แก้วที่คว่ำกลางสายฝน ต่อให้ฝนตกกระหน่ำก็ไม่อาจเต็มไปด้วยน้ำ
คนที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้ ต่อให้คลุกคลีอยู่กับนักปราชญ์ ก็ยังโง่เท่าเดิม
ขอบคุณมหกรรมคอร์รัปชัน ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองใหม่
เรื่องที่ 59
คำคมชวนคิด
จากพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)
เพื่อฟื้นฟูสภาพกาย จิต และเศรษฐกิจ ในยุคปัญหากระหน่ำ หลายกลุ่มชนในชมรมต่างๆ พยายามช่วยกันเพิ่มพลังคิดบวก โดยส่งบทความผ่านไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบการสื่อสารที่ทั้งสะดวกที่สุดและราคาถูกที่สุด ประหยัดเงินตรา เวลา และแรงงาน สามารถส่งถึงกันไปทั่วโลก
ดังบทความธรรมะที่ได้รับจาก"คณะกรรมการชมรมพุทธศาสนา บริษัท อินโดรามาปิโตรเคมี"ที่ส่งมาเป็น คำคมชวนคิด โดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี)ผู้มีกุศโลบายในการถ่ายทอดข้อธรรมได้เท่าทันยุคสมัย ถูกใจคนทุกรุ่น
ได้แค่คำโปรย ก็กินใจเหลือเกินแล้ว...
*แก้วที่คว่ำอยู่กลางสายฝน ต่อให้ฝนตกกระหน่ำทั้งคืนก็ไม่อาจเต็มไปด้วยน้ำ คนที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้ ต่อให้คลุกคลีอยู่กับนักปราชญ์ทั้งคืนทั้งวัน ก็ยังโง่เท่าเดิม*
ใครอยากฉลาด ก็ให้หมั่นทำบุญ สร้างคุณความดีแลกุศลอย่างสม่ำเสมอ ให้พิจารณาทุกครั้งที่ต้องติดต่อเกี่ยวข้องกับผู้คนว่า เราจะใช้โอกาสบริหารเขาให้เป็นฐานในการสร้างคุณความดี สร้างบารมีได้อย่่างไร หากเริ่มมีความคิดตั้งต้นได้ดังนี้ แม้ผลลัพธ์หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ใจก็จะไม่ตก เพราะเราได้ทำประโยชน์แล้วตั้งแต่เริ่มแรก ส่วนเขาจะคิดหาประโยชน์ส่วนตน ต่อไปอย่างไร จะเห็นคุณค่าความดีงามหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเราจงฝึกใจเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังแม้คำ "ขอบคุณ"
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ได้ให้นัยอันล้ำลึกของคำว่า "ขอบคุณ" ไว้อย่างน่าคิดว่า...
*ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้
ขอบคุณความยากจน ที่ทำให้เป็นคนมุมานะ
ขอบคุณความล้มเหลว ที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ
ขอบคุณความผิดพลาด ที่ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม
ขอบคุณความริษยา ที่ทำให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ขอบคุณคำวิพากษ์วิจารณ ที่ทำให้ผลิบานอย่างไร้ข้อตำหนิ
*ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้จักครูที่ชื่อประสบการณ์
ขอบคุณความผิดหวัง ที่ทำให้ตั้งสติเพื่อลุกขึ้นมาใหม่
ขอบคุณศัตรูที่แกร่งกล้า ที่ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ใช่มืออาชีพ
ขอบคุณมหกรรมคอร์รัปชัน ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองใหม่
ขอบคุณความป่วยไข้ ที่ทำให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพ
ขอบคุณความทุกข์ ที่ทำให้เรารู้ว่าความสุขมีค่าแค่ไหน
ขอบคุณความพลัดพราก ที่ทำให้เราสละจากความยึดมั่นถือมั่น
ขอบคุณเพลิงกิเลส ที่ทำให้เรามีเหตุอยากถึงพระนิพพาน
ขอบคุณความตาย ที่ทำให้ฉากสุดท้ายของชีวิตสมบูรณ์แบบ*
ถ้าหากถ้อยคำนี้เป็นดั่งประทีปธรรมในการสร้างจิตสำนึกที่งดงามให้แก่ผู้ที่ได้อ่านและศึกษา พึงน้อมดวงจิตบูชาระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย แล้วไปสู่การประพฤติและการปฏิบัติตนในฐานะพุทธมามกะที่ดี ก็คงจะนำมาซึ่งปีติอันใหญ่หลวงยิ่ง
ขออนุโมทนาบุญต่อผู้มีส่วนร่วมกันจัดทำขึ้น
ขออนุโมทนาบุญ และขอบคุณชาวพุทธทุกท่านที่กรุณาส่งต่อ แนะนำธรรมทานนี้ และขออภัยอย่างสูง หากบทความนี้ไปรบกวน จิตสำนึกของท่าน
ขอขอบคุณอีกครั้งที่ได้ให้โอกาสตนเองอ่านถ้อยธรรมนี้จนจบ
ไม่มีใครสามารถลืมถ้อยคำอันล้ำค่าได้หรอก หากถ้อยคำนั้นคือธรรมแท้ที่ส่งจากใจถึงใจด้วยความเข้าใจ ด้วยเมตตาและปรารถนาดี ด้วยความบริสุทธิ์และจริงใจ
คนที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้ ต่อให้คลุกคลีอยู่กับนักปราชญ์ ก็ยังโง่เท่าเดิม
ขอบคุณมหกรรมคอร์รัปชัน ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองใหม่
เรื่องที่ 59
คำคมชวนคิด
จากพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)
เพื่อฟื้นฟูสภาพกาย จิต และเศรษฐกิจ ในยุคปัญหากระหน่ำ หลายกลุ่มชนในชมรมต่างๆ พยายามช่วยกันเพิ่มพลังคิดบวก โดยส่งบทความผ่านไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบการสื่อสารที่ทั้งสะดวกที่สุดและราคาถูกที่สุด ประหยัดเงินตรา เวลา และแรงงาน สามารถส่งถึงกันไปทั่วโลก
ดังบทความธรรมะที่ได้รับจาก"คณะกรรมการชมรมพุทธศาสนา บริษัท อินโดรามาปิโตรเคมี"ที่ส่งมาเป็น คำคมชวนคิด โดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี)ผู้มีกุศโลบายในการถ่ายทอดข้อธรรมได้เท่าทันยุคสมัย ถูกใจคนทุกรุ่น
ได้แค่คำโปรย ก็กินใจเหลือเกินแล้ว...
