xs
xsm
sm
md
lg

จินตนาการรัก ลิขิตชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอ็ดเวิร์ด บลูม เป็นชายหนุ่มที่มีชีวิตเหมือนผู้ชายทั่วไป มีความใฝ่ฝัน มีการ เดินทาง มีผองเพื่อน และมีเวลาตกหลุมรัก ได้พบหญิงสาวที่ทำให้เขายินดีสร้างครอบครัวกับเธอ มีลูก ทำงานหนัก และแก่ชรา

สิ่งที่ทำให้เอ็ดเวิร์ดแตกต่างจากผู้ชายทั่วไป คือการเป็นนักเล่าเรื่อง เขาทำให้ใครต่อใครเชื่อและล่องลอยไปกับเรื่องเล่าถึงชีวิตในอดีตอันแสนบรรเจิดของเขา ยกเว้นวิลเลี่ยมหรือวิลล์ ลูกชายคนเดียวที่ไม่เคยเชื่อในสิ่งที่พ่อเล่าเลย นอกจากไม่เชื่อ เขายังรู้สึกผิดหวังที่พ่อเป็น “คนโกหก”

ในวัยหนุ่ม เอ็ดเวิร์ดอาศัยอยู่ในเมืองแอชตั้น อลาบาม่า ความใฝ่ฝันถึงชีวิตในโลกกว้าง ทำให้เอ็ดเวิร์ดตัดสินใจออกเดินทางจาก เมืองเล็กๆ ด้วยหัวใจดวงใหญ่ เป็นการเดินทางที่กลายมาเป็นประวัติชีวิตที่เต็มไปด้วยการผจญภัยอันสุดระทึก ปาฏิหาริย์ ความบังเอิญ และสิ่งมหัศจรรย์

นับตั้งแต่แม่มดใบหน้าอัปลักษณ์ที่มองเห็นอนาคตและความตายในดวงตาปลอม ยักษ์ที่หลายคนกลัว แต่กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทางแสนดี เมืองแปลกประหลาดที่ต้อน รับเขาด้วยราวแขวนรองเท้ามากมาย ในขณะที่คนเดินเท้าเปล่ากันทั้งเมือง ฝาแฝดสาวสอง หัวลำตัวเดียวกันในค่ายทหาร ชายเจ้าของคณะละครสัตว์ที่กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าผู้ว้าเหว่ กวีผู้ใช้เวลาสิบสองปีเขียนบทกวีสามบรรทัด ก่อนจะหันมาเป็นโจรปล้นธนาคาร และกลายเป็นนักค้าหุ้นระดับแนวหน้า จนถึงสาวน้อยแสนสวยและทุ่งดอกแดฟโฟดิลตระการตาที่เอ็ดเวิร์ดสร้างขึ้น เพื่อให้เธอกลายมาเป็นภรรยาสุดที่รักของเขา

ยังมีปลาตัวใหญ่ กับรถยนต์ที่ค้างบนต้นไม้ยักษ์ และฉากอันพิลึกพิลั่นแต่เปี่ยมเสน่ห์อีกมากมาย

จินตนาการอันเหลือเฟือผสานกับฉากที่ฉาบด้วยสีสันสว่างสดใส ทำให้ผู้ชมอย่างเราเรียนรู้ว่า การมองชีวิตในมุมที่แตกต่างนั้น มีความหมายอย่างไร และการใช้จินตนาการก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันที่ไร้สาระ

Big Fish ในชื่อภาษาไทยว่า จินตนาการรัก ลิขิตชีวิต เป็นผลงานเด่นอีกชิ้นหนึ่งของทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับฯ เจ้าของจินตนาการสุดแหวกแนวในหนังหลายๆเรื่องที่มักจะแปลกแยกจากโลกจริง เช่น Planet of the Apes, Sleepy Hollow ฯลฯ และหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นแสนพิสดารเรื่อง Nightmare before Christmas รวมทั้งหนังที่สร้างจากวรรณกรรม เด็กระดับโลก Charlie & the Chocolate Factory แถมยังเป็นเจ้าของวรรณกรรมสุดคลาสสิกอย่าง The Melacholy death of Oyster Boy อีกด้วย

สำหรับเรื่อง Big Fish ว่ากันว่าเป็นเรื่องที่ทิม เบอร์ตัน ใช้จินตนาการเปลืองเป็นพิเศษ จนคนดู(รวมถึงนักวิจารณ์หนัง) จำนวนหนึ่ง ให้คำจำกัดความว่า “ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง” เพราะแยกไม่ออกว่าตอนไหนของหนังเป็นเรื่องจริง และตอนไหนที่อิงนิยาย ซึ่งน่าจะเป็นความรู้สึก สับสนเช่นเดียวกับลูกชายของเอ็ดเวิร์ด ที่แยกไม่ออกเลยว่า ตอนไหนที่พ่อพูดเรื่องจริง และตอนไหนที่เป็นเรื่อง “โม้” ไปๆมาๆ วิลล์ บลูม ผู้มีอาชีพเป็นนักข่าว(ที่อยู่กับการนำเสนอข้อเท็จจริง) จึงสรุปว่า พ่อของเขานั้น “โม้” ทุกเรื่อง

