xs
xsm
sm
md
lg

ข้อคิดพินิจธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำบริกรรมเป็นเพียงเปลือกนอกเหมือนชื่อคนไม่ใช่ตัวเราจริงๆ เป็นเพียงชื่อ เหมือนกับพูดว่ากินข้าวๆๆ บ่นไปก็ไม่อิ่ม แต่ถ้ากินข้าว จะพูดหรือ ไม่พูดก็อิ่ม
หลวงพ่อทูล ขิปปัญฺโญ
วัดป่าบ้านค้อ จ. อุดรธานี

ใช้สติดูจิตใจ ไม่ว่าความคิดอะไรเกิดขึ้น เห็นมันทันที และเราจะรู้ถึงความหลอกลวง รู้ทันเวลา รู้การป้องกัน และรู้การแก้ไข รู้ถึงการเอาชนะความคิดปรุงแต่ง ศีลจะเกิดขึ้นภายในจิตใจของเราเอง ไม่ใช่คนดอกที่รักษาศีล แต่ศีลต่างหากที่รักษาคน
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
วัดสนามใน กรุงเทพฯ

การทำความดี แม้ยืน เดิน นั่ง นอน ก็ทำได้ ขันติ สัจจะ วิริยะ เจริญสมาธิ ฝึกสติ ทำได้ทั้งนั้น ในทุกสถานที่ แต่พวกเราไม่เห็นความสำคัญกันเอง
หลวงพ่อทอง จันทสิริ
วัดอโศการาม จ. สมุทรปราการ

ความมืดก็อยู่ที่นี่ ความสว่างก็อยู่ที่นี่ ความโง่ ความหลง ก็อยู่ในตัวของเรานี้ ความรู้ความฉลาดก็อยู่ในใจของเรานี้ ใจดวงนี้จึงเป็นเหมือนเก้าอี้ ตัวเดียว แต่คนรอนั่งบนเก้าอี้มีสองคน ถ้าคนหนึ่งเข้านั่ง อีกคนหนึ่งก็ต้องยืน ถ้าแบ่งกันนั่งก็ได้นั่งคนละซีก เช่นเดียวกับความโง่ความฉลาดแทรกกันอยู่ในใจดวงเดียว จะว่าโง่จริงๆ ก็รู้อยู่ จะว่าหลงจริงๆ ก็ยังรู้อยู่ แต่ถ้าจะว่ารู้จริงๆ ก็ยังมีความโง่ความฉลาดแทรกอยู่ด้วย จึงเทียบกับเก้าอี้ตัวเดียวแต่คนนั่งสองคน ใจดวงเดียวแต่มีความโง่กับความหลงแทรกกันอยู่คนละซีก ถ้าใครมีกำลังมากกว่า คนนั้นก็ได้นั่งมาก
หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
วัดป่าบ้านตาด จ. อุดรธานี

คนเราเพียงแต่รับศีล ไม่ได้รักษาศีล เข้าใจว่าศีลนั่นเป็นของพระ ถ้าพระไม่ให้แล้ว เราก็ว่าเราไม่ได้ศีล อย่างนี้เป็นสีลัพพตปรามาสเพียงแต่ลูบคลำศีล แท้ที่จริงนั้น ศีลของเราเกิดมาพร้อมกับเรา ศีลห้าบริบูรณ์ตั้งแต่เกิดมา ขาสองแขนสอง ศีรษะหนึ่ง อันนี้คือตัวศีลห้า เราได้จากมารดาของเรา เกิดมาก็มีพร้อมแล้ว เมื่อเรามีศีลห้าบริสุทธิ์อย่างนี้ ก็ให้เรารักษาอันนี้แหละ รักษากายของเรา รักษาวาจา รักษาใจ ให้เรียบร้อย
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร จ. สกลนคร

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 101 เม.ย. 52)
กำลังโหลดความคิดเห็น