เวลาที่ไปปฏิบัติธรรมในที่เปลี่ยวแล้วเผชิญกับวิญญาณ
ต้องไม่สนใจ ยิ่งสนใจ จะยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งที่ 049 เจริญสติเผชิญความกลัว
โยม : ค่ะ อยากจะกราบเรียนถามอีกข้อหนึ่งค่ะ เวลาที่ไปปฏิบัติธรรมในที่เปลี่ยวนะคะ หมายถึงในป่าน่ะค่ะ จะเกิดความกลัวมากเมื่อได้ยินเสียงต่างๆ รบกวน ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ใช่เสียงคน หรือเสียงสัตว์ เป็นเสียงที่ทางวิญญาณ แล้วก็มี...
หลวงพ่อ : วิญญาณก็เป็นสัตว์นะ วิญญาณก็เป็นสัตว์อย่างหนึ่ง
โยม : ค่ะ คือมาในขณะเดียวกันหลายๆ ทาง แล้วเราก็กำหนดสติอยู่นะคะ แต่มันก็สู้ไม่ได้
หลวงพ่อ : ให้ดูที่ใจเรา อย่าไปฟังเสียง ดูใจเราลูกเดียวเลย
โยม : คือเราไม่ได้ปรุงไปเอง เพราะมันได้ยินเสียงขณะเราเดินอยู่ เดินจงกรมค่ะ ได้ยินตลอดเลยแล้วมันหลายด้านในคราวเดียวกัน
หลวงพ่อ : ก็ดีนี่ แก้ง่วง (โยมหัวเราะ)
โยม : แล้วมันเจอทุกแห่งที่นั่นค่ะ พอย้ายกุฏิไปก็เจออีก ทีนี้เราก็คิดว่าเราไม่ได้ปรุงเอง
หลวงพ่อ : ที่ไหนก็มี ในบ้านในเมืองก็มีนะไม่ใช่มีแต่ในป่า ที่ไหนก็มี แต่ว่าเราอยู่บ้านเราไม่ค่อยคิดถึง มันก็ไม่เห็นไม่สนใจ อยู่ในป่านะใจมันคอยระแวงระวัง คอยสนใจไปดูเขาเอง
โยม : แต่เราก็แก้โดยแผ่เมตตาก่อน แผ่เมตตาให้เขา เขาก็ยังไม่ยอม
หลวงพ่อ : ดีแล้ว แผ่ 2 อันนะ แผ่เมตตาแล้ว แผ่ส่วนบุญด้วย คนละอันกัน
โยม : แผ่ส่วนกุศลที่เราทำมาไว้แต่ในชาติก่อนเลย
หลวงพ่อ : อู๊ย... ทำไมให้ชาติก่อน ชาตินี้ไม่ให้ ทำไมมันงกปานนั้น
โยม : คือยกให้เขาเยอะๆ เขาจะได้ไม่ทำอะไร
หลวงพ่อ : บอกเขาว่า นี่เรากำลังจะทำความดี เดี๋ยวมีบุญแล้วจะแถมให้อีก บอกอย่างนี้นะ
โยม : ก็บอกเขาว่า ถ้ายิ่งทำ เราเจริญในธรรม เราก็จะแผ่ส่วนกุศลให้เขามากกว่านี้
หลวงพ่อ : เออนะ อย่างนั้นละ ติดสินบนไว้ยังงั้นแหละ มันจะได้สงสาร
โยม : ค่ะ แต่ก็ค่อยๆ ซาลง
หลวงพ่อ : พวกนี้นะมีเคล็ดลับอยู่อันหนึ่ง ต้องไม่สนใจ ยิ่งสนใจนะยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ
โยม : ค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า/รู้แจ้งขันธ์หมดตัณหา)
ต้องไม่สนใจ ยิ่งสนใจ จะยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งที่ 049 เจริญสติเผชิญความกลัว
โยม : ค่ะ อยากจะกราบเรียนถามอีกข้อหนึ่งค่ะ เวลาที่ไปปฏิบัติธรรมในที่เปลี่ยวนะคะ หมายถึงในป่าน่ะค่ะ จะเกิดความกลัวมากเมื่อได้ยินเสียงต่างๆ รบกวน ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ใช่เสียงคน หรือเสียงสัตว์ เป็นเสียงที่ทางวิญญาณ แล้วก็มี...
หลวงพ่อ : วิญญาณก็เป็นสัตว์นะ วิญญาณก็เป็นสัตว์อย่างหนึ่ง
โยม : ค่ะ คือมาในขณะเดียวกันหลายๆ ทาง แล้วเราก็กำหนดสติอยู่นะคะ แต่มันก็สู้ไม่ได้
หลวงพ่อ : ให้ดูที่ใจเรา อย่าไปฟังเสียง ดูใจเราลูกเดียวเลย
โยม : คือเราไม่ได้ปรุงไปเอง เพราะมันได้ยินเสียงขณะเราเดินอยู่ เดินจงกรมค่ะ ได้ยินตลอดเลยแล้วมันหลายด้านในคราวเดียวกัน
หลวงพ่อ : ก็ดีนี่ แก้ง่วง (โยมหัวเราะ)
โยม : แล้วมันเจอทุกแห่งที่นั่นค่ะ พอย้ายกุฏิไปก็เจออีก ทีนี้เราก็คิดว่าเราไม่ได้ปรุงเอง
หลวงพ่อ : ที่ไหนก็มี ในบ้านในเมืองก็มีนะไม่ใช่มีแต่ในป่า ที่ไหนก็มี แต่ว่าเราอยู่บ้านเราไม่ค่อยคิดถึง มันก็ไม่เห็นไม่สนใจ อยู่ในป่านะใจมันคอยระแวงระวัง คอยสนใจไปดูเขาเอง
โยม : แต่เราก็แก้โดยแผ่เมตตาก่อน แผ่เมตตาให้เขา เขาก็ยังไม่ยอม
หลวงพ่อ : ดีแล้ว แผ่ 2 อันนะ แผ่เมตตาแล้ว แผ่ส่วนบุญด้วย คนละอันกัน
โยม : แผ่ส่วนกุศลที่เราทำมาไว้แต่ในชาติก่อนเลย
หลวงพ่อ : อู๊ย... ทำไมให้ชาติก่อน ชาตินี้ไม่ให้ ทำไมมันงกปานนั้น
โยม : คือยกให้เขาเยอะๆ เขาจะได้ไม่ทำอะไร
หลวงพ่อ : บอกเขาว่า นี่เรากำลังจะทำความดี เดี๋ยวมีบุญแล้วจะแถมให้อีก บอกอย่างนี้นะ
โยม : ก็บอกเขาว่า ถ้ายิ่งทำ เราเจริญในธรรม เราก็จะแผ่ส่วนกุศลให้เขามากกว่านี้
หลวงพ่อ : เออนะ อย่างนั้นละ ติดสินบนไว้ยังงั้นแหละ มันจะได้สงสาร
โยม : ค่ะ แต่ก็ค่อยๆ ซาลง
หลวงพ่อ : พวกนี้นะมีเคล็ดลับอยู่อันหนึ่ง ต้องไม่สนใจ ยิ่งสนใจนะยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ
โยม : ค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า/รู้แจ้งขันธ์หมดตัณหา)