xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมะกับชีวิตประจำวัน : แก้นิสัยชั่ว ด้วยตัวคุณเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาพจิตของมนุษย์นั้น ถ้ายังไม่มีปัญญาเกิดขึ้นแล้ว ชอบสะสมสิ่งไม่เข้าเรื่อง ทำให้เกิดความ หนักใจ วุ่นวายใจด้วยประการต่างๆ เราก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ไว้ แล้วพยายามแก้ไขสภาพจิตใจอย่างนั้น ขอให้เข้าใจไว้อันหนึ่งว่า นิสัยของจิตใจคนนั้น เป็นเรื่องแก้ไขได้อันนี้ก็สำคัญอยู่เหมือนกัน เพราะว่าบางคนมักพูดว่า สันดานแก้ไม่ได้ สันดอนขุดได้ สันดานขุดไม่ได้ มันขุดได้ทั้งสองอย่างนั่นแหละ สันดอนก็ขุดด้วยเครื่องยนต์ สันดานก็ขุดด้วยเครื่องมือคือธรรมะ คือปัญญาคือสติ เอามาขุดออกได้ ถ้าเรามีศรัทธามั่น มีความเพียรมั่น มีสติปัญญาในเรื่องอย่างนั้นอย่างแท้ จริงเราก็สามารถจะแก้ได้
ทีนี้ปัญหาต่อไปว่าจะแก้อย่างไร ใครจะเป็นคนแก้ให้คนอื่นแก้ให้ไม่ได้หรอก เราต้องแก้ของเราเอง เราผูกเราจะต้องแก้ เราผูกแล้วไปให้คนอื่นแก้จะได้อย่างไร มันวุ่นวาย เพราะฉะนั้นปมที่เราผูกไว้เราก็ต้องแก้เอง ต้องพยายามแก้ พยายามที่จะปลดปล่อยสิ่งนั้นออกไปจากจิตใจของเรา หมั่นทำบ่อยๆ ก็สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายที่เกิดขึ้นในใจของเรานั้น ไม่ใช่ว่าเกิดพรึบแล้วก็เกิดขึ้นมามากมายก่ายกองเมื่อไหร่ มันค่อยๆ เกิดขึ้นทีละน้อยๆโดยเราไม่รู้สึกตัว ตั้งแต่เราเป็นเด็กพอรู้เดียงสา แล้วเราก็สะ สมมาเรื่อยๆ สะสมความโกรธ สะสมความเกลียด สะสมความริษยา สะสมความเป็นคนเจ้าอารมณ์ต่างๆ มาโดยลำดับ นั่นคือการฝึกหัดนั่นเอง หัดทำชั่วโดยไม่รู้ตัว หัดคิดเรื่องชั่วๆ หัดทำเรื่องชั่วโดยไม่รู้ตัวว่าเรา กำลังทำอะไรอยู่ ทำไปๆ มันก็ติดเป็นนิสัย นิสัยเกิดจากการกระทำบ่อยๆ ไม่ว่าในแง่ใด นิสัยดีก็เพราะว่าทำดี บ่อยๆ นิสัยชั่วก็เพราะว่าทำชั่วบ่อยๆ คนดื่มเหล้าจนติดก็เพราะว่าดื่มบ่อยๆ เช้าดื่ม เย็นดื่ม ไม่ดื่มมันก็อยู่ไม่ได้คนที่ไปสนามม้าบ่อยๆก็เพราะว่าไปบ่อยๆ จนกระทั่งว่าติดผีม้าเข้าสิง พอถึงวันแล้วมันมาเต้นเร่าๆ อยู่ในใจเตรียมตัวไปได้แล้วเขาจะปล่อยม้าแล้ว เพราะว่าเราไปบ่อยๆเลยติดได้ ติดผีม้า ติดไพ่ ติดถั่ว ติดอ้ายโน่นอ้ายนี่เพราะว่าเราทำบ่อยๆทั้งนั้นแหละ ใครทำอะไรบ่อยๆในเรื่องอะไรมันก็เป็นนิสัย
เมื่อเราสร้างนิสัยด้านชั่วได้ ทำไมจะสร้างในด้านดีไม่ได้ ได้เหมือนกัน ขอให้เราคิดแต่เพียงว่า ทำมาแล้วนี่มันไม่ดี มันเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ชีวิตด้วยประการต่างๆ เสียเวลาไปเยอะแยะด้วยเรื่องที่ไม่เป็นสาระ ไม่ได้ประโยชน์อะไร ชีวิตส่วนที่เหลือนี้เราจะตั้งต้นใหม่ แล้วก็หัด ทีนี้หัดเลิกหัดละสิ่งนั้นค่อยทำค่อยไป อย่างชนิดที่เรียกว่ามีใจมั่นคงไม่เปลี่ยน แปลง คนเราถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วขอให้ทำจริงๆ อย่าเปลี่ยนเข็มง่ายๆทำไปสักหน่อยเลิกแล้ว มันจะไปรอดอย่างไร ต้องเอาจริงเอาจัง เหมือนกับเราขัดพื้นหิน หินที่โยมมานั่งเขาขัดกันหลายวัน