*แก้วที่คว่ำอยู่กลางสายฝน ต่อให้ฝนตกกระหน่ำทั้งคืนก็ไม่อาจเต็มไปด้วยน้ำ คนที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้ ต่อให้คลุกคลีอยู่กับนักปราชญ์ทั้งคืนทั้งวัน ก็ยังโง่เท่าเดิม*
ใครอยากฉลาด ก็ให้หมั่นทำบุญ สร้างคุณความดีแลกุศลอย่างสม่ำเสมอ ให้พิจารณาทุกครั้งที่ต้องติดต่อเกี่ยวข้องกับผู้คนว่า เราจะใช้โอกาสบริหารเขาให้เป็นฐานในการสร้างคุณความดี สร้างบารมีได้อย่่างไร หากเริ่มมีความคิดตั้งต้นได้ดังนี้ แม้ผลลัพธ์หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ใจก็จะไม่ตก เพราะเราได้ทำประโยชน์แล้วตั้งแต่เริ่มแรก ส่วนเขาจะคิดหาประโยชน์ส่วนตน ต่อไปอย่างไร จะเห็นคุณค่าความดีงามหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเราจงฝึกใจเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังแม้คำ "ขอบคุณ"
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ได้ให้นัยอันล้ำลึกของคำว่า "ขอบคุณ" ไว้อย่างน่าคิดว่า...
*ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้
ขอบคุณความยากจน ที่ทำให้เป็นคนมุมานะ
ขอบคุณความล้มเหลว ที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ
ขอบคุณความผิดพลาด ที่ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม
ขอบคุณความริษยา ที่ทำให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ขอบคุณคำวิพากษ์วิจารณ ที่ทำให้ผลิบานอย่างไร้ข้อตำหนิ
*ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้จักครูที่ชื่อประสบการณ์
ขอบคุณความผิดหวัง ที่ทำให้ตั้งสติเพื่อลุกขึ้นมาใหม่
ขอบคุณศัตรูที่แกร่งกล้า ที่ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ใช่มืออาชีพ
ขอบคุณมหกรรมคอร์รัปชัน ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองใหม่
ขอบคุณความป่วยไข้ ที่ทำให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพ
ขอบคุณความทุกข์ ที่ทำให้เรารู้ว่าความสุขมีค่าแค่ไหน
ขอบคุณความพลัดพราก ที่ทำให้เราสละจากความยึดมั่นถือมั่น
ขอบคุณเพลิงกิเลส ที่ทำให้เรามีเหตุอยากถึงพระนิพพาน
ขอบคุณความตาย ที่ทำให้ฉากสุดท้ายของชีวิตสมบูรณ์แบบ*
ถ้าหากถ้อยคำนี้เป็นดั่งประทีปธรรมในการสร้างจิตสำนึกที่งดงามให้แก่ผู้ที่ได้อ่านและศึกษา พึงน้อมดวงจิตบูชาระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย แล้วไปสู่การประพฤติและการปฏิบัติตนในฐานะพุทธมามกะที่ดี ก็คงจะนำมาซึ่งปีติอันใหญ่หลวงยิ่ง
ขออนุโมทนาบุญต่อผู้มีส่วนร่วมกันจัดทำขึ้น
ขออนุโมทนาบุญ และขอบคุณชาวพุทธทุกท่านที่กรุณาส่งต่อ แนะนำธรรมทานนี้ และขออภัยอย่างสูง หากบทความนี้ไปรบกวน จิตสำนึกของท่าน
ขอขอบคุณอีกครั้งที่ได้ให้โอกาสตนเองอ่านถ้อยธรรมนี้จนจบ
ไม่มีใครสามารถลืมถ้อยคำอันล้ำค่าได้หรอก หากถ้อยคำนั้นคือธรรมแท้ที่ส่งจากใจถึงใจด้วยความเข้าใจ ด้วยเมตตาและปรารถนาดี ด้วยความบริสุทธิ์และจริงใจ
