ทารก 81 คน คลอดในวัดจีน
• จีน :ปกติแล้ววัดไม่ใช่เป็นสถานที่ทำคลอด แต่หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในจีนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีทารกถึง 81 คน คลอดที่วัดโล่วฮั่น ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างเมื่อ ค.ศ.709 ตั้งอยู่ในเมืองไซฟาง จังหวัดเสฉวน
แพทย์และพยาบาลหลายคนซึ่งกำลังดูแลคุณแม่คนใหม่ และหญิงตั้งครรภ์กว่า 40 คน ได้รีบอพยพคนทั้งหมดออกจากโรงพยาบาลแม่และเด็ก ทันทีที่เริ่มเกิดแผ่นดินไหว และอาคารโรงพยาบาลเริ่มทรุดตัวลง
พระซื่อ กวน ซึ่งดูแลบริหารวัดอยู่ในเวลานั้น ได้บอกให้ทุกคนอพยพไปอยู่ที่วัด
“วันที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งเกิดแผ่นดินไหว เป็นวันที่กำลังเฉลิมฉลองเทศกาลวันประสูติของพระศากยมุนี เมื่อเกิดเหตุ เราก็ได้ให้ความชั่วเหลือเท่าที่จะทำได้” พระซื่อ กวน กล่าว
เบื้องต้นชาวบ้านกว่า 800 คนได้หลบเข้ามาพักพิงที่วัด หลัง 4 วันผ่านไปมีผู้คนอพยพเข้ามาเพิ่มขึ้นราว 1,500 คน พระซื่อ กวน เล่าว่าพระสงฆ์ 41 รูป และฆารวาส 30 คนซึ่งอาศัยอยู่ในวัดขณะแผ่นดินไหว ต่างก็หาที่กำบัง และก็ปลอดภัยกันทุกคน
ทางวัดได้นำเตียง 2 ตัว และโต๊ะ 2 ตัว มาตั้งในห้องครัวของวัดเพื่อดัดแปลงเป็นห้องคลอดชั่วคราว และได้ตั้งเต็นท์อีก 6 หลังในสนามหญ้า เพื่อเตรียมไว้สำหรับใช้เป็นที่ผ่าตัดทำคลอด
“ตอนนั้นไฟฟ้าถูกตัดขาด หมอต้องผ่าตัดท่ามกลางแสงจากไฟฉาย และขวดเลือดที่ห้อยอยู่กับไม้ถูพื้น”
เด็กคนแรกได้ลืมตาดูโลกในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหว
“เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังก้องไปทั่วโสตประสาทของผม มันเป็นเหมือนแสงแห่งความหวังท่ามกลางความสับสน” กุย เฟงฉวน หัวหน้าโรงพยาบาลแม่และเด็ก กล่าว
จากนั้นก็มีเด็กรวมทั้งสิ้น 81 คนคลอดที่วัดแห่งนี้
(จาก China Daily)
วัดพุทธ 8,000 แห่งในเกาหลี เข้าสู่อินเตอร์เน็ตโฟน
• เกาหลีใต้ :บริการโทรศัพท์ทางอินเตอร์เน็ตได้ถูกคาดหวังว่าว่าจะกลายมาเป็นประโยชน์ในวัดข้ามประเทศ ซึ่งทางแอล จี ดากอมได้ประกาศว่าได้มีการทำสัญญาตกลงร่วมกันกับสมาคมเผยแผ่พุทธศาสนาของเกาหลีในการให้บริการ แอลจี 070 โทรศัพท์ทางอินเตอร์เน็ต แก่วัดพุทธ 8,000 แห่งในเกาหลี
โดยกลุ่มชาวพุทธจะทำงานเผยแผ่พุทธศาสนาได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน รวมทั้งการปกป้องสิทธิของชาวพุทธ การให้ทุนการศึกษา และการจัดสัมมนาทางวิชาการ
ทางแอล จี ดากอมกล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้พุทธศาสนิกชนและวัดที่อยู่ข้ามประเทศสามารถจะตัดรายจ่ายเรื่องการสื่อสารลงไป
“เราจะมอบบริการที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ขณะเดียวกันก็จะช่วยให้ลูกค้ามีเครือข่ายอันแข็งแกร่งภายในกลุ่มของผู้นับถือศาสนาเดียวกัน”
(จาก Telecoms Korea)
จีนโชว์คัมภีร์ศาสนายุคราชวงศ์หมิง อายุกว่า 600 ปี
• จีน :คัมภีร์โบราณทางพุทธศาสนาซึ่งมีประวัติเก่าแก่กว่า 600 ปี ได้ถูกนำมาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชม คัมภีร์ทั้งหมดได้ผ่านการซ่อมแซมด้วยความยากลำบากมากว่า 2 ปี
คัมภีร์พุทธศาสนาในราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1368-1644) จำนวน 181 เล่มนี้จัดเป็นสมบัติของชาติที่ล้ำค่ามากที่สุด การซ่อมแซมครั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ว่าให้คงสภาพเดิมให้มากที่สุดและทนทานมากกว่าเดิม
โครงการซ่อมแซมพระคัมภีร์เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน ปี2006 สถานเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำกรุงปักกิ่งได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือด้วยการสนับสนุนเงินจำนวนกว่า 50,000 ดอลลลาร์สหรัฐ ให้แก่โครงการนี้