เมื่อวิลล์กลายเป็นพ่อบ้าง เขาก็มีความ ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะค้นหาความจริง ในอดีตของพ่อ เพื่อที่เขาจะสามารถเปลี่ยน แปลงความผิดหวังให้กลายเป็นความภาคภูมิใจในตัวผู้ให้กำเนิดได้บ้าง การพิสูจน์ข้อเท็จจริงจากเรื่องเล่าที่เหลือเชื่อของพ่อ ทำให้เขาได้พบกับความจริงที่ลึกซึ้งกว่านั้น

ขอบอกว่า หนังเรื่องนี้เล่ายากมาก เล่าไปก็ไม่ได้อรรถรสเท่ากับดูเอง สรุปว่า คุณผู้อ่านคงต้องหาหนังเรื่อง Big Fish มาดูแล้ว ล่ะค่ะ มีทั้งตามร้านและศูนย์ฯเช่าวิดีโอทั่วราชอาณาจักร นอกจากจะตื่นตาไปกับจินตนาการของเอ็ดเวิร์ด บลูม แล้ว ถ้ามองให้ลึก ลงไป เรื่องนี้แฝงสัญลักษณ์ให้ตีความทาง ความคิดและการดำเนินชีวิตเต็มไปหมด

หนูน้อยเจนนี่จากเมืองที่ไม่มีใครสวมรองเท้า บอกเอ็ดเวิร์ดว่า “คนเราจะเห็นปลา ในลักษณะที่แตกต่างกัน”

เอ็ดเวิร์ดเล่าว่า ปลาใหญ่ที่เขาตามจับมา ตั้งแต่จำความได้นั้น ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ ในวันที่ลูกชายเกิด บางทีเอ็ดเวิร์ดอาจจะอยากบอกว่า ลูก คือความฝันอันยิ่งใหญ่ที่เขาใฝ่หามาตลอดก็ได้

พ่อกับลูกแม้จะมีสายเลือดเดียวกัน แต่วิธีคิดและการดำเนินชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน สิ่งจำเป็นที่อยู่ระหว่างความแตกต่างนี้ คือคำว่า “เข้าใจ” และ “ยอมรับ” อย่างไรก็ตาม วิลล์ยังโชคดี ที่นาทีสุดท้าย เขาได้ตระหนักว่า ความเป็นพ่อซึมซับอยู่ในความเป็นตัวเขาเอง โดยที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน และเขาก็ได้เป็นคนส่งพ่อกลับไปสู่บ่อน้ำใหญ่อันแสน สุข อย่างที่พ่อของเขาฝันถึงมาตลอดชีวิต


ลูกๆ หลายคนดูหนังเรื่องนี้แล้ว อาจจะได้มีโอกาสทบทวนว่า มีความเป็นพ่อไหลเวียน อยู่ในความเป็นเราบ้างหรือไม่ อาจจะอยู่ในท่าทาง วิธีการพูด รอยยิ้ม ท่าเดิน วิธีคิด หรืออาจจะเป็นวิธีการดำเนินชีวิต ที่เราเหมือนพ่อโดยที่ไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะปฏิเสธอย่างไร โยงใยที่ซ่อนเร้นเหล่านี้จะยังคงอยู่ และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

สำหรับบางคน โลกภายนอกนั้นแม้จะมีสีสันสนุกสนานอย่างไร ก็เทียบไม่ได้กับความรัก ความเชื่อมั่น และความอบอุ่นจากคนในครอบครัว

แต่สำหรับบางคน การเป็นปลาใหญ่ในบึงเล็กๆ มีความหมายยิ่งกว่าการเป็นปลาเล็กๆ ในมหาสมุทร

นักตกปลาหลายคนมักบอกว่า “ปลาที่หลุดจากเบ็ดได้ ย่อมตัวใหญ่เสมอ” ในขณะที่คน เลี้ยงปลาบอกว่า “ปลาทองจะมีขนาดตัวโตตามขนาดอ่างที่มันอยู่”

และสำหรับพ่ออย่าง เอ็ดเวิร์ด บลูม เขาอาจจะกำลังส่งต่อ “วิถีแห่งปลาใหญ่” ที่ไม่ยอม เป็นปลาทองที่วนเวียนอยู่ในโหลเล็กๆ แคบๆ และไม่เคยยอมกินเบ็ดของใคร ให้กับลูกชาย ก็เป็นได้

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 85 ธ.ค. 50 โดย เรืองพิลาส)



กำลังโหลดความคิดเห็น