โลกนี้มักมีอะไรๆที่เกี่ยวข้องอยู่กับเลข 7 มากมาย เช่นในพุทธศาสนาบอกว่า เมื่อพระพุทธองค์ประสูติ ก็เดินได้ 7 ก้าว โดยมีดอกบัว 7 ดอกมารองรับ ในคริสตศาสนามีบาปอยู่เจ็ดประการ นอกจากนั้นก็ยังมีเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หรือสัปดาห์หนึ่ง ก็ต้องมีเจ็ดวัน
ความลี้ลับของเลขเจ็ดนั้นก็เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่กับความเชื่อมากมายของชาวญี่ปุ่น เช่นญี่ปุ่นสมัยโบราณนั้นประกอบไปด้วย 7 มณฑล ในคติชาวบ้าน คือมีขุมทรัพย์อยู่ 7 แห่งและมี 7 เทพเจ้าแห่งโชคลาภ พุทธศาสนาบางนิกายในญี่ปุ่นเชื่อว่าคนเราตายแล้วเกิดใหม่ได้เพียง 7 ครั้ง ส่วน 7 สัปดาห์เป็นช่วงเวลาแห่งการโศกเศร้าเสียใจและไว้อาลัยให้กับผู้ที่ตายไปแล้ว ยังมีอีกมากมายที่เลข 7 ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องไปกับทุกประเพณีและความเชื่อ
ในโอกาสต้อนรับปีใหม่อย่างนี้ ก็ขอนำ ‘เจ็ดเทพเจ้าแห่งความโชคดี’ ของชาวญี่ปุ่นมาฝากผู้อ่านค่ะ ซึ่งในวันที่สองของปีใหม่ เทพเจ้าทั้งเจ็ดจะมากับเรือขุมทรัพย์เพื่อนำความสุขมาฝากทุกคน
ตามหลักฐานบอกไว้ว่า ญี่ปุ่นมีเทพเจ้าของตนเองเพียงท่านเดียว คือ ท่านอีบีสึ ส่วนที่เหลืออีกหกนั้นไปยืมมาจากอินเดียสามท่าน จากประเทศจีนอีกสามค่ะ ฉลาดนะคะ เข้าใจไปรวบรวมความโชคดีมาเป็นของตัวเอง รวมแล้วก็เป็นเจ็ดเทพเจ้า ว่าแต่ว่ามีเทพเจ้าอะไรกันบ้างนั้น ดิฉันจะไล่เลียงให้ดูค่ะ
เทพเจ้าองค์แรกท่านชื่อ อีบิสึ เป็นเทพเจ้าแห่งทะเล ไร่นา และการค้า สังเกตลักษณะของท่านจะถือคันเบ็ดตกปลาอยู่ที่มือขวา ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้จะนำความสำเร็จมาให้ในหน้าที่การงาน
เทพเจ้าองค์ที่สอง ไดโกะกูเตน ในตำราอินเดีย ท่านก็คือ มหากาลา เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย และป้อง กันเหตุเภทภัยจากน้ำ หรือเรียกอีกอย่างว่าเทพเจ้าแห่งธัญพืชห้าอย่าง ท่านจะแบกกระสอบ บางครั้งก็จะสวมหมวก ในทางศาสนาชินโต ก็เรียกท่านว่าเป็นเทพเจ้าแห่ง ฤดูกาลเก็บเกี่ยว
องค์ที่สาม เป็นเทพเจ้าแห่งดนตรี บทกวี วรรณกรรม และศิลปะวิทยาการต่างๆ มีชื่อว่า เบนไซเตน เปรียบได้กับเทพเจ้าสุรัสวตีของอินเดีย เป็นเทพเจ้าองค์เดียว ที่เป็นเพศหญิง นอกนั้นทั้งเจ็ดเป็นชายหมด
องค์ที่สี่คือโฮเตะ ในจีนก็คือ พระศรีอริยเมตไตรยนั่นเอง เทพเจ้าแห่งความพอและความสุข ดิฉันชอบความหมายของเทพเจ้าองค์นี้มาก เพราะถ้าคนเราไม่พอ ก็ย่อมไม่มีความสุขเป็นแน่ แต่เมื่อไรที่รู้จักพอก็จะรู้ได้ ถึงความสุข เทพองค์นี้บางครั้งก็ใช้สัญลักษณ์เป็นเทพเจ้า หัวเราะ และเอามือลูบที่พุง ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์
องค์ที่ห้า เรียกว่า ฟูกูโรกูจู เทพเจ้าแห่งสติปัญญา และอายุยืนยาว ท่านจะมีหนวดยาว ถือไม้เท้า พร้อมด้วย ม้วนพระคัมภีร์ซึ่งเป็นที่รวบรวมความรู้ทั้งหมดของโลกนี้ มีผลน้ำเต้า พร้อมทั้งกวางและเต่าประดับอยู่เคียงข้างร่าง ของท่าน
ส่วนเทพเจ้าองค์ที่หกซึ่งมีลักษณะคล้ายกับองค์ที่ห้า มีชื่อว่า จูโรจิน เป็นเทพเจ้าแห่งอายุยืนยาว
เทพเจ้าองค์ที่เจ็ด องค์สุดท้าย ท้ายสุด คือ บิชามอนเตน เป็นเทพเจ้าแห่งขุมทรัพย์ และสงคราม
ทั้งหมดนี้ก็คือ เจ็ดเทพเจ้าแห่งความโชคดีของญี่ปุ่นเขาล่ะค่ะ แต่อย่าลืมว่าถ้าเราพึ่งธรรมะของพระพุทธเจ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็ไม่ต้องไปพึ่งเทพเจ้าแห่งความโชคดี หรือเครื่องรางของขลังอะไรที่ไหนแล้ว เพราะธรรมะของพระพุทธองค์ศักดิ์สิทธิ์จริงๆค่ะ