ความคิดของคนเราเกิดขึ้นตลอดเวลาตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ แต่ความคิดที่เกิดขึ้น นั้น ถ้าคิดมากเกินไปก็จะเกิดโทษต่อสุขภาพของเรา คิดมากๆ ทำให้นอนไม่หลับ คิดมากๆ ทำให้เกิดอารมณ์เศร้าหมองขึ้น โดยเฉพาะความคิดทางลบ (Negative Thought) ความคิดจึงมีทั้งทางบวก (Positive Thought) หรือความคิดที่เป็นกุศล ความคิดทางลบหรือความคิดอกุศล นอกจากนั้นก็มีความคิดที่เกี่ยวกับการงานต่างๆ การคิดค้นทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งถ้าเป็นไปเพื่อความสร้างสรรค์ก็จัดลงในความคิดในทางบวก ความคิดที่เป็นโทษ คือ ความคิดในทางลบ ทางเศร้าหมอง
บางคนคิดซ้ำๆซากๆ ในเรื่องเดียวกันนานๆ ที่เรียกว่า โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive disorders) บางคนคิดเรื่องบางเรื่องแล้วเกิดความหวาดกลัว (Phobic Thought) ความคิดแบบนี้ถือว่าเป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง ความคิดเหล่านี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่เป็นประโยชน์ และทำให้เกิดความวิตกกังวล ทำให้เราไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข
เรื่องการหยุดความคิด (Thought Stopping) จึงเป็นเรื่องที่นักวิชาการทางสุขภาพจิตสนใจกันมาก และนำมาใช้เพื่อบำบัดให้เรามีสุขภาพจิตดี เรื่องการหยุดความคิดนี้ Bain เป็นผู้เสนอเป็นคนแรกในปี ค.ศ.1928 โดยเขาเขียนไว้หนังสือ Thought Control in Everyday Life ซึ่งต่อมา Joself Wolpe ได้นำมาดัดแปลงใช้รักษาในผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำและคิดแล้วกลัว เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถหยุดความคิดที่ไม่ต้องการ ความคิดในทางลบ เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้เราทุกข์ใจ ร้อนใจ ทำให้สุขภาพของเราไม่ดี เราจึงควรฝึกหัดการหยุดความคิดที่ไม่ดีให้ชำนาญ เพื่อรักษาสุขภาพของเราให้ดีอยู่เสมอ ความคิดที่ไม่ดีเหมือนหูด คือ มันเกิดขึ้นแล้วก็จะค่อยๆ เกิดซ้ำๆ งอกงามขึ้นเรื่อยๆ
นักจิตบำบัดมักจะสอนให้เราหยุดความคิดลง โดยใช้คำพูดในใจว่า “หยุดๆ” หรือจะออกเสียงก็ได้ บางคนคิดเลยเถิดว่า ตนเองกำลังเป็นโรค หัวใจ เพราะรู้สึกเหนื่อยง่ายและคิดอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ ซากๆ ทั้งที่ไม่ได้ไปตรวจให้ชัดเจน บางคนคิดว่าโลกจะแตก บางคนคิดว่าตนเองไม่สามารถทำงานอะไรให้สำเร็จได้ บางคนคิดว่าเราเป็นคนไม่ดีพอที่จะมีคนรักได้ ความคิดในทางลบที่ไม่เป็นความจริงนี้ ทำให้สุขภาพจิตเสีย ทำให้ขาดความภูมิใจในตนเอง ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน ทำลายความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถที่เรามีอยู่ ดังนั้น เราจึงไม่ควรปล่อยให้ใจคิดไปตามความพอใจแบบไร้ทิศทาง เราควรจะหยุดความคิดในทางลบเสียโดยทันทีที่มันเกิดขึ้นมา
ผู้เขียนพบว่า ในช่วงต้นเดือนมีนาคม-เมษายน พ.ศ.2546 มีการระบาดของเชื้อหวัดมรณะ (SARS) ในประเทศจีน เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ปรากฏว่ามีผู้ป่วยจำนวนมากมีความวิตกกังวล คิดว่าตนเองเป็นโรคดังกล่าวทั้งที่ไม่มีประวัติการสัมผัสโรคใดๆ มาพบผู้เขียนจำนวนมาก ซักประวัติแล้วจะพบว่า ผู้ป่วยเหล่านี้ดูข่าวทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ทุกวัน จนคิดกลัวไปเอง เป็นต้น
การฝึกการหยุดความคิด บำบัดโรคต่างๆ ได้มาก เช่น โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคตื่นตระหนกกลัว โรควิตกกังวลว่าตนเองเป็นโรคนั้นโรคนี้ โรคกลัวความล้มเหลว โรคเครียด โรคกลัวความล้มเหลวทางเพศ โรคกลัวความมืด กลัวงู กลัวลิฟท์ กลัวการดำอยู่ใต้น้ำ กลัวอยู่คนเดียว บางคนได้กระทำผิดพลาดในอดีต หรือมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดในอดีต แล้วมักคิดถึงเรื่องเหล่านี้ซ้ำๆ ซากๆ ทำให้ไม่สบายใจ
