ชายหนุ่มคนหนึ่งได้ไปว่าจ้างช่างตีเหล็กในเมืองให้ทำขวานอย่างดีไว้สำหรับตัดต้นไม้ เมื่อช่างทำเสร็จก็บอกกับเขาว่า “นี่เป็นขวานที่ทำจากเหล็กที่ดีที่สุดที่มีเพียงชิ้นเดียวในร้านของข้า มันคมกริบ และเป็นขวานที่ดีที่สุดที่ข้าเคยทำมา”
เจ้าขวานได้ยินช่างตีเหล็กพูดเช่นนั้นก็รู้สึกภาคภูมิใจ ในขณะที่ชายหนุ่มพิจารณาดูขวานที่ส่งประกายแวววาวด้วยความพอใจ พร้อมกับจ่ายเงินอย่างงามให้ช่างตีเหล็ก และนำขวานกลับบ้าน ไปเก็บไว้ในห้องเก็บของ เพื่อเตรียมเอามาตัดต้นไม้ในวันรุ่งขึ้น
“ข้าไม่มีวันจะยอมให้ชายคนนี้เอาตัวข้าไปกระทบกับเจ้าต้นไม้ให้เปรอะเปื้อนหรอก อีกอย่างหนึ่งความคมของข้าก็จะลดไป แล้วความสง่างามของข้าก็จะหมดไป” เจ้าขวานรำพึงกับตัวเอง พร้อมกับมองหาที่หลบซ่อนให้พ้นจากสายตาของชายหนุ่ม แล้วมันก็พบว่ามีลังเก่าๆผุๆคว่ำอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องเก็บของ มันจึงพาตัวเองไปหลบซ่อนอยู่ใต้ลังใบนั้น
รุ่งเช้าชายหนุ่มก็เข้ามาในห้องเก็บของ แต่เขาก็ไม่เห็นขวานเล่มงามอยู่ตรงที่เขาวางไว้ เขาพยายามหาจนทั่วห้องเก็บของ ยกเว้นตรงลังเก่าๆใบนั้น แต่ก็ไม่พบ ฝ่ายเจ้าขวานรู้สึกมีความสุขที่มันได้นอนนิ่งๆเย็นสบายภายใต้ลังที่เปียกชื้น ชื่นชมกับความงามของตัวเองวันแล้ววันเล่าตลอดฤดูฝน ขณะที่ชายหนุ่มได้ไปขอให้ช่างตีเหล็กทำขวานใหม่ ซึ่งแม้จะไม่ดีเท่าอันแรก แต่เขาก็ได้ใช้ขวานธรรมดานั้นตัดต้นไม้ที่ขึ้นรก รุงรัง และเมื่อเสร็จงานแล้ว เขาก็นำขวานไปทำความสะอาดเช็ดถูอาบด้วยน้ำมัน และเก็บไว้เป็นอย่างดี
“เจ้าหน้าโง่เอ๊ย..ไม่สวยงามเหมือนข้า แถมยังโดนเขาใช้งานอีกด้วย” ขวานชั้นเยี่ยมเปรยถึงขวานเล่มใหม่
วันเวลาผ่านไปหลายปีเจ้าขวานชั้นเยี่ยมเริ่มรู้สึกเป็นทุกข์ เมื่อมันเห็นคราบเหลืองๆดำๆเกาะอยู่บนตัวของมัน และนับวันก็ยิ่งมากขึ้นๆ จนไม่เหลือความแวววาวใดๆเลย เนื้อตัวของมันเริ่มหลุดร่อนออกมา กระทั่งวันหนึ่งชายหนุ่มได้รื้อห้องเก็บของทั้งหมด และพบขวานอยู่ใต้ลังไม้ผุกร่อน
“อ้าว..อยู่นี่เองเจ้าขวานชั้นเยี่ยม โอ้โห..สนิมกินเต็มตัวอย่างนี้ ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว” ว่าแล้วชายหนุ่มก็โยนขวานขึ้นสนิมลงไปปะปนกับขยะอื่นๆ
เจ้าขวานชั้นเยี่ยมที่บัดนี้กลายเป็นขวานขึ้นสนิม ไร้ประโยชน์ ได้แต่ร้องไห้เสียใจที่ตัวมันไม่มีค่าอีกต่อไป สู้ขวานเหล็กธรรมดาๆก็ไม่ได้
.......