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่างานซ่อมแซมเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามหลักในการรักษาไว้ซึ่งคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของคัมภีร์ในราชวงศ์หมิง และมั่นใจว่าการซ่อมแซมครั้งนี้จะทำให้ข้อความที่จารึกไว้ในคัมภีร์มีอายุยืนยาวไปอีก 500 ปี
(จาก CCTV.com)
เวียดนามชูการท่องเที่ยวแบบเซน
• เวียดนาม :เวียดนามเตรียมชูการท่องเที่ยวแบบเซน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในสังคมปัจจุบัน โดยโปรแกรมการท่องเที่ยวแบบเซนได้จัดให้นักท่องเที่ยวไปเยือนสถานที่ทางวัฒนธรรมของชาวพุทธ และเปิดโอกาสให้เข้าร่วมใช้ชีวิตประจำวันกับพระสงฆ์และแม่ชี ในการเจริญวิปัสสนาเพื่อทำจิตให้สงบ และผ่อนคลายด้วยการจัดดอกไม้ ชงชา ตัดแต่งบอนไซ และศิลปะการทำอาหารแบบชาวพุทธ
ถา ไบ ฮา ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาดของเอเชียซันแอนด์ทราเวิล เปิดเผยว่า มีคนจำนวนมากที่มองหาการฝึกจิตในชนบทที่สงบ การท่องเที่ยวแบบเซนจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เชิงธุรกิจของบริษัทในอนาคต
“เมื่อเงื่อนไขการใช้ชีวิตในรูปแบบปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่า นำไปสู่ความเร่งรีบ วุ่นวาย ความเครียด และบีบคั้น จนยากจะหลีกเลี่ยง ดังนั่น การท่องเที่ยวอย่างเซนจึงเป็นสิ่งจำเป็น”
การท่องเที่ยวแบบเซนได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในเอเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่นับถือพุทธศาสนา และการท่องเที่ยวรูปแบบนี้เริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในเวียดนาม
ชายฝั่งทะเลทางใต้ของจังหวัดบาเรีย หวุ่งเต่า ได้ถูกวางแผนในการลงทุนราว 30 ล้านด่อง ให้เป็นพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มายังวัดเจินค่ง โดยจัดให้เป็นสถานที่สำหรับการฝึกโยคะ วิปัสสนา พิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา และการแสดงศิลปะการชงชา
อย่างไรก็ตาม ยังมีวัดราว 120 แห่งในเวียดนามที่สามารถจัดการท่องเที่ยวดังกล่าวได้ อาทิ วัดด๋าว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดบัคนิ่ญ วัดบาดา และวัดตรันกว๋อก ในกรุงฮานอย วัดตรั๊กลัม ไถ่เถียน ทางเหนือของจังหวัดหวิงฟุก และวัดถูอัน วัดเกี๊ยกเลิม และเก๊ยกเวียน ในเมืองโฮจิมินห์
(จากVNA)
เส้าหลินเปิดเวบเอาใจจอมยุทธ์เข็นตำราแพทย์ ชุดฝึกวิทยายุทธ์ขายเพียบ
• จีน : เมื่อเร็วๆนี้ สื่อจีนรายงานพบเวบไซต์ของบริษัท ‘เส้าหลิน ฮวนสี่ตี้’ นำเสนอขายสินค้าซึ่งล้วนเป็นสิ่งของที่ผลิตจากการนำเอาไอเดียศิลปะการต่อสู้แบบกังฟูและวัฒนธรรมของวัดเส้าหลินมาผสมผสานกัน อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า ธูป เชิงเทียน เสื้อยืด และนาฬิกา นอกจากนี้ยังพบว่ามีหนังสือฉบับพิเศษชื่อ ‘เคล็ดลับวรยุทธ์การแพทย์เส้าหลิน’ วางขายอยู่ด้วย สนนราคาที่ 9,999 หยวน โดยเวบไซต์แห่งนี้เป็นเวบไซต์ของวัดเส้าหลินที่เปิดตัวและจดทะเบียนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสินค้าทุกชิ้นจะตีตราในชื่อของ ‘เส้าหลินซื่อ’ นอกจากนี้ยังพบว่ามีสินค้าที่เปิดจำหน่ายออนไลน์กว่า 100 ชนิด
นายเฉียนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบและพัฒนาสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์เส้าหลิน เผยว่า ตั้งแต่เปิดเวบไซต์มาจนถึงขณะนี้ได้จำหน่ายสินค้าไปกว่า 20 ชิ้น มูลค่าโดยรวมกว่า 2,000 หยวน โดยกล่าวว่าสินค้าที่ได้รับความนิยมได้แก่ เชิงเทียนที่ทำจากไม้ เสื้อยืด และสินค้าอื่นๆที่ประยุกต์เอาวัฒนธรรมและศิลปะการต่อสู้ของเส้าหลินสอดแทรกลงไป นอกจากนี้เฉียนบอกด้วยว่าบริษัทเตรียมที่จะเข็นสินค้าประเภทอาหารสุขภาพและของใช้ที่มีคุณค่าต่อจิตใจออกสู่ตลาดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาวัดเส้าหลินได้เสนอสินค้าประเภทขนมอบและชาภายใต้ลิขสิทธิ์ของวัดเส้าหลินออกจำหน่าย