xs
xsm
sm
md
lg

ชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี 49 ‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


วีรกรรมและความยิ่งใหญ่ของ ‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ วีรกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ และถูกนำมาถ่ายทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง ทั้งในรูปแบบของตำราเรียน หนังสือวรรณกรรม ละครวิทยุ ละครโทรทัศน์ มาทุกยุคทุกสมัยนั้น ล่าสุด ‘ท่านมุ้ย’ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ได้นำเรื่องราวทั้งหมดมาถ่ายทอด อีกครั้งในรูปแบบของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เรื่อง ‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช’

ภาพยนตร์เรื่องนี้ท่านมุ้ยสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่องยิ่งใหญ่ที่แสดงถึงความโดดเด่นในด้านความกล้าหาญ ความอดทน ความเสียสละ ตลอดจนพระปรีชาสามารถในการรบเพื่อกอบกู้เอกราชของชาติ

จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่โดดเด่นมากอย่างหนึ่ง ก็คือ สถานที่ถ่ายทำ โดยเนรมิตพื้นที่ป่ากว่า 1,500 ไร่ ที่กาญจนบุรี ให้ เป็นเมืองอยุธยา, หงสาวดี พร้อมทั้งสถานที่สำคัญของทั้งอยุธยาและหงสาฯ มีการสร้างฉากอย่างยิ่งใหญ่อลังการ

ท่านมุ้ยเล่าถึงการสร้างฉากว่า ได้ดำเนิน การมากว่า 3 ปี แล้ว ใช้งบประมาณราว 200-300 ล้านบาท เพื่อให้มีความยิ่งใหญ่สมจริง ทั้งงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของฝ่ายไทยและฝ่ายพม่า ซึ่งมีการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลอย่างละเอียด เช่นงานที่เกี่ยวกับพม่าบางส่วนได้จัดหามาจากพม่าโดยตรง ส่วนเหตุที่เลือกกาญจนบุรีเป็นสถานที่ถ่ายทำนั้น ท่านมุ้ยให้เหตุผลว่า เนื่องด้วยมีความสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ เพราะเคยเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญในการสกัดกั้นทัพพม่าก่อนที่จะเข้าถึงอยุธยา ถือเป็นเส้นทางเดินทัพทั้งทาง บกและทางน้ำ ทั้งยังมีหลายเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่นี่ในยุคสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประกอบกับทำเลที่ตั้งเหมาะสม และได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบกเป็นอย่างดี ทั้งพื้นที่ กำลังพล ตลอดจนอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ การก่อสร้างฉาก และการถ่ายทำภาพยนตร์ครั้งนี้ จึงดำเนินไปได้ด้วยดี และในส่วนของนักแสดงก็เต็มไปด้วยเหล่าดารา น้อยใหญ่ทั้งเก่าและใหม่มากมายร่วมแสดงอย่างคับคั่ง

เหตุการณ์ในภาพยนตร์เปิดฉากตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2106 ซึ่งพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ทรงกรีฑาทัพเข้าตีหัวเมืองฝ่ายเหนือของอยุธยาได้เป็นผลสำเร็จ จากนั้นจึงเข้าตีกรุงศรีอยุธยาจนได้ชัยชนะ และจับพระนเรศวรไปเป็นตัวประกัน

สมเด็จพระนเรศวรทรงเป็นที่รักใคร่ของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองยิ่งนัก ด้วยพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านพิชัยยุทธ ทั้งยังองอาจกล้าหาญ พระเจ้าบุเรงนองแลเห็นว่า สืบไปเบื้องหน้าสมเด็จพระนเรศวรจะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในอุษาคเนย์ประเทศ จึงทรงคิดปลูกฝังให้สมเด็จพระนเรศวรผูกพระทัยรักแผ่นดินหงสา เพื่อจะได้อาศัยเป็นผู้สืบราชอาณาจักรหงสาต่อไป เหตุทั้งนี้จึงเป็นชนวนให้พระเจ้านันทบุเรง ซึ่งเป็นพระราชโอรสไม่พอพระทัย

หลังจากพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองสิ้นพระชนม์ในปีพุทธศักราช 2124 พระเจ้านันทบุเรง ได้ขึ้นเสวยราชสืบต่อ พระเจ้าหงสาวดีพระองค์ใหม่มิได้วางพระทัยในสมเด็จพระนเรศวร และทรงเกรงว่าสืบไปเบื้องหน้าสมเด็จพระนเรศวรจะเป็นภัยต่อแผ่นดินหงสา จึงหาเหตุวาง กลศึก หมายจะปลงพระชนม์สมเด็จพระนเรศวรที่เมืองแครง แต่สมเด็จพระนเรศวรทรงรู้ความนี้ จึงถือเป็นเหตุประกาศเอกราช ตัดสัมพันธไมตรีกับหงสาวดี จึงเป็นชนวนให้ พระเจ้านันทบุเรงเปิดมหายุทธสงครามสั่งทัพเข้ารุกรานราชอาณาจักรอยุธยาสืบแต่นั้นมา...

เหตุการณ์จะดำเนินไปเช่นไร ความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์เรื่องนี้ จะสมดังคำร่ำลือหรือไม่ คงต้องพิสูจน์ด้วยสายตาของคนไทย ทั้งประเทศ ในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

เชื่อว่าผู้ที่ได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ คงจะได้ น้อมรำลึกถึงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในอันที่จะทรงกอบกู้เอกราชของชาติบ้านเมือง รวมทั้งได้ตระหนักถึงความรักชาติรักแผ่นดินที่บรรพชนได้ก่อร่างสร้างมาด้วยความยากลำบาก

ที่สุดแล้วคือสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช ที่ได้รักษาชาติรักษาแผ่นดินมาจวบจนปัจจุบัน

การรำลึกและสำนึกเช่นนี้เองจะนำไปสู่การสร้างตนให้เป็นผู้มีีความกตัญญู คือรู้คุณ และมีกตเวทิตาคือตอบแทนพระคุณ ต่อแผ่นดินไทยและพระมหากษัตริย์ไทย แม้เพียงเบื้องต้น ด้วยการพูดดี คิดดี ทำดี ตั้งมั่นที่จะดำเนินชีวิตด้วยการกระทำความดีทั้งปวง ก็ถือว่าได้มีส่วนในการตอบแทนพระคุณบ้างแล้ว

หากพาลูกหลานไปชมภาพยนตร์เรื่อง ‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ แล้ว อย่าลืม พูดคุยปลูกฝังเรื่องนี้กับเด็กๆด้วย เพราะอนาคตของชาติอยู่ในมือของเด็กๆที่เป็นลูกหลาน เรานั่นเอง

(จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 73 ธ.ค. 49 โดย รพีพรรณ)
กำลังโหลดความคิดเห็น