xs
xsm
sm
md
lg

ยอดกตัญญู คุณธรรมที่แฝงไว้ในละครสร้างสรรค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช่วงนี้ละครแนวริษยาก๋ากั่นกำลังมาแรง แต่พักละครแนวริษยากันไว้สักครู่ แล้วหันไปดูละครสร้างสรรค์สังคมกันบ้าง

ละครเรื่อง ‘ยอดกตัญญู’ ที่เพิ่งออกอากาศได้ไม่นานในวันพุธ-พฤหัสบดี หลังข่าวช่อง 3 ซึ่งเป็นละครแนวบู๊ควบคู่คุณธรรม เรียกว่าถ้าเปรียบเหมือนกาแฟก็คงจะเป็นกาแฟรสกลมกล่อม ที่ไม่ขมจนฝาดลิ้น และไม่หวานจนดูเหมือนละครน้ำเน่า

นักแสดงที่มารับบท ‘เร’ ชายหนุ่มที่ได้ดีเพราะความกตัญญู ในเรื่องนี้ก็คงคุ้นหน้า คุ้นตากันดี เพราะเป็นทั้งวีเจ และนักแสดง นายแบบ นั่นคือ ‘ต่าย-ณัฐพล ลียะวณิช’ ที่ในเรื่องรับบทหนุ่มกำพร้ายากจน แต่กตัญญู อดทน ขยัน ซื่อสัตย์ มีวินัย แต่ความจนไม่ได้มีปัญหากับความกตัญญูหรือความซื่อสัตย์ที่มีในตัวของ ‘เร’ แม้แต่น้อย ส่วนนางเอกของเรื่องนี้เป็นนางเอกใหม่เจ้าของตำแหน่งรองมิสไชนีส ปี 2006 ‘จินนี่-ธนิดา กาญจนวัฒน์’ ซึ่งรับบท ‘พิมดาว’ ลูกสาวเศรษฐีที่ไม่ค่อยเข้าใจคนจนสักเท่าไหร่นัก แต่เมื่อถึงคราวครอบครัวตกยาก หลังพ่อล้มละลายและฆ่าตัวตาย ‘พิมดาว’ ก็เปลี่ยนแปลงความคิดชีวิตตัวเองไปได้

มาถึงบทเด่นอีกคนคือรองนางเอก หรือจะเรียกว่านางร้ายกลายๆ ก็คงไม่ผิด นักสำหรับ ‘ผึ้ง’ ที่รับบทโดย ‘เจิน-วรัญญา เจริญพรสิริสุข’ ผู้ประกาศข่าวสีสันบันเทิง ซึ่งในเรื่องนี้แอบรักพระเอก แต่เกิดไปรักชอบพอกับพี่ชายพระเอกที่ชื่อ ‘เรือง’ ซึ่งรับบทโดย ‘เอ็ม-อภินันทน์ ประเสริฐวัฒนกุล’ จึงพยายามมอมเหล้าพระเอกเพื่อให้นางเอกเข้าใจผิด แต่ท้ายที่สุดต้องยอมพูดความจริงออกมาเองเพราะผู้ชายไม่ได้รักตนเองจริงๆ และสงสารในความดีของพระเอกที่มีต่อตน

ตัวละครที่เด่นๆ ในเรื่องก็มี 4 คนนี้เป็น ตัวดำเนินเรื่อง เรื่องราวของ ‘เร’ ที่เปิดฉากแรกก็โดนพี่ชายตัวเอง คือ ‘เรือง’ หลอกให้ไปปล้นร้านทอง จนโดนตำรวจไล่ล่า ท้ายที่สุด ‘เรือง’ ก็โดนตำรวจยิงแล้วหนีไปได้ แต่คนที่ไม่พ้นคือ ‘เร’ ซึ่งเกือบจะโดนจับเข้าซังเต แต่เพราะความดีในหนหลังเลยทำให้ ‘สุรเกียรติ’ (เกรียงไกร อุณหะนันท์) ช่วยเอาไว้ไม่ให้ติดคุก แถมยังให้ที่อยู่ที่กิน และให้มาขับให้ ‘ทินกร’ (วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย)ลูกชายตนอีกด้วย เรียกว่า ‘เร’ ก็ทดแทนบุญคุณ ‘สุรเกียรติ’ แบบไม่เคยขาดตกบกพร่อง

เหมือนชีวิต ‘เร’ กำลังจะดี แต่ ‘สุรเกียรติ’ ก็มาล้มละลายเสียก่อน และตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทำให้ลูกชายก็คือ ‘ทินกร’ และลูกสาว คือ ‘พิมดาว’ ลำบากไปด้วย แม้ว่าคนที่เคยช่วยเหลือตัวเองตายจากไปแล้ว ‘เร’ ก็ไม่เคยคิดจะทิ้งครอบครัวนี้ไป กลับทำงานหาเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านเสียด้วยซ้ำ แถมยังเจียมตัวอยู่กับคนใช้อย่าง ‘ผึ้ง’ แบบไม่ทะเยอทะยานเข้าหาลูกสาวเจ้านายในบ้านแม้จะแอบชอบพออยู่ก็ตาม