และเนื่องจาก‘ซื่อ หย่งซิ่น’เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินได้เสนอให้มีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยทำการเผยแพร่วัฒนธรรมจีน ทำให้เฉียนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพัฒนาสินค้าได้นำเอาอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำสมาธิต่างๆ เข้าสู่ขั้นตอนตกแต่งและแปรรูปใหม่ เพื่อเพิ่มคุณค่าของสินค้า อีกทั้งเพื่อดึงความสนใจของเหล่าศิลปินและจอมยุทธ์ที่หลงใหลในศิลปะของเส้าหลินทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาจำหน่ายบนเวบไซต์
ทั้งนี้ที่ผ่านมา วัดเส้าหลินเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและโด่งดังในเรื่องศิลปะการต่อสู้หรือกังฟู ดังจะเห็นได้จากนิยายกำลังภายในหลายเล่มที่มักกล่าวถึงวิทยายุทธ์ที่ล้ำลึกจากเส้าหลินอยู่เสมอ จนมีหนังกังฟูเกี่ยวกับวัดเส้าหลิน ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังวัดเส้าหลินอย่างไม่ขาดสายและทำให้วัดแห่งนี้เข้าสู่เชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น
(จาก China News)
เวียดนามสูญเสียพระมหาเถระนักต่อสู้
• เวียดนาม :พระมหาเถระชาวเวียดนามผู้ต่อสู้กับรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์ที่เข้ามาควบคุมศาสนา ได้มรณภาพอย่างสงบที่วัดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2008 สิริอายุ 87 ปี
ในแถลงการณ์ระบุว่า พระติช เหงียน กว่าง ผู้นำสูงสุดของกลุ่มศาสนจักรชาวพุทธของเวียดนามได้มรณภาพที่วัดเหงียนเทียว ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคใต้ตอนกลางของจังหวัดบิ่ญดิ่ญ อันเป็นสถานที่ที่ท่านใช้ชีวิตหลายปีในอารามแห่งนี้ภายใต้การควบคุมของรัฐ
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008 เป็นต้นมาพระกว่างได้เกิดอาการอาพาธรุนแรงด้วยโรคหัวใจ โรคปอด และโรคไต และได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
พระติช กว่าง โด ผู้รักษาการแทนผู้นำกลุ่มศาสนจักรชาวพุทธของเวียดนาม ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐในวัดแห่งหนึ่งในเมืองโฮจิมินห์ ได้อยู่กับพระติช เหงียน กว่าง ก่อนมรณภาพ
“สำหรับความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวและมั่นคงของพระติช เหงียน กว่าง นั้น ได้แลกมาด้วยราคาแพง โดยการใช้ชีวิตกว่าครึ่งในคุก การถูกเนรเทศ หรือแม้แต่การถูกสอบสวนจับกุมภายในบ้าน ภายใต้ระบบการเมืองที่ต่อเนื่องกันมา” แถลงการณ์ระบุ
พระติช เหงียน กว่าง มีชื่อเดิมว่าเล ดิ่ญ ญ่าน เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ.1920 ในจังหวัดบิ่ญดิ่ญ ช่วงชีวิตที่ผ่านมา ท่านได้ต่อต้านระบบการปกครองของฝรั่งเศสที่มายึดเวียดนามเป็นอาณานิคม และได้ต่อต้านรัฐบาลเวียดนามใต้ที่มีสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง รวมทั้งต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งเข้ามามีอำนาจในเวียดนามในปี 1975 พร้อมกับนำทุกศาสนาเข้าไปอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
พระติช เหงียน กว่างได้เป็นผู้นำสูงสุดของกลุ่มศาสนจักรชาวพุทธของเวียดนาม ในปี 1992 ตามพินัยกรรมของพระติช ดอน ฮัว แห่งวัดลิญห์ มู ผู้นำคนก่อนของกลุ่มศาสนจักรชาวพุทธของเวียดนาม
โฆษกของกลุ่มฯกล่าวว่า การรบกวน รังควาน และการคุกคาม ยังคงดำเนินต่อไป พระติช เหงียน กว่าง ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพศรัทธาของเหล่านักสิทธิมนุษยชนและผู้ต้องการปฏิรูปทางการเมือง
(จาก Reuters)
ดาไลลามะประกาศการเป็นชาวพุทธในศตวรรษที่ 21
