xs
xsm
sm
md
lg

เติมใจให้กัน:

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครั้งที่ 55
ตะปูตรึงใจ

พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร เป็นผู้มีจิตอนุเคราะห์ญาติพี่น้องให้ตั้งอยู่ใน คุณธรรมที่ท่านเห็นว่าจะเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เขาตลอดกาลนาน ท่านได้บรรลุ แล้วซึ่งสุขใดอันประณีต มั่นคง ไม่เจือด้วยทุกข์ ก็ปรารถนาชักจูงญาติพี่น้องมาสู่ความสุขนั้นด้วย

เมื่อท่านได้บวชในธรรมวินัยอันประเสริฐ ขัดเกลาอย่างยิ่ง และเป็นไปเพื่อ นำสัตว์ออกจากทุกข์แล้ว น้องของท่าน 5 คน เป็นน้องหญิง 3 คน คือ จาลา อุปจาลา สีสุปจาลา และน้องชาย 2 คนคือ จุนทะและอุปเสนะได้ออกบวชตามคำแนะนำของท่าน เหลือน้องชายอีกคนเดียวที่ยังไม่ได้บวชคือ เรวัตกุมาร

ตลอดเวลานั้นมารดาของท่านยังไม่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา การที่พระสารีบุตร นำลูกหญิงและลูกชายถึง 5 คนไปบวช รวมเป็น 6 ทั้งองค์พระสารีบุตรด้วยนั้น ก่อความสะเทือนใจแก่นางไม่น้อยอยู่แล้ว เพราะนางยังมองไม่เห็นคุณค่าของการออกบวชดำรงชีวิตอยู่อย่างลำบากยากจน ลำบากในสายตาของนาง แต่เป็นความสุขสงบเยือกเย็นในความรู้สึกของท่านที่ได้บวชแล้ว แต่นางหาได้มองเห็นคุณอันประเสริฐของบรรพชาไม่

ดังนั้น สิ่งที่นางกลัวที่สุดเวลานี้ คือกลัวว่าพระสารีบุตรจะนำน้องชายคนเล็ก-เรวัตกุมารไปบวชเสียอีก ถ้าการณ์เป็นดังนั้นจริง นางจะทนได้อย่างไร ความหวังทั้งหมดของนางเวลานี้ทุ่มเทลงที่เรวัตกุมาร หวังให้ดำรงวงศ์สกุล เป็นที่พึ่งของนางในยามชรา นางไม่เข้าใจเลยว่า ความเป็นอยู่อย่างบรรพชิตซึ่งต้องอาศัยอยู่เลี้ยงชีพนั้นประเสริฐอย่างไร นางยังมิได้สัมผัสกับแสงสว่างทางใจอันเป็นประทีปส่องทางชีวิต ทำให้ชีวิตมีความหวังอย่างเต็มที่ ไม่ว้าเหว่

ด้วยเหตุดังกล่าวมา นางจึงปรารถนาจะผูกมัดเรวัตกุมารไว้ด้วยการครองเรือน อะไรเล่าจะสามารถผูกใจชายได้เท่าเครื่องผูกคือหญิง รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสแห่งหญิงนั้น เป็นตะปูตรึงใจชายให้ติดอยู่ หมกมุ่นอยู่ พัวพันอยู่ ยากที่จะสลัดออกไปได้ เมื่อเรวัตกุมารอยู่ครองเรือนก็จะเป็นผู้รับมรดกทรัพย์สมบัติทั้งสิ้นของนางมิให้พินาศสูญสิ้นไป

วันหนึ่ง เมื่อพระสารีบุตรมาเยี่ยมโยมมารดาที่บ้านมารดาได้ปรารภเรื่องจะให้เรวัตกุมารแต่งงานกับกุมาริกาคนหนึ่ง ซึ่งมีทรัพย์และตระกูลเสมอกัน ทั้งๆ ที่เรวัตกุมารเพิ่งมีอายุได้เพียง 7 ขวบ

พระสารีบุตรจึงกล่าวเตือนว่า การครองเรือนมีความสุขน้อย มีความทุกข์มากกังวลมาก หนำซ้ำ สุขที่น้อยอยู่แล้วนั้นยังเป็นสุขปลอมอีก คือ เจือด้วยทุกข์ ไม่ปลอดโปร่ง ไม่อิสระ จบลงด้วยความคับแค้นเสียใจ ต่างจากสุขจากการบวช อันเป็นสุขแท้ ไม่ปลอม ไม่กังวล ไม่ลงท้ายด้วยทุกข์

แต่มารดาของพระสารีบุตร ผู้หนักใจอยู่ด้วยความกังวลว่าจะไม่มีผู้รับมรดกของตระกูล ท่านจึงแนะนำให้บริจาคทรัพย์ให้แก่คนอนาถาที่มีอยู่มากมายทั่วไป สมบัติเพียงเท่านี้ไม่พอบริจาคด้วยซ้ำ และแสดงธรรมให้พิจารณาต่อว่า

อันที่จริง ทรัพย์สมบัติภายนอกก็เป็นของที่อาศัยใช้ชั่วคราว มันไม่ยั่งยืนอะไร บางอย่างก็จากไปก่อน บางอย่างเจ้าของก็จากมันไป เมื่อตายแล้วก็นำติดตัวไปไม่ได้ มันเป็นของโลกต้องทิ้งไว้ในโลกนี้ ใครเอาไปไม่ได้เลยสักอย่างเดียว โดยที่สุดแม้อวัยวะร่างกายอันเป็นที่หวงแหน เป็นที่ ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นเราเป็นของเราก็เอาไปไม่ได้ ต้องปล่อยทิ้งไว้ให้ญาติพี่น้องเผาในกองเพลิง พร้อมด้วยการร้องไห้คร่ำครวญ ร่างกายและทรัพย์สมบัติภายนอกไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากจะใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบคุณงามความดี

แม้พระธรรมเสนาบดีจะชี้แจงอย่างไร มารดาของท่านก็หานิยมคล้อยตามไม่ ยังคงรักษาความคิดและทิฐิของตนไว้อย่างเหนียวแน่นมั่นคง
กำลังโหลดความคิดเห็น