเฉพาะการนำปริศนาธรรมของพระธรรมโกศาจารย์ หรือท่านพุทธทาส อินทปัญโญ มาเผยแพร่ รวมทั้งส่งเสริมการ ศึกษาและการปฏิบัติตามหลักธรรม โดยมีคณะกรรมการ ดำเนินการจัดกิจกรรมร่วมกันที่สวนโมกข์กรุงเทพ ตลอดเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 127 มิถุนายน 2554 โดย มรรคา)