• สหรัฐอเมริกา :องค์ดาไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของทิเบต กล่าวว่า การดำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมของตนเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ถูกต้องนักที่จะปิดประตูจากโลกภายนอก พร้อมกับบอกว่าจะพยายามผสมผสานคุณค่าของประเพณีดั้งเดิมและการศึกษาสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ในศตวรรษที่ 21
ทั้งนี้ องค์ดาไล ลามะ ได้สอนหลักอริยสัจ 4 ความจริงอันประเสริฐ ให้แก่ผู้สนใจในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ราว 6,000 คน ว่าไม่มีผู้ใดจะหนีพ้นไปจากความเสื่อมของสังขาร แต่ยังมีหนทางมากมายในการฝึกฝนจิตใจเพื่อบรรลุเป้าหมายในการรู้ ตื่น และเบิกบาน การเชิญครูบาอาจารย์ผู้สอนศาสนามาให้พรแค่นั้นไม่อาจช่วยได้ แต่การเปลี่ยนแปลงจิตใจของตนเองนั้นจะช่วยได้อย่างแท้จริง
(จาก Phayul)
พระสงฆ์-แม่ชี เกาหลีใต้ ร่วมประท้วงรัฐบาล
• เกาหลีใต้ :พระสงฆ์และแม่ชีเกาหลีใต้ราว 500 รูป/คน ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับประชาชนนับแสนในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ยกเลิกคำสั่งห้ามการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐ เพราะหวั่นว่าเชื้อวัวบ้าจากสหรัฐฯ จะเข้ามาแพร่ระบาดในเกาหลี ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภค รวมทั้งเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ลี ยอง บัค ลาออกด้วย
(จาก AP/Reuter)
จีนตั้งศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาชนชาติฮั่นและทิเบตแห่งแรกของโลก
• จีน : เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาชนชาติฮั่นและชนชาติทิเบตแห่งแรกของโลก ซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นที่มหาวิทยาลัยประชาชนแห่งชาติจีน ในกรุงปักกิ่ง โดยมีผู้เชี่ยวชาญ และบุคคลในวงการศาสนา กว่า 40 คนเข้าร่วมงานในครั้งนี้
ทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่า การที่มหาวิทยาลัยประชาชนแห่งชาติจีนตั้งศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาชนชาติฮั่นและชนชาติทิเบตนั้น สามารถช่วยส่งเสริมการพัฒนาการศึุกษาพุทธศาสนาของจีน และมีบทบาทในการผลักดันให้การศึกษาพุทธศาสนาของจีนเชื่อมกับวิชาการระหว่างประเทศอย่างราบรื่น
(จาก CRI)
จีนจัดสัมมนาชาวพุทธที่ศึกษาภาษาต่างประเทศ เป็นครั้งแรก
• จีน : การสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นโดยสมาคมชาวพุทธของจีน สมาคมการสื่อสารศาสนาและวัฒนธรรมจีน โดยความร่วมมือของสมาคมชาวพุทธเซี่ยงไฮ้ และวัดพระหยกของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นการสัมมนาชาวพุทธที่ศึกษาภาษาต่างประเทศ โดยได้จัดขึ้นที่วัดยูโฟว (วัดพระหยก) ในเมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2008 ที่ผ่านมา มีพุทธศาสนิกชนกว่า 100 รูป/คน จากฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่เข้าร่วม
การสัมมนาในหลากหลายภาษาเช่นนี้ยังไม่เคยมีมาก่อน ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะต้องใช้ภาษาใน 7 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ เกาหลี สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น และไทย
วัตถุประสงค์เบื้องต้นของการจัดสัมมนาครั้งนี้ เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถพิเศษทั้งการพูดและเขียนอย่างคล่องแคล่วในภาษาต่างชาติ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดประชุมชาวพุทธโลกครั้งที่ 2 ด้วยจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับโลกภายนอกให้ดียิ่งขึ้น ส่วนเป้าหมายสูงสุดคือ เพื่อให้พุทธศาสนาในจีนได้พัฒนาเครือข่ายกว้างไกลออกไป และมีส่วนช่วยในการพัฒนาชาวพุทธโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
(จาก China.org.cn)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 93 ส.ค. 51 โดย เภตรา)