โบราณว่าค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน ค่าของคนมิใช่อยู่ที่ความงามเพียงภายนอก แต่ค่าของคนอยู่ที่การกระทำแต่สิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อตนและผู้อื่นต่างหาก และคนไร้ค่าก็คือคนที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่เกิดประโยชน์นั่นเอง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 95 ต.ค. 51 โดยไม้หอม)
เจ้าขวานได้ยินช่างตีเหล็กพูดเช่นนั้นก็รู้สึกภาคภูมิใจ ในขณะที่ชายหนุ่มพิจารณาดูขวานที่ส่งประกายแวววาวด้วยความพอใจ พร้อมกับจ่ายเงินอย่างงามให้ช่างตีเหล็ก และนำขวานกลับบ้าน ไปเก็บไว้ในห้องเก็บของ เพื่อเตรียมเอามาตัดต้นไม้ในวันรุ่งขึ้น
“ข้าไม่มีวันจะยอมให้ชายคนนี้เอาตัวข้าไปกระทบกับเจ้าต้นไม้ให้เปรอะเปื้อนหรอก อีกอย่างหนึ่งความคมของข้าก็จะลดไป แล้วความสง่างามของข้าก็จะหมดไป” เจ้าขวานรำพึงกับตัวเอง พร้อมกับมองหาที่หลบซ่อนให้พ้นจากสายตาของชายหนุ่ม แล้วมันก็พบว่ามีลังเก่าๆผุๆคว่ำอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องเก็บของ มันจึงพาตัวเองไปหลบซ่อนอยู่ใต้ลังใบนั้น
รุ่งเช้าชายหนุ่มก็เข้ามาในห้องเก็บของ แต่เขาก็ไม่เห็นขวานเล่มงามอยู่ตรงที่เขาวางไว้ เขาพยายามหาจนทั่วห้องเก็บของ ยกเว้นตรงลังเก่าๆใบนั้น แต่ก็ไม่พบ ฝ่ายเจ้าขวานรู้สึกมีความสุขที่มันได้นอนนิ่งๆเย็นสบายภายใต้ลังที่เปียกชื้น ชื่นชมกับความงามของตัวเองวันแล้ววันเล่าตลอดฤดูฝน ขณะที่ชายหนุ่มได้ไปขอให้ช่างตีเหล็กทำขวานใหม่ ซึ่งแม้จะไม่ดีเท่าอันแรก แต่เขาก็ได้ใช้ขวานธรรมดานั้นตัดต้นไม้ที่ขึ้นรก รุงรัง และเมื่อเสร็จงานแล้ว เขาก็นำขวานไปทำความสะอาดเช็ดถูอาบด้วยน้ำมัน และเก็บไว้เป็นอย่างดี
“เจ้าหน้าโง่เอ๊ย..ไม่สวยงามเหมือนข้า แถมยังโดนเขาใช้งานอีกด้วย” ขวานชั้นเยี่ยมเปรยถึงขวานเล่มใหม่
วันเวลาผ่านไปหลายปีเจ้าขวานชั้นเยี่ยมเริ่มรู้สึกเป็นทุกข์ เมื่อมันเห็นคราบเหลืองๆดำๆเกาะอยู่บนตัวของมัน และนับวันก็ยิ่งมากขึ้นๆ จนไม่เหลือความแวววาวใดๆเลย เนื้อตัวของมันเริ่มหลุดร่อนออกมา กระทั่งวันหนึ่งชายหนุ่มได้รื้อห้องเก็บของทั้งหมด และพบขวานอยู่ใต้ลังไม้ผุกร่อน
“อ้าว..อยู่นี่เองเจ้าขวานชั้นเยี่ยม โอ้โห..สนิมกินเต็มตัวอย่างนี้ ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว” ว่าแล้วชายหนุ่มก็โยนขวานขึ้นสนิมลงไปปะปนกับขยะอื่นๆ
เจ้าขวานชั้นเยี่ยมที่บัดนี้กลายเป็นขวานขึ้นสนิม ไร้ประโยชน์ ได้แต่ร้องไห้เสียใจที่ตัวมันไม่มีค่าอีกต่อไป สู้ขวานเหล็กธรรมดาๆก็ไม่ได้
.......
โบราณว่าค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน ค่าของคนมิใช่อยู่ที่ความงามเพียงภายนอก แต่ค่าของคนอยู่ที่การกระทำแต่สิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อตนและผู้อื่นต่างหาก และคนไร้ค่าก็คือคนที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่เกิดประโยชน์นั่นเอง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 95 ต.ค. 51 โดยไม้หอม)