(อ่านต่อฉบับหน้า “วิธีหยุดความคิด”)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 107 ตุลาคม 2552 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)
บางคนคิดซ้ำๆซากๆ ในเรื่องเดียวกันนานๆ ที่เรียกว่า โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive disorders) บางคนคิดเรื่องบางเรื่องแล้วเกิดความหวาดกลัว (Phobic Thought) ความคิดแบบนี้ถือว่าเป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง ความคิดเหล่านี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่เป็นประโยชน์ และทำให้เกิดความวิตกกังวล ทำให้เราไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข
เรื่องการหยุดความคิด (Thought Stopping) จึงเป็นเรื่องที่นักวิชาการทางสุขภาพจิตสนใจกันมาก และนำมาใช้เพื่อบำบัดให้เรามีสุขภาพจิตดี เรื่องการหยุดความคิดนี้ Bain เป็นผู้เสนอเป็นคนแรกในปี ค.ศ.1928 โดยเขาเขียนไว้หนังสือ Thought Control in Everyday Life ซึ่งต่อมา Joself Wolpe ได้นำมาดัดแปลงใช้รักษาในผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำและคิดแล้วกลัว เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถหยุดความคิดที่ไม่ต้องการ ความคิดในทางลบ เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้เราทุกข์ใจ ร้อนใจ ทำให้สุขภาพของเราไม่ดี เราจึงควรฝึกหัดการหยุดความคิดที่ไม่ดีให้ชำนาญ เพื่อรักษาสุขภาพของเราให้ดีอยู่เสมอ ความคิดที่ไม่ดีเหมือนหูด คือ มันเกิดขึ้นแล้วก็จะค่อยๆ เกิดซ้ำๆ งอกงามขึ้นเรื่อยๆ
นักจิตบำบัดมักจะสอนให้เราหยุดความคิดลง โดยใช้คำพูดในใจว่า “หยุดๆ” หรือจะออกเสียงก็ได้ บางคนคิดเลยเถิดว่า ตนเองกำลังเป็นโรค หัวใจ เพราะรู้สึกเหนื่อยง่ายและคิดอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ ซากๆ ทั้งที่ไม่ได้ไปตรวจให้ชัดเจน บางคนคิดว่าโลกจะแตก บางคนคิดว่าตนเองไม่สามารถทำงานอะไรให้สำเร็จได้ บางคนคิดว่าเราเป็นคนไม่ดีพอที่จะมีคนรักได้ ความคิดในทางลบที่ไม่เป็นความจริงนี้ ทำให้สุขภาพจิตเสีย ทำให้ขาดความภูมิใจในตนเอง ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน ทำลายความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถที่เรามีอยู่ ดังนั้น เราจึงไม่ควรปล่อยให้ใจคิดไปตามความพอใจแบบไร้ทิศทาง เราควรจะหยุดความคิดในทางลบเสียโดยทันทีที่มันเกิดขึ้นมา
ผู้เขียนพบว่า ในช่วงต้นเดือนมีนาคม-เมษายน พ.ศ.2546 มีการระบาดของเชื้อหวัดมรณะ (SARS) ในประเทศจีน เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ปรากฏว่ามีผู้ป่วยจำนวนมากมีความวิตกกังวล คิดว่าตนเองเป็นโรคดังกล่าวทั้งที่ไม่มีประวัติการสัมผัสโรคใดๆ มาพบผู้เขียนจำนวนมาก ซักประวัติแล้วจะพบว่า ผู้ป่วยเหล่านี้ดูข่าวทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ทุกวัน จนคิดกลัวไปเอง เป็นต้น
การฝึกการหยุดความคิด บำบัดโรคต่างๆ ได้มาก เช่น โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคตื่นตระหนกกลัว โรควิตกกังวลว่าตนเองเป็นโรคนั้นโรคนี้ โรคกลัวความล้มเหลว โรคเครียด โรคกลัวความล้มเหลวทางเพศ โรคกลัวความมืด กลัวงู กลัวลิฟท์ กลัวการดำอยู่ใต้น้ำ กลัวอยู่คนเดียว บางคนได้กระทำผิดพลาดในอดีต หรือมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดในอดีต แล้วมักคิดถึงเรื่องเหล่านี้ซ้ำๆ ซากๆ ทำให้ไม่สบายใจ
(อ่านต่อฉบับหน้า “วิธีหยุดความคิด”)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 107 ตุลาคม 2552 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)