• จีน :ปกติแล้ววัดไม่ใช่เป็นสถานที่ทำคลอด แต่หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในจีนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีทารกถึง 81 คน คลอดที่วัดโล่วฮั่น ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างเมื่อ ค.ศ.709 ตั้งอยู่ในเมืองไซฟาง จังหวัดเสฉวน
แพทย์และพยาบาลหลายคนซึ่งกำลังดูแลคุณแม่คนใหม่ และหญิงตั้งครรภ์กว่า 40 คน ได้รีบอพยพคนทั้งหมดออกจากโรงพยาบาลแม่และเด็ก ทันทีที่เริ่มเกิดแผ่นดินไหว และอาคารโรงพยาบาลเริ่มทรุดตัวลง
พระซื่อ กวน ซึ่งดูแลบริหารวัดอยู่ในเวลานั้น ได้บอกให้ทุกคนอพยพไปอยู่ที่วัด
“วันที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งเกิดแผ่นดินไหว เป็นวันที่กำลังเฉลิมฉลองเทศกาลวันประสูติของพระศากยมุนี เมื่อเกิดเหตุ เราก็ได้ให้ความชั่วเหลือเท่าที่จะทำได้” พระซื่อ กวน กล่าว
เบื้องต้นชาวบ้านกว่า 800 คนได้หลบเข้ามาพักพิงที่วัด หลัง 4 วันผ่านไปมีผู้คนอพยพเข้ามาเพิ่มขึ้นราว 1,500 คน พระซื่อ กวน เล่าว่าพระสงฆ์ 41 รูป และฆารวาส 30 คนซึ่งอาศัยอยู่ในวัดขณะแผ่นดินไหว ต่างก็หาที่กำบัง และก็ปลอดภัยกันทุกคน
ทางวัดได้นำเตียง 2 ตัว และโต๊ะ 2 ตัว มาตั้งในห้องครัวของวัดเพื่อดัดแปลงเป็นห้องคลอดชั่วคราว และได้ตั้งเต็นท์อีก 6 หลังในสนามหญ้า เพื่อเตรียมไว้สำหรับใช้เป็นที่ผ่าตัดทำคลอด
“ตอนนั้นไฟฟ้าถูกตัดขาด หมอต้องผ่าตัดท่ามกลางแสงจากไฟฉาย และขวดเลือดที่ห้อยอยู่กับไม้ถูพื้น”
เด็กคนแรกได้ลืมตาดูโลกในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหว
“เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังก้องไปทั่วโสตประสาทของผม มันเป็นเหมือนแสงแห่งความหวังท่ามกลางความสับสน” กุย เฟงฉวน หัวหน้าโรงพยาบาลแม่และเด็ก กล่าว
จากนั้นก็มีเด็กรวมทั้งสิ้น 81 คนคลอดที่วัดแห่งนี้
(จาก China Daily)
วัดพุทธ 8,000 แห่งในเกาหลี เข้าสู่อินเตอร์เน็ตโฟน
• เกาหลีใต้ :บริการโทรศัพท์ทางอินเตอร์เน็ตได้ถูกคาดหวังว่าว่าจะกลายมาเป็นประโยชน์ในวัดข้ามประเทศ ซึ่งทางแอล จี ดากอมได้ประกาศว่าได้มีการทำสัญญาตกลงร่วมกันกับสมาคมเผยแผ่พุทธศาสนาของเกาหลีในการให้บริการ แอลจี 070 โทรศัพท์ทางอินเตอร์เน็ต แก่วัดพุทธ 8,000 แห่งในเกาหลี
โดยกลุ่มชาวพุทธจะทำงานเผยแผ่พุทธศาสนาได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน รวมทั้งการปกป้องสิทธิของชาวพุทธ การให้ทุนการศึกษา และการจัดสัมมนาทางวิชาการ
ทางแอล จี ดากอมกล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้พุทธศาสนิกชนและวัดที่อยู่ข้ามประเทศสามารถจะตัดรายจ่ายเรื่องการสื่อสารลงไป
“เราจะมอบบริการที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ขณะเดียวกันก็จะช่วยให้ลูกค้ามีเครือข่ายอันแข็งแกร่งภายในกลุ่มของผู้นับถือศาสนาเดียวกัน”
(จาก Telecoms Korea)
จีนโชว์คัมภีร์ศาสนายุคราชวงศ์หมิง อายุกว่า 600 ปี
• จีน :คัมภีร์โบราณทางพุทธศาสนาซึ่งมีประวัติเก่าแก่กว่า 600 ปี ได้ถูกนำมาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชม คัมภีร์ทั้งหมดได้ผ่านการซ่อมแซมด้วยความยากลำบากมากว่า 2 ปี
คัมภีร์พุทธศาสนาในราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1368-1644) จำนวน 181 เล่มนี้จัดเป็นสมบัติของชาติที่ล้ำค่ามากที่สุด การซ่อมแซมครั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ว่าให้คงสภาพเดิมให้มากที่สุดและทนทานมากกว่าเดิม
โครงการซ่อมแซมพระคัมภีร์เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน ปี2006 สถานเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำกรุงปักกิ่งได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือด้วยการสนับสนุนเงินจำนวนกว่า 50,000 ดอลลลาร์สหรัฐ ให้แก่โครงการนี้
