xs
xsm
sm
md
lg

ศิลปินกับศิลปะ : ‘ตุงชัย’ เมืองน่าน ร่วมส่งเสด็จ 'พระพี่นาง' สู่สวรรคาลัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตุงผืนงามที่ถูกถักทอขึ้นจากฝีมืออันประณีตของกลุ่มแม่บ้านชาวจังหวัดน่าน เป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกเลือกนำมาประดับและตกแต่งภายในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้ นาวาอากาศเอกอาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ เป็นผู้จัดหาตุงเหล่านี้
ดังนั้นกรมศิลปากรในฐานะผู้ดำเนินการจัดสร้างพระเมรุ จึงได้มีหนังสือถึงนายสมพงษ์ อนุยุทธพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ให้จัดทำตุงที่มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อให้พสกนิกรชาวน่านได้มีส่วนร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
เหตุที่จะต้องเป็นตุงจากจังหวัดน่าน เนื่องมาจาก สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงมีความผูกพันกับชาวเมืองเล็กๆ แห่งล้านนาตะวันออกนี้หลายประการ อาทิ ทรงมีพระราชกรณียกิจนำหน่วยแพทย์ พอสว. ออกช่วยเหลือราษฎรตามหมู่บ้านต่างๆ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์สร้างมูลนิธิโรงเรียนนันทบุรีวิทยา จ.น่าน เพื่อหาทุนการศึกษาสงเคราะห์ ให้แก่นักเรียนที่มีฐานะยากจนและด้อยโอกาส ทรงอุปถัมภ์ บูรณะพระอารามหลวงวัดช้างค้ำวรวิหาร ซึ่งเป็นโบราณสถานที่มีอายุกว่า 700 ปี และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวน่าน คราวที่เกิดความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ.2545 และทรงมีพระตำหนักริมน้ำ ตั้งอยู่ใน พื้นที่บ้านคั้งถี่ ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง เพื่อใช้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ และเมื่อเวลาทรงงาน ณ จังหวัดน่าน
ตุงขนาดความกว้าง 50 ซม. ยาว 5 เมตร (ไม่รวมชาย) จำนวน 20 ผืน กลุ่มทอผ้าบ้านเก็ต ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน ตลอดจนกลุ่มทอผ้าบ้านหล่ายทุ่ง และกลุ่มทอผ้าบ้านทุ่งสน ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เป็นผู้ร่วมแรงกันถักทอขึ้น ตามลักษณะ ‘ตุงชัย’ ของชาวไทลื้อ ซึ่งนายสมเจตน์ วิมลเกษม ครูภูมิปัญญาไทย สาขาภาษาและวรรณกรรม (ภาษาล้านนา) จ.น่าน หนึ่งในคณะจัดทำตุงถวาย ได้บอกถึงความหมายของตุงชัยว่า เป็นดั่งธงชัยที่พระพุทธเจ้าทรงปักมั่นเอาไว้ เพื่อประกาศชัยชนะเหนือหมู่มาร
“โดยนัยยะก็คือ ให้อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายได้ปักธงชัย อันเป็นสิริมงคลอย่างสูงยิ่งนี้ไว้ในกลางใจของตัวเอง เพื่อให้ชนะเหล่ามารร้าย กิเลส ตัณหา และอวิชชาทั้งหลายให้หมดสิ้นไปจากใจ ให้คงไว้เพียงจิตที่บริสุทธิ์ ที่จะก่อให้ เกิดสังคมที่สงบงาม เอื้ออาทรต่อกัน มีเมตตาต่อกัน ดั่งพุทธพจน์ ที่ว่า เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก”

