มุมสบายฉบับนี้อยากชักชวนคุณแม่บ้านมาสนุกสนานกับการสร้างสรรค์กับข้าวจานเหลือให้เป็นเมนูจานใหม่ที่ทั้งเก๋ไก๋และน่ารับประทาน ถ้าพบว่ามื้อที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า กลางวัน เย็น ยังมีกับข้าวเหลืออยู่ จะทิ้งก็เสียดายแต่ครั้นจะเอามาตั้งสำรับใหม่ในมื้อถัดมาก็ดูจะซ้ำซากไม่ ชวนกิน อย่ากระนั้นเลยลองมาดัดแปลงให้เป็นเมนูจานเด็ดกันดีกว่า แค่หยิบโน่นใส่นี่บวกกับไอเดียสร้างสรรค์อีกเล็กน้อยก็ได้ของอร่อยไว้ลองชิมกันแล้ว
จับแกงมาแปลงโฉม
ถ้ากับข้าวที่เหลือในมื้อที่แล้วเป็นจำพวก แกงเผ็ด ประเภท แกงเขียวหวาน มัสมั่น พะแนง หรือแกงส้ม แล้วละก็ เราขอเสนอเมนูข้าวผัดสารพัดแกงเผ็ด แค่เอาแกงที่เหลือ ใส่กระทะ ตั้งไฟให้ร้อนจนน้ำแกงงวดคลุกคลิก คดข้าวสวยก้นหม้อใส่ลงไปคลุกให้เข้ากัน ปรุงรสอีกเล็กน้อย ตักใส่จาน โรยด้วยผักชีและพริกชี้ฟ้าหั่นฝอยแค่นี้ก็อร่อยแล้ว หรือจะแนมด้วยปลาทอดกับผักสดเพื่อเพิ่มประโยชน์ทางโภชนาการก็ไม่เลวทีเดียว
นอกจากหน้าตาของข้าวผัดแกงเขียวหวานข้าวผัดพะแนง ข้าวผัดมัสมั่น และข้าวผัดแกงส้ม จะดูน่ากิ๊น..น่ากินแล้ว ยังมีเมนูสุด หรู 2 จานนี้ค่ะ สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานและมัสมั่นหมี่กรอบ วิธีทำก็ง่ายๆ สำหรับสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานก็แค่นำเส้นสปาเก็ตตี้ มาลวกพอสุก ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็น แล้วนำมาพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ นำแกงเขียวหวาน ที่เหลือจากมื้อที่แล้วใส่กระทะตั้งไฟให้พองวด คีบเส้นสปาเก็ตตี้ลงผัด ปรุงรสอีกครั้ง ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยใบโหระพา
ส่วนมัสมั่นหมี่กรอบ ก็นำมัสมั่นถ้วยเดิมน่ะแหละ มารับประทานคู่กับหมี่กรอบที่ได้จากการเอาเส้นหมี่มาคลี่ให้เป็นแผ่น นำลงทอดในน้ำมันที่ตั้งไฟปานกลาง จนเส้นเหลือง พองฟู ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานรับประทานคู่กัน กลายเป็นอาหารชาววังจานหรู ได้ในพริบตา
ขนมจีนเหลือ อย่าเพิ่งทิ้ง
ไม่เฉพาะแกงที่เหลือเท่านั้นที่นำมาพลิกแพลงเป็นอาหารจานใหม่ได้ ขนมจีนที่รับ ประทานกับแกงก็สามารถนำมาปรุงแต่งเป็นเมนูแสนอร่อยได้เหมือนกัน หากน้ำพริก น้ำยา แกงไก่ หมดหม้อไปแล้วยังเหลือขนมจีนอีกจานใหญ่ ก็อย่าเพิ่งทิ้งไปให้เสียของนะคะ เอามาทำขนมจีนผัดกันดีกว่า จะเป็นขนมจีนผัดแห้ง หรือไก่ผัดขนมจีนก็ไม่เลวค่ะ ทั้ง 2 เมนูนี้เป็นอาหารของชาวลาวที่นอกจากจะรับประทานขนมจีนกับน้ำยาประเภทต่างๆแล้วยังนิยมนำมาทำอาหารในรูปแบบอื่นด้วย