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่างานซ่อมแซมเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามหลักในการรักษาไว้ซึ่งคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของคัมภีร์ในราชวงศ์หมิง และมั่นใจว่าการซ่อมแซมครั้งนี้จะทำให้ข้อความที่จารึกไว้ในคัมภีร์มีอายุยืนยาวไปอีก 500 ปี
(จาก CCTV.com)
เวียดนามชูการท่องเที่ยวแบบเซน
• เวียดนาม :เวียดนามเตรียมชูการท่องเที่ยวแบบเซน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในสังคมปัจจุบัน โดยโปรแกรมการท่องเที่ยวแบบเซนได้จัดให้นักท่องเที่ยวไปเยือนสถานที่ทางวัฒนธรรมของชาวพุทธ และเปิดโอกาสให้เข้าร่วมใช้ชีวิตประจำวันกับพระสงฆ์และแม่ชี ในการเจริญวิปัสสนาเพื่อทำจิตให้สงบ และผ่อนคลายด้วยการจัดดอกไม้ ชงชา ตัดแต่งบอนไซ และศิลปะการทำอาหารแบบชาวพุทธ
ถา ไบ ฮา ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาดของเอเชียซันแอนด์ทราเวิล เปิดเผยว่า มีคนจำนวนมากที่มองหาการฝึกจิตในชนบทที่สงบ การท่องเที่ยวแบบเซนจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เชิงธุรกิจของบริษัทในอนาคต
“เมื่อเงื่อนไขการใช้ชีวิตในรูปแบบปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่า นำไปสู่ความเร่งรีบ วุ่นวาย ความเครียด และบีบคั้น จนยากจะหลีกเลี่ยง ดังนั่น การท่องเที่ยวอย่างเซนจึงเป็นสิ่งจำเป็น”
การท่องเที่ยวแบบเซนได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในเอเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่นับถือพุทธศาสนา และการท่องเที่ยวรูปแบบนี้เริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในเวียดนาม
ชายฝั่งทะเลทางใต้ของจังหวัดบาเรีย หวุ่งเต่า ได้ถูกวางแผนในการลงทุนราว 30 ล้านด่อง ให้เป็นพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มายังวัดเจินค่ง โดยจัดให้เป็นสถานที่สำหรับการฝึกโยคะ วิปัสสนา พิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา และการแสดงศิลปะการชงชา
อย่างไรก็ตาม ยังมีวัดราว 120 แห่งในเวียดนามที่สามารถจัดการท่องเที่ยวดังกล่าวได้ อาทิ วัดด๋าว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดบัคนิ่ญ วัดบาดา และวัดตรันกว๋อก ในกรุงฮานอย วัดตรั๊กลัม ไถ่เถียน ทางเหนือของจังหวัดหวิงฟุก และวัดถูอัน วัดเกี๊ยกเลิม และเก๊ยกเวียน ในเมืองโฮจิมินห์
(จากVNA)
เส้าหลินเปิดเวบเอาใจจอมยุทธ์เข็นตำราแพทย์ ชุดฝึกวิทยายุทธ์ขายเพียบ
• จีน : เมื่อเร็วๆนี้ สื่อจีนรายงานพบเวบไซต์ของบริษัท ‘เส้าหลิน ฮวนสี่ตี้’ นำเสนอขายสินค้าซึ่งล้วนเป็นสิ่งของที่ผลิตจากการนำเอาไอเดียศิลปะการต่อสู้แบบกังฟูและวัฒนธรรมของวัดเส้าหลินมาผสมผสานกัน อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า ธูป เชิงเทียน เสื้อยืด และนาฬิกา นอกจากนี้ยังพบว่ามีหนังสือฉบับพิเศษชื่อ ‘เคล็ดลับวรยุทธ์การแพทย์เส้าหลิน’ วางขายอยู่ด้วย สนนราคาที่ 9,999 หยวน โดยเวบไซต์แห่งนี้เป็นเวบไซต์ของวัดเส้าหลินที่เปิดตัวและจดทะเบียนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสินค้าทุกชิ้นจะตีตราในชื่อของ ‘เส้าหลินซื่อ’ นอกจากนี้ยังพบว่ามีสินค้าที่เปิดจำหน่ายออนไลน์กว่า 100 ชนิด
นายเฉียนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบและพัฒนาสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์เส้าหลิน เผยว่า ตั้งแต่เปิดเวบไซต์มาจนถึงขณะนี้ได้จำหน่ายสินค้าไปกว่า 20 ชิ้น มูลค่าโดยรวมกว่า 2,000 หยวน โดยกล่าวว่าสินค้าที่ได้รับความนิยมได้แก่ เชิงเทียนที่ทำจากไม้ เสื้อยืด และสินค้าอื่นๆที่ประยุกต์เอาวัฒนธรรมและศิลปะการต่อสู้ของเส้าหลินสอดแทรกลงไป นอกจากนี้เฉียนบอกด้วยว่าบริษัทเตรียมที่จะเข็นสินค้าประเภทอาหารสุขภาพและของใช้ที่มีคุณค่าต่อจิตใจออกสู่ตลาดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาวัดเส้าหลินได้เสนอสินค้าประเภทขนมอบและชาภายใต้ลิขสิทธิ์ของวัดเส้าหลินออกจำหน่าย