ก่อนที่ตุงชัย ซึ่งมีลวดลายเป็นรูปปราสาท 5 ชั้นเป็นหลัก จะถูกทักทอขึ้น กลุ่มแม่บ้านได้ทำการประกอบพิธีบูชาขอขมาพระแม่ธรณี ตลอดจนพิธีสงฆ์และพิธีบูชาบรรพาจารย์ตามแบบที่คนโบราณได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา แล้วจึงเริ่มดำเนินการถักทอ
ตุงทุกผืนทอจากผ้าฝ้ายคุณภาพดี มีสีพื้นเป็นสีขาว ขณะที่ลวดลายอันงดงามย้อมจากสีธรรมชาติ เช่น สีของใบทองกราว ใบสาบเสือ เป็นต้น และมีตุงชัยอยู่ 2 ผืนที่มีลวดลายทั้งหมดเป็นสีฟ้า ซึ่งเป็นสีที่ทรงโปรดของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
ลวดลายบนผืนตุงส่วนใหญ่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกี่ยวกับพุทธบูชา
รูปปราสาท 5 ชั้น เป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ในยุคภัทรกัปป์ หรือนัยหนึ่งหมายถึงขันธ์ 5 ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันเป็นต้นเหตุของการเวียนว่ายตายเกิด หากตัดพันธนาการนี้ได้ก็จะหลุดพ้นจากวัฎสงสาร เข้าสู่ห้วงมหานิพพานอันเป็นจุดหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา
รูปต้นไม้ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินหรือนัยหนึ่งหมายถึงต้นไม้ แห่งจักรวาล อันหมายถึงพระพุทธเจ้าทรงเป็นเสาแกนของจักรวาล เปรียบต้นไม้คือจักรวาล กิ่งก้านสาขาคือแดนสวรรค์ และส่วนที่งอกจากพื้นดินคือมนุษยภูมิ
รูปหม้อปูรณะฆฏะ หรือหม้อน้ำอันมีน้ำเต็มบริบูรณ์ ซึ่งมีไม้เลื้อยแผ่ออกมาทั้งสองข้าง หมายถึงความงอกงาม ชีวิตและการสร้างสรรค์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความร่มเย็น ความสมบูรณ์พูนสุข และยังหมายถึงน้ำพระทัยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาของพระพุทธเจ้าที่มีต่อสัตว์โลก
รูปนกหรือรูปหงส์ หมายถึงความมีอำนาจวาสนา ความดีความงามที่จะช่วยเกื้อหนุนบุคคลอื่นให้ถึงวิมุตติสุข หรือเป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าตามความเชื่อของลัทธิลังกาวงศ์ เพราะหงส์สามารถแยกนมกับน้ำออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด เปรียบเสมือนการแยกความดีกับความชั่วออกจากกัน
รูปนาคหรือมังกร หมายถึงพลังอำนาจที่สามารถคุมสายน้ำของทั้งโลกเอาไว้ได้ เปรียบเสมือนมหาบุรุษที่สามารถควบคุมและดับสิ้นซึ่งกิเลสตัณหาทั้งหลายทั้งปวงโดยสิ้นเชิง
รูปสิงห์ หมายถึงพระศรีอริยเมตไตย ซึ่งจะมาบังเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล เป็นกุศโลบายที่สอนให้อุบาสกอุบาสิกา ตั้งมั่นในสัมมาปฎิบัติ อันจะนำมาซึ่งสันติสุขในสังคม
รูปช้าง หมายถึงความมีบารมีที่ยิ่งใหญ่ แทนองค์ กษัตริย์ผู้บำรุงพระพุทธศาสนา ผู้ทำให้กงล้อแห่งธรรมได้ขับเคลื่อนไป และเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปในทุกสารทิศ
รูปเรือ หมายถึงญาณทัศนะหรือญาณวิถี หรือตัวแทนของพาหนะที่จะพาพวกเวไนยสัตว์ข้ามพ้นท้องทะเลแห่งวัฏสงสารไปได้ และยังหมายถึงการบรรทุกไว้ซึ่งพระธรรมคำสั่งสอนทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์
ส่วนลายขอปิ๊กขอเหลียวหรือลายเหวยเหวิน เป็นสัญลักษณ์ของความยั่งยืน ความสืบเนื่องที่ไม่มีวันจบสิ้น และความเป็นเหตุเป็นผลของหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ลวดลายอันเป็นมงคลเหล่านี้จึงเป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความดี ซึ่งแทนความความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พสกนิกรชาวน่านมีต่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
และเป็นการร่วมส่งเสด็จดวงพระวิญญาณสู่สวรรคาลัย หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานอันเนื่องมาจากวิบากกรรม ตามความเชื่อของชาวล้านนา

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 96 พ.ย. 51 โดยฮักก้า)
กำลังโหลดความคิดเห็น