xs
xsm
sm
md
lg

พุทธลีลา:ปางห้ามสมุทร-ปางห้ามญาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร และปางห้ามญาติ สร้างในลักษณะเดียวกันคือ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองแบตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้า เสมอพระอุระ (อก) อันเป็นกิริยาห้าม

ประวัติความเป็นมาของการสร้างพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร คือ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้า เสด็จไปประกาศพระศาสนายังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ทรงขอประทับอยู่ในสำนักของอุรุเวลกัสสปะ ซึ่งเป็นหัวหน้าชฎิล (นักบวชผู้บูชาไฟ) และเป็นที่เลื่อมใสของชาวแคว้นมคธ พระพุทธองค์ทรงแสดงความจริงที่ได้ตรัสรู้มาแก่อุรุเวลกัสสปะ แต่หัวหน้าชฎิลผู้นี้ยังทนง ตนว่าตัวเองมีฤทธิ์ เป็นอรหันต์ ดังนั้นพระพุทธองค์จึงทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์หลายครั้ง เพื่อให้อุรุเวลกัสสปะคลายทนงตนลง โดยครั้งสุดท้ายได้แสดงปาฏิหาริย์โดยการห้ามน้ำที่กำลังไหลบ่ามาจากทุกสารทิศมิให้เข้ามาในที่ประทับ เนื่องจากได้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมใหญ่ อุรุเวลกัสสปะคิดว่าพระพุทธเจ้าคงจะจมน้ำเสียแล้ว แต่เมื่อพายเรือไปดูก็ปรากฏว่า พระพุทธเจ้ากำลังเสด็จจงกรมบนพื้นดินภายในวงล้อมที่มีน้ำเป็นกำแพง ด้วยปาฏิหาริย์ทั้งหมดที่ทรงแสดง กอปรกับการแสดงธรรมมากมาย ทำให้อุรุเวลกัสสปะคลายพยศ เกิดความเลื่อมใส ในพุทธานุภาพ จึงทูลขออุปสมบทกับพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งเหล่าชฎิล ๕๐๐ ซึ่งเป็นบริวาร

ส่วนพระพุทธรูปปางห้ามญาติ มาจากตอนที่พระองค์ทรงเข้าไปห้ามพระญาติ แห่งเมือง กบิลพัสดุ์และเทวทหะ ซึ่งเตรียมทำสงครามแย่งชิงน้ำในแม่น้ำโรหิณีที่ไหลผ่านสองเมือง พระศาสดาทรงรับสั่งถามว่า ที่ทะเลาะวิวาทกัน เพราะอะไรเป็นเหตุ เมื่อสองฝ่ายตอบว่าน้ำ พระองค์จึงทรงรับสั่งถามต่อไปว่า “น้ำกับชีวิตคน อย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน” ทั้งสองฝ่าย ตอบว่าชีวิตคนมีค่ามากกว่า ดังนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสว่า “ถ้าเช่นนั้น ควรแล้วหรือที่จะเอา ชีวิตคนมาแลกกับน้ำ” ทำให้พระญาติต่างก็คิดได้ และเลิกทำสงครามกันในที่สุด

พระพุทธรูปปางห้ามญาติ เป็นพระพุทธรูปประจำตัวผู้เกิดวันจันทร์

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 82 ก.ย. 50 โดยกีรติกร)
กำลังโหลดความคิดเห็น