ทั้ง 2 เมนูนั้นนอกจากวิธีทำจะไม่ยากเย็นอะไรแล้วเครื่องปรุงยังเป็นของที่หาได้ง่ายและมีติดครัวอยู่แล้ว สำหรับขนมจีนผัดแห้ง ให้นำน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อน โยนกระเทียมบุบหยาบและต้นหอมที่ตัดเอาเฉพาะส่วนหัวลงไปผัด ตามด้วยเนื้อหมูติดมันหั่นชิ้นพอคำ เติมน้ำซุปพอคลุกคลิก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ขนมจีนลงผัดจนหอม ต่อยไข่ ใส่ลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสอีกครั้งตามชอบ ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นเป็นเส้น พริกสด และผักชี
ส่วนวิธีทำไก่ผัดขนมจีน ให้นำกระตั้งไฟใส่น้ำมัน พอร้อนให้นำเครื่องแกงที่ประกอบ ด้วยพริกแห้งและหัวหอมโขลกละเอียดลงผัดจนหอม เติมไก่ ใบมะกรูด หอมหัวใหญ่ น้ำปลา ผัดจนงวดจากนั้นเติมหางกะทิ เคี่ยวต่อไปจนไก่นิ่มแล้วจึงเติมหัวกะทิและขนมจีน คลุกให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบ ตักใส่จาน เพิ่มความหอมด้วยพริกไทยป่นและต้นหอมซอย
น้ำพริกถ้วยเก่า เป็นเมนูจานใหม่
สำหรับน้ำพริกถ้วยเก่าที่มักเหลือทุกครั้งที่ตั้งสำรับน้ำพริกผักต้มก็น่าเสียดาย อย่ากระนั้นเลยนำมาแปลงโฉมเป็นข้าวผัดน้ำพริกกันดีกว่า ถ้าเป็นน้ำพริกกะปิก็เอามาทำข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ โดยนำน้ำพริกที่เหลือลงผัดกับน้ำมันให้ร้อน ปรุงรสให้เข้มข้นด้วยน้ำตาล น้ำปลา คดข้าวสวยใส่ลงไปคลุกให้น้ำพริกเข้าเนื้อ ตักใส่จาน ส่วนเครื่องเคียงที่นำมารับประทานคู่กันนั้นนอกจากจะหยิบไข่เค็มในตู้กับข้าวมาผ่าซีกแล้ว ปลาทูและชะอมทอดที่กินกับน้ำพริกมื้อก่อนก็เอามาเป็นเครื่องเคียงได้ แถมด้วยผักสดอย่างกระถิน แตงกวา ถั่วฝักยาว หอมแดงซอยอีกหน่อย อร่อยอย่าบอกใครเชียว
ส่วนน้ำพริกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกปลาช่อน น้ำพริกปลาทูทอด น้ำพริกกุ้งเสียบ และอีกสารพัดน้ำพริกนั้นล้วนนำมาทำข้าวผัดน้ำพริกได้อร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งวิธีทำก็ไม่ต่างจากน้ำพริกลงเรือ ถ้าใครยังไม่เคยลองชิมข้าวผัดน้ำพริกปลาร้าละก็ขอให้ลองทำดู รับรองว่าต้องเป็นเมนูที่สมาชิกในบ้านพากันติดใจ
นอกจากน้ำพริกที่เหลือจะสามารถนำมาทำเป็นเมนูจานใหม่แล้วเครื่องเคียงที่เหลือ ไม่ว่าจะ เป็นเครื่องเคียงน้ำพริก อย่างปลาทู ปลาสลิด ปลาดุก หรือเครื่องเคียงที่กินกับข้าวต้มกุ๊ย เช่นไข่เค็ม กุ้งแห้ง เต้าหู้ยี้ ก็นำมาทำเป็นน้ำพริกได้เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่คุณแม่บ้านคงพอจะรู้สูตรรู้วิธีทำอยู่แล้ว จึงขอนำเสนอเฉพาะเมนูที่ไม่ค่อยเห็นกันบ่อยนักอย่างน้ำพริกเต้าหู้ยี้
โดยให้นำเต้าหู้ยี้ที่เหลือจากมื้อที่แล้วมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่หอมแดงซอย เจียวจนเหลือง ตักน้ำมันออกให้เหลือติดกระทะเพียงเล็กน้อย นำเต้าหู้ยี้ ลงผัดจนหอมด้วยไฟปานกลาง ใส่พริกขี้หนูซอยและน้ำตาลทรายลงผัดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย บีบมะนาวเพิ่มรสชาติ หรือจะหั่นมะนาวเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงไปด้วยก็ได้ คลุกให้เข้ากัน แล้วโรยด้วยหอมเจียวก่อนเสิร์ฟ