เวลาขัดอาตมามาดูบ่อยๆ ขัด ยังไม่แวว ขัดเสร็จแล้วน้ำแห้ง ดูยังไม่แววต้องขัดอีกขัดจนกระทั่งเรียบร้อย ใครเข้าในโรงเรียนนี้แล้วชมทุกราย แหมขัดพื้นดีจังก็เพราะว่าคุมมันแจ ต้องขัดอย่างนั้น ต้องให้แววขึ้นมา ขัดจนแววสะอาดเรียบร้อยตัวเราก็เหมือนกัน ต้องหมั่นขัดหมั่นขูด หมั่นเกลาหมั่น แต่งให้มันดีขึ้น อย่าปล่อยตามเรื่อง อย่าเผลอ อย่า ประมาท อย่านึกว่าเล็กน้อยไม่เป็นไร เล็กน้อยนั่นแหละมันจะเป็นไร เป็นตัวเรือดตัวไร เป็นตะเข็บ ตะขาบเป็นงูเป็นเสือขึ้นมาในใจของเรา จิตใจของคนเรา ถ้ามันรกน้อยๆ ตะเข็บตะขาบมันอยู่รกมากเสือช้างเข้า ไปอยู่ มันใหญ่ โกรธใหญ่ เกลียดใหญ่เท่าเสือเท่าช้างเพราะว่ามันรกมาก เพราะฉะนั้นต้องแผ้วต้องถาง
ตื่นเช้าต้องตั้งจิตอธิษฐานว่า วันนี้ข้าพเจ้าจะอยู่ ด้วยความตั้งใจ ขูดเกลาชำระล้าง ข้าพเจ้าจะไม่ปล่อย ตัวปล่อยใจ ให้สิ่งที่เรียกว่ากิเลสเกาะจับขึ้นเป็นอันขาด กิเลสเล็กน้อยก็ไม่ได้ เหมือนสนิมเกิดเท่าปลาย เข็ม ลองทิ้งไว้เถอะ เดี๋ยวมันก็โตเท่าเข็มขึ้นมา เดี๋ยวมันก็โตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีดทั้งเล่มใช้ไม่ได้ กลายเป็นสนิมไปหมด ใจเราก็เป็นอย่างนั้น ถ้าเราปล่อยใจ ปล่อยตัวบ่อยๆ หัดโกรธบ่อยๆ หัดเกลียดบ่อยๆ หัดทำอะไรๆที่ไม่ดีบ่อยๆก็เสีย กิเลสมันมากขึ้นๆ จน กระทั่งเสียคนไป แล้วอยู่ด้วยความร้อนใจเป็นทุกข์
คนเรายิ่งมีอายุมากขึ้นนี้ ใจต้องเบาต้องบาง ต้องโปร่งใสเหมือนแก้ว มองเห็นอะไรชัดเจน สบาย ถ้าแก่ตัวลงไปแล้วยังมีอะไรมากๆ แล้วจะเป็นโรคประสาทง่ายๆ หัวสั่นหัวคลอนไปตามๆ กัน เพราะว่าความโกรธมันมาก โกรธบ่อยๆ เลยนั่งหัวสั่นงกๆ เหมือนตุ๊กตา ยักคอ นี่มันเสียหายเพราะว่า หัดโกรธ หัดเกลียดบ่อยๆ ทำใจให้ขุ่นมัวบ่อยๆ ก็เลยมันลำบาก เพราะฉะ นั้นต้องคอยควบคุมให้ใจเย็นใจสงบ ถ้ามันจะร้อน ต้องดับเสียก่อน นั่งเฉยๆ อย่าให้มันร้อน อย่าให้มันวูบวาบ คอยควบคุมไว้ คุมไว้เรื่อยๆ ทุกวันทุกเวลา นานๆเข้ามันก็เย็น พอเย็นแล้ว จะรู้สึกว่าสบาย เบาโปร่ง ไม่มีหนักอกหนักใจ อะไรมากระทบก็ตีกลับออก ไป สิ่งสัมผัสมาก็ตีกลับออกไป เพราะเรามีสติทันท่วงที มีปัญญาทันท่วงที สิ่งเหล่านั้นจะไม่มาหลอกเราได้ต่อไป
พิจารณาเอาเองว่า มีอะไรในตัวเราที่มันวุ่นวายอยู่ บ้าง ขี้โมโห ใจร้อนไหม ใจเร็วหุนหันพลันแล่นไหม เอาแต่ใจตัวไหม ทำอะไร ๆ ต้องสอบสวน สอบสวน แล้วเอากระดาษบันทึกไว้ก็ได้ สิ่งที่ไม่ดีในตัวข้าพเจ้าตัวไหนแรงเอาขึ้นหน้าตัวนั้นเลขหนึ่งเลย ขี้โกรธเลข ที่หนึ่ง ขี้ริษยาอะไรๆ ว่าลงไป เขียนไว้ให้มันชัดๆติดไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง เขียนไว้ที่กระจกก็ดี ที่กระจก สำหรับดูหน้า เอาชอ ล์กเขียนไว้ เจ้าเป็นคนหนึ่งขี้โกรธ เขียนไว้ และอ่านบ่อยๆ แล้วไม่ขี้โกรธแล้วเดี๋ยวนี้ ค่อยๆ ลดไปทีละตัวๆ ตัวไหนหายไปลบออก อะไรหมดลบไปเรื่อยๆ จนว่ากระจกนั้นไม่มีขี้ชอล์กติดต่อไป ใจเราก็สบาย ไม่วุ่นวาย ไม่เดือดร้อน
(เรียบเรียงจากส่วนหนึ่งของปาฐกถาธรรมวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๐)
กำลังโหลดความคิดเห็น