และเนื่องจาก‘ซื่อ หย่งซิ่น’เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินได้เสนอให้มีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยทำการเผยแพร่วัฒนธรรมจีน ทำให้เฉียนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพัฒนาสินค้าได้นำเอาอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำสมาธิต่างๆ เข้าสู่ขั้นตอนตกแต่งและแปรรูปใหม่ เพื่อเพิ่มคุณค่าของสินค้า อีกทั้งเพื่อดึงความสนใจของเหล่าศิลปินและจอมยุทธ์ที่หลงใหลในศิลปะของเส้าหลินทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาจำหน่ายบนเวบไซต์
ทั้งนี้ที่ผ่านมา วัดเส้าหลินเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและโด่งดังในเรื่องศิลปะการต่อสู้หรือกังฟู ดังจะเห็นได้จากนิยายกำลังภายในหลายเล่มที่มักกล่าวถึงวิทยายุทธ์ที่ล้ำลึกจากเส้าหลินอยู่เสมอ จนมีหนังกังฟูเกี่ยวกับวัดเส้าหลิน ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังวัดเส้าหลินอย่างไม่ขาดสายและทำให้วัดแห่งนี้เข้าสู่เชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น
(จาก China News)
เวียดนามสูญเสียพระมหาเถระนักต่อสู้
• เวียดนาม :พระมหาเถระชาวเวียดนามผู้ต่อสู้กับรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์ที่เข้ามาควบคุมศาสนา ได้มรณภาพอย่างสงบที่วัดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2008 สิริอายุ 87 ปี
ในแถลงการณ์ระบุว่า พระติช เหงียน กว่าง ผู้นำสูงสุดของกลุ่มศาสนจักรชาวพุทธของเวียดนามได้มรณภาพที่วัดเหงียนเทียว ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคใต้ตอนกลางของจังหวัดบิ่ญดิ่ญ อันเป็นสถานที่ที่ท่านใช้ชีวิตหลายปีในอารามแห่งนี้ภายใต้การควบคุมของรัฐ
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008 เป็นต้นมาพระกว่างได้เกิดอาการอาพาธรุนแรงด้วยโรคหัวใจ โรคปอด และโรคไต และได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
พระติช กว่าง โด ผู้รักษาการแทนผู้นำกลุ่มศาสนจักรชาวพุทธของเวียดนาม ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐในวัดแห่งหนึ่งในเมืองโฮจิมินห์ ได้อยู่กับพระติช เหงียน กว่าง ก่อนมรณภาพ
“สำหรับความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวและมั่นคงของพระติช เหงียน กว่าง นั้น ได้แลกมาด้วยราคาแพง โดยการใช้ชีวิตกว่าครึ่งในคุก การถูกเนรเทศ หรือแม้แต่การถูกสอบสวนจับกุมภายในบ้าน ภายใต้ระบบการเมืองที่ต่อเนื่องกันมา” แถลงการณ์ระบุ
พระติช เหงียน กว่าง มีชื่อเดิมว่าเล ดิ่ญ ญ่าน เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ.1920 ในจังหวัดบิ่ญดิ่ญ ช่วงชีวิตที่ผ่านมา ท่านได้ต่อต้านระบบการปกครองของฝรั่งเศสที่มายึดเวียดนามเป็นอาณานิคม และได้ต่อต้านรัฐบาลเวียดนามใต้ที่มีสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง รวมทั้งต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งเข้ามามีอำนาจในเวียดนามในปี 1975 พร้อมกับนำทุกศาสนาเข้าไปอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
พระติช เหงียน กว่างได้เป็นผู้นำสูงสุดของกลุ่มศาสนจักรชาวพุทธของเวียดนาม ในปี 1992 ตามพินัยกรรมของพระติช ดอน ฮัว แห่งวัดลิญห์ มู ผู้นำคนก่อนของกลุ่มศาสนจักรชาวพุทธของเวียดนาม
โฆษกของกลุ่มฯกล่าวว่า การรบกวน รังควาน และการคุกคาม ยังคงดำเนินต่อไป พระติช เหงียน กว่าง ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพศรัทธาของเหล่านักสิทธิมนุษยชนและผู้ต้องการปฏิรูปทางการเมือง
(จาก Reuters)
ดาไลลามะประกาศการเป็นชาวพุทธในศตวรรษที่ 21
• สหรัฐอเมริกา :องค์ดาไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของทิเบต กล่าวว่า การดำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมของตนเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ถูกต้องนักที่จะปิดประตูจากโลกภายนอก พร้อมกับบอกว่าจะพยายามผสมผสานคุณค่าของประเพณีดั้งเดิมและการศึกษาสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ในศตวรรษที่ 21
ทั้งนี้ องค์ดาไล ลามะ ได้สอนหลักอริยสัจ 4 ความจริงอันประเสริฐ ให้แก่ผู้สนใจในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ราว 6,000 คน ว่าไม่มีผู้ใดจะหนีพ้นไปจากความเสื่อมของสังขาร แต่ยังมีหนทางมากมายในการฝึกฝนจิตใจเพื่อบรรลุเป้าหมายในการรู้ ตื่น และเบิกบาน การเชิญครูบาอาจารย์ผู้สอนศาสนามาให้พรแค่นั้นไม่อาจช่วยได้ แต่การเปลี่ยนแปลงจิตใจของตนเองนั้นจะช่วยได้อย่างแท้จริง
(จาก Phayul)
พระสงฆ์-แม่ชี เกาหลีใต้ ร่วมประท้วงรัฐบาล
• เกาหลีใต้ :พระสงฆ์และแม่ชีเกาหลีใต้ราว 500 รูป/คน ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับประชาชนนับแสนในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ยกเลิกคำสั่งห้ามการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐ เพราะหวั่นว่าเชื้อวัวบ้าจากสหรัฐฯ จะเข้ามาแพร่ระบาดในเกาหลี ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภค รวมทั้งเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ลี ยอง บัค ลาออกด้วย
(จาก AP/Reuter)
จีนตั้งศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาชนชาติฮั่นและทิเบตแห่งแรกของโลก
• จีน : เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาชนชาติฮั่นและชนชาติทิเบตแห่งแรกของโลก ซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นที่มหาวิทยาลัยประชาชนแห่งชาติจีน ในกรุงปักกิ่ง โดยมีผู้เชี่ยวชาญ และบุคคลในวงการศาสนา กว่า 40 คนเข้าร่วมงานในครั้งนี้
ทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่า การที่มหาวิทยาลัยประชาชนแห่งชาติจีนตั้งศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาชนชาติฮั่นและชนชาติทิเบตนั้น สามารถช่วยส่งเสริมการพัฒนาการศึุกษาพุทธศาสนาของจีน และมีบทบาทในการผลักดันให้การศึกษาพุทธศาสนาของจีนเชื่อมกับวิชาการระหว่างประเทศอย่างราบรื่น
(จาก CRI)
จีนจัดสัมมนาชาวพุทธที่ศึกษาภาษาต่างประเทศ เป็นครั้งแรก
• จีน : การสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นโดยสมาคมชาวพุทธของจีน สมาคมการสื่อสารศาสนาและวัฒนธรรมจีน โดยความร่วมมือของสมาคมชาวพุทธเซี่ยงไฮ้ และวัดพระหยกของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นการสัมมนาชาวพุทธที่ศึกษาภาษาต่างประเทศ โดยได้จัดขึ้นที่วัดยูโฟว (วัดพระหยก) ในเมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2008 ที่ผ่านมา มีพุทธศาสนิกชนกว่า 100 รูป/คน จากฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่เข้าร่วม
การสัมมนาในหลากหลายภาษาเช่นนี้ยังไม่เคยมีมาก่อน ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะต้องใช้ภาษาใน 7 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ เกาหลี สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น และไทย
วัตถุประสงค์เบื้องต้นของการจัดสัมมนาครั้งนี้ เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถพิเศษทั้งการพูดและเขียนอย่างคล่องแคล่วในภาษาต่างชาติ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดประชุมชาวพุทธโลกครั้งที่ 2 ด้วยจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับโลกภายนอกให้ดียิ่งขึ้น ส่วนเป้าหมายสูงสุดคือ เพื่อให้พุทธศาสนาในจีนได้พัฒนาเครือข่ายกว้างไกลออกไป และมีส่วนช่วยในการพัฒนาชาวพุทธโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
(จาก China.org.cn)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 93 ส.ค. 51 โดย เภตรา)