เปลี่ยนของทอดเป็นของกินเล่น
หากวันใดที่ยังไม่มีของว่างให้ตัวเองหรือลูกหลาน ก็ลองเปิดตู้ดูสิคะว่าพอจะมีอะไรเหลือจากมื้อเช้าบ้าง อย่างจำพวกไข่ดาว ไก่ทอด ไส้กรอก ขนมปัง หรือแม้กระทั่งปาท่องโก๋ ก็ล้วนนำมาทำเป็นของว่างได้ทั้งนั้น ง่ายที่สุดก็ต้องขนมปังที่ตัดเป็นชิ้นขนาดพอคำ ทาด้วย มาการีนหรือเนยเค็ม วางผักสดจำพวกผักกาดหอม แตงกวา มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นลงบน ขนมปัง ทาทับด้วยมายองเนสหรือน้ำสลัดที่คุณแม่บ้านมักซื้อมาติดตู้เย็นไว้อยู่แล้ว ตามด้วยไข่ดาว ไก่ทอด หรือไส้กรอกที่หั่นเรียบร้อย จากนั้นใช้ไม้จิ้มฟันเสียบตรงกลาง เท่านี้ ก็ได้ของว่างที่สุดแสนจะอร่อย
ส่วนปาท่องโก๋ที่เหลือจากรับประทานกับกาแฟตอนเช้าก็นำมาทำปาท่องโก๋ทอดสอดไส้ โดยนำเนื้อกุ้งและเนื้อหมูบดละเอียดมาผสมกับไข่ไก่และแป้งสาลี คนให้เข้ากันแล้วปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว เกลือ และพริกไทยป่น นวดให้เข้ากันอีกครั้ง แบ่งปาท่องโก๋เป็นสองขา ผ่าตรงกลาง จากนั้นนำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาใส่เป็นไส้ นำลงทอดในน้ำมันที่ร้อนปานกลาง จนเหลืองและสุกได้ที่ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานคู่กับน้ำจิ้มไก่
เมนูที่แนะนำมานี้ เป็นแค่การจุดประกายเท่านั้น ยังมีอาหารจานเด็ดอีกมากมายที่คุณแม่บ้านสามารถสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ตามไอเดียของแต่ละคน วันหยุดนี้ลองชวนลูกๆ หลานๆมาช่วยกันคิดช่วยกันทำซิคะ นอกจากจะสนุกสนานสานสัมพันธ์ในครอบครัวแล้ว เด็กๆยังจะภาคภูมิใจกับการครีเอทอาหารจานเหลือให้เป็นเมนูจานเด็ดอีกด้วย
จับแกงมาแปลงโฉม
ถ้ากับข้าวที่เหลือในมื้อที่แล้วเป็นจำพวก แกงเผ็ด ประเภท แกงเขียวหวาน มัสมั่น พะแนง หรือแกงส้ม แล้วละก็ เราขอเสนอเมนูข้าวผัดสารพัดแกงเผ็ด แค่เอาแกงที่เหลือ ใส่กระทะ ตั้งไฟให้ร้อนจนน้ำแกงงวดคลุกคลิก คดข้าวสวยก้นหม้อใส่ลงไปคลุกให้เข้ากัน ปรุงรสอีกเล็กน้อย ตักใส่จาน โรยด้วยผักชีและพริกชี้ฟ้าหั่นฝอยแค่นี้ก็อร่อยแล้ว หรือจะแนมด้วยปลาทอดกับผักสดเพื่อเพิ่มประโยชน์ทางโภชนาการก็ไม่เลวทีเดียว
นอกจากหน้าตาของข้าวผัดแกงเขียวหวานข้าวผัดพะแนง ข้าวผัดมัสมั่น และข้าวผัดแกงส้ม จะดูน่ากิ๊น..น่ากินแล้ว ยังมีเมนูสุด หรู 2 จานนี้ค่ะ สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานและมัสมั่นหมี่กรอบ วิธีทำก็ง่ายๆ สำหรับสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานก็แค่นำเส้นสปาเก็ตตี้ มาลวกพอสุก ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็น แล้วนำมาพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ นำแกงเขียวหวาน ที่เหลือจากมื้อที่แล้วใส่กระทะตั้งไฟให้พองวด คีบเส้นสปาเก็ตตี้ลงผัด ปรุงรสอีกครั้ง ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยใบโหระพา
