xs
xsm
sm
md
lg

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

..เมื่อท่านตั้งใจดี มีแผนงานดี มีหลักวิชา มีเหตุผล มีสติรอบคอบในงานที่ทำแล้ว จะเกิดความทราบตระหนักด้วยตนเองขึ้นว่า งานที่ทำนั้น จะได้ผลดีแน่นอน แม้อาจยังไม่ปรากฏผลในปัจจุบัน ทันตาเห็น ก็จะแน่แก่ใจได้ว่าจะสำเร็จลุล่วงด้วยดีในเวลาต่อไป...
******

...ความไม่พอใจนี้เป็นของไม่ดี มีความไม่พอใจที่ไหน ความ เดือดร้อนก็เกิดที่นั่น..เป็นข้อสังเกตว่า คนเรา ความพอใจแท้ๆ จะมีไม่ได้ เพราะว่าถ้าคนไหนมีความพอใจแท้ๆ คนนั้นพูดไม่จริง เพราะว่าไม่มีใครที่มีความพอใจแท้ๆ แม้จะเป็นพระ จะเรียกว่าจะมีความพอใจแท้ๆก็ไม่ได้.. พระอรหันต์มีความสำเร็จ ไม่ใช่ความพอใจ มีความสำเร็จว่า ไม่ต้องพอใจแล้ว...
******

...วิชาความรู้นั้น ถ้าใช้ในทางดีด้วยความรู้เท่าทัน ก็จะช่วยป้องกันประเทศชาติให้พ้นภยันตรายจากศัตรู และสามารถช่วยการพัฒนาบ้านเมืองให้ทันกับความเจริญของโลกในปัจจุบันได้ แต่ถ้าใช้ด้วยความหลงแล้ว ก็จะเป็นอันตรายแก่ตัวเอง และแก่ชาติบ้านเมือง อย่างร้ายกาจที่สุด...
******

...เมื่อมีความรู้ความคิดอยู่ ควรจะนำมาเชื่อมโยงกันเข้าให้พร้อมเพรียง ประสมประสานปรับปรุงความรู้ความคิดนั้น ด้วยความคิดพิจารณา แล้วนำออกใช้ให้ได้ผล จุดใดเสื่อม ก็แก้ไขเปลี่ยนแปลงที่จุดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้นเป็นลำดับ...
******

...การสร้างความสำเร็จในกิจการงานทุกอย่าง ทุกระดับ รวมทั้งความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนด้วยนั้น ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญประกอบกันถึงสามส่วน ส่วนที่หนึ่ง คือ ความรู้และความชำนาญทางวิชาการ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานหรือเป็นเครื่องมือปฏิบัติงานแท้ๆ ส่วนที่สอง คือความละเอียดถี่ถ้วน ความตั้งใจ และความอุตสาหะพยายาม ซึ่งเป็นเครื่องช่วยให้ทำการได้ไม่ผิดพลาดบกพร่อง และสำเร็จลุล่วงได้ตลอด ไม่ทิ้งขว้างละวางเสียกลางคัน ส่วนที่สามนั้น ได้แก่สติ ระลึกรู้ตัว และปัญญาความรู้ชัด หรือความเฉลียวฉลาดที่จะหยุดคิดพิจารณากิจที่จะทำคำที่จะพูดทุกอย่าง ให้เป็นไปโดยถูกต้องเที่ยงตรง ตามกระบวนการของเหตุผล ซึ่งจะช่วยให้ดำเนินชีวิตและการงาน ไปในทางเจริญ...
******

...ถ้าเราคิดดี ทำดี ไม่ใช่แต่ปากนะ ทำอย่างดีจริงๆ คือสร้างสมสิ่งที่ดี ด้วยการปฏิบัติในสิ่งที่เรียกว่าดี หมายความว่า ไม่เบียดเบียน ผู้อื่น สร้างสรรค์ทำให้มีความเจริญ ทั้งวัตถุทั้งจิตใจ แล้วไม่ต้องกลัว...
******

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 105 สิงหาคม 2552)
กำลังโหลดความคิดเห็น