ส่วน ‘ทินกร’ ซึ่งเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เพราะไม่เคยทำงานทำการอะไรเลย แถมไปเล่นการพนันจนโดนเจ้าหนี้จับไปซ้อม ทำให้แม่กับน้องต้องลำบากหาเงินไปจ่ายหนี้ให้อีก ทำให้ ‘เร’ ต้องทำงานหนักมากขึ้น ไปรับจ้างร้านแพปลาแบกถังปลา และโดนกลั่นแกล้งจากลูกชายเจ้าของแพปลาบ้าง แต่ท้ายที่สุด ก็เอาชนะใจทุกคนได้ด้วยความซื่อสัตย์ จนศัตรูกลายมาเป็นมิตรในที่สุด

ดูแล้วละครเรื่องนี้ชีวิตพระเอกช้ำชอกมาไม่น้อย แต่ทุกครั้งที่ผ่านมาได้คือความ ตั้งใจดี ซื่อสัตย์ รู้จักกตัญญูกับผู้มีพระคุณ และคอยตอบแทนคุณอยู่เสมอ ซึ่งความกตัญญูนี้เองที่คอยเป็นเกราะกำบังในชีวิตที่ทำให้ ‘เร’ รอดจากความเกลียดชังจากผู้อื่น และดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตเสมอ แม้ว่าชีวิตในหลายๆช่วงจะล้มลุกคลุกคลาน มาบ้าง

ขึ้นชื่อว่าความกตัญญูนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง ไม่ใช่แค่การรู้คุณ ใช้คืนแล้วจบ กันเท่านั้น หากแต่เป็นการรำลึกถึงเสมอในอุปการคุณนั้น และต้องมี ‘กตเวที’ คือ การตอบแทนคุณ ควบคู่กันไปด้วยเสมอ จึงจะเป็นคนดีที่แท้จริง

ความกตัญญูข้อแรกที่ทุกคนรู้จักดีคือ ‘กตัญญูต่อบุคคล’ ผู้มีพระคุณ เช่น พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ บิดามารดา ครูอาจารย์ ญาติพี่น้อง ฯลฯ ต่อมาก็คือ ‘กตัญญูต่อสถาบันหลัก’ ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวให้เรา จากนั้นคือ ‘กตัญญูต่อสัตว์’ และ ‘กตัญญูต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม’ เช่น ต้นไม้ ลำธาร รวมไปถึงแผ่นดิน ก็ควรระลึกนึกถึงว่าเป็นที่ให้เราอยู่อาศัยทำกิน เราจะลืมเสียมิได้ แถมให้อีกประการคือ ‘กตัญญูต่อตัวเอง’ ไม่ลืมตอบแทนคนอื่น ก็ต้องไม่ลืมตอบแทนตัวเองบ้าง เมื่อเกิดมาวันนี้มีร่างกายไว้ใช้ ก็อย่าได้พาร่างกายไปทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ผิดศีล หรือทำการอันใดที่ตนเองเสื่อมเสีย รักษาร่างกายจิตใจให้ดี

คนรุ่นปู่ย่าตายายมักจะสอนลูกๆ หลานๆว่า ไปไหนมาไหน ยกมือไหว้เข้าไว้ไม่อดตาย ทำอะไรก็ต้องรู้จักบุณคุณคน แล้วมีโอกาสต้องตอบแทนคุณแก่ท่าน แต่น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่มักละเลยหรือขาดคุณธรรมข้อนี้ จนทำให้ชาติเกือบจะล่มจม

เขาบอกว่าดูละครแล้วต้องย้อนดูตัว ดู ‘เร’ ในละครยอดกตัญญู แล้วมามองดูตัวเอง ดูสังคมปัจจุบัน มันทำให้สะท้อนว่าชีวิตทุกคนย่อมมีหลุม มีบ่อ มีทางเรียบ ทางโค้ง ด้วยกันทั้งนั้น แต่ใช่ว่าอุปสรรคนั้นจะทำให้เราท้อแท้จนเกินจะทำความดีได้ ทุกคนมีโอกาสเท่ากัน แต่ไม่เท่ากันในเรื่องของความตั้งใจทำมากกว่า

ในตอนท้ายๆ เรื่องกว่าพระเอกจะสมหวังในชีวิตก็ไม่ง่าย แต่ไม่ยาก เพราะความดี ความกตัญญูที่สั่งสมมา มันให้ดอกให้ผลเห็นทันตา หากอยากรู้ว่าเรื่องราว ละครจะจบลงเอยอย่างไรต้องรอชมกันเอาเอง บอกหมดไม่สนุกแน่นอน เหมือนอาหาร ไม่ได้กินเองก็จะไม่รู้ว่ามันอร่อยอย่างไร

พุทธศาสนาสอนไว้ว่า ‘ความกตัญญู กตเวที’ เป็นเครื่องหมายของคนดี แล้ววันนี้คุณมีเครื่องหมายนี้แล้วหรือยัง...

(จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 76 มี.ค. 50 โดย ศุพัศจี)


กำลังโหลดความคิดเห็น