ส่วนมัสมั่นหมี่กรอบ ก็นำมัสมั่นถ้วยเดิมน่ะแหละ มารับประทานคู่กับหมี่กรอบที่ได้จากการเอาเส้นหมี่มาคลี่ให้เป็นแผ่น นำลงทอดในน้ำมันที่ตั้งไฟปานกลาง จนเส้นเหลือง พองฟู ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานรับประทานคู่กัน กลายเป็นอาหารชาววังจานหรู ได้ในพริบตา
ขนมจีนเหลือ อย่าเพิ่งทิ้ง
ไม่เฉพาะแกงที่เหลือเท่านั้นที่นำมาพลิกแพลงเป็นอาหารจานใหม่ได้ ขนมจีนที่รับ ประทานกับแกงก็สามารถนำมาปรุงแต่งเป็นเมนูแสนอร่อยได้เหมือนกัน หากน้ำพริก น้ำยา แกงไก่ หมดหม้อไปแล้วยังเหลือขนมจีนอีกจานใหญ่ ก็อย่าเพิ่งทิ้งไปให้เสียของนะคะ เอามาทำขนมจีนผัดกันดีกว่า จะเป็นขนมจีนผัดแห้ง หรือไก่ผัดขนมจีนก็ไม่เลวค่ะ ทั้ง 2 เมนูนี้เป็นอาหารของชาวลาวที่นอกจากจะรับประทานขนมจีนกับน้ำยาประเภทต่างๆแล้วยังนิยมนำมาทำอาหารในรูปแบบอื่นด้วย
ทั้ง 2 เมนูนั้นนอกจากวิธีทำจะไม่ยากเย็นอะไรแล้วเครื่องปรุงยังเป็นของที่หาได้ง่ายและมีติดครัวอยู่แล้ว สำหรับขนมจีนผัดแห้ง ให้นำน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อน โยนกระเทียมบุบหยาบและต้นหอมที่ตัดเอาเฉพาะส่วนหัวลงไปผัด ตามด้วยเนื้อหมูติดมันหั่นชิ้นพอคำ เติมน้ำซุปพอคลุกคลิก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ขนมจีนลงผัดจนหอม ต่อยไข่ ใส่ลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสอีกครั้งตามชอบ ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นเป็นเส้น พริกสด และผักชี
ส่วนวิธีทำไก่ผัดขนมจีน ให้นำกระตั้งไฟใส่น้ำมัน พอร้อนให้นำเครื่องแกงที่ประกอบ ด้วยพริกแห้งและหัวหอมโขลกละเอียดลงผัดจนหอม เติมไก่ ใบมะกรูด หอมหัวใหญ่ น้ำปลา ผัดจนงวดจากนั้นเติมหางกะทิ เคี่ยวต่อไปจนไก่นิ่มแล้วจึงเติมหัวกะทิและขนมจีน คลุกให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบ ตักใส่จาน เพิ่มความหอมด้วยพริกไทยป่นและต้นหอมซอย
น้ำพริกถ้วยเก่า เป็นเมนูจานใหม่
สำหรับน้ำพริกถ้วยเก่าที่มักเหลือทุกครั้งที่ตั้งสำรับน้ำพริกผักต้มก็น่าเสียดาย อย่ากระนั้นเลยนำมาแปลงโฉมเป็นข้าวผัดน้ำพริกกันดีกว่า ถ้าเป็นน้ำพริกกะปิก็เอามาทำข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ โดยนำน้ำพริกที่เหลือลงผัดกับน้ำมันให้ร้อน ปรุงรสให้เข้มข้นด้วยน้ำตาล น้ำปลา คดข้าวสวยใส่ลงไปคลุกให้น้ำพริกเข้าเนื้อ ตักใส่จาน ส่วนเครื่องเคียงที่นำมารับประทานคู่กันนั้นนอกจากจะหยิบไข่เค็มในตู้กับข้าวมาผ่าซีกแล้ว ปลาทูและชะอมทอดที่กินกับน้ำพริกมื้อก่อนก็เอามาเป็นเครื่องเคียงได้ แถมด้วยผักสดอย่างกระถิน แตงกวา ถั่วฝักยาว หอมแดงซอยอีกหน่อย อร่อยอย่าบอกใครเชียว
ส่วนน้ำพริกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกปลาช่อน น้ำพริกปลาทูทอด น้ำพริกกุ้งเสียบ และอีกสารพัดน้ำพริกนั้นล้วนนำมาทำข้าวผัดน้ำพริกได้อร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งวิธีทำก็ไม่ต่างจากน้ำพริกลงเรือ ถ้าใครยังไม่เคยลองชิมข้าวผัดน้ำพริกปลาร้าละก็ขอให้ลองทำดู รับรองว่าต้องเป็นเมนูที่สมาชิกในบ้านพากันติดใจ
นอกจากน้ำพริกที่เหลือจะสามารถนำมาทำเป็นเมนูจานใหม่แล้วเครื่องเคียงที่เหลือ ไม่ว่าจะ เป็นเครื่องเคียงน้ำพริก อย่างปลาทู ปลาสลิด ปลาดุก หรือเครื่องเคียงที่กินกับข้าวต้มกุ๊ย เช่นไข่เค็ม กุ้งแห้ง เต้าหู้ยี้ ก็นำมาทำเป็นน้ำพริกได้เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่คุณแม่บ้านคงพอจะรู้สูตรรู้วิธีทำอยู่แล้ว จึงขอนำเสนอเฉพาะเมนูที่ไม่ค่อยเห็นกันบ่อยนักอย่างน้ำพริกเต้าหู้ยี้
โดยให้นำเต้าหู้ยี้ที่เหลือจากมื้อที่แล้วมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่หอมแดงซอย เจียวจนเหลือง ตักน้ำมันออกให้เหลือติดกระทะเพียงเล็กน้อย นำเต้าหู้ยี้ ลงผัดจนหอมด้วยไฟปานกลาง ใส่พริกขี้หนูซอยและน้ำตาลทรายลงผัดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย บีบมะนาวเพิ่มรสชาติ หรือจะหั่นมะนาวเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงไปด้วยก็ได้ คลุกให้เข้ากัน แล้วโรยด้วยหอมเจียวก่อนเสิร์ฟ
เปลี่ยนของทอดเป็นของกินเล่น
หากวันใดที่ยังไม่มีของว่างให้ตัวเองหรือลูกหลาน ก็ลองเปิดตู้ดูสิคะว่าพอจะมีอะไรเหลือจากมื้อเช้าบ้าง อย่างจำพวกไข่ดาว ไก่ทอด ไส้กรอก ขนมปัง หรือแม้กระทั่งปาท่องโก๋ ก็ล้วนนำมาทำเป็นของว่างได้ทั้งนั้น ง่ายที่สุดก็ต้องขนมปังที่ตัดเป็นชิ้นขนาดพอคำ ทาด้วย มาการีนหรือเนยเค็ม วางผักสดจำพวกผักกาดหอม แตงกวา มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นลงบน ขนมปัง ทาทับด้วยมายองเนสหรือน้ำสลัดที่คุณแม่บ้านมักซื้อมาติดตู้เย็นไว้อยู่แล้ว ตามด้วยไข่ดาว ไก่ทอด หรือไส้กรอกที่หั่นเรียบร้อย จากนั้นใช้ไม้จิ้มฟันเสียบตรงกลาง เท่านี้ ก็ได้ของว่างที่สุดแสนจะอร่อย
ส่วนปาท่องโก๋ที่เหลือจากรับประทานกับกาแฟตอนเช้าก็นำมาทำปาท่องโก๋ทอดสอดไส้ โดยนำเนื้อกุ้งและเนื้อหมูบดละเอียดมาผสมกับไข่ไก่และแป้งสาลี คนให้เข้ากันแล้วปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว เกลือ และพริกไทยป่น นวดให้เข้ากันอีกครั้ง แบ่งปาท่องโก๋เป็นสองขา ผ่าตรงกลาง จากนั้นนำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาใส่เป็นไส้ นำลงทอดในน้ำมันที่ร้อนปานกลาง จนเหลืองและสุกได้ที่ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานคู่กับน้ำจิ้มไก่
เมนูที่แนะนำมานี้ เป็นแค่การจุดประกายเท่านั้น ยังมีอาหารจานเด็ดอีกมากมายที่คุณแม่บ้านสามารถสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ตามไอเดียของแต่ละคน วันหยุดนี้ลองชวนลูกๆ หลานๆมาช่วยกันคิดช่วยกันทำซิคะ นอกจากจะสนุกสนานสานสัมพันธ์ในครอบครัวแล้ว เด็กๆยังจะภาคภูมิใจกับการครีเอทอาหารจานเหลือให้เป็นเมนูจานเด็